Share

ตอนที่ 10. ปัญหาของแต่ล่ะคน

เด็กชายโมกข์ยืนขึ้นแล้วกำมือเลียนแบบไมค์โครโฟน ทำกระแอมไอเหมือนคนประกวดร้องเพลงที่เคยดูในโทรทัศน์

“เพื่อเงินสิบบาทเลยนะเนี้ย”

“ร้องดีเดี๋ยวน้าให้ยี่สิบบาท”  รมิดาหยิบแบงค์ยี่สิบโบกไปมา ธาตรีนั่งข้างพี่สาวแล้วตบมือเชียร์หลานชาย

“นี่ไม่ได้ง่ายๆนะ น้าฝนไม่ได้ควักเงินออกมาง่ายๆเชียว”

“นายตรี!”  รมิดาแยกเขี้ยวใส่

“ตั้งใจฟังสิ หลานจะร้องเพลงแล้ว”  ลาวัลย์พูดขึ้นแล้วพยักหน้าให้ลูกชาย เด็กชายจึงส่งเสียงร้องเพลงที่ได้เรียนออกมา

“เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี” โมกข์โยกตัวประกอบเพลง “เฮช ไอ เจ เค”

คราวนี้สามคนพี่น้องประสานเสียงหัวเราะพร้อมกัน ก็จริงนะ เพลงภาษาอังกฤษจริงๆ

“พี่สาวผมได้เสียเงินยี่สิบบาท ฮ่าๆๆ” ธาตรีหัวเราะร่า  โมกข์เห็นน้าสาวกับน้าชายหัวเราะก็ยิ่งเต้นส่ายเอวไปมา

รมิดามองพี่สาวแล้วตบหลังมือเบาๆ “เรื่องยาของน้องโมกข์เป็นยังไง”

เห็นโมกข์ร่าเริงแบบนี้ แต่เด็กน้อยเป็นโรค G6PD คือโรคขาดเอ็นไซม์ G6PD ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยตำแหน่งยีนที่ผิดปกติบนโครโมโซม ซึ่งอยู่บนโครโมโซมเพศ ดังนั้น โรคนี้จึงอยู่ติดตัว ไปตลอดชีวิต และอาจถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ การขาดเอ็นไซน์นี้ จึงทำให้เกิด  “ภาวะเม็ดเลือดแดง” แตกได้ง่ายขึ้น ต้องระวังเรื่องอาหารการกิน และการใช้ชีวิต พกบัตรผู้ป่วยติดตัวตลอดเวลา

“ก็ปรับยาไป ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”

“พี่ลาวัลย์มีอะไรก็บอกฝนนะคะ”

“เธอสองคนช่วยเลี้ยงเจ้าโมกข์เหมือนลูกตัวเองเลยนะ”

ลาวัลย์ยิ้มบางๆ หากไม่มีน้องชายกับน้องสาว เธอคง...คิดสั้นไปนานแล้ว  

“เรามีกันอยู่แค่นี้จะไม่ให้เป็นห่วงถ้ายังไงล่ะ”

 ตั้งแต่ไปทำงาน รมิดาก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน แต่ทุกเดือนเธอจะเป็นจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ถ้าไม่มาได้มาเองก็ให้ธาตรีซื้อของเข้าบ้านแทน  นานๆ กลับมาสักครั้ง รู้สึกเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าในบ้านตัวเอง  ยังดีที่วันนี้แม่ออกไปข้างนอกแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็คง ไม่ได้นั่งๆนอนๆอยู่ในบ้านแบบนี้ หลังจากกินข้าวร่วมกันเสร็จแล้ว รมิดาก็ขอตัวกลับ เธอเองยังต้องแวะไปหาเพื่อนรักอีก

“ผมขับรถไปส่งให้พี่นะ” ธาตรีเสนอ  “พี่จะไปหาพี่ไลลาใช่ไหม ซ้อนมอไซค์ผมไปแค่สิบนาทีเอง”

“น้องชายอุตส่าห์เสนอทั้งที พี่ต้องคว้าไว้อยู่แล้ว”

ธาตรีเดินไปหยิบหมวกกันน็อคและเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ส่งให้พี่สาว

“แดดมันร้อน ใส่แจ็คเก็ตของผมเถอะ ซักแล้ว ไม่เหม็นหรอก”

รมิดายื่นนิ้วไปบีบแก้มของน้องชายเล่น

“น่ารักจังเลยน้องชายใครเนี่ย”

“ผมโตแล้วนะอย่ามาเล่นแบบนี้” เขาปัดมือของพี่สาวออก ก็จริงนั่นแหละเขาโตแล้ว พี่จะมาทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้ไม่ได้ยังดีที่ว่าอยู่ในบ้านคือสาวๆไม่เห็นเข้าเขาได้อายแน่ๆ

ธาตรีขับรถมอเตอร์ไซค์พาพี่สาวมาส่งที่ร้านเสื้อไลลา  ร้านขายเสื้อผ้าเพื่อนสนิทของรมิดา เมื่อพี่สาวส่งหมวกกันน็อคและเสื้อคืนให้น้อง ธาตรีก็รีบรับและจะกลับทันที

“นี่ๆ เจอหน้ากันจะไม่ทักกันหน่อยเหรอ” ไลลาร้องทักเมื่อเห็นธาตรี  เพื่อนสาวของ รมิดาพูดขึ้น

“ผมต้องกลับไปดูแลบ้าน กลับก่อนนะครับ”  เขารีบยกมือไหว้แต่ไม่กล้าสบตา

“ว่างๆ ก็มาเป็นไม้แขวนเสื้อให้อีกนะ”  

ไลลาตะโกนบอก ชายหนุ่มแค่หันมาพยักหน้าให้แล้วก็รีบขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที

“มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่าเนี่ย”

“เธอไม่รู้เหรอ น้องชายเธอหล่อนะ”

“หล่อ?  นายตรีเนี่ยนะหล่อ”  รมิดาหันไปมองแต่น้องชายก็ขับรถออกไปแล้ว “พี่สาวสวย น้องชายหล่อก็ไม่แปลกหรอก แต่ไม้แขวนเสื้อนี่อะไรเหรอ”

“ก็บางวัน ฉันจ้างนายตรีไปส่งของให้ลูกค้าบ้างอะไรบ้าง ก็เห็นเขาหน้าตาดีใช้ได้ ก็เลยให้ใส่เสื้อผ้าผู้ชายโชว์ตอนฉันไลฟ์สดขายของนะ”

“แล้วนายตรีก็ยอมทำนี่นะ”  น้องชายเธอขี้อายจะตายไป ทำไมยอมทำเรื่องแบบนี้ได้เล่า

“ฉันไม่ได้ให้ทำฟรีๆ นะ ถึงฉันจะยังไม่รวยก็ให้ค่าแรงน้องเธอ”

“คงไม่อยากรบกวนเงินฉันสินะ”  รมิดาถอนหายใจแล้วยื่นถุงกระดาษใบย่อมส่งให้ “ของฝากจากสิงคโปร์”

“ขอบใจจ๊ะ”  ไลลายื่นมือมารับแล้วเปิดออกดู “ยัยขี้เหนียวซื้อน้ำหอมมาฝากด้วย”

“บอสให้ฉันซื้อของให้เขาแล้วมันมีโปรส่วนลด ฉันเลยซื้อมาฝาก”

“ยังไงก็ได้ ขอบใจมากนะ”

“ฉันก็ต้องขอบใจแก ช่วยดูแลเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวให้ฉัน”

“คราวหน้าได้เสื้อผ้ามือสองดีๆ ฉันเก็บไว้ให้แกก่อนเลย”

“ฉันไม่ชอบชุดเดรส เอาเสื้อผ้าแบบแยกชิ้นสิ ฉันจะได้สลับใส่กันได้”

“แกนี่เงินเดือนห้าหมื่นใช้เงินเหมือนคนเงินเดือนห้าพันเลย” ไลลาหัวเราะเสียงใส เธอเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสอง คัดของแบรนด์เนมมาขาย ทั้งขายหน้าร้านและออนไลน์ เธอชอบขายเสื้อผ้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้เรียนจบก็เปิดร้านของตัวเอง

“แล้วแกล่ะสนใจมาเป็นไม้แขวนเสื้อให้ฉันไหม หน้าตาแกก็ดีนะ”

“ไม่ล่ะ ฉันเบื่อแต่งหน้าทำผม ถ้าไม่เพราะเป็นเลขาของบอส ฉันก็ไม่ทำอะไรกับตัวเองเลย”

ไลลาได้ยินเพื่อนบ่นก็หันไปหยิบซองแผ่นมาร์กหน้าออกมาให้เพื่อนซี้ “เอาไปใช้ ฉันซื้อตอนลดราคา เหมามาได้หลายซอง ยังไงแกต้องบำรุงตัวเอง วิตามินด้วย กินเข้าไป ทำงานยังกับวัวกับควายต้องบำรุงตัวเองมากๆ”

“รู้แล้วๆ ขอบใจนะ”

ถึงเธอจะเป็นคนขี้เหนียวเห็นแก่เงินมากแค่ไหน แต่บางเรื่องที่ไม่ชอบเธอก็ไม่ยอมทำพี่ตั้งแต่งหน้าแต่งตัว ก็เพราะว่าเป็นเลขาของท่านประธานทำอะไรขึ้นมาไม่ดีก็จะเเสียชื่อเสียงของท่านประธานพันล้านบาทว่า  เธอถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องคืนนั้น ที่เล่าเรื่องส่วนตัวให้เธอเขาก็มีท่าทีแปลกๆ แต่ปกติเจ้านายของเธอก็คือแปลกอยู่แล้ว

นั้นสินะ เขาเคยทำเรื่องธรรมดาที่ไหน หรือว่าคนรวยๆ เขาก็เป็นแบบนี้กัน

“ฉันเอาตังค์มาจ่ายค่าเสื้อผ้าด้วย”  รมิดาพูดอย่างนึกได้รีบหยิบซองเงินออกมาให้เพื่อน เธอมักแยกเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ แบบนี้เสมอ พอดีวันนี้เธอมาหาเพื่อนรักจึงมาใช้หนี้ด้วยตัวเอง

            “ถามจริงๆเหอะ ท่านประธานของแกไม่หวั่นไหวอ่ะแกบ้างเหรอวะ”

“เรื่องอะไร?”  รมิดาเดินไปหยิบกระป๋องเครื่องดื่มมาเปิดดื่ม “ผู้หญิงในคอลเลคชั่นของบอสสวยกว่าฉันตั้งเยอะ อีกอย่าง ฉันไม่ใช่สเปคเขาหรอก ต้องทัดเทียมกันทั้งหน้าตา และฐานะ”

“พูดเสียดูน่าสงสารไปเลย  ฉันก็รู้ว่าแกจะเป็นซินเดอเรลล่า ได้สามีรวยไง”

“ มันมีแต่ใน Series” แล้วมีดาวหัวเราะ “ฉันแค่แวะมาเอาของฝากมาให้แล้วก็จ่ายหนี้ เดี๋ยวจะต้องกลับไปทำความสะอาดห้องแล้ว”

“งานดีแบบนี้เงินก็ดี เป็นฉันก็เกาะบอสแน่นเลยว่ะ” เพื่อนรักพูดขึ้น “แต่สัญญานั้นน่ะ มันก็ตลกนะ ไอ้ที่ไม่ให้แต่งงาน มีสามีหรือมีท้องอะไรนั่นน่ะ แล้วแกจะต่อสัญญาจริงๆเหรอ ทำงานอีกห้าปีแกก็สามสิบกว่าแล้ว ผู้หญิงเรามันแก่เร็วกว่าผู้ชายนะ”

            “ฉันกลับจน กลัวไม่มีเงินใช้มากกว่า” รมิดายักไหล่ “ถ้าได้ทำงานอีกห้าปี หลังจากนั้นเขาจะไม่ต่อสัญญาก็ไม่เป็นไร ก็แค่ย้ายไปแผนกอื่นแต่ขอให้ได้ทำงานที่เดิมเถอะ”

            “ก็จริงอย่างแกว่า คนรวยเขาก็สนใจคนระดับเดียวกันนั้นแหละ”

            “ฉันไม่หวังพึ่งผู้ชายหรอก ฉันจะต้องเลี้ยงตัวเองได้ ขอให้มีงานมีเงินเดือนดีๆ อย่างนี้ดีกว่า”

            “ก็จริงอย่างแกว่า จะคอยหาแต่ผู้ชายรวย มันก็คงไม่เหลือมาถึงเราหรอก ถ้าเรารวยเอง ก็ใช้ชีวิตสบายๆ ดีกว่า”

          “คิดเหมือนฉันแล้วใช่ไหมล่ะ สมกับที่เป็นเพื่อนรักของฉัน”

            “เออๆ แกจำพี่อานนท์ได้ไหม”

“พี่อานนท์ พี่เดือนคณะน่ะเหรอ”

“ ใช่คนนั้นแหละ”

“ก็ต้องจำได้สิ เขาเด่นขนาดนั้น”

“สองสามวันก่อน เขาผ่านมาร้านฉัน เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าวันเกิดจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ  เขาบอกให้ฉันชวนแกไปด้วย”

“ไม่รู้สิต้องดูก่อนว่า มีงานอะไรหรือเปล่า งานบอสฉันไม่แน่นอน บางทีก็มีประชุมต่างประเทศตอนตอนดึกๆ เวลามันไม่ตรงกันไง ฉันต้องไปดูตารางนัดหมายงานก่อน”

“มิน่าล่ะ ค่าแรงแกถึงได้สูงนัก ถ้าเป็นฉันก็คงทำงานของแกไม่ได้หรอก”

“คนเรามันก็ถนัดกันไม่เหมือนกัน ฉันก็ดูของมือสองไม่เป็น ที่ซื้อนี่เพราะไว้ใจแกล้วนๆ”

“เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าใกล้ๆ แล้วฉันทักไปอีกทีก็แล้วกัน”

“ขอบใจนะ ฉันกลับก่อนล่ะ”

“พักผ่อนเยอะๆ นะยะ”

รมิดาลาเพื่อนสนิทแล้วเดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟฟ้า เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอก็ถอดรองเท้าแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนแผ่หราบนเตียง นี่ต่างหากที่เธอรู้สึกว่าเป็นสถานที่ของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอคงไม่ได้ที่ซุกหัวนอนดีๆ แบบนี้และต้องทนอยู่บ้านทะเลาะกับแม่ทุกวันแน่นอน

คนจนก็มีปัญหาแบบคนจน พวกคนรวยก็มีปัญหาแบบคนรวยคนรวย จะมีปัญหาอะไรถ้ามีเงินก็แก้ไขได้ทุกอย่าง  หญิงสาวนึกถึงเรื่องที่เขาปรึกษา ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างนั้นจะมาปรึกษาเธอด้วยเรื่องไร้สาระ  พูดไม่ได้สินะว่าไร้สาระไม่อย่างนั้นเขาคงน้อยใจแย่ เขามีปัญหาเรื่องการแต่งงาน เธอก็มีปัญหาที่แม่อยากให้เธอแต่งงานกับคนรวยๆ  จะได้ มีลูกเขยรวยให้แม่ได้ไถ่เงิน  หลังจากพลาดมาจากพี่สาวคนโตที่ไม่ได้ดั่งใจ  

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็หมดวันแล้ว เธอต้องพักผ่อนชาตแบตให้เต็มไปลุยกับบอสบ้างานคนนั้น!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status