Share

สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน
สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน
ผู้แต่ง: เพลงมีนา

ตอนที่1. เงินคือสามีที่รักที่สุด

‘ได้เดิมตามฝัน จะมีอะไรเป็นของตัวเอง ชอบอิสระ ไม่พึ่งพาใคร ไม่ง้อใคร รวยด้วยลำแข็ง เก่ง แกร่ง เสน่ห์แรง เกินต้าน สวยมากจนน่าขยี้ หาเงินเก่ง หาเงินดุ เงินคือสามีที่เรารักที่สุด...’

หญิงสาวถึงกับสำลักเครื่องดื่มสีสวยที่กำลังยกขึ้นจิบ บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ใกล้หันมามองอย่างห่วงใย แต่เจ้าของมือเรียวโบกมือไปมาก่อนหยิบกระดาษทิชชู่มาซับมุมปากแล้วกวาดสายตาอ่านข้อความที่หน้าจอสมาร์ทโฟนของตนเอง

“เงินคือสามีที่รักที่สุด”    

รมิดาพึมพำอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้งแล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะ มันเป็นหน้าแฟนเพจเวบดูดวงเพจหนึ่งที่เธอเลื่อนอ่านฆ่าเวลา แม้ไม่ใช่คนชอบดูดวงชะตาแต่ถ้าเจอก็อดอ่านไม่ได้ เธอเป็นสาวราศีมีน และหมอดูท่านนี้ก็ทำนายได้โดนใจเป็นที่สุด

สำหรับรมิดาแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงิน  

หญิงสาวนึกขำเมื่อเห็นภาพใบหน้าตนเองฉีกยิ้มหวานแล้วพูดว่า ‘ภูมิใจที่ได้ทำงานที่บริษัทในเครือศาตนันท์กรุ๊ฟ’ ซึ่งความจริงแล้ว เพราะเงินเดือนที่สูงกว่าบริษัทอื่นรวมทั้งค่าล่วงเวลาทำให้เธอกัดฟันทำงานที่นี่ต่างหาก

ต้องเรียกว่า ‘ฟาดฟันเพื่อให้ได้ทำงานที่นี่เลยต่างหากล่ะ’

หญิงสาวในชุดเดรสสีดำเรียบง่ายยกแก้วเครื่องดื่มของตนขึ้นมาจิบ เธอคิดถึงวันแรกที่มาสมัครงานที่บริษัทแห่งนี้  เธอเพิ่งเรียนจบยังไม่ทันรับปริญญาด้วยซ้ำ แต่ภาระของชีวิตผลักดันให้เธอต้องเร่งรีบหางานทำ และช่วงนั้นบริษัทศาตนันท์กรุ๊ฟประกาศรับสมัครเลขานุการของประธานบริษัท เงินเดือนสูงกว่าบริษัททั่วไป รมิดารีบยื่นใบสมัครทันที แม้จะรู้ว่าผู้ยื่นใบสมัครมีเกินห้าสิบคน แต่ละคนโปรไฟล์ยอดเยี่ยม แต่งกายเรียบหรูดูดี แต่วันนั้นเธอสวมชุดนักศึกษาไปสมัครไปงาน สะพายกระเป๋าผ้าไปรอสัมภาษณ์

             ยังไม่ทันสัมภาษณ์ก็รู้ว่าเธอไม่ใช่ตัวเลือกในสายตาของกรรมการทั้งสามที่ทำหน้าที่สัมภาษณ์ผู้สมัครงาน สายตาเธออดเหลือบมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนพิงกรอบหน้าต่างด้านหลังไม่ได้  เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวแต่พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก เนคไทเลื่อนลงมาเล็กน้อย สายตามองไปนอกหน้าต่างของชั้นที่สิบหก

            “แล้วเราจะติดต่อกลับไปนะครับ”  

กรรมการท่านหนึ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่รมิดารู้ทันทีว่าตัวเองพลาดงานนี้แน่นอน  เธอทั้งเหนื่อย ทั้งหิวและเริ่มจะหมดแรง  คนพวกนี้คงไม่รู้หรอกว่าแต่ละวันของเธอต้องเจอเรื่องใดมาบ้าง การมาเข้าสัมภาษณ์งานนี้ที่ก็ไกลบ้านที่เธอพักอยู่มาก ด้วยความประหยัดค่าใช้จ่าย เธอต้องนั่งรถเมล์ตั้งสามต่อกว่าจะมาถึง

“มีกำหนดไหมคะว่าต้องรอกี่วันถึงจะรู้ผล”  เธอถามไปตรงๆ

“มีผู้สมัครเข้ามามาก เราคงต้องใช้เวลาคัดเลือกคนที่เหมาะกับตำแหน่งนี้สักหน่อย”

“กี่วันคะ”  รมิดาถามย้ำ เธอรู้ว่ามันเสียมารยาท แต่เธอไม่มีเวลาสำหรับการรอที่ไร้ความหวัง  “อันที่จริงถ้ามีตัวเลือกอยู่แล้วก็ไม่ควรเรียกคนอื่นๆมาสัมภาษณ์ให้เสียเวลาเสียค่าเดินทางหรอกค่ะ”

ประโยคของเธอเรียกสายตาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังให้หันกลับมาจ้องมองเธอ เขามีดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ยามที่ยืนอยู่ในทิศทางที่แสงตกกระทบทำให้เห็นชัดว่าผมเขาสีเดียวกับดวงตา

เสียงกระแอมไอของกรรมการทำไม่ได้ทำรมิดาหลบตา เธอกลับยืดแผ่นหลังตั้งตรงกว่าเดิม อาจเพราะรวบผมเป็นหางม้าทำให้ลำคอดูงามระหง 

“คุณคิดว่าตัวเองมีอะไรดีกว่าผู้สมัครคนอื่น”   ชายหนุ่มเอ่ยถามมุมปากยกยิ้มท่าทียียวนทำให้ดูเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่น

“จ้างดิฉันสิคะ แล้วจะรู้ว่าดิฉันแตกต่างจากคนอื่น” เธอฉีกยิ้มหวาน

“ระยะทดลองสามเดือน” เขายิ้มกลับ

“ทดลองงานได้เงินค่าตอบแทนไหมคะ” เธอสบตากับเขา “ถ้าไม่ได้ ดิฉันไม่มาค่ะ”

คราวนี้เขาหัวเราะออกมาแล้วพยักหน้ารับก่อนจะชี้นิ้วมาที่เธอ

“ผมเอาคนนี้ ผู้หญิงแบบนี้ถึงจะทำงานกับผมได้”  เขายิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูร้ายกาจ “แต่คุณต้องรู้เงือนไขที่จะทำงานกับผมด้วย”

“ค่ะ”  เธอตอบรับ

“ถ้าผ่านโปรฯ ได้เซ็นสัญญาทำงานกับผม สัญญาทำงานห้าปี ระหว่างนี้ห้ามคุณคนรัก และห้ามตั้งครรภ์ ผมอยากได้พนักงานที่ทุ่มเทกับงานไม่ต้องมากังวลว่าจะลาคลอดเมื่อไหร่”

“ได้ค่ะ”  

‘ชีวิตนี้ไม่คิดจะแต่งงานอยู่แล้ว!’

“ดี พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย”

“ได้ค่ะ”

“ไม่เอาชุดนักศึกษานะ”

“ค่ะ” 

แม้ปากจะตอบรับไปแบบนั้น แต่ในใจได้แต่ร้อง ฉิบหายแล้ว! แต่จะพูดตามที่คิดก็ไม่ได้ เธอยกมือไหว้ลาแล้วเดินออกมา นั่งรถเมล์กลับบ้านมาขุดเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปทำงาน

จากวันนั้น ....ผ่านมาถึงตอนนี้ก็4 ปี 9เดือนแล้ว เธอยังหวังว่าตัวเองจะได้ต่อสัญญางานกับบริษัทนี้อีก

รมิดาดื่มเครื่องดื่มของตัวเองหมดแก้ว คนอย่างเธอไม่ยอมเสียเงินค่าเครื่องเดิมแก้วละหลายร้อยแบบนี้แน่นอน แต่เพราะเธอไม่ได้จ่ายและมาในฐานะเลขาของท่านประธานซึ่งดูเหมือนว่าได้เวลาที่เธอต้องกลับพร้อมกับเขาแล้ว

 แก้วเครื่องดื่มแก้วใหม่ถูกเลื่อนมาวางตรงหน้า รมิดามองหน้าบาร์เทนเดอร์ด้วยสายตาตั้งคำถาม

“คุณผู้ชายตรงนั้นขอเลี้ยงเครื่องดื่มคุณครับ”

“ขอบคุณค่ะ”  เธอยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นและส่งยิ้มตามมารยาท ตั้งแต่ทำงานหน้าที่นี้มาเธอยิ้มได้หลากรูปแบบจนนึกชื่นชมตัวเองจริงๆ

“แต่คงดื่มอีกไม่ได้แล้วค่ะ  เกรงใจสามีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”  รมิดายังคงโปรยยิ้มแล้วหยิบกระเป๋าหนังสีดำขึ้นคล้องไหล่เดินออกมารอที่ประตูทางออกของผับหรู ไม่กี่นาทีต่อมา ประธานหนุ่มเดินออกมาเพียงลำพัง แม้รมิดาแปลกใจเล็กน้อยแต่เก็บอาการใต้สีหน้าเรียบเฉย

“จะให้เรียกรถเลยไหมคะ”  เธอถามตามหน้าที่ เขาตอบด้วยการพยักหน้า

“กลับคอนโด”

“ทราบแล้วค่ะ”  รมิดาหยิบโทรศัพท์โทรเรียกคนขับรถซึ่งเตรียมตัวไว้รออยู่ก่อนแล้ว จึงใช้เวลาไม่กี่นาที รถเก๋งก็เข้ามาจอด  

หญิงสาวยื่นมือไปหมายจะเปิดประตูรถให้เช่นทุกครั้ง แต่ชายหนุ่มชิงเปิดประตูรถด้านหลังแล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอเข้าไปนั่งด้านใด  มุมปากของเธอกระตุกยิ้มเล็กน้อยแล้วเข้าไปนั่งด้านใน  ชายหนุ่มตามเข้ามาข้างๆ ปิดประตูรถเรียบร้อยแล้วทิ้งตัวลงนอนบนตักของเลขาสาว

“บอสคะ?”  ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขานอนหนุนตักเธอแบบนี้

“ออกรถ”

“ค่ะ”  

ถึงอยากรู้แต่เธอไม่มีหน้าที่ต้องถาม หญิงสาวบอกสารถีให้มุ่งหน้ากลับคอนโด เจ้านายพักอยู่บนชั้นบนสุด และเป็นคอนโดเดียวกับที่รมิดาพักอยู่เพียงแต่เธอพักอยู่ชั้นสิบ มันคือสวัสดิการที่เจ้านายมอบให้ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รมิดาต้อง ‘เกาะ’ ตำแหน่งเลขาของท่านประธานพันล้านไว้ให้นานที่สุด เพราะงานดีๆ แบบนี้เธอจะไปหาที่ไหนได้อีก

“คุณยังจำได้ไหม เงือนไขในการเป็นเลขาของผม”

“ค่ะ”

“ห้ามคุณมีสามี...รวมทั้งตั้งครรภ์”

“ค่ะ”  เธอนิ่งไปเล็กน้อย “บอสอยากได้ใบรับรองแพทย์ไหมคะ”

“ช่างเถอะ เธอจำได้ก็พอ”

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองเลขาสาวแวบหนึ่งแล้วหลับตาลง รมิดาแอบถอนหายใจเบาๆ ท่องไว้สิรมิดา เงินเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตมีความสุข อย่าได้เผลอไปยั่วโมโหผู้ชายที่ชื่อ หัสวีร์  ศาตนันท์ เด็ดขาด!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status