ผ่านไปเกือบปี
คณิศรเริ่มเป็นโล้เป็นพายมากขึ้น เข้ามาทำงานให้กับคุณย่าในบางส่วนที่ได้รับมอบหมาย และคุณย่าก็ยังให้เงินทุนตามที่เขาเรียกร้อง คณิศรเปิดบริษัทรับออกแบบการจัดสวนตามสาขาที่เขาได้เรียนมา นอกจากนั้นยังรับเหมาทำสวนอีกด้วย ดอกไม้ก็มี ไม้ล้อมก็มี เพราะฝีมือของคุณย่าที่ปูทางให้ คณิศรได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายงานแล้ว
วันนี้อาจารย์ณรงวิทย์ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยทราบข่าวว่าลูกศิษย์ได้เปิดบริษัทแล้ว ยิ่งเป็นคณิศรอีก ถือว่าเขาเป็นพวกที่อยู่รั้งท้ายเพื่อนด้วยซ้ำ แต่เขากลับมีความก้าวหน้า
อาจารย์ณรงวิทย์จึงเรียกให้มาหาที่มหาวิทยาลัย พอดีอาจารย์กำลังจะตกแต่งสวนให้กับบ้านของลูกสาว ที่จะยกให้เป็นเรือนหอ
คณิศรจึงเดินทางมาหาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย หลังจากคุยธุระเสร็จแล้วเขาก็เดินลงมาข้างล่าง
“พี่ดินคะ พี่ดิน” เสียงหวานๆ เรียกเขาเอาไว้ ทำให้ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า คณิศรรีบหันไปมองชนิษฐาที่วิ่งมาหาด้วยความดีอกดีใจ
หญิงสาวซ่อนอาการหน้าบานที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอตามติดชีวิตของคณิศรในโซเชียล และมีอยู่หลายครั้งที่ไปกินร้านอาหารของชายหนุ่มกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เห็นหน้าเห็นตาของเขา และตัวจริงเลย
“พี่ดินมาทำอะไรที่นี่หรือคะ” เอื้อนเอ่ยอย่างใบหน้าระรื่น
คณิศรเห็นหน้าเธอก็ยิ้มให้ จำได้ทันที เพราะเป็นรุ่นน้องที่น่ารักเสมอ แม้จะเรียนคนละคณะ แต่ดูเหมือนเธอจะทำตัวจะเนียนว่ารู้จักกับเขาเป็นอย่างดี และจำได้ขึ้นใจเพราะลือกฤชเอ่ยถึงเธอบ่อยๆ
“พี่มาหาอาจารย์ณรงวิทย์น่ะ พี่เปิดบริษัทเกี่ยวกับการรับออกแบบและตกแต่งสวนครับ”
“ว้าว! ยินดีด้วยนะคะ เมี่ยงขอให้พี่ดินกิจการรุ่งเรือง” เอ่ยชื่อตัวเองเพราะเกรงเขาจะจำไม่ได้ เธอก็เป็นเพียงแค่แมลงบินตัวเล็กๆ ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเขา แต่ด้วยสีสันที่ไม่โดดเด่น ชนิษฐาคิดว่าเขาจะจำเธอไม่ได้
คณิศรมองชนิษฐาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“ไม่เจอตั้งนาน จากเด็กกะโปโลกลายเป็นผู้หญิงที่สวยขึ้น” เขาชม
ผมของชนิษฐาที่ยาวเกือบถึงกลางหลังเป็นเอกลักษณ์ ในตอนนี้ถูกเธอรวบมัดเป็นหางม้า เผยให้เห็นลำคอขาวๆ ของเธอ
จากที่คณิศรสังเกตเมื่อก่อนเธอไม่แต่งหน้า แต่เดี๋ยวนี้บนใบหน้าของชนิษฐามีสีหวานแต่งแต้ม พวงแก้มมีบรัชออน ดวงตามีอายไลน์เนอร์กรีดจนเป็นเส้น แล้วปากที่เคยมีแค่ลิปกลอสมันวาว ตอนนี้ฉาบด้วยสีส้มพีชอ่อนระเรื่อ
จากอาการที่ทำตาโตๆ เมื่อถูกชม และเคอะเขิน คณิศรก็รีบเอ่ย
“จริงๆ นะ เมี่ยงสวยขึ้นเป็นกองเลย”
พอถูกชมอีก เธอแทบม้วนลงไปกองอยู่ข้างล่าง ชนิษฐาไม่คิดว่าเขาจะชมเธอ
“มันเป็นอย่างไรหรือคะ”
“ก็สวยขึ้น รู้จักการแต่งหน้าแต่งตาด้วย”
“พอดีอาจารย์ที่คณะเชิญวิทยากรสอนการแต่งหน้ามาน่ะค่ะ แต่ที่จริงมาขายเครื่องสำอางต่างหาก”
“แล้วเราตกหลุมไปเท่าไหร่ล่ะ หมดไปกี่บาท” หญิงสาวถึงกับหัวเราะลั่น
“พี่ดินรู้ได้ยังไงคะ”
“ตอนที่พี่เรียน ก็มีวิทยากรมาสอนแบบนี้แหละ เพื่อนๆ พี่หลายคนก็ตกหลุมพรางเหมือนกัน ก็โดนไปคนละหลายพัน”
ชนิษฐาถึงกับหัวเราะขำไม่หยุด
“แต่ก็คุ้มใช่ไหมคะพี่ดิน”
“อื้อ... ตามที่มองเมี่ยงแล้ว พี่คิดว่าคุ้มนะ”
แสนปลื้มใจ แสดงว่าที่เธอคิดว่าเธอไม่ได้อยู่ในสายตาของเขานั้นไม่ใช่ความจริง ที่จริงคณิศรเห็นเธอ
“พี่ดินกินข้าวเที่ยงหรือยังคะ” อะไรดลใจให้เธอถามออกไปแบบนี้ก็ไม่รู้ ชนิษฐาชอบเขา เธออยากได้เบอร์โทรของคณิศร เมื่อก่อนไม่ได้ขอเอาไว้ เพราะไม่กล้า เรียกว่ายังไม่สนิทพอ
อย่างน้อยวันนี้ชวนคณิศรไปกินข้าว แล้วขอเบอร์ก็ไม่น่าเกลียด ถึงแม้เธอจะติดตามชายหนุ่มทุกช่องทาง แต่ก็ไม่กล้าส่งข้อความไปคุยกับเขาตรงๆ ความอายกลัวเขาจะเพิกเฉยไม่ตอบก็มีอยู่เยอะ
วันนี้มีโอกาสชนิษฐาจะขออนุญาตติดต่อเขาอย่างเป็นทางการเสียที่ ไม่ต้องแอบส่อง ไอจี ทวิตเตอร์ เฟซบุค เหมือนอยากเคย ไม่ต้องแอบ จะได้กล้าเปิดเผย
“เอาสิ ไปกินข้าวด้วยกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเมี่ยงเอง”
“ว้าว! ดีใจจังเลยค่ะ” ชนิษฐายิ้มแก้มแทบแตก ความรู้สึกที่หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกมาข้างนอกอก จนต้องยกมือขึ้นมากุมเอาไว้
คณิศรเผลอยิ้ม ชนิษฐา... เป็นผู้หญิงที่น่ารัก ไม่มีจริตจะก้านแพรวพราว แม้จะไม่โดดเด่น แต่สีหน้าและแววตาที่จริงใจทำให้น่ามอง
แต่สำหรับคณิศรแล้ว เขาก็ยังชื่นชอบสุธาวีอยู่ดี อย่างที่ไม่เคยเปลี่ยนใจ
คณิศรพาชนิษฐาไปขึ้นรถ เขาพานำเธอไปยังรถโฟวิลคันใหญ่ที่โก้หรู ด้านนอกตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งบ่งบอกถึงฐานะว่ามีเป็นคนมีเงิน ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถหาเงินมาถลุงเล่นโดยการตกแต่งรถธรรมดาให้สะดุดตาได้ถึงขนาดนี้
เมื่อเธอขึ้นไปนั่งบนรถของเขา ในรถของคณิศรหอมฟุ้งไปหมด การตกแต่งภายในยิ่งล้ำกว่าข้างนอกเสียอีก
คณิศรขึ้นมานั่งแล้ว ชนิษฐาเอ่ย “รถพี่ดินสวยจังเลยค่ะ เมี่ยงอยากมีแบบนี้สักคัน เอาไว้เรียนจบก่อน เมี่ยงค่อยหาเงินซื้อค่ะ” เธอไม่กล้าจะแตะต้องเพราะเกรงว่ารถของเขาจะเป็นรอยมือของเธอ
“ตอนนี้มาเรียนยังไงหรือ”
“นั่งรถสองแถวมาจากบ้าน แล้วก็มาลงข้างหน้าค่ะ” เธอโชคดีที่รถสองแถวผ่านตรงทางหน้ามหาวิทยาลัย จึงไม่ได้ลำบากมากนัก
แต่ทว่าพื้นที่ของมหาวิทยาลัยก็กว้างใหญ่ไพศาล แต่เพื่อนก็มีน้ำใจ ถ้าพบเจอเธอ ก็จะพาให้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ หรือไม่ก็เรียกขึ้นให้นั่งรถไปยังตึกเรียนด้วย
เมื่อก่อนคณิศรไม่เคยสนใจเธอ แต่วันนี้นั่งรถด้วยกันก็ถามเสียหน่อย “บ้านอยู่ไหนหรือจ๊ะ”
“ไม่ไกลจากที่นี่หรอกค่ะพี่ดิน ห่างไป 10 กิโลฯ ค่ะ” เธอชี้ทางไปบ้าน
“เมี่ยงอยู่กับใครหรือ”
“เมี่ยงอยู่กับป้าค่ะ ท่านเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนใกล้บ้านนั่นแหละค่ะ”
“และพ่อกับแม่ล่ะจ๊ะ ไปทำงานต่างจังหวัดเหรอ หรือว่ายังไง” เขาถามอย่างอยากรู้ แววตาของเธอหม่นลงไปนิดนึง
“พ่อแม่เสียทั้งสองคนค่ะ ป้าก็เลยรับมาอุปถัมภ์ ป้าเป็นพี่สาวของแม่น่ะค่ะ”
“อ๋อ ชีวิตของเราสองคนเหมือนกันนะ พี่ก็ไม่มีพ่อมีแม่เหมือนกัน ไม่รู้รีบทั้งสองคน สงสัยที่สวรรค์น่าอยู่กะมั้ง เลยไปไม่กลับมาเลย แถมยังไม่เคยเข้าฝันอีก แหม... จะกลับมาบอกเลขลูกชายมั้งก็ไม่ได้”
เรื่องที่เศร้าทำให้เธอหัวเราะ ชนิษฐาอดขำไม่ได้ด้วยคำพูดของ แม้จะเป็นเรื่องเศร้า แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็คงจะหนีกันไม่พ้น
ไม่นานนัก เขาก็พาเธอมาถึงร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ร้านอาหารอยู่ติดถนน ในร้านสะอาดสะอ้าน“นั่งห้องแอร์ดีกว่านะ ข้างนอกร้อน”“ค่ะ” ชนิษฐาเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย สายตาของหญิงสาวไม่อาจจะละจากร่างหนาของเขาได้เลยคณิศรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาดูดีขึ้นมาก ด้วยผมรองทรงที่หนาๆ อีกอวัยวะที่ชนิษฐาชอบเขา เพราะจมูกที่โด่งสันเป็นคน ดวงตากลมโต คิ้วดกๆ ซึ่งส่วนใหญ่ หนุ่มๆ แถวนี้จะตาตี่ๆ เป็นตี๋เสียส่วนใหญ่สำหรับคณิศร เนื่องจากแม่มาจากใต้ เธอสืบจนรู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนสงขลาจึงทำให้หน้าตาคมคายพนักงานเดินมายื่นเมนูให้“เมี่ยงอยากกินอะไรก็กินนะ สั่งได้เต็มที่เลย”เธอจะบอกเขาอย่างไรดี แค่เห็นหน้าของคณิศรในวันนี้ ชนิษฐาก็อิ่มไปอีกหลายวัน หญิงสาวสั่งอาหารตามที่เขาสั่งคณิศรสั่งสเต็กสันคอ เธอก็เลือกตามเขา เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมคณิศรถึงชอบกิน“อีกปีเดียวก็จะจบแล้วสินะ”“ค่ะ”“ตั้งใจจะไปทำงานอะไร”“เมี่ยงก็ภาวนาให้ได้งานทำใกล้บ้านนะคะ จะได้อยู่ดูแลป้าด้วย อีกอย่างนึงไม่มีรถ ป้าไม่ให้ใช้ทั้งมอเตอร์ไซค์ และก็รถยนต์น่ะค่ะ”“เมี่ยงยังขับรถไม่เป็นเหรอ”“ค่ะ ไม่เป็นเลย เป็นแต่จักรยานอย่างเดียว”“เอาแบบนี
หลังจากผ่านพ้นเกมหฤโหดบนเตียง ที่จัดกันจนน้ำแตกกระจายเกลื่อน คณิศรนอนตะแคงเท้าคางจ้องหน้าสุธาวี ที่หอบเหนื่อยไม่แพ้กัน“หวายแต่งงานกันไหม”ตาที่หลับอยู่ถึงกับเบิกโพลง“แต่งงานเหรอคะดิน โอ๊ย! เราสองคนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เองคะ 26 27 จะรีบแต่งไปไหนกันคะดิน หวายไม่เอาอ่ะ หวายยังไม่อยากแต่งค่ะ ยังอยากใช้ชีวิตของตัวเองแบบสนุกๆ แบบนี้ไปอีกนานๆ ค่ะ ถ้าหวายจะแต่ง โน่น... ต้อง 35 ค่ะ เหลืออยู่เวลาอีกเกือบ 7-8 ปี ไม่ค่ะ ไม่...” เธอปฏิเสธทันควันคณิศรเป็นคนเดียวที่เธอเลือกผูกปิ่นโตนานที่สุด เพราะว่าชายหนุ่มมีฐานะดี อีกอย่างเรื่องบนเตียงของคณิศรก็จัดว่าแซ่บนัมเบอร์วัน“แต่ถ้าผมไม่แต่งงานในปีนี้ ย่าจะไม่ยกสมบัติให้”สุธาวีถึงกลับหัวเราะคิก“ดินคะ คุณยังเชื่อมุกนี้ของย่าของคุณอีกหรือคะ ย่าท่านพูดเล่นหรอกค่ะ ดินอย่าเป็นจริงเป็นจังนักเลย ดินคะคุณน่ะใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะ เรื่องผูกมัดกับใครสักคน ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันเองก็ไม่อยากจะทำเลย”นี่คือคำปฏิเสธที่ชัดเจนมากๆ เขาถึงกับทิ้งตัวลงไปบนนอนหงาย แล้วมองไปบนเพดานเสียงของสุธาวีก็ยังดังอีก “มีใครสักคนที่หลงใหลคลั่งไคลคุณไหมล่ะ ก็จับหล่อนทำเมียสิ สมบัต
ชนิษฐาตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เธอขัดสีฉวีวรรณตัว ก่อนจะออกมาเลือกชุดที่จะใส่ไปเรียนขับรถกับคณิศรอย่างบรรจงหญิงสาวถ่ายรูปส่งไปให้หรือฤดีรัตน์ดูหลายรูป แต่ฝ่ายนั้นยังไม่ตื่น จึงไม่ได้ให้คำตอบ ชนิษฐาจึงตัดสินใจใส่เป็นชุดกระโปรงที่ดูเรียบร้อย น่ารักหวานแหวว เพราะเป็นอะไรที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับคณิศรทั้งที่เธอก็รู้ว่าผู้หญิงในแบบที่คณิศรชอบคือเปรี้ยวเข็ดฟัน แต่ว่าชนิษฐาอยากให้เขาได้เห็นผู้หญิงที่แตกต่างแบบเธอเมื่อใกล้เวลานัดเธอออกไปยังจุดนัดหมาย ชนิษฐายืนอยู่หน้าร้านมินิมาร์ท หน้าตู้กดเงินสดของหลายธนาคารที่วางเรียงรายด้านข้างร้านมินิมาร์เป็นบ้านคนที่ปลูกดอกไม้พวงครามที่โรยตัวแล้วยังจับกลุ่มเป็นช่ออย่างสวยงามสายตาของหญิงสาวมองตามถนนทั้งสองฝั่ง ไม่รู้ว่าคณิศรจะมาทางไหนอย่างหัวใจจดจ่อ เป็นเวลาที่เปลี่ยนโลกสีมอๆ ของชนิษฐาให้มีสีสันคณิศรมองไปยังจุดนัดพบ ดวงตาของเขาได้ปะทะเข้ากับร่างอรชรของหญิงสาว ชนิษฐาปล่อยผมยาวจะสยายเต็มแผ่นหลัง เธอติดกิ๊บน่ารักบนศีรษะสองอันด้วย จุดเด่นคือเส้นผมของชนิษฐาที่ดำขลับตัดกับดอกพวงครามที่กระเดียดไปทางสีม่วง เธอยืนอยู่ใต้ดอกไม้ และตรงพื้นมีดอกกระจายเกลื่อน
‘พูดแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน พี่ดินพามาบ้าน มาหาย่า นั่นหมายถึง ไม่มั้ง’ หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ วันนี้คณิศรทำดีกับเธอ ให้ความสนิทสนมแบบคนที่น่าไว้ใจ อีกอย่างเขาโปรยเสน่ห์ให้เธออย่างรุนแรง จนเธอหัวใจจะระเบิดไปหลายรอบความเป็นจริงชนิษฐาไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ ตอนนี้คณิศรกำลังโปรยหว่านให้เธอรักให้เธอหลงเขา ดวงตาที่พร่างพราวนั่นทำให้เธอตกบ่วงรักลงไปอย่างง่ายดายความชอบที่มีมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่เธอกวาดสายตามองไปรอบบ้านของคุณย่า เพื่อลดความกังวล แต่ยิ่งเห็นว่าเขาร่ำรวย และฐานะที่แตกต่าง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่ มือเย็นมากคณิศรจับมือของเธอแล้วบีบ หญิงสาวจึงยกหน้ามองเขา“เมี่ยงไม่กังวล และไม่ต้องกลัวนะ ย่าของพี่ใจดีมากครับ”“ค่ะ ค่ะ คือเมี่ยงยังไม่เคยไปบ้านเพื่อนคนไหนเลยนะคะ พี่ดินเป็นคนแรกที่เมี่ยงมาเยี่ยมบ้านค่ะ”“พี่ใช่เพื่อนของเมี่ยงที่ไหนกัน” เขายิ้มให้อย่างกรุ่มกริ่ม เสน่ห์ของคณิศรมีเยอะแยะ สำหรับชนิษฐาเขาขยิบตาจ้องแบบหวานๆ ทำท่าทียักคิ้วลิ่วตาเล็กๆ น้อยๆ เธอต้องก็ติดกับดักเขาเสียแล้วสายพิณยกทุกอย่างมาตั้งที่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่ค
ชนิษฐาคิดวนเวียน เหมือนมีราชรถมาเกยถึงหน้าประตูบ้าน ถ้าเธอไม่ก้าวขาขึ้น ก็คงจะผิดปกติ อีกอย่างราชรถคันนี้ คนขับเป็นคนที่เธอคลั่งไคล้ไหลหลงมากๆ เสียด้วยนั่นคือความสมหวังในชีวิตครั้งแรกของชนิษฐาเลยก็ว่าได้ เธอเคยอธิษฐานว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคณิศร แล้ววันนี้ทุกอย่างมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้แต่จะมีเหตุการณ์อะไรบอกกล่าวล่วงหน้า‘ฉันควรยิ้มรับกับความโชคชะตานี้ใช่ไหม’ ชนิษฐาถามตัวเองอีกครั้ง“ว่าไงจะหนูเมี่ยง มะรืนนี้นะ บอกคุณป้าของหนูเอาไว้ด้วย”“ค่ะ” เธอรับปากออกไปอย่างแผ่วเบา ชนิษฐาไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีกแล้วจริงๆหลังจากออกมาจากบ้านคุณย่ามณีแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งรถไปด้วยกันอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร จนเธอรู้สึกอึดอัด ชนิษฐาหันไปหาคณิศร“ทำไมพี่ดินพูดแบบนั้นคะ นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วค่ะ”คณิศรเบรกรถกะทันหัน แล้วค่อยๆ พารถเข้าข้างทาง“พี่คิดว่าเมี่ยงชอบพี่เสียอีก เมี่ยงไม่ได้สนใจพี่ใช่ไหม แล้วเมื่อกี้ที่รับปากว่าจะให้ย่าไปสู่ขอ หมายถึงตอนนี้เมี่ยงอยากจะปฏิเสธ” สายตาของเขาดูจริงจัง ไม่เหมือนที่อยู่กับคุณย่าเลย ที่ทั้งขี้เล่น แล้วก็มองเธออย่างไม่ละสายตาชนิษฐาได้แต่อึกอัก พูด
คณิศรกลืนน้ำลายดังเอื้อก เขามีคำตอบในใจ รูปร่างอรชรตรงหน้าช่างสวยงามราวกับจับปั้น ชายหนุ่มตะลึงไปอึดใจ และก็เอาแต่จ้องมองร่างบางที่สมส่วนกลมกลึงอย่างตาไม่กะพริบเขายังเผลอกลืนน้ำลายลงไปในคอดังอึก แล้วก็ได้คืนสติ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นของเขา และหากได้เข้าพิธีแต่งงาน ชนิษฐาก็จะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามประเพณีและตามกฎหมายเขาไม่อยากจะพิจารณาร่างกายนวลหวานของเธอด้วยสายตาอีกแล้ว คณิศรส่งฝ่ามือลงไปลูบไล้เรือนกายบาง มือที่หนาหยาบของผู้ชายทำให้ชนิษฐาส่ายดิ้น เธอผินหน้าหนีพร้อมกับหลับตา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะกลั้นลมหายใจอีกครั้งใบหน้าของคณิศรคลุกเคล้าลงไปแบบไม่อยากให้เสียเวลา ตอนนี้เขาต้องทำอย่างที่อยากทำ ต้องทำให้ชนิษฐาเป็นของเขา เพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธหญิงสาวแขม่วหน้าท้องจนแบนราบ ยามที่เขาไล่แตะไต่ใบหน้า และใช้ปลายลิ้นและปลายจมูกโด่งสัมผัสไปทุกรูขุมขน ไม่เว้นแม้แต่เอวคอด และสะโพกกลมผายยามใบหน้าของคณิศรไล่พ่นลมหายใจผ่านหน้าท้องลงต่ำ เคลื่อนสู่โหนกสาวและหยุดทักทายแพขนสีเดียวกับเส้นผม และไล่เรื่อยลงไปถึงต้นขาเรียวงามชนิษฐาสะท้านสะเทือนไปถึงก้นบึ้งของหั
แม้คุณป้าช่อม่วงจะพร่ำสอนว่า อย่าใจอ่อนยอมไปนอนกับผู้ชาย พวกนี้มันล่อลวงและมักทำให้ผู้หญิงที่ตกหลุมรักตกหลุมพราง แล้วเมื่อปล่อยตัวปล่อยใจเผลอไผลไปแล้ว คนที่จะตกที่นั่งลำบาก และมีแต่ความเสียใจก็คือผู้หญิงเองทว่าตอนนี้ชนิษฐาไม่สนคำสอนใดๆ ไม่ว่าจะป้าหรือครูบาอาจารย์ที่บอกว่าให้รักนวลสงวนตัว หัวใจของเธอเตลิดอยากรู้ว่าคณิศรจะพาเธอโลดเล่นในเกมรักนี้ แล้วมันจะไปจบที่ตรงไหน“อื้อ...” เขาครางส่ง พร้อมกับกดแทรกแกนแกร่งลงไปในร่องน้อยๆ ทันที่ที่หัวหยักผลุบเข้าไปช่องคับแคบก็บีบท่อนลำของเขาจังๆ คณิศรถึงกับส่งเสียงครางอู้อ้า ผละจากกลีบปากแหงนหน้าสูดปากดังซู้ดซ้าดเหมือนกับกินของเผ็ดๆ“โอ๊ย! เจ็บค่ะ พี่ดินขา เจ็บ อี้... อะ... เจ็บ เอามันออกก่อนได้ไหมคะ” น้ำเสียงอ้อนวอนเขาเป็นที่สุด มือน้อยๆ ที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและหัวไหล่ของเขา ตอนนี้จิกเล็บลงเนื้อหนังของคณิศรแล้วลากเป็นทางยาวเพื่อระบายความเจ็บปวดที่เธอได้รับท่อนแข็งแรงของคณิศรเหมือนจะฉีกร่างของเธอให้ออกเป็นสองส่วน เธอสั่นหน้า จ้องสบตากับเขาอย่างอ้อนวอน แต่ทว่าคณิศรก็เดินหน้าตอกอัดเสาเข็มใหญ่ของเขาไปเรื่อย“อื้อ อูย เจ็บ... ซี้ด...” ยิ่งลงลึกก็ยิ่ง
ที่บ้านของคุณป้าช่อม่วงท่านนั่งอยู่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด สายตาจ้องมองหน้าหลานสาว ที่ตอนนี้เธอได้เอ่ยพูดขึ้นมาว่า“หนูได้เสียกับพี่ดินแล้วค่ะ”คุณป้าไม่พูดใดๆ โกรธจนหน้าขุ่นเขียว ถึงกับหยิกไปที่แขนของหลานสาวแรงๆ“ทำไมทำตัวอย่างนี้ฮะ เรียนหนังสือยังไม่จบปริญญาตรีด้วยซ้ำไป ริอาจจะมีผัวแล้วเหรอ แล้วรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมป้าไม่เคยรู้ฮึ... ไม่เคยคิดจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน เมี่ยงทำแบบนี้ เมี่ยงยังเห็นหัวของป้าอยู่ไหม ฮึ... ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่พ่อแม่แกตาย ยังไงก็ต้องเห็นนึกเห็นหน้ากันบ้าง แล้วสอนไม่จำ บอกกี่ครั้งว่า... อย่าทำแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” คำพูดที่พรั่งพรูอย่างเสียใจออกมามากมายชนิษฐาน้ำตาไหลพรากๆ เธอทั้งขายหน้าและเสียใจด้วย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วทุกอย่างคุณย่ามณีเอ่ยเร็วทันที“คุณช่อม่วงจ๋า เห็นแก่ฉันเถอะนะ อย่าตีหนูเมี่ยงเลย ฉันมีหลานแค่คนเดียว ก็คือดินนี่แหละ ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่าเด็กสองคนนี้รักกัน แต่เห็นว่าสองคนรักกันจริงๆ ในเมื่อรักกันดี ฉันก็อยากจะมาเอ่ยปากกับทางนี้เสียให้เรียบร้อย และคุณช่อม่วงไม่ต้องกลัวนะว่าหลานชายของฉันจะทิ้งหลานสาวของคุณน่ะ เพราะถึงอย่างไรนับตั้งแ