อากาศปลายฤดูหนาวปีนี้ ในภาคเหนือยังทิ้งร่อยรอยความเย็นอยู่มากนัก อย่างน้อยก็ทำให้น้ำแข็งในแก้วเบียร์ละลายช้าเป็นที่ถูกอกถูกใจแขกที่มานั่งหาความรื่นรมย์ในแพร้านอาหารนัก โดยเฉพาะกลุ่มหนุ่ม ๆ ที่ร่ำสุรากันทั้ง ๆ ที่อยู่ในเสื้อนักศึกษาแม้อาจมีผู้ใหญ่มือถือสากปากถือศีลติเตียนในใจว่าไม่สมควร แต่ใครเล่าจะสน ในเมื่อพวกเขานั้นจะจบการศึกษาอยู่แล้ว ที่มาดื่มนี่ก็ฉลองสอบวิชาสุดท้ายในชีวิตมหาวิทยาลัยเสร็จอาหารและเครื่องดื่มวางมากมายบนโต๊ะ บริกรยกมาเสิร์ฟอย่างนอบน้อมเอาอกเอาใจ เพราะรู้ว่าคนที่โทรมาจองโต๊ะนั้นเส้นใหญ่คับร้านสักเพียงไหนเสียงพูดคุยเฮฮาตามประสาเพื่อนดังเป็นระยะ ๆ บางคนก็ถ่ายคลิปโน่นนี่ บางคนถึงขนาดไลฟ์ในแอปฯกลางร้านก็มีใครคนหนึ่งมาถึงงาน พร้อมหอบของมาเต็มอก“เจ้าภาพงานมาแล้วโว้ยพวกเรา ! มีคนจ่ายเงินแล้ว ไม่ต้องกลัวได้ล้างจาน”เสียงแซ็วโห่ฮาดังขึ้นตอนรับ บริกรรีบมาขยับเก้าอี้เลื่อนออกให้หนุ่มเส้นใหญ่โดยพลัน“เฮ้ย! กูเห็นนะไอ้ดินว่าน้องเมี่ยงเอาของมาให้มึง อะไรวะที่อยู่ข้างในน่ะ”ลือกฤชถามเพื่อนทันทีที่เห็นร่างสูงโปร่งก้าวเข้าในสายตา เขาทำตัวเป็นนักข่าวประจำคณะ ไม่มีเรื่องไหนลอดหูลอ
แพที่เปิดให้บริการเป็นร้านอาหารอีสานของคุณย่ามณี มีทีมงานมืออาชีพแบบครบครัน แต่ช่วงค่ำปิดหนึ่งวัน ด้วยคณิศรพาเพื่อนๆ มาเลี้ยงกันที่นี่เพราะสงบเงียบและไกลผู้คน เหมาะแก่การส่งเสียงดังรองรับงานรื่นเริงลูกค้าของร้านส่วนใหญ่ชอบบรรยากาศที่ห่างไกลแบบนี้ นั่งรับไอเย็นจากสายน้ำสบายตากับวิวเขียวขจีของป่าไม้ที่ล้อมรอบยิ่งตอนเย็น ได้เห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาด้วย ก็ยิ่งได้อารมน์สุนทรีย์ลือกฤชและยอยศเดินคุยกันออกมาจากแพหนึ่งที่ดัดแปลงเป็นห้องพัก ตอนนี้คณิศรเข้ายึดครอง เพราะเป็นห้องเชือดชั้นยอดในการพาสาวๆ มาร่วมสนุกบนเตียงแต่ส่วนใหญ่มีเพียงคนเดียวที่ผูกปิ่นโตกินกันยาว ๆ กับคณิศรก็คือผู้หญิงที่สองหนุ่มกำลังจะเอ่ยถึง“ดินแกล้งเมาหรือเปล่าวะ” ยอยศถาม“กูว่ามันเมาจริงนะ” ลือกฤชตอบ“แล้วถ้ามันเมา เราเอามันไปนอนในแพอย่างนั้น ถ้าเกิดมันลุกขึ้นมาเดิน แล้วตกน้ำตกท่าตายห่าขึ้นมา ย่ามณีไม่ด่าพวกเรายับเลยหรือวะ”“มึงก็พูดไป ดินนอนที่นี่เกือบทุกคืนนะโว้ย มันไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านของย่ามณีเสียเมื่อไร อีกอย่างมันบอกกูแล้วว่า มันจะนอนรอยัยหวาย มันบอกว่ามันนัดกับเอาไว้แล้ว”“อ๋อแบบนี้นี่เอง แล้วมันทำไมต้องแดก
“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงมารบเร้าที่จะเอาเงินจากผมไปซื้อรองพื้นใหม่อีก ใช้เงินของพ่อของหวายสิ”“แหม... ดิน มันไม่เหมือนกันนะคะ นั่นมันเงินของพ่อ ไม่ได้เป็นเงินของดิน ที่บอกว่ารักหวายนะ ดินรักหวายจริงไหม หรือแค่พูดสนุกปาก เพื่อนอนกับหวายเอามัน” เธอค้อนเขาตากลับ“เชอะ! ดินพูดเหมือนกับไม่รักหวายแล้ว อย่างนั้นก็ได้ หวายกลับดีกว่า เฮอะ ๆ มาที่นี่ รถก็เติมน้ำมันนะคะ ไม่ได้เติมน้ำเปล่า” เธอทำท่าจะลุกขึ้น“เดี๋ยวหวายจะไปไหน”เขารีบกอดรั้งร่างกายของเธอเอาไว้ อารมณ์บูดบึ้งหายไป เหลือไว้แต่ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ“ไอ้ผีบ้าออกจากร่างของดินแล้วหรือคะ ไอ้ผีตัวเมื่อกี้หายไปเสียแล้วล่ะ” อดที่จะแขวะเขาไม่ได้“ก็หวาย...”สุธาวีรีบยกนิ้วชี้มาปิดปากของเขาที่จะพูดมากในทันที เขารีบงับมัน และมองตาของหญิงสาวอย่างหวานเยิ้ม ราวกับถูกมนต์เสน่ห์ของสุธาวีสะกด“เห็นหน้าสวย ๆ ของหวายแบบนี้แล้ว ดินก็หายคิดถึง”“ไม่ต้องมาทำปากหวานค่ะ หวายไม่เชื่อ” เหมือนกับคนที่เพิ่งขายขนมจีบกัน มองตากันหวายหยดย้อย“คนคิดถึงกัน เขาก็ไม่ทำกันแค่นี้หรอกค่ะ” สุธาวีส่งสายตาเชิญชวน“ถ้าอย่างนั้น ทำแค่ไหนล่ะจ๊ะ ทำแค่นี้ใช่ไหม”ต่อจากนั้นเขาก็ผลักร่างกา
ผ่านไปเกือบปีคณิศรเริ่มเป็นโล้เป็นพายมากขึ้น เข้ามาทำงานให้กับคุณย่าในบางส่วนที่ได้รับมอบหมาย และคุณย่าก็ยังให้เงินทุนตามที่เขาเรียกร้อง คณิศรเปิดบริษัทรับออกแบบการจัดสวนตามสาขาที่เขาได้เรียนมา นอกจากนั้นยังรับเหมาทำสวนอีกด้วย ดอกไม้ก็มี ไม้ล้อมก็มี เพราะฝีมือของคุณย่าที่ปูทางให้ คณิศรได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายงานแล้ววันนี้อาจารย์ณรงวิทย์ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยทราบข่าวว่าลูกศิษย์ได้เปิดบริษัทแล้ว ยิ่งเป็นคณิศรอีก ถือว่าเขาเป็นพวกที่อยู่รั้งท้ายเพื่อนด้วยซ้ำ แต่เขากลับมีความก้าวหน้าอาจารย์ณรงวิทย์จึงเรียกให้มาหาที่มหาวิทยาลัย พอดีอาจารย์กำลังจะตกแต่งสวนให้กับบ้านของลูกสาว ที่จะยกให้เป็นเรือนหอคณิศรจึงเดินทางมาหาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย หลังจากคุยธุระเสร็จแล้วเขาก็เดินลงมาข้างล่าง“พี่ดินคะ พี่ดิน” เสียงหวานๆ เรียกเขาเอาไว้ ทำให้ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า คณิศรรีบหันไปมองชนิษฐาที่วิ่งมาหาด้วยความดีอกดีใจหญิงสาวซ่อนอาการหน้าบานที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอตามติดชีวิตของคณิศรในโซเชียล และมีอยู่หลายครั้งที่ไปกินร้านอาหารของชายหนุ่มกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เห็นหน้าเห็นตาของเขา และตัวจริงเลย“พี่ดินมาทำอะไรที่นี่
ไม่นานนัก เขาก็พาเธอมาถึงร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ร้านอาหารอยู่ติดถนน ในร้านสะอาดสะอ้าน“นั่งห้องแอร์ดีกว่านะ ข้างนอกร้อน”“ค่ะ” ชนิษฐาเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย สายตาของหญิงสาวไม่อาจจะละจากร่างหนาของเขาได้เลยคณิศรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาดูดีขึ้นมาก ด้วยผมรองทรงที่หนาๆ อีกอวัยวะที่ชนิษฐาชอบเขา เพราะจมูกที่โด่งสันเป็นคน ดวงตากลมโต คิ้วดกๆ ซึ่งส่วนใหญ่ หนุ่มๆ แถวนี้จะตาตี่ๆ เป็นตี๋เสียส่วนใหญ่สำหรับคณิศร เนื่องจากแม่มาจากใต้ เธอสืบจนรู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนสงขลาจึงทำให้หน้าตาคมคายพนักงานเดินมายื่นเมนูให้“เมี่ยงอยากกินอะไรก็กินนะ สั่งได้เต็มที่เลย”เธอจะบอกเขาอย่างไรดี แค่เห็นหน้าของคณิศรในวันนี้ ชนิษฐาก็อิ่มไปอีกหลายวัน หญิงสาวสั่งอาหารตามที่เขาสั่งคณิศรสั่งสเต็กสันคอ เธอก็เลือกตามเขา เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมคณิศรถึงชอบกิน“อีกปีเดียวก็จะจบแล้วสินะ”“ค่ะ”“ตั้งใจจะไปทำงานอะไร”“เมี่ยงก็ภาวนาให้ได้งานทำใกล้บ้านนะคะ จะได้อยู่ดูแลป้าด้วย อีกอย่างนึงไม่มีรถ ป้าไม่ให้ใช้ทั้งมอเตอร์ไซค์ และก็รถยนต์น่ะค่ะ”“เมี่ยงยังขับรถไม่เป็นเหรอ”“ค่ะ ไม่เป็นเลย เป็นแต่จักรยานอย่างเดียว”“เอาแบบนี
หลังจากผ่านพ้นเกมหฤโหดบนเตียง ที่จัดกันจนน้ำแตกกระจายเกลื่อน คณิศรนอนตะแคงเท้าคางจ้องหน้าสุธาวี ที่หอบเหนื่อยไม่แพ้กัน“หวายแต่งงานกันไหม”ตาที่หลับอยู่ถึงกับเบิกโพลง“แต่งงานเหรอคะดิน โอ๊ย! เราสองคนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เองคะ 26 27 จะรีบแต่งไปไหนกันคะดิน หวายไม่เอาอ่ะ หวายยังไม่อยากแต่งค่ะ ยังอยากใช้ชีวิตของตัวเองแบบสนุกๆ แบบนี้ไปอีกนานๆ ค่ะ ถ้าหวายจะแต่ง โน่น... ต้อง 35 ค่ะ เหลืออยู่เวลาอีกเกือบ 7-8 ปี ไม่ค่ะ ไม่...” เธอปฏิเสธทันควันคณิศรเป็นคนเดียวที่เธอเลือกผูกปิ่นโตนานที่สุด เพราะว่าชายหนุ่มมีฐานะดี อีกอย่างเรื่องบนเตียงของคณิศรก็จัดว่าแซ่บนัมเบอร์วัน“แต่ถ้าผมไม่แต่งงานในปีนี้ ย่าจะไม่ยกสมบัติให้”สุธาวีถึงกลับหัวเราะคิก“ดินคะ คุณยังเชื่อมุกนี้ของย่าของคุณอีกหรือคะ ย่าท่านพูดเล่นหรอกค่ะ ดินอย่าเป็นจริงเป็นจังนักเลย ดินคะคุณน่ะใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะ เรื่องผูกมัดกับใครสักคน ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันเองก็ไม่อยากจะทำเลย”นี่คือคำปฏิเสธที่ชัดเจนมากๆ เขาถึงกับทิ้งตัวลงไปบนนอนหงาย แล้วมองไปบนเพดานเสียงของสุธาวีก็ยังดังอีก “มีใครสักคนที่หลงใหลคลั่งไคลคุณไหมล่ะ ก็จับหล่อนทำเมียสิ สมบัต
ชนิษฐาตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เธอขัดสีฉวีวรรณตัว ก่อนจะออกมาเลือกชุดที่จะใส่ไปเรียนขับรถกับคณิศรอย่างบรรจงหญิงสาวถ่ายรูปส่งไปให้หรือฤดีรัตน์ดูหลายรูป แต่ฝ่ายนั้นยังไม่ตื่น จึงไม่ได้ให้คำตอบ ชนิษฐาจึงตัดสินใจใส่เป็นชุดกระโปรงที่ดูเรียบร้อย น่ารักหวานแหวว เพราะเป็นอะไรที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับคณิศรทั้งที่เธอก็รู้ว่าผู้หญิงในแบบที่คณิศรชอบคือเปรี้ยวเข็ดฟัน แต่ว่าชนิษฐาอยากให้เขาได้เห็นผู้หญิงที่แตกต่างแบบเธอเมื่อใกล้เวลานัดเธอออกไปยังจุดนัดหมาย ชนิษฐายืนอยู่หน้าร้านมินิมาร์ท หน้าตู้กดเงินสดของหลายธนาคารที่วางเรียงรายด้านข้างร้านมินิมาร์เป็นบ้านคนที่ปลูกดอกไม้พวงครามที่โรยตัวแล้วยังจับกลุ่มเป็นช่ออย่างสวยงามสายตาของหญิงสาวมองตามถนนทั้งสองฝั่ง ไม่รู้ว่าคณิศรจะมาทางไหนอย่างหัวใจจดจ่อ เป็นเวลาที่เปลี่ยนโลกสีมอๆ ของชนิษฐาให้มีสีสันคณิศรมองไปยังจุดนัดพบ ดวงตาของเขาได้ปะทะเข้ากับร่างอรชรของหญิงสาว ชนิษฐาปล่อยผมยาวจะสยายเต็มแผ่นหลัง เธอติดกิ๊บน่ารักบนศีรษะสองอันด้วย จุดเด่นคือเส้นผมของชนิษฐาที่ดำขลับตัดกับดอกพวงครามที่กระเดียดไปทางสีม่วง เธอยืนอยู่ใต้ดอกไม้ และตรงพื้นมีดอกกระจายเกลื่อน
‘พูดแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน พี่ดินพามาบ้าน มาหาย่า นั่นหมายถึง ไม่มั้ง’ หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ วันนี้คณิศรทำดีกับเธอ ให้ความสนิทสนมแบบคนที่น่าไว้ใจ อีกอย่างเขาโปรยเสน่ห์ให้เธออย่างรุนแรง จนเธอหัวใจจะระเบิดไปหลายรอบความเป็นจริงชนิษฐาไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ ตอนนี้คณิศรกำลังโปรยหว่านให้เธอรักให้เธอหลงเขา ดวงตาที่พร่างพราวนั่นทำให้เธอตกบ่วงรักลงไปอย่างง่ายดายความชอบที่มีมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่เธอกวาดสายตามองไปรอบบ้านของคุณย่า เพื่อลดความกังวล แต่ยิ่งเห็นว่าเขาร่ำรวย และฐานะที่แตกต่าง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่ มือเย็นมากคณิศรจับมือของเธอแล้วบีบ หญิงสาวจึงยกหน้ามองเขา“เมี่ยงไม่กังวล และไม่ต้องกลัวนะ ย่าของพี่ใจดีมากครับ”“ค่ะ ค่ะ คือเมี่ยงยังไม่เคยไปบ้านเพื่อนคนไหนเลยนะคะ พี่ดินเป็นคนแรกที่เมี่ยงมาเยี่ยมบ้านค่ะ”“พี่ใช่เพื่อนของเมี่ยงที่ไหนกัน” เขายิ้มให้อย่างกรุ่มกริ่ม เสน่ห์ของคณิศรมีเยอะแยะ สำหรับชนิษฐาเขาขยิบตาจ้องแบบหวานๆ ทำท่าทียักคิ้วลิ่วตาเล็กๆ น้อยๆ เธอต้องก็ติดกับดักเขาเสียแล้วสายพิณยกทุกอย่างมาตั้งที่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่ค
“เมี่ยง” คณิศรตกใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ยังคงเล่นบทคนเศร้าง้อภรรยาอยู่“เมี่ยงไม่ได้อยากให้พี่ตายใช่ไหมครับ เมี่ยงจ๋า...อภัยให้พี่นะ นะครับคนดี”ไม่พูดอย่างเดียว คนที่ยอมทำตัวพิการง่อยเปลี้ยอยู่บนเตียงตั้งนานสองนาน คราวนี้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่น“พี่รักเมี่ยงจริงๆ รู้ตัวแล้วว่าขาดเมี่ยงไม่ได้ พี่ต้องตายแน่ๆ”ชนิษฐารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา การที่ไม่ได้อยู่ใกล้คณิศร เธอเองก็แย่ไปเหมือนกันใจที่โกรธขึ้งเรื่องที่เขาทำลงไป สายพิณเล่าแล้วว่าทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัย และสุธาวีนั้นรุกหนัก เจ้าหล่อนเล่นกับอารมณ์ใคร่ สัญชาตญาณดิบของผู้ชายฤดีรัตน์ก็ช่วยหาข่าวเหมือนกัน เพื่อนเล่าว่าสุธาวีกินกับผู้ชายเกือบทั้งสาขา ล้วนเป็นคนรอบตัวคณิศรทั้งนั้นเขาช่างโง่...โง่มากเหลือเกิน นอกจากนั้นคุณย่ามณียังให้พนักงานที่แพมายืนยัน คณิศรออกคำสั่งไล่สุธาวี ห้ามมาเหยียบทุกพื้นที่ของเขาเด็ดขาดคณิศรทำแล้วสิ่งที่ควรทำ...แล้วชนิษฐาล่ะ เธอควรทำอะไรต่อดี“อย่าพูดคำว่าตายอีกนะ เพราะยังไงพี่ดินก็ต้องอยู่ดูหน้าลูกก่อน”ชนิษฐาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น เลือกจะให้ครอบครัวได้ไปต่อ“เมี่ยง...”คณิศรคราง แม
พีรพัฒน์เข้ามาแบบมีข้าวของเต็มสองมือ“คุณเมี่ยงไม่อยู่ค่ะ” สายพิณรายงาน“อ้าวเหรอครับ มิน่าล่ะ โทรหาก็ไม่รับ แล้วยังไม่อ่านไลน์ผมอีก สวัสดีครับคุณย่า”คนแก่ลอบถอนหายใจ แต่ก็พยายามปั้นยิ้ม หากชนิษฐาจะตีจากจากคณิศร แล้วไปซบอกผู้ชายคนนี้ มันก็เหมาะสมอยู่พีรพัฒน์มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนมั่นคงพึ่งพาได้ แม้เป็นพ่อหม้าย แต่การเลิกร้างนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีข่าวลือเสียหายตามหลังเลย แต่ส่วนลึกในใจ...คุณย่ามณีไม่อยากให้ชนิษฐากับคณิศรหย่ากันอยู่ดี“คุณพีได้นัดกับคุณเมี่ยงเอาไว้หรือเปล่าคะ” สายพิณเข้าไปรับเอาข้าวของ ไม่ปล่อยให้เขายืนเก้อเขิน“เปล่าครับ พอดีผ่านมา”“แหม... แค่ผ่านเหรอคะ จอมทองกับเชียงใหม่ มันไม่น่าผ่านกันได้เนอะ”อดที่จะแซวแบบเหน็บๆ ในความพยายามทุ่มสุดตัวของชายหนุ่มไม่ได้“เสียเวลาแย่เลยพ่อพี มาเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง”คุณย่ามณีเห็นใจ มองออกว่าชนิษฐาไม่เล่นด้วยกับพ่อหม้ายคนนี้ มิเช่นนั้นหลานจะหลบเลี่ยงการพบเจอทำไม“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณย่าอาการเป็นไงบ้างครับ”พีรพัฒน์นั่งลงใกล้ เขาเป็นคนที่โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ทุกคน“ก็งั้นๆ แหละจ้ะ สุขภาพทรง ๆ ทรุด ๆ ตามประสาคนแก่ ขาหนึ่งก็ก้า
ที่ห้องพักของคุณย่ามณี ทุกคนได้ยินเสียงโอ้กอ้ากของชนิษฐาดั่งลั่นออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเมื่อครู่ออกมาแบบหมดไส้หมดพุงคุณย่าที่อยู่บนเตียงสบตาคุณช่อม่วงที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้เป็นป้ามองอาการหลานด้วยความกังวล สายพิณเป็นคนลูบหลังให้“ไม่สบายหนักเลยนะเมี่ยง ทำไมกินอะไรถึงได้อ้วกออกมาหมด”“พิณว่าพาคุณเมี่ยงไปตรวจเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ใกล้หมอ อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่สินไปโทรเรียกให้คนเอารถเข็นมารับคุณเมี่ยงสิ”“จ้ะๆ ได้จ้ะ ได้” สินเดินไปที่โทรศัพท์ ก่อนจะยกหูไปยังโอเปอร์เรเตอร์ เขาขอรถเข็นมารับผู้ป่วย เพื่อไปตรวจดูเหมือนชนิษฐาจะหมดแรงแล้ว หน้าซีดจางขาวราวกระดาษ อ่อนเพลียร่างอยากจะนอนพักมากๆ“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวเอาตอนนี้นะ ดวงราหูจะเข้าแล้วแน่ๆ”คุณช่อม่วงเพิ่งผ่านตาคลิปหมอดูทักจากยูทูป ยามเปิดเล่นแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่เฝ้าคุณย่ามณี“พาไปหาหมอซะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” คุณย่าสั่งด้วยใจห่วงใยปนกังวลไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็น แล้วพาชนิษฐาเข้าลิฟต์ไปยังห้องตรวจด้านล่างในเวลาต่อมา“หมอว่าเป็นอะไรคะ” ทั้งสายพิณและสินตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลที่หน้าห้องตรวจ“หมอว
เมื่อสองป้าหลานไปถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เห็นสายพิณนั่งร้องไห้น้ำตานอง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงของคุณย่ามณี“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่พิน”“พี่พิณกับคุณย่าไปที่วัด ว่าจะอยู่วิปัสนาที่นั่นสักสองสามคืน แต่ตอนที่กินข้าวกันอยู่ สินโทรเข้ามาว่าคุณดินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เท่านั้นแหละค่ะ... คุณย่าก็สำลักข้าวค่ะ อาหารติดคอ ดีนะคะที่ตรงนั้นมีคุณหมอมาวิปัสนาที่วัดอยู่ด้วย เลยเข้ามาปฐมพยาบาลทัน แล้วก็พามาที่นี่แหละค่ะ”“แล้วอาการหนักไหมคะ” คุณช่อม่วงเอ่ยถาม“ดีนะคะหมอบอกว่าสมองไม่ขาดออกซิเจน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะกลายเป็น...” สายพิณยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้“คุณเมี่ยงคะ พี่พิณรับไม่ไหวแล้วนะคะ ไหนจะคุณย่า ไหนจะคุณดิน”“แล้วตอนนี้ดินอยู่ไหน” คุณช่อม่วงอีกนั่นแหละที่เป็นคนถามใบหน้าหลานสาวซีดเผือก ตาแดงก่ำราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วชนิษฐาจับมือของคุณย่าและบีบเบา“คุณดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ มาพักอยู่ที่ห้องพิเศษค่ะ”สายพิณรายงานหันไปหาชนิษฐาทั้งตัว“ฮือ... คุณดินน่ะไปทำอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ เห็นว่าประสบอุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างที่ไปทำตกแต่งสวนนั่นแหละ พิณไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ถามใค
ชนิษฐายืนฟังการสนทนานี้มาตั้งนานแล้ว เธอได้ยินทุกอย่าง“ไปกันได้แล้วค่ะเจ้านาย” เธอแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันเกิดของคณิศร เธอกับเขาเคยคุยกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสามคน คุณย่า เขาและก็เธอ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วเมี่ยงจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า”“ป้าไม่ต้องห่วงเมี่ยงค่ะ กินไปก่อนได้เลย”“อ้อ ตอนเย็นๆ ป้าไม่อยากกินอะไรหนักๆ นะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากให้เปลืองเงิน”ชนิษฐายิ้มยกมือโบกบ้ายบาย แล้วตามพีรพัฒน์ไปขึ้นรถในรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดคันใหญ่ที่หรูหราจอดไม่ไกลจากตรงนั้นนัก คุณย่ามณีอยู่กับสายพิณและนายสิน ตั้งใจจะมาชวนชนิษฐาไปทำบุญ แต่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าเสียก่อน คุณย่าถึงกับหน้าหงอย“เฮ้อ...หมดหวังแล้วใช่ไหมสายพิณ”“ยังหรอกค่ะ อย่าตัดสินกับแค่ภาพแบบนี้สิคะ มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้”แต่สินมือไว ยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพ แล้วส่งไปให้อีกคน คณิศรใช้ให้สินมาเป็นสายสืบติดตามชีวิตของภรรยา“ถ้าอย่างนั้นสิน”“ครับ”“ขับไปวัดเถอะ ไปวัดวิปัสนานะ จะไปอยู่สักสองสามวัน”“ครับ”คุณย่ามณีหลับตาลง ตอนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน คณิศรกอดขวดเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ท่านภาว
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน นึกว่าเห็นแก่คนแก่ เอาที่หนูเมี่ยงสบายใจ แต่ย่าบอกแล้วเมื่อรับเป็นหลานอีกคนก็จะไม่ผลักไสไล่หนี เมี่ยงอยู่ที่นี่จนกว่าสบายใจ ไม่อยากกลับไปอยู่กับดินก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่แหละ ใช้ชีวิตของตัวเอง ดูแลคุณป้า...”จ้องสบตากับคุณช่อม่วงที่ตอนนี้หลบสายตาของคุณย่ามณีแล้ว“อยากทำอะไรก็ทำ ไปหางานทำก็ได้ แต่ย่าจะให้คนของย่าโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เงินจากกงสีนั่นแหละ ถือว่าเป็นหลานสาวแล้ว เป็นคนในครอบครัว และถ้าวันไหนเจอคนที่ถูกใจ อยากจะแต่งงานด้วย ค่อยไปบอกย่าก็แล้วกัน หาคนที่ดูแลกันได้ แล้วย่าจะให้ดินหย่าให้”ดูเหมือนคุณย่ามณีจะไม่รบเร้าอีกต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ขวางไป เรือลำใหญ่แค่ไหนก็ล่มได้“สายพิณกลับเถอะ”กลายเป็นว่าคนที่ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าคือสายพิณเสียเอง“พี่พิณก็ไม่เคยมีผัว หรือว่ามีความรักหรอกนะคะ แต่เห็นอยู่หลายคู่ การให้อภัยกันต่างหากค่ะที่มันควรจะเริ่มจากคนในครอบครัว เหมือนที่คุณย่าพูดค่ะคุณเมี่ยง ใครก็ทำผิดพลาดกันได้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราญยังรู้พลั้ง ถ้าไม่รักคุณดิน ก็รักคุณย่านะคะ ถ้าคิดว่ายังเป็นหลานคุณย่าก็กลับบ้านเรา” สายพิณเข้ามาประคองคุณย่า อ
ผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ที่คณิศรนั่งเป็นคนบ้าใบ้ สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกที่จะโทรไปหาคุณย่ามณี คณิศรได้เล่าเรื่องความจริงทุกอย่างให้ฟัง ท่านโกรธคณิศรมากและก็บอกให้คณิศรไปตามหาชนิษฐาที่บ้านของคุณป้าช่อม่วง เพราะว่าทางนั้นได้โทรมาบอกแล้วว่า... หลานสาวอยู่ที่บ้าน เอาแต่ร้องไห้ และขังตัวเองอยู่ในห้อง ถามอะไรก็ไม่บอก“ดิน... ย่าโกรธดินมากรู้ไหม ทำไมฮึ ทำไมทำแบบนี้” ความจริงที่มาจากปากของหลานชาย คุณย่าถึงกับประกาศกร้าว“ถ้าแกยังพาหนูเมี่ยงกลับมาไม่ได้ แกก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านของย่าอีก” คณิศรได้ยินคุณย่าร้องไห้ เขาทิ้งตัวลงไปนอนบนฟูก และจ้องมองรูปแต่งงานที่อยู่บนฝาผนังรอยยิ้มของชนิษฐาที่ทำให้โลกของเขาสว่างไสว การเอาใจใส่ของเธอทำให้เขาแยกออกระหว่างความรักและความใคร่ ตอนนี้คณิศรรู้แล้วว่าเขาคงจะขาดเธอไม่ได้ “เมี่ยง... พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” เขาคอตกได้แต่พึมพำคำนี้ออกมาเดิม ๆ ซ้ำ ๆก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆคุณช่อม่วงเคาะประตูอยู่ข้างนอก กำลังจะเอากุญแจเสียบไขเข้าไป แต่ชนิษฐาเป็นคนลุกมาเปิดออกก่อน พอเห็นหน้าป้า เธอก็โผเข้ากอดแน่น ตัวสั่นเทาราวกับลูกนกเจอฝน คุณป้าถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ“เมี่ยงความจริง และรู้แล
ชนิษฐาที่อยู่ด้านนอกประตูแพถึงกับชาดิก เธอรู้ได้ทันทีว่าข้างในห้องนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ มือสั่นๆ ค่อยๆ จับและบิดลูกบิด ชนิษฐาเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบาภาพที่เห็นสุธาวีกำลังอมท่อนยักษ์ของสามีของเธออยู่ และคณิศรครางอู้อ้า เขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านผู้หญิงคนนี้เลย‘นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ หยาดน้ำจากตาไหลพราก ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นสามีทรยศตนเต็ม ๆ ตาชนิษฐาจำผู้หญิงคนนี้ได้ สุธาวีเป็นรุ่นพี่ที่ควงกันกับคณิศรมาโดยตลอดเขากลับมาคบกันอีกครั้งกระนั้นเหรอ“ดินคะ อู้... ซี้ด ใหญ่อะ นี่แหละที่ทำให้หวายไม่เคยลืมคุณ หวายก็คิดว่าคุณก็ไม่เคยลืมหวายจริงไหมคะ อ้า...”เสียงกระเส่าช่างกรีดใจคนฟัง“ดิน...เราสองคนมามีความสุขด้วยกันนะคะ”แล้วสุธาวีก็ถลกกระโปรงของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็แหวกกางเกงในจีสตริง หญิงสาวจัดแท่งบุรุษของคณิศรสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของตัวเอง เธอแหงนหน้าสูดปากราวกับกินของร้อน พร้อมกับกดตัวเองลงไปแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับคณิศรไม่รีไม่รอ สุธาวีขยับโยกราวกับจ๊อกกิ้งสาวที่โยกม้าแข่งอยู่ในสนาม คณิศรนั้นได้แต่ส่งเสียงครางอู้อ้าสูดปากเสียงกระเส่าไม่ขาดสายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆเล
“เมี่ยงจะไปไหนน่ะลูก”“เมื่อวานนี้พี่ดินอยากกินคั่วไก่น่ะค่ะ เมี่ยงก็เลยอาสาทำให้กิน”“ข้าวเที่ยงหรือ รีบไปสิลูกไป จะได้กินข้าวกัน ดินเขาทำงานหนักนะช่วงนี้ ย่าว่าจะต้องลืมกินข้าวเที่ยงแน่ๆ มั้ง อ้าว... ตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วนี่”“มันทำยากนะคะคุณย่า กว่าจะเคี่ยวให้เนื้อไก่นุ่ม”“ก็นั่นน่ะสิ หนูเมี่ยงยังเลือกไก่ไม่เป็น เราต้องเลือกไก่สาวรุ่นๆ เข้าใจไหม โดนแม่ค้าหลอกเอาเสียแล้ว” ชนิษฐาได้แต่หัวเราะสายพิณอยู่ใกล้รีบแซวคุณย่ามณี“ที่ว่าเหนียวเนี่ย เพราะว่าคุณย่าเองก็เคี้ยวไม่ขาดใช่ไหมคะ”“จ้านางสายพิณเอ๋ย ของเหนียว ของแข็ง ไม่ต้องเอามาให้ฉันกินหรอกนะ ว่าแต่จะบ่ายโมง ยังไม่มีอะไรมาให้กินอีก วันนี้ขอเป็นอาหารนุ่มๆ นะ”“ได้ค่ะคุณย่า พิณเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”“คุณย่าค่ะ กินข้าวเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมกินยานะคะ”“โอเคๆ หนูเมี่ยงขับรถดีๆ นะลูก”“ค่ะ”หัวใจของชนิษฐาโบยบินไปหาคณิศรแล้ว การได้แต่งงานและมาอยู่กับเขา หลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด ซ้ำเธอยังเก่งที่สามารถทำอะไรอย่างกับรู้ใจสามีได้เป็นอย่างดีอีกอย่าง และที่น่าปลื้มใจ คณิศรทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลายแต่ทว่า... วันนี้... ที