‘พูดแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน พี่ดินพามาบ้าน มาหาย่า นั่นหมายถึง ไม่มั้ง’ หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ วันนี้คณิศรทำดีกับเธอ ให้ความสนิทสนมแบบคนที่น่าไว้ใจ อีกอย่างเขาโปรยเสน่ห์ให้เธออย่างรุนแรง จนเธอหัวใจจะระเบิดไปหลายรอบ
ความเป็นจริงชนิษฐาไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ ตอนนี้คณิศรกำลังโปรยหว่านให้เธอรักให้เธอหลงเขา ดวงตาที่พร่างพราวนั่นทำให้เธอตกบ่วงรักลงไปอย่างง่ายดายความชอบที่มีมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่
เธอกวาดสายตามองไปรอบบ้านของคุณย่า เพื่อลดความกังวล แต่ยิ่งเห็นว่าเขาร่ำรวย และฐานะที่แตกต่าง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่ มือเย็นมาก
คณิศรจับมือของเธอแล้วบีบ หญิงสาวจึงยกหน้ามองเขา
“เมี่ยงไม่กังวล และไม่ต้องกลัวนะ ย่าของพี่ใจดีมากครับ”
“ค่ะ ค่ะ คือเมี่ยงยังไม่เคยไปบ้านเพื่อนคนไหนเลยนะคะ พี่ดินเป็นคนแรกที่เมี่ยงมาเยี่ยมบ้านค่ะ”
“พี่ใช่เพื่อนของเมี่ยงที่ไหนกัน” เขายิ้มให้อย่างกรุ่มกริ่ม เสน่ห์ของคณิศรมีเยอะแยะ สำหรับชนิษฐาเขาขยิบตาจ้องแบบหวานๆ ทำท่าทียักคิ้วลิ่วตาเล็กๆ น้อยๆ เธอต้องก็ติดกับดักเขาเสียแล้ว
สายพิณยกทุกอย่างมาตั้งที่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่คุณย่าออกมาจากห้องน้ำ ท่านตรงมายังทั้งสองหนุ่มสาว
คณิศรลุกขึ้นไปสวมกอดท่าน แล้วทำท่าออดอ้อน เขาหอมแก้มเหี่่ยวๆ ของคุณยายอย่างแสนรัก
“ไม่ต้องมาทำดีเอาตอนนี้นะ ชิ... ไม่กลับมานอนที่บ้านเมื่อคืน หายหัวไปเลย” พูดแล้วท่าก็หยิกเหน็บลงไปที่ผิวหนังเนื้อแขนของเขา
“โอ๊ย! ย่าครับ” คณิศรอุทานเบาๆ แล้วก็ทำปากปุ้ยใบ้ให้ย่ามองมาทางชนิษฐา
หญิงสาวยกมือไหว้ท่าน ทันทีที่ได้สบสายตา
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
กิริยาที่อ่อนหวานแช่มช้อย ใบหน้าที่หมดจด แถมยังรอยยิ้มที่พิมพ์ใจ รวมถึงการแต่งเนื้อแต่งตัว ทำให้คุณย่าถึงกับยิ้มออกมาทั้งสายตาอย่างพึงพอใจ
ท่านตีเผียะไปที่แขนของหลานชาย
“ทำไมไม่บอกว่าจะพาน้องมาเที่ยวที่บ้าน”
“น้องชื่อเมี่ยงครับย่า ถ้าผมบอกย่า ก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ”
ย่ามณีดีใจมากๆ ที่เห็นเห็นหลานชายควงสาวสวยมาเจอ และเป็นผู้หญิงที่น่ามองไปทุกระเบียบนิ้ว ผิดจากสาวๆ ที่คุณย่าเคยเห็นๆมา เอาที่คณิศรควงมาให้เจอโดยบังเอิญ ไม่นับรวมที่สายสืบที่รอบตัวของคณิศรได้แอบส่งรูปถ่ายมาให้
“เมี่ยงเป็นรุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันครับ แต่คนละคณะ เธอเรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ”
“ดีใจจังเลยที่ได้เจอหนูเมี่ยงนะ”
ได้รับการต้อนรับแบบนี้เธอก็ยิ้มนวล คุณย่าเดินเข้ามาหา และจับเนื้อจับตัว สายตาของท่านก็เพ่งพิจารณาไปทั่วร่างของชนิษฐา
ความอุ่นใจเกิดขึ้นมาอย่างประหลาด เธอรับรู้ได้ถึงความใจดีของคุณย่ามณี
“เป็นแฟนกันนานแล้วเหรอ คบกันนานหรือยัง ไม่เห็นพี่ดินเคยพูดถึงเลย ฮึ... น่าตีนัก” ไม่พูดเปล่า หันไปตีหลานชายอีกครั้ง
ชนิษฐาไม่พูดอะไรเ พราะเธอไม่ได้คบกับคณิศรแบบแฟน แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะเกรงจะเป็นการหักหน้าของท่าน
“ผมก็อยากขอเมี่ยงเป็นแฟนเหมือนกันครับ”
ชนิษฐาถึงกับตะลึง เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ปีนี้น้องก็จะเรียนจบแล้วครับคุณย่า เหลือแค่สอบไฟนัล”
“จริงเหรอ” หันไปถามเอากับชนิษฐา
“ค่ะ” เธอตอบออกไปอย่างไว สายตามองสลับใบหน้าของคุณย่าและคณิศร
ที่จริงชนิษฐาเพราะไม่รู้จะพูดอะไร จริงๆ มันไม่ตั้งตัวที่จะได้เยินคำพูดอย่างนี้จากเขา คณิศรยังไม่ได้บอกชอบเธอสักคำ แต่บอกคุณย่าว่าเขาอยากเป็นแฟนกับเธอ
“กิจการงานบ้านเรามีเยอะแยะ หนูเมี่ยงจบแล้ว ก็แต่งงานกับพี่ดินเลยนะลูก ย่าจะจัดงานให้อย่างใหญ่โต”
“คุณย่าคะ คือว่า...” ชักจะเลยเถิด เธอกำลังจะขวาง
แต่คณิศรกับพูดขัด...
“ขอบคุณมากครับคุณย่า” คณิศรรีบยกมือไหว้ แล้วกอดประจบคุณย่า ท่านเลยใช้มืออีกข้างหนึ่งดึ่งร่างของหญิงสาวเข้ามากอดอีกคน
“รู้ไหมวันนี้เป็นวันที่ย่าดีใจที่สุดเลย คงกินข้าวได้อร่อยแน่ๆ พิณตักข้าวเลยนะ”
“ค่ะ”
ทุกคนหันมามองหน้าชนิษฐาอย่างยินดีต้อนรับเธอเข้ามาสู่ครอบครัวดี
คณิศรยิ้มเต็มใบหน้าให้กับชนิษฐา เธอส่ายหัวนิดๆ แต่เขากลับพยักหน้าหน่อยๆ เป็นอันรู้กัน เหมือนกับคณิศรจะบอกกับเธอว่าเขาตั้งใจจริง
ชนิษฐาเครียดจนคิ้วขมวด เขาชอบเธอตรงไหน เมื่อไร? ซึ่งมันหาคำตอบไม่ได้
คณิศรทำมือวาดในอากาศเป็นรูปหัวใจ บอกกับเธอนัยๆ ว่า เขาและเธอหัวใจตรงกัน
ทั้งสองหนุ่มสาวอยู่คุยกับคุณย่าเกือบสองชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะขอตัวกลับ
“วันมะรืน ย่าจะไปสู่ขอหนูกับคุณป้านะ”
‘ไวมาก’ เธอยังไม่รู้จะเกริ่นบอกป้าช่อม่วงอย่างไรเลย ทุกอย่างกะทันหันไปหดม ชนิษฐายังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ อีกอย่างคณิศรยังไม่ได้บอกรักเธอเลย...
แต่ความรักที่เธอมีให้กับเขามากมายก่ายกอง ความชอบที่มากจนล้นหัวใจ ที่มอบให้กับคณิศร ทำให้เธอไม่ปฏิเสธกับเรื่องนี้
ชนิษฐาคิดวนเวียน เหมือนมีราชรถมาเกยถึงหน้าประตูบ้าน ถ้าเธอไม่ก้าวขาขึ้น ก็คงจะผิดปกติ อีกอย่างราชรถคันนี้ คนขับเป็นคนที่เธอคลั่งไคล้ไหลหลงมากๆ เสียด้วยนั่นคือความสมหวังในชีวิตครั้งแรกของชนิษฐาเลยก็ว่าได้ เธอเคยอธิษฐานว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคณิศร แล้ววันนี้ทุกอย่างมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้แต่จะมีเหตุการณ์อะไรบอกกล่าวล่วงหน้า‘ฉันควรยิ้มรับกับความโชคชะตานี้ใช่ไหม’ ชนิษฐาถามตัวเองอีกครั้ง“ว่าไงจะหนูเมี่ยง มะรืนนี้นะ บอกคุณป้าของหนูเอาไว้ด้วย”“ค่ะ” เธอรับปากออกไปอย่างแผ่วเบา ชนิษฐาไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีกแล้วจริงๆหลังจากออกมาจากบ้านคุณย่ามณีแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งรถไปด้วยกันอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร จนเธอรู้สึกอึดอัด ชนิษฐาหันไปหาคณิศร“ทำไมพี่ดินพูดแบบนั้นคะ นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วค่ะ”คณิศรเบรกรถกะทันหัน แล้วค่อยๆ พารถเข้าข้างทาง“พี่คิดว่าเมี่ยงชอบพี่เสียอีก เมี่ยงไม่ได้สนใจพี่ใช่ไหม แล้วเมื่อกี้ที่รับปากว่าจะให้ย่าไปสู่ขอ หมายถึงตอนนี้เมี่ยงอยากจะปฏิเสธ” สายตาของเขาดูจริงจัง ไม่เหมือนที่อยู่กับคุณย่าเลย ที่ทั้งขี้เล่น แล้วก็มองเธออย่างไม่ละสายตาชนิษฐาได้แต่อึกอัก พูด
คณิศรกลืนน้ำลายดังเอื้อก เขามีคำตอบในใจ รูปร่างอรชรตรงหน้าช่างสวยงามราวกับจับปั้น ชายหนุ่มตะลึงไปอึดใจ และก็เอาแต่จ้องมองร่างบางที่สมส่วนกลมกลึงอย่างตาไม่กะพริบเขายังเผลอกลืนน้ำลายลงไปในคอดังอึก แล้วก็ได้คืนสติ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นของเขา และหากได้เข้าพิธีแต่งงาน ชนิษฐาก็จะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามประเพณีและตามกฎหมายเขาไม่อยากจะพิจารณาร่างกายนวลหวานของเธอด้วยสายตาอีกแล้ว คณิศรส่งฝ่ามือลงไปลูบไล้เรือนกายบาง มือที่หนาหยาบของผู้ชายทำให้ชนิษฐาส่ายดิ้น เธอผินหน้าหนีพร้อมกับหลับตา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะกลั้นลมหายใจอีกครั้งใบหน้าของคณิศรคลุกเคล้าลงไปแบบไม่อยากให้เสียเวลา ตอนนี้เขาต้องทำอย่างที่อยากทำ ต้องทำให้ชนิษฐาเป็นของเขา เพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธหญิงสาวแขม่วหน้าท้องจนแบนราบ ยามที่เขาไล่แตะไต่ใบหน้า และใช้ปลายลิ้นและปลายจมูกโด่งสัมผัสไปทุกรูขุมขน ไม่เว้นแม้แต่เอวคอด และสะโพกกลมผายยามใบหน้าของคณิศรไล่พ่นลมหายใจผ่านหน้าท้องลงต่ำ เคลื่อนสู่โหนกสาวและหยุดทักทายแพขนสีเดียวกับเส้นผม และไล่เรื่อยลงไปถึงต้นขาเรียวงามชนิษฐาสะท้านสะเทือนไปถึงก้นบึ้งของหั
แม้คุณป้าช่อม่วงจะพร่ำสอนว่า อย่าใจอ่อนยอมไปนอนกับผู้ชาย พวกนี้มันล่อลวงและมักทำให้ผู้หญิงที่ตกหลุมรักตกหลุมพราง แล้วเมื่อปล่อยตัวปล่อยใจเผลอไผลไปแล้ว คนที่จะตกที่นั่งลำบาก และมีแต่ความเสียใจก็คือผู้หญิงเองทว่าตอนนี้ชนิษฐาไม่สนคำสอนใดๆ ไม่ว่าจะป้าหรือครูบาอาจารย์ที่บอกว่าให้รักนวลสงวนตัว หัวใจของเธอเตลิดอยากรู้ว่าคณิศรจะพาเธอโลดเล่นในเกมรักนี้ แล้วมันจะไปจบที่ตรงไหน“อื้อ...” เขาครางส่ง พร้อมกับกดแทรกแกนแกร่งลงไปในร่องน้อยๆ ทันที่ที่หัวหยักผลุบเข้าไปช่องคับแคบก็บีบท่อนลำของเขาจังๆ คณิศรถึงกับส่งเสียงครางอู้อ้า ผละจากกลีบปากแหงนหน้าสูดปากดังซู้ดซ้าดเหมือนกับกินของเผ็ดๆ“โอ๊ย! เจ็บค่ะ พี่ดินขา เจ็บ อี้... อะ... เจ็บ เอามันออกก่อนได้ไหมคะ” น้ำเสียงอ้อนวอนเขาเป็นที่สุด มือน้อยๆ ที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและหัวไหล่ของเขา ตอนนี้จิกเล็บลงเนื้อหนังของคณิศรแล้วลากเป็นทางยาวเพื่อระบายความเจ็บปวดที่เธอได้รับท่อนแข็งแรงของคณิศรเหมือนจะฉีกร่างของเธอให้ออกเป็นสองส่วน เธอสั่นหน้า จ้องสบตากับเขาอย่างอ้อนวอน แต่ทว่าคณิศรก็เดินหน้าตอกอัดเสาเข็มใหญ่ของเขาไปเรื่อย“อื้อ อูย เจ็บ... ซี้ด...” ยิ่งลงลึกก็ยิ่ง
ที่บ้านของคุณป้าช่อม่วงท่านนั่งอยู่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด สายตาจ้องมองหน้าหลานสาว ที่ตอนนี้เธอได้เอ่ยพูดขึ้นมาว่า“หนูได้เสียกับพี่ดินแล้วค่ะ”คุณป้าไม่พูดใดๆ โกรธจนหน้าขุ่นเขียว ถึงกับหยิกไปที่แขนของหลานสาวแรงๆ“ทำไมทำตัวอย่างนี้ฮะ เรียนหนังสือยังไม่จบปริญญาตรีด้วยซ้ำไป ริอาจจะมีผัวแล้วเหรอ แล้วรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมป้าไม่เคยรู้ฮึ... ไม่เคยคิดจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน เมี่ยงทำแบบนี้ เมี่ยงยังเห็นหัวของป้าอยู่ไหม ฮึ... ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่พ่อแม่แกตาย ยังไงก็ต้องเห็นนึกเห็นหน้ากันบ้าง แล้วสอนไม่จำ บอกกี่ครั้งว่า... อย่าทำแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” คำพูดที่พรั่งพรูอย่างเสียใจออกมามากมายชนิษฐาน้ำตาไหลพรากๆ เธอทั้งขายหน้าและเสียใจด้วย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วทุกอย่างคุณย่ามณีเอ่ยเร็วทันที“คุณช่อม่วงจ๋า เห็นแก่ฉันเถอะนะ อย่าตีหนูเมี่ยงเลย ฉันมีหลานแค่คนเดียว ก็คือดินนี่แหละ ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่าเด็กสองคนนี้รักกัน แต่เห็นว่าสองคนรักกันจริงๆ ในเมื่อรักกันดี ฉันก็อยากจะมาเอ่ยปากกับทางนี้เสียให้เรียบร้อย และคุณช่อม่วงไม่ต้องกลัวนะว่าหลานชายของฉันจะทิ้งหลานสาวของคุณน่ะ เพราะถึงอย่างไรนับตั้งแ
คณิศรรับเอาแหวนไปจากมือของคุณย่า จากนั้นก็บรรจงสวมบนนิ้วนางข้างซ้ายให้กับชนิษฐา แหวนวงนั้นที่อยู่บนนิ้วของเธอก็ช่างพอเหมาะพอเจาะ คุณย่าได้จับมือเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ก็รู้ขนาดแหวนวงนี้“มูลค่าของมันไม่ต้องนับนะ เอาเป็นว่านับไม่ถ้วน”แล้วคุณย่าก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน เป็นชุดเครื่องเพชรอีกชุดหนึ่งที่เตรียมมา ท่านได้ยื่นให้กับคุณช่อม่วง“ส่วนนี่ฉันขอมอบให้คุณช่อม่วง ฉันให้เป็นของที่ระลึกที่เราสองครอบครัวจะได้เกี่ยวดองกัน”คุณช่อม่วงถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก แต่ก็น้อมรับ แล้วยกมือไหว้“ขอบคุณค่ะ”“ก็ถือว่าเราเป็นญาติกันแล้วนะคะ ส่วนงานแต่งงาน ก็ให้หนุ่มสาวเข้าไปคุยกันเอาเองดีไหมค่ะ เอาฤกษ์ที่สะดวก”“ค่ะ แต่ก็ต้องรอให้เมี่ยงสอบให้เสร็จ จบการศึกษาเสียก่อนนั่นแหละค่ะ”“อื้อ... เอ่อ... ไม่รู้ว่าหนูเมี่ยงได้บอกคุณช่อม่วงไหมว่า อ่า... เมื่อวานนี้ทั้งสองคนน่ะเข้าไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้วเพียะ... ป้าตีไปที่แขนของชนิษฐาอีกครั้ง“ยายเมี่ยงเธอนี่น่าตีจริงๆ นะ เห็นป้าเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง” น้ำเสียงเขียวขึ้นมาอีกครั้งชนิษฐาขยับตัวเข้าไปกอด เธอซบหน้าลงไปที่หน้าตักของคุณป้า“ป้าขา เมี่ยงขอโทษจร
ที่แพแห่งความสุขชนิษฐานั่งทับแกนกายของคณิศรอยู่ เธอขยับโยกตามแรงบังคับของมือหนาใหญ่ของเขา ซึ่งหญิงสาวก็ได้แต่ทำตัวร้อนแรงโยกตามความรู้สึกของตนเองและคณิศร รวมถึงปรารถนาที่เร่าร้อนที่ปะทุออกมาจากร่างกาย เพราะแรงยั่วยุและเล้าโลมของคณิศรความสุขแผ่ซ่านไปทั้งสองร่างกาย เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสมดังลั่นห้อง ก่อนที่ชนิษฐาซบหน้าลงไปกับหัวไหล่กว้างของคณิศร“ถึงสวรรค์ไม่รอพี่เลยนะเมี่ยง”“ก็มันเสียวนี่คะพี่ดิน”“สนุกคนเดียวไม่ได้แล้ว ขอพี่จัดสักทีเถอะ” แล้วเขาก็ยกตัวของชนิษฐาขึ้น หลังจากนั้นก็จับเธอให้คลานเข่าอยู่บนที่นอนคณิศรเข้าประกบอยู่ทางด้านหลังของเธอ เขาจับส่งแกนกายแข็งๆ เข้าไปในส่วนเร้นลับที่คับแคบตอดแน่น จากนั้นก็คณิศรได้กระแทกส่งเสือกไปข้างหน้า แรงส่งทำให้หัวหยักมนชนผนังภายในไปหนักๆหญิงสาวได้แต่ผวาหายใจหายใจเฮือก สองมือกำขยุ้มผ้าปูที่นอนจนเจ็บมือ ชนิษฐายังหยัดสะโพกแข็งขืนรอรับการขยับกระแทกของเขา ที่เสือกส่งความเป็นชายเข้าไปข้างในช่องทางน้อยๆ ที่ทำแสนหรรษาแบบนับครั้งไม่ได้คณิศรคำรามเสียงสุขอยู่ในลำคอ ผสานกับเสียงสอดผสานของท่อนแข็งกับร่องน้อยๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นตับ ตับ ตับ...
(“ดินน่ะพาเมี่ยงกลับมาบ้านได้แล้วนะ ย่าจะรอกินข้าวเย็น”)“ครับ ผมกำลังจะพากันออกจากที่นี่ครับ”(“รีบมาเร็วๆ เข้า ย่าหิวข้าว”)“ครับ” คณิศรวางสาย“คุณย่าโทรมาเหรอคะ”“จ้ะ ย่าให้กลับบ้านตอนนี้”“ไปกันเถอะค่ะพี่ดินให้คุณย่ารอนานไม่ดี คุณย่ามียาหลังอาหารกินด้วยนี่คะ”“ต่อไปเมี่ยงช่วยดูแลย่าเรื่องนี้ด้วยนะ” คณิศรมองทะลุแล้ว คนที่เขาจะฝากคุณย่าไว้ใจให้ดูแลได้ ก็คงเป็นชนิษฐาสองหนุ่มสาวพากันออกจากแพภายในใจของชนิษฐา เธอรู้สึกยินดีที่คุณย่าให้ความรักและเมตตากับเธอ เหมือนกับฟ้าประทาน หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าชีวิตของเธอจะมีแต่เรื่องราวๆ ดีๆ นับตั้งแต่บัดนี้ทั้งสองคนมาถึงบ้านแล้ว สายพิณรีบตั้งโต๊ะทันที“นี่หนูเมี่ยงมาดูรูปเร็ว ย่าเอาไปอัดเป็นรูปถ่าย”ชนิษฐารีบตรงเข้าไปหาท่าน คุณย่ามณีเอาอัลบั้มออกมาโชว์“คุณย่าคะน่ารักจังเลยค่ะ”“เดี๋ยวนี้ทันสมัยกว่าสมัยก่อนเยอะ เมื่อก่อนต้องถ่ายกันเป็นม้วนฟิล์ม ตอนถ่ายน่ะไม่รู้หรอกว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร โน้นต้องดูตอนที่ช่างเขาเอามาให้แล้วเก็บเงิน โอ้ยบางรูปดูไม่ได้ แต่ก็ต้องซื้อเก็บเอาไว้ แต่ดูสมัยนี่สิ สมัยนี้รูปถ่ายชัดแจ๋วๆ ทั้งนั้น นี่ย่ากำลังคิดนะว่าย่า
เพล้ง.... แก้วเหล้าในมือของสุธาวีถูกขว้างไปกระทบกับพื้นห้อง จนแตกกระจายหญิงสาวทรุดนั่งลงกับพื้น น้ำตาไหลพราก ฟูมฟายออกมาด้วยความเสียใจ การที่เธอถ่อไปหาเขาที่บ้าน เพราะสุธาวีตั้งใจว่าจะไปแนะนำตัวกับคุณย่า และเซอร์ไพส์คณิศรแต่คุณย่ามณีก็ยกเอาอัลบั้มรูปคู่ของหลานชายและหลานสะใภ้ออกมาให้ดูอย่างหน้าชื่นตาบาน นั่นทำให้สุธาวีได้รู้ว่า เธอได้ทำสิ่งพลาดผิดไป“ดินอย่าหวังว่าคุณจะมีความสุขกว่าหวายนะ ถ้าหวายไม่มีความสุข ดินกับอีเมียคนไหนของคุณก็ต้องไม่มีความสุข คุณน่ะขาดหวายไม่ได้หรอก แล้วหวายจะพิสูจน์ให้ดู คอยดูนะคะดิน” เธอหมายมั่นปั้นมือ สุธาวียกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาการเสียน้ำตาในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความเสียดายคณิศร แต่มันเกิดจากคำว่าของตายที่เปลี่ยนไปมีชีวิตในน้ำใหม่ต่างหากเสียใจว่า... คณิศรหาผู้หญิงมาแต่งงานด้วยได้เร็วเกินไป นั่นต่างหากที่เธอเจ็บใจ... ที่เธอทำพลาดเองและในจังหวะนั้น มือถือของสุธาวีก็มีแจ้งเตือนแชทเด้งเข้ามาจากแอพหาคู่ที่เธอกำลังเล่นอยู่ เป็นข้อความจากฝรั่งที่จับแมทชิ่งกับเธอได้สุธาวีรีบหยิบมือถือ ข้อความที่ส่งมาเป็นภาษาอังกฤษMr M:คุณอยู่แถวนี้หรือเปล่าครับ ผมพักอยู่ที