Share

ตอนที่ 20 อำนาจของคุณไสย

คืนนี้ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยหมู่เมฆสีเทาอึมครึม กฤตินยืนอยู่หน้ากระจกในห้องของเขา เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำและเนกไทสีเข้มเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต

คืนนี้เขาจะไปงานสวดพระอภิธรรมศพของคุณเกศ ภรรยาของเอกวัฒน์ ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายแล้ว

“ข้าไปด้วยสิ” เด็กหนุ่มนามว่า “โซระ” โผล่ออกมาอย่างไม่ให้สุ้มเสียง

“นายไปก็ได้ แต่ทำยังไงกับสีตาของนายด้วยนะ” กฤตินเหลือบมองก่อนจะยิ้มออกมา

“ข้าใส่อันนี้ได้” โซระคลี่ยิ้ม ก่อนจะหยิบแว่นกันแดดออกจากกระเป๋าเสื้อ

“นี่นาย...” กฤตินถอนใจ

“ใครเขาใส่แว่นกันแดดตอนกลางคืนกัน”

“ข้านี่ไง เอาน่า ถ้าต้องถอดแว่นออก ข้าค่อยพลางสายตาเอา” โซระยิ้มด้วยท่าทางสนุก เขาถูกใจแว่นกันแดดมาก

“ตามใจนาย” กฤตินรู้ดีว่าห้ามไม่ได้ เลยปล่อยเลยตามเลย

“ว่าแต่ นายอย่ากินวิญญาณแถวนั้นมากนักล่ะ เดี๋ยวจะป่วยเอาซะก่อน” กฤตินเอ่ยเตือน

“รู้แล้วน่า” โซระยักไหล่

“ข้าไม่ต้องให้เจ้ามาดูแลหรอก เจ้าไปดูแลยัยเด็กคนนั้นเถอะ” โซระยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์

“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว” กฤตินยิ้มรับ


ราตรีแห่งความสูญเสีย

งานศพของคุณเกศ ภรรยาของเอกวัฒน์ ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย และเร่งรีบหลังจากที่เธอเสียได้ไม่กี่วัน

ภายในวัดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวง บรรยากาศเงียบสงัด อบอวลไปด้วยความเศร้าโศกและเสียใจของครอบครัว

ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่าน ทำให้โคมไฟที่จุดเรียงรายสั่นไหวเล็กน้อย แสงไฟจากเทียนส่องประกายวูบวาบราวกับเป็นการร่ำลาวิญญาณที่จากไป

ศาลาที่ใช้ประกอบพิธีตกแต่งด้วยดอกไม้ขาวสวยงาม แต่กลับให้ความรู้สึกเหงาหงอย รูปภาพของคุณเกศที่ตั้งอยู่บนแท่นมีสายตาอ่อนโยนและเศร้าหมอง ผู้คนที่มาร่วมงานต่างเงียบขรึม และพูดคุยกันเบาๆ ด้วยความเคารพ

เอกวัฒน์ยืนอยู่ข้างหน้าศพภรรยา เขามองไปที่โลงศพด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ราวกับว่าความรู้สึกทุกอย่างถูกระงับไว้ด้วยเสน่ห์มนตร์ดำที่ครอบงำจิตใจของเขา ชัญญายืนเคียงข้างเขา สายตาของเธอแสดงถึงความพอใจในสิ่งที่เธอทำสำเร็จ แม้จะปิดบังไว้ด้วยท่าทางที่สงบเสงี่ยม

อาคิราและณัฐรินีย์ยืนคอยต้อนรับแขกอยู่ภายในงานศพคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้ว แขกจึงมาเยอะมากเป็นพิเศษ บ่งบอกให้รู้ว่า มีคนรักและเคารพภรรยาของเอกวัฒน์มากแค่ไหน

บรรยากาศเงียบสงบก็จริง แต่อาคิรารู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล เธอรู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในงานศพนี้ ความรู้สึกที่มีบางสิ่งบางอย่างกำลังซ่อนเร้นอยู่ในเงามืดของคืน

เสียงฝีเท้าของใครบางคนทำให้อาคิราหันไปมอง เธอเห็นกฤตินเดินเข้ามาในงานศพ เขาแต่งชุดสีดำตามประเพณี ในมือของเขามีดอกไม้สีขาวสำหรับวางที่หน้าโลงศพ ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึม แต่ก็ยังปิดบังความหล่อที่มีไม่ได้

“ไอ เป็นยังไงบ้าง” กฤตินเอ่ยทักอย่างอ่อนโยน หลังจากที่ทำความเคารพศพเรียบร้อยแล้ว

“ฉัน..รู้สึกไม่สบายใจเลย” อาคิราก้มหน้ามองพื้นด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

“ฉันก็รู้สึกแบบนั้น อาจเป็นเพราะวิญญาณของคนตายไม่สงบก็ได้มั้ง” กฤตินเอ่ยลอยๆ

“คุณก็เห็นเหรอ?” อาคิราเงยหน้าถามออกไป

“ถ้าวิญญาณปล่อยวางไม่ได้ ก็ไปสู่สุคติไม่ได้ ฉันหวังว่าวิญญาณของคนตายจะไม่เป็นแบบนั้นน่ะ” กฤตินไม่ตอบคำถาม

อาคิรารู้สึกหนาวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอสงสัยว่ากฤตินมีความสามารถพิเศษบางอย่าง ที่อาจจะคล้ายเธอ แต่เขาก็ไม่เคยบอกเธอให้ชัดเจน

“ไอ มาช่วยทางนี้หน่อย” เสียงณัฐรินีย์ตะโกนเรียก

“เดี๋ยวฉันไปช่วยณัฐก่อนนะ” อาคิราหันไปมองก่อนจะขอตัว

“ไอ” กฤตินจับมือเธอไว้

“อย่าทำอะไรเกินตัวนะ” กฤตินดึงตัวเธอเข้ามาจูบที่หน้าผาก ก่อนจะปล่อยมือและยิ้มให้

“อื้อ” อาคิราพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก


ในสวนวัดที่เงียบสงบ ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนสูงและสง่างามตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความสงบสุข บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความเศร้าและเสียใจ

เด็กหนุ่มผมสีดำ ใส่แว่นกันแดดกำลังยืนมองดูงานศพอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยสายตาที่เงียบสงบ

“พวกเจ้านี่ น่ารำคาญจริง เดี๋ยวก็จับกินซะหรอก” เขาหรี่ตามองวิญญาณที่อยู่แถวนั้นอย่างไม่สบอารมณ์

ใต้ต้นไม้ใหญ่มีวิญญาณหลายตนยืนอยู่ พวกเขาไม่ยอมไปสู่สุคติ เพราะยึดติดกับผู้คนและอาลัยอาวรณ์บางสิ่งบางอย่าง วิญญาณบางตนพยายามจะสื่อสารกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงการปรากฎตัวของพวกเขา

“น่าหงุดหงิดเสียจริง” โซระพึมพำ

“คุณคะ”

“หืม?” โซระหันมาตามเสียงเรียก ก็พบอาคิรายืนมองอยู่

“พระกำลังจะสวดพระอภิธรรมแล้วค่ะ รบกวนเชิญไปนั่งฟังในศาลาด้วยนะคะ” อาคิราบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“หึหึ” โซระขำเล็กน้อย เมื่อเห็นหญิงสาว

“?” อาคิราเอียงคอมองเล็กน้อย แววตาสงสัย

“เดี๋ยวข้า..ฉันตามเข้าไป” โซระปรับคำพูดใหม่ ก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ขอบคุณค่ะ” อาคิราก้มศีรษะให้ก่อนจะเดินจากไป เพื่อเชิญแขกเหรื่อคนอื่นในงานต่อ

“เธอเห็นนาย?” กฤตินที่มาตอนไหนไม่รู้ถามขึ้น

“อื้อ”

“แล้วเธอจำนายได้มั้ย?” กฤตินคลี่ยิ้มบางๆ

“ตอนนี้อาจจะยัง...” โซระหัวเราะเบาๆ

“นั่นสินะ” กฤตินมองตามร่างบางที่หายเข้าไปในศาลาด้วยความหวังว่า สักวันเธอจะจำพวกเขาได้


ภายในศาลาวัด เสียงสวดพระอภิธรรมดังขึ้น คล้ายกับการเรียกวิญญาณให้ไปสู่สุคติ ผู้ที่มาร่วมงานต่างก้มหน้าฟังด้วยความเคารพ บางคนมีน้ำตาคลอเบ้า แต่เอกวัฒน์กลับไม่มีน้ำตาสักหยด เขานั่งฟังอย่างเงียบสงบ โดยมีชัญญาที่นั่งเคียงข้างกุมมือของเขาไว้

หลังจากการสวดมนต์จบลง เอกวัฒน์ก็เดินไปที่แท่นเพื่อกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้าย

“เกศ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำให้ฉัน ฉันหวังว่าเธอจะไปสู่สุขคติ”

คำพูดของเขาฟังดูแห้งแล้งและขาดความรู้สึก แต่ผู้มาร่วมงานก็ยังคงเคารพและทำความเคารพศพครั้งสุดท้าย ทุกคนเริ่มทยอยกันเดินออกจากศาลาทิ้งให้เอกวัฒน์และชัญญาอยู่ด้วยกันในความเงียบสงบของคืน

ชัญญาเหลือบมองดูใบหน้าของเอกวัฒน์ที่ไร้ความรู้สึก เธอยิ้มเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองได้ครอบครองทุกสิ่งที่เธอปรารถนาแล้ว

“พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกัน” เอกวัฒน์พูดขึ้นมาทันทีหลังจากที่ผู้คนออกไปหมดแล้ว

“ได้ค่ะ นาย” ชัญญายิ้มหวานให้เอกวัฒน์ และซบลงที่อกของเขา

ในคืนนั้น ท่ามกลางความมืดมิดและเงียบสงัด ภายในวัดที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความเหงาหงอย การสูญเสียที่ไม่มีใครเข้าใจเริ่มก่อตัวขึ้น และความจริงที่ซ่อนเร้นภายใต้เสน่ห์มนตร์ดำก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเงียบงันในเงามืด

แสงไฟจากเทียนและโคมไฟที่สั่นไหวราวกับเป็นการร่ำลาวิญญาณของคุณเกศที่ยังคงวนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เอกวัฒน์และชัญญายืนเคียงข้างกัน

ท่ามกลางแสงเทียนที่ริบหรี่ วิญญาณของคุณเกศปรากฎขึ้นในความเงียบงันของคืน เธอยืนมองสามีและผู้หญิงที่แย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างจากเธอ ความเจ็บใจและเสียใจฉายชัดในสายตา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาและความทุกข์ทรมาน

“เอกคะ...” เสียงแผ่วเบาของวิญญาณคุณเกศกระซิบออกมา แต่ไม่สามารถเข้าถึงหูของเอกวัฒน์ที่ถูกเสน่ห์มนตร์ดำครอบงำ

เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ มองดูชัญญาที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมและความเสียใจที่เธอต้องประสบในชีวิต เธอพยายามจะสัมผัสมือของเอกวัฒน์ แต่รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้

ชัญญาหันกลับมามองรอบๆ อย่างลึกลับ เธอรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แผ่กระจายจากวิญญาณคุณเกศ แต่เธอยังคงยิ้มและกระชับมือของเอกวัฒน์ให้แน่นขึ้น

“ไปกันเถอะนายขา ญ่าจะอยู่เคียงข้างนายเองค่ะ” ชัญญาอ้อนพร้อมกับดึงเอกวัฒน์ออกจากศาลา ปล่อยให้วิญญาณคุณเกศยืนอยู่ในความมืดมิดของคืน ด้วยความเจ็บปวดและเศร้าโศกที่ไม่มีวันจางหาย

คืนแห่งความสูญเสียยังคงดำเนินต่อไป โดยที่ความจริงและความยุติธรรมยังคงถูกซ่อนเร้นในเงามืด รอคอยวันที่จะเปิดเผยและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกทำร้ายและทรยศในที่สุด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status