ในใจของคณิศรบอกว่าควรรักผู้หญิงคนนี้ ที่อ่อนหวานอ่อนโยนไม่อิดออดที่จะทำอะไรตามที่เขาสั่ง ชนิษฐายินยอมที่จะมอบกายและถวายความสุขสมบูรณ์ของกายสาวให้กับเขาเชยชม เสียงครางหวานๆ ยังไพเราะเสนาะหู แม้จะไม่เจนจัดกับเรื่องบนเตียง แต่ชนิษฐาก็พร้อมที่จะเรียนรู้อีกอย่างหากทำชนิษฐาท้องได้ ความฝันของคุณย่าก็จะเป็นจริง อีกทั้งคณิศรจะได้เลิกคิดถึงผู้หญิงที่ใจร้ายอย่างสุธาวี ที่เห็นแก่ตัว จนมองข้ามในความเสียสละและความใจดีของเขาที่มีต่อเธอ คนบางคนถ้าไม่เห็นคุณค่ากับสิ่งที่เรามอบให้ก็อย่าไปสนใจจะดีกว่า“พี่ดินให้ทำอะไรคะ” ชนิษฐาถามเสียงหวาน กายอ่อนระทดระทวดอยู่ใต้ร่างของเขา“ทำอะไรก็ได้ ให้เราสองคนมีความสุขจ้ะ” คณิศรจับตัวหญิงสาวแล้วเปลื้องชุดนอนผ้าลื่นมือของเธอออกไปในทันที ชั้นในก็ไม่มี เพราะชายหนุ่มห้ามเธอใส่ในเวลานอน“น่ารักที่สุด เป็นเมียพี่ว่านอนสอนง่าย” คณิศรพูดชม จากนั้นก็ไล่งับนับเส้นขนของเธอ ชนิษฐาร้องลั่นสั่นสะท้าน มันเสียวสยิวที่สุด สูดปากเบาๆ อย่างรัญจวนใจคณิศรหมุนตัวและจ่อแท่งแข็งของเขาเข้าไปที่กลีบปาก โดยที่ไม่ต้องออกคำสั่ง เพราะชายหนุ่มก้มหน้าลงไปที่หว่างขาของหญิงสาว และฉกใบหน้าลงไปแล้ว
ในตัวเมืองเชียงใหม่ ในร้านอาหารมุมที่ลับตาคน“ทำไมคะ ลำบากลำบนมากเลยหรือไง ที่จะออกมาเจอหวายน่ะ” เธอตั้งท่าหาเรื่องเขาอีกแล้ว คณิศรไม่ยอมไปหาสุธาวีที่โรงแรม เขานัดเธอมาที่นี่“ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่าง”“ไม่ว่าง เพราะคุณคอยไปเอาใจเมียเด็กอยู่หรือไงคะ”น่าเจ็บใจ สุธาวีรู้ตัวช้าไป ชนิษฐาอายุน้อยกว่าเธอตั้งสามสี่ปี อีกอย่างเธอคนนั้นยังไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน แม้ว่าจริตจะก้านบนเตียงจะพ่ายแพ้ต่อสุธาวี แต่ทว่าความฟิตความสดสวยน่าจะมีมากกว่า ดีไม่ดีอาจจะมัดใจของคณิศรได้ตอนนี้ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ตาไม่มองเธอฉ่ำเยิ้มเหมือนทุกครั้งที่ได้เจอกัน“หวาย... คุยเรื่องของเราสองคนดีกว่า ไม่ต้องไปพาดพิงถึงคนอื่นหรอก”“ทำไมคะ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้หรือไงเมียของคุณน่ะ ทำไมดินถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”“ผมไม่ได้เปลี่ยนเลย ผมเคยรอคุณยังไง ก็ยังรอแบบนั้น แต่มันคงจะหมดเวลามั้ง”“คนนะคะ ไม่ใช่ของกินที่จะมีวันหมดอายุ”“หวาย... คนก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน ความตายไง แต่เรื่องนามธรรมเช่นความรักก็มีวันหมดได้”“อย่าบอกนะคะว่าดินหมดรักหวายแล้วน่ะ”“ผมคิดว่าที่ผ่านมา มันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้ หวายเองก็ควรถาม
“เมี่ยงจะไปไหนน่ะลูก”“เมื่อวานนี้พี่ดินอยากกินคั่วไก่น่ะค่ะ เมี่ยงก็เลยอาสาทำให้กิน”“ข้าวเที่ยงหรือ รีบไปสิลูกไป จะได้กินข้าวกัน ดินเขาทำงานหนักนะช่วงนี้ ย่าว่าจะต้องลืมกินข้าวเที่ยงแน่ๆ มั้ง อ้าว... ตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วนี่”“มันทำยากนะคะคุณย่า กว่าจะเคี่ยวให้เนื้อไก่นุ่ม”“ก็นั่นน่ะสิ หนูเมี่ยงยังเลือกไก่ไม่เป็น เราต้องเลือกไก่สาวรุ่นๆ เข้าใจไหม โดนแม่ค้าหลอกเอาเสียแล้ว” ชนิษฐาได้แต่หัวเราะสายพิณอยู่ใกล้รีบแซวคุณย่ามณี“ที่ว่าเหนียวเนี่ย เพราะว่าคุณย่าเองก็เคี้ยวไม่ขาดใช่ไหมคะ”“จ้านางสายพิณเอ๋ย ของเหนียว ของแข็ง ไม่ต้องเอามาให้ฉันกินหรอกนะ ว่าแต่จะบ่ายโมง ยังไม่มีอะไรมาให้กินอีก วันนี้ขอเป็นอาหารนุ่มๆ นะ”“ได้ค่ะคุณย่า พิณเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”“คุณย่าค่ะ กินข้าวเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมกินยานะคะ”“โอเคๆ หนูเมี่ยงขับรถดีๆ นะลูก”“ค่ะ”หัวใจของชนิษฐาโบยบินไปหาคณิศรแล้ว การได้แต่งงานและมาอยู่กับเขา หลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด ซ้ำเธอยังเก่งที่สามารถทำอะไรอย่างกับรู้ใจสามีได้เป็นอย่างดีอีกอย่าง และที่น่าปลื้มใจ คณิศรทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลายแต่ทว่า... วันนี้... ที
ชนิษฐาที่อยู่ด้านนอกประตูแพถึงกับชาดิก เธอรู้ได้ทันทีว่าข้างในห้องนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ มือสั่นๆ ค่อยๆ จับและบิดลูกบิด ชนิษฐาเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบาภาพที่เห็นสุธาวีกำลังอมท่อนยักษ์ของสามีของเธออยู่ และคณิศรครางอู้อ้า เขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านผู้หญิงคนนี้เลย‘นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ หยาดน้ำจากตาไหลพราก ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นสามีทรยศตนเต็ม ๆ ตาชนิษฐาจำผู้หญิงคนนี้ได้ สุธาวีเป็นรุ่นพี่ที่ควงกันกับคณิศรมาโดยตลอดเขากลับมาคบกันอีกครั้งกระนั้นเหรอ“ดินคะ อู้... ซี้ด ใหญ่อะ นี่แหละที่ทำให้หวายไม่เคยลืมคุณ หวายก็คิดว่าคุณก็ไม่เคยลืมหวายจริงไหมคะ อ้า...”เสียงกระเส่าช่างกรีดใจคนฟัง“ดิน...เราสองคนมามีความสุขด้วยกันนะคะ”แล้วสุธาวีก็ถลกกระโปรงของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็แหวกกางเกงในจีสตริง หญิงสาวจัดแท่งบุรุษของคณิศรสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของตัวเอง เธอแหงนหน้าสูดปากราวกับกินของร้อน พร้อมกับกดตัวเองลงไปแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับคณิศรไม่รีไม่รอ สุธาวีขยับโยกราวกับจ๊อกกิ้งสาวที่โยกม้าแข่งอยู่ในสนาม คณิศรนั้นได้แต่ส่งเสียงครางอู้อ้าสูดปากเสียงกระเส่าไม่ขาดสายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆเล
ผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ที่คณิศรนั่งเป็นคนบ้าใบ้ สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกที่จะโทรไปหาคุณย่ามณี คณิศรได้เล่าเรื่องความจริงทุกอย่างให้ฟัง ท่านโกรธคณิศรมากและก็บอกให้คณิศรไปตามหาชนิษฐาที่บ้านของคุณป้าช่อม่วง เพราะว่าทางนั้นได้โทรมาบอกแล้วว่า... หลานสาวอยู่ที่บ้าน เอาแต่ร้องไห้ และขังตัวเองอยู่ในห้อง ถามอะไรก็ไม่บอก“ดิน... ย่าโกรธดินมากรู้ไหม ทำไมฮึ ทำไมทำแบบนี้” ความจริงที่มาจากปากของหลานชาย คุณย่าถึงกับประกาศกร้าว“ถ้าแกยังพาหนูเมี่ยงกลับมาไม่ได้ แกก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านของย่าอีก” คณิศรได้ยินคุณย่าร้องไห้ เขาทิ้งตัวลงไปนอนบนฟูก และจ้องมองรูปแต่งงานที่อยู่บนฝาผนังรอยยิ้มของชนิษฐาที่ทำให้โลกของเขาสว่างไสว การเอาใจใส่ของเธอทำให้เขาแยกออกระหว่างความรักและความใคร่ ตอนนี้คณิศรรู้แล้วว่าเขาคงจะขาดเธอไม่ได้ “เมี่ยง... พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” เขาคอตกได้แต่พึมพำคำนี้ออกมาเดิม ๆ ซ้ำ ๆก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆคุณช่อม่วงเคาะประตูอยู่ข้างนอก กำลังจะเอากุญแจเสียบไขเข้าไป แต่ชนิษฐาเป็นคนลุกมาเปิดออกก่อน พอเห็นหน้าป้า เธอก็โผเข้ากอดแน่น ตัวสั่นเทาราวกับลูกนกเจอฝน คุณป้าถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ“เมี่ยงความจริง และรู้แล
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน นึกว่าเห็นแก่คนแก่ เอาที่หนูเมี่ยงสบายใจ แต่ย่าบอกแล้วเมื่อรับเป็นหลานอีกคนก็จะไม่ผลักไสไล่หนี เมี่ยงอยู่ที่นี่จนกว่าสบายใจ ไม่อยากกลับไปอยู่กับดินก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่แหละ ใช้ชีวิตของตัวเอง ดูแลคุณป้า...”จ้องสบตากับคุณช่อม่วงที่ตอนนี้หลบสายตาของคุณย่ามณีแล้ว“อยากทำอะไรก็ทำ ไปหางานทำก็ได้ แต่ย่าจะให้คนของย่าโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เงินจากกงสีนั่นแหละ ถือว่าเป็นหลานสาวแล้ว เป็นคนในครอบครัว และถ้าวันไหนเจอคนที่ถูกใจ อยากจะแต่งงานด้วย ค่อยไปบอกย่าก็แล้วกัน หาคนที่ดูแลกันได้ แล้วย่าจะให้ดินหย่าให้”ดูเหมือนคุณย่ามณีจะไม่รบเร้าอีกต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ขวางไป เรือลำใหญ่แค่ไหนก็ล่มได้“สายพิณกลับเถอะ”กลายเป็นว่าคนที่ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าคือสายพิณเสียเอง“พี่พิณก็ไม่เคยมีผัว หรือว่ามีความรักหรอกนะคะ แต่เห็นอยู่หลายคู่ การให้อภัยกันต่างหากค่ะที่มันควรจะเริ่มจากคนในครอบครัว เหมือนที่คุณย่าพูดค่ะคุณเมี่ยง ใครก็ทำผิดพลาดกันได้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราญยังรู้พลั้ง ถ้าไม่รักคุณดิน ก็รักคุณย่านะคะ ถ้าคิดว่ายังเป็นหลานคุณย่าก็กลับบ้านเรา” สายพิณเข้ามาประคองคุณย่า อ
ชนิษฐายืนฟังการสนทนานี้มาตั้งนานแล้ว เธอได้ยินทุกอย่าง“ไปกันได้แล้วค่ะเจ้านาย” เธอแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันเกิดของคณิศร เธอกับเขาเคยคุยกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสามคน คุณย่า เขาและก็เธอ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วเมี่ยงจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า”“ป้าไม่ต้องห่วงเมี่ยงค่ะ กินไปก่อนได้เลย”“อ้อ ตอนเย็นๆ ป้าไม่อยากกินอะไรหนักๆ นะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากให้เปลืองเงิน”ชนิษฐายิ้มยกมือโบกบ้ายบาย แล้วตามพีรพัฒน์ไปขึ้นรถในรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดคันใหญ่ที่หรูหราจอดไม่ไกลจากตรงนั้นนัก คุณย่ามณีอยู่กับสายพิณและนายสิน ตั้งใจจะมาชวนชนิษฐาไปทำบุญ แต่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าเสียก่อน คุณย่าถึงกับหน้าหงอย“เฮ้อ...หมดหวังแล้วใช่ไหมสายพิณ”“ยังหรอกค่ะ อย่าตัดสินกับแค่ภาพแบบนี้สิคะ มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้”แต่สินมือไว ยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพ แล้วส่งไปให้อีกคน คณิศรใช้ให้สินมาเป็นสายสืบติดตามชีวิตของภรรยา“ถ้าอย่างนั้นสิน”“ครับ”“ขับไปวัดเถอะ ไปวัดวิปัสนานะ จะไปอยู่สักสองสามวัน”“ครับ”คุณย่ามณีหลับตาลง ตอนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน คณิศรกอดขวดเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ท่านภาว
เมื่อสองป้าหลานไปถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เห็นสายพิณนั่งร้องไห้น้ำตานอง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงของคุณย่ามณี“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่พิน”“พี่พิณกับคุณย่าไปที่วัด ว่าจะอยู่วิปัสนาที่นั่นสักสองสามคืน แต่ตอนที่กินข้าวกันอยู่ สินโทรเข้ามาว่าคุณดินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เท่านั้นแหละค่ะ... คุณย่าก็สำลักข้าวค่ะ อาหารติดคอ ดีนะคะที่ตรงนั้นมีคุณหมอมาวิปัสนาที่วัดอยู่ด้วย เลยเข้ามาปฐมพยาบาลทัน แล้วก็พามาที่นี่แหละค่ะ”“แล้วอาการหนักไหมคะ” คุณช่อม่วงเอ่ยถาม“ดีนะคะหมอบอกว่าสมองไม่ขาดออกซิเจน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะกลายเป็น...” สายพิณยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้“คุณเมี่ยงคะ พี่พิณรับไม่ไหวแล้วนะคะ ไหนจะคุณย่า ไหนจะคุณดิน”“แล้วตอนนี้ดินอยู่ไหน” คุณช่อม่วงอีกนั่นแหละที่เป็นคนถามใบหน้าหลานสาวซีดเผือก ตาแดงก่ำราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วชนิษฐาจับมือของคุณย่าและบีบเบา“คุณดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ มาพักอยู่ที่ห้องพิเศษค่ะ”สายพิณรายงานหันไปหาชนิษฐาทั้งตัว“ฮือ... คุณดินน่ะไปทำอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ เห็นว่าประสบอุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างที่ไปทำตกแต่งสวนนั่นแหละ พิณไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ถามใค