ชนิษฐาตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เธอขัดสีฉวีวรรณตัว ก่อนจะออกมาเลือกชุดที่จะใส่ไปเรียนขับรถกับคณิศรอย่างบรรจง
หญิงสาวถ่ายรูปส่งไปให้หรือฤดีรัตน์ดูหลายรูป แต่ฝ่ายนั้นยังไม่ตื่น จึงไม่ได้ให้คำตอบ ชนิษฐาจึงตัดสินใจใส่เป็นชุดกระโปรงที่ดูเรียบร้อย น่ารักหวานแหวว เพราะเป็นอะไรที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับคณิศร
ทั้งที่เธอก็รู้ว่าผู้หญิงในแบบที่คณิศรชอบคือเปรี้ยวเข็ดฟัน แต่ว่าชนิษฐาอยากให้เขาได้เห็นผู้หญิงที่แตกต่างแบบเธอ
เมื่อใกล้เวลานัดเธอออกไปยังจุดนัดหมาย ชนิษฐายืนอยู่หน้าร้านมินิมาร์ท หน้าตู้กดเงินสดของหลายธนาคารที่วางเรียงราย
ด้านข้างร้านมินิมาร์เป็นบ้านคนที่ปลูกดอกไม้พวงครามที่โรยตัวแล้วยังจับกลุ่มเป็นช่ออย่างสวยงาม
สายตาของหญิงสาวมองตามถนนทั้งสองฝั่ง ไม่รู้ว่าคณิศรจะมาทางไหนอย่างหัวใจจดจ่อ เป็นเวลาที่เปลี่ยนโลกสีมอๆ ของชนิษฐาให้มีสีสัน
คณิศรมองไปยังจุดนัดพบ ดวงตาของเขาได้ปะทะเข้ากับร่างอรชรของหญิงสาว ชนิษฐาปล่อยผมยาวจะสยายเต็มแผ่นหลัง เธอติดกิ๊บน่ารักบนศีรษะสองอันด้วย จุดเด่นคือเส้นผมของชนิษฐาที่ดำขลับตัดกับดอกพวงครามที่กระเดียดไปทางสีม่วง เธอยืนอยู่ใต้ดอกไม้ และตรงพื้นมีดอกกระจายเกลื่อน คณิศรถึงกับตะลึงในความสวยนั่น
ปริ้น ปริ้น... เขากดแตรรถ
ชนิษฐาหันมาตามเสียง เธอจำรถเขาได้ หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้แต่ไกล ชนิษฐารีบวิ่งเข้ามาก่ อนจะเปิดขึ้นไปนั่งข้างๆ
“สวยกว่าเมื่อวานอีกนะ”
เมื่อได้รับคำชม เธอก็รู้สึกเขินอายหนักมาก เริ่มหายใจติดขัด หัวใจใต้อกสาวเต้นระรัว
“กินอะไรมาหรือยังล่ะ พี่พาไปกินติ่มซำไหม”
“ยังค่ะ กินอะไรก็ได้ค่ะ”
เหมือนกับเป็นออกเดทกับคนรักเลย ชนิษฐาได้แต่มองไปข้างหน้า ท้องฟ้าสีครามดูสดใสกว่าทุกวัน คลายกับความรู้สึกของหญิงสาวในตอนนี้ มันสว่างวาบไปทั้งใจ
ชนิษฐาลอบมองหน้าของคณิศรอยู่เป็นระยะ บอกได้คำเดียวว่ายิ่งชอบเขา และก็ยิ่งชอบเข้าไปอีก มันมากขึ้น และยิ่งจะมากขึ้น
คนข้างๆ ก็คงจะรู้ตัว เพราะสายตาที่มองของชนิษฐานั้นหยาดเยิ้ม และพร่างพราวไปด้วยความรู้สึกดีๆ ราวกับเธอได้เทหัวใจให้คณิศรแล้วหมด
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เขาก็พาเธอไปหัดขับรถในพื้นที่ที่เป็นที่ดินของเขา ไปไกลถึงอำเภอจอมทอง จังหวัดลำพูน คณิศรดูใจเย็นมากๆ ในเวลาที่สอนเธอขับรถ ชนิษฐาก็เป็นนักเรียนที่ดี เธอหัวไวเสียอีก กำจัดความตื่นเต้นไปหมด เหลือไว้กับใจจดจ่อ จริงอย่างที่คณิศรพูด ถ้าเธอขับรถเป็น มันเป็นการดีกับเธอ ในเมื่อป้าไม่สอน และไม่ยอมให้ไปเรียน เธอก็เรียนเองได้
“หัวไวเหมือนกันนะเรานะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ดินก็ใจเย็นมากๆ ค่ะ เมี่ยงดูในคลิปหลายคลิปแล้วที่คนสอนกับคนเรียนตีกัน”
“แล้วใครชนะ”
“ผู้หญิงสิคะ แต่ก็น้ำตาท่วมไปเหมือนกัน”
“เหรอ”
การได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ ทำให้สองหนุ่มสาวได้ใกล้ชิดและสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น
“ที่จริงตรงนี้มันใกล้บ้านพี่นะ”
“เหรอคะ” ชนิษฐาออกอาการตื่นเต้น
“พี่อยู่ที่นี่กับย่าน่ะ อยู่กันสองคน ไม่มีใคร และก็คนดูแลย่า กับทำงานบ้าน” เขาเล่าเพราะอยากให้เธอรู้
“เราแวะไปกินข้าวเที่ยงกับย่าดีไหม”
ชนิษฐาตื่นเต้นดีใจได้แต่พยักหน้าหงึกๆ
“แล้วแต่พี่ดินค่ะ เมี่ยงยังไงก็ได้”
วันนี้โลกตอบรับและประทานพรดีๆ ให้กับชนิษฐาบ้างแล้ว เธอไม่เคยได้รับความรัก ความอบอุ่น อย่างเช่นวันนี้มากจากใครๆ เลย
คุณป้าช่อม่วงที่เธอรักและเคารพ ท่านมีนิสัยเคร่งขรึม พูดน้อย หน้าตาไม่เคยมีความสุข เอาแต่บึ้งตึงทั้งวัน ดีที่ชนิษฐายังมีเพื่อนๆ และครูบาอาจารย์ที่มองโลกในแง่บวก ทำให้หญิงสาวได้รับความสดใสจากคนอื่น ที่ไม่ใช่คุณป้า
ชนิษฐาพยายามเก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้มาก ยิ่งตอนรถยนต์ของเขาเล่นเข้าไปในเขตสวนที่มีเนื้อที่หลายร้อยไร่ สองข้างทางปลูกดอกไม้เรียงราย
“คุณย่าของพี่ปลูกดอกไม้ขายน่ะมี คนงานเกือบ 100 คน”
ชนิษฐาเอาแต่ตะลึงมองไปข้างนอกเพื่อเก็บความงามด้วยสายตาเอาไว้ จนท้ายสุด เธอก็อดที่จะหยิบมือถือมาถ่ายทั้งรูปและวีดีโอเก็บเอาไว้
รถวิ่งไปในกลุ่มต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเรียงรายล้อมรอบบ้านเรือนไทยหลังเบ้อเร่อ ใต้ถุนมีคนอยู่จำนวนหนึ่งกำลังง่วนทำอะไรกันอยู่
“ย่าไปไหนล่ะพี่พิณ”
ทันทีที่เขาเห็นสายพิณ ต้นห้องของคุณย่าคณิศรนก็รีบถาม
สายพิณมองหน้าคณิศรแล้วเลยมองชนิษฐาที่ส่งยิ้มหวานมาอย่างจริงใจ สายพิณตอบรับด้วยยิ้มที่มีมิตรไมตรีจิต
“คุณย่าเข้าห้องน้ำค่ะ ประเดี๋ยวก็คงออกมา พี่กำลังตั้งโต๊ะอาหารพอดี คุณดินจะกินด้วยไหมคะ”
“กินสิกำลังหิว มีเมนูอะไรบ้างวันนี้”
“แกงอ่อมผักรวม ปลาทอด เหมือนรู้เลยนะคะว่าคุณดินจะมากินข้าวเที่ยงด้วย พี่มีแหนมกระดูกหมูด้วย เดี๋ยวพี่ไปทอดให้เลยค่ะ อ้อยังมีแกงโฮะอีก นั่งรอกันก่อนนะคะ” สายพิณจึงเดินเข้าไปในครัว
คณิศรไปที่ตู้เย็น เขาหยิบน้ำดื่มมาเสิร์ฟให้
“เมี่ยงดื่มน้ำก่อนนะ ย่าเข้าห้องน้ำน่ะ ถ้าย่าออกมา พี่จะแนะนำให้รู้จัก พี่เชื่อว่าย่าจะต้องชอบให้เมี่ยงแน่ๆ” เขาพูดให้กำลังใจ เพราะเห็นสีหน้าของชนิษฐาเหมือนไม่มั่นใจในตัวเอง
“ไม่เคยได้ไปพบผู้ใหญ่ที่ไหนนะคะ” ด้วยความที่คุณป้าช่อม่วงของเธอไม่สุงสิงกับใคร ทำให้กลายเป็นเธอต้องทำตัวแปลกแยกไปด้วย
“พี่รู้จักย่าของพี่ดี พี่เชื่อว่าคุณย่าท่านจะต้องชอบเมี่ยงแน่ๆ”
‘พูดแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน พี่ดินพามาบ้าน มาหาย่า นั่นหมายถึง ไม่มั้ง’ หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ วันนี้คณิศรทำดีกับเธอ ให้ความสนิทสนมแบบคนที่น่าไว้ใจ อีกอย่างเขาโปรยเสน่ห์ให้เธออย่างรุนแรง จนเธอหัวใจจะระเบิดไปหลายรอบความเป็นจริงชนิษฐาไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ ตอนนี้คณิศรกำลังโปรยหว่านให้เธอรักให้เธอหลงเขา ดวงตาที่พร่างพราวนั่นทำให้เธอตกบ่วงรักลงไปอย่างง่ายดายความชอบที่มีมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่เธอกวาดสายตามองไปรอบบ้านของคุณย่า เพื่อลดความกังวล แต่ยิ่งเห็นว่าเขาร่ำรวย และฐานะที่แตกต่าง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่ มือเย็นมากคณิศรจับมือของเธอแล้วบีบ หญิงสาวจึงยกหน้ามองเขา“เมี่ยงไม่กังวล และไม่ต้องกลัวนะ ย่าของพี่ใจดีมากครับ”“ค่ะ ค่ะ คือเมี่ยงยังไม่เคยไปบ้านเพื่อนคนไหนเลยนะคะ พี่ดินเป็นคนแรกที่เมี่ยงมาเยี่ยมบ้านค่ะ”“พี่ใช่เพื่อนของเมี่ยงที่ไหนกัน” เขายิ้มให้อย่างกรุ่มกริ่ม เสน่ห์ของคณิศรมีเยอะแยะ สำหรับชนิษฐาเขาขยิบตาจ้องแบบหวานๆ ทำท่าทียักคิ้วลิ่วตาเล็กๆ น้อยๆ เธอต้องก็ติดกับดักเขาเสียแล้วสายพิณยกทุกอย่างมาตั้งที่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่ค
ชนิษฐาคิดวนเวียน เหมือนมีราชรถมาเกยถึงหน้าประตูบ้าน ถ้าเธอไม่ก้าวขาขึ้น ก็คงจะผิดปกติ อีกอย่างราชรถคันนี้ คนขับเป็นคนที่เธอคลั่งไคล้ไหลหลงมากๆ เสียด้วยนั่นคือความสมหวังในชีวิตครั้งแรกของชนิษฐาเลยก็ว่าได้ เธอเคยอธิษฐานว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคณิศร แล้ววันนี้ทุกอย่างมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้แต่จะมีเหตุการณ์อะไรบอกกล่าวล่วงหน้า‘ฉันควรยิ้มรับกับความโชคชะตานี้ใช่ไหม’ ชนิษฐาถามตัวเองอีกครั้ง“ว่าไงจะหนูเมี่ยง มะรืนนี้นะ บอกคุณป้าของหนูเอาไว้ด้วย”“ค่ะ” เธอรับปากออกไปอย่างแผ่วเบา ชนิษฐาไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีกแล้วจริงๆหลังจากออกมาจากบ้านคุณย่ามณีแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งรถไปด้วยกันอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร จนเธอรู้สึกอึดอัด ชนิษฐาหันไปหาคณิศร“ทำไมพี่ดินพูดแบบนั้นคะ นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วค่ะ”คณิศรเบรกรถกะทันหัน แล้วค่อยๆ พารถเข้าข้างทาง“พี่คิดว่าเมี่ยงชอบพี่เสียอีก เมี่ยงไม่ได้สนใจพี่ใช่ไหม แล้วเมื่อกี้ที่รับปากว่าจะให้ย่าไปสู่ขอ หมายถึงตอนนี้เมี่ยงอยากจะปฏิเสธ” สายตาของเขาดูจริงจัง ไม่เหมือนที่อยู่กับคุณย่าเลย ที่ทั้งขี้เล่น แล้วก็มองเธออย่างไม่ละสายตาชนิษฐาได้แต่อึกอัก พูด
คณิศรกลืนน้ำลายดังเอื้อก เขามีคำตอบในใจ รูปร่างอรชรตรงหน้าช่างสวยงามราวกับจับปั้น ชายหนุ่มตะลึงไปอึดใจ และก็เอาแต่จ้องมองร่างบางที่สมส่วนกลมกลึงอย่างตาไม่กะพริบเขายังเผลอกลืนน้ำลายลงไปในคอดังอึก แล้วก็ได้คืนสติ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นของเขา และหากได้เข้าพิธีแต่งงาน ชนิษฐาก็จะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามประเพณีและตามกฎหมายเขาไม่อยากจะพิจารณาร่างกายนวลหวานของเธอด้วยสายตาอีกแล้ว คณิศรส่งฝ่ามือลงไปลูบไล้เรือนกายบาง มือที่หนาหยาบของผู้ชายทำให้ชนิษฐาส่ายดิ้น เธอผินหน้าหนีพร้อมกับหลับตา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะกลั้นลมหายใจอีกครั้งใบหน้าของคณิศรคลุกเคล้าลงไปแบบไม่อยากให้เสียเวลา ตอนนี้เขาต้องทำอย่างที่อยากทำ ต้องทำให้ชนิษฐาเป็นของเขา เพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธหญิงสาวแขม่วหน้าท้องจนแบนราบ ยามที่เขาไล่แตะไต่ใบหน้า และใช้ปลายลิ้นและปลายจมูกโด่งสัมผัสไปทุกรูขุมขน ไม่เว้นแม้แต่เอวคอด และสะโพกกลมผายยามใบหน้าของคณิศรไล่พ่นลมหายใจผ่านหน้าท้องลงต่ำ เคลื่อนสู่โหนกสาวและหยุดทักทายแพขนสีเดียวกับเส้นผม และไล่เรื่อยลงไปถึงต้นขาเรียวงามชนิษฐาสะท้านสะเทือนไปถึงก้นบึ้งของหั
แม้คุณป้าช่อม่วงจะพร่ำสอนว่า อย่าใจอ่อนยอมไปนอนกับผู้ชาย พวกนี้มันล่อลวงและมักทำให้ผู้หญิงที่ตกหลุมรักตกหลุมพราง แล้วเมื่อปล่อยตัวปล่อยใจเผลอไผลไปแล้ว คนที่จะตกที่นั่งลำบาก และมีแต่ความเสียใจก็คือผู้หญิงเองทว่าตอนนี้ชนิษฐาไม่สนคำสอนใดๆ ไม่ว่าจะป้าหรือครูบาอาจารย์ที่บอกว่าให้รักนวลสงวนตัว หัวใจของเธอเตลิดอยากรู้ว่าคณิศรจะพาเธอโลดเล่นในเกมรักนี้ แล้วมันจะไปจบที่ตรงไหน“อื้อ...” เขาครางส่ง พร้อมกับกดแทรกแกนแกร่งลงไปในร่องน้อยๆ ทันที่ที่หัวหยักผลุบเข้าไปช่องคับแคบก็บีบท่อนลำของเขาจังๆ คณิศรถึงกับส่งเสียงครางอู้อ้า ผละจากกลีบปากแหงนหน้าสูดปากดังซู้ดซ้าดเหมือนกับกินของเผ็ดๆ“โอ๊ย! เจ็บค่ะ พี่ดินขา เจ็บ อี้... อะ... เจ็บ เอามันออกก่อนได้ไหมคะ” น้ำเสียงอ้อนวอนเขาเป็นที่สุด มือน้อยๆ ที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและหัวไหล่ของเขา ตอนนี้จิกเล็บลงเนื้อหนังของคณิศรแล้วลากเป็นทางยาวเพื่อระบายความเจ็บปวดที่เธอได้รับท่อนแข็งแรงของคณิศรเหมือนจะฉีกร่างของเธอให้ออกเป็นสองส่วน เธอสั่นหน้า จ้องสบตากับเขาอย่างอ้อนวอน แต่ทว่าคณิศรก็เดินหน้าตอกอัดเสาเข็มใหญ่ของเขาไปเรื่อย“อื้อ อูย เจ็บ... ซี้ด...” ยิ่งลงลึกก็ยิ่ง
ที่บ้านของคุณป้าช่อม่วงท่านนั่งอยู่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด สายตาจ้องมองหน้าหลานสาว ที่ตอนนี้เธอได้เอ่ยพูดขึ้นมาว่า“หนูได้เสียกับพี่ดินแล้วค่ะ”คุณป้าไม่พูดใดๆ โกรธจนหน้าขุ่นเขียว ถึงกับหยิกไปที่แขนของหลานสาวแรงๆ“ทำไมทำตัวอย่างนี้ฮะ เรียนหนังสือยังไม่จบปริญญาตรีด้วยซ้ำไป ริอาจจะมีผัวแล้วเหรอ แล้วรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมป้าไม่เคยรู้ฮึ... ไม่เคยคิดจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน เมี่ยงทำแบบนี้ เมี่ยงยังเห็นหัวของป้าอยู่ไหม ฮึ... ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่พ่อแม่แกตาย ยังไงก็ต้องเห็นนึกเห็นหน้ากันบ้าง แล้วสอนไม่จำ บอกกี่ครั้งว่า... อย่าทำแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” คำพูดที่พรั่งพรูอย่างเสียใจออกมามากมายชนิษฐาน้ำตาไหลพรากๆ เธอทั้งขายหน้าและเสียใจด้วย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วทุกอย่างคุณย่ามณีเอ่ยเร็วทันที“คุณช่อม่วงจ๋า เห็นแก่ฉันเถอะนะ อย่าตีหนูเมี่ยงเลย ฉันมีหลานแค่คนเดียว ก็คือดินนี่แหละ ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่าเด็กสองคนนี้รักกัน แต่เห็นว่าสองคนรักกันจริงๆ ในเมื่อรักกันดี ฉันก็อยากจะมาเอ่ยปากกับทางนี้เสียให้เรียบร้อย และคุณช่อม่วงไม่ต้องกลัวนะว่าหลานชายของฉันจะทิ้งหลานสาวของคุณน่ะ เพราะถึงอย่างไรนับตั้งแ
คณิศรรับเอาแหวนไปจากมือของคุณย่า จากนั้นก็บรรจงสวมบนนิ้วนางข้างซ้ายให้กับชนิษฐา แหวนวงนั้นที่อยู่บนนิ้วของเธอก็ช่างพอเหมาะพอเจาะ คุณย่าได้จับมือเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ก็รู้ขนาดแหวนวงนี้“มูลค่าของมันไม่ต้องนับนะ เอาเป็นว่านับไม่ถ้วน”แล้วคุณย่าก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน เป็นชุดเครื่องเพชรอีกชุดหนึ่งที่เตรียมมา ท่านได้ยื่นให้กับคุณช่อม่วง“ส่วนนี่ฉันขอมอบให้คุณช่อม่วง ฉันให้เป็นของที่ระลึกที่เราสองครอบครัวจะได้เกี่ยวดองกัน”คุณช่อม่วงถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก แต่ก็น้อมรับ แล้วยกมือไหว้“ขอบคุณค่ะ”“ก็ถือว่าเราเป็นญาติกันแล้วนะคะ ส่วนงานแต่งงาน ก็ให้หนุ่มสาวเข้าไปคุยกันเอาเองดีไหมค่ะ เอาฤกษ์ที่สะดวก”“ค่ะ แต่ก็ต้องรอให้เมี่ยงสอบให้เสร็จ จบการศึกษาเสียก่อนนั่นแหละค่ะ”“อื้อ... เอ่อ... ไม่รู้ว่าหนูเมี่ยงได้บอกคุณช่อม่วงไหมว่า อ่า... เมื่อวานนี้ทั้งสองคนน่ะเข้าไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้วเพียะ... ป้าตีไปที่แขนของชนิษฐาอีกครั้ง“ยายเมี่ยงเธอนี่น่าตีจริงๆ นะ เห็นป้าเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง” น้ำเสียงเขียวขึ้นมาอีกครั้งชนิษฐาขยับตัวเข้าไปกอด เธอซบหน้าลงไปที่หน้าตักของคุณป้า“ป้าขา เมี่ยงขอโทษจร
ที่แพแห่งความสุขชนิษฐานั่งทับแกนกายของคณิศรอยู่ เธอขยับโยกตามแรงบังคับของมือหนาใหญ่ของเขา ซึ่งหญิงสาวก็ได้แต่ทำตัวร้อนแรงโยกตามความรู้สึกของตนเองและคณิศร รวมถึงปรารถนาที่เร่าร้อนที่ปะทุออกมาจากร่างกาย เพราะแรงยั่วยุและเล้าโลมของคณิศรความสุขแผ่ซ่านไปทั้งสองร่างกาย เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสมดังลั่นห้อง ก่อนที่ชนิษฐาซบหน้าลงไปกับหัวไหล่กว้างของคณิศร“ถึงสวรรค์ไม่รอพี่เลยนะเมี่ยง”“ก็มันเสียวนี่คะพี่ดิน”“สนุกคนเดียวไม่ได้แล้ว ขอพี่จัดสักทีเถอะ” แล้วเขาก็ยกตัวของชนิษฐาขึ้น หลังจากนั้นก็จับเธอให้คลานเข่าอยู่บนที่นอนคณิศรเข้าประกบอยู่ทางด้านหลังของเธอ เขาจับส่งแกนกายแข็งๆ เข้าไปในส่วนเร้นลับที่คับแคบตอดแน่น จากนั้นก็คณิศรได้กระแทกส่งเสือกไปข้างหน้า แรงส่งทำให้หัวหยักมนชนผนังภายในไปหนักๆหญิงสาวได้แต่ผวาหายใจหายใจเฮือก สองมือกำขยุ้มผ้าปูที่นอนจนเจ็บมือ ชนิษฐายังหยัดสะโพกแข็งขืนรอรับการขยับกระแทกของเขา ที่เสือกส่งความเป็นชายเข้าไปข้างในช่องทางน้อยๆ ที่ทำแสนหรรษาแบบนับครั้งไม่ได้คณิศรคำรามเสียงสุขอยู่ในลำคอ ผสานกับเสียงสอดผสานของท่อนแข็งกับร่องน้อยๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นตับ ตับ ตับ...
(“ดินน่ะพาเมี่ยงกลับมาบ้านได้แล้วนะ ย่าจะรอกินข้าวเย็น”)“ครับ ผมกำลังจะพากันออกจากที่นี่ครับ”(“รีบมาเร็วๆ เข้า ย่าหิวข้าว”)“ครับ” คณิศรวางสาย“คุณย่าโทรมาเหรอคะ”“จ้ะ ย่าให้กลับบ้านตอนนี้”“ไปกันเถอะค่ะพี่ดินให้คุณย่ารอนานไม่ดี คุณย่ามียาหลังอาหารกินด้วยนี่คะ”“ต่อไปเมี่ยงช่วยดูแลย่าเรื่องนี้ด้วยนะ” คณิศรมองทะลุแล้ว คนที่เขาจะฝากคุณย่าไว้ใจให้ดูแลได้ ก็คงเป็นชนิษฐาสองหนุ่มสาวพากันออกจากแพภายในใจของชนิษฐา เธอรู้สึกยินดีที่คุณย่าให้ความรักและเมตตากับเธอ เหมือนกับฟ้าประทาน หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าชีวิตของเธอจะมีแต่เรื่องราวๆ ดีๆ นับตั้งแต่บัดนี้ทั้งสองคนมาถึงบ้านแล้ว สายพิณรีบตั้งโต๊ะทันที“นี่หนูเมี่ยงมาดูรูปเร็ว ย่าเอาไปอัดเป็นรูปถ่าย”ชนิษฐารีบตรงเข้าไปหาท่าน คุณย่ามณีเอาอัลบั้มออกมาโชว์“คุณย่าคะน่ารักจังเลยค่ะ”“เดี๋ยวนี้ทันสมัยกว่าสมัยก่อนเยอะ เมื่อก่อนต้องถ่ายกันเป็นม้วนฟิล์ม ตอนถ่ายน่ะไม่รู้หรอกว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร โน้นต้องดูตอนที่ช่างเขาเอามาให้แล้วเก็บเงิน โอ้ยบางรูปดูไม่ได้ แต่ก็ต้องซื้อเก็บเอาไว้ แต่ดูสมัยนี่สิ สมัยนี้รูปถ่ายชัดแจ๋วๆ ทั้งนั้น นี่ย่ากำลังคิดนะว่าย่า
“เมี่ยง” คณิศรตกใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ยังคงเล่นบทคนเศร้าง้อภรรยาอยู่“เมี่ยงไม่ได้อยากให้พี่ตายใช่ไหมครับ เมี่ยงจ๋า...อภัยให้พี่นะ นะครับคนดี”ไม่พูดอย่างเดียว คนที่ยอมทำตัวพิการง่อยเปลี้ยอยู่บนเตียงตั้งนานสองนาน คราวนี้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่น“พี่รักเมี่ยงจริงๆ รู้ตัวแล้วว่าขาดเมี่ยงไม่ได้ พี่ต้องตายแน่ๆ”ชนิษฐารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา การที่ไม่ได้อยู่ใกล้คณิศร เธอเองก็แย่ไปเหมือนกันใจที่โกรธขึ้งเรื่องที่เขาทำลงไป สายพิณเล่าแล้วว่าทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัย และสุธาวีนั้นรุกหนัก เจ้าหล่อนเล่นกับอารมณ์ใคร่ สัญชาตญาณดิบของผู้ชายฤดีรัตน์ก็ช่วยหาข่าวเหมือนกัน เพื่อนเล่าว่าสุธาวีกินกับผู้ชายเกือบทั้งสาขา ล้วนเป็นคนรอบตัวคณิศรทั้งนั้นเขาช่างโง่...โง่มากเหลือเกิน นอกจากนั้นคุณย่ามณียังให้พนักงานที่แพมายืนยัน คณิศรออกคำสั่งไล่สุธาวี ห้ามมาเหยียบทุกพื้นที่ของเขาเด็ดขาดคณิศรทำแล้วสิ่งที่ควรทำ...แล้วชนิษฐาล่ะ เธอควรทำอะไรต่อดี“อย่าพูดคำว่าตายอีกนะ เพราะยังไงพี่ดินก็ต้องอยู่ดูหน้าลูกก่อน”ชนิษฐาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น เลือกจะให้ครอบครัวได้ไปต่อ“เมี่ยง...”คณิศรคราง แม
พีรพัฒน์เข้ามาแบบมีข้าวของเต็มสองมือ“คุณเมี่ยงไม่อยู่ค่ะ” สายพิณรายงาน“อ้าวเหรอครับ มิน่าล่ะ โทรหาก็ไม่รับ แล้วยังไม่อ่านไลน์ผมอีก สวัสดีครับคุณย่า”คนแก่ลอบถอนหายใจ แต่ก็พยายามปั้นยิ้ม หากชนิษฐาจะตีจากจากคณิศร แล้วไปซบอกผู้ชายคนนี้ มันก็เหมาะสมอยู่พีรพัฒน์มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนมั่นคงพึ่งพาได้ แม้เป็นพ่อหม้าย แต่การเลิกร้างนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีข่าวลือเสียหายตามหลังเลย แต่ส่วนลึกในใจ...คุณย่ามณีไม่อยากให้ชนิษฐากับคณิศรหย่ากันอยู่ดี“คุณพีได้นัดกับคุณเมี่ยงเอาไว้หรือเปล่าคะ” สายพิณเข้าไปรับเอาข้าวของ ไม่ปล่อยให้เขายืนเก้อเขิน“เปล่าครับ พอดีผ่านมา”“แหม... แค่ผ่านเหรอคะ จอมทองกับเชียงใหม่ มันไม่น่าผ่านกันได้เนอะ”อดที่จะแซวแบบเหน็บๆ ในความพยายามทุ่มสุดตัวของชายหนุ่มไม่ได้“เสียเวลาแย่เลยพ่อพี มาเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง”คุณย่ามณีเห็นใจ มองออกว่าชนิษฐาไม่เล่นด้วยกับพ่อหม้ายคนนี้ มิเช่นนั้นหลานจะหลบเลี่ยงการพบเจอทำไม“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณย่าอาการเป็นไงบ้างครับ”พีรพัฒน์นั่งลงใกล้ เขาเป็นคนที่โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ทุกคน“ก็งั้นๆ แหละจ้ะ สุขภาพทรง ๆ ทรุด ๆ ตามประสาคนแก่ ขาหนึ่งก็ก้า
ที่ห้องพักของคุณย่ามณี ทุกคนได้ยินเสียงโอ้กอ้ากของชนิษฐาดั่งลั่นออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเมื่อครู่ออกมาแบบหมดไส้หมดพุงคุณย่าที่อยู่บนเตียงสบตาคุณช่อม่วงที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้เป็นป้ามองอาการหลานด้วยความกังวล สายพิณเป็นคนลูบหลังให้“ไม่สบายหนักเลยนะเมี่ยง ทำไมกินอะไรถึงได้อ้วกออกมาหมด”“พิณว่าพาคุณเมี่ยงไปตรวจเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ใกล้หมอ อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่สินไปโทรเรียกให้คนเอารถเข็นมารับคุณเมี่ยงสิ”“จ้ะๆ ได้จ้ะ ได้” สินเดินไปที่โทรศัพท์ ก่อนจะยกหูไปยังโอเปอร์เรเตอร์ เขาขอรถเข็นมารับผู้ป่วย เพื่อไปตรวจดูเหมือนชนิษฐาจะหมดแรงแล้ว หน้าซีดจางขาวราวกระดาษ อ่อนเพลียร่างอยากจะนอนพักมากๆ“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวเอาตอนนี้นะ ดวงราหูจะเข้าแล้วแน่ๆ”คุณช่อม่วงเพิ่งผ่านตาคลิปหมอดูทักจากยูทูป ยามเปิดเล่นแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่เฝ้าคุณย่ามณี“พาไปหาหมอซะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” คุณย่าสั่งด้วยใจห่วงใยปนกังวลไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็น แล้วพาชนิษฐาเข้าลิฟต์ไปยังห้องตรวจด้านล่างในเวลาต่อมา“หมอว่าเป็นอะไรคะ” ทั้งสายพิณและสินตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลที่หน้าห้องตรวจ“หมอว
เมื่อสองป้าหลานไปถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เห็นสายพิณนั่งร้องไห้น้ำตานอง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงของคุณย่ามณี“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่พิน”“พี่พิณกับคุณย่าไปที่วัด ว่าจะอยู่วิปัสนาที่นั่นสักสองสามคืน แต่ตอนที่กินข้าวกันอยู่ สินโทรเข้ามาว่าคุณดินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เท่านั้นแหละค่ะ... คุณย่าก็สำลักข้าวค่ะ อาหารติดคอ ดีนะคะที่ตรงนั้นมีคุณหมอมาวิปัสนาที่วัดอยู่ด้วย เลยเข้ามาปฐมพยาบาลทัน แล้วก็พามาที่นี่แหละค่ะ”“แล้วอาการหนักไหมคะ” คุณช่อม่วงเอ่ยถาม“ดีนะคะหมอบอกว่าสมองไม่ขาดออกซิเจน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะกลายเป็น...” สายพิณยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้“คุณเมี่ยงคะ พี่พิณรับไม่ไหวแล้วนะคะ ไหนจะคุณย่า ไหนจะคุณดิน”“แล้วตอนนี้ดินอยู่ไหน” คุณช่อม่วงอีกนั่นแหละที่เป็นคนถามใบหน้าหลานสาวซีดเผือก ตาแดงก่ำราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วชนิษฐาจับมือของคุณย่าและบีบเบา“คุณดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ มาพักอยู่ที่ห้องพิเศษค่ะ”สายพิณรายงานหันไปหาชนิษฐาทั้งตัว“ฮือ... คุณดินน่ะไปทำอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ เห็นว่าประสบอุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างที่ไปทำตกแต่งสวนนั่นแหละ พิณไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ถามใค
ชนิษฐายืนฟังการสนทนานี้มาตั้งนานแล้ว เธอได้ยินทุกอย่าง“ไปกันได้แล้วค่ะเจ้านาย” เธอแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันเกิดของคณิศร เธอกับเขาเคยคุยกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสามคน คุณย่า เขาและก็เธอ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วเมี่ยงจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า”“ป้าไม่ต้องห่วงเมี่ยงค่ะ กินไปก่อนได้เลย”“อ้อ ตอนเย็นๆ ป้าไม่อยากกินอะไรหนักๆ นะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากให้เปลืองเงิน”ชนิษฐายิ้มยกมือโบกบ้ายบาย แล้วตามพีรพัฒน์ไปขึ้นรถในรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดคันใหญ่ที่หรูหราจอดไม่ไกลจากตรงนั้นนัก คุณย่ามณีอยู่กับสายพิณและนายสิน ตั้งใจจะมาชวนชนิษฐาไปทำบุญ แต่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าเสียก่อน คุณย่าถึงกับหน้าหงอย“เฮ้อ...หมดหวังแล้วใช่ไหมสายพิณ”“ยังหรอกค่ะ อย่าตัดสินกับแค่ภาพแบบนี้สิคะ มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้”แต่สินมือไว ยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพ แล้วส่งไปให้อีกคน คณิศรใช้ให้สินมาเป็นสายสืบติดตามชีวิตของภรรยา“ถ้าอย่างนั้นสิน”“ครับ”“ขับไปวัดเถอะ ไปวัดวิปัสนานะ จะไปอยู่สักสองสามวัน”“ครับ”คุณย่ามณีหลับตาลง ตอนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน คณิศรกอดขวดเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ท่านภาว
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน นึกว่าเห็นแก่คนแก่ เอาที่หนูเมี่ยงสบายใจ แต่ย่าบอกแล้วเมื่อรับเป็นหลานอีกคนก็จะไม่ผลักไสไล่หนี เมี่ยงอยู่ที่นี่จนกว่าสบายใจ ไม่อยากกลับไปอยู่กับดินก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่แหละ ใช้ชีวิตของตัวเอง ดูแลคุณป้า...”จ้องสบตากับคุณช่อม่วงที่ตอนนี้หลบสายตาของคุณย่ามณีแล้ว“อยากทำอะไรก็ทำ ไปหางานทำก็ได้ แต่ย่าจะให้คนของย่าโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เงินจากกงสีนั่นแหละ ถือว่าเป็นหลานสาวแล้ว เป็นคนในครอบครัว และถ้าวันไหนเจอคนที่ถูกใจ อยากจะแต่งงานด้วย ค่อยไปบอกย่าก็แล้วกัน หาคนที่ดูแลกันได้ แล้วย่าจะให้ดินหย่าให้”ดูเหมือนคุณย่ามณีจะไม่รบเร้าอีกต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ขวางไป เรือลำใหญ่แค่ไหนก็ล่มได้“สายพิณกลับเถอะ”กลายเป็นว่าคนที่ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าคือสายพิณเสียเอง“พี่พิณก็ไม่เคยมีผัว หรือว่ามีความรักหรอกนะคะ แต่เห็นอยู่หลายคู่ การให้อภัยกันต่างหากค่ะที่มันควรจะเริ่มจากคนในครอบครัว เหมือนที่คุณย่าพูดค่ะคุณเมี่ยง ใครก็ทำผิดพลาดกันได้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราญยังรู้พลั้ง ถ้าไม่รักคุณดิน ก็รักคุณย่านะคะ ถ้าคิดว่ายังเป็นหลานคุณย่าก็กลับบ้านเรา” สายพิณเข้ามาประคองคุณย่า อ
ผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ที่คณิศรนั่งเป็นคนบ้าใบ้ สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกที่จะโทรไปหาคุณย่ามณี คณิศรได้เล่าเรื่องความจริงทุกอย่างให้ฟัง ท่านโกรธคณิศรมากและก็บอกให้คณิศรไปตามหาชนิษฐาที่บ้านของคุณป้าช่อม่วง เพราะว่าทางนั้นได้โทรมาบอกแล้วว่า... หลานสาวอยู่ที่บ้าน เอาแต่ร้องไห้ และขังตัวเองอยู่ในห้อง ถามอะไรก็ไม่บอก“ดิน... ย่าโกรธดินมากรู้ไหม ทำไมฮึ ทำไมทำแบบนี้” ความจริงที่มาจากปากของหลานชาย คุณย่าถึงกับประกาศกร้าว“ถ้าแกยังพาหนูเมี่ยงกลับมาไม่ได้ แกก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านของย่าอีก” คณิศรได้ยินคุณย่าร้องไห้ เขาทิ้งตัวลงไปนอนบนฟูก และจ้องมองรูปแต่งงานที่อยู่บนฝาผนังรอยยิ้มของชนิษฐาที่ทำให้โลกของเขาสว่างไสว การเอาใจใส่ของเธอทำให้เขาแยกออกระหว่างความรักและความใคร่ ตอนนี้คณิศรรู้แล้วว่าเขาคงจะขาดเธอไม่ได้ “เมี่ยง... พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” เขาคอตกได้แต่พึมพำคำนี้ออกมาเดิม ๆ ซ้ำ ๆก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆคุณช่อม่วงเคาะประตูอยู่ข้างนอก กำลังจะเอากุญแจเสียบไขเข้าไป แต่ชนิษฐาเป็นคนลุกมาเปิดออกก่อน พอเห็นหน้าป้า เธอก็โผเข้ากอดแน่น ตัวสั่นเทาราวกับลูกนกเจอฝน คุณป้าถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ“เมี่ยงความจริง และรู้แล
ชนิษฐาที่อยู่ด้านนอกประตูแพถึงกับชาดิก เธอรู้ได้ทันทีว่าข้างในห้องนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ มือสั่นๆ ค่อยๆ จับและบิดลูกบิด ชนิษฐาเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบาภาพที่เห็นสุธาวีกำลังอมท่อนยักษ์ของสามีของเธออยู่ และคณิศรครางอู้อ้า เขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านผู้หญิงคนนี้เลย‘นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ หยาดน้ำจากตาไหลพราก ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นสามีทรยศตนเต็ม ๆ ตาชนิษฐาจำผู้หญิงคนนี้ได้ สุธาวีเป็นรุ่นพี่ที่ควงกันกับคณิศรมาโดยตลอดเขากลับมาคบกันอีกครั้งกระนั้นเหรอ“ดินคะ อู้... ซี้ด ใหญ่อะ นี่แหละที่ทำให้หวายไม่เคยลืมคุณ หวายก็คิดว่าคุณก็ไม่เคยลืมหวายจริงไหมคะ อ้า...”เสียงกระเส่าช่างกรีดใจคนฟัง“ดิน...เราสองคนมามีความสุขด้วยกันนะคะ”แล้วสุธาวีก็ถลกกระโปรงของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็แหวกกางเกงในจีสตริง หญิงสาวจัดแท่งบุรุษของคณิศรสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของตัวเอง เธอแหงนหน้าสูดปากราวกับกินของร้อน พร้อมกับกดตัวเองลงไปแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับคณิศรไม่รีไม่รอ สุธาวีขยับโยกราวกับจ๊อกกิ้งสาวที่โยกม้าแข่งอยู่ในสนาม คณิศรนั้นได้แต่ส่งเสียงครางอู้อ้าสูดปากเสียงกระเส่าไม่ขาดสายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆเล
“เมี่ยงจะไปไหนน่ะลูก”“เมื่อวานนี้พี่ดินอยากกินคั่วไก่น่ะค่ะ เมี่ยงก็เลยอาสาทำให้กิน”“ข้าวเที่ยงหรือ รีบไปสิลูกไป จะได้กินข้าวกัน ดินเขาทำงานหนักนะช่วงนี้ ย่าว่าจะต้องลืมกินข้าวเที่ยงแน่ๆ มั้ง อ้าว... ตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วนี่”“มันทำยากนะคะคุณย่า กว่าจะเคี่ยวให้เนื้อไก่นุ่ม”“ก็นั่นน่ะสิ หนูเมี่ยงยังเลือกไก่ไม่เป็น เราต้องเลือกไก่สาวรุ่นๆ เข้าใจไหม โดนแม่ค้าหลอกเอาเสียแล้ว” ชนิษฐาได้แต่หัวเราะสายพิณอยู่ใกล้รีบแซวคุณย่ามณี“ที่ว่าเหนียวเนี่ย เพราะว่าคุณย่าเองก็เคี้ยวไม่ขาดใช่ไหมคะ”“จ้านางสายพิณเอ๋ย ของเหนียว ของแข็ง ไม่ต้องเอามาให้ฉันกินหรอกนะ ว่าแต่จะบ่ายโมง ยังไม่มีอะไรมาให้กินอีก วันนี้ขอเป็นอาหารนุ่มๆ นะ”“ได้ค่ะคุณย่า พิณเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”“คุณย่าค่ะ กินข้าวเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมกินยานะคะ”“โอเคๆ หนูเมี่ยงขับรถดีๆ นะลูก”“ค่ะ”หัวใจของชนิษฐาโบยบินไปหาคณิศรแล้ว การได้แต่งงานและมาอยู่กับเขา หลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด ซ้ำเธอยังเก่งที่สามารถทำอะไรอย่างกับรู้ใจสามีได้เป็นอย่างดีอีกอย่าง และที่น่าปลื้มใจ คณิศรทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลายแต่ทว่า... วันนี้... ที