Share

ตอนที่ 21 บทคั่น เรื่องเล่าจากณัฐรินีย์ (1)

แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้องทำงานของพ่อ ฉันนั่งขดตัวอยู่บนพื้นไม้เก่าๆ กำลังวาดรูปอะไรบางอย่างลงบนกระดาษแผ่นใหญ่ ดินสอสีหลากสีเรียงรายอยู่ข้างกาย

ฉันชอบมาที่นี่ที่สุดแล้ว ห้องทำงานของพ่อเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เสียงดนตรีคลาสสิกแผ่วเบา ทำให้ฉันรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

“ณัฐรินีย์ลูก มาดูสิ พ่อทำอะไรให้ดู” เสียงพ่อดังขึ้นจากด้านหลัง

ฉันรีบหันไปมอง พ่อกำลังวาดภาพร่างชุดเดรสลายดอกไม้สวยงาม ฉันตื่นเต้นมาก รีบวิ่งไปดูใกล้ๆ

“สวยจังค่ะพ่อ” ฉันพูดพลางชี้ไปที่ภาพร่าง

“พ่อว่าลูกวาดสวยกว่าพ่ออีกนะ” พ่อชมฉัน ทำให้ฉันยิ้มแก้มปริ

พ่อมักจะชมเชยผลงานของฉันเสมอ และให้คำแนะนำต่างๆ นานา ทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันชอบเวลาที่ได้อยู่กับพ่อ พ่อจะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฉันฟัง ทั้งเรื่องราวในวัยเด็กของพ่อ เรื่องราวของการออกแบบ และเรื่องราวเกี่ยวกับแม่

แม่... ฉันแทบจะจำหน้าแม่ไม่ได้แล้ว รู้แค่ว่าแม่สวยมาก และรักฉันมาก ฉันเคยถามพ่อว่าแม่ไปไหน พ่อจะตอบว่าแม่ไปอยู่บนสวรรค์แล้ว และแม่กำลังดูแลฉันอยู่เสมอ คำตอบของพ่อทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นใจ

ในวันหนึ่ง

"ณัฐ พ่อมีเรื่องอยากจะเล่าให้ลูกฟังนะ" พ่อของณัฐรินีย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน

"เรื่องอะไรคะพ่อ?" ฉันถามด้วยความอยากรู้

"เรื่องแม่ของลูกน่ะ" พ่อลูบศีรษะฉันเบาๆ

"แม่ของลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐีชื่อดังในเมืองนี้ แม่มีความสวยและเรียนสูง แต่แม่กลับมาหลงรักพ่อที่เป็นเพียงช่างออกแบบธรรมดาคนหนึ่ง"

ฉันฟังด้วยความสนใจ พ่อเล่าต่อว่าแม่ของฉันเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาก เธอไม่สนใจความแตกต่างทางฐานะระหว่างเธอกับพ่อ เธอรักพ่อด้วยใจจริง และพร้อมที่จะสละทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่กับพ่อ

"ตอนที่แม่และพ่อคบกัน ครอบครัวของแม่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก พวกเขาพยายามขัดขวางความรักของเรา แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ เราหนีไปแต่งงานกันที่ต่างจังหวัด และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันที่นั่น" พ่อเล่าด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

"แล้วทำไมแม่ถึงจากไปคะพ่อ?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"เป็นอุบัติเหตุรถชนตอนที่ลูกเพิ่งอายุได้เพียงแค่สิบขวบ แม่พยายามปกป้องลูกสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรอดมาได้" พ่อยิ้มเศร้า

"พ่อเสียใจมากที่ต้องสูญเสียแม่ของลูกไป แต่พ่อก็ภูมิใจในตัวแม่ของลูกมาก ที่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและกล้าหาญ"

"แล้วทำไมพ่อไม่เคยพาลูกไปที่บ้านของยายคะ?" ฉันถาม

"พ่อไม่อยากให้ลูกต้องเจอกับความรู้สึกที่ไม่ดี พ่อไม่อยากให้ลูกต้องเจอกับคำพูดที่ไม่น่าฟัง" พ่อตอบ

"แต่พ่ออยากให้ลูกรู้ว่า แม่ของลูกเป็นคนดีมาก และพ่อรักแม่ของลูกมากแค่ไหน"

ฉันกอดพ่อแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ฉันรู้สึกเสียใจที่ไม่เคยได้เจอแม่ แต่ฉันก็รู้สึกภูมิใจในตัวแม่ของฉันมาก ฉันจะพยายามเป็นเด็กดีและทำให้พ่อภูมิใจเสมอ

"พ่อจะเล่าเรื่องของแม่ให้ลูกฟังอีกนะลูก" พ่อกระซิบข้างหูฉัน

จากนั้นเป็นต้นมา พ่อก็มักจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ให้ฉันฟังอยู่เสมอ ทำให้ฉันรู้สึกใกล้ชิดกับแม่มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันก็ตาม

"พ่อ...ทำไมพ่อไม่แต่งงานใหม่ล่ะคะ?" ฉันถามคำถามนี้กับพ่อบ่อยครั้ง

"เพราะในใจพ่อมีแต่แม่ของลูกคนเดียว" พ่อจะยิ้มเศร้าแล้วลูบหัวฉันเบาๆ

พ่อบอกว่าหลังจากที่แม่จากไป พ่อรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง พ่อเสียใจมากที่ต้องสูญเสียแม่ของฉันไป พ่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงานและการเลี้ยงดูฉัน พ่ออยากให้ฉันเติบโตมาอย่างมีความสุข

"พ่อรู้ว่าแม่ของลูกอยากให้ลูกมีความสุข พ่อจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก" พ่อพูดเสียงแผ่วเบา

พ่อทำงานหนักมาก ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นของพ่อ ทำให้ชื่อเสียงของพ่อโด่งดังไปทั่วประเทศ ผลงานการออกแบบของพ่อได้รับความนิยมอย่างมาก มีคนรู้จักพ่อกันทั่วไป

พ่อมีเงินทองมากมาย แต่พ่อก็ยังคงเป็นคนเดิม ไม่เคยหยิ่งผยอง หรือโอ้อวด และพ่อก็ไม่เคยลืมที่จะใช้เวลากับฉัน พ่อพาฉันไปเที่ยว ไปดูหนัง ไปทานอาหารอร่อยๆ รวมถึงสอนฉันทุกอย่างที่พ่อรู้

พ่อสอนให้ฉันรู้จักการให้ความสำคัญกับครอบครัว เพื่อน และคนรอบข้าง พ่อสอนให้ฉันรู้จักการทำงานหนัก และสอนให้ฉันรู้จักการให้เกียรติผู้อื่น ฉันรู้สึกขอบคุณพ่อมากที่ให้ทุกอย่างกับฉัน

ฉันมักจะเห็นพ่อหยิบรูปของแม่มาดูบ่อยๆ พ่อจะเล่าเรื่องราวของแม่ให้ฉันฟัง และบอกว่าแม่ภูมิใจในตัวฉันเสมอ ฉันสัญญากับพ่อว่าจะตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดี เพื่อไม่ให้พ่อต้องเสียใจ

ฉันรู้ว่าพ่อรักฉันมาก และฉันก็รักพ่อมากเช่นกัน ฉันจะดูแลพ่อให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้

ฉันเคยคิดว่า ถ้าฉันมีคนรัก ฉันอยากมีคนรักที่ดีแบบพ่อ


มหาวิทยาลัย...โลกใบใหม่ของฉัน

ห้องสมุดของคณะศิลปกรรมศาสตร์เป็นเหมือนโลกใบใหม่สำหรับฉัน ห้องเรียนขนาดใหญ่ที่มีชั้นหนังสือสูงตระหง่านเต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับศิลปะ การออกแบบ และแฟชั่น

ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่หลังเลิกเรียนที่นี่ แสงแดดอ่อนๆ ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกสี ทำให้บรรยากาศภายในห้องสมุดดูอบอุ่นและเงียบสงบ เสียงการพลิกหน้าหนังสือเบาๆ และเสียงนาฬิกาเดินก๊อกแก๊กเป็นเหมือนทำนองเพลงที่ช่วยให้ฉันจดจ่อกับการเรียนรู้

ห้องสมุดแห่งนี้คือสวรรค์ของฉันเลยก็ว่าได้ หนังสือเกี่ยวกับการออกแบบมากมายวางเรียงรายอยู่บนชั้นหนังสือ ฉันชอบที่จะใช้เวลาอยู่ที่นี่ ค่อยๆ เปิดหนังสือเล่มโปรด แล้วจดบันทึกสิ่งที่น่าสนใจ ฉันรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปยังโลกอีกใบหนึ่ง โลกที่เต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการ

ฉันจำได้ตอนแรกที่เข้ามาเรียนใหม่ๆ ทุกอย่างดูใหม่และแปลกตาไปหมด ฉันต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งทฤษฎีการออกแบบ โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับงานออกแบบ และเทคนิคการวาดภาพ ฉันรู้สึกกดดันบ้าง แต่ก็พยายามตั้งใจเรียนให้มากที่สุด

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันต้องทำโปรเจคออกแบบชุดราตรีสำหรับงานประกวด ฉันนั่งคิดไอเดียอยู่นานสองนาน แต่ก็ยังหาไอเดียดีๆ ไม่ได้ ฉันรู้สึกท้อแท้มาก ฉันเดินเข้าไปในห้องสมุด หยิบหนังสือเกี่ยวกับแฟชั่นมาอ่าน แล้วลองมองหาแรงบันดาลใจจากภาพวาดและรูปถ่ายต่างๆ

ในที่สุด ฉันก็ได้ไอเดียจากภาพวาดของศิลปินคนหนึ่งที่ฉันชื่นชอบ ฉันนำเอาแนวคิดของภาพวาดนั้นมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบชุดของฉัน ผลงานของฉันได้รับคำชมจากอาจารย์และเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก ฉันรู้สึกดีใจและภูมิใจในตัวเองมาก

ฉันรู้ว่าเส้นทางของนักออกแบบนั้นไม่ง่าย แต่ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ ฉันจะพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ได้เป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงเหมือนกับพ่อ ฉันอยากจะสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามและเป็นประโยชน์ต่อสังคม

ฉันชอบนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นวิวสวนหย่อมสีเขียวขจี ความรู้สึกสงบทำให้จินตนาการของฉันโลดแล่นไปได้ไกล ฉันชอบที่จะนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ จิบกาแฟร้อนๆ แล้วจดบันทึกความคิดของตัวเองลงในสมุดโน้ต

ฉันจดบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือ ลองวาดภาพร่างลงบนกระดาษ และรวบรวมไอเดียใหม่ๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานออกแบบของฉัน

แล้ววันหนึ่ง ฉันก็ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูสวยงามและลึกลับ....

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status