Share

บทที่ 3

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-04-03 10:54:41
เป่าจูหยิบรายการสินเดิมมา "ในเวลาหนึ่งปีนี้ ท่านได้อุดหนุนเงินไปมากกว่าหกพันตำลึง แต่ร้านค้า บ้านพัก และสวนต่างไม่ได้แตะต้องเลย ใบรับรองเงินฝากของฮูหยิงที่เก็บไว้ในร้านฝากเงินตอนมีชีวิต และโฉนดบ้าน โฉนดที่ดิน ฯลฯ ทั้งหมดอยู่ในกล่องแถมได้ปิดไว้เรียบร้อย"

"อืม!" ซ่งซีซีดูรายการนั้น ท่านแม่ของนางให้สินเดิมก้อนโตแก่นางในเวลานั้น คงกลัวว่านางจะต้องทนทุกข์ในครอบครัวของสามี และนางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างรุนแรงขึ้นมา

เป่าจูถามอย่างเศร้าๆ จากด้านข้าง "คุณหนู เราจะไปที่ไหนได้บ้าง หรือว่าจะกลับจวนโหวเหรอ ไม่งั้นเรากลับภูเขาเหม่ยชานดีไหม"

สายตาของนางแวบภาพที่ทั้งจวนเต็มไปด้วยเลือดและศพอันน่าสลดใจของคนในครอบครัว นางรู้สึกเจ็บปวดใจทันที "ไปไหนก็ได้ ยังไงก็ดีกว่าอยู่ที่นี่"

"พอท่านไปแล้ว มันก็ให้พวกเขาได้สมหวังสินะ"

ซ่งซีซีพูดดรียบๆ "ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเขาได้สมหวังเถอะ หากข้าอยู่ต่อ ก็จะใช้ชีวิตอย่างทรมานเมื่อต้องเห็นพวกเขารักใคร่กัน เป่าจู ยามนี้ จวนโหวเหลือข้าเพียงคนเดียว ข้าต้องอยู่ดีกินดีเพื่อที่พ่อแม่และพี่ๆ ของข้าที่อยู่ในสวรรค์ได้หายห่วง"

"คุณหนู!" เป่าจูร้องไห้อย่างหนัก นางเป็นผู้รับใช้ที่เกิดมาในจวนโหว ตอนที่คนในจวนโหวถูกสังหาร ทุกคนจากไปในเหตุการณ์นั้น รวมถึงครอบครัวของนางด้วย

หากพวกนางออกจากจวนแม่ทัพ ยังสามารถกลับไปที่จวนโหวได้หรือไม่? แต่มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตในจวนโหว และทุกที่ก็ทำให้คนเรารู้สึกน่ากลัว

"คุณหนู ไม่มีทางอื่นอีกแล้วเหรอ?"

ซ่งซีซีหรี่ตาลง "มี ข้าจะไปที่ราชสำนักและใช้ผลงานของท่านพ่อและท่านพี่เพื่อบังคับฝ่าบาทให้ถอนหมั้น หากฝ่าบาทปฏิเสธ ข้าจะฆ่าตัวตายในวังทอง"

เป่าจูตกใจมากจนรีบคุกเข่าลง "คุณหนู ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดนะ"

ซ่งซีซีเลิกคิ้วอย่างเย็นชา แค่ยิ้มเบาๆ ว่า "คิดว่าคุณหนูของเจ้าโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้ว่าข้าจะไปถึงพระราชวังแล้ว ข้าก็จะขอเพียงให้ฝากบาทออกพระราชโองการให้เราหย่าโดยสันติเท่านั้น"

จ้านเป่ยว่างแต่งงานกับยี่ฝาง เป็นพระราชทานสมรส

งั้นที่นางหย่าโดยสันติ ก็ต้องออกพระราชโองการให้ด้วย ถึงจะไปก็ต้องไปอย่างมีหน้ามีตาด้วย แทนที่จะไปเงียบๆ เหมือนถูกไล่ออก

ทรัพย์สินของจวนโหวเจิ้นเป่ยที่เหลือไว้ เพียงพอที่ให้นางอยู่กินมีสุขแล้ว นางไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองทนทุกข์ด้วย

มีคนอยู่ข้างนอกตะโกนว่า "ฮูหยิง ฮูหยินผู้เฒ่าเชิญท่านไปหาหน่อยเจ้าค่ะ!"

เป่าจูพูดเบาๆ "เป็นแม่นางชุ่ยเอ๋อร์ที่รับใช้อยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่า เกรงว่าฮูหยินผู้เฒ่าอยากโน้มน้าวท่าน"

ซ่งซีซีจัดการสีหน้าก่อนลุดขึ้น "งั้นเราไปกันเถอะ"

พระอาทิตย์ตกส่องแสงอ่อนๆ และลมเย็นส่งเสียงกรอบแกรบ

จวนแม่ทัพคือจักรพรรดิองค์ก่อนมอบให้ท่านปู่ของจ้านเป่ยว่าง จวนแม่ทัพเคยเจริญแข็งแกร่งมาก ตอนยามนี้ก็ตกต่ำไปแล้ว

ลูกหลานเพศชายของตระกูลจ้านส่วนใหญ่รับหน้าที่ต่อสู้อยู่ในสนามรบ และคนที่เป็นขุนนางในราชสำนักมีน้อยมาก บอกกับจ้านจี้ พ่อของจ้านเป่ยว่างมีอาชีพเป็นขุนนางไม่ค่อยดีเท่าไร และอารองของเขา จ้านกังก็เป็นแค่ผู้ช่วยของผู้ว่าราชการเขตของเขตจิงจ้าวเท่านั้น มีแต่จ้านเป่ยว่าง และจ้านเป่ยชิง พี่ใหญ่ของเขาที่ถือว่ามีความสามารถในกองทัพ แต่ก่อนที่จะชนะสงครามครั้งนี้เขาเป็นเพียงแม่ทัพชั้นสี่เท่านั้น

บ้านใหญ่และบ้านรองไม่ได้แยกจากกัน และยังคงอาศัยอยู่ในจวนแม่ทัพด้วยกัน

เพราะหากแยกจากกัน ก็ต้องตกต่ำไปมากกว่านี้อีก

ซ่งซีซีนำเป่าจูมาหาฮูหยินผู้เฒ่า สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าดูดีขึ้นไม่น้อยจริงๆ นางพักอยู่บนเตียงพลางมองซ่งซีซีด้วยรอยยิ้ม "มาแล้วเหรอ!"

ในห้องนอนยังมีจ้านเป่ยชิง พี่ใหญ่ของจ้านเป่ยว่างและนางหมิน ภรรยาของเขา จ้านเส้าฮวน น้องสาวคนที่สามและพวกบุตรของอนุภรรยาก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย

นางลู่ ฮูหยินผู้เฒ่าริงจากบ้านรองก็นั่งข้างๆ แต่สีหน้าของนางดูเย็นชามา และดูเหมือนจะดูถูกเหยียดหยามมาก

"ท่านแม่ ท่านป้ารอง ท่านลุง พี่สะใภ้ใหญ่!" ซ่งซีซียังคงทักทายพวกเขาด้วยคำเรียกเดิม

"ซีซี มานี่!" ฮูหยินผู้เฒ่าให้นางนั่งข้างเตียง จับมือนางอย่างเอ็นดู แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า "ยามนี้เป่ยว่างกลับมาแล้ว เจ้าก็มีที่พึ่งแล้ว ตลอดทั้งปีนี้ให้เจ้าต้องลำบากไปจริงๆ แถมมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเจ้า และจวนโหวเจิ้นเป่ยก็เหลือเจ้าแค่คนเดียวแล้ว โชคดีที่ทุกอย่างผ่านไปแล้ว"

ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนหัวไวดีจริงๆ ย้ำสถานการณ์ของนางไปก่อนโดยบอกว่าที่บ้านเจ้าไม่เหลือใครแล้ว มีเจ้าคนเดียว ต่อไปเรื่องทุกอย่างก็ต้องพึ่งพาตระกูลจ้าน

ซ่งซีซีชักมือออกแล้วพูดอย่างใจเย็น "วันนี้ท่านแม่ได้เจอแม่ทัพยี่ฝางแล้วหรือ?"

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่คิดว่านางจะถามตรงขนาดนี้ รอยยิ้มของนางค้างอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า "เจอมาแล้ว เป็นคนมีนิสัยหยาบคาย และรูปร่างหน้าตาก็เทียบกับเจ้าไม่ได้เลย"

ซ่งซีซีมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า "แสดงว่าท่านแม่ไม่ชอบนางเลยใช่ไหม?"
Comments (24)
goodnovel comment avatar
Purni Wangsa
English please
goodnovel comment avatar
นางอภิ. พลอยวิเศษ
เปิดอ่านต่อยาก เรื่องเยอะจังไม่อ่านแล้ว
goodnovel comment avatar
นางอภิ. พลอยวิเศษ
เริ่มน่าติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 4

    ฮูหยินผู้เฒ่าฝืนยิ้ม "จะชอบหรือไม่ยังให้คำตอบไม่ได้ เพิ่งพบกันครั้งแรก แต่ในเมื่อฝ่าบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่กำหนดไว้แล้ว ต่อไปนางและเป่ยว่างร่วมือกันเพื่อสร้างผลงานในกองทัพ ส่วนเจ้าจัดการดูแลเรื่องฝ่ายในของจวนแม่ทัพ เพลิดเพลินกับความสำเร็จทางการทหารที่พวกเขาต่อสู้มา ช่างดีเหลือเกิน""ดีจริงๆ!" ซ่งซีซียิ้ม "แต่ให้แม่ทัพยี่เป็นแค่อนุภรรยาคงไม่เหมาะกับสถานะของนางสินะ"ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มแล้วกล่าวว่า "เจ้าเด็กโง่เอ๊ย นางจะเป็นแค่อนุภรรยาได้ยังไง ในเมื่อฝ่าพระบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว อีกอย่างนางยังเป็นผู้บัญชาการทหาร เป็นข้าราชการในราชสำนักด้วย ข้าราชการจะเป็นอนุภรรยาได้ยังไง เป็นภรรยาที่เท่าเทียมกัน ไม่มีใครเหนือกว่า"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ไม่มีใครเหนือกว่างั้นเหรอ ราชวงศ์ของเรามีกฎเช่นนี้หรือ"ฮูหยินผู้เฒ่าดูเย็นชาเล็กน้อย "ซีซี เจ้าเป็นคนมีเหตุผลเสมอ ในเมื่อเจ้าได้แต่งเข้าตระกูลจ้านแล้ว ควรตามกฏของตระกูลจ้านก่อน หลังจากได้รับตรวจสอบโดยกระทรวงกลาโหมแล้ว ยี่ฝางสร้างผลงานโดดเด่นกว่าเป่ยว่างในสงครามครั้งนี้ ต่อไปสองสามีภรรยาพวกเขามีใจเดียวกันกัน บวกกับมีเจ้าดูแลฝ่าย

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 5

    คนของตระกูลจ้านต่างมองหน้ากัน คิดไม่ถึงว่าซ่งซีซีมักจะที่อ่อนแอนั้น ยามนี้จะเด็ดขาดเช่นนี้ยิ่งกว่านั้นนางไม่ยอมเชื่อฟังท่านแม่ด้วยซ้ำฮูหยินผู้เฒ่าพูดอย่างเย็นชา "นางต้องยอมแน่นอน นางไม่มีทางเลือกอื่น"ใช่ไง บัดนี้นางไม่มีครอบครัวที่ให้พึ่งพา นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่ในตระกูลจ้าน ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลจ้านไม่ได้ปฏิบัติไม่ดีต่อนาง นางยังเป็นภรรยาเอกเช้าวันรุ่งขึ้น ซ่งซีซีนำเป่าจูกลับจวนโหวเจิ้นเป่ยภายในจวนก็รกร้าง ใบไม้ร่วงหล่นกองอยู่อย่างไรก็ตาม ไม่มีคนดูแลมาครึ่งปีแล้ว และลานบ้านของจวนโหวมีวัชพืชที่สูงพอๆ กับผู้ใหญ่ได้เมื่อเหยียบเข้าไปในจวนโหวอีกครั้ง ซ่งซีซีก็รู้สึกเจ็บใจจนเหมือนโดนมีดแทงใจเมื่อหกเดือนก่อน นางตกใจเมื่อได้ยินว่าครอบครัวของนางถูกสังหารไปหมด นางทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าศพของท่านย่าและท่านแม่ พวกนางหนาวมากจนไม่มีความอบอุ่นแม้แต่นิดเลย และทุกที่ของจวนก็เปื้อนไปด้วยเลือดหมดมีห้องโถงของบรรพบุรุษอยู่ในจวนโหว และป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษของตระกูลซ่งและท่านแม่ของนางล้วนอยู่ในห้องโถงของบรรพบุรุษนางและเป่าจูกำลังเตรียมเครื่องบูชา และน้ำตาของพวกนางก็ไม่เคยหยุด

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 6

    ซ่งซีซีคุกเข่าในห้องอ่านหนังสือของจักรวรรดิ ลดศีรษะลงพลางหรี่ตาลงจักรพรรดิ์ซูชิงจำได้ว่าทั้งครอบครัวจวนโหวเจิ้นเป่ยตอนนี้เหลือนางเพียงคนเดียวแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารขึ้นมา "ลุกขึ้นค่อยพูด!"ซ่งซีซีประสานมือแล้วกราบ "ฝ่าบาทเพค่ะ ที่หม่อมฉันมาขอพบในวันนี้ถือว่าทำตัวล่วงเกินไปจริงๆ แต่หม่อมฉันอยากขอเรื่องหนึ่งจากฝ่าบาทเพค่ะ"จักรพรรดิ์ซูชิงว่า "ซ่งซีซี ข้าได้ออกพระราชโองการแล้ว และไม่สามารถกลับคำได้"ซ่งซีซีส่ายหัวเบาๆ "หม่อมฉันขอร้องฝ่าบาทออกพระราชโองการให้หม่อมฉันกับแม่ทัพจ้านหย่าโดยสันติเพค่ะ"จักรพรรดิ์หนุ่มตกใจ "หย่า? เจ้าต้องการหย่าหรือ?"เดิมทีเขาคิดว่านางมาที่นี่เพื่อขอร้องให้เขาถอนพระราชโองการกาแต่งงาน แต่ไม่ได้คาดคิดว่านางมาขอออกพระราชโองการให้หย่าโดยสันติซ่งซีซีกลั้นน้ำตา "ฝ่าบาทเพค่ะ แม่ทัพจ้านและแม่ทัพยี่ใช้ผลงานการเอาชนะศึกเพื่อขอพระราชทานอภิเษกสมรส วันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของท่านพ่อและพี่ชายของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ต้องการใช้ผลงานทางทหารของพวกเขาเพื่อขอพระราชโองการให้หย่า หวังว่าฝ่าบาทจะทรงอนุญาตให้!"ดวงตาของจักรพรรดิ์ซูชิงมีความซับซ้อน "ซีซี เจ้ารู้ห

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 7

    หลังจากที่ซ่งซีซีจากไป อู๋ต้าปั้นก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วจากด้านนอกแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท ไทโฮ่วได้ส่งคนมาที่นี่ เพื่อตามหาฝ่าบาทหาเวลาไปพบพะย่ะค่ะ"จักรพรรดิ์ซูชิงถอนหายใจ "อาจเป็นเพราะเรื่องของซีซี ทำให้นางวิตกกังวลเข้าแล้ว ไปกันเลย"ดอกโบตั๋นในตำหนักโซ่วคังกำลังบานสะพรั่ง งดงาม มีกลิ่มหอมด้วยและดอกกุหลาบที่เลื้อยตามกำแพงตำหนักก็บานสะพรั่งอย่างสวยงามเช่นกันไทโฮ่วกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้หวงฮวาลีที่มีพนักพิงในห้องโถงใหญ่ สวมชุดคลุมสีม่วง และมีหยกขาวอยู่ในมวยของนาง ด้วยใบหน้าซีดเซียว"กระหม่อมคารวะเสด็จแม่พะย่ะค่ะ!" จักรพรรดิ์ซูชิงก้าวไปข้างหน้าและคารวะด้วยไทโฮ่วมองดูเขา ให้คนรับใช้ต่างๆ ออกไปแล้วถอนหายใจ "พระราชทานอภิเษกสมรสที่เจ้าออกให้นั้น ใช้ไม่ได้จริงๆ เจ้าทำแบบนี้ ทั้งผิดต่อท่านโหวซ่ง ยังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับผู้คนในใต้หล้าอีกด้วย"เสียงของไทโฮ่วค่อยๆ เข้มขึ้น "ในราชวงศ์ซางมีกฎหมายอยู่ ขุนนางในราชสำนักไม่ได้รับอนุญาตให้รับอนุภรรยาภายในห้าปีหลังจากแต่งงาน ห้าปีเป็นเวลาที่สั้นมากแล้ว ตามที่ข้าคิด เว้นแต่เกินอายุสี่สิบแต่ยังไม่มีบุตรถึงจะแต่งอนุภรรยาได้ ตอนนี้เจ้าออกพระราชทาน

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 8

    วันรุ่งขึ้น จ้านเป่ยว่างเข้าไปในพระราชวังตามคำสั่ง เดิมทีเขาคิดว่าพอเข้าไปในวังแล้วก็สามารถเจอกับฝ่าบาทได้ เพราะถึงยังไงตอนนี้เขาเป็นคนโดดเด่นในราชสำนักโดยไม่คาดคิด เขารออยู่นอกห้องหนังสือหลวงเป็นเวลาหนึ่งชั่วยามเต็ม ก่อนที่อู๋ต้าปั้นจะออกมาและพูดว่า "ท่านแม่ทัพจ้าน ฝ่าบาทกำลังยุ่งอยู่ เขาบอกว่าให้ท่านกลับก่อน เดี๋ยวจะค่อยเรียกท่านมาใหม่ในวันอื่นขอรับ"จ้านเป่ยว่างมีสีหน้าประหลาดใจ เขารออยู่นอกห้องหนังสือมานานขนาดนี้ ก็ไม่เห็นมีขารชาการคนใดเข้าออก แสดงว่าพระองค์ไม่ได้ทรงอภิปรายเรื่องการเมืองกับข้าราชบริพารเขาถามว่า "อู๋กงกง เดิมทีฝ่าบาททรงเรียกข้ามาเพื่ออะไรหรือ"อู๋ต้าปั้นพูดด้วยรอยยิ้ม "ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่รู้เรื่องนี้ขอรับ"จ้านเป่ยว่างรู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้าเข้าไปถามฝ่าบาทโดยตรง "รบกวนกงกงเตือนข้าสสัดหน่อยว่าใช่ข้าทำผิดอะไรหรือไม่?"อู๋ต้าปั้นยังคงยิ้มและกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพเพิ่งกลับมาอย่างมีชัย เป็นวีรบุรุษของบ้านเมือง จะมมีผิดที่ไหนกัน""แล้วฝ่าบาท..."อู๋ต้าปั้นโค้งคำนับและพูดว่า "ท่านแม่ทัพ โปรดกลับก่อนเถอะขอรับ"จ้านเป่ยว่างยังต้องการถามต่อ แต่อู๋ต้าปั้นไ

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 9

    จ้านเป่ยว่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังคงพูดอย่างเย็นชาว่า "นี่มันข้าขอด้วยความผลงานในการออกศึก หากพระองค์ถอนพระราชกฤษฎีกาของเขาจริงๆ มันจะทำให้ทหารผิดหวังแน่ๆ วันนี้พระองค์ทรงเรียกข้าไปพบ แต่ก็ไม่ยอมพบข้า อาจเป็นเพราะเจ้าฟ้องว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี ซ่งซีซี ข้าไม่ถือสาเจ้า แต่ข้าเมตตากับเจ้ามามากพอแล้วจริงๆ""ข้าหวังว่าเจ้าจะทำตัวดีๆ หยุดสร้างปัญหา หลังจากที่ข้าแต่งงานกับยี่ฝาง ข้าจะให้เจ้ามีลูกเป็นของตัวเองด้วย และเจ้าก็จะมีที่พึ่งพาในชีวิตที่เหลือ"ซ่งซีซีลดสายตาลง แล้วพูดเบาๆ "เป่าจู่ ส่งแขก!"เป่าจูยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ท่าแม่ทัพเชิญเจ้าคะ!"จ้านเป่ยว่างเดินจากไปอย่างไม่ลังเลก่อนที่ซ่งซีซีจะพูดอะไร น้ำตาของเป่าจูก็ไหลออกมาราวกับลูกปัดที่แตกสลายซ่งซีซีเดินเข้ามาเพื่อเกลี้ยกล่อมนาง "เป็นอะไรอีก?""ข้าน้อยรู้สึกน้อยใจแทนคุณหนู คุณหนูไม่รู้สึกน้อยใจหรือ?" เป่าจูถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "น้อยใจสิ แต่ร้องไห้จะแก้ไขปัญหาอะไรได้ล่ะ สู้คิดหาทางออกเพื่อให้เราสองคนมีชีวิตที่ดีจะดีซะกว่า ตระกูลซ่งจะมีคนอ่อนแอที่ไหนกัน"เป่าจูเช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้า และเบ

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 10

    หลังจากส่งหมอมหัศจรรย์ดันกลับไป ซ่งซีซีก็กลับไปที่เรือนเหวินซี ครึ่งชั่วยามต่อมา จ้านเป่ยว่างก็พายี่ฝางไปที่เรือนเหวินซีเพื่อตามหานางนางกำลังทำบัญชีของจวนเดือนนี้ในห้องหนังสือ เมื่อนางเห็นพวกเขาเข้ามา ดวงตาของนางก็จับจ้องไปที่มือที่ประสานกันของพวกเขากระถางธูปสีทองตัวเล็กๆ กำลังออกกลิ่มธูปหอมอยู่ กลิ่มนั้รทำให้คนสงบอารมณ์ได้ด้วย นางหายใจเข้าลึกๆ พูดให้ชัดเจนก็ดีหลังจากที่นางสั่งให้เป่าจูออกไป ก่อนพูดว่า "เชิญนั่งเลย!"ยี่ฝางเปลี่ยนกลับมาสวมเสื้อผ้าสตรีด้วยกระโปรงจีบสีแดงปักลายผีเสื้อสีทอง นางนั่งลง กระโปรงห้อยลงมา และผีเสื้อก็ดูนิ่งอยู่เช่นกันยี่ฝางไม่ถือว่าสวย แต่นางมีออร่ามาก"นางซ่ง!" นางเอ่ยปากก่อนและมองตรงไปที่ซ่งซีซี นางเคยอยู่ในกองทัพ และสังหารศัตรู นางคิดว่าความแข็งแกร่งของนางน่าจะทำให้ซ่งซีซีไม่กล้ามองตรงๆ อย่างไรก็ตาม ดวงตาของซ่งซีซีนั้นดูสดใส ไม่มีการหลบหนีแม้แต่น้อย นี่กลับทำให้นางประหลาดใจ"ท่านแม่ทัพมีอะไรก็พูดออกมาเถอะ!" ซ่งซีซีกล่าว"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยากพบข้า ข้าก็เลยมาที่นี่ ข้าแค่อยากถามเจ้าว่าเจ้าจะยินดีที่จะอยู่ร่วมกับฉันอย่างสันติหรือไม่" ยี่ฝางพูดอย่า

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 11

    แม้ว่ายี่ฝางจะรู้สึกขมขื่นใจเล็กน้อย แต่นางก็พูดว่า "ข้ามิใช่คนขี้อิจฉาขี้หึงอะไร และถ้าคิดเพื่อตัวเจ้าเอง หากเจ้ามีลูกของตัวเอง และต่อไปเจ้าก็จะมีคนที่ให้พึ่งพา ส่วนหลังจากเจ้าท้องเขาเขาจะร่วมหอกับเจ้าอีกหรือไม่ ข้าไม่อยากยุ่ง"ด้วยประโยคสุดท้าย เห็นได้ชัดว่านางโกรธแล้วจ้านเป่ยว่างรีบสัญญาอย่างว่า "ไม่ต้องห่วง ถ้านางท้อง ข้าจะไม่แตะต้องนางอีกเลย""ไม่จำเป็นต้องสัญญาหรอก ข้าไม่ได้เป็นคนใจแคบอย่างนั้น" ยี่ฝางหันหน้าออกไป ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจซ่งซีซีมองไปคนสองคนที่อยู่ตรงหน้านาง และรู้สึกว่าน่าเกลียดอย่างยิ่ง นางยืนขึ้นและมองไปที่ยี่ฝาง ก่อนพูดอย่างเคร่งขรึม "สตรีอยู่ในโลกนี้มันยากลำบากมากอยู่แล้ว ทำไมเจ้าต้องดูถูกสตรีอีก เจ้าเองก็เป็นสตรีนะ แล้วจะมาดูถูกสตรีเช่นนี้เพียงเพราะเจ้าฆ่าศัตรูในสนามรบไม่ได้นะ เจ้าคิดว่าข้า ซ่งซีซีจะอยู่รอดก็ต่อเมื่อพึ่งพาสายเลือดของตระกูลจ้านเท่านั้นเหรอ ชีวิตข้าไม่มีอะไรที่ข้าเองต้องไปทำ ไม่มีชีวิตที่ข้าต้องการอยู่ จะต้องเป็นตัวประกอบของพวกเจ้าเท่านั้น และมีชีวิตอย่างอับอายในหลังจวนที่นี่เหรอ พวกเจ้าคิดว่าข้าซ่งซีซีเป็นอะไรกัน?"ยี่ฝางอึ้งไ

    Last Updated : 2024-04-03

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1331

    เมื่อซ่งซีซีถามถึงการก่อสร้างแม่น้ำและการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในตอนนี้ โหวเซวียนผิงก็หยิบแผนผังออกมาอธิบายทีละจุด"ตอนนี้โครงการค่อนข้างใหญ่ แต่เดิมต้องการสร้างมานานแล้ว เพียงแต่ช่วงนั้นกำลังทำสงคราม เงินในคลังไม่เพียงพอ จึงทำได้เพียงขุดลอกตะกอนในแม่น้ำทุกปี แต่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราเริ่มสร้างอ่างเก็บน้ำที่เหมินป้ากั้ว และขุดแม่น้ำแยกสายใหม่ แม่น้ำในเมืองหลวงก็กำลังก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมและขุดลอกตะกอน คาดว่าปลายปีนี้จะเสร็จส่วนใหญ่"ซ่งซีซีฟังแล้วก็รู้ว่าโครงการใหญ่มาก จึงถามว่า "แล้วงานสร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างเขื่อน และขุดลอกแม่น้ำนั้นใช้คนแบบไหนบ้าง?"โหวเซวียนผิงคิดว่านางกังวลเรื่องเงินในคลังหลวงที่ใช้ไปมากเกินไปจนกระทบกับสงคราม จึงตอบว่า "ส่วนหนึ่งเป็นแรงงานบังคับ อีกส่วนเป็นคนงานที่จ้างมา รวมทั้งหมดราวสองหมื่นคน ค่าอาหารในแต่ละวันก็ใช้งบไม่น้อย จึงลดค่าจ้างสำหรับแรงงาน แต่โชคดีที่มีแรงงานบังคับกว่าหมื่นคนที่ต้องการเพียงอาหาร ไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง"ซ่งซีซีถามว่า "แล้วผู้ดูแลโครงการแม่น้ำนี้คือใต้เท้าท่านใด?""จินชางหมิง แห่งกรมการชลประทาน" โหวเซวียนผิงตอบ"เขามาจากที่ใ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1330

    เสิ่นว่านจือฟุบหน้าลงบนโต๊ะของซ่งซีซี "จดหมายฉบับนี้เจ้าไม่ได้อ่านไปหลายรอบแล้วหรือ? ยังอ่านอีกหรือ? เสียดายขนาดนั้นเลย?"ซ่งซีซีตอบ "ก่อนเขาจะออกเดินทาง เขาพูดถึงหนิงจวิ้นอ๋อง แต่ข้าคิดว่าเขาคงยังไม่เข้าใจบางจุด เขาเป็นคนที่ยิ่งสถานการณ์ตึงเครียด สมองยิ่งแล่น ข้าคิดว่าเร็วๆ นี้เขาอาจคิดอะไรออกและให้คำใบ้แก่ข้า""ทำไมต้องให้คำใบ้? เขาเขียนลงในจดหมายตรงๆ ไม่ได้หรือ?" เสิ่นว่านจือถามซ่งซีซีตอบ "จดหมายฉบับนี้ถูกส่งไปที่ฮ่องเต้ก่อน แล้วจึงถูกส่งต่อมาที่ข้า หากเป็นแค่การคาดเดาหรือวิเคราะห์ของเขาเอง เขาจะไม่เขียนลงในจดหมาย จดหมายนี้ ฮ่องเต้ได้เปิดอ่านแล้ว"เสิ่นว่านจือทำหน้ารังเกียจ "ยังแอบอ่านจดหมายของคนอื่นอีกหรือ? แย่จริงๆ แต่ว่า ทำไมเขาไม่ส่งตรงมาที่เจ้าล่ะ?""เพราะการส่งผ่านทางเร่งด่วนมันรวดเร็วกว่ามาก" ซ่งซีซีตอบ "และหากส่งจดหมายแยกต่างหาก แต่โดนสกัดไว้กลางทาง ข้อความในจดหมายที่เป็นเพียงการคาดเดาอาจถูกตีความว่าเป็นการกล่าวหาและถูกเมื่อพูดจบ นางมองทั้งสามคน "พวกเจ้าค้นพบอะไรหรือไม่?"เสิ่นว่านจือเล่าคร่าวๆ รวมถึงการวิเคราะห์ว่าอ๋องฮุยจงใจให้พวกเขาได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในคืนน

DMCA.com Protection Status