Share

ตอนที่ 24 พลังแห่งความหลง (1)

ประกาศรักใหม่

ค่ำคืนวันเสาร์ที่สดใสในเมืองใหญ่ ท้องฟ้าปลอดโปร่งและเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ งานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัท Vivid Enterprise จัดขึ้นในบรรยากาศหรูหราที่โรงแรมห้าดาวใจกลางเมือง

ทั้งบริเวณถูกตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสีที่ส่องสว่างอยู่ทุกมุม การตกแต่งภายในเต็มไปด้วยสีสันที่สดใสและล้ำสมัย สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์และนวัตกรรมของบริษัท

เมื่อเข้ามาในงาน แขกทุกคนต่างรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศที่จัดเตรียมไว้อย่างอลังการ พื้นที่รับรองมีดอกไม้ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม และมีมุมต่างๆ ให้แขกได้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก หรือจะโพสต์ลงโซเชียลตามใจของแขกผู้เข้าร่วมงาน

เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ จากวงดนตรีสร้างบรรยากาศที่สง่างามและอบอุ่น ผู้คนในงานเลี้ยงต่างพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ชุดราตรีที่งดงามและชุดสูทที่หรูหราทำให้แขกทุกคนดูสง่างามและมีเสน่ห์

บนเวทีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องโถง ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้และไฟส่องสว่าง ผู้คนต่างมารวมกันเพื่อรอการเปิดตัวสินค้าใหม่

อาคิราและณัฐรินีย์ยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องโถง เฝ้าดูแลและต้อนรับแขกที่มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ อาคิราสวมชุดราตรีสีฟ้าเข้มที่สะท้อนแสงไฟระยิบระยับในค่ำคืนนี้ ชุดของเธอตัดเย็บจากผ้าซาตินเนื้อดีที่พริ้วไหวตามการเคลื่อนไหวของเธอ ชุดนี้เป็นชุดเปลือยไหล่ ทำให้เห็นเนินอกขาวของเธอ กระโปรงยาวลากพื้นเพิ่มความสง่างามให้กับรูปร่างของเธอ นอกจากนี้ อาคิรายังสวมต่างหูเพชรและสร้อยคอที่เข้าชุดกัน ทำให้เธอดูโดดเด่นและงดงาม

ในขณะที่ณัฐรินีย์สวมชุดราตรีสีขาวสะอาดตาที่ทำจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเข้ารูปช่วงเอวและมีการตัดเย็บที่ประณีต และเปลือยไหล่เช่นกัน กระโปรงยาวพริ้วไหวเสริมด้วยผ้าชีฟองที่ทำให้ชุดดูเบาและสบายตา ณัฐรินีย์เลือกเครื่องประดับที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ทั้งสองคนดูสวยสง่าและโดดเด่นท่ามกลางผู้คน

“งานคืนนี้จัดได้หรูหรามากเลยเนอะ” ณัฐรินีย์กระซิบเบาๆ ขณะมองไปรอบๆ งาน

“อื้อ บรรยากาศดีจริงๆ” อาคิราตอบกลับพลางยิ้ม

“ว่าแต่...หนุ่มของเธอมายัง” ณัฐรินีย์หรี่ตาเจ้าเล่ห์แซวเพื่อนสาว

“ทำเป็นพูดดี ดูแลหนุ่มตัวเองให้ดีก่อนเหอะ” อาคิราดีดหน้าผากเพื่อนเบาๆ

“โอ๊ย เจ็บน้า” ณัฐรินีย์แกล้งโอดครวญ ก่อนจะชะงักเล็กน้อย และยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อาคิรา

“ไอๆ”

“อะไร?”

“เจ้าชายเธอมาโน่นแล้ว” ณัฐรินีย์หัวเราะคิกคัก ก่อนจะชี้มือไปทางชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในงาน อาคิราหันไปมอง

“เจ้าชายของเธอก็มาแล้วเหมือนกันย่ะ” อาคิราขำเพื่อน เพราะณัฐรินีย์ชะงักค้างไปทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เดินเข้ามาพร้อมกฤติน

ธีรเทพในชุดสูทสีดำที่ออกแบบมาอยางประณีต สูทตัดเย็นเข้ารูปทให้เขาดูสง่างามและมีความมั่นใจ เสื้อตัวในสีขาวสะอาดตาและเนคไทสีเงินเพิ่มความหรูหราให้กับลุคของเขา รองเท้าหนังสีดำเงาวับขับเน้นให้ธีรเทพดูเหมือนเจ้าชายทางด้านธุรกิจ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วความมาดมั่นและเป็นมืออาชีพ เมื่อเขาก้าวเดินเข้ามาในห้อง ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เขาด้วยความชื่นชม

กฤตินมาในชุดสูทสีดำเช่นกัน แต่ลุคของเขามีความแตกต่างออกไปเล็กน้อย สูทของเขามีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ดูเหมือนเจ้าชายหลุดออกมาจากเทพนิยาย เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวที่ตัดกับสูทสีดำเข้ม กฤตินเลือกใส่รองเท้าหนังสีดำที่ออกแบบมาอย่างประณีต ทุกย่างก้าวของเขาเปี่ยมไปด้วยความสง่างามและความมั่นคงในตัวเอง

ทั้งธีรเทพและกฤตินต่างเป็นจุดสนใจในงานเลี้ยงคืนนี้ เมื่อพวกเขายืนอยู่เคียงข้างกัน ธีรเทพในลุคเจ้าชายด้านนักธุรกิจที่เป็นไปด้วยความเป็นผู้นำ ส่วนกฤตินในลุคเจ้าชายจากเทพนิยายที่ดูเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน ทั้งคู่ดูเหมือนเป็นภาพสะท้อนความสมบูรณ์แบบและความสง่างามของค่ำคืนนี้

อาคิราและณัฐรินีย์ต่างรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อมองดูพวกเขาชุดสูทที่ดูดีขนาดนี้

“ให้มันได้งี้สิ หล่อไปไหนเนี่ย” อาคิราพึมพำอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองคนกำลังเดินตรงมาหาเธอ

“ฮึ่ม...” ณัฐรินีย์เข่นฟันด้วยความหงุดหงิดใจ

“มาอยู่นี่เอง” กฤตินยิ้มให้อาคิราโดยไม่สนใจสีหน้าที่บูดบึ้งเล็กน้อยของเธอ

“เป็นอะไร?” กฤตินยิ้มเจ้าเล่ห์และยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

“เปล่า....”

อาคิราลากเสียงยาวก่อนจะเมินหน้าหนีไปทางอื่น อาคิราไม่อยากให้เขารู้ว่า ในใจของเธอกำลังรู้สึกขุ่นมัวที่เห็นสาวๆ ภายในงานต่างจับจ้องมาที่เขา

ขณะนั้นเอง เสียงดนตรีค่อยๆ หยุดลง แสงไฟทั้งหมดในห้องก็สว่างขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้ร่วมงาน

เอกวัฒน์ เจ้าของและผู้บริหารของบริษัท Vivid Enterprise ก้าวขึ้นไปบนเวทีที่ถูกจัดขึ้นอย่างสวยงาม เขาสวมชุดสูทสีดำที่ทำให้เขาดูสง่าและมีอำนาจ

“สวัสดีทุกท่าน”

“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Vivid Enterprise ในค่ำคืนนี้” เอกวัฒน์กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

เสียงปรบมือดังขึ้นจากทุกทิศทาง แขกในงานต่างตั้งใจฟังคำกล่าวของเอกวัฒน์ ซึ่งเต็มไปด้วยความชื่นชมและคาดหวัง

“วันนี้ไม่เพียงแต่เราจะเปิดตัวสินค้าที่ดีที่สุดเท่านั้น” เอกวัฒน์ยิ้มและหยุดนิ่ง ทำให้ทุกคนสงสัยในคำพูดของเขา

“แต่ผมยังมีข่าวสำคัญที่จะประกาศให้ทุกคนได้ทราบ”

บรรยากาศในงานเลี้ยงเริ่มเปลี่ยนไป แขกในงานต่างกระซิบกระซาบกันและหันไปมองที่เอกวัฒน์อย่างตื่นเต้น

“หลังจากที่ผมได้สูญเสียภรรยาที่รักไป” เขากล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขรึม แต่ยังคงแฝงด้วยความมั่นคง

“ผมได้พบกับคนที่ทำให้ชีวิตของผมกลับมามีความหมายอีกครั้ง”

แสงไฟบนเวทีเปลี่ยนไป แสงไฟทั้งหมดส่องไปยังชัญญาที่กำลังยืนรออยู่ด้านล่างเวที ชัญญาสวมชุดเดรสสีขาวงดงาม รอยยิ้มอ่อนหวานปรากฎบนใบหน้าของเธอ

“ผมมีความยินดีที่จะประกาศว่า ผมและชัญญาจะแต่งงานกัน” เอกวัฒน์กล่าวด้วยเสียงดังและมั่นใจ

เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วห้อง แขกในงานต่างประหลาดใจและกระซิบกันอย่างไม่เชื่อหู หลายคนรู้สึกงุนงงและไม่พอใจ เนื่องจากภรรยาของเอกวัฒน์เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน

ชัญญายิ้มและก้าวขึ้นเวทีมายืนเคียงข้างเอกวัฒน์ ทั้งสองคนจับมือกันและหันมองไปยังแขกในงาน รอยยิ้มของพวกเขาแฝงไปด้วยความมั่นใจและความสุข

“คุณเอกคะ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมากที่ได้ยืนอยู่เคียงข้างคุณในค่ำคืนนี้” ชัญญายิ้มหวานให้เอกวัฒน์

“ผมก็เหมือนกัน คุณเป็นคนที่ทำให้ชีวิตผมกลับมามีความหมายอีกครั้ง”

“ขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นสักขีพยานในค่ำคืนนี้ ฉันหวังว่าทุกคนจะร่วมยินดีกับเราด้วยนะคะ”

“ขอให้ทุกคนร่วมยินดีกับเราด้วยนะ” เอกวัฒน์กล่าวพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้น

“และขอให้มาร่วมงานแต่งงานที่ผมจะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกันนะครับ”

เสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วทั้งห้องโถงที่จัดงาน แม้บางคนจะยังมีความสงสัยและไม่พอใจ โดยเฉพาะกานต์รวีที่กำแก้วไวน์แน่นด้วยความไม่พอใจ

แต่บรรยากาศในงานก็กลับมาสดในอีกครั้ง เมื่อดนตรีเริ่มบรรเลงใหม่ แขกในงานเริ่มหันมาสนุกสนานและสนทนากันอย่างครึกครื้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status