Share

ตอนที่5. เลขาข้างกาย

หญิงสาวหอบเอกสารเดินออกจากลิฟต์ด้วยท่าทีมาดมั่นและงามสง่า สายตาหลายคู่ลอบมองมาทางเธอแต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยทักทาย ใบหน้าหวานแม้มีแว่นตากรอบบางสวมอยู่ก็ไม่อาจปกปิดดวงตาคู่สวยได้  ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีอ่อนเผยอขึ้นเล็กน้อย ร่างโปร่งบางในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มก้าวเดินตรงมาที่โต๊ะของพนักงานสาวคนหนึ่งที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่หยุดยืนอยู่เบื้องหน้า

            “คุณอรอุมาคะ เอกสารชุดนี้ผิดพลาดค่ะ ดิฉันใช้ดินสอเขียนในส่วนที่ต้องแก้ไขแล้ว รบกวนทำให้เสร็จภายในวันนี้ด้วยนะคะ”

            “เอ่อ...”  พนักงานสาวเงยหน้าขึ้น

            “วันนี้ค่ะ”   หญิงสาวยืนยัน มุมปากมีรอยยิ้มทำให้ดูอ่อนโยน ทว่าประโยคต่อมาก็ราวฟาดแส้ใส่คนฟัง “ถ้าไม่เสร็จตามกำหนด คุณหัสวีร์จะให้ฝ่ายบุคคลพิจารณาการทำงานของคุณค่ะ”

            “ค่ะๆ”

            ความเด็ดขาดของเลขาสาวเจ้าของความสูง 167 เซนติเมตรและท่าทางเย่อหยิ่งคนนี้คือ ‘ รมิดา บัวระวงศ์’ เธอเป็นเลขาข้างกาย ‘หัสวีร์ ศาตนันท์’ ประธานบริษัทหนุ่มวัยสามสิบสอง  หญิงสาวเดินกลับลงมาที่หน้าตึก มารอรับชุดสูทของเจ้านายที่ให้พนักงานซักรีดเอามาส่ง เลขาสาวเดินเข้าลิฟต์ของผู้บริหารด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มน้อยๆ แต่แอบกัดฟันอยู่ในที เลขาหรือคนรับใช้ งานของเธอมันแทบไม่ต่างจากคนรับใช้ส่วนตัวของเขา ทว่าเมื่อเสียงปิ๊ง!ดังขึ้น  รมิดาก็ฉีกยิ้มหวานเดินเข้ามาไปห้องทำงานของท่านประธานที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอโน้ตบุ๊กตรงหน้า

            “บอสค่ะ ชุดสูทมาแล้วค่ะ”

            “อืม”  หัสวีร์รับคำในลำคอ ปลายนิ้วเคาะแป้นคีย์บอร์ดรัวๆ และปิดท้ายด้วยการกดปุ่มEnter จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน ก้าวออกมาจากโต๊ะทำงานแล้วกางแขนออก

            รวิดาเดินเข้าไปถอดเสื้อตัวนอกของเขาออก  นึกถึงตอนที่ตัวเองต้องเลี้ยงน้องชายแทนแม่ที่วันๆ แทบไม่ทำงานทำการ เธอต้องสอนน้องตัดแต่ติดกระดุมเม็ดแรกเลยทีเดียว แต่นี้...เธอทำเพราะหน้าที่ เธอไม่รู้ว่าเลขาคนอื่นต้องทำเรื่องพวกนี้ไหม แต่เพื่อแลกกับเงินเดือนครึ่งแสน รวิดายินดีทำอย่างยิ่ง แค่คิดยอดเงินในบัญชี ก็ทำให้เธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

            หัสวีร์หลุบตามองเลขาสาว ทำงานกันมาหลายปี แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ารมิดากลั้นยิ้มอยู่ และรู้ว่ายัยเลขาคนนี้มียิ้มหลายระดับ แต่เรื่องนั้นมันช่างเถอะ แค่เปลี่ยนเสื้อนอกให้เขาก็อารมณ์ดีขนาดนี้เลยหรือไงนะ

            “บอสอยากเปลี่ยนเนคไทไหมคะ” รมิดาถามหลังจากถอดสูทตัวนอกออกแล้ว

            “แล้วคุณคิดว่ายังไง”

          “เนทไทของทาง GUCCIดีไหมคะ เรียบแต่หรูเพิ่มภูมิฐานเหมาะกับการติดต่องานประสานงานเพิ่มภาพลักษณ์ของผู้บริหารค่ะ”

            “คุณไปหยิบมา”

            “ค่ะ”

รมิดาอดยิ้มไม่ได้ การที่เจ้านายรับฟังความเห็นของลูกน้องมันก็ต้องน่าดีใจอยู่แล้ว  ในห้องทำงานสุดหรูหราอลังการ มีห้องเล็กอยู่ซ่อนอยู่ จะเรียกว่าเล็กก็ไม่เล็ก มันกว้างกว่าห้องในบ้านแม่ของเธออีก  ในห้องนั้นมีห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้  ตู้สำหรับใส่เสื้อผ้าและของใช้ และมีลู่วิ่งออกกำลังกาย   เธอเดินไปเลือกเนคไทได้เส้นที่ถูกใจแล้วเดินกลับมาหาเจ้านาย  เธอไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กแต่เมื่อยืนใกล้เขาแล้วก็กลายเป็นคนตัวเตี้ยไปทันที มือเรียวถอดเนคไทเส้นเดิมออกแล้วผูกเส้นใหม่ให้ด้วยชำนาญ  เพื่อรับหน้าที่นี้ เธอยอมลงทุนซื้อเนคไทมาหัดผูกเลยทีเดียว

“ทางโรงพยาบาลแจ้งผลตรวจสุขภาพประจำปีของคุณสุภาวดีมาแล้วค่ะ ความดัน น้ำตาลในเลือดรวมทั้งหัวใจทุกอย่างปกติค่ะ  เหลือแค่เรื่องอาการนอนหลับไม่สนิท แต่คุณหมอไม่อยากให้กินยานอนหลับค่ะ”

“อืม”  หัสวีร์ส่งเสียงรับรู้ในลำคอ  เขาปรายมองเห็นสีหน้าอ้ำอึ้งของเลขาแล้วก็พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้พูด

“ในทางการแพทย์แผนไทย บอกว่าสาเหตุของการนอนไม่หลับเกิดจากธาตุไฟในร่างกายมีมากเกินไปทำให้ร่างกายเกิดความร้อน ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้นอนไม่หลับ แนะนำให้ใช้ สมุนไพรที่มีรสขม เย็น จืด มาปรุงเป็นอาหารเพื่อรับประทานค่ะ เช่น สะเดาน้ำปลาหวาน  ต้มจืดมะระ มะระขี้นกผัดไข่ แกงขี้เหล็ก หรือผักต้มจิ้มน้ำพริก ส่วนเครื่องดื่มสมุนไพรแนะนำเป็นน้ำใบบัวบก น้ำแตงโม น้ำมะระขี้นก

และเพิ่มการออกกำลังกายง่ายๆ ก็ช่วยให้หลับสบายไม่ต้องพึ่งยานอนหลับได้ค่ะ”

            “ประจบสอพลอ” 

            รมิดาเลิกคิ้วเล็กน้อย แทนที่จะโกรธแต่เธอกลับยิ้มออกมา

            “คุณสุภาวดีเป็นแม่ของท่านประธานนี่ค่ะ การที่ดิฉันประจบเอาใจก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว”  รมิดายิ้มกว้าง ถูกจับได้ก็ต้องยืดอกรับ

            “ผมนึกว่ามีแต่คนอยากเป็นลูกสะใภ้ของแม่ผมถึงอยากเอาอกเอาใจท่าน” เขากระตุกยิ้มมุมปาก ก้มมองดูคนตัวเตี้ยกว่าจัดเสื้อของเขาให้เข้าที่

            “เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วค่ะ แต่ตำแหน่งเลขาก็ห่วงใยได้นี่ค่ะ คุณสุภาวดียังเคยฝากรังนกมาให้ดิฉันเลยนี่ค่ะ”    

            “นั้นเพราะแม่ฉันไม่กินต่างหากล่ะ”  เขาส่งเสียง ‘หึ’ ออกมา  “อีกอย่างคุณก็มีหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวของผมให้คุณแม่ทราบอยู่แล้วด้วย”

            “บอสค่ะ เรนนี่มีเจ้านายคนเดียวค่ะ” หญิงสาวทำสีหน้าจริงจัง “ส่วนคุณสุภาวดีนั้นเรียกว่าทำด้วยความเคารพ”

            “คุณนี่มัน”  คราวนี้ประธานหนุ่มถึงกับแหงนหน้าหัวเราะ

            “อ้อ! คุณรสรินโทรมาขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดค่ะ”

            “รสริน?”  หัสวีร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

            “ดาราที่เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าให้บริษัทของเราค่ะ”

            “อ่อ... คุณส่งอะไรไปล่ะ”

            “ช่อดอกไม้ตอนเที่ยงคืนหนึ่งนาทีพร้อมสร้อยข้อมือจากCartierค่ะ”

            “ทำไมต้องเที่ยงคืน?”

            “แสดงว่าเราใส่ใจและเฝ้ารอวันสำคัญของอีกฝ่ายไงคะ”

            “เพ้อเจ้อ”

            “แต่คุณรสรินชอบมากนะคะ”

            “เธอรู้ได้ไงว่าเขายังไม่หลับไม่นอน”

            “อัพไอจีสตอรี่อยู่แสดงว่ายังไม่หลับค่ะ”

            “ไร้สาระ” เขาโคลงศีรษะไปมา แต่ปกติก็ให้เลขาจัดการเรื่องไร้สาระแบบนี้เสมอ เขาเลิกคิ้วอย่างเพิ่งนึกได้

            “วันเกิดคุณล่ะ”

            “วันเกิดดิชั้น...”  รมิดาชี้นิ้วที่หน้าตัวเอง “มีอะไรเหรอคะ”

            “คุณอยากได้อะไรล่ะ”

            “บอสจะให้หรือคะ” 

            ดวงตากลมโตมีแวววิบวับทำให้คนมองรู้สึกใจหวิวแปลกๆ ชอบกล หรือเขาต้องหาเวลาไปเช็กสภาพร่างกายที่โรงพยาบาล

            “แค่ต่อสัญญาจ้างงานอีกห้าปีก็เป็นของขวัญที่วิเศษที่สุดแล้วค่ะ”

รมิดายิ้มกริ่ม  เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้สามเดือนสุดท้ายสมบูรณ์แบบ และเขาต้องต่อสัญญางานกับเธอให้ได้’

          หัสวีร์หรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนเอ่ยขึ้น “คุณยังจำได้ใช่ไหม สัญญาจ้างงานห้าปี ห้ามมีสามี ห้ามมีลูก...”

            “ผมต้องการคนที่ทุ่มเทให้งานมากที่สุด...” รมิดาเอ่ยต่อโดยไม่รอให้เขาพูดจบ “ดิฉันจำได้ค่ะ”

            “ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่” เขาถามแล้วหันไปมองเงาเลื่อนลางที่กระจกหน้าต่างห้องทำงานของตน

            “ยี่สิบหกค่ะ”

            “สัญญางานอีกห้าปีคุณก็สามสิบเอ็ดเลยนะ”

            “ค่ะ”  เธอทำตาปริบๆ

            “คุณไม่คิดจะแต่งงานมีครอบครัวจริงๆเหรอ”

            “ไม่ค่ะ”

รมิดาตอบรวดเร็ว ‘ไม่มีลูกของตัวเอง แต่ตอนนี้ก็เลี้ยงหลานเหมือนลูกอยู่แล้ว’  

            “ตั้งใจทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็พอ”

            “ค่ะ” รมิดายิ้มแล้วถอยออกมาเล็กน้อย “เรียบร้อยแล้วค่ะบอส”

            “อืม”  เขาพยักหน้ารับแล้วเดินนำออกมา รมิดาก้าวตามหลัง แต่เจ้าของร่างสูงเดินไปที่ประตูแล้วชะงักไป เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนหันกลับมา

            “วันนี้คุณไม่ได้ต้องไป”

            “คะ?”   รมิดาแปลกใจ ปกติเขาให้เธอตามไปทุกงานยกเว้นขึ้นห้องกับผู้หญิงนั้นแหละ  เอ๊? หรือว่า

            เหมือนจะเข้าใจความคิดของเลขาสาว หัสวีร์ยกมือขึ้นดีดหน้าผากไปเบาๆ แล้วพูดขึ้น

            “ไปเตรียมตัว”  เขาพูดขึ้น “คุณไปสิงคโปร์กับผม”

            “ค่ะ”  

            “จัดกระเป๋าเดินทางให้ผม” เขาพูดแล้วหมุนตัวเดินออกไป

            รมิดาได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้านายเปลี่ยนใจรวดเร็วแบบนี้ และเพื่อให้ได้สัญญาจ้างงานอีกห้าปี เขาสั่งอะไรเธอก็ทำ 

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status