ฝากผลงานของเพลงมีนาด้วยนะคะ ช่วยกดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ
“ฮัชเช่ย!”ใครนินทาฉันนะ!รมิดารู้สึกคันจมูกยุกยิก มือเรียวยื่นไปหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดจมูก ‘ไม่รู้คนคิดถึงหรือคนนินทา’ เธอบ่นขณะนั่งทำเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานของตนเอง“ไม่สบายหรือไง”เสียงดุๆ ของท่านประธานดังอยู่เหนือศีรษะ หญิงสาวสาวรีบเช็ดจมูกแล้วพูดขึ้น“เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไรคันจมูกนิดหน่อยสงสัยจะเป็นภูมิแพ้” รมิดาพูดแล้วฉีกยิ้มด้วยความมั่นใจ“นั่นสิ อย่างเธอจะเป็นอะไรได้ อดทนยิ่งกว่าวัว”รมิดาได้ฟังก็หน้านิ่งรอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้า ทว่าในใจตรงข้าม จะว่าไปเขาพูดแค่นี้ยังนับว่า ‘เบา’มาก ช่วงที่เธอมาทำงานกับเขาใหม่ๆ ทำอะไรไม่ทันหรือไม่ดีอย่างที่เขาต้องการ เธอเคยถูกเขาตวาดจนแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำก็หลายครั้ง เขาเป็นคนปากร้ายแต่เฉพาะกับเรื่องงานที่เขาเข้มงวดเท่านั้น แต่กับสาวๆ ของเขา ถ้าคนไหน ‘ล้ำเส้น’หัสวีร์มองสีหน้าของเลขา จากที่ทำงานด้วยกันมาเกือบห้าปี เขารู้ดีว่าเธอคงก่นด่าเขาในใจ แต่เธอมักเก็บทุกความรู้สึกไว้ภายใต้รอยยิ้มซื่อๆนั้น เขานึกถึงคำพูดของหัสดิน ‘มีแต่เรนนี่ที่รับมือพี่ชายของผมไหว’ ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่อยากนั้น ช่วงที่เธอทำงานสามเดือนแรก เธอโดนเขาทั้งด่
รมิดาใช้เวลาหนึ่งคืนกับหนึ่งวันในการร่างสัญญาการทำงานเป็นภรรยาของหัสวีร์ อันที่จริงเธอใช้เวลาในการตัดสินใจไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เงินสิบล้านทำให้เธอไม่ต้องคิดมากเลยด้วยซ้ำ มันเป็นการทำงานชนิดหนึ่งเท่านั้น เขาเองก็คงเชื่อใจและไว้ใจเธอถึงได้ยอมจ้างเธอจดทะเบียนสมรสแบบนี้ จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่เธอที่เสียเปรียบ เพราะเขาก็เองก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอเหมือนกัน เธอจึงทำร่างสัญญาให้รัดกุมที่สุด หัสวีร์เองก็ใช้เวลาอ่านเอกสารที่เธอทำให้โดยใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เซ็นชื่อโดยมีหัสดินที่ถูกโทรตามตัวมาเป็นพยานอย่างกระทันหัน “เอาจริงด้วย” หัสดินอ่านสัญญาแล้วลงนามลงไป “มาถึงขั้นนี้แล้วก็ไปจดทะเบียนสมรสเลยเถอะ แค่เอาบัตรประชาชนไป อ้อ ทะเบียนบ้านไปคัดเอาที่สำนักงานเขตก็ได้” “ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยหรือคะ” รมิดาเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง “ไม่อยากใช้เงินหรือไง” หัสวีร์ลุกขึ้นยืน “จากนี้ไปสำนักงานเขตแค่สิบห้านาที ตอนนี้พยานก็มีก็ลากไปด้วยจะได้ทำทุกอย่างให้มันเรียบร้อย” “ใช่ๆ ทำทุกอย่างให้เสร็จแล้วก็ปาร์ตี้ฉลอง” “ฉลองบ้าบออะไร” หั
สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน ตอนที่ 14.นิ้วนางข้างซ้าย ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนอย่างรมิดาจะได้ใส่แหวนแต่งงานด้วย ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องสัญญาในการทำงานกับหัสวีร์ แต่เพราะเธอไม่เคยเชื่อใจเรื่องพวกนี้ แม่ก็ยุให้หาจับผู้ชายรวยๆ เป็นสามี ส่วนพี่สาวก็ถูกผู้ชายหลอก เธอไม่อยากอยู่ในวังวนแบบนี้ ทางเดียวที่ทำให้เธอมั่นใจก็คือการมีเงินในบัญชี ซึ่งตอนนี้...เธอมีเงินหลักล้านในบัญชี ‘ผมไม่จ่ายที่เดียวหมดหรอกนะ เผื่อคุณหนีสัญญา’ รมิดาจำได้ว่าเขาพูดชัดเจนขณะที่ลงชื่อในสัญญาฉบับนั้นและเขาเก็บไว้หนึ่งชุด เธอเห็นเขาโยนเอกสารใส่ตู้เซฟในห้องพักของเขา ‘แหวนนั่นนะ ใส่ให้มันชินนิ้วไว้ก็ดี’ ‘บอสไม่อยากให้คนอื่นรู้ไม่ใช่เหรอคะ’ ‘ก็คุณพูดเองนี่ว่าคุณใส่อะไรก็เหมือนของปลอม ให้คุณใส่แหวนแต่งงานก็ไม่มีใครเชื่อหรอก’ หญิงสาวยกมือข้างที่สวมแหวนขึ้นดู คนขี้งกอย่างเธอทำทุกอย่างเพื่อเงินได้จริงๆ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหาค่าเทอมและค่ายาให้น้องโมกข์ได้หรือไม่ นี่เธอควรฉลองดีไหมนะ ฉลองที่มีเงินในบัญชีหลักล้านเสียที นั้นสิ
สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน ตอนที่ 15. ยัยเลขาบ้า! “ใคร...อ่อ...ท่านประธานพันล้านนี่เอง” เสียงอ้อแอทักคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ชายหนุ่มขมวดคิ้วที่เห็นสภาพของเลขาสาวในขณะนี้ "เธอ...เป็นอะไร เปิดประตูให้ผมเข้าไปเดี๋ยวนี้” “แค่เป็นเจ้านาย ก็สั่งเอาสั่งเอาได้เหรอ” พูดไม่จบประโยคดีก็ได้ยินเสียงเรอออกมา มือเล็กยกขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก หัสวีร์ได้ยินคำเรียกแปลกประหลาดนั้นชัดเจน แต่ไม่คิดเอามาใส่ใจในเวลานี้ ประตูแง้มเล็กน้อยแค่โผล่ใบหน้าหวานแดงก่ำ เขาใช้แรงไม่มากก็ดันประตูให้เปิดกว้างเพื่อแทรกตัวเข้าไปด้านใน รมิดาไม่ทันตั้งตัวก็เซถอยหลังจวนเจียนจะล้มแต่ฝ่ามือแกร่งโอบแผ่นหลังเธอไว้ได้ทันในขณะที่มือเรียวเล็กยื่นไปหาหลักยึดเหนี่ยวทำให้เกี่ยวคอของเขาไว้อย่างช่วยไม่ได้ ส่วนมืออีกข้างของเขาก็ถือกล่องขนม “ท่าน...ประธาน...” “เป็นอะไรของคุณ” เขาขมวดคิ้วงุนงง ไม่เคยเห็นรมิดาเป็นอย่างนี้มาก่อน แต่เพราะอยู่ใกล้กันมากจนเขาได้กลิ่น...กลิ่น... “คุณดื่มเหล้า?” “ม่ายยยย” รมิดาหัวเราะร่วนพยายามทร
แม้จะพักที่เดียวกัน แต่รมิดาไม่ได้ออกจากคอนโดพร้อมเจ้านาย แต่เช้านี้เธอได้รับข้อความที่ส่งมาทางไลน์ ‘รอที่ประตูทางออก’ หลังจากตื่นขึ้นมา รมิดาไม่แปลกใจที่ตัวเองสวมแค่ชุดชั้นใน ปกติเธอนอนคนเดียวบางคืนก็ใส่แค่บราเซียกับกางเกงขาสั้น นอนไม่เปิดแอร์เพราะอยากประหยัดค่าไฟ ถึงจะได้ฟรีค่าห้องแต่ค่าน้ำค่าไฟเธอจ่ายเองนี่นะ แรกทีเดียวเธอก็ไม่คิดอะไร ปวดหัวนิดหน่อยเพราะอาการเมาค้างแต่พอกินกาแฟดำก็บรรเทาได้มาก แต่ที่เธอตกใจก็คือกล่องขนมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างขวดเหล้าสาโท นี่มันกล่องขนมจากร้านคุณหัสดิน หรือคุณหัสดินเข้ามาห้องเธอ เจอสภาพเธอกลายเป็นขี้เมา แล้วปกติคุณหัสดินไม่เคยมาที่ห้องเธอเลย ตลอดเวลาทำงานมาเกือบห้าปี เวลาที่คุณหัสดินหิ้วขนมของกินมาให้ชิมจะเรียกเธอไปที่ห้องของหัสวีร์เสมอ แล้วยิ่งเห็นหมายเลขโทรเข้าที่เธอไม่ได้รับสายนี่อีก โอ๊ย! เธอทำอะไรรั่วๆใส่เจ้านายไปหรือเปล่านะ เสียงแตรรถทำให้หญิงสาวสะดุ้งโหยง รถเก๋งคันหรูจอดเทียบทางเดิน รมิดาสูดลมหายใจลึกแล้วใช้ความมั่นที่เวลานี้เหลือน้อยนิดเปิดประตูรถด้านหลัง “ข้างหน้าสิ! ผมไม่
‘ได้เดิมตามฝัน จะมีอะไรเป็นของตัวเอง ชอบอิสระ ไม่พึ่งพาใคร ไม่ง้อใคร รวยด้วยลำแข็ง เก่ง แกร่ง เสน่ห์แรง เกินต้าน สวยมากจนน่าขยี้ หาเงินเก่ง หาเงินดุ เงินคือสามีที่เรารักที่สุด...’หญิงสาวถึงกับสำลักเครื่องดื่มสีสวยที่กำลังยกขึ้นจิบ บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ใกล้หันมามองอย่างห่วงใย แต่เจ้าของมือเรียวโบกมือไปมาก่อนหยิบกระดาษทิชชู่มาซับมุมปากแล้วกวาดสายตาอ่านข้อความที่หน้าจอสมาร์ทโฟนของตนเอง“เงินคือสามีที่รักที่สุด” รมิดาพึมพำอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้งแล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะ มันเป็นหน้าแฟนเพจเวบดูดวงเพจหนึ่งที่เธอเลื่อนอ่านฆ่าเวลา แม้ไม่ใช่คนชอบดูดวงชะตาแต่ถ้าเจอก็อดอ่านไม่ได้ เธอเป็นสาวราศีมีน และหมอดูท่านนี้ก็ทำนายได้โดนใจเป็นที่สุดสำหรับรมิดาแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงิน หญิงสาวนึกขำเมื่อเห็นภาพใบหน้าตนเองฉีกยิ้มหวานแล้วพูดว่า ‘ภูมิใจที่ได้ทำงานที่บริษัทในเครือศาตนันท์กรุ๊ฟ’ ซึ่งความจริงแล้ว เพราะเงินเดือนที่สูงกว่าบริษัทอื่นรวมทั้งค่าล่วงเวลาทำให้เธอกัดฟันทำงานที่นี่ต่างหากต้องเรียกว่า ‘ฟาดฟันเพื่อให้ได้ทำงานที่นี่เลยต่างหากล่ะ’หญิงสาวในชุดเดรสสีดำเรียบง่ายยกแก้วเครื่องดื่มของตนขึ้น
มุมหนึ่งของห้องพักสุดหรูคือที่ออกกำลังกายของชายหนุ่มเจ้าของห้อง กระสอบทรายที่แขวนอยู่แกว่งไปมาตามแรงหมัดที่กระแทกใส่ เหงื่อเกาะพราวบนแผงอกกำยำมีรอยสักมังกรใหญ่ยักษ์ที่เวลานี้เปลือยเปล่าเห็นกล้ามท้องเป็นมัด จังหวะเต้นฟุตเวิร์คที่สอดคล้องกับจังหวะการหายใจ ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับผงกศีรษะยอมรับความสามารถของพี่ชายต่างมารดาคนนี้ “ใส่นวมแล้วมาต่อยกันสักหมัดสองหมัดสิ” “อย่ามาหลอกเลย” คนถูกชวนส่ายหน้าไปมา “หมัดสองหมัดมีที่ไหน” ชายหนุ่มซัดหมัดหนักๆ ออกไปอีกหมัดก่อนยุติการซ้อม เขายื่นมือไปรับผ้าขนหนูจาก น้องชายแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง “ออกกำลังกายให้เหงื่อมันออกเสียบ้างจะได้เลิกบ่นว่านอนไม่หลับเสียที” หัสวีร์พูดแล้วเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ “เอาแต่พึ่งยานอนหลับมันจะไม่ดีกับสุขภาพ” “เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้กินยานอนหลับแล้วล่ะ” หัสดินเดินไปหยิบน้ำแร่จากตู้เย็นแล้วเดินกลับมาหาพี่ชายคนละแม่ “ใครกล้ากวนใจพี่ชายผม หรือไม่ได้คุยกับคาเรน” หัสดินพูดพลางหัวเราะร่วน ถือขวดน้ำแร่แล้วเดินไปนั่งใกล้ๆ แม้เป็นพี่น้องต่างมารดา
รมิดาเห็นเจ้านายหันหลังเดินไปแล้วก็ลอบถอนหายใจเบาๆ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเขาเปลือยแผ่นอกแบบนี้ แต่เพราะต้องคอยระวังไม่ให้ปากตัวเองไวเท่าความคิด ท่านประธานเป็นคนจำพวกปากร้ายและร้ายไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเลยก็ว่าได้ เท่าที่ทำงานกันมา เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาด ไร้ความปรานี แรกทีเดียวเธอออกจะแปลกใจในเงือนไขต่างๆ ก่อนเซ็นสัญญาทำงาน แต่เมื่อทำงานด้วยกัน เธอจึงรู้ว่าเขาไม่มีแค่ธุรกิจของครอบครัวที่ดูแลอยู่ แต่มีธุรกิจสีเทาที่เป็นธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเธอเป็นเลขาส่วนตัวของเขาทำให้ต้อง ‘เก็บข้อมูล’ไว้เป็นความลับ จึงเป็นที่มาของเงินเดือนที่สูงกว่าอื่นๆ หากนับรวมกับเงินล่วงเวลาแล้ว เฉลี่ยต่อเดือนเธอได้เงินเดือนห้าหมื่นบาทเลยทีเดียว นี่แหละ เหตุผลที่เธอต้องเกาะงานที่นี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าต้องเจอเจ้านายปากร้ายแค่ไหนก็ตาม “มีมัฟฟินก็ต้องมีกาแฟ” หัสดินพูดขึ้นอย่างนึกได้ เดินไปที่เครื่องชงกาแฟแคปซูล “ของเรนนี่เอาลาเต้เหมือนเดิมนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” คงมีแค่เวลาแบบนี้ที่เธอไม่ต้องเอาอกเอาใจใคร หัสดินเป็นน้องชายหัสวีร์ อายุห่างกันสามปี และนิสัยตรงกันข้ามกันอย