แชร์

Chapter 14. นางถูกจุมพิต!

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 08:28:42

          มือเล็กพยายามดันอีกฝ่ายเต็มแรงแต่ไม่ทำให้บุรุษตรงหน้าขยับตัวเลยสักนิด เขาใช้ร่างของตนกักขังนางไว้อย่างแนบชิด เพราะนางเผยอริมฝีปากอยู่ก่อนแล้วทำให้เขาแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากได้ง่ายดาย ปลายลิ้นแตะถูกลิ้นน้อยๆ ร่างเล็กเริ่มดิ้นรน ลมหายใจถูกปิดกั้นจนแทบหมดสติ ดวงตาคมที่จ้องมองมีแววรื่นรมย์ ยอมถอนริมฝีปากให้หญิงสาวได้สูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่

          “เท่าไร?”

          “!” หญิงสาวยังมึนงงจึงได้แต่กะพริบตาจ้องมองใบหน้าของชายแปลกหน้า ทรวงอกของนางสะท้อนขึ้นลงรุนแรงเพราะแรงหอบหายใจทำให้บดเบียดแผงอกที่เบียดชิดนางอยู่

          “ค่าตัวเจ้าเท่าไร”

          คำถามซ้ำอีกครั้งของเขาทำให้ซิ่นฮวาได้สติ หญิงสาวขึงตาใส่ด้วยความโกรธและโมโห ทำให้พวงแก้มแดงจัดขึ้นไปกว่าเมื่อครู่

          เขาถามค่าตัวนาง! ชายผู้นี้เห็นนางเป็นหญิงคณิกา!

          “ข้าไม่ใช่หญิงคณิกา!”

          นางเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจะได้ขึงตาใส่อย่างดุดัน หวังข่มขวัญให้เขากลัว ทว่านางกลับเห็นใบหน้าเคร่งเครียดแต่แววตามีรอยยิ้มของเขา นางกลับรู้สึกว่า

ตัวเองพลาดอีกแล้ว นางผงะถอยหลังและกลอกตาหาช่องทางหลบหนี หญิงสาวรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของชายหนุ่ม เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ มือเล็กที่ทุบไปที่แผงอกไม่อาจทำให้เขาสะเทือนได้เลย นางจึงยกมือขึ้นปิดปากของเขาแทน

          เมื่อรู้ว่านางไม่ใช่คนของหอนางโลมยังคิดลวนลามนางอีก คิดแล้วทั้งโกรธทั้งโมโหจนขาดสติ คิดได้ว่าตนเองมีถุงหอมที่ใช้ป้องกันตนได้จึงลดมือลงหมายจะล้วงมือไปหยิบ ทว่ากลับถูกมือใหญ่จับข้อมือไว้ได้ก่อน หญิงสาวร่างกายแข็งค้างไปทั้งร่าง ร่างทั้งร่างถูกเขานาบตัวประกบแนบชิดจนไม่อาจขยับได้ นางเผชิญหน้ากับบุรุษใบหน้าเคร่งขรึม ทว่าแววตาที่จ้องมองหยอกเย้าที่คล้ายจะกลายเป็นเปลวเพลิงได้ในคราวเดียว

          “ซิ่นฮวา! คุณหนู! คุณหนูซิ่นฮวา!”

          เสียงคุ้นเคยทำให้ซิ่นฮวาได้สติ นางเบี่ยงหน้าหลบใบหน้าของชายหนุ่ม ส่งเสียงขานรับออกไปทันที

          “พี่จ้าวต้า!”

          หญิงสาวดิ้นรนสุดแรง มือแกร่งยอมปล่อยนางโดยง่ายและร่างใหญ่โตถอยห่างออกไป ซิ่นฮวาไม่สนใจว่าทำไมชายผู้นี้ยอมปล่อยนางง่ายดายนัก แต่นางรีบผลักเขาออกแล้วก้าวเท้าออกจากห้องนี้ไปอย่างรวดเร็วไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนนิ่งงันในห้อง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

          จ้าวต้าได้ยินเสียงขานรับ หันขวับไปตามเสียงที่ได้ยิน ร่างเล็กโผล่ออกมาจากหลังบานประตู เส้นผมปล่อยยาวสยาย แต่เสื้อผ้ายังอยู่ครบดี

          “ท่านหญิง” ยามนี้ต่อให้เสื้อผ้าที่สวมเป็นชุดบุรุษ แต่ปล่อยผมยาวเช่นนี้ ถ้าไม่ตาบอดย่อมดูออกว่านางเป็นสตรี “เป็นอะไรหรือไม่”

          ซิ่นฮวาไม่กล้าพูดว่าตนเองเจออะไรมา แน่นอนว่านอกจากถูกตรวจสอบและนางต้องถูกลงโทษ ครั้งนี้อาจเป็นโทษหนักเกินกว่าจะรับไหวเป็นแน่ ซิ่นหลิง กันอี๋ ซาโม่ก็จะถูกลงโทษไปด้วย

          “ไม่มีอะไร” นางยืนยัน “ทำไมพี่จ้าวต้ามาอยู่ที่นี่”

          “บ่าวเห็นคุณหนูเข้ามากับกันอี๋ จึงตามเข้ามา” จ้าวต้าถอนหายใจแล้วใช้ปิ่นของตนรวบผมให้หญิงสาวอย่างรวดเร็วรีบจูงมือลงมา กันอี๋เห็นจ้าวต้าก็ตกใจนัก ไม่คิดว่าจะพบ ‘พ่อบ้าน’ ที่นี่

          “ข้าจะกลับพร้อมพี่จ้าวต้า เจ้าบอกซิ่นหลิงด้วย”

          จ้าวต้าจับไหล่หญิงสาวกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจากหอนางโลมแล้วแทบจะยัดนางใส่รถม้าทันที หญิงสาวไม่พูดอะไรได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ทำให้พ่อบ้านจ้าวต้าเข้าใจไปว่าหญิงสาวกำลังสำนึกผิดที่ถูกเขาจับได้ หากเรื่องนี้ได้ถึงหูของพระชายาคงได้วุ่นวายเป็นแน่ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่พูดอะไร เขาจึงได้แต่อบรมสั่งสอนอย่างที่เคยทำมาตลอดตั้งแต่นางลืมตามาเป็นซิ่นฮวา

          ซิ่นฮวาไม่ได้ฟังเสียงพร่ำบ่นของจ้าวต้าเลยสักนิด ไม่คิดโต้เถียงเช่นทุกครั้ง เอาเถิด ครั้งนี้เพราะพี่จ้าวต้ามาตามหานาง ทำให้นางหลุดรอดจากบุรุษแปลกหน้าผู้นั้น นางมองฝ่ามือที่ยังชื้นเหงื่อ ทั้งที่บิดาเคยพร่ำสอนหากถูกบุรุษรังแกต้องป้องกันตนเองอย่างไร แม้กระทั่งถุงหอมที่ใส่ยาสลบไว้นั้น ทว่านางตื่นตระหนกไร้สติที่จะนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ป้องกันตัว

          นางช่าง...โง่นัก!

          ที่รู้สึกโง่กว่า คือนางไม่นึกถึงชายที่นางเคยเรียกชื่อเขายามตัวเองต้องการความช่วยเหลือ! ยามที่ริมฝีปากของตนถูกบดขยี้นั้น นางไม่ได้คิดถึงชายที่นางรักเลยสักนิด

          ครั้งนี้นางรู้สึกผิดต่อเทพมังกรดินจริงๆ...

….

          นั่นไม่ใช่จุมพิตแรกของนาง!

          นั่น-ไม่-ใช่-จุมพิต-แรก-ของ-นาง!

          ปลายนิ้ววางบนเส้นสายของกู่เจิง กรีดนิ้วบรรเลงเสียงเพลงแหววหวาน ทว่าหญิงสาวที่มีกู่เจิงอยู่เบื้องหน้ากลับมีสีหน้าขุ่นมัว อาภรณ์ของนางเป็นสีขาวดุจไข่มุกปักลายดอกไม้เล็กๆ งดงามราวกับหยิบดอกไม้มาประดับบนผ้า นกน้อยบินวนเวียนร่าเริงเช่นเดียวกับมวลหมู่ผีเสื้อที่โบยบินใกล้ลายปักดอกไม้บนอาภรณ์ของนาง

          จุมพิตแรกของนางมอบให้บุรุษผู้นั้น ในวันที่นางอายุสิบหก

          ปีที่นางอายุสิบห้า ผ่านพิธีปักปิ่นเรียบร้อยแล้ว นางขอเป็นเจ้าสาวของเทพมังกรดิน เขาไม่ได้ปฏิเสธนาง อย่างน้อยนางก็คิดเช่นนั้น แต่มีเหตุผลสารพัดที่สรุปได้ว่านางและเขาไม่อาจครองรักกันได้ ในปีที่นางอายุสิบหก นางเอ่ยนามของเทพมังกรดิน เขามาปรากฏกายเบื้องหน้า ใบหน้าของเขาคล้ายยิ้มและไม่ยิ้มเช่นทุกครา

          ‘ชื่อข้ามิใช่นามที่จะเอ่ยได้พร่ำเพรื่อ’

          ‘ข้าทราบแล้ว’

          หญิงสาวหัวเราะคิกคัก แม้สีหน้าเขาไม่พอใจแต่เขามาปรากฏกายทุกครั้งที่นางเรียกขาน ตั้งแต่นางห้าขวบจนถึงเวลานี้ ปีที่แล้วเขาไม่รับคำขอร้องที่นางขอเป็นเจ้าสาวของเขา แม้ไม่ได้เอ่ยวาจาพูดเรื่องนี้อีก แต่นางไม่เคยยอมแพ้

          ‘ข้าจะขอของขวัญวันเกิดจากท่าน’

          ได้ยินแค่นั้น แม้ใบหน้าเรียบนิ่งแต่หัวคิ้วขมวดมุ่น ‘เจ้าเป็นบุตรีคนโปรดของชินอ๋องเฟยเทียน มีอะไรที่บิดาเจ้าให้ไม่ได้รึ’

          ใบหน้าหวานระบายยิ้มจนดวงตาเป็นประกาย ทำให้บุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวงต้องเบือนหน้าไปทางอื่น

          ‘ท่านยืนนิ่งๆ นะ อ้อ! หลับตาด้วย’

          ดวงตาดุจหมอกฝนในเดือนสามของเขาจ้องมองเด็กสาวที่ยิ้มกว้าง นางช่างกล้าเอ่ยปากสั่งเขา ไม่รู้นางมีเวทมนตร์อันใดทำให้เขาไม่อาจขัดใจนางได้สักครา ยอมยืนนิ่งและขึงตาข่มขวัญนางไปครั้งหนึ่งก่อนจำใจยอมปิดเปลือกตาลง

          ร่างเล็กเดินไปหยิบเก้าอี้ตัวเตี้ยที่เตรียมไว้ วางไว้เบื้องหน้าเขาอย่างเบามือ เห็นหัวคิ้วของเขากระตุกเล็กน้อยแต่ยังปิดเปลือกตาอยู่ นางสูดลมหายใจลึก ยกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเองก่อนก้าวเท้าขึ้นเก้าอี้ ทำให้ความสูงของนางเสมอเท่ากับเขา ดวงตากลมจ้องมองริมฝีปากที่พร่ำบ่นนางเสมอทุกครั้งที่นางเอ่ยขานนามของเขา ทว่าเขาไม่เคยขัดใจนางสักครั้ง หากมีเพียงแต่ดวงตาคู่นั้นที่ฉาบด้วยหมอกบางๆ ดูเหงาเศร้าและโดดเดี่ยว นั่นเป็นสาเหตุที่นางหาเรื่องสารพัดเพียงเรียกเขามาปรากฏกาย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 15.รวดเร็วดุจดวงดาวกะพริบแสง

    ปีที่นางอายุสิบห้า นางอาจหาญขอเป็นเจ้าสาวของเขา ปีนี้นางอายุสิบหกขอจุมพิตแรกและปรารถนาจะให้เขาเป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้น ทั้งที่ตั้งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่ กระนั้นนางก็อดประหม่าและเขินอายไม่ได้ แม้ดวงตาของเขาจะปิดสนิทแต่เมื่อเห็นเขาใกล้ถึงเพียงนี้ ขนตางามงอน หลังเปลือกตาคือดวงตาที่กลิ้งไปมาคล้ายระแวงระวัง นางยื่นปากของตนเข้าไปใกล้ ทว่าความตื่นเต้นทำให้นางประหม่าเอนตัวเข้าหาร่างสูงมากเกินไปจนกลายเป็นล้มเข้าใส่เขาเต็มแรง ริมฝีปากนุ่มสัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ รวดเร็วดุจดวงดาวกะพริบแสง หญิงสาวเบิกตาโตอย่างตกใจ เช่นเดียวกับดวงตาสีเทาหม่นที่เบิกกว้างจ้องมองการกระทำของนาง สิ่งที่คาดหวัง ไม่ใช่เช่นนี้ มือใหญ่ยื่นมาจับสองไหล่ของหญิงสาวยันร่างนางออกเบาๆ ซิ่นฮวาได้แต่กะพริบตาปริบๆ งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นเพียงเขาหรี่ตามองอย่างดุดันทำให้ใบหน้าของนางเห่อร้อนขึ้นมาทันที “เจ้าทำอะไร?” “ก็...” ถูกจับได้เช่นนี้ปฏิเสธก็ไม่ทันเสียแล้ว นางจึงยืดอกอย่างสง่าเผยทั้งที่พวงแก้มแดงจัดลามเลียลงลำคอของนางไปแล้ว “จูบไง”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 16. กลบเกลื่อนเรื่องที่ทำให้ว้าวุ่นใจ

    “ข้าย่อมเห็นความสงบของบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ” นางเชิดปลายคางขึ้น กลบเกลื่อนเรื่องที่ทำให้ว้าวุ่นใจไปเสีย ซิ่นหลิงจ้องมองใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกันเบื้องหน้าแล้วคลี่ยิ้มออกมา “ดี!” ภายนอกร่ำลือกันไปว่า ท่านหญิงซิ่นฮวาเป็นบุตรีที่รักของชินอ๋องเฟยเทียนนางจึงเอาแต่ใจตนเองเป็นที่หนึ่ง สิ่งใดไม่ถูกใจก็ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นหญิงสาวที่ครอบครองความงามและความร้ายกาจในคนเดียว ซิ่นฮวาปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปเช่นนั้น เพราะนางไม่ต้องการให้ผู้ใดส่งแม่สื่อมาเยือนประตูตำหนักอ๋อง เรื่องนี้ ซิ่นหลิงย่อมรู้ดี ยอมให้ผู้อื่นเข้าใจผิดด้วยเรื่องเช่นนี้ ซิ่นหลิงได้แต่ส่ายหน้าไปมา “เจ้าสบายใจได้แล้วสินะ” ซาโม่ที่ฟังอยู่เงียบๆ เอ่ยขึ้นมา แล้วยกมือยืดแขนตัวเองราวกับเมื่อยขบมานาน “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ข้าอยากกินขนมอร่อยๆ แล้วสิ” ซิ่นฮวาหัวเราะคิกคัก ยามใดที่นางส่งเสียงหัวเราะ ราวกับดอกไม้ก็ร่วมใจกันผลิบานรับเสียงกังวานใสของนาง หญิงสาวที่เติบโตท่ามกลางความรักและเอาใจใส่จากคนรอบข้าง ไม่เคยมีเรื่องใดมารบกวนจิตใจ ดวงตาฉ่ำหวานคู่นั้นไม่เคยหลั่งน้ำตาเพราะความเศร้าโศก ซึ่ง...

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 17. เอาแต่ใจ

    แม้นางซุกซนและเอาแต่ใจ แต่นางก็เป็นคนรู้กาลเทศะอย่างดียิ่ง นางเดินกลับมาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มออก เป็นอาภรณ์สีชมพูงดงามดุจดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ มีจื่อเหยี่ยนช่วยแต่งทรงผมให้นาง “แขกที่ท่านแม่พูดถึงเป็นผู้ใดกัน” “ไม่ทราบเจ้าค่ะ” “น้าจื่อเหยี่ยนพูดกับข้าธรรมดามิได้หรือ? ที่นี่ก็ไม่มีใครเสียหน่อย” หญิงสาวเบ้ปาก “อย่างไรน้าจื่อเหยี่ยนก็เป็นมารดาของกันอี๋ ข้านับถือเขาเป็นสหาย” จื่อเหยี่ยนหัวเราะน้อยๆ นางรู้ว่าท่านหญิงน้อยของนางมิใคร่ชอบแต่งกายมากด้วยเครื่องประดับ จึงปักปิ่นดอกไม้ ต่างหูมุก และกำไลหยกให้เพียงแค่นั้น นางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการให้ ‘แขก’ รอนาน จื่อเหยี่ยนพาหญิงสาวมาที่ห้องรับรอง เมื่อเดินเข้ามานางเห็นซิ่นหลิงอยู่พร้อมกับบิดามารดาแล้ว แม้ไม่เห็นเงาซิ่นสือน้องชายคนเล็ก แต่รู้ว่าต้องแอบซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นแน่ “ขออภัยที่ให้รอเจ้าค่ะ” ซิ่นฮวาเอ่ยขึ้นและมองผู้ที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพียงนางเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน ดวงตากลมจ้องเขม็งไปยังชายผู้นั้น เวลานี้เขาสวมอาภรณ์งามสง่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 18. อยากดูอะไรก็ดูสิ

    ซิ่นฮวาเดินมาเพียงลำพัง นางสั่งห้ามมิให้หญิงรับใช้ติดตามมา แม้แต่น้าจื่อเหยี่ยนก็ตาม ด้วยนิสัยเอาแต่ใจของนางทำให้ไม่มีใครกล้าขัด แม้รู้ว่าไม่เหมาะสมที่จะให้ท่านหญิงน้อยอยู่กับบุรุษแปลกหน้าตามลำพัง หญิงรับใช้จึงได้แต่ยืนรออยู่ห่างๆ “อยากดูอะไรก็ดูสิ!” นางกระแทกเสียงพูดอย่างสนใจว่าคนฟังจะคิดอย่างไร “สวนกระจ่างใจนี้เป็นที่โปรดปรานของท่านแม่มาก ท่านลงมือปลูกต้นไม้ดอกไม้ด้วยตนเอง” ซ่งเหว่ยหนานอมยิ้มเมื่อไม่มีผู้อื่นแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทมากนัก ชายหนุ่มยกมือกอดอกแล้วโน้มหน้าลงจ้องมองใบหน้างดงามใกล้ๆ ซิ่นฮวาตกใจกับการกระทำของเขา เผลอก้าวเท้าถอยหนีอย่าลืมตัว ทำให้ซ่งเหว่ยหนานหัวเราะในลำคอ “เจ้า!” “ท่านหญิงพูดเองว่า ‘อยากดูอะไรก็ดู’ ข้าอยากดูใบหน้าของท่านหญิงให้ชัดๆ ว่าใช่สตรีที่สวมอาภรณ์บุรุษที่ข้าพบที่หอนางโลมหรือไม่” ซิ่นฮวาถลึงตาใส่ กระนั้นใบหน้างามแดงระเรื่อด้วยความโกรธ ใครเลยจะคิดว่าชายที่ปล้นจุมพิตและทำหยาบคายกับนางเป็นคนเดียวกับชายหนุ่มตรงหน้านี้ได้ “เจ้าจำข้าได้แต่ที่ข้าก้าวเท้าเข้าไปแล้วกระมัง” นางใช้โทส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 19. ของขวัญ

    “ดูภายนอกเป็นแค่กำไลธรรมดา แต่ข้าทำให้มีกลไลซ่อนเข็มพิษได้เพียงแค่ขยับตรงนี้” พูดพลางชี้ให้ดูว่าต้องหมุนอย่างไร “แน่ใจว่าข้าจะปลอดภัยที่ใช้สิ่งนี้” ซิ่นหลิงอดหยอกน้องชายไม่ได้ ซิ่นสือชอบประดิษฐ์กลไลต่างๆ สำหรับคนฝึกยุทธเช่นเขาสิ่งนี้อาจไม่จำเป็นนัก แต่สำหรับซิ่นฮวาที่ไร้วรยุทธนับว่าเป็นประโยชน์ยิ่ง “ย่อมใช้ได้แน่นอนและปลอดภัย” ซิ่นสือยืดตัวขึ้นตบหน้าอกตนเองหนักแน่น แม้เขาอายุเพียงสิบสี่แต่ก็เผยความสง่าผ่าเผย ซิ่นสือเริ่มฝึกยุทธช้ากว่าเขาซิ่นหลิงมากนัก แต่ภายใต้ท่าทีรักสนุกไม่สนใจเรื่องภายนอก เขากลับซ่อนความสามารถของตนได้มิดชิด มีเพียงซิ่นหลิง ซิ่นฮวาและบิดามารดาเท่านั้นที่ล่วงรู้ “ขอบใจเจ้ามาก” ซิ่นฮวากลั้นหัวเราะ หากยามนี้ไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยง นางคงใช้นิ้วดีดหน้าผากเกลี้ยงเกลาของน้องชายไปแล้ว ซิ่นสือส่งยิ้มทะเล้นให้พี่ทั้งสอง หางตารับรู้ว่ามีคนเข้ามาใกล้จึงเก็บอาการทะเล้นของตนเองแล้วถอยออกมาอย่างรู้มารยาท ซ่งเหว่ยหนานก้าวเข้ามาพร้อมผู้ติดตามที่ประคองกล่องของขวัญตามอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มประสานมือคารวะเจ้าของงานวันเกิดทั้งสอง แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 20. ข้าได้ยินเสียงเจ้า

    สวมรองเท้าเรียบร้อยแล้ว นางฉวยผ้าคลุมไหล่มาคลุมไหล่ของตนเอง เท้าเล็กๆ ก้าวไปที่หน้าต่าง ห้องนอนของนางอยู่ชั้นสอง มีระเบียงยื่นไปหาแสงจันทร์ในยามค่ำ นางจำรูปทรงห้องนอนลักษณะนี้มาจากสถานที่หนึ่งแล้ววาดออกมาให้บิดาช่วยหาช่างสร้างให้ “ห้องนอนที่มีระเบียง” มันดูไม่ปลอดภัยในสายตาของบิดาผู้รักและห่วงลูกสาว แต่เพราะรักและตามใจจึงสร้างได้อย่างที่นางต้องการ ใครว่านางไม่เคยออกจากตุนหวง! นางอาจจะเคยไปในสถานที่ที่ไม่ผู้อื่นรู้จักมาแล้วก็เป็นได้! ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้ม นางผลักบานประตูที่จะทะลุออกไปที่ระเบียงกว้าง ยังไม่ทันเอ่ยปากขานนามของเทพมังกรดิน บุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวงในอาภรณ์สีขาวราวก้อนเมฆก็ยืนอยู่ใต้แสงจันทร์แล้ว ดวงตาเปลี่ยวเหงาดุจมีม่านหมอกจางๆ ปรายตามองมาทางนาง “ไยท่านมาก่อนที่ข้าจะเรียกขาน” นางกระชับผ้าคลุมไหล่แต่ความจริงนางอยากใช้มือกดหัวใจไม่ให้เต้นแรงเกินไป ม่านหมอกในดวงตาคู่นั้นจางหายเพราะเสียงหวานใสของหญิงสาว ฮวงหลงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อนจาง ยามนี้นางสวมชุดนอนตัวยาว เส้นผมดำขลับปล่อยยาวสลายก้าวเดินอย่างเชื่องช้าและห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 21. เดินทาง

    เดิมทีคิดว่ามารดาให้จื่อเหยี่ยนติดตามนางไปด้วย ทว่ามารดามองว่า จื่อเหยี่ยนตามอกตามใจซิ่นฮวามากเกินไป ยิ่งอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเกรงบุตรสาวคนเดียวจะซุกซนเกินเหตุจึงให้ปี้เอ๋อร์-หญิงรับใช้รุ่นใหญ่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับจื่อเหยี่ยนติดตามนาง ซิ่นฮวาเรียกปี้เอ๋อร์ว่า ‘น้าปี้เอ๋อร์’ มารดาเคยเล่าให้นางฟังบ่อยครั้งว่า ปี้เอ๋อร์คอยช่วยเหลือยามที่มารดายากลำบากดวงตาได้รับบาดเจ็บจนมองไม่เห็นชั่วคราว หลังจากปัญหาคลี่คลายแล้วจึงรับนางมาเป็นนางกำนัลคนสนิท ซิ่นฮวาในอาภรณ์สีเขียวอ่อนดุจใบไม้ผลิใบยื่นหน้าออกมาจากรถม้าหลัง ขบวนเดินทางออกมาพ้นเขตตุนหวงแล้ว และซ่งเหว่ยหนานสั่งให้ขบวนหยุดพักพอดี กันอี๋บังคับม้าให้ก้าวมาทางหน้าต่างรถม้าแล้วโน้มตัวลงแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านหญิง ขบวนของเราจะพักสักครู่ขอรับ” “อืม” หญิงสาวพยักหน้ารับ มุดหน้ากลับเข้าไป ครู่ต่อมาเตรียมลงจากรถม้า ทว่ามือข้างหนึ่งก็ยื่นมาเบื้องหน้า ซิ่นฮวาวางมือของตนลงไปอย่างเคยชินด้วยเข้าใจไปว่าเป็นมือของกันอี๋ แต่แรงบีบกระชับนั้นทำให้นางเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือข้างนั้น ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ทำให้นางชักมือกลับแต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10
  • ลมหายใจมังกร   Chapter 22. รับมือ

    หัวคิ้วกระตุกเล็กน้อย ด้วยมิเคยถูกใครตะคอกใส่เช่นนี้ เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องมาพบสตรีร้ายกาจอาละวาดเอาแต่ใจ ทว่าไม่คิดว่าจะเห็นนางตวาดเขา แต่ใบหน้านั้นมีแต่ความเขินอาย แต่ยังแสดงท่าทีโกรธขึงซึ่งไม่ได้ทำให้เขาเกรงกลัวเลยสักนิด เขาจึงไว้หน้านางด้วยการไม่โต้เถียงแต่เบือนหน้าไปหัวเราะทางอื่นแทน ‘มารดาของข้าสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ท่านหมอเตือนมิให้มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ เจ้าห้ามเอาเรื่องไร้สาระเช่นนี้ไปเอ่ยให้มารดาของข้าได้ยินเด็ดขาด!’ ในเมื่อนางถูกเปิดโปงแล้ว ก็จำใจยืดอกอย่างผ่าเผย ทั้งเรื่องที่นางแอบย่องเข้าหอนางโลมและที่คนผู้นี้ขโมยจุมพิตนาง หากเป็นสตรีอื่นคงเรียกร้องให้บุรุษรับผิดชอบ แต่นางยืนกรานมิให้เขาปริปากพูดเรื่องนี้เด็ดขาด! เรื่องนี้ทำให้บุรุษอย่างซ่งเหว่ยหนานประหลาดใจนัก ‘หญิงงาม’ คือสิ่งอันตรายอันดับต้นๆ ของบุรุษ แต่สำหรับซ่งเหว่ยหนานแล้ว เขากลับมองว่าซิ่นฮวามิได้อันตรายอย่างที่คิด นางเหมือนม้าป่าที่รอการถูกปราบพยศ เดิมทีถูกส่งตัวมาให้ ‘ขอร้อง’ หญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเอาแต่ใจตนเองเป็นที่หนึ่ง เขาหงุดหงิดหัวเสียปฏิเสธหน้าที่นี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10

บทล่าสุด

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 75.   เจ้าพูดไม่ได้

    “เจ้าพูดว่าอะไรนะ” ซิ่นฮวายกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากของตนเอง พยายามบอกเขาว่านางไม่มีเสียง คนที่เข้าใจคนแรกกลับเป็นซาโม่ “เจ้าพูดไม่ได้?” ซิ่นฮวาส่ายหน้าแล้วหัวเราะน้อยๆ เอ่ยปากช้าๆ ‘ข้า-ไม่-มี-เสียง-เจ้า-ต้อง-อ่าน-ปาก-ข้า’ ซาโม่พยักหน้าหงึกหงักแล้วหันมาทางซิ่นหลิงหมายใจจะอธิบายแต่อีกฝ่ายชิงยกมือห้ามไว้ก่อน เพราะเข้าใจในสิ่งที่ซิ่นฮวาสื่อสารออกมา สองพี่น้องสบตากัน ซิ่นหลิงรู้สึกจุกในอกไม่คิดว่าจะได้เห็นนางในสภาพเช่นนี้ สาวใช้คนสนิทของมารดารีบเดินเร็วๆ เข้ามาโดยไม่สนใจมารยาทใดทั้งสิ้น ยามนี้ใจของปี้เอ๋อร์กังวลเพียงเรื่องของท่านหญิงซิ่นฮวาเท่านั้น เมื่อนางมาถึงก็แทบแทรกทุกคนเข้าไปจับมือเรียวเล็กของหญิงสาว ปี้เอ๋อร์อ้าปากเหมือนจะเอ่ยถามแล้วเปลี่ยนใจ นางยืนตัวขึ้นแล้วหมุนตัวหันไปโบกมือโบกไม้ไล่ทุกคนในห้องให้ออกไปให้หมด “พวกท่านเป็นบุรุษออกไปก่อน ท่านหญิงต้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า” แม้เป็นบุรุษตัวโตแต่ซิ่นหลิง กันอี๋ และซาโม่ แต่ยังคงเป็นเด็กในสายตาของปี้เอ๋อร์ นางเลี้ยงดูเด็กๆ เหล่านี้รวมทั้งคุณชายน้อยซิ่น

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 74.  รู้สึกเจ็บปวดไปด้วยกัน

    ซิ่นหลิงระบายลมหายใจบางเบา ยามนี้ได้แต่ช่วยเหลือแคว้นหานให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ เขาไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่ซิ่นฮวาจะกลับมา เดิมทีเขามีภารกิจที่ได้รับมอบหมายเช่นกัน และคิดว่า ‘คีตาบำบัด’ ของซิ่นฮวาอาจพอช่วยรักษา ‘คนผู้หนึ่ง’ ได้ แต่เมื่อรู้ว่านางเองบาดเจ็บสาหัสในเวลานี้คงมิอาจรักษาใครได้ เขาจึงได้แต่พยายามสงบใจและใคร่ครวญหาวิธีการแก้ไขปัญหาของตนต่อไป ยังไม่ทันที่ซ่งเหว่ยหนานจะเอ่ยอะไรออกไป ซาโม่หันหน้าไปทางหนึ่งทำจมูกสูดดมกลิ่นในอากาศ ใบหน้าไร้อารมณ์นั้นปรากฏรอยยิ้มกว้าง ท่าทางตื่นเต้นดีใจนั้นทำให้ซิ่นหลิงและกันอี๋หันมองด้วยความสนใจ ลักษณะเด่นของซาโม่ที่ ‘จมูกดี’ วิหคตัวหนึ่งโบกบินในอากาศและเมื่อเห็นว่าบุรุษทั้งสี่เบื้องหน้าเป็นคนรู้จักที่เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องใดอีก วิหคตนนั้นกระพือปีกอยู่สองสามครั้งก่อนร่อนลงมากลายร่างเป็นมนุษย์ในร่างเด็กชายอายุราวสิบสี่ปี “ส่านเตี้ยน?” ซิ่นหลิงทักทันที เด็กหนุ่มประสานมือคารวะทุกท่าน เขาส่งยิ้มเล็กน้อยแล้วเบี่ยงตัวหลบเหมือนรอคอยใครผู้หนึ่ง คล้ายมีกลุ่มเมฆลอยต่ำลงมาใกล้จนกระทั่งกลุ่มเมฆนั้นสลายไป บุรุษเจ้าของเส้น

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 73.  งูน้อยยังคงสงบนิ่งหลับใหล

    ซ่งเหว่ยหนานยืนมองร่างงูสีดำที่นอนขดสงบนิ่งในกรงเหล็กที่แข็งแรง งูน้อยยังคงสงบนิ่งหลับใหลคล้ายจำศีล ตั้งแต่วันที่สตรีแปลกหน้าที่เรียกตนเองว่าเมิ่งหย่าจิ้งคืนร่างกลับเป็นงูดำตนนี้ งูตัวนั้นขดตัวสงบนิ่งเช่นนี้มาตลอด แม้ผู้อื่นกล่าวเตือนให้เขาระวังแต่เขายังคงประคองงูตัวนี้ใส่ตะกร้าและให้คนจัดหากรงที่แข็งแรงมาใส่งูดำตัวนี้ไว้ ‘นางจะอยู่ในร่างงูดำจำศีลเช่นนี้ ไม่อาจทำร้ายผู้ใดได้อีก’ ชายหนุ่มยังจำน้ำเสียงของเทพมังกรผู้กลายร่างเป็นมนุษย์เอ่ยขึ้น ซิ่วอิ่งคืนร่างเดิมเป็นงูเขียวตัวน้อยถูกส่งตัวไปรอรับโทษทัณฑ์ขัดเกลาจิตใจที่อารามนักพรตหญิงแห่งหนึ่ง เดิมทีเมิ่งหย่าจิ้งเองต้องโทษทัณฑ์เช่นเดียวกัน แต่ซ่งเหว่ย-หนานกลับร้องขอที่จะดูแลนางเอง ‘ในเมื่อนางไร้พิษภัยใด ก็กักขังนางไว้ที่นี่เถิด เผื่อว่านางจะสำนึกผิดและบำเพ็ญเพียรอีกครา’ จวิ้นอี้นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับ ยื่นมือไปจับมือของซ่งเหว่ยหนานให้หงายขึ้นแล้วเขียนอักขระที่กลางฝ่ามือร่ายมนตร์ให้ ‘ข้าร่ายมนตร์ไว้หากจำเป็นเจ้าสามารถจัดการนางได้ทันที’ จวิ้นอี้ถอนหายใจบางเบา ‘แต่การละเว

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 72.  ได้ยินเสียงหัวใจ

    นางแหงนหน้ามองเห็นเพียงปลายคางของเขา ความรู้สึกวิงเวียนตาลายเข้ามาแทนที่ รู้สึกเจ็บร้าวทั่วแผ่นอก ร่างกายร้อนวาบราวกับถูกเพลิงเผาไหม้อยู่ภายใน นางได้แต่เอียงหน้าซบแผ่นอกของเขา ได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัวใต้ใบหูของนาง “เจ้าต้องไม่เป็นอะไร” น้ำเสียงลอดไรฟันนั้นทำให้คนฟังปวดใจไม่น้อย “เจ้าต้องอยู่ข้างกายข้า!” ฮวงหลงสะท้อนใจจนหัวใจปวดร้าว หากไม่มีนางอยู่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาจะมีความหมายอะไรกัน! เพียงพยายามเคี่ยวยาสารพัดที่มีสรรพคุณถอนพิษโลหิตปีศาจงูดำ เหลือเพียงแค่บุกแดนสวรรค์ชิงโอสถทิพย์เท่านั้น ส่านเตี้ยนที่มุ่งหน้ามาหมายพบผู้เป็นนาย แต่เมื่อเห็นหญิงสาวในอ้อมอกใบหน้าซีดขาวราวไร้โลหิต มุมปากมีคราบเลือดสีดำเปื้อนเปรอะทำให้ผู้พบเห็นถึงกับผงะไป “ท่านหญิง..” ส่านเตี้ยนเองก็ค่อยดูแลซิ่นฮวาแทนผู้เป็นนายยามที่ท่านเทพมังกรดินลงมือเคี่ยวยาด้วยตนเอง แม้เขาเคยระอานิสัยเอาแต่ใจที่ทำให้นายของเขาต้องพลอยลำบากใจอยู่บ่อยครั้ง ซ้ำยังใช้งานเทพมังกรดินราวคนรับใช้ แต่เมื่อเห็นท่าทางเจ็บปวดของนางเพราะรับพิษแทนนายของตน เขาเองชื่นชม ห่วงใย และสำนึกในบุญคุณขอ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 71. สบตาข้า

    “เวลาพูดกับข้าเจ้าต้องสบตาข้า” ฮวงหลงเอ่ยเหมือนดุเด็กเล็กๆ หารู้ไม่ว่าลมหายใจของตนที่รินรดนั้นทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อ “ข้าต้องอ่านปากเจ้าจึงจะเข้าใจความหมายที่เจ้าพูด” คล้ายถูกดวงตาคมเข้มคู่นั้นสะกดจิตใจ นางได้แต่พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายในชั่วเวลาต่อมาถ้วยยาที่เทพมังกรหนุ่มถือมาก็ถูกยื่นมาจ่อตรงริมฝีปากของหญิงสาว นางเม้มปากแน่นไม่มีท่าทียินยอมให้ยารสขมนั้นไหลผ่านคอ ผู้เคี่ยวยาเลิกคิ้ว ใบหน้าน้อยๆ มีแววต่อต้านจริงจังกลับทำให้มุมปากของเขายกยิ้ม “ได้” น้ำเสียงเหมือนเกียจคร้านเอ่ยพร้อมเงยตัวขึ้น “ข้าป้อนยาให้เจ้าเองก็ได้” ‘ไม่! ไม่ต้อง!’ มือเล็กรีบยื่นไปคว้าถ้วยยามาถือไว้ด้วยตนเอง ให้เขาป้อนยาให้นางนะหรือ? ทรมานยิ่งนัก มิใช่เพียงต้องกล้ำกลืนยารสขมแต่เพราะเรียวลิ้นของเขาที่ปลุกปั่นจิตใจของนางให้ยิ่งงุนงง นางจ้องมองยาเข้มข้นในถ้วยหยก แม้มีกรุ่นอายลอยบางเบาแต่เมื่อประคองถ้วยยาไว้ในมือกลับไม่รู้สึกร้อนเลยสักนิด นางหลับตาแล้วกลั้นใจยกถ้วยยาขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วยื่นถ้วยยาที่ว่างเปล่าส่งคืน ทว่ามือใหญ่ไม่ได้ยื่นไปถ้วยยาจากมือนาง แต่กลั

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 70. ไม่ลังเลที่จะรัก

    ครั้งนี้ เขาไม่ลังเลที่จะ ‘รัก’ นางอีกแล้ว ไม่ว่าจะมีเวลาสำหรับเขาและนางมากน้อยเพียงใด เขาจะถนอมเวลาที่ได้อยู่กับนาง ยอมรับทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่หวั่นเกรงสิ่งใดอีกแล้ว ผ้าห่มที่ถูกดึงมาจนปิดใบหน้าค่อยๆ ถูกเลื่อนออกจนเห็นดวงหน้าแดงระเรื่อของหญิงสาว ซิ่นฮวาเห็นเขาส่ายหน้าไปมาแล้วพึมพำเหนือใบหน้าของนาง “หน้าเจ้าแดงอีกแล้ว ไข้ขึ้นแล้วหรือ?” เขากระซิบใกล้ริมฝีปากของนาง ลมหายใจอุ่นรินรดใบหน้าของหญิงสาว นางตกตะลึงไม่ทันตั้งสติ เขาก็ประทับจูบลงที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มของนางอีกครั้ง ครั้นนางได้จังหวะหอบหายใจ เขาก็ฉวยโอกาสแทรกลิ้นเปียกร้อนเข้าไปลิ้มรสความหวานในปากของนาง คล้ายลมหายใจร้อนของเขาไหลเวียนในกายนาง ร่างกายของนางร้อนรุ่มโดยเฉพาะช่องท้องที่เคร่งเครียดและหวามไหว ความปรารถนาแสนหวานก่อตัวขึ้นอีกระลอกทำให้ร่างกายบิดเร่าไปมาโดยไม่รู้ตัว รสจูบของเขาทวีความร้อนแรงขึ้น ดูดดื่มมากขึ้น จนนางแทบหมดเรี่ยวแรง สมองขาวโพลน เรียวลิ้นยั่วเย้าของเขาเรียกร้องให้นางตอบรับ ความไม่ประสีประสาทำให้นางเงอะงะ แต่นั่นยิ่งทำให้บุรุษหนุ่มเพลิดเพลินกับการสอนนางให้เรียนรู้การจ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 69. ข้อเสนอ

    ข้อเสนอของเขาทำให้นางพยักหน้ารับ ฮวงหลงเห็นบุปผาน้อยยินดีทำตามกฎก็โน้มหน้าลงยื่นปลายจมูกกดที่แก้มเนียนของหญิงสาว ‘ท่าน!’ ดวงตาเป็นประกายฉายแววตื่นตระหนก สองแขนของเขาคร่อมร่างของนางไว้ ร่างเล็กเอนหลังหนีปลายจมูกที่ยื่นมาซุกไซ้ใบหน้าของนางแต่กลายเป็นว่านางหงายหลังลงบนเตียงนอนโดยมีร่างของบุรุษหนุ่มตามลงไปทาบทับ ‘หยุดนะ! ท่านทำอะไร!’ สองมือยื่นไปยันกายของเขาไว้ แต่พอเจอสายตาจริงจังของเขาแล้ว นางกลับลืมถ้อยคำของตนไปหมดสิ้น “คราวนี้เข้าใจหรือไม่ แต่ก่อนที่เจ้าร้องขอให้ข้าพาเจ้ามาตำหนักแล้วข้าไม่สามารถพามาได้เพราะอะไร” ชายหนุ่มแสร้งทำเสียงตำหนิ “เจ้าไม่คิดหรือว่าข้าเป็นผู้คุมกฎต้องมาละเมิดกฎเสียเองเป็นเรื่องไม่สมควร” ถูกตำหนิต่อว่าเช่นนี้แล้ว นางจึงไม่กล้าขยับตัวอีกแต่มิอาจสบตาดวงตาลึกล้ำของอีกฝ่ายได้ นางจึงกลอกตาไปทางอื่นยอมให้ ‘กำจัด’ กลิ่นอายมนุษย์ของนาง เพราะนางหลบตาจึงไม่อาจเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาได้ ฮวงหลงเพียงแค่อยากหยอกล้อนางเล่น ทว่าเมื่อตนเองก้มลงกดปลายจมูกดอมดมกลิ่นอายของหญิงสาวกลับเป็นฝ่ายถอนใจมิได้ ผิวกายเนียนนุ่มและกลิ่นหอมอ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 68. กระซิบปลอบโยน

    ‘ฮวงหลง’ นางอ้าปากที่ไร้เสียงเรียกชื่อเทพมังกรดิน ห้องที่นางนอนอยู่ตกแต่งงดงามราวกับนางนิทราในสวนดอกไม้ แต่นางกลับไม่มีสายตาเหลือไว้ชื่นชมสิ่งรอบข้างเพราะใจของนางพะวงถึงบุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวงที่นางมักใช้นิ้วเกี่ยวพันไว้อยู่เสมอ ‘ฮวงหลง’ นางเรียกเขาอีกทั้งที่รู้ว่าไม่มีเสียงใดหลุดรอดจากริมฝีปากของนาง หญิงสาวหมุนตัวมองรอบกาย นางกลัวว่าตนเองฝันไป หรือนางยังไม่ตื่น อาจยังอยู่ในกระท่อมใต้สระน้ำนั้นก็เป็นได้ จิตใจที่ว้าวุ่นทำให้นางไม่รู้ว่ามีคนก้าวเข้ามาใกล้และยืนซ้อนอยู่ด้านหลังจนกระทั่งนางหมุนตัวกลับมา ใบหน้าเกือบปะทะกับแผ่นอกกำยำ นางผงะไปด้านหลังครึ่งก้าว มือแกร่งข้างหนึ่งยื่นมาโอบแผ่นหลังของนางไว้ไม่ให้หงายหลังและดันร่างนางกลับเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหน้าของนาง บุรุษหนุ่มกวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า เขาส่ายหน้าไปมาส่งเสียงตำหนิไม่จริงจังนัก “เหตุใดเจ้าไม่สวมรองเท้า” ฮวงหลงเอ่ยถาม มือข้างหนึ่งของเขาถือถ้วยยานำเข้ามาให้นาง แม้ว่ามืออีกข้างจะโอบประคองแผ่นหลังของนางอยู่ แต่ยาในชามก็ไม่กระฉอกออกมาแม้แต

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 67. รักษาบาดแผล    

    เขากำลังรักษาบาดแผลให้นาง ทว่าช่องท้องที่รู้สึกวะหวิวจนอยากจะส่งเสียงครวญครางออกมา นางไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้แต่นางก็อับอายจนต้องยกมือปิดปากตนเอง สายตาของนางมองเห็นจุดแดงเล็กๆ ที่โคนขาด้านในจึงรีบหนีบขาไว้ก่อนแต่ยังช้าเกินกว่าสายตาช่างสำรวจของเขามองเห็นก่อนแล้ว นางฝืนหนีบขาตัวเองไว้แน่นทำให้บุรุษหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินยวงเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่พอใจพร้อมกล่าวตำหนินาง “อย่าดื้อ ข้าต้องรักษาบาดแผลให้เจ้า” ซิ่นฮวาส่ายหน้าไปมาไม่ว่าอย่างไรนางไม่อยากอ้าเรียวขาออกเด็ดขาด “ข้าทำเช่นนี้ให้เจ้าตั้งแต่เจ้าเป็นเด็กเล็กๆ” มือแกร่งยื้อเรียวขาของนางไว้ แล้วแยกขางามออกอย่างใจเย็น กลิ่นกายของนางหอมหวานชวนให้มึนเมายิ่งนัก เขาต้องทุ่มเทสมาธิเพื่อรักษาบาดแผลบนร่างกายของนางมิให้ทิ้งรอยตำหนิใดไว้ ร่างหญิงสาวอ่อนระทวยดุจเดียวกับขี้ผึ้งต้องความร้อน ริมฝีปากของเขากดลงบนโคนขาด้านใน จุดอ่อนนุ่มบนร่างถูกสัมผัสอย่างตั้งใจ สองขาถูกเขาแยกออกจากกันและร่างของเขาอยู่ตรงกลางหว่างขาของนาง หญิงสาวพยายามกระถดตัวถอยหนีแต่มือแกร่งรั้งจับสะโพกนางไว้มั่น มุ่งมั่นก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status