“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงมารบเร้าที่จะเอาเงินจากผมไปซื้อรองพื้นใหม่อีก ใช้เงินของพ่อของหวายสิ”
“แหม... ดิน มันไม่เหมือนกันนะคะ นั่นมันเงินของพ่อ ไม่ได้เป็นเงินของดิน ที่บอกว่ารักหวายนะ ดินรักหวายจริงไหม หรือแค่พูดสนุกปาก เพื่อนอนกับหวายเอามัน” เธอค้อนเขาตากลับ
“เชอะ! ดินพูดเหมือนกับไม่รักหวายแล้ว อย่างนั้นก็ได้ หวายกลับดีกว่า เฮอะ ๆ มาที่นี่ รถก็เติมน้ำมันนะคะ ไม่ได้เติมน้ำเปล่า” เธอทำท่าจะลุกขึ้น
“เดี๋ยวหวายจะไปไหน”
เขารีบกอดรั้งร่างกายของเธอเอาไว้ อารมณ์บูดบึ้งหายไป เหลือไว้แต่ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ
“ไอ้ผีบ้าออกจากร่างของดินแล้วหรือคะ ไอ้ผีตัวเมื่อกี้หายไปเสียแล้วล่ะ” อดที่จะแขวะเขาไม่ได้
“ก็หวาย...”
สุธาวีรีบยกนิ้วชี้มาปิดปากของเขาที่จะพูดมากในทันที เขารีบงับมัน และมองตาของหญิงสาวอย่างหวานเยิ้ม ราวกับถูกมนต์เสน่ห์ของสุธาวีสะกด
“เห็นหน้าสวย ๆ ของหวายแบบนี้แล้ว ดินก็หายคิดถึง”
“ไม่ต้องมาทำปากหวานค่ะ หวายไม่เชื่อ” เหมือนกับคนที่เพิ่งขายขนมจีบกัน มองตากันหวายหยดย้อย
“คนคิดถึงกัน เขาก็ไม่ทำกันแค่นี้หรอกค่ะ” สุธาวีส่งสายตาเชิญชวน
“ถ้าอย่างนั้น ทำแค่ไหนล่ะจ๊ะ ทำแค่นี้ใช่ไหม”
ต่อจากนั้นเขาก็ผลักร่างกายอวบอิ่มของสุธาวีลงไปนอน คณิศรก่ายเกยขึ้นไปทาบทับร่าง มือไม้แข็ง ๆ ของเขาเริ่มรื้อทึ้งเสื้อผ้า
สุธาวีหากลัวไม่ ยิ้มกริ่ม ทำปากแบบเซ็กซี่ยั่วยวนคณิศร มือของเธอก็ตะปบกอบกุมกับห่อหมกตุง ๆ ที่คับแน่นอยู่ในร่มผ้าของเขา
เธอรู้จุดอ่อนของคณิศรดี ตรงไหนที่จะปลุกเร้าทำให้เขาสูดปากยาว ๆ
“อู้...”
มันได้ผล
คณิศรจึงได้ถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว แอลกอฮอล์ที่เขาดื่มลงไป มันช่วยกระตุ้นอารมณ์กำหนัดในร่างกำยำได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มรู้สึกร้อนเร่า และซู่ซ่าออกทั้งตัว
หมับ... เธอจับท่อนแข็งของเขาได้แล้ว และก็งัดออกมาจากเป้ากางเกง ในขณะที่คณิศรก็ช่วยถอด ไม่นานนักทั้งสองหนุ่มสาวก็เปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ต่อหน้าของกันและกัน เขาและเธอกลับหัวกลับหาง
มือของสุธาวีที่กำรอบก็ขยับขึ้น ๆ ลง ๆ เอาจริงข้อดีของคณิศรก็มีเยอะแยะอยู่ เรื่องหนึ่งก็คือเรื่องบนเตียง
“อู้ อ๊า... ซี้ด...”
คณิศรสูดปากยาว ๆ ท่อนรักไซซ์ห้าหกเข้าไปอยู่ในโพรงปากของสุธาวีแล้ว ทำให้เธอร้องไม่ออก ในขณะที่ชายหนุ่มหยิบเอาอุปกรณ์ที่เตรียมเอาไว้ออกมาจากใต้หมอน แล้วเปิดสวิทซ์ให้อุปกรณ์นั้นทำงาน
นิ้วแข็ง ๆ ก็ช่วยอีกแรงบดไปที่ปุ่มรัญจวน แล้วแทงแท่งหรรษาเข้าไปในร่องน้อย ๆ ของสุธาวี ปากของเธอที่ร้องไม่ออก เพื่อระบายความอึดอัด หญิงสาวจึงได้ดูดดุนท่อนลำของเขาเพื่อตอบแทน
“อื้อ... อื้อ... อื้อ...”
ส่วนท่อนล่างของสุธาวีสั่นส่าย แต่เป็นการสั่นสู้เสียมากกว่า คณิศรขยับชักท่อนลำเรียกน้ำย่อย จนหญิงสาวหวีดร้องออกมาด้วยความร้อนแรง
อาการของหนุ่มสาวเหมือนร้อนมาก ทั้งที่แพนั้นติดเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความร้อนภายในกายสงบ มันถูกแผดเผาด้วยไฟปรารถนาที่ปะทุขึ้นมา
“โอ้... หวายปากคุณดีจริง ๆ ไม่มีใครใช้ปากได้เก่งกว่าคุณ”
ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน ได้กินท่อนไม้ของผู้ชายแบบนี้มาไม่ต่ำกว่าหกสิบท่อน ทำให้เกิดความคล่องแคล่วขึ้นอย่างไม่ต้องมีใครสอน แต่ประสบการณ์บอกตัวของเธอเอง
คณิศรรีบดึงท่อนลำของตัวเองออก สุธาวีเช็ดปากอย่างเสียดาย
“รีบไปไหนคะ”
“หวายไม่มาหาผมกี่วันแล้ว ผมอดยากปากแห้งมากนะ” เขาตัดพ้อตาปรอย
“ชิ... ทำเหมือนกันไม่มีคนอื่น”
“ผมมีหวายแค่คนเดียว”
เพราะไม่มีใครทำกับเขาได้ถึงใจเท่าเธออีกแล้ว คณิศรจึงติดมาก ชอบการปลดปล่อยอารมณ์กับเธอ
“ปากหวาน”
สุธาวีฟังถ้อยคำประเภทนี้จากผู้ชายมาเยอะ เธอรู้ดีว่าต้องทำให้พวกเขาพอใจยังไง
“ชิมแล้วไม่ใช่เหรอ หวานไหม”
“หวานค่ะ ทั้งหวานและ... จุ๊บ”
โน้มใบหน้าของคณิศรเข้ามาใกล้ แล้วบดกลีบปากของตัวเองลงไปทันที
ด้วยความวัวเคยขาม้าเคยขี่ ในขณะที่ปากประกบกันสนิท ดูดดุนเหมือนไม่เคยไม่พบได้เจอกันมาแสนนาน
ร่างกายที่ปะทะกันข้างล่าง ก็ไม่ยอมเสียเวลา จัดท่าจัดทางแล้วจิ้มลงถ้ำ
“ใส่ถุงก่อนนะดิน”
งานนี้ชำนาญ มือหนึ่งจับท่อน อีกมือรับเอาคอนดอมที่หญิงสาวฉีกถูกให้ใส่สวมทันที งานตอกเสาเข็มก็ได้ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อคณิศรเสือกแท่งแกร่งอัดเข้าไปในร่องสาวของเธออย่างแรง
“เสียวค่ะ อ้า... ทำไมวันนี้ใหญ่จัง”
“ไม่เจอกันนานมันเลยขยายเพราะคิดถึงหวายไง จัดให้มันแน่น ๆ หน่อย”
ข้อดีของคนคุ้นเคยคือพูดคุยกันได้สะดวกปาก ลากมกขนาดไหนก็ได้ไม่ต้องอาย
“เจ็บบอกได้นะ อยากให้กระแทกหนักเบาแบบไหนบอกมาเลย อู้... ซี้ด...”
คณิศรก็เป่าลมออกมาจากปากแบบรัว ๆ สะโพกสอบก็บดโยกเริ่มจังหวะเนิบนาบ ๆ แล้วก็หยุดหมุนควง
“ทำไมมันตอดดีแบบนี้”
สุธาวีฝึกนั่งขมิบมันทั้งวัน หากไม่ทำมีหวังหลวมกันพอดี
ณ เวลานี้ความกระสันแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของชายหนุ่ม คนหนึ่งตอกอัดกระหน่ำกระแทก และอีกคนก็แอ่นเด้งร่องสาวรับอย่างเป็นท่วงทำนองเดียว
ร่างบางกว่าเริ่มสะท้านหวั่นไหว ความเร็วที่คณิศรเร่งสปีดทำให้เธอหวีดร้องออกมาตามสัญชาตญาณ
“อ๊าย!” หญิงสาวสุขสมขึ้นสวรรค์ไปกับท่อนใหญ่ของเขาแล้ว
“นับหนึ่ง”
“จะนับทำไมคะดิน มันนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว”
ได้ยินสุธาวีพูดแบบนี้เขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ
“อย่างนี้จะต้องจัดให้ร้องขอชีวิต กรี๊ดออกมานะครับที่รัก”
“แรงอีกค่ะดินขา แรง แรง แรง แรง...”
สุธาวีส่งเสียงเชียร์คณิศรใหญ่ เขาก็จัดให้อย่างใจปรารถนา เธอกรีดร้องอย่างไม่ต่อต้าน แถมยังขยับร่างแอ่นรับการกระทำของคณิศรแบบถึงอกถึงใจ
คนหนึ่งเหมือนไฟร้อนแรง อีกคนก็เป็นน้ำมันที่ราดรด คืนนี้เป็นการนัดแบบยกกระชับมิตร เปลี่ยนท่าเป็นทางไปตามที่อีกฝ่ายพึงพอใจ ความสุขสมที่ต่างป้อนให้กันแบบถึงพริกถึงขิง
“หนาวเนอะ” เสียงเปรยจากแพร้านอาหาร เพื่อนยังปักหลักนั่งล้อมวงกันดื่มเหล้า คออ่อนหน่อยก็เมาหลับกันไปตรงนั้น คณิศรใจปั้มเปิดห้องให้บางคนที่กลับไม่ไหว นอนพักกันแบบฟรี ๆ
“มึงว่าใครจะขาลากวะ ระวังไอ้ดินกับหวาย”
ยอยศเป็นหนึ่งในผู้เหลือรอดถาม มือลูบแขนที่ขนลุกตั้งเพราะอากาศยามดึก
“มึงอิจฉา” ลือกฤชย้อน ยกแก้วเบียร์ฟองฟอดขึ้นจิบ
“เออ...” คำตอบที่แสนสั้น
“จะว่าไปหาคู่ซ้อมแบบไอ้ดินก็ดีเหมือนกัน น้ำแตกแล้วแยกทาง”
ยอยศรีบหาผ้ามาคลุมไหล่ เพราะน้ำค้างเริ่มลง และอุณหภูมิรอบด้านเริ่มเย็นมากขึ้นด้วย
ผ่านไปเกือบปีคณิศรเริ่มเป็นโล้เป็นพายมากขึ้น เข้ามาทำงานให้กับคุณย่าในบางส่วนที่ได้รับมอบหมาย และคุณย่าก็ยังให้เงินทุนตามที่เขาเรียกร้อง คณิศรเปิดบริษัทรับออกแบบการจัดสวนตามสาขาที่เขาได้เรียนมา นอกจากนั้นยังรับเหมาทำสวนอีกด้วย ดอกไม้ก็มี ไม้ล้อมก็มี เพราะฝีมือของคุณย่าที่ปูทางให้ คณิศรได้พิสูจน์ตัวเองมาหลายงานแล้ววันนี้อาจารย์ณรงวิทย์ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยทราบข่าวว่าลูกศิษย์ได้เปิดบริษัทแล้ว ยิ่งเป็นคณิศรอีก ถือว่าเขาเป็นพวกที่อยู่รั้งท้ายเพื่อนด้วยซ้ำ แต่เขากลับมีความก้าวหน้าอาจารย์ณรงวิทย์จึงเรียกให้มาหาที่มหาวิทยาลัย พอดีอาจารย์กำลังจะตกแต่งสวนให้กับบ้านของลูกสาว ที่จะยกให้เป็นเรือนหอคณิศรจึงเดินทางมาหาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย หลังจากคุยธุระเสร็จแล้วเขาก็เดินลงมาข้างล่าง“พี่ดินคะ พี่ดิน” เสียงหวานๆ เรียกเขาเอาไว้ ทำให้ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า คณิศรรีบหันไปมองชนิษฐาที่วิ่งมาหาด้วยความดีอกดีใจหญิงสาวซ่อนอาการหน้าบานที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอตามติดชีวิตของคณิศรในโซเชียล และมีอยู่หลายครั้งที่ไปกินร้านอาหารของชายหนุ่มกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เห็นหน้าเห็นตาของเขา และตัวจริงเลย“พี่ดินมาทำอะไรที่นี่
ไม่นานนัก เขาก็พาเธอมาถึงร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ร้านอาหารอยู่ติดถนน ในร้านสะอาดสะอ้าน“นั่งห้องแอร์ดีกว่านะ ข้างนอกร้อน”“ค่ะ” ชนิษฐาเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย สายตาของหญิงสาวไม่อาจจะละจากร่างหนาของเขาได้เลยคณิศรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาดูดีขึ้นมาก ด้วยผมรองทรงที่หนาๆ อีกอวัยวะที่ชนิษฐาชอบเขา เพราะจมูกที่โด่งสันเป็นคน ดวงตากลมโต คิ้วดกๆ ซึ่งส่วนใหญ่ หนุ่มๆ แถวนี้จะตาตี่ๆ เป็นตี๋เสียส่วนใหญ่สำหรับคณิศร เนื่องจากแม่มาจากใต้ เธอสืบจนรู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนสงขลาจึงทำให้หน้าตาคมคายพนักงานเดินมายื่นเมนูให้“เมี่ยงอยากกินอะไรก็กินนะ สั่งได้เต็มที่เลย”เธอจะบอกเขาอย่างไรดี แค่เห็นหน้าของคณิศรในวันนี้ ชนิษฐาก็อิ่มไปอีกหลายวัน หญิงสาวสั่งอาหารตามที่เขาสั่งคณิศรสั่งสเต็กสันคอ เธอก็เลือกตามเขา เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมคณิศรถึงชอบกิน“อีกปีเดียวก็จะจบแล้วสินะ”“ค่ะ”“ตั้งใจจะไปทำงานอะไร”“เมี่ยงก็ภาวนาให้ได้งานทำใกล้บ้านนะคะ จะได้อยู่ดูแลป้าด้วย อีกอย่างนึงไม่มีรถ ป้าไม่ให้ใช้ทั้งมอเตอร์ไซค์ และก็รถยนต์น่ะค่ะ”“เมี่ยงยังขับรถไม่เป็นเหรอ”“ค่ะ ไม่เป็นเลย เป็นแต่จักรยานอย่างเดียว”“เอาแบบนี
หลังจากผ่านพ้นเกมหฤโหดบนเตียง ที่จัดกันจนน้ำแตกกระจายเกลื่อน คณิศรนอนตะแคงเท้าคางจ้องหน้าสุธาวี ที่หอบเหนื่อยไม่แพ้กัน“หวายแต่งงานกันไหม”ตาที่หลับอยู่ถึงกับเบิกโพลง“แต่งงานเหรอคะดิน โอ๊ย! เราสองคนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เองคะ 26 27 จะรีบแต่งไปไหนกันคะดิน หวายไม่เอาอ่ะ หวายยังไม่อยากแต่งค่ะ ยังอยากใช้ชีวิตของตัวเองแบบสนุกๆ แบบนี้ไปอีกนานๆ ค่ะ ถ้าหวายจะแต่ง โน่น... ต้อง 35 ค่ะ เหลืออยู่เวลาอีกเกือบ 7-8 ปี ไม่ค่ะ ไม่...” เธอปฏิเสธทันควันคณิศรเป็นคนเดียวที่เธอเลือกผูกปิ่นโตนานที่สุด เพราะว่าชายหนุ่มมีฐานะดี อีกอย่างเรื่องบนเตียงของคณิศรก็จัดว่าแซ่บนัมเบอร์วัน“แต่ถ้าผมไม่แต่งงานในปีนี้ ย่าจะไม่ยกสมบัติให้”สุธาวีถึงกลับหัวเราะคิก“ดินคะ คุณยังเชื่อมุกนี้ของย่าของคุณอีกหรือคะ ย่าท่านพูดเล่นหรอกค่ะ ดินอย่าเป็นจริงเป็นจังนักเลย ดินคะคุณน่ะใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะ เรื่องผูกมัดกับใครสักคน ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันเองก็ไม่อยากจะทำเลย”นี่คือคำปฏิเสธที่ชัดเจนมากๆ เขาถึงกับทิ้งตัวลงไปบนนอนหงาย แล้วมองไปบนเพดานเสียงของสุธาวีก็ยังดังอีก “มีใครสักคนที่หลงใหลคลั่งไคลคุณไหมล่ะ ก็จับหล่อนทำเมียสิ สมบัต
ชนิษฐาตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เธอขัดสีฉวีวรรณตัว ก่อนจะออกมาเลือกชุดที่จะใส่ไปเรียนขับรถกับคณิศรอย่างบรรจงหญิงสาวถ่ายรูปส่งไปให้หรือฤดีรัตน์ดูหลายรูป แต่ฝ่ายนั้นยังไม่ตื่น จึงไม่ได้ให้คำตอบ ชนิษฐาจึงตัดสินใจใส่เป็นชุดกระโปรงที่ดูเรียบร้อย น่ารักหวานแหวว เพราะเป็นอะไรที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับคณิศรทั้งที่เธอก็รู้ว่าผู้หญิงในแบบที่คณิศรชอบคือเปรี้ยวเข็ดฟัน แต่ว่าชนิษฐาอยากให้เขาได้เห็นผู้หญิงที่แตกต่างแบบเธอเมื่อใกล้เวลานัดเธอออกไปยังจุดนัดหมาย ชนิษฐายืนอยู่หน้าร้านมินิมาร์ท หน้าตู้กดเงินสดของหลายธนาคารที่วางเรียงรายด้านข้างร้านมินิมาร์เป็นบ้านคนที่ปลูกดอกไม้พวงครามที่โรยตัวแล้วยังจับกลุ่มเป็นช่ออย่างสวยงามสายตาของหญิงสาวมองตามถนนทั้งสองฝั่ง ไม่รู้ว่าคณิศรจะมาทางไหนอย่างหัวใจจดจ่อ เป็นเวลาที่เปลี่ยนโลกสีมอๆ ของชนิษฐาให้มีสีสันคณิศรมองไปยังจุดนัดพบ ดวงตาของเขาได้ปะทะเข้ากับร่างอรชรของหญิงสาว ชนิษฐาปล่อยผมยาวจะสยายเต็มแผ่นหลัง เธอติดกิ๊บน่ารักบนศีรษะสองอันด้วย จุดเด่นคือเส้นผมของชนิษฐาที่ดำขลับตัดกับดอกพวงครามที่กระเดียดไปทางสีม่วง เธอยืนอยู่ใต้ดอกไม้ และตรงพื้นมีดอกกระจายเกลื่อน
‘พูดแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน พี่ดินพามาบ้าน มาหาย่า นั่นหมายถึง ไม่มั้ง’ หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ วันนี้คณิศรทำดีกับเธอ ให้ความสนิทสนมแบบคนที่น่าไว้ใจ อีกอย่างเขาโปรยเสน่ห์ให้เธออย่างรุนแรง จนเธอหัวใจจะระเบิดไปหลายรอบความเป็นจริงชนิษฐาไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ ตอนนี้คณิศรกำลังโปรยหว่านให้เธอรักให้เธอหลงเขา ดวงตาที่พร่างพราวนั่นทำให้เธอตกบ่วงรักลงไปอย่างง่ายดายความชอบที่มีมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่เธอกวาดสายตามองไปรอบบ้านของคุณย่า เพื่อลดความกังวล แต่ยิ่งเห็นว่าเขาร่ำรวย และฐานะที่แตกต่าง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่ มือเย็นมากคณิศรจับมือของเธอแล้วบีบ หญิงสาวจึงยกหน้ามองเขา“เมี่ยงไม่กังวล และไม่ต้องกลัวนะ ย่าของพี่ใจดีมากครับ”“ค่ะ ค่ะ คือเมี่ยงยังไม่เคยไปบ้านเพื่อนคนไหนเลยนะคะ พี่ดินเป็นคนแรกที่เมี่ยงมาเยี่ยมบ้านค่ะ”“พี่ใช่เพื่อนของเมี่ยงที่ไหนกัน” เขายิ้มให้อย่างกรุ่มกริ่ม เสน่ห์ของคณิศรมีเยอะแยะ สำหรับชนิษฐาเขาขยิบตาจ้องแบบหวานๆ ทำท่าทียักคิ้วลิ่วตาเล็กๆ น้อยๆ เธอต้องก็ติดกับดักเขาเสียแล้วสายพิณยกทุกอย่างมาตั้งที่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่ค
ชนิษฐาคิดวนเวียน เหมือนมีราชรถมาเกยถึงหน้าประตูบ้าน ถ้าเธอไม่ก้าวขาขึ้น ก็คงจะผิดปกติ อีกอย่างราชรถคันนี้ คนขับเป็นคนที่เธอคลั่งไคล้ไหลหลงมากๆ เสียด้วยนั่นคือความสมหวังในชีวิตครั้งแรกของชนิษฐาเลยก็ว่าได้ เธอเคยอธิษฐานว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคณิศร แล้ววันนี้ทุกอย่างมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้แต่จะมีเหตุการณ์อะไรบอกกล่าวล่วงหน้า‘ฉันควรยิ้มรับกับความโชคชะตานี้ใช่ไหม’ ชนิษฐาถามตัวเองอีกครั้ง“ว่าไงจะหนูเมี่ยง มะรืนนี้นะ บอกคุณป้าของหนูเอาไว้ด้วย”“ค่ะ” เธอรับปากออกไปอย่างแผ่วเบา ชนิษฐาไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีกแล้วจริงๆหลังจากออกมาจากบ้านคุณย่ามณีแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งรถไปด้วยกันอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร จนเธอรู้สึกอึดอัด ชนิษฐาหันไปหาคณิศร“ทำไมพี่ดินพูดแบบนั้นคะ นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วค่ะ”คณิศรเบรกรถกะทันหัน แล้วค่อยๆ พารถเข้าข้างทาง“พี่คิดว่าเมี่ยงชอบพี่เสียอีก เมี่ยงไม่ได้สนใจพี่ใช่ไหม แล้วเมื่อกี้ที่รับปากว่าจะให้ย่าไปสู่ขอ หมายถึงตอนนี้เมี่ยงอยากจะปฏิเสธ” สายตาของเขาดูจริงจัง ไม่เหมือนที่อยู่กับคุณย่าเลย ที่ทั้งขี้เล่น แล้วก็มองเธออย่างไม่ละสายตาชนิษฐาได้แต่อึกอัก พูด
คณิศรกลืนน้ำลายดังเอื้อก เขามีคำตอบในใจ รูปร่างอรชรตรงหน้าช่างสวยงามราวกับจับปั้น ชายหนุ่มตะลึงไปอึดใจ และก็เอาแต่จ้องมองร่างบางที่สมส่วนกลมกลึงอย่างตาไม่กะพริบเขายังเผลอกลืนน้ำลายลงไปในคอดังอึก แล้วก็ได้คืนสติ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นของเขา และหากได้เข้าพิธีแต่งงาน ชนิษฐาก็จะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามประเพณีและตามกฎหมายเขาไม่อยากจะพิจารณาร่างกายนวลหวานของเธอด้วยสายตาอีกแล้ว คณิศรส่งฝ่ามือลงไปลูบไล้เรือนกายบาง มือที่หนาหยาบของผู้ชายทำให้ชนิษฐาส่ายดิ้น เธอผินหน้าหนีพร้อมกับหลับตา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะกลั้นลมหายใจอีกครั้งใบหน้าของคณิศรคลุกเคล้าลงไปแบบไม่อยากให้เสียเวลา ตอนนี้เขาต้องทำอย่างที่อยากทำ ต้องทำให้ชนิษฐาเป็นของเขา เพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธหญิงสาวแขม่วหน้าท้องจนแบนราบ ยามที่เขาไล่แตะไต่ใบหน้า และใช้ปลายลิ้นและปลายจมูกโด่งสัมผัสไปทุกรูขุมขน ไม่เว้นแม้แต่เอวคอด และสะโพกกลมผายยามใบหน้าของคณิศรไล่พ่นลมหายใจผ่านหน้าท้องลงต่ำ เคลื่อนสู่โหนกสาวและหยุดทักทายแพขนสีเดียวกับเส้นผม และไล่เรื่อยลงไปถึงต้นขาเรียวงามชนิษฐาสะท้านสะเทือนไปถึงก้นบึ้งของหั
แม้คุณป้าช่อม่วงจะพร่ำสอนว่า อย่าใจอ่อนยอมไปนอนกับผู้ชาย พวกนี้มันล่อลวงและมักทำให้ผู้หญิงที่ตกหลุมรักตกหลุมพราง แล้วเมื่อปล่อยตัวปล่อยใจเผลอไผลไปแล้ว คนที่จะตกที่นั่งลำบาก และมีแต่ความเสียใจก็คือผู้หญิงเองทว่าตอนนี้ชนิษฐาไม่สนคำสอนใดๆ ไม่ว่าจะป้าหรือครูบาอาจารย์ที่บอกว่าให้รักนวลสงวนตัว หัวใจของเธอเตลิดอยากรู้ว่าคณิศรจะพาเธอโลดเล่นในเกมรักนี้ แล้วมันจะไปจบที่ตรงไหน“อื้อ...” เขาครางส่ง พร้อมกับกดแทรกแกนแกร่งลงไปในร่องน้อยๆ ทันที่ที่หัวหยักผลุบเข้าไปช่องคับแคบก็บีบท่อนลำของเขาจังๆ คณิศรถึงกับส่งเสียงครางอู้อ้า ผละจากกลีบปากแหงนหน้าสูดปากดังซู้ดซ้าดเหมือนกับกินของเผ็ดๆ“โอ๊ย! เจ็บค่ะ พี่ดินขา เจ็บ อี้... อะ... เจ็บ เอามันออกก่อนได้ไหมคะ” น้ำเสียงอ้อนวอนเขาเป็นที่สุด มือน้อยๆ ที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและหัวไหล่ของเขา ตอนนี้จิกเล็บลงเนื้อหนังของคณิศรแล้วลากเป็นทางยาวเพื่อระบายความเจ็บปวดที่เธอได้รับท่อนแข็งแรงของคณิศรเหมือนจะฉีกร่างของเธอให้ออกเป็นสองส่วน เธอสั่นหน้า จ้องสบตากับเขาอย่างอ้อนวอน แต่ทว่าคณิศรก็เดินหน้าตอกอัดเสาเข็มใหญ่ของเขาไปเรื่อย“อื้อ อูย เจ็บ... ซี้ด...” ยิ่งลงลึกก็ยิ่ง