Share

ตอนที่ 4 จัดไปคุณย่าอยากอุ้มเหลน 1

ผ่านไปเกือบปี

คณิศรเริ่มเป็นโล้เป็นพายมากขึ้น เข้ามาทำงานให้กับคุณย่าในบางส่วนที่ได้รับมอบหมาย และคุณย่าก็ยังให้เงินทุนตามที่เขาเรียกร้อง คณิศรเปิดบริษัทรับออกแบบการจัดสวนตามสาขาที่เขาได้เรียนมา นอกจากนั้นยังรับเหมาทำสวนอีกด้วย ดอกไม้ก็มี ไม้ล้อมก็มี เพราะฝีมือของคุณย่าที่ปูทางให้ คณิศรได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายงานแล้ว

วันนี้อาจารย์ณรงวิทย์ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยทราบข่าวว่าลูกศิษย์ได้เปิดบริษัทแล้ว ยิ่งเป็นคณิศรอีก ถือว่าเขาเป็นพวกที่อยู่รั้งท้ายเพื่อนด้วยซ้ำ แต่เขากลับมีความก้าวหน้า

อาจารย์ณรงวิทย์จึงเรียกให้มาหาที่มหาวิทยาลัย พอดีอาจารย์กำลังจะตกแต่งสวนให้กับบ้านของลูกสาว ที่จะยกให้เป็นเรือนหอ

คณิศรจึงเดินทางมาหาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย หลังจากคุยธุระเสร็จแล้วเขาก็เดินลงมาข้างล่าง

“พี่ดินคะ พี่ดิน” เสียงหวานๆ เรียกเขาเอาไว้ ทำให้ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า คณิศรรีบหันไปมองชนิษฐาที่วิ่งมาหาด้วยความดีอกดีใจ

หญิงสาวซ่อนอาการหน้าบานที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอตามติดชีวิตของคณิศรในโซเชียล และมีอยู่หลายครั้งที่ไปกินร้านอาหารของชายหนุ่มกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เห็นหน้าเห็นตาของเขา และตัวจริงเลย

“พี่ดินมาทำอะไรที่นี่หรือคะ” เอื้อนเอ่ยอย่างใบหน้าระรื่น

คณิศรเห็นหน้าเธอก็ยิ้มให้ จำได้ทันที เพราะเป็นรุ่นน้องที่น่ารักเสมอ แม้จะเรียนคนละคณะ แต่ดูเหมือนเธอจะทำตัวจะเนียนว่ารู้จักกับเขาเป็นอย่างดี และจำได้ขึ้นใจเพราะลือกฤชเอ่ยถึงเธอบ่อยๆ

“พี่มาหาอาจารย์ณรงวิทย์น่ะ พี่เปิดบริษัทเกี่ยวกับการรับออกแบบและตกแต่งสวนครับ”

“ว้าว! ยินดีด้วยนะคะ เมี่ยงขอให้พี่ดินกิจการรุ่งเรือง” เอ่ยชื่อตัวเองเพราะเกรงเขาจะจำไม่ได้ เธอก็เป็นเพียงแค่แมลงบินตัวเล็กๆ ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเขา แต่ด้วยสีสันที่ไม่โดดเด่น ชนิษฐาคิดว่าเขาจะจำเธอไม่ได้

คณิศรมองชนิษฐาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“ไม่เจอตั้งนาน จากเด็กกะโปโลกลายเป็นผู้หญิงที่สวยขึ้น” เขาชม

ผมของชนิษฐาที่ยาวเกือบถึงกลางหลังเป็นเอกลักษณ์ ในตอนนี้ถูกเธอรวบมัดเป็นหางม้า เผยให้เห็นลำคอขาวๆ ของเธอ

จากที่คณิศรสังเกตเมื่อก่อนเธอไม่แต่งหน้า แต่เดี๋ยวนี้บนใบหน้าของชนิษฐามีสีหวานแต่งแต้ม พวงแก้มมีบรัชออน ดวงตามีอายไลน์เนอร์กรีดจนเป็นเส้น แล้วปากที่เคยมีแค่ลิปกลอสมันวาว ตอนนี้ฉาบด้วยสีส้มพีชอ่อนระเรื่อ

จากอาการที่ทำตาโตๆ เมื่อถูกชม และเคอะเขิน คณิศรก็รีบเอ่ย

“จริงๆ นะ เมี่ยงสวยขึ้นเป็นกองเลย”

พอถูกชมอีก เธอแทบม้วนลงไปกองอยู่ข้างล่าง ชนิษฐาไม่คิดว่าเขาจะชมเธอ

“มันเป็นอย่างไรหรือคะ”

“ก็สวยขึ้น รู้จักการแต่งหน้าแต่งตาด้วย”

“พอดีอาจารย์ที่คณะเชิญวิทยากรสอนการแต่งหน้ามาน่ะค่ะ แต่ที่จริงมาขายเครื่องสำอางต่างหาก”

“แล้วเราตกหลุมไปเท่าไหร่ล่ะ หมดไปกี่บาท” หญิงสาวถึงกับหัวเราะลั่น

“พี่ดินรู้ได้ยังไงคะ”

“ตอนที่พี่เรียน ก็มีวิทยากรมาสอนแบบนี้แหละ เพื่อนๆ พี่หลายคนก็ตกหลุมพรางเหมือนกัน ก็โดนไปคนละหลายพัน”

ชนิษฐาถึงกับหัวเราะขำไม่หยุด

“แต่ก็คุ้มใช่ไหมคะพี่ดิน”

“อื้อ... ตามที่มองเมี่ยงแล้ว พี่คิดว่าคุ้มนะ”

แสนปลื้มใจ แสดงว่าที่เธอคิดว่าเธอไม่ได้อยู่ในสายตาของเขานั้นไม่ใช่ความจริง ที่จริงคณิศรเห็นเธอ

“พี่ดินกินข้าวเที่ยงหรือยังคะ” อะไรดลใจให้เธอถามออกไปแบบนี้ก็ไม่รู้ ชนิษฐาชอบเขา เธออยากได้เบอร์โทรของคณิศร เมื่อก่อนไม่ได้ขอเอาไว้ เพราะไม่กล้า เรียกว่ายังไม่สนิทพอ

อย่างน้อยวันนี้ชวนคณิศรไปกินข้าว แล้วขอเบอร์ก็ไม่น่าเกลียด ถึงแม้เธอจะติดตามชายหนุ่มทุกช่องทาง แต่ก็ไม่กล้าส่งข้อความไปคุยกับเขาตรงๆ ความอายกลัวเขาจะเพิกเฉยไม่ตอบก็มีอยู่เยอะ

วันนี้มีโอกาสชนิษฐาจะขออนุญาตติดต่อเขาอย่างเป็นทางการเสียที่ ไม่ต้องแอบส่อง ไอจี ทวิตเตอร์ เฟซบุค เหมือนอยากเคย ไม่ต้องแอบ จะได้กล้าเปิดเผย

“เอาสิ ไปกินข้าวด้วยกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเมี่ยงเอง”

“ว้าว! ดีใจจังเลยค่ะ” ชนิษฐายิ้มแก้มแทบแตก ความรู้สึกที่หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกมาข้างนอกอก จนต้องยกมือขึ้นมากุมเอาไว้

คณิศรเผลอยิ้ม ชนิษฐา... เป็นผู้หญิงที่น่ารัก ไม่มีจริตจะก้านแพรวพราว แม้จะไม่โดดเด่น แต่สีหน้าและแววตาที่จริงใจทำให้น่ามอง

แต่สำหรับคณิศรแล้ว เขาก็ยังชื่นชอบสุธาวีอยู่ดี อย่างที่ไม่เคยเปลี่ยนใจ

คณิศรพาชนิษฐาไปขึ้นรถ เขาพานำเธอไปยังรถโฟวิลคันใหญ่ที่โก้หรู ด้านนอกตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งบ่งบอกถึงฐานะว่ามีเป็นคนมีเงิน ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถหาเงินมาถลุงเล่นโดยการตกแต่งรถธรรมดาให้สะดุดตาได้ถึงขนาดนี้

เมื่อเธอขึ้นไปนั่งบนรถของเขา ในรถของคณิศรหอมฟุ้งไปหมด การตกแต่งภายในยิ่งล้ำกว่าข้างนอกเสียอีก

คณิศรขึ้นมานั่งแล้ว ชนิษฐาเอ่ย “รถพี่ดินสวยจังเลยค่ะ เมี่ยงอยากมีแบบนี้สักคัน เอาไว้เรียนจบก่อน เมี่ยงค่อยหาเงินซื้อค่ะ” เธอไม่กล้าจะแตะต้องเพราะเกรงว่ารถของเขาจะเป็นรอยมือของเธอ

“ตอนนี้มาเรียนยังไงหรือ”

“นั่งรถสองแถวมาจากบ้าน แล้วก็มาลงข้างหน้าค่ะ” เธอโชคดีที่รถสองแถวผ่านตรงทางหน้ามหาวิทยาลัย จึงไม่ได้ลำบากมากนัก

แต่ทว่าพื้นที่ของมหาวิทยาลัยก็กว้างใหญ่ไพศาล แต่เพื่อนก็มีน้ำใจ ถ้าพบเจอเธอ ก็จะพาให้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ หรือไม่ก็เรียกขึ้นให้นั่งรถไปยังตึกเรียนด้วย

เมื่อก่อนคณิศรไม่เคยสนใจเธอ แต่วันนี้นั่งรถด้วยกันก็ถามเสียหน่อย “บ้านอยู่ไหนหรือจ๊ะ”

“ไม่ไกลจากที่นี่หรอกค่ะพี่ดิน ห่างไป 10 กิโลฯ ค่ะ” เธอชี้ทางไปบ้าน

“เมี่ยงอยู่กับใครหรือ”

“เมี่ยงอยู่กับป้าค่ะ ท่านเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนใกล้บ้านนั่นแหละค่ะ”

“และพ่อกับแม่ล่ะจ๊ะ ไปทำงานต่างจังหวัดเหรอ หรือว่ายังไง” เขาถามอย่างอยากรู้ แววตาของเธอหม่นลงไปนิดนึง

“พ่อแม่เสียทั้งสองคนค่ะ ป้าก็เลยรับมาอุปถัมภ์ ป้าเป็นพี่สาวของแม่น่ะค่ะ”

“อ๋อ ชีวิตของเราสองคนเหมือนกันนะ พี่ก็ไม่มีพ่อมีแม่เหมือนกัน ไม่รู้รีบทั้งสองคน สงสัยที่สวรรค์น่าอยู่กะมั้ง เลยไปไม่กลับมาเลย แถมยังไม่เคยเข้าฝันอีก แหม... จะกลับมาบอกเลขลูกชายมั้งก็ไม่ได้”

เรื่องที่เศร้าทำให้เธอหัวเราะ ชนิษฐาอดขำไม่ได้ด้วยคำพูดของ แม้จะเป็นเรื่องเศร้า แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็คงจะหนีกันไม่พ้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status