ที่ห้องพักของคุณย่ามณี ทุกคนได้ยินเสียงโอ้กอ้ากของชนิษฐาดั่งลั่นออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเมื่อครู่ออกมาแบบหมดไส้หมดพุงคุณย่าที่อยู่บนเตียงสบตาคุณช่อม่วงที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้เป็นป้ามองอาการหลานด้วยความกังวล สายพิณเป็นคนลูบหลังให้“ไม่สบายหนักเลยนะเมี่ยง ทำไมกินอะไรถึงได้อ้วกออกมาหมด”“พิณว่าพาคุณเมี่ยงไปตรวจเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ใกล้หมอ อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่สินไปโทรเรียกให้คนเอารถเข็นมารับคุณเมี่ยงสิ”“จ้ะๆ ได้จ้ะ ได้” สินเดินไปที่โทรศัพท์ ก่อนจะยกหูไปยังโอเปอร์เรเตอร์ เขาขอรถเข็นมารับผู้ป่วย เพื่อไปตรวจดูเหมือนชนิษฐาจะหมดแรงแล้ว หน้าซีดจางขาวราวกระดาษ อ่อนเพลียร่างอยากจะนอนพักมากๆ“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวเอาตอนนี้นะ ดวงราหูจะเข้าแล้วแน่ๆ”คุณช่อม่วงเพิ่งผ่านตาคลิปหมอดูทักจากยูทูป ยามเปิดเล่นแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่เฝ้าคุณย่ามณี“พาไปหาหมอซะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” คุณย่าสั่งด้วยใจห่วงใยปนกังวลไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็น แล้วพาชนิษฐาเข้าลิฟต์ไปยังห้องตรวจด้านล่างในเวลาต่อมา“หมอว่าเป็นอะไรคะ” ทั้งสายพิณและสินตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลที่หน้าห้องตรวจ“หมอว
พีรพัฒน์เข้ามาแบบมีข้าวของเต็มสองมือ“คุณเมี่ยงไม่อยู่ค่ะ” สายพิณรายงาน“อ้าวเหรอครับ มิน่าล่ะ โทรหาก็ไม่รับ แล้วยังไม่อ่านไลน์ผมอีก สวัสดีครับคุณย่า”คนแก่ลอบถอนหายใจ แต่ก็พยายามปั้นยิ้ม หากชนิษฐาจะตีจากจากคณิศร แล้วไปซบอกผู้ชายคนนี้ มันก็เหมาะสมอยู่พีรพัฒน์มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนมั่นคงพึ่งพาได้ แม้เป็นพ่อหม้าย แต่การเลิกร้างนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีข่าวลือเสียหายตามหลังเลย แต่ส่วนลึกในใจ...คุณย่ามณีไม่อยากให้ชนิษฐากับคณิศรหย่ากันอยู่ดี“คุณพีได้นัดกับคุณเมี่ยงเอาไว้หรือเปล่าคะ” สายพิณเข้าไปรับเอาข้าวของ ไม่ปล่อยให้เขายืนเก้อเขิน“เปล่าครับ พอดีผ่านมา”“แหม... แค่ผ่านเหรอคะ จอมทองกับเชียงใหม่ มันไม่น่าผ่านกันได้เนอะ”อดที่จะแซวแบบเหน็บๆ ในความพยายามทุ่มสุดตัวของชายหนุ่มไม่ได้“เสียเวลาแย่เลยพ่อพี มาเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง”คุณย่ามณีเห็นใจ มองออกว่าชนิษฐาไม่เล่นด้วยกับพ่อหม้ายคนนี้ มิเช่นนั้นหลานจะหลบเลี่ยงการพบเจอทำไม“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณย่าอาการเป็นไงบ้างครับ”พีรพัฒน์นั่งลงใกล้ เขาเป็นคนที่โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ทุกคน“ก็งั้นๆ แหละจ้ะ สุขภาพทรง ๆ ทรุด ๆ ตามประสาคนแก่ ขาหนึ่งก็ก้า
“เมี่ยง” คณิศรตกใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ยังคงเล่นบทคนเศร้าง้อภรรยาอยู่“เมี่ยงไม่ได้อยากให้พี่ตายใช่ไหมครับ เมี่ยงจ๋า...อภัยให้พี่นะ นะครับคนดี”ไม่พูดอย่างเดียว คนที่ยอมทำตัวพิการง่อยเปลี้ยอยู่บนเตียงตั้งนานสองนาน คราวนี้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่น“พี่รักเมี่ยงจริงๆ รู้ตัวแล้วว่าขาดเมี่ยงไม่ได้ พี่ต้องตายแน่ๆ”ชนิษฐารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา การที่ไม่ได้อยู่ใกล้คณิศร เธอเองก็แย่ไปเหมือนกันใจที่โกรธขึ้งเรื่องที่เขาทำลงไป สายพิณเล่าแล้วว่าทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัย และสุธาวีนั้นรุกหนัก เจ้าหล่อนเล่นกับอารมณ์ใคร่ สัญชาตญาณดิบของผู้ชายฤดีรัตน์ก็ช่วยหาข่าวเหมือนกัน เพื่อนเล่าว่าสุธาวีกินกับผู้ชายเกือบทั้งสาขา ล้วนเป็นคนรอบตัวคณิศรทั้งนั้นเขาช่างโง่...โง่มากเหลือเกิน นอกจากนั้นคุณย่ามณียังให้พนักงานที่แพมายืนยัน คณิศรออกคำสั่งไล่สุธาวี ห้ามมาเหยียบทุกพื้นที่ของเขาเด็ดขาดคณิศรทำแล้วสิ่งที่ควรทำ...แล้วชนิษฐาล่ะ เธอควรทำอะไรต่อดี“อย่าพูดคำว่าตายอีกนะ เพราะยังไงพี่ดินก็ต้องอยู่ดูหน้าลูกก่อน”ชนิษฐาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น เลือกจะให้ครอบครัวได้ไปต่อ“เมี่ยง...”คณิศรคราง แม
อากาศปลายฤดูหนาวปีนี้ ในภาคเหนือยังทิ้งร่อยรอยความเย็นอยู่มากนัก อย่างน้อยก็ทำให้น้ำแข็งในแก้วเบียร์ละลายช้าเป็นที่ถูกอกถูกใจแขกที่มานั่งหาความรื่นรมย์ในแพร้านอาหารนัก โดยเฉพาะกลุ่มหนุ่ม ๆ ที่ร่ำสุรากันทั้ง ๆ ที่อยู่ในเสื้อนักศึกษาแม้อาจมีผู้ใหญ่มือถือสากปากถือศีลติเตียนในใจว่าไม่สมควร แต่ใครเล่าจะสน ในเมื่อพวกเขานั้นจะจบการศึกษาอยู่แล้ว ที่มาดื่มนี่ก็ฉลองสอบวิชาสุดท้ายในชีวิตมหาวิทยาลัยเสร็จอาหารและเครื่องดื่มวางมากมายบนโต๊ะ บริกรยกมาเสิร์ฟอย่างนอบน้อมเอาอกเอาใจ เพราะรู้ว่าคนที่โทรมาจองโต๊ะนั้นเส้นใหญ่คับร้านสักเพียงไหนเสียงพูดคุยเฮฮาตามประสาเพื่อนดังเป็นระยะ ๆ บางคนก็ถ่ายคลิปโน่นนี่ บางคนถึงขนาดไลฟ์ในแอปฯกลางร้านก็มีใครคนหนึ่งมาถึงงาน พร้อมหอบของมาเต็มอก“เจ้าภาพงานมาแล้วโว้ยพวกเรา ! มีคนจ่ายเงินแล้ว ไม่ต้องกลัวได้ล้างจาน”เสียงแซ็วโห่ฮาดังขึ้นตอนรับ บริกรรีบมาขยับเก้าอี้เลื่อนออกให้หนุ่มเส้นใหญ่โดยพลัน“เฮ้ย! กูเห็นนะไอ้ดินว่าน้องเมี่ยงเอาของมาให้มึง อะไรวะที่อยู่ข้างในน่ะ”ลือกฤชถามเพื่อนทันทีที่เห็นร่างสูงโปร่งก้าวเข้าในสายตา เขาทำตัวเป็นนักข่าวประจำคณะ ไม่มีเรื่องไหนลอดหูลอ
แพที่เปิดให้บริการเป็นร้านอาหารอีสานของคุณย่ามณี มีทีมงานมืออาชีพแบบครบครัน แต่ช่วงค่ำปิดหนึ่งวัน ด้วยคณิศรพาเพื่อนๆ มาเลี้ยงกันที่นี่เพราะสงบเงียบและไกลผู้คน เหมาะแก่การส่งเสียงดังรองรับงานรื่นเริงลูกค้าของร้านส่วนใหญ่ชอบบรรยากาศที่ห่างไกลแบบนี้ นั่งรับไอเย็นจากสายน้ำสบายตากับวิวเขียวขจีของป่าไม้ที่ล้อมรอบยิ่งตอนเย็น ได้เห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาด้วย ก็ยิ่งได้อารมน์สุนทรีย์ลือกฤชและยอยศเดินคุยกันออกมาจากแพหนึ่งที่ดัดแปลงเป็นห้องพัก ตอนนี้คณิศรเข้ายึดครอง เพราะเป็นห้องเชือดชั้นยอดในการพาสาวๆ มาร่วมสนุกบนเตียงแต่ส่วนใหญ่มีเพียงคนเดียวที่ผูกปิ่นโตกินกันยาว ๆ กับคณิศรก็คือผู้หญิงที่สองหนุ่มกำลังจะเอ่ยถึง“ดินแกล้งเมาหรือเปล่าวะ” ยอยศถาม“กูว่ามันเมาจริงนะ” ลือกฤชตอบ“แล้วถ้ามันเมา เราเอามันไปนอนในแพอย่างนั้น ถ้าเกิดมันลุกขึ้นมาเดิน แล้วตกน้ำตกท่าตายห่าขึ้นมา ย่ามณีไม่ด่าพวกเรายับเลยหรือวะ”“มึงก็พูดไป ดินนอนที่นี่เกือบทุกคืนนะโว้ย มันไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านของย่ามณีเสียเมื่อไร อีกอย่างมันบอกกูแล้วว่า มันจะนอนรอยัยหวาย มันบอกว่ามันนัดกับเอาไว้แล้ว”“อ๋อแบบนี้นี่เอง แล้วมันทำไมต้องแดก
“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงมารบเร้าที่จะเอาเงินจากผมไปซื้อรองพื้นใหม่อีก ใช้เงินของพ่อของหวายสิ”“แหม... ดิน มันไม่เหมือนกันนะคะ นั่นมันเงินของพ่อ ไม่ได้เป็นเงินของดิน ที่บอกว่ารักหวายนะ ดินรักหวายจริงไหม หรือแค่พูดสนุกปาก เพื่อนอนกับหวายเอามัน” เธอค้อนเขาตากลับ“เชอะ! ดินพูดเหมือนกับไม่รักหวายแล้ว อย่างนั้นก็ได้ หวายกลับดีกว่า เฮอะ ๆ มาที่นี่ รถก็เติมน้ำมันนะคะ ไม่ได้เติมน้ำเปล่า” เธอทำท่าจะลุกขึ้น“เดี๋ยวหวายจะไปไหน”เขารีบกอดรั้งร่างกายของเธอเอาไว้ อารมณ์บูดบึ้งหายไป เหลือไว้แต่ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ“ไอ้ผีบ้าออกจากร่างของดินแล้วหรือคะ ไอ้ผีตัวเมื่อกี้หายไปเสียแล้วล่ะ” อดที่จะแขวะเขาไม่ได้“ก็หวาย...”สุธาวีรีบยกนิ้วชี้มาปิดปากของเขาที่จะพูดมากในทันที เขารีบงับมัน และมองตาของหญิงสาวอย่างหวานเยิ้ม ราวกับถูกมนต์เสน่ห์ของสุธาวีสะกด“เห็นหน้าสวย ๆ ของหวายแบบนี้แล้ว ดินก็หายคิดถึง”“ไม่ต้องมาทำปากหวานค่ะ หวายไม่เชื่อ” เหมือนกับคนที่เพิ่งขายขนมจีบกัน มองตากันหวายหยดย้อย“คนคิดถึงกัน เขาก็ไม่ทำกันแค่นี้หรอกค่ะ” สุธาวีส่งสายตาเชิญชวน“ถ้าอย่างนั้น ทำแค่ไหนล่ะจ๊ะ ทำแค่นี้ใช่ไหม”ต่อจากนั้นเขาก็ผลักร่างกา
ผ่านไปเกือบปีคณิศรเริ่มเป็นโล้เป็นพายมากขึ้น เข้ามาทำงานให้กับคุณย่าในบางส่วนที่ได้รับมอบหมาย และคุณย่าก็ยังให้เงินทุนตามที่เขาเรียกร้อง คณิศรเปิดบริษัทรับออกแบบการจัดสวนตามสาขาที่เขาได้เรียนมา นอกจากนั้นยังรับเหมาทำสวนอีกด้วย ดอกไม้ก็มี ไม้ล้อมก็มี เพราะฝีมือของคุณย่าที่ปูทางให้ คณิศรได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายงานแล้ววันนี้อาจารย์ณรงวิทย์ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยทราบข่าวว่าลูกศิษย์ได้เปิดบริษัทแล้ว ยิ่งเป็นคณิศรอีก ถือว่าเขาเป็นพวกที่อยู่รั้งท้ายเพื่อนด้วยซ้ำ แต่เขากลับมีความก้าวหน้าอาจารย์ณรงวิทย์จึงเรียกให้มาหาที่มหาวิทยาลัย พอดีอาจารย์กำลังจะตกแต่งสวนให้กับบ้านของลูกสาว ที่จะยกให้เป็นเรือนหอคณิศรจึงเดินทางมาหาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย หลังจากคุยธุระเสร็จแล้วเขาก็เดินลงมาข้างล่าง“พี่ดินคะ พี่ดิน” เสียงหวานๆ เรียกเขาเอาไว้ ทำให้ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า คณิศรรีบหันไปมองชนิษฐาที่วิ่งมาหาด้วยความดีอกดีใจหญิงสาวซ่อนอาการหน้าบานที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอตามติดชีวิตของคณิศรในโซเชียล และมีอยู่หลายครั้งที่ไปกินร้านอาหารของชายหนุ่มกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เห็นหน้าเห็นตาของเขา และตัวจริงเลย“พี่ดินมาทำอะไรที่นี่
ไม่นานนัก เขาก็พาเธอมาถึงร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ร้านอาหารอยู่ติดถนน ในร้านสะอาดสะอ้าน“นั่งห้องแอร์ดีกว่านะ ข้างนอกร้อน”“ค่ะ” ชนิษฐาเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย สายตาของหญิงสาวไม่อาจจะละจากร่างหนาของเขาได้เลยคณิศรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาดูดีขึ้นมาก ด้วยผมรองทรงที่หนาๆ อีกอวัยวะที่ชนิษฐาชอบเขา เพราะจมูกที่โด่งสันเป็นคน ดวงตากลมโต คิ้วดกๆ ซึ่งส่วนใหญ่ หนุ่มๆ แถวนี้จะตาตี่ๆ เป็นตี๋เสียส่วนใหญ่สำหรับคณิศร เนื่องจากแม่มาจากใต้ เธอสืบจนรู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนสงขลาจึงทำให้หน้าตาคมคายพนักงานเดินมายื่นเมนูให้“เมี่ยงอยากกินอะไรก็กินนะ สั่งได้เต็มที่เลย”เธอจะบอกเขาอย่างไรดี แค่เห็นหน้าของคณิศรในวันนี้ ชนิษฐาก็อิ่มไปอีกหลายวัน หญิงสาวสั่งอาหารตามที่เขาสั่งคณิศรสั่งสเต็กสันคอ เธอก็เลือกตามเขา เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมคณิศรถึงชอบกิน“อีกปีเดียวก็จะจบแล้วสินะ”“ค่ะ”“ตั้งใจจะไปทำงานอะไร”“เมี่ยงก็ภาวนาให้ได้งานทำใกล้บ้านนะคะ จะได้อยู่ดูแลป้าด้วย อีกอย่างนึงไม่มีรถ ป้าไม่ให้ใช้ทั้งมอเตอร์ไซค์ และก็รถยนต์น่ะค่ะ”“เมี่ยงยังขับรถไม่เป็นเหรอ”“ค่ะ ไม่เป็นเลย เป็นแต่จักรยานอย่างเดียว”“เอาแบบนี