คณิศรรับเอาแหวนไปจากมือของคุณย่า จากนั้นก็บรรจงสวมบนนิ้วนางข้างซ้ายให้กับชนิษฐา แหวนวงนั้นที่อยู่บนนิ้วของเธอก็ช่างพอเหมาะพอเจาะ คุณย่าได้จับมือเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ก็รู้ขนาดแหวนวงนี้“มูลค่าของมันไม่ต้องนับนะ เอาเป็นว่านับไม่ถ้วน”แล้วคุณย่าก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน เป็นชุดเครื่องเพชรอีกชุดหนึ่งที่เตรียมมา ท่านได้ยื่นให้กับคุณช่อม่วง“ส่วนนี่ฉันขอมอบให้คุณช่อม่วง ฉันให้เป็นของที่ระลึกที่เราสองครอบครัวจะได้เกี่ยวดองกัน”คุณช่อม่วงถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก แต่ก็น้อมรับ แล้วยกมือไหว้“ขอบคุณค่ะ”“ก็ถือว่าเราเป็นญาติกันแล้วนะคะ ส่วนงานแต่งงาน ก็ให้หนุ่มสาวเข้าไปคุยกันเอาเองดีไหมค่ะ เอาฤกษ์ที่สะดวก”“ค่ะ แต่ก็ต้องรอให้เมี่ยงสอบให้เสร็จ จบการศึกษาเสียก่อนนั่นแหละค่ะ”“อื้อ... เอ่อ... ไม่รู้ว่าหนูเมี่ยงได้บอกคุณช่อม่วงไหมว่า อ่า... เมื่อวานนี้ทั้งสองคนน่ะเข้าไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้วเพียะ... ป้าตีไปที่แขนของชนิษฐาอีกครั้ง“ยายเมี่ยงเธอนี่น่าตีจริงๆ นะ เห็นป้าเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง” น้ำเสียงเขียวขึ้นมาอีกครั้งชนิษฐาขยับตัวเข้าไปกอด เธอซบหน้าลงไปที่หน้าตักของคุณป้า“ป้าขา เมี่ยงขอโทษจร
ที่แพแห่งความสุขชนิษฐานั่งทับแกนกายของคณิศรอยู่ เธอขยับโยกตามแรงบังคับของมือหนาใหญ่ของเขา ซึ่งหญิงสาวก็ได้แต่ทำตัวร้อนแรงโยกตามความรู้สึกของตนเองและคณิศร รวมถึงปรารถนาที่เร่าร้อนที่ปะทุออกมาจากร่างกาย เพราะแรงยั่วยุและเล้าโลมของคณิศรความสุขแผ่ซ่านไปทั้งสองร่างกาย เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสมดังลั่นห้อง ก่อนที่ชนิษฐาซบหน้าลงไปกับหัวไหล่กว้างของคณิศร“ถึงสวรรค์ไม่รอพี่เลยนะเมี่ยง”“ก็มันเสียวนี่คะพี่ดิน”“สนุกคนเดียวไม่ได้แล้ว ขอพี่จัดสักทีเถอะ” แล้วเขาก็ยกตัวของชนิษฐาขึ้น หลังจากนั้นก็จับเธอให้คลานเข่าอยู่บนที่นอนคณิศรเข้าประกบอยู่ทางด้านหลังของเธอ เขาจับส่งแกนกายแข็งๆ เข้าไปในส่วนเร้นลับที่คับแคบตอดแน่น จากนั้นก็คณิศรได้กระแทกส่งเสือกไปข้างหน้า แรงส่งทำให้หัวหยักมนชนผนังภายในไปหนักๆหญิงสาวได้แต่ผวาหายใจหายใจเฮือก สองมือกำขยุ้มผ้าปูที่นอนจนเจ็บมือ ชนิษฐายังหยัดสะโพกแข็งขืนรอรับการขยับกระแทกของเขา ที่เสือกส่งความเป็นชายเข้าไปข้างในช่องทางน้อยๆ ที่ทำแสนหรรษาแบบนับครั้งไม่ได้คณิศรคำรามเสียงสุขอยู่ในลำคอ ผสานกับเสียงสอดผสานของท่อนแข็งกับร่องน้อยๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นตับ ตับ ตับ...
(“ดินน่ะพาเมี่ยงกลับมาบ้านได้แล้วนะ ย่าจะรอกินข้าวเย็น”)“ครับ ผมกำลังจะพากันออกจากที่นี่ครับ”(“รีบมาเร็วๆ เข้า ย่าหิวข้าว”)“ครับ” คณิศรวางสาย“คุณย่าโทรมาเหรอคะ”“จ้ะ ย่าให้กลับบ้านตอนนี้”“ไปกันเถอะค่ะพี่ดินให้คุณย่ารอนานไม่ดี คุณย่ามียาหลังอาหารกินด้วยนี่คะ”“ต่อไปเมี่ยงช่วยดูแลย่าเรื่องนี้ด้วยนะ” คณิศรมองทะลุแล้ว คนที่เขาจะฝากคุณย่าไว้ใจให้ดูแลได้ ก็คงเป็นชนิษฐาสองหนุ่มสาวพากันออกจากแพภายในใจของชนิษฐา เธอรู้สึกยินดีที่คุณย่าให้ความรักและเมตตากับเธอ เหมือนกับฟ้าประทาน หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าชีวิตของเธอจะมีแต่เรื่องราวๆ ดีๆ นับตั้งแต่บัดนี้ทั้งสองคนมาถึงบ้านแล้ว สายพิณรีบตั้งโต๊ะทันที“นี่หนูเมี่ยงมาดูรูปเร็ว ย่าเอาไปอัดเป็นรูปถ่าย”ชนิษฐารีบตรงเข้าไปหาท่าน คุณย่ามณีเอาอัลบั้มออกมาโชว์“คุณย่าคะน่ารักจังเลยค่ะ”“เดี๋ยวนี้ทันสมัยกว่าสมัยก่อนเยอะ เมื่อก่อนต้องถ่ายกันเป็นม้วนฟิล์ม ตอนถ่ายน่ะไม่รู้หรอกว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร โน้นต้องดูตอนที่ช่างเขาเอามาให้แล้วเก็บเงิน โอ้ยบางรูปดูไม่ได้ แต่ก็ต้องซื้อเก็บเอาไว้ แต่ดูสมัยนี่สิ สมัยนี้รูปถ่ายชัดแจ๋วๆ ทั้งนั้น นี่ย่ากำลังคิดนะว่าย่า
เพล้ง.... แก้วเหล้าในมือของสุธาวีถูกขว้างไปกระทบกับพื้นห้อง จนแตกกระจายหญิงสาวทรุดนั่งลงกับพื้น น้ำตาไหลพราก ฟูมฟายออกมาด้วยความเสียใจ การที่เธอถ่อไปหาเขาที่บ้าน เพราะสุธาวีตั้งใจว่าจะไปแนะนำตัวกับคุณย่า และเซอร์ไพส์คณิศรแต่คุณย่ามณีก็ยกเอาอัลบั้มรูปคู่ของหลานชายและหลานสะใภ้ออกมาให้ดูอย่างหน้าชื่นตาบาน นั่นทำให้สุธาวีได้รู้ว่า เธอได้ทำสิ่งพลาดผิดไป“ดินอย่าหวังว่าคุณจะมีความสุขกว่าหวายนะ ถ้าหวายไม่มีความสุข ดินกับอีเมียคนไหนของคุณก็ต้องไม่มีความสุข คุณน่ะขาดหวายไม่ได้หรอก แล้วหวายจะพิสูจน์ให้ดู คอยดูนะคะดิน” เธอหมายมั่นปั้นมือ สุธาวียกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาการเสียน้ำตาในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความเสียดายคณิศร แต่มันเกิดจากคำว่าของตายที่เปลี่ยนไปมีชีวิตในน้ำใหม่ต่างหากเสียใจว่า... คณิศรหาผู้หญิงมาแต่งงานด้วยได้เร็วเกินไป นั่นต่างหากที่เธอเจ็บใจ... ที่เธอทำพลาดเองและในจังหวะนั้น มือถือของสุธาวีก็มีแจ้งเตือนแชทเด้งเข้ามาจากแอพหาคู่ที่เธอกำลังเล่นอยู่ เป็นข้อความจากฝรั่งที่จับแมทชิ่งกับเธอได้สุธาวีรีบหยิบมือถือ ข้อความที่ส่งมาเป็นภาษาอังกฤษMr M:คุณอยู่แถวนี้หรือเปล่าครับ ผมพักอยู่ที
ในใจของคณิศรบอกว่าควรรักผู้หญิงคนนี้ ที่อ่อนหวานอ่อนโยนไม่อิดออดที่จะทำอะไรตามที่เขาสั่ง ชนิษฐายินยอมที่จะมอบกายและถวายความสุขสมบูรณ์ของกายสาวให้กับเขาเชยชม เสียงครางหวานๆ ยังไพเราะเสนาะหู แม้จะไม่เจนจัดกับเรื่องบนเตียง แต่ชนิษฐาก็พร้อมที่จะเรียนรู้อีกอย่างหากทำชนิษฐาท้องได้ ความฝันของคุณย่าก็จะเป็นจริง อีกทั้งคณิศรจะได้เลิกคิดถึงผู้หญิงที่ใจร้ายอย่างสุธาวี ที่เห็นแก่ตัว จนมองข้ามในความเสียสละและความใจดีของเขาที่มีต่อเธอ คนบางคนถ้าไม่เห็นคุณค่ากับสิ่งที่เรามอบให้ก็อย่าไปสนใจจะดีกว่า“พี่ดินให้ทำอะไรคะ” ชนิษฐาถามเสียงหวาน กายอ่อนระทดระทวดอยู่ใต้ร่างของเขา“ทำอะไรก็ได้ ให้เราสองคนมีความสุขจ้ะ” คณิศรจับตัวหญิงสาวแล้วเปลื้องชุดนอนผ้าลื่นมือของเธอออกไปในทันที ชั้นในก็ไม่มี เพราะชายหนุ่มห้ามเธอใส่ในเวลานอน“น่ารักที่สุด เป็นเมียพี่ว่านอนสอนง่าย” คณิศรพูดชม จากนั้นก็ไล่งับนับเส้นขนของเธอ ชนิษฐาร้องลั่นสั่นสะท้าน มันเสียวสยิวที่สุด สูดปากเบาๆ อย่างรัญจวนใจคณิศรหมุนตัวและจ่อแท่งแข็งของเขาเข้าไปที่กลีบปาก โดยที่ไม่ต้องออกคำสั่ง เพราะชายหนุ่มก้มหน้าลงไปที่หว่างขาของหญิงสาว และฉกใบหน้าลงไปแล้ว
ในตัวเมืองเชียงใหม่ ในร้านอาหารมุมที่ลับตาคน“ทำไมคะ ลำบากลำบนมากเลยหรือไง ที่จะออกมาเจอหวายน่ะ” เธอตั้งท่าหาเรื่องเขาอีกแล้ว คณิศรไม่ยอมไปหาสุธาวีที่โรงแรม เขานัดเธอมาที่นี่“ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่าง”“ไม่ว่าง เพราะคุณคอยไปเอาใจเมียเด็กอยู่หรือไงคะ”น่าเจ็บใจ สุธาวีรู้ตัวช้าไป ชนิษฐาอายุน้อยกว่าเธอตั้งสามสี่ปี อีกอย่างเธอคนนั้นยังไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน แม้ว่าจริตจะก้านบนเตียงจะพ่ายแพ้ต่อสุธาวี แต่ทว่าความฟิตความสดสวยน่าจะมีมากกว่า ดีไม่ดีอาจจะมัดใจของคณิศรได้ตอนนี้ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ตาไม่มองเธอฉ่ำเยิ้มเหมือนทุกครั้งที่ได้เจอกัน“หวาย... คุยเรื่องของเราสองคนดีกว่า ไม่ต้องไปพาดพิงถึงคนอื่นหรอก”“ทำไมคะ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้หรือไงเมียของคุณน่ะ ทำไมดินถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”“ผมไม่ได้เปลี่ยนเลย ผมเคยรอคุณยังไง ก็ยังรอแบบนั้น แต่มันคงจะหมดเวลามั้ง”“คนนะคะ ไม่ใช่ของกินที่จะมีวันหมดอายุ”“หวาย... คนก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน ความตายไง แต่เรื่องนามธรรมเช่นความรักก็มีวันหมดได้”“อย่าบอกนะคะว่าดินหมดรักหวายแล้วน่ะ”“ผมคิดว่าที่ผ่านมา มันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้ หวายเองก็ควรถาม
“เมี่ยงจะไปไหนน่ะลูก”“เมื่อวานนี้พี่ดินอยากกินคั่วไก่น่ะค่ะ เมี่ยงก็เลยอาสาทำให้กิน”“ข้าวเที่ยงหรือ รีบไปสิลูกไป จะได้กินข้าวกัน ดินเขาทำงานหนักนะช่วงนี้ ย่าว่าจะต้องลืมกินข้าวเที่ยงแน่ๆ มั้ง อ้าว... ตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วนี่”“มันทำยากนะคะคุณย่า กว่าจะเคี่ยวให้เนื้อไก่นุ่ม”“ก็นั่นน่ะสิ หนูเมี่ยงยังเลือกไก่ไม่เป็น เราต้องเลือกไก่สาวรุ่นๆ เข้าใจไหม โดนแม่ค้าหลอกเอาเสียแล้ว” ชนิษฐาได้แต่หัวเราะสายพิณอยู่ใกล้รีบแซวคุณย่ามณี“ที่ว่าเหนียวเนี่ย เพราะว่าคุณย่าเองก็เคี้ยวไม่ขาดใช่ไหมคะ”“จ้านางสายพิณเอ๋ย ของเหนียว ของแข็ง ไม่ต้องเอามาให้ฉันกินหรอกนะ ว่าแต่จะบ่ายโมง ยังไม่มีอะไรมาให้กินอีก วันนี้ขอเป็นอาหารนุ่มๆ นะ”“ได้ค่ะคุณย่า พิณเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”“คุณย่าค่ะ กินข้าวเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมกินยานะคะ”“โอเคๆ หนูเมี่ยงขับรถดีๆ นะลูก”“ค่ะ”หัวใจของชนิษฐาโบยบินไปหาคณิศรแล้ว การได้แต่งงานและมาอยู่กับเขา หลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด ซ้ำเธอยังเก่งที่สามารถทำอะไรอย่างกับรู้ใจสามีได้เป็นอย่างดีอีกอย่าง และที่น่าปลื้มใจ คณิศรทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลายแต่ทว่า... วันนี้... ที
ชนิษฐาที่อยู่ด้านนอกประตูแพถึงกับชาดิก เธอรู้ได้ทันทีว่าข้างในห้องนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ มือสั่นๆ ค่อยๆ จับและบิดลูกบิด ชนิษฐาเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบาภาพที่เห็นสุธาวีกำลังอมท่อนยักษ์ของสามีของเธออยู่ และคณิศรครางอู้อ้า เขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านผู้หญิงคนนี้เลย‘นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ หยาดน้ำจากตาไหลพราก ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นสามีทรยศตนเต็ม ๆ ตาชนิษฐาจำผู้หญิงคนนี้ได้ สุธาวีเป็นรุ่นพี่ที่ควงกันกับคณิศรมาโดยตลอดเขากลับมาคบกันอีกครั้งกระนั้นเหรอ“ดินคะ อู้... ซี้ด ใหญ่อะ นี่แหละที่ทำให้หวายไม่เคยลืมคุณ หวายก็คิดว่าคุณก็ไม่เคยลืมหวายจริงไหมคะ อ้า...”เสียงกระเส่าช่างกรีดใจคนฟัง“ดิน...เราสองคนมามีความสุขด้วยกันนะคะ”แล้วสุธาวีก็ถลกกระโปรงของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็แหวกกางเกงในจีสตริง หญิงสาวจัดแท่งบุรุษของคณิศรสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของตัวเอง เธอแหงนหน้าสูดปากราวกับกินของร้อน พร้อมกับกดตัวเองลงไปแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับคณิศรไม่รีไม่รอ สุธาวีขยับโยกราวกับจ๊อกกิ้งสาวที่โยกม้าแข่งอยู่ในสนาม คณิศรนั้นได้แต่ส่งเสียงครางอู้อ้าสูดปากเสียงกระเส่าไม่ขาดสายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆเล
“เมี่ยง” คณิศรตกใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ยังคงเล่นบทคนเศร้าง้อภรรยาอยู่“เมี่ยงไม่ได้อยากให้พี่ตายใช่ไหมครับ เมี่ยงจ๋า...อภัยให้พี่นะ นะครับคนดี”ไม่พูดอย่างเดียว คนที่ยอมทำตัวพิการง่อยเปลี้ยอยู่บนเตียงตั้งนานสองนาน คราวนี้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่น“พี่รักเมี่ยงจริงๆ รู้ตัวแล้วว่าขาดเมี่ยงไม่ได้ พี่ต้องตายแน่ๆ”ชนิษฐารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา การที่ไม่ได้อยู่ใกล้คณิศร เธอเองก็แย่ไปเหมือนกันใจที่โกรธขึ้งเรื่องที่เขาทำลงไป สายพิณเล่าแล้วว่าทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัย และสุธาวีนั้นรุกหนัก เจ้าหล่อนเล่นกับอารมณ์ใคร่ สัญชาตญาณดิบของผู้ชายฤดีรัตน์ก็ช่วยหาข่าวเหมือนกัน เพื่อนเล่าว่าสุธาวีกินกับผู้ชายเกือบทั้งสาขา ล้วนเป็นคนรอบตัวคณิศรทั้งนั้นเขาช่างโง่...โง่มากเหลือเกิน นอกจากนั้นคุณย่ามณียังให้พนักงานที่แพมายืนยัน คณิศรออกคำสั่งไล่สุธาวี ห้ามมาเหยียบทุกพื้นที่ของเขาเด็ดขาดคณิศรทำแล้วสิ่งที่ควรทำ...แล้วชนิษฐาล่ะ เธอควรทำอะไรต่อดี“อย่าพูดคำว่าตายอีกนะ เพราะยังไงพี่ดินก็ต้องอยู่ดูหน้าลูกก่อน”ชนิษฐาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น เลือกจะให้ครอบครัวได้ไปต่อ“เมี่ยง...”คณิศรคราง แม
พีรพัฒน์เข้ามาแบบมีข้าวของเต็มสองมือ“คุณเมี่ยงไม่อยู่ค่ะ” สายพิณรายงาน“อ้าวเหรอครับ มิน่าล่ะ โทรหาก็ไม่รับ แล้วยังไม่อ่านไลน์ผมอีก สวัสดีครับคุณย่า”คนแก่ลอบถอนหายใจ แต่ก็พยายามปั้นยิ้ม หากชนิษฐาจะตีจากจากคณิศร แล้วไปซบอกผู้ชายคนนี้ มันก็เหมาะสมอยู่พีรพัฒน์มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนมั่นคงพึ่งพาได้ แม้เป็นพ่อหม้าย แต่การเลิกร้างนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีข่าวลือเสียหายตามหลังเลย แต่ส่วนลึกในใจ...คุณย่ามณีไม่อยากให้ชนิษฐากับคณิศรหย่ากันอยู่ดี“คุณพีได้นัดกับคุณเมี่ยงเอาไว้หรือเปล่าคะ” สายพิณเข้าไปรับเอาข้าวของ ไม่ปล่อยให้เขายืนเก้อเขิน“เปล่าครับ พอดีผ่านมา”“แหม... แค่ผ่านเหรอคะ จอมทองกับเชียงใหม่ มันไม่น่าผ่านกันได้เนอะ”อดที่จะแซวแบบเหน็บๆ ในความพยายามทุ่มสุดตัวของชายหนุ่มไม่ได้“เสียเวลาแย่เลยพ่อพี มาเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง”คุณย่ามณีเห็นใจ มองออกว่าชนิษฐาไม่เล่นด้วยกับพ่อหม้ายคนนี้ มิเช่นนั้นหลานจะหลบเลี่ยงการพบเจอทำไม“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณย่าอาการเป็นไงบ้างครับ”พีรพัฒน์นั่งลงใกล้ เขาเป็นคนที่โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ทุกคน“ก็งั้นๆ แหละจ้ะ สุขภาพทรง ๆ ทรุด ๆ ตามประสาคนแก่ ขาหนึ่งก็ก้า
ที่ห้องพักของคุณย่ามณี ทุกคนได้ยินเสียงโอ้กอ้ากของชนิษฐาดั่งลั่นออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเมื่อครู่ออกมาแบบหมดไส้หมดพุงคุณย่าที่อยู่บนเตียงสบตาคุณช่อม่วงที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้เป็นป้ามองอาการหลานด้วยความกังวล สายพิณเป็นคนลูบหลังให้“ไม่สบายหนักเลยนะเมี่ยง ทำไมกินอะไรถึงได้อ้วกออกมาหมด”“พิณว่าพาคุณเมี่ยงไปตรวจเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ใกล้หมอ อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่สินไปโทรเรียกให้คนเอารถเข็นมารับคุณเมี่ยงสิ”“จ้ะๆ ได้จ้ะ ได้” สินเดินไปที่โทรศัพท์ ก่อนจะยกหูไปยังโอเปอร์เรเตอร์ เขาขอรถเข็นมารับผู้ป่วย เพื่อไปตรวจดูเหมือนชนิษฐาจะหมดแรงแล้ว หน้าซีดจางขาวราวกระดาษ อ่อนเพลียร่างอยากจะนอนพักมากๆ“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวเอาตอนนี้นะ ดวงราหูจะเข้าแล้วแน่ๆ”คุณช่อม่วงเพิ่งผ่านตาคลิปหมอดูทักจากยูทูป ยามเปิดเล่นแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่เฝ้าคุณย่ามณี“พาไปหาหมอซะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” คุณย่าสั่งด้วยใจห่วงใยปนกังวลไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็น แล้วพาชนิษฐาเข้าลิฟต์ไปยังห้องตรวจด้านล่างในเวลาต่อมา“หมอว่าเป็นอะไรคะ” ทั้งสายพิณและสินตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลที่หน้าห้องตรวจ“หมอว
เมื่อสองป้าหลานไปถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เห็นสายพิณนั่งร้องไห้น้ำตานอง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงของคุณย่ามณี“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่พิน”“พี่พิณกับคุณย่าไปที่วัด ว่าจะอยู่วิปัสนาที่นั่นสักสองสามคืน แต่ตอนที่กินข้าวกันอยู่ สินโทรเข้ามาว่าคุณดินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เท่านั้นแหละค่ะ... คุณย่าก็สำลักข้าวค่ะ อาหารติดคอ ดีนะคะที่ตรงนั้นมีคุณหมอมาวิปัสนาที่วัดอยู่ด้วย เลยเข้ามาปฐมพยาบาลทัน แล้วก็พามาที่นี่แหละค่ะ”“แล้วอาการหนักไหมคะ” คุณช่อม่วงเอ่ยถาม“ดีนะคะหมอบอกว่าสมองไม่ขาดออกซิเจน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะกลายเป็น...” สายพิณยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้“คุณเมี่ยงคะ พี่พิณรับไม่ไหวแล้วนะคะ ไหนจะคุณย่า ไหนจะคุณดิน”“แล้วตอนนี้ดินอยู่ไหน” คุณช่อม่วงอีกนั่นแหละที่เป็นคนถามใบหน้าหลานสาวซีดเผือก ตาแดงก่ำราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วชนิษฐาจับมือของคุณย่าและบีบเบา“คุณดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ มาพักอยู่ที่ห้องพิเศษค่ะ”สายพิณรายงานหันไปหาชนิษฐาทั้งตัว“ฮือ... คุณดินน่ะไปทำอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ เห็นว่าประสบอุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างที่ไปทำตกแต่งสวนนั่นแหละ พิณไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ถามใค
ชนิษฐายืนฟังการสนทนานี้มาตั้งนานแล้ว เธอได้ยินทุกอย่าง“ไปกันได้แล้วค่ะเจ้านาย” เธอแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันเกิดของคณิศร เธอกับเขาเคยคุยกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสามคน คุณย่า เขาและก็เธอ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วเมี่ยงจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า”“ป้าไม่ต้องห่วงเมี่ยงค่ะ กินไปก่อนได้เลย”“อ้อ ตอนเย็นๆ ป้าไม่อยากกินอะไรหนักๆ นะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากให้เปลืองเงิน”ชนิษฐายิ้มยกมือโบกบ้ายบาย แล้วตามพีรพัฒน์ไปขึ้นรถในรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดคันใหญ่ที่หรูหราจอดไม่ไกลจากตรงนั้นนัก คุณย่ามณีอยู่กับสายพิณและนายสิน ตั้งใจจะมาชวนชนิษฐาไปทำบุญ แต่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าเสียก่อน คุณย่าถึงกับหน้าหงอย“เฮ้อ...หมดหวังแล้วใช่ไหมสายพิณ”“ยังหรอกค่ะ อย่าตัดสินกับแค่ภาพแบบนี้สิคะ มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้”แต่สินมือไว ยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพ แล้วส่งไปให้อีกคน คณิศรใช้ให้สินมาเป็นสายสืบติดตามชีวิตของภรรยา“ถ้าอย่างนั้นสิน”“ครับ”“ขับไปวัดเถอะ ไปวัดวิปัสนานะ จะไปอยู่สักสองสามวัน”“ครับ”คุณย่ามณีหลับตาลง ตอนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน คณิศรกอดขวดเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ท่านภาว
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน นึกว่าเห็นแก่คนแก่ เอาที่หนูเมี่ยงสบายใจ แต่ย่าบอกแล้วเมื่อรับเป็นหลานอีกคนก็จะไม่ผลักไสไล่หนี เมี่ยงอยู่ที่นี่จนกว่าสบายใจ ไม่อยากกลับไปอยู่กับดินก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่แหละ ใช้ชีวิตของตัวเอง ดูแลคุณป้า...”จ้องสบตากับคุณช่อม่วงที่ตอนนี้หลบสายตาของคุณย่ามณีแล้ว“อยากทำอะไรก็ทำ ไปหางานทำก็ได้ แต่ย่าจะให้คนของย่าโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เงินจากกงสีนั่นแหละ ถือว่าเป็นหลานสาวแล้ว เป็นคนในครอบครัว และถ้าวันไหนเจอคนที่ถูกใจ อยากจะแต่งงานด้วย ค่อยไปบอกย่าก็แล้วกัน หาคนที่ดูแลกันได้ แล้วย่าจะให้ดินหย่าให้”ดูเหมือนคุณย่ามณีจะไม่รบเร้าอีกต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ขวางไป เรือลำใหญ่แค่ไหนก็ล่มได้“สายพิณกลับเถอะ”กลายเป็นว่าคนที่ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าคือสายพิณเสียเอง“พี่พิณก็ไม่เคยมีผัว หรือว่ามีความรักหรอกนะคะ แต่เห็นอยู่หลายคู่ การให้อภัยกันต่างหากค่ะที่มันควรจะเริ่มจากคนในครอบครัว เหมือนที่คุณย่าพูดค่ะคุณเมี่ยง ใครก็ทำผิดพลาดกันได้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราญยังรู้พลั้ง ถ้าไม่รักคุณดิน ก็รักคุณย่านะคะ ถ้าคิดว่ายังเป็นหลานคุณย่าก็กลับบ้านเรา” สายพิณเข้ามาประคองคุณย่า อ
ผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ที่คณิศรนั่งเป็นคนบ้าใบ้ สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกที่จะโทรไปหาคุณย่ามณี คณิศรได้เล่าเรื่องความจริงทุกอย่างให้ฟัง ท่านโกรธคณิศรมากและก็บอกให้คณิศรไปตามหาชนิษฐาที่บ้านของคุณป้าช่อม่วง เพราะว่าทางนั้นได้โทรมาบอกแล้วว่า... หลานสาวอยู่ที่บ้าน เอาแต่ร้องไห้ และขังตัวเองอยู่ในห้อง ถามอะไรก็ไม่บอก“ดิน... ย่าโกรธดินมากรู้ไหม ทำไมฮึ ทำไมทำแบบนี้” ความจริงที่มาจากปากของหลานชาย คุณย่าถึงกับประกาศกร้าว“ถ้าแกยังพาหนูเมี่ยงกลับมาไม่ได้ แกก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านของย่าอีก” คณิศรได้ยินคุณย่าร้องไห้ เขาทิ้งตัวลงไปนอนบนฟูก และจ้องมองรูปแต่งงานที่อยู่บนฝาผนังรอยยิ้มของชนิษฐาที่ทำให้โลกของเขาสว่างไสว การเอาใจใส่ของเธอทำให้เขาแยกออกระหว่างความรักและความใคร่ ตอนนี้คณิศรรู้แล้วว่าเขาคงจะขาดเธอไม่ได้ “เมี่ยง... พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” เขาคอตกได้แต่พึมพำคำนี้ออกมาเดิม ๆ ซ้ำ ๆก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆคุณช่อม่วงเคาะประตูอยู่ข้างนอก กำลังจะเอากุญแจเสียบไขเข้าไป แต่ชนิษฐาเป็นคนลุกมาเปิดออกก่อน พอเห็นหน้าป้า เธอก็โผเข้ากอดแน่น ตัวสั่นเทาราวกับลูกนกเจอฝน คุณป้าถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ“เมี่ยงความจริง และรู้แล
ชนิษฐาที่อยู่ด้านนอกประตูแพถึงกับชาดิก เธอรู้ได้ทันทีว่าข้างในห้องนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ มือสั่นๆ ค่อยๆ จับและบิดลูกบิด ชนิษฐาเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบาภาพที่เห็นสุธาวีกำลังอมท่อนยักษ์ของสามีของเธออยู่ และคณิศรครางอู้อ้า เขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านผู้หญิงคนนี้เลย‘นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ หยาดน้ำจากตาไหลพราก ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นสามีทรยศตนเต็ม ๆ ตาชนิษฐาจำผู้หญิงคนนี้ได้ สุธาวีเป็นรุ่นพี่ที่ควงกันกับคณิศรมาโดยตลอดเขากลับมาคบกันอีกครั้งกระนั้นเหรอ“ดินคะ อู้... ซี้ด ใหญ่อะ นี่แหละที่ทำให้หวายไม่เคยลืมคุณ หวายก็คิดว่าคุณก็ไม่เคยลืมหวายจริงไหมคะ อ้า...”เสียงกระเส่าช่างกรีดใจคนฟัง“ดิน...เราสองคนมามีความสุขด้วยกันนะคะ”แล้วสุธาวีก็ถลกกระโปรงของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็แหวกกางเกงในจีสตริง หญิงสาวจัดแท่งบุรุษของคณิศรสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของตัวเอง เธอแหงนหน้าสูดปากราวกับกินของร้อน พร้อมกับกดตัวเองลงไปแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับคณิศรไม่รีไม่รอ สุธาวีขยับโยกราวกับจ๊อกกิ้งสาวที่โยกม้าแข่งอยู่ในสนาม คณิศรนั้นได้แต่ส่งเสียงครางอู้อ้าสูดปากเสียงกระเส่าไม่ขาดสายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆเล
“เมี่ยงจะไปไหนน่ะลูก”“เมื่อวานนี้พี่ดินอยากกินคั่วไก่น่ะค่ะ เมี่ยงก็เลยอาสาทำให้กิน”“ข้าวเที่ยงหรือ รีบไปสิลูกไป จะได้กินข้าวกัน ดินเขาทำงานหนักนะช่วงนี้ ย่าว่าจะต้องลืมกินข้าวเที่ยงแน่ๆ มั้ง อ้าว... ตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วนี่”“มันทำยากนะคะคุณย่า กว่าจะเคี่ยวให้เนื้อไก่นุ่ม”“ก็นั่นน่ะสิ หนูเมี่ยงยังเลือกไก่ไม่เป็น เราต้องเลือกไก่สาวรุ่นๆ เข้าใจไหม โดนแม่ค้าหลอกเอาเสียแล้ว” ชนิษฐาได้แต่หัวเราะสายพิณอยู่ใกล้รีบแซวคุณย่ามณี“ที่ว่าเหนียวเนี่ย เพราะว่าคุณย่าเองก็เคี้ยวไม่ขาดใช่ไหมคะ”“จ้านางสายพิณเอ๋ย ของเหนียว ของแข็ง ไม่ต้องเอามาให้ฉันกินหรอกนะ ว่าแต่จะบ่ายโมง ยังไม่มีอะไรมาให้กินอีก วันนี้ขอเป็นอาหารนุ่มๆ นะ”“ได้ค่ะคุณย่า พิณเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”“คุณย่าค่ะ กินข้าวเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมกินยานะคะ”“โอเคๆ หนูเมี่ยงขับรถดีๆ นะลูก”“ค่ะ”หัวใจของชนิษฐาโบยบินไปหาคณิศรแล้ว การได้แต่งงานและมาอยู่กับเขา หลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด ซ้ำเธอยังเก่งที่สามารถทำอะไรอย่างกับรู้ใจสามีได้เป็นอย่างดีอีกอย่าง และที่น่าปลื้มใจ คณิศรทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลายแต่ทว่า... วันนี้... ที