Share

บทที่ 12 ชำระหนี้แค้น

last update Huling Na-update: 2024-12-08 20:22:00

บทที่ 12

ชำระหนี้แค้น

จวนตระกูลเถา

หลังจากลงจากรถม้า เถาซูเม่ยรีบตรงกลับไปที่เรือนนอนของนางทันที ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด สั่งให้สาวใช้ข้างกายออกไปเฝ้าหน้าห้อง ห้ามผู้ใดเข้ามารบกวนโดยเด็ดขาด เมื่อในห้องปลอดคนแล้วเถาซูเม่ยจึงบรรจงหยิบกล่องไม้ออกมาค่อยๆ เปิดออกดู ภายในกล่องไม้บรรจุกำไลหยกสีเขียวกระจ่างใส 1 วง เมื่อลองเพ่งพิศจะเห็นว่าด้านในของกำไลหยกมีอักษรแกะสลักไว้อ่านว่า ‘เฟยเทียน’ นอกจากจะมีกำไลหยกยังมีกระดาษแนบมาด้วยหนึ่งแผ่น เถาซูเม่ยคลี่กระดาษเปิดอ่านดู

"เพียงแรกพบสบตา ใจของข้าก็สั่นไหว

เสียงสกุณณาในพงไพร ไม่อาจเทียบเสียงหัวเราะของเจ้าเลย

กำไลหยกวงนี้คือตัวแทนแห่งข้า"

หยางเฟยเทียน

เมื่ออ่านจบในใจของเถาซูเม่ยให้รู้สึกอุ่นวาบในอก ใจของนางก็เฝ้าเพ้อฝันถึงบุรุษผู้นี้มานานแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งบุรุษที่นางหลงรักจะใจตรงกับนางเช่นกัน

เถาซูเม่ยนั้นได้เพียงแค่แอบมองคุณชายหยางเฟยเทียนเพียงไกลๆ ไม่เคยอาจหาญไปบอกความในใจให้เขารู้ มีเพียงเมื่อหนึ่งปีก่อนที่นางได้พบกับเขาที่เหลาอาหาร ระหว่างกำลังร่วมทานอาหารและสนทนากันอยู่อย่างสนุกสนานกับสหาย

หยางเฟยเทียนกับสหายของเขาอีกหนึ่งคนได้ขอมาร่วมโต๊ะด้วย เนื่องจากภายในเหลาอาหารโต๊ะเต็มหมดแล้ว หยางซูมี่และทุกคนก็ไม่ขัดข้อง เชิญให้ทั้งสองร่วมทานอาหารด้วยกัน

หลังจากวันนั้นนางก็พบเขาบ่อยครั้ง อยากจะคิดเข้าข้างตนเองว่าเขาก็คงมีใจให้นางบ้าง แต่พึ่งมาแน่ใจก็วันนี้เอง ใบหน้างามของเถาซูเม่ยแดงซ่านดั่งผลผิงกั่ว หัวใจพลันสั่นไหวรุนแรงด้วยความยินดีปนเขินอาย

เถาซูเม่ยให้สาวใช้นำถุงเงินที่นางปักโดยใช้ผ้าสีม่วงเข้ม ปักลายต้นไผ่ลู่ลมเดินดิ้นสีเขียวอ่อน ด้านในถุงยังปักคำว่า ‘ซูเม่ย’ ไว้อีกด้วย นางสั่งสาวใช้ให้แอบไปมอบให้หยางซูมี่ที่จวนชินอ๋อง

เมื่อหยางซูมี่ได้รับถุงเงินมาจากสาวใช้ของเถาซูเม่ยถึงกับยิ้มด้วยความขบขัน พี่ชายใหญ่ของนางก็ไม่กล้าเกี้ยวสาวโดยตรงต้องส่งผ่านของขวัญมาทางนาง สหายของนางเองก็เขินอายเกินกว่าจะกล้ามอบถุงเงินด้วยตนเองยังต้องลอบฝากกับนางมาแทน ดูเหมือนตอนนี้นางจะได้กลายไปเป็นแม่สื่อเสียแล้ว

หยางซูมี่ปวดหัวกับการเกี้ยวสาวของพี่ชายใหญ่ยิ่งนัก เหตุใดไม่เดินหน้าเข้าทางประตูจวนตระกูลเถาไปเลย หากชักช้าคงได้มีบุรุษมาตัดหน้าไปก่อน

นางก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะพี่ชายใหญ่ของนางนั้นเป็นบุรุษหยาบกระด้าง อยู่กับพวกทหาร ไม่เคยเกี้ยวสตรีใดมาก่อน ที่ต้องตาต้องใจสหายของนางก็คงเพราะความสดใสร่าเริง ช่างคุยของเถาซูเม่ย

หยางซูมี่ให้คนส่งของที่เถาซูเม่ยฝากมาไปให้พี่ชายใหญ่ของนางที่จวนตระกูลหยาง ทั้งยังกำชับกับซินซินให้แจ้งแก่พี่ชายใหญ่นางว่า

“บุปผางามมีภมรมาแวะเวียนไม่เคยขาด หากอยากได้บุปผามาครอบครอง จงรีบแสดงตนเป็นเจ้าของเสีย” คำพูดประโยคเดียวของหยางซูมี่ทำให้หลังจากนั้นอีก 1 เดือน จวนตระกูลหยางกับจวนตระกูลเถาก็ได้เกี่ยวดองกัน

ชายแดนเหนือ เมืองเว่ย

เซี่ยเหวินหรงให้คนไปตามรองแม่ทัพลู่เหอกัง เจ้าเมืองอู่ เจ้าเมืองเว่ย และสี่พี่น้องสกุลถังให้มาร่วมกันประชุมวางแผนการศึกที่จะรบในวันพรุ่งนี้ยามโฉ่ว ซึ่งเป็นเวลาที่ทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่า น่าจะนอนหลับพักผ่อนจึงทำให้ไม่ทันได้ระวังตัว

เขาจะใช้หน่วยจิ้งจอก 500 นายลอบเข้าไปที่เมืองอู่ อาศัยในยามกลางคืน ใช้ความมืดอำพรางตัวตน ลอบไปเผาเสบียงของเผ่าหูเจี๋ยน่า แล้วให้มาเปิดประตูเมืองเพื่อให้หน่วยหมีขาว 20,000 นายบุกเข้าไปตีเมืองอู่กลับคืนมา โดยไม่ให้พวกมันรู้ตัว เป็นกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล คือการบุกโจมตีศัตรูโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว ทุกคนเมื่อทราบแผนการจึงลุกขึ้นออกไปเตรียมตัวให้พร้อม คืนพรุ่งนี้แคว้นเซี่ยจะตีเมืองอู่กลับคืนมาให้จงได้

ท้องฟ้าเหนือเมืองอู่คล้ายจะสว่างไสวประดุจยามกลางวัน เหตุเพราะกองทัพพยัคฆ์ทมิฬสามารถตีเมืองอู่กลับคืนมาได้ เปลวเพลิงที่โหมกระพือกำลังเผาทำลายเสบียงของเผ่าหูเจี๋ยน่า และยังมีทหารอีกหลายพันนายถูกไฟคลอกตายด้วย

ทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่าที่หนีจากไฟคลอกมาได้ กลับต้องมาสังเวยดาบให้กับทหารของหน่วยหมีขาวกับหน่วยจิ้งจอกที่บุกตีเมืองอู่ แผนการของท่านอ๋องทมิฬทำให้สามารถตีเมืองอู่กลับคืนมาได้อย่างสำเร็จ

หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากเซี่ยเหวินหรงตีเมืองอู่กลับคืนมาได้ เขาได้ส่งทหารในหน่วยจิ้งจอกออกไปลาดตระเวนรอบๆ ชายแดนที่ติดกับเผ่าหูเจี๋ยน่า และส่งคนออกไปสอดแนมในเผ่าหูเจี๋ยน่าเรื่องของธิดาเทพ ได้ความว่าธิดาเทพอาศัยอยู่ภายในวิหาร มีทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่าคอยอารักขา 100 นาย

ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬกับทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่าผลัดกันรบแพ้ รบชนะ ยังไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ เสบียงในกองทัพเริ่มร่อยหรอ เสบียงที่เมืองหลวงส่งมาก็ถูกดักปล้น ทำให้ในค่ายทหารเริ่มระส่ำระสาย

ในขณะที่เซี่ยเหวินหรงกำลังจะให้ทหารออกไปหาเสบียงเพิ่ม ขบวนพ่อค้าจากเมืองหลวงก็เดินทางมาถึงพร้อมเสบียงอาหารจากจวนชินอ๋อง ด้วยเพราะหยางซูมี่กังวลเรื่องเสบียงจะถูกดักปล้นจึงได้ให้ทหารจากจวนชินอ๋องปลอมเป็นพ่อค้า แล้วแยกขบวนออกเป็น 6 สายเพื่อตบตาศัตรู นับว่าความคิดนี้ของหยางซูมี่รอบคอบมาก เพราะเหตุนี้ทำให้มีเสบียงมาต่อชีวิตของทหารทั้งกองทัพ

เผ่าหูเจี๋ยน่า

หัวหน้าเผ่าหูเจี่ยลี่เริ่มนั่งไม่ติด การรบกับชินอ๋องทำให้เขาเสียกำลังคนไปมาก เสบียงที่ปล้นมาได้ก็หวังจะให้ทหารของชินอ๋องอดตาย แต่กลับได้ข่าวว่ามีเสบียงผุดขึ้นมา ช่างน่าเจ็บใจนัก ไม่รู้ว่าชินอ๋องไปได้เสบียงเพิ่มมาจากที่ใด

หากยังรบยืดเยื้อกันไปทั้งแบบนี้ ความพ่ายแพ้คงได้มาเยือนเผ่าหูเจี๋ยน่าแน่ ธิดาเทพก็ดูจะเมินเฉย ไม่ได้ให้คำชี้แนะแก่เขาเช่นเดิม แผนการที่วางเอาไว้ล้วนถูกคนของชินอ๋องเล่นงานกลับมาหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด หูเจี๋ยลี่ร้อนรนจนทนไม่ไหวจนต้องเดินทางมาขอพบธิดาเทพ เพื่อมาขอคำชี้แนะจากท่านเทพ

"ท่านเทพหมาป่าได้บอกอะไรธิดาเทพหรือไม่" หูเจี๋ยลี่เอ่ยถามทันที

"ท่านเทพบอกเพียงว่า 'ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว' ตายซะเถอะเจ้าเดนนรก"

ลี่จิ่นสาดผงสลายกำลังใส่หน้าหูเจี่ยลี่ เพราะเขาไม่ทันระวังตัวจึงทำให้โดนผงสลายกำลังสาดใส่หน้าเต็มๆ จะร้องตะโกนให้คนช่วยก็เปล่าประโยชน์ ที่วิหารเทพขึ้นชื่อเรื่องความสงบ แม้จะมีทหารคอยอารักขาธิดาเทพ แต่ก็อยู่เพียงรอบนอกเท่านั้น

หูเจี่ยลี่มึนงงสับสนไปหมด เหตุใดธิดาเทพถึงทำเช่นนี้ เมื่อลี่จิ่นสาดผงสลายกำลังใส่แล้ว นางก็เอามีดสั้นที่ซ่อนไว้ข้างหลังรูปปั้นธิดาเทพออกมา ลี่จิ่นเดินเข้าไปหาหูเจี่ยลี่ช้าๆ นางยกยิ้มอย่างพอใจที่หูเจี่ยลี่ไม่สามารถขยับหนีนางไปไหนได้อีก นางรอวันนี้มานานแสนนานแล้ว

"จะ...เจ้า เจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นถึงหัวหน้าเผ่า แล้วยังเป็นพี่ชายของเจ้าด้วย"

หูเจี่ยลี่พยายามขยับตัวหนี แต่เขาไม่มีแรงจะขยับไปไหนได้ เพียงนอนรอความตายที่ลี่จิ่นจะเป็นผู้มอบให้

"เจ้าไม่คู่ควรเป็นหัวหน้าเผ่า ไม่คู่ควรเป็นพี่ชายข้า 10 ปี 10 ปีที่ข้ารอวันแก้แค้นเจ้า มารดาของเจ้า และท่านพ่อผู้ซึ่งเห็นแก่ตัว เขาไม่เคยสนใจเลยว่าข้าจะต้องทุกข์ ทรมานมากแค่ไหน และเจ้าปากเอ่ยว่าเป็นพี่ชาย แต่เจ้ากลับกล้าให้คนมาข่มเหงข้า ข้าซึ่งอายุเพียงแค่ 5 หนาว" เสียงหวานสั่นระริกด้วยความโกรธแค้น นัยน์ตาแดงก่ำคล้ายสัตว์ร้าย

"ไม่ใช่ ข้าไม่เคยทำเช่นนั้น เจ้าเข้าใจผิดแล้ว"

"ไม่ใช่เจ้า แล้วมันจะเป็นผู้ใดไปได้อีก คืนนั้นข้านอนอยู่ในห้องกับแม่นม เจ้าลอบเข้ามากับสหาย แล้วสังหารแม่นมของข้า สหายของเจ้าพยายามข่มเหงข้า ข้าอ้อนวอนพวกเจ้า กราบแทบเท้าพวกเจ้า แต่ไม่มีใครเห็นใจข้าเลย เจ้าเพียงมองดูแล้วหัวเราะออกมา ส่วนข้าแทบขาดใจตาย"

ลี่จิ่นเอ่ยไปพร้อมทั้งน้ำตา ตลอดสิบปีที่ผ่านมานางไม่เคยข่มตาหลับได้อย่างสนิทเลย ฝันร้ายในครั้งนั้นตามมาหลอกหลอนนางทุกค่ำคืน มีเพียงการสังเวยด้วยชีวิตเท่านั้น ใจนางถึงจะสงบลงได้

ธิดาเทพอย่างนั้นหรือ นั่นก็แค่ตำแหน่งที่คนในเผ่าอุปโลกน์กันขึ้นมา การทำนายก็มาจากการที่นางศึกษาหาความรู้ แล้ววิเคราะห์เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และมีขอทานเป็นสายให้ ทำให้นางรู้ข่าวเร็วกว่าผู้อื่น นางจึงทำนายได้ราวกับล่วงรู้อนาคต กว่านางจะขึ้นมาถึงจุดนี้ นางต้องพยายามมากแค่ไหน ใครจะรู้ได้เท่าตัวนางเอง

นางแค้นทุกคนที่ทำให้ชีวิตของนางเป็นเช่นนี้ ทุกคนจะต้องชดใช้!!

"ท่านพี่อยากรู้ไหมว่าท่านพ่อตายด้วยเหตุใด"

ลี่จิ่นยิ้มหวานส่งไปให้หูเจี๋ยลี่

"จะ...เจ้าฆ่าท่านพ่อหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ท่านพ่อป่วยตายต่างหากเล่า"

หูเจี๋ยลี่เอ่ยอย่างหวาดระแวง เขาเริ่มคิดว่าลี่จิ่นตอนนี้นางหาใช่ธิดาเทพไม่ แต่คือนางมารร้ายที่จะมาพรากชีวิตของเขาไป

"ท่านพ่อป่วยตาย เพียงแค่ข้าเร่งการตายของท่านพ่อเท่านั้นเอง สมุนไพรที่ท่านพ่อกินทุกวันก็คือยาพิษที่คอยกัดกินร่างกายของท่านพ่อ ส่วนสหายของเจ้าที่ข่มเหงข้า ข้าก็ส่งมันไปเยือนนรกแล้ว ก่อนตายข้ายังให้มันได้ลิ้มรสการโดนข่มเหงจากบุรุษอีกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า สะใจข้ายิ่งนัก"

หูเจี๋ยลี่ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งกาย รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดเลยว่าสหายที่หายตัวไปของเขาจะโดนลี่จิ่นฆ่าตายไปแล้ว

"เจ้ามันช่างอำมหิตนัก ฆ่าได้แม้กระทั่งบิดาผู้ให้กำเนิดเจ้า"

"บุรุษชั่วช้าที่หลอกมารดาของข้าน่ะหรือ ข้าไม่นับว่ามันเป็นบิดาหรอก เจ้าไม่ต้องเสียใจไป ข้ากำลังจะส่งเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อแล้ว"

ลี่จิ่นเดินมาคุกเข่าตรงหน้าหูเจี๋ยลี่ นางยกมีดสั้นขึ้นมาค่อยๆ บรรจงตัดเส้นเอ็นที่หัวเข่าของหูเจี่ยลี่ทั้งสองข้าง

“อ้ากกกกกกกกก” เขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

"ข้าจะให้เจ้าไปสบายๆ แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงท่านแม่ของเจ้าหรอกนะ ตอนนี้นางกำลังเสวยสุขอยู่กับชู้รักของนางอยู่ ลูกบุญธรรมที่นางรับมาเลี้ยงก็เป็นลูกของนางกับชายชู้ ข้าสัญญาว่าจะทำให้เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าแทนเจ้าเอง" ลี่จิ่นหัวเราะอย่างสาแก่ใจ

จากนั้นนางเอามีดสั้นปาดคอหูเจี๋ยลี่ทันที ร่างของเขากระตุกเพียงสามครั้งแล้วก็สงบลง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความเคียดแค้น หยดเลือดจากคอกระเซ็นมาอาบย่อมอาภรณ์สีขาวพิสุทธิ์ของลี่จิ่นจนเปลี่ยนเป็นสีแดง นางยกยิ้มหวานออกมาด้วยความสุข จากนั้นจึงได้หันหลังเดินจากไปแล้วกรีดร้องออกมาให้คนช่วย

“กรี๊ดดดดด!!”

ข่าวการลอบสังหารของหูเจี๋ยลี่รู้ไปถึงหูเซี่ยเหวินหรง หลังจากนั้น 3 วัน เขาได้ยกกำลังพลหนึ่งแสนนายเข้าตีเผ่าหูเจี๋ยน่าทันที ใช้เวลากว่า 2 ชั่วยาม กองทัพพยัคฆ์ทมิฬก็สามารถเอาชนะได้ การรบกับเผ่าหูเจี๋ยน่าในครั้งนี้ใช้เวลาไป 2 เดือนครึ่งถึงกำชัยชนะมาได้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 13 พระชายารอง

    บทที่ 13พระชายารอง เมื่อหัวหน้าเผ่าสิ้นใจไป ทำให้ภายในเผ่าหูเจี๋ยน่าระส่ำระสาย มารดาของหูเจี๋ยลี่แต่งตั้งบุตรชายบุญธรรมของนางที่อายุเพียง 12 หนาวขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่า แต่หลังจากนั้นเพียง 3 วันกลับถูกกองทัพของชินอ๋องยกทัพมาตีจนแตกพ่าย ความหวังที่จะเสวยสุขกับชู้รักและบุตรชายที่เกิดกับชู้รักเป็นอันต้องจบสิ้นลงเซี่ยเหวินหรงตัดสินให้ประหารครอบครัวของหัวหน้าเผ่าหูเจี๋ยน่า จัดตั้งรองแม่ทัพลู่เหอกังขึ้นมาดูแลจัดการเป็นการชั่วคราวแทน หากใครสวามิภักดิ์เขาจะละเว้นชีวิต ส่วนคนที่ไม่ยอมจำนนจะต้องถูกสังหารทั้งหมด ส่วนธิดาเทพลี่จิ่นนั้นถูกคุมตัวอยู่ภายในวิหารเทพ วิหารเทพ เซี่ยเหวินหรงเดินทางไปที่วิหารเทพพร้อมกับไป๋ลู่ และไป๋เย่ เขาเดินหยุดไปยืนตรงหน้าของลี่จิ่นที่กำลังคุกเข่าอยู่หน้ารูปปั้นธิดาเทพ นางหันมายกยิ้มแผ่วเบา แล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเซี่ยเหวินหรง"ข้าได้แก้แค้นแทนท่านแม่ของข้าแล้วเจ้าค่ะ ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ข้าขอมอบให้ชินอ๋อง"ลี่จิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยอ่อนหวาน เดิมทีนางลอบติดต่อกับเซี่ยเหว

    Huling Na-update : 2024-12-08
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 14 กลับเมืองหลวง   

    บทที่ 14กลับเมืองหลวง พ่อบ้านหลินเมื่อทราบข่าวจากจดหมายที่ชินอ๋องส่งมาถึงเขา ว่าชินอ๋องจะทรงรับพระชายารองเข้ามาก็รู้สึกเหมือนน้ำท่วมปาก จะบอกกล่าวพระชายาหยางซูมี่ก็ไม่กล้า จะไม่บอกก็ไม่ได้ เพราะชินอ๋องทรงส่งจดหมายฝากมาให้พระชายาด้วย ทั้งยังย้ำมาในจดหมายที่เขียนถึงเขาว่า อย่าได้สนใจกับข่าวลือ ให้พระชายาเชื่อมั่นในท่านอ๋องตัวเขานั้นก็เริ่มแก่จนผมสีขาวขึ้นแซมผมสีดำแล้ว ยังต้องมาวุ่นวายเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอีก เขาได้แต่ถอดถอนใจ อยากจะรู้นักว่าทำไมท่านอ๋องถึงกล้ารับพระชายารองเข้ามา รู้ทั้งรู้ว่าพระชายานั้นทรงชิงชังบุรุษหลายใจ และรังเกียจการใช้สามีร่วมกับสตรีอื่นสิ่งที่พ่อบ้านหลินกังวลไม่ผิดจากที่สองสาวใช้คนสนิทของหยางซูมี่ที่กำลังกังวลอยู่ตอนนี้เลย หลังจากที่หยางซูมี่ทราบข่าวเรื่องการรับพระชายารอง นางก็เปลี่ยนไป จากปกติที่มักจะใช้เวลาว่างแต่งหนังสือ นางกลับไปนั่งที่ศาลาจวี๋ฮวา นั่งทอดสายตาออกไปไกลแสนไกล เหมือนกำลังมองทะลุให้เห็นไปถึงยังชายแดนเหนือ อยากจะถามพระสวามีว่าเหตุใดถึงต้องรับชายารองเข้ามา ทำไมไม่บอกนางก่

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 15 ไม่อาจยอมรับ

    บทที่ 15ไม่อาจยอมรับ เมื่อกลับมาถึงจวน เซี่ยเหวินหรงก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แม้ว่าหยางซูมี่และบ่าวรับใช้จะมารอต้อนรับเขา แต่ทำไมบรรยากาศช่างดูห่างไกลจากความยินดีนักเขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่กล่าวโทษเขามาจากทางพวกบ่าวรับใช้ แม้จะก้มหน้ามองต่ำ แต่ทุกคนต่างก็ลอบส่งสายตาผิดหวังมาให้เขา แม้แต่พ่อบ้านหลินก็เป็นไปกับเขาด้วย แต่คนที่ควรจะต้องผิดหวัง เสียใจกลับเพียงหันมาสบตา แล้วยกยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้เขา แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าสายตาของมี่มี่ดูแข็งกร้าวยิ่งนัก"ยินดีต้อนรับกลับมาเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ"ทุกคนส่งเสียงกล่าวคำยินดีพร้อมกัน เซี่ยเหวินหรงพยักหน้าแล้วหันไปทางหยางซูมี่"ลำบากเจ้าแล้วมี่เอ๋อร์ เราเข้าไปข้างในกันเถิด"เซี่ยเหวินหรงกำลังจะเข้าไปประคองหยางซูมี่ แต่นางกลับขยับตัวหนี พลางหันไปสั่งความกับสาวใช้ให้ไปเตรียมอาหารและน้ำอาบให้ชินอ๋อง มือหนาชะงักกลางอากาศคว้าเพียงอากาศธาตุเท่านั้น เขากระแอมไอแก้เก้อออกมา หันไปทางไป๋เยียนองครักษ์ที่ให้คอยดูแลหยางซูมี่อย่างสงสัยกับท่าทางของนาง แต่เขาได้รับเพียงสีหน้ากระอักกระอ่วนขอ

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 16 เอาคืน

    บทที่ 16เอาคืน ลี่จิ่นนั่งรออยู่บนเตียงในเรือนเหมยฮวาจนถึงยามจื่อ จนจะล่วงเข้าไปเช้าวันใหม่ของอีกวันแล้ว นางก็ไม่เห็นเงาของชินอ๋องเลย ใบหน้างามจากที่มีรอยยิ้มหวานประดับตลอดเวลา กลับเริ่มบิดเบี้ยวไม่น่ามอง นิ้วเรียวกำเข้าหากันอย่างคับแค้นใจชินอ๋องช่างโหดร้ายกับนางยิ่งนัก แม้ในคืนวันแต่งงานเขาก็ไม่มาเข้าหอกับนาง การกราบไหว้ฟ้าดินก็ไม่มี ดื่มสุรามงคลเขาก็ไม่ทำสักอย่าง เหมือนการที่นางแต่งเข้ามาเป็นเพียงแค่การแต่งงานในนามเท่านั้น ไฟในใจของลี่จิ่นยิ่งโหมกระพือไปด้วยเพลิงโทสะ ยิ่งเขาทำเช่นนี้นางยิ่งอยากเอาชนะ ส่วนสตรีที่เขารักมั่นจะต้องชดใช้ให้กับนางคนของจวนชินอ๋องไม่มีใครนึกยินดีในการแต่งงานครั้งนี้ พวกเขาต่างเมินเฉยทำราวกับการแต่งพระชายารองเข้ามา เป็นเพียงการรับสตรีคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในจวนชินอ๋องเท่านั้นเองเซี่ยเหวินหรงออกไปที่ค่ายทหารตั้งแต่เช้า คืนนี้เขาก็นอนที่ค่าย อยากจะกลับไปนอนกับหญิงคนรักก็ทำไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬต่างงุนงงสงสัย เหตุใดชินอ๋องไม่ไปงานแต่งงานของตัวเอง แต่กลับมาหมกตัวยังค่ายทหาร ข่าว

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 17 ค่ำคืนร้อนระอุ

    บทที่ 17ค่ำคืนร้อนระอุ เซี่ยเหวินหรงเมื่อรู้อาการป่วยของลี่จิ่นเพราะนางเผลอไปกินหัวของดอกสือ ซว่านเข้า ก็รู้ได้เลยว่าต้องเป็นฝีมือของมี่มี่ที่เอาคืนลี่จิ่นเรื่องผงบดหนังคางคก ตอนแรกที่เขารู้เรื่องเข้าก็โกรธเคืองลี่จิ่นเป็นอย่างมากที่กล้าปองร้ายมี่มี่ของเขา เขาได้ลอบสั่งให้คนไปเสาะหาผงบดหนังคางคกเพื่อเอาคืนนาง เวลานี้ก็เหมาะสมแก่เวลาแล้วไป๋ลู่ที่ติดตามท่านอ๋องมาตั้งแต่เด็ก เพียงแค่มองตา เขาก็รู้ได้เลยว่าต้องทำเช่นไร หลังจากนั้นลี่จิ่นที่นอกจากจะมีอาการท้องเสียที่เพิ่งจะดีขึ้น บนใบหน้าและลำตัวของนางมีผื่นแดงขึ้นทั่วตัว ทั้งนางยังท้องเสียและอาเจียนจนลี่จิ่นทนไม่ไหวสลบไปเลยลู่เหอกังถึงกับกุมขมับหรูเหรินทรงกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม แต่กลับมาป่วยเช่นนี้ ในใจเริ่มหวั่นวิตกเข้าแล้ว หรือการที่เขาช่วยกดดันชินอ๋องจนทำให้ลี่จิ่นได้แต่งไปเป็นหรูเหรินนั้นจะเป็นความคิดที่ผิด นี่เพียงผ่านไปแค่ 3 วัน นางก็โดนเล่นงานเสียแล้วเซี่ยเหวินหรงรู้ว่าลี่จิ่นมีผื่นแดงขึ้นทั่วตัวจากลู่เหอกัง เขาก็แสดงสีหน้าตกใจ แล้วสั่งความให้องครักษ์ไปเชิญตัวหมอหลวงมาดูอา

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 18 ทะเลสาบมรกต

    บทที่ 18ทะเลสาบมรกต เช้าวันใหม่ที่สดใสของเซี่ยเหวินหรง แต่กลับกลายเป็นเช้าที่ดูหม่นหมองของหยางซูมี่ กว่าศึกเมื่อคืนระหว่างนางกับเขาจะสงบก็เป็นตอนรุ่งสางเสียแล้ว ร่างบางที่มีผ้าห่มคลุมร่างกายไว้ลืมตาขึ้นมา เพราะแสงของพระอาทิตย์ส่องมากระทบกับใบหน้างามความรู้สึกแรกคือเมื่อยขบทั้งตัว เจ็บตรงกึ่งกลางของร่างกาย ปากอิ่มบวมเจ่อ ตั้งแต่ลำคอระหง ลาดไหล่ เนินอกอิ่มล้วนเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำไปทั้งตัว นางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันยิ่ง อ๋องบ้า ทำนางเจ็บระบมไปทั้งตัวแล้ว พวกบ่าวไพร่คงจะรู้เรื่องเมื่อคืนทั่วจวนแล้ว เพราะตั้งแต่เซี่ยเหวินหรงเสด็จมาเยือนที่เรือนของหยางซูมี่ เขาก็ไม่ได้ก้าวขาออกไปเลย อาหารมื้อเย็นก็ไม่ได้ทาน ตอนนี้ยังมานอนยิ้มอยู่ข้างๆ นาง งานการไม่ไปทำหรืออย่างไร หยางซูมี่ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์เซี่ยเหวินหรงเห็นท่าทางของแมวน้อยที่ขู่ฟ่อมาทางเขา ก็ยกยิ้มพึงพอใจ เมื่อคืนเขารังแกนางมากเกินไปจริงๆ ใครใช้ให้นางช่างน่ารักอ่อนหวานจนเขาอดใจไม่ไหวได้เล่า แต่เพื่อชดเชยไม่ให้มี่มี่ยิ่งขุ่นเคืองใจไปมากกว่านี้ เขาคงต้องให้รางวัลนางเสียหน่อยแล้ว“ว

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 19 เจียงซูหนี่

    บทที่ 19เจียงซูหนี่ ตำหนักหย่งเหิงที่ประทับของไทเฮา เต็มไปด้วยเหล่าคุณหนูที่ได้รับเทียบเชิญจากไทเฮาให้มาร่วมจิบน้ำชาและสนทนากัน แต่ทุกคนต่างรู้ว่าจุดประสงค์ของไทเฮานั้นเพื่อเฟ้นหาหญิงงามให้กับชินอ๋องหลังจากที่พระนางหมายมาดที่จะให้มู่เหลียนฮวาหลานสาวที่ทรงโปรดปรานแต่งเป็นพระชายาเอกนั้นไม่สำเร็จ แต่กลายเป็นหยางซูมี่ที่ได้สมรสพระราชทานในครั้งนั้นแทน คราแรกพระนางจะให้มู่เหลียนฮวาแต่งเป็นพระชายารอง แต่ลี่จิ่นก็กลับได้มาแต่งตัดหน้าไปเสียก่อนดังนั้นหากจะดันทุรังให้มู่เหลียนฮวาแต่งเข้าจวนชินอ๋องอีก ก็คงไม่เหมาะสมเพราะตำแหน่งที่เว้นว่างไว้จะต้องเป็นรองหยางซูมี่และลี่จิ่น ไม่สมควรกับฐานะหลานสาวของไทเฮา พระนางจึงยอมตัดใจจะให้มู่เหลียนฮวาไปร่วมคัดเลือกพระสนมของฮ่องเต้ที่จะจัดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้แทนคุณหนูที่ไทเฮาทรงคัดเลือกมานั้นล้วนเป็นตระกูลที่เข้าฝ่ายพระนางทั้งสิ้น ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง เมื่อพระนางลอบสังเกตท่าทางและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จึงตัดสินใจจะให้คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมโยธา ที่มีนามว่าเจียงซูหนี่ แต่งเข้าไปเป็นชายารองของ

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 20 สาดโคลน

    บทที่ 20 สาดโคลน เมื่อพูดคุยธุระ และตระเตรียมแผนการเสร็จสิ้นแล้ว ก็พากันเดินออกมาข้างนอก พบว่าสองคนแม่ลูกกลับไปที่เรือนของตนเองแล้วตั้งแต่ที่หยางซูมี่พูดจาข่มขู่เอาไว้ หยางซูมี่มาที่จวนวันนี้นอกจากจะมาพูดคุยธุระแล้ว นางยังอยากมาพบพี่สะใภ้อีกด้วย เพราะมีเรื่องราวมากมายจนทำให้นางไม่ค่อยได้ออกมาพบกับสหายนัก วันนี้นางยังได้ส่งเทียบเชิญไปให้หม่าฮุ่ยหลิง กับจ้าวเหมยอิงมาที่จวนตระกูลหยางด้วย หยางหมิงขอตัวไปจัดการธุระเรื่องราชการ หยางเฟยเทียนก็ขอตัวไปที่ค่ายทหาร หยางซูมี่จึงเดินไปหาเถาซูเม่ยที่ตอนนี้กลายมาเป็นฮูหยินน้อยแห่งจวนตระกูลหยาง “พี่สะใภ้อยู่หรือไม่” หยางซูมี่เอ่ยถามบ่าวรับใช้หน้าเรือนของหยางเฟยเทียนกับเถาซูเม่ย “ทูลพระชายา ฮูหยินน้อยอยู่ที่ศาลาเหลียนฮวาเพคะ คุณหนูจ้าวและคุณหนูหม่าเดินทางมาถึงแล้วเพคะ” หยางซูมี่พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหมุนตัวเปลี่ยนเส้นทางไปที่ศาลาเหลียนฮวาที่ตอนนี้มีสหายของนางอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คนในศาลาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเฮฮา ไ

    Huling Na-update : 2024-12-09

Pinakabagong kabanata

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย) “คุณหนูกู่เกรงใจเกินไปแล้ว ในฐานะตัวแทนของฝ่าบาทพวกข้าต้องมาร่วมยินดีอยู่แล้ว”หยางซูมี่เดินเข้างานไปเลย ไม่ได้สนใจสตรีนางนี้มากนัก ทำเพียงเหมือนกับว่านางไม่คู่ควรที่จะให้พระชายาเช่นนางต้องมาเสวนาด้วย กู่เจียอีได้แต่ลอบกำมือแน่น คอยดูเถอะวันนี้ข้าจะเหยียบหน้าจมให้จมดิน และจะกลายมาเป็นพระชายาของชินอ๋องให้จงได้“เจ้าอยากเล่นกับนางหรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามภรรยาคนงาม“ให้บทเรียนกับนางเบาๆ ก็พอเจ้าค่ะ” หยางซูมี่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พระสวามีงานเลี้ยงในจวนเจ้าเมืองวันนี้ กลับพบว่าขณะที่ทั้งหมดกำลังสนุกสนานกันภายในงานเลี้ยงนั้น กลับพบว่าคุณหนูกู่เจียอีผลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่โชคดีที่มีคุณชายท่านหนึ่งช่วยเอาไว้ได้ แต่เพราะตอนเปียกน้ำทำให้ทั้งสองได้แนบชิดกัน และด้วยอาภรณ์ของกู่เจียอีนั้นที่เป็นสีขาว ทำให้มองเห็นเรือนร่างของนาง จนมองเห็นไปถึงเอี๊ยมตัวใน และคุณชายผู้นี้ก็ได้แตะต้องนางไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในหนึ่งเดือนต่อมาจึงได้เกิดงานมงคลขึ้นกู่เจียอีได้แต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรอง เน

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น) หลังจากงานแต่งผ่านไปได้หนึ่งเดือน คนในตระกูลหยางนำโดยท่านเสนาบดีหยางหมิงได้เดินทางกลับเมืองหลวง พวกเขานั้นได้จากเมืองหลวงมานานมากแล้ว สมควรต้องไปจัดการงานที่ค้างคาเอาไว้ แม้จะเสียดายที่หยางซูมี่กับเซี่ยเหวินหรงไม่ได้กลับไปด้วยก็ตาม“ท่านพ่อเดินทางกลับดีๆ นะเจ้าคะ อีก 3 เดือนลูกจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านอ๋องเจ้าค่ะ”“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยมี่เอ๋อร์ ข้าน้อยขอฝากบุตรสาวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคท้ายหยางหมิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเหวินหรง“ท่านพ่อตาอย่าได้เป็นห่วง มี่เอ๋อร์อยู่กับข้าย่อมต้องปลอดภัย”เซี่ยเหวินหรงให้คำมั่น ทั้งสองยืนส่งจนขบวนรถม้าเคลื่อนตัวห่างไปเรื่อยๆ“พี่ต้องกลับไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพบหน้ากับเจ้าเมืองคนใหม่ เจ้าอยู่ที่นี่ดีๆ แล้วพี่จะรีบกลับมา” เซี่ยเหวินหรงลูบหัวหยางซูมี่ด้วยความเอ็นดู“เจ้าค่ะท่านพี่”หยางซูมี่พยักหน้ารับ แล้วเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสาก จนใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ“รีบกลับมานะเจ้าคะ ข้าจะรออาบน้ำพร้อมกับท่านพี่”หยางซูมี่ขยิบตาใส่เซี่ยเหวินหรง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย) เซี่ยเหวินหรงเองก็รีบปลดอาภรณ์ของเขาออกเช่นกัน ร่างกายสูงใหญ่ไร้อาภรณ์ปกปิดกาย มองเห็นกล้ามหน้าท้องหนั่นแน่นที่เป็นลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกาย ตรงกึ่งกลางเห็นแท่งหยกที่เริ่มจะขยายตัวอวดความศักดิ์ดาของตน หยางซูมี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแท่งหยกของเขาหยางซูมี่เนื้อตัวแดงก่ำด้วยความเขินอาย แม้จะเคยร่วมรักกับเขามาหลายครั้ง แต่นางกับเขาก็ห่างหายกันไป 2 ปีกว่า นางจึงรู้สึกประหม่ามากนัก แต่เพราะไม่อยากจะให้เขารู้ว่านางนั้นเขินอายมากเพียงใด จึงทำใจกล้าเงยหน้ามองร่างสูง ยกยิ้มอ่อนหวานแล้วเอื้อมมือไปปลดสายผูกเอี๊ยมออก ทำให้ปราการชิ้นสุดท้ายหลุดร่วงลงมา มองเห็นก้อนเต้าหู้อวบอิ่มสองก้อนและเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อเซี่ยเหวินหรงไม่อาจจะอดใจได้อีกต่อไป เขาช้อนร่างบางของหยางซูมี่อุ้มลงไปในถังอาบน้ำด้วยกัน เขานั่งพิงขอบอ่างให้หยางซูมี่นั่งบนตักแกร่ง มือข้างหนึ่งบีบสะโพกกลมกลึง อีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้ากอบกุมก้อนเต้าหู้บีบคลึงอย่างอ่อนโยน นิ้วชี้เขี่ยเม็ดทับทิมสีชมพูจนตั้งช่อชูชันขึ้นมา“อ๊าาาา ท่านพี่”เซี่ยเหวินหรงจับร่างบางหั

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น) ขบวนเจ้าบ่าวนำโดยชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง พระองค์ขี่อาชาโลหิตสีขาวนำขบวนสินสอดมากกว่า 100 หีบ โดยมีทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬคอยดูแล แม้ว่าหยางซูมี่จะเอ่ยว่าต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงทรงทราบก็รีบส่งม้าเร็วนำราชโองการสมรสพระราชทานมามอบให้ ทั้งยังระบุว่าชินอ๋องจะมีหยางซูมี่เป็นพระชายาแต่เพียงผู้เดียวจวบจนทั้งคู่สิ้นอายุขัยข่าวการแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นเซี่ย บางคนต่างก็ยินดีที่ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางคนก็ค่อนขอดที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้วแต่ยังกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันอย่างไร แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หาได้สนใจไม่ เพราะทั้งคู่ได้ตกลงใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง คำพูดของผู้อื่นหาได้สลักสำคัญกับพวกเขาทั้งสองคนไม่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้ามาหยุดที่หน้าประตูบ้านพักของหยางซูมี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องโถงหลักก็พบว่าหยางซูมี่นั้นยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางสวมชุดสีแดงมงคลปักลายหงส์สยายปีก และมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสวมทับเอาไว้ที่ศีรษะ ทำให้เขาไม่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 ริมชายหาดแห่งหมู่บ้านผิงอัน มีสตรีร่างบอบบาง กับบุรุษร่างสูงใหญ่นั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นมะพร้าว สายตาทั้งคู่ทอดมองออกไปยังน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวละเอียด ลมทะเลพัดมาเป็นระยะๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมคนทั้งคู่ ทั้งสองปล่อยให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติที่สวยงามนี้“เจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัย“ข้ามาถึงเมื่อสามวันก่อนเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจมาทำให้ท่านแปลกใจเล่น” หยางซูมี่เอ่ยพลางหัวเราะ นัยน์ตาพราวระยับดั่งดวงดารา“รู้หรือไม่ว่าทำข้าเป็นห่วง ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าหายตัวไป”เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปบีบจมูกโด่งรั้นอย่างมันเขี้ยว“ข้าเจ็บนะเหวินหรง”หยางซูมี่หันมาดุเขาอย่างไม่จริงจังนัก เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปกอบกุมที่มือขาวบางอย่างทะนุถนอม“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าเร็วถึงเพียงนี้ ที่นี่มีเรื่องให้ข้าจัดการมากมายนัก ข้ายังคิดว่าอย่างเร็วก็คงอีกสักปีสองปีถึงจะกลับไปหาเจ้าที่เมืองหลวงได้”“ข้ารู้ว่าท่านทำงานหนักมากเพียงได ดูสิชินอ๋องผู้สง่างามกลายร่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 2 ปีต่อมาชายแดนใต้ของแคว้นเซี่ยที่ติดกับทะเล เมื่อ 2 ปีก่อนมีการค้าเกลือเถื่อนเกิดขึ้น เซี่ยเหวินหลินที่ได้ออกมาจัดการนั้น กลับจัดการแบบปล่อยผ่าน อนึ่งเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับพ่อค้าที่ค้าเกลือเถื่อนแต่หลังจากที่ชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงจัดการปราบปรามกบฏได้หมดสิ้น จึงได้ทูลขอฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมาปราบปรามการค้าเกลือเถื่อน และมาจัดระบบการปกครองใหม่ของชายแดนใต้ ซึ่งฮ่องเต้ก็ได้ออกพระราชโองการมอบอำนาจทุกอย่างให้ชินอ๋องเป็นผู้จัดการทั้งหมดตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้เซี่ยเหวินหรงออกรบไปปราบปรามโจรสลัดทั้งในน่านน้ำ และบนเรือ โจรสลัดนั้นชอบขึ้นมาดักปล้นฆ่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง แต่หลังจากที่ชินอ๋องมาโจรสลัดก็หนีหายไปหมดด้วยหวาดเกรงชินอ๋องนอกจากจะปราบโจรสลัดแล้ว เซี่ยเหวินหรงยังต้องเข้ามาปราบปรามพ่อค้าเกลือเถื่อน และยังต้องมาจัดระเบียบเมืองหนานผิงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าเมืองหนานผิงปกครองเมืองชายแดนใต้อย่างไร้ความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวเมืองหนานผิง ทหารประจำเมืองก็ชอบรีดไถจากชาวบ้าน เรียกร้องค่าคุ้มครอง หากครอบค

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 67  จุดจบ (ตอนปลาย)

    บทที่ 67 จุดจบ (ตอนปลาย) “ถ้าเช่นนั้น ท่านก็คงเป็นผู้ที่นำแท่งเหล็กรูปพระอาทิตย์ที่เป็นเครื่องหมายประจำเผ่าหูเจี๋ยน่ามอบให้ไทเฮาเช่นนั้นสินะ”“ใช่แล้ว เป็นข้าเอง นางอยากจะทำให้ร่างกายของเจ้ามีมลทิน ข้าเลยเสนอวิธีนี้และมอบแท่งเหล็กร้อนนั้นให้กับนางเอง ฮ่าฮ่าฮ่า”เซี่ยเฟยหงหัวเราะออกมาด้วยความสาสมใจ ชินอ๋องที่แกร่งกล้ากลับมีตราประทับอยู่บนร่างกาย ช่างน่าอดสู่ยิ่งนัก“ส่วนท่านก็เป็นคนคอยชื่นชมข้า เพื่อหวังให้ไทเฮาหวาดระแวงข้าใช่หรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันไปถามไป๋วั่งซู“ทุกแผนการต้องมีผู้เสียสละเสมอพ่ะย่ะค่ะ”ไป๋วั่งซูเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะอีกไม่นานศีรษะของเขาก็จะไม่อยู่บนบ่าแล้ว“เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้หมดความสงสัยเสียที ทหาร! นำเข้ามา”เซี่ยเหวินหรงเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม ไม่นานก็มีทหารกว่า 10 นายเดินเข้ามา มีหนึ่งนายถือกระถางไฟ และอีกหนึ่งนายถือแท่งเหล็กที่ตรงปลายหล่อหลอมเป็นรูปพระอาทิตย์เฉกเช่นดั่งรอยแผลเป็นของเซี่ยเหวินหรง“จัดการซะ” เซี่ยเหวินหรงเอ่ยเสียงเหี้ยม“พ่ะย่ะค่ะ

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 66 จุดจบ (ตอนต้น)

    บทที่ 66จุดจบ (ตอนต้น) เหตุการณ์ในท้องพระโรงในวันนี้ ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในหมู่ครอบครัวของขุนนาง เรื่องราวในครั้งนี้หนักหนายิ่งนัก นอกจากจะเป็นเรื่องของกบฏ ยังมีเรื่องการปรากฏตัวของเซี่ยเฟยหงและไป๋วั่งซู เรื่องของไทเฮาสตรีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นโฉมงามอันดับหนึ่ง และยังเคยเป็นมารดาของแผ่นดิน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นถึงไทเฮาพระมารดาของฮ่องเต้ แต่กลับทำตัวเฉกเช่นหญิงแพศยา สวมหมวกเขียวให้พระสวามี จนถึงขนาดวางยาฆ่าพระสวามีของตนเองผู้เป็นถึงฮ่องเต้เรื่องราวครั้งนี้สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเป็นอย่างมาก ลุกลามใหญ่โตจนกระทั่งล่วงรู้ไปถึงราษฎรแห่งแคว้นเซี่ย มีบัณฑิตร่วมออกมาประท้วงเขียนฎีกาเพื่อขอให้ฮ่องเต้ลงโทษไทเฮา จวนตระกูลมู่ตอนนี้ถูกปิดตายไปแล้ว แต่กลับถูกเหล่าชาวบ้านพากันมาโยนก้อนหินและเศษผักเน่าเข้ามาในจวน จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วเช่นเดียวกับที่ชายแดนที่คนของตระกูลมู่เองก็ถูกเหล่าทหารและผู้คุมคอยกลั่นแกล้ง ด้วยรังเกียจคนตระกูลมู่ จนกระทั่งมีอดีตเจ้านายหลายคนทนความอัปยศไม่ไหว ตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตายไป รวมถึงมู่เจ๋อจ้านและเจียงเจี๋ยอีมู

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 65 อดีตขององค์ชายผู้สาบสูญ (ตอนปลาย)

    บทที่ 65 อดีตขององค์ชายผู้สาบสูญ (ตอนปลาย) แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งปีก็มีข่าวออกมาว่าลี่เหมยผูกคอตายที่ตำหนักเย็น เขาเสียใจเป็นอย่างมากด้วยความมึนเมาในฤทธิ์สุราจึงลอบเข้ามาหามู่อิงฮวา เขาเข้ามาตัดพ้อต่อว่ามู่อิงฮวา แต่เพราะความเมาจึงทำให้เขาได้มีความสัมพันธ์กับมู่อิงฮวา นับจากนั้นเป็นต้นมาเขาจึงได้ลอบเสพสังวาสกับมู่อิงฮวาเรื่อยมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้แค้นเสด็จพี่ของเขา ลอบสวมหมวกเขียวให้พี่ชายของตนเองหลังจากที่ลี่เหมยตายไป จึงได้กลับไปหานายท่านตระกูลกู้ บอกเพียงว่าตระกูลของเขาได้ตายกันไปหมดแล้ว จึงกลับมาขอนายท่านกู้ทำงาน นายท่านกู้นั้นเห็นว่าเขาฉายแววฉลาดเฉลียวจึงสอนงานทุกอย่างให้แก่เขา เพียงไม่นานก็ได้ขึ้นมาเป็นมือขวาของนายท่านกู้ด้วยรูปโฉมหล่อเหลา และความสุภาพของเขานั้น จึงสามารถทำให้บุตรสาวของนายท่านกู้ ผู้มีนามว่าเฉินเย่วเล่อหลงรักได้ เหตุที่เฉินเย่วเล่อไม่ได้ใช้แซ่กู้เพราะว่ามารดาของนางได้ขอไว้ ด้วยความรักที่นายท่านกู้มีต่อภรรยา เขาจึงได้ยินยอมให้บุตรสาวใช้แซ่ 'เฉิน' ในที่สุดเขาจึงได้แต่งงานกับเฉินเย่วเล่อ มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนนามว่า กู

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status