เด็กชายโมกข์ยืนขึ้นแล้วกำมือเลียนแบบไมค์โครโฟน ทำกระแอมไอเหมือนคนประกวดร้องเพลงที่เคยดูในโทรทัศน์
“เพื่อเงินสิบบาทเลยนะเนี้ย”
“ร้องดีเดี๋ยวน้าให้ยี่สิบบาท” รมิดาหยิบแบงค์ยี่สิบโบกไปมา ธาตรีนั่งข้างพี่สาวแล้วตบมือเชียร์หลานชาย
“นี่ไม่ได้ง่ายๆนะ น้าฝนไม่ได้ควักเงินออกมาง่ายๆเชียว”
“นายตรี!” รมิดาแยกเขี้ยวใส่
“ตั้งใจฟังสิ หลานจะร้องเพลงแล้ว” ลาวัลย์พูดขึ้นแล้วพยักหน้าให้ลูกชาย เด็กชายจึงส่งเสียงร้องเพลงที่ได้เรียนออกมา
“เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี” โมกข์โยกตัวประกอบเพลง “เฮช ไอ เจ เค”
คราวนี้สามคนพี่น้องประสานเสียงหัวเราะพร้อมกัน ก็จริงนะ เพลงภาษาอังกฤษจริงๆ
“พี่สาวผมได้เสียเงินยี่สิบบาท ฮ่าๆๆ” ธาตรีหัวเราะร่า โมกข์เห็นน้าสาวกับน้าชายหัวเราะก็ยิ่งเต้นส่ายเอวไปมา
รมิดามองพี่สาวแล้วตบหลังมือเบาๆ “เรื่องยาของน้องโมกข์เป็นยังไง”
เห็นโมกข์ร่าเริงแบบนี้ แต่เด็กน้อยเป็นโรค G6PD คือโรคขาดเอ็นไซม์ G6PD ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยตำแหน่งยีนที่ผิดปกติบนโครโมโซม ซึ่งอยู่บนโครโมโซมเพศ ดังนั้น โรคนี้จึงอยู่ติดตัว ไปตลอดชีวิต และอาจถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ การขาดเอ็นไซน์นี้ จึงทำให้เกิด “ภาวะเม็ดเลือดแดง” แตกได้ง่ายขึ้น ต้องระวังเรื่องอาหารการกิน และการใช้ชีวิต พกบัตรผู้ป่วยติดตัวตลอดเวลา
“ก็ปรับยาไป ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”
“พี่ลาวัลย์มีอะไรก็บอกฝนนะคะ”
“เธอสองคนช่วยเลี้ยงเจ้าโมกข์เหมือนลูกตัวเองเลยนะ”
ลาวัลย์ยิ้มบางๆ หากไม่มีน้องชายกับน้องสาว เธอคง...คิดสั้นไปนานแล้ว
“เรามีกันอยู่แค่นี้จะไม่ให้เป็นห่วงถ้ายังไงล่ะ”
ตั้งแต่ไปทำงาน รมิดาก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน แต่ทุกเดือนเธอจะเป็นจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ถ้าไม่มาได้มาเองก็ให้ธาตรีซื้อของเข้าบ้านแทน นานๆ กลับมาสักครั้ง รู้สึกเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าในบ้านตัวเอง ยังดีที่วันนี้แม่ออกไปข้างนอกแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็คง ไม่ได้นั่งๆนอนๆอยู่ในบ้านแบบนี้ หลังจากกินข้าวร่วมกันเสร็จแล้ว รมิดาก็ขอตัวกลับ เธอเองยังต้องแวะไปหาเพื่อนรักอีก
“ผมขับรถไปส่งให้พี่นะ” ธาตรีเสนอ “พี่จะไปหาพี่ไลลาใช่ไหม ซ้อนมอไซค์ผมไปแค่สิบนาทีเอง”
“น้องชายอุตส่าห์เสนอทั้งที พี่ต้องคว้าไว้อยู่แล้ว”
ธาตรีเดินไปหยิบหมวกกันน็อคและเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ส่งให้พี่สาว
“แดดมันร้อน ใส่แจ็คเก็ตของผมเถอะ ซักแล้ว ไม่เหม็นหรอก”
รมิดายื่นนิ้วไปบีบแก้มของน้องชายเล่น
“น่ารักจังเลยน้องชายใครเนี่ย”
“ผมโตแล้วนะอย่ามาเล่นแบบนี้” เขาปัดมือของพี่สาวออก ก็จริงนั่นแหละเขาโตแล้ว พี่จะมาทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้ไม่ได้ยังดีที่ว่าอยู่ในบ้านคือสาวๆไม่เห็นเข้าเขาได้อายแน่ๆ
ธาตรีขับรถมอเตอร์ไซค์พาพี่สาวมาส่งที่ร้านเสื้อไลลา ร้านขายเสื้อผ้าเพื่อนสนิทของรมิดา เมื่อพี่สาวส่งหมวกกันน็อคและเสื้อคืนให้น้อง ธาตรีก็รีบรับและจะกลับทันที
“นี่ๆ เจอหน้ากันจะไม่ทักกันหน่อยเหรอ” ไลลาร้องทักเมื่อเห็นธาตรี เพื่อนสาวของ รมิดาพูดขึ้น
“ผมต้องกลับไปดูแลบ้าน กลับก่อนนะครับ” เขารีบยกมือไหว้แต่ไม่กล้าสบตา
“ว่างๆ ก็มาเป็นไม้แขวนเสื้อให้อีกนะ”
ไลลาตะโกนบอก ชายหนุ่มแค่หันมาพยักหน้าให้แล้วก็รีบขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที
“มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่าเนี่ย”
“เธอไม่รู้เหรอ น้องชายเธอหล่อนะ”
“หล่อ? นายตรีเนี่ยนะหล่อ” รมิดาหันไปมองแต่น้องชายก็ขับรถออกไปแล้ว “พี่สาวสวย น้องชายหล่อก็ไม่แปลกหรอก แต่ไม้แขวนเสื้อนี่อะไรเหรอ”
“ก็บางวัน ฉันจ้างนายตรีไปส่งของให้ลูกค้าบ้างอะไรบ้าง ก็เห็นเขาหน้าตาดีใช้ได้ ก็เลยให้ใส่เสื้อผ้าผู้ชายโชว์ตอนฉันไลฟ์สดขายของนะ”
“แล้วนายตรีก็ยอมทำนี่นะ” น้องชายเธอขี้อายจะตายไป ทำไมยอมทำเรื่องแบบนี้ได้เล่า
“ฉันไม่ได้ให้ทำฟรีๆ นะ ถึงฉันจะยังไม่รวยก็ให้ค่าแรงน้องเธอ”
“คงไม่อยากรบกวนเงินฉันสินะ” รมิดาถอนหายใจแล้วยื่นถุงกระดาษใบย่อมส่งให้ “ของฝากจากสิงคโปร์”
“ขอบใจจ๊ะ” ไลลายื่นมือมารับแล้วเปิดออกดู “ยัยขี้เหนียวซื้อน้ำหอมมาฝากด้วย”
“บอสให้ฉันซื้อของให้เขาแล้วมันมีโปรส่วนลด ฉันเลยซื้อมาฝาก”
“ยังไงก็ได้ ขอบใจมากนะ”
“ฉันก็ต้องขอบใจแก ช่วยดูแลเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวให้ฉัน”
“คราวหน้าได้เสื้อผ้ามือสองดีๆ ฉันเก็บไว้ให้แกก่อนเลย”
“ฉันไม่ชอบชุดเดรส เอาเสื้อผ้าแบบแยกชิ้นสิ ฉันจะได้สลับใส่กันได้”
“แกนี่เงินเดือนห้าหมื่นใช้เงินเหมือนคนเงินเดือนห้าพันเลย” ไลลาหัวเราะเสียงใส เธอเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสอง คัดของแบรนด์เนมมาขาย ทั้งขายหน้าร้านและออนไลน์ เธอชอบขายเสื้อผ้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้เรียนจบก็เปิดร้านของตัวเอง
“แล้วแกล่ะสนใจมาเป็นไม้แขวนเสื้อให้ฉันไหม หน้าตาแกก็ดีนะ”
“ไม่ล่ะ ฉันเบื่อแต่งหน้าทำผม ถ้าไม่เพราะเป็นเลขาของบอส ฉันก็ไม่ทำอะไรกับตัวเองเลย”
ไลลาได้ยินเพื่อนบ่นก็หันไปหยิบซองแผ่นมาร์กหน้าออกมาให้เพื่อนซี้ “เอาไปใช้ ฉันซื้อตอนลดราคา เหมามาได้หลายซอง ยังไงแกต้องบำรุงตัวเอง วิตามินด้วย กินเข้าไป ทำงานยังกับวัวกับควายต้องบำรุงตัวเองมากๆ”
“รู้แล้วๆ ขอบใจนะ”
ถึงเธอจะเป็นคนขี้เหนียวเห็นแก่เงินมากแค่ไหน แต่บางเรื่องที่ไม่ชอบเธอก็ไม่ยอมทำพี่ตั้งแต่งหน้าแต่งตัว ก็เพราะว่าเป็นเลขาของท่านประธานทำอะไรขึ้นมาไม่ดีก็จะเเสียชื่อเสียงของท่านประธานพันล้านบาทว่า เธอถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องคืนนั้น ที่เล่าเรื่องส่วนตัวให้เธอเขาก็มีท่าทีแปลกๆ แต่ปกติเจ้านายของเธอก็คือแปลกอยู่แล้ว
นั้นสินะ เขาเคยทำเรื่องธรรมดาที่ไหน หรือว่าคนรวยๆ เขาก็เป็นแบบนี้กัน
“ฉันเอาตังค์มาจ่ายค่าเสื้อผ้าด้วย” รมิดาพูดอย่างนึกได้รีบหยิบซองเงินออกมาให้เพื่อน เธอมักแยกเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ แบบนี้เสมอ พอดีวันนี้เธอมาหาเพื่อนรักจึงมาใช้หนี้ด้วยตัวเอง
“ถามจริงๆเหอะ ท่านประธานของแกไม่หวั่นไหวอ่ะแกบ้างเหรอวะ”“เรื่องอะไร?” รมิดาเดินไปหยิบกระป๋องเครื่องดื่มมาเปิดดื่ม “ผู้หญิงในคอลเลคชั่นของบอสสวยกว่าฉันตั้งเยอะ อีกอย่าง ฉันไม่ใช่สเปคเขาหรอก ต้องทัดเทียมกันทั้งหน้าตา และฐานะ”
“พูดเสียดูน่าสงสารไปเลย ฉันก็รู้ว่าแกจะเป็นซินเดอเรลล่า ได้สามีรวยไง”
“ มันมีแต่ใน Series” แล้วมีดาวหัวเราะ “ฉันแค่แวะมาเอาของฝากมาให้แล้วก็จ่ายหนี้ เดี๋ยวจะต้องกลับไปทำความสะอาดห้องแล้ว”
“งานดีแบบนี้เงินก็ดี เป็นฉันก็เกาะบอสแน่นเลยว่ะ” เพื่อนรักพูดขึ้น “แต่สัญญานั้นน่ะ มันก็ตลกนะ ไอ้ที่ไม่ให้แต่งงาน มีสามีหรือมีท้องอะไรนั่นน่ะ แล้วแกจะต่อสัญญาจริงๆเหรอ ทำงานอีกห้าปีแกก็สามสิบกว่าแล้ว ผู้หญิงเรามันแก่เร็วกว่าผู้ชายนะ”
“ฉันกลับจน กลัวไม่มีเงินใช้มากกว่า” รมิดายักไหล่ “ถ้าได้ทำงานอีกห้าปี หลังจากนั้นเขาจะไม่ต่อสัญญาก็ไม่เป็นไร ก็แค่ย้ายไปแผนกอื่นแต่ขอให้ได้ทำงานที่เดิมเถอะ”
“ก็จริงอย่างแกว่า คนรวยเขาก็สนใจคนระดับเดียวกันนั้นแหละ”
“ฉันไม่หวังพึ่งผู้ชายหรอก ฉันจะต้องเลี้ยงตัวเองได้ ขอให้มีงานมีเงินเดือนดีๆ อย่างนี้ดีกว่า”
“ก็จริงอย่างแกว่า จะคอยหาแต่ผู้ชายรวย มันก็คงไม่เหลือมาถึงเราหรอก ถ้าเรารวยเอง ก็ใช้ชีวิตสบายๆ ดีกว่า”
“คิดเหมือนฉันแล้วใช่ไหมล่ะ สมกับที่เป็นเพื่อนรักของฉัน”
“เออๆ แกจำพี่อานนท์ได้ไหม”
“พี่อานนท์ พี่เดือนคณะน่ะเหรอ”
“ ใช่คนนั้นแหละ”
“ก็ต้องจำได้สิ เขาเด่นขนาดนั้น”
“สองสามวันก่อน เขาผ่านมาร้านฉัน เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าวันเกิดจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ เขาบอกให้ฉันชวนแกไปด้วย”
“ไม่รู้สิต้องดูก่อนว่า มีงานอะไรหรือเปล่า งานบอสฉันไม่แน่นอน บางทีก็มีประชุมต่างประเทศตอนตอนดึกๆ เวลามันไม่ตรงกันไง ฉันต้องไปดูตารางนัดหมายงานก่อน”
“มิน่าล่ะ ค่าแรงแกถึงได้สูงนัก ถ้าเป็นฉันก็คงทำงานของแกไม่ได้หรอก”
“คนเรามันก็ถนัดกันไม่เหมือนกัน ฉันก็ดูของมือสองไม่เป็น ที่ซื้อนี่เพราะไว้ใจแกล้วนๆ”
“เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าใกล้ๆ แล้วฉันทักไปอีกทีก็แล้วกัน”
“ขอบใจนะ ฉันกลับก่อนล่ะ”
“พักผ่อนเยอะๆ นะยะ”
รมิดาลาเพื่อนสนิทแล้วเดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟฟ้า เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอก็ถอดรองเท้าแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนแผ่หราบนเตียง นี่ต่างหากที่เธอรู้สึกว่าเป็นสถานที่ของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอคงไม่ได้ที่ซุกหัวนอนดีๆ แบบนี้และต้องทนอยู่บ้านทะเลาะกับแม่ทุกวันแน่นอน
คนจนก็มีปัญหาแบบคนจน พวกคนรวยก็มีปัญหาแบบคนรวยคนรวย จะมีปัญหาอะไรถ้ามีเงินก็แก้ไขได้ทุกอย่าง หญิงสาวนึกถึงเรื่องที่เขาปรึกษา ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างนั้นจะมาปรึกษาเธอด้วยเรื่องไร้สาระ พูดไม่ได้สินะว่าไร้สาระไม่อย่างนั้นเขาคงน้อยใจแย่ เขามีปัญหาเรื่องการแต่งงาน เธอก็มีปัญหาที่แม่อยากให้เธอแต่งงานกับคนรวยๆ จะได้ มีลูกเขยรวยให้แม่ได้ไถ่เงิน หลังจากพลาดมาจากพี่สาวคนโตที่ไม่ได้ดั่งใจ
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็หมดวันแล้ว เธอต้องพักผ่อนชาตแบตให้เต็มไปลุยกับบอสบ้างานคนนั้น!
สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน ตอนที่ 11. อยากอุ้มเหลนแล้ว คฤหาสน์ตระกูลศาตนันท์ในบ่ายวันนี้ หลานชายสองคนผู้สืบทอดกิจการศาตนันท์กำลังนั่งจิบน้ำชาในสวนหย่อมอันแสนรื่นรมย์ของคฤหาสน์ แต่ใบหน้าของหัสวีร์บึ้งตึงเพราะความอดทนของเขากำลังจะหมดลง “ถ้าไม่ชอบหนูลิลลี่ก็ลองดูหนูมิ้นต์ก็ได้ ลูกหลานเพื่อนปู่ชาติตระกูลดี รับรองว่า...” “พอเถอะครับปู่” หัสวีร์พูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที่ อุตส่าห์กลับมาบ้านทั้งที ปู่ก็ยังพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ “ปู่ไม่เบื่อหรือครับ พูดเรื่องพวกนี้ทุกครั้งที่เจอหน้าผม” “เบื่อสิ” ปู่ทำหน้าเบื่อหน่ายจริงๆ หัสดินกลั้นหัวเราะแล้วตัดเค้กชิ้นขนาดพอดีส่งให้ปู่กับย่า “เค้กน้ำผึ้งครับ เป็นเค้กนึ่งนะครับเหมาะกับผู้สูงอายุที่รักษาสุขภาพ กินกับน้ำชาเข้ากันมากเลย” คุณย่ารับจานเค้กมาแล้วตัดกินคำเล็กๆ แล้วพยักหน้ารับ “อร่อย ตาดินทำขนมอร่อยขึ้นทุกวัน” “ถ้าทำขนมไม่อร่อยก็ไปปิดร้านดีกว่า เสียชื่อเชฟเปล่าๆ” หัสวีร์ไม่ชอบกินขนมจึงไปไม่สนใจแม้น้องชายต่างแม่จะตัดแบ่งให้เขาด้วย “ปู่ไม่หาเมียให้ไอ้ดินบ้างล่ะ ทำไมว
“ฮัชเช่ย!”ใครนินทาฉันนะ!รมิดารู้สึกคันจมูกยุกยิก มือเรียวยื่นไปหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดจมูก ‘ไม่รู้คนคิดถึงหรือคนนินทา’ เธอบ่นขณะนั่งทำเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานของตนเอง“ไม่สบายหรือไง”เสียงดุๆ ของท่านประธานดังอยู่เหนือศีรษะ หญิงสาวสาวรีบเช็ดจมูกแล้วพูดขึ้น“เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไรคันจมูกนิดหน่อยสงสัยจะเป็นภูมิแพ้” รมิดาพูดแล้วฉีกยิ้มด้วยความมั่นใจ“นั่นสิ อย่างเธอจะเป็นอะไรได้ อดทนยิ่งกว่าวัว”รมิดาได้ฟังก็หน้านิ่งรอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้า ทว่าในใจตรงข้าม จะว่าไปเขาพูดแค่นี้ยังนับว่า ‘เบา’มาก ช่วงที่เธอมาทำงานกับเขาใหม่ๆ ทำอะไรไม่ทันหรือไม่ดีอย่างที่เขาต้องการ เธอเคยถูกเขาตวาดจนแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำก็หลายครั้ง เขาเป็นคนปากร้ายแต่เฉพาะกับเรื่องงานที่เขาเข้มงวดเท่านั้น แต่กับสาวๆ ของเขา ถ้าคนไหน ‘ล้ำเส้น’หัสวีร์มองสีหน้าของเลขา จากที่ทำงานด้วยกันมาเกือบห้าปี เขารู้ดีว่าเธอคงก่นด่าเขาในใจ แต่เธอมักเก็บทุกความรู้สึกไว้ภายใต้รอยยิ้มซื่อๆนั้น เขานึกถึงคำพูดของหัสดิน ‘มีแต่เรนนี่ที่รับมือพี่ชายของผมไหว’ ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่อยากนั้น ช่วงที่เธอทำงานสามเดือนแรก เธอโดนเขาทั้งด่
รมิดาใช้เวลาหนึ่งคืนกับหนึ่งวันในการร่างสัญญาการทำงานเป็นภรรยาของหัสวีร์ อันที่จริงเธอใช้เวลาในการตัดสินใจไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เงินสิบล้านทำให้เธอไม่ต้องคิดมากเลยด้วยซ้ำ มันเป็นการทำงานชนิดหนึ่งเท่านั้น เขาเองก็คงเชื่อใจและไว้ใจเธอถึงได้ยอมจ้างเธอจดทะเบียนสมรสแบบนี้ จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่เธอที่เสียเปรียบ เพราะเขาก็เองก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอเหมือนกัน เธอจึงทำร่างสัญญาให้รัดกุมที่สุด หัสวีร์เองก็ใช้เวลาอ่านเอกสารที่เธอทำให้โดยใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เซ็นชื่อโดยมีหัสดินที่ถูกโทรตามตัวมาเป็นพยานอย่างกระทันหัน “เอาจริงด้วย” หัสดินอ่านสัญญาแล้วลงนามลงไป “มาถึงขั้นนี้แล้วก็ไปจดทะเบียนสมรสเลยเถอะ แค่เอาบัตรประชาชนไป อ้อ ทะเบียนบ้านไปคัดเอาที่สำนักงานเขตก็ได้” “ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยหรือคะ” รมิดาเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง “ไม่อยากใช้เงินหรือไง” หัสวีร์ลุกขึ้นยืน “จากนี้ไปสำนักงานเขตแค่สิบห้านาที ตอนนี้พยานก็มีก็ลากไปด้วยจะได้ทำทุกอย่างให้มันเรียบร้อย” “ใช่ๆ ทำทุกอย่างให้เสร็จแล้วก็ปาร์ตี้ฉลอง” “ฉลองบ้าบออะไร” หั
สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน ตอนที่ 14.นิ้วนางข้างซ้าย ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนอย่างรมิดาจะได้ใส่แหวนแต่งงานด้วย ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องสัญญาในการทำงานกับหัสวีร์ แต่เพราะเธอไม่เคยเชื่อใจเรื่องพวกนี้ แม่ก็ยุให้หาจับผู้ชายรวยๆ เป็นสามี ส่วนพี่สาวก็ถูกผู้ชายหลอก เธอไม่อยากอยู่ในวังวนแบบนี้ ทางเดียวที่ทำให้เธอมั่นใจก็คือการมีเงินในบัญชี ซึ่งตอนนี้...เธอมีเงินหลักล้านในบัญชี ‘ผมไม่จ่ายที่เดียวหมดหรอกนะ เผื่อคุณหนีสัญญา’ รมิดาจำได้ว่าเขาพูดชัดเจนขณะที่ลงชื่อในสัญญาฉบับนั้นและเขาเก็บไว้หนึ่งชุด เธอเห็นเขาโยนเอกสารใส่ตู้เซฟในห้องพักของเขา ‘แหวนนั่นนะ ใส่ให้มันชินนิ้วไว้ก็ดี’ ‘บอสไม่อยากให้คนอื่นรู้ไม่ใช่เหรอคะ’ ‘ก็คุณพูดเองนี่ว่าคุณใส่อะไรก็เหมือนของปลอม ให้คุณใส่แหวนแต่งงานก็ไม่มีใครเชื่อหรอก’ หญิงสาวยกมือข้างที่สวมแหวนขึ้นดู คนขี้งกอย่างเธอทำทุกอย่างเพื่อเงินได้จริงๆ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหาค่าเทอมและค่ายาให้น้องโมกข์ได้หรือไม่ นี่เธอควรฉลองดีไหมนะ ฉลองที่มีเงินในบัญชีหลักล้านเสียที นั้นสิ
สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน ตอนที่ 15. ยัยเลขาบ้า! “ใคร...อ่อ...ท่านประธานพันล้านนี่เอง” เสียงอ้อแอทักคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ชายหนุ่มขมวดคิ้วที่เห็นสภาพของเลขาสาวในขณะนี้ "เธอ...เป็นอะไร เปิดประตูให้ผมเข้าไปเดี๋ยวนี้” “แค่เป็นเจ้านาย ก็สั่งเอาสั่งเอาได้เหรอ” พูดไม่จบประโยคดีก็ได้ยินเสียงเรอออกมา มือเล็กยกขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก หัสวีร์ได้ยินคำเรียกแปลกประหลาดนั้นชัดเจน แต่ไม่คิดเอามาใส่ใจในเวลานี้ ประตูแง้มเล็กน้อยแค่โผล่ใบหน้าหวานแดงก่ำ เขาใช้แรงไม่มากก็ดันประตูให้เปิดกว้างเพื่อแทรกตัวเข้าไปด้านใน รมิดาไม่ทันตั้งตัวก็เซถอยหลังจวนเจียนจะล้มแต่ฝ่ามือแกร่งโอบแผ่นหลังเธอไว้ได้ทันในขณะที่มือเรียวเล็กยื่นไปหาหลักยึดเหนี่ยวทำให้เกี่ยวคอของเขาไว้อย่างช่วยไม่ได้ ส่วนมืออีกข้างของเขาก็ถือกล่องขนม “ท่าน...ประธาน...” “เป็นอะไรของคุณ” เขาขมวดคิ้วงุนงง ไม่เคยเห็นรมิดาเป็นอย่างนี้มาก่อน แต่เพราะอยู่ใกล้กันมากจนเขาได้กลิ่น...กลิ่น... “คุณดื่มเหล้า?” “ม่ายยยย” รมิดาหัวเราะร่วนพยายามทร
แม้จะพักที่เดียวกัน แต่รมิดาไม่ได้ออกจากคอนโดพร้อมเจ้านาย แต่เช้านี้เธอได้รับข้อความที่ส่งมาทางไลน์ ‘รอที่ประตูทางออก’ หลังจากตื่นขึ้นมา รมิดาไม่แปลกใจที่ตัวเองสวมแค่ชุดชั้นใน ปกติเธอนอนคนเดียวบางคืนก็ใส่แค่บราเซียกับกางเกงขาสั้น นอนไม่เปิดแอร์เพราะอยากประหยัดค่าไฟ ถึงจะได้ฟรีค่าห้องแต่ค่าน้ำค่าไฟเธอจ่ายเองนี่นะ แรกทีเดียวเธอก็ไม่คิดอะไร ปวดหัวนิดหน่อยเพราะอาการเมาค้างแต่พอกินกาแฟดำก็บรรเทาได้มาก แต่ที่เธอตกใจก็คือกล่องขนมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างขวดเหล้าสาโท นี่มันกล่องขนมจากร้านคุณหัสดิน หรือคุณหัสดินเข้ามาห้องเธอ เจอสภาพเธอกลายเป็นขี้เมา แล้วปกติคุณหัสดินไม่เคยมาที่ห้องเธอเลย ตลอดเวลาทำงานมาเกือบห้าปี เวลาที่คุณหัสดินหิ้วขนมของกินมาให้ชิมจะเรียกเธอไปที่ห้องของหัสวีร์เสมอ แล้วยิ่งเห็นหมายเลขโทรเข้าที่เธอไม่ได้รับสายนี่อีก โอ๊ย! เธอทำอะไรรั่วๆใส่เจ้านายไปหรือเปล่านะ เสียงแตรรถทำให้หญิงสาวสะดุ้งโหยง รถเก๋งคันหรูจอดเทียบทางเดิน รมิดาสูดลมหายใจลึกแล้วใช้ความมั่นที่เวลานี้เหลือน้อยนิดเปิดประตูรถด้านหลัง “ข้างหน้าสิ! ผมไม่
‘ได้เดิมตามฝัน จะมีอะไรเป็นของตัวเอง ชอบอิสระ ไม่พึ่งพาใคร ไม่ง้อใคร รวยด้วยลำแข็ง เก่ง แกร่ง เสน่ห์แรง เกินต้าน สวยมากจนน่าขยี้ หาเงินเก่ง หาเงินดุ เงินคือสามีที่เรารักที่สุด...’หญิงสาวถึงกับสำลักเครื่องดื่มสีสวยที่กำลังยกขึ้นจิบ บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ใกล้หันมามองอย่างห่วงใย แต่เจ้าของมือเรียวโบกมือไปมาก่อนหยิบกระดาษทิชชู่มาซับมุมปากแล้วกวาดสายตาอ่านข้อความที่หน้าจอสมาร์ทโฟนของตนเอง“เงินคือสามีที่รักที่สุด” รมิดาพึมพำอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้งแล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะ มันเป็นหน้าแฟนเพจเวบดูดวงเพจหนึ่งที่เธอเลื่อนอ่านฆ่าเวลา แม้ไม่ใช่คนชอบดูดวงชะตาแต่ถ้าเจอก็อดอ่านไม่ได้ เธอเป็นสาวราศีมีน และหมอดูท่านนี้ก็ทำนายได้โดนใจเป็นที่สุดสำหรับรมิดาแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงิน หญิงสาวนึกขำเมื่อเห็นภาพใบหน้าตนเองฉีกยิ้มหวานแล้วพูดว่า ‘ภูมิใจที่ได้ทำงานที่บริษัทในเครือศาตนันท์กรุ๊ฟ’ ซึ่งความจริงแล้ว เพราะเงินเดือนที่สูงกว่าบริษัทอื่นรวมทั้งค่าล่วงเวลาทำให้เธอกัดฟันทำงานที่นี่ต่างหากต้องเรียกว่า ‘ฟาดฟันเพื่อให้ได้ทำงานที่นี่เลยต่างหากล่ะ’หญิงสาวในชุดเดรสสีดำเรียบง่ายยกแก้วเครื่องดื่มของตนขึ้น
มุมหนึ่งของห้องพักสุดหรูคือที่ออกกำลังกายของชายหนุ่มเจ้าของห้อง กระสอบทรายที่แขวนอยู่แกว่งไปมาตามแรงหมัดที่กระแทกใส่ เหงื่อเกาะพราวบนแผงอกกำยำมีรอยสักมังกรใหญ่ยักษ์ที่เวลานี้เปลือยเปล่าเห็นกล้ามท้องเป็นมัด จังหวะเต้นฟุตเวิร์คที่สอดคล้องกับจังหวะการหายใจ ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับผงกศีรษะยอมรับความสามารถของพี่ชายต่างมารดาคนนี้ “ใส่นวมแล้วมาต่อยกันสักหมัดสองหมัดสิ” “อย่ามาหลอกเลย” คนถูกชวนส่ายหน้าไปมา “หมัดสองหมัดมีที่ไหน” ชายหนุ่มซัดหมัดหนักๆ ออกไปอีกหมัดก่อนยุติการซ้อม เขายื่นมือไปรับผ้าขนหนูจาก น้องชายแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง “ออกกำลังกายให้เหงื่อมันออกเสียบ้างจะได้เลิกบ่นว่านอนไม่หลับเสียที” หัสวีร์พูดแล้วเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ “เอาแต่พึ่งยานอนหลับมันจะไม่ดีกับสุขภาพ” “เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้กินยานอนหลับแล้วล่ะ” หัสดินเดินไปหยิบน้ำแร่จากตู้เย็นแล้วเดินกลับมาหาพี่ชายคนละแม่ “ใครกล้ากวนใจพี่ชายผม หรือไม่ได้คุยกับคาเรน” หัสดินพูดพลางหัวเราะร่วน ถือขวดน้ำแร่แล้วเดินไปนั่งใกล้ๆ แม้เป็นพี่น้องต่างมารดา