Share

ตอนที่ 30 บทพิเศษ : อาคิราและกฤติน

ความลับในห้องนอน

ในห้องนอนส่วนตัวของกฤตินที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและมีเสน่ห์ด้วยโทนสีขาวและดำ กลิ่นหอมของดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงลอยมาเบาๆ ขณะที่แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาให้แสงสว่างนุ่มนวล

นอกจากแสงจันทร์ ยังมีแสงเทียนที่สลัวอบอุ่นประดับอยู่ตามมุมห้อง สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก

กฤตินนั่งอยู่บนเตียงในชุดนอนสีเข้ม มองอาคิราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แปรงผมอยู่ตรงโต๊ะของเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงแรมจัดงานเลี้ยง กฤตินก็พาอาคิราตรงกลับมาที่บ้านของเขาทันที โดยที่เธอไม่ได้ทักท้วงใดๆ เขารู้สึกว่า คืนนี้เขาไม่ปล่อยเธอกลับบ้านแน่นอน

“อะไรเหรอ?” อาคิราถามขึ้นเบาๆ เธอรับรู้ถึงสายตาที่เขามองมา

“เปล่า”

กฤตินยิ้มกริ่ม อาคิราไม่รู้หรอกว่า เขารอเวลานี้มานานแค่ไหน

“เดี๋ยวเถอะ!” อาคิราหันมาและเอาแปรงผมชี้หน้าเขา ใบหน้าของเธอแดงก่ำ

“หึหึ มานี่สิ” กฤตินยิ้มและยื่นมือให้เธอ

“.....”

อาคิรามองมือของเขา ก่อนจะวางแปรงผมที่โต๊ะ ลุกขึ้นและจับมือของเขา

“อ๊ะ”

กฤตินดึงมือและเอาแขนอีกข้างรวบตัวของอาคิราให้ขึ้นมาบนเตียง อาคิราที่โดนดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาใบหน้าแดงก่ำ

“คืนนี้ไม่กลับบ้าน คุณอาจะว่ามั้ย?” กฤตินกระซิบข้างหูเบาๆ

“มะ..ไม่อะ..” อาคิราหน้าแดง ใจสั่น เพราะลมหายใจอุ่นๆ ของกฤตินรดอยู่ที่ข้างหู

“หืม...” กฤตินใช้จมูกคลอเคลียที่ข้างแก้มนุ่มของเธอ

“เอ่อ...ฉันบอกว่าไปค้างกับณัฐ” อาคิราตัวสั่นเล็กน้อย

“หึหึ เด็กไม่ดีนี่นา” กฤตินกระซิบข้างหู ยิ้มเจ้าเล่ห์

“เอาล่ะ มาคุยกันหน่อยซิ” กฤตินเปลี่ยนท่าทางขยับตัวพิงกับหัวนอนด้านบน และกอดอาคิราไว้แนบอก

“อื้อ”

“เล่ามา” กฤตินถามด้วยท่าทางสบายๆ

“ฉันมีสัมผัสพิเศษ ฉันสามารถเห็นวิญญาณ และสื่อสารกับพวกเขาได้”

“ฉันรู้” กฤตินยิ้ม ไม่แสดงความแปลกใจ

“แล้ว...ฉันก็มี อาเรีย”

“อาเรีย?”

“อื้อ เธอเป็นวิญญาณเทพพิทักษ์ประจำตัวของฉัน ตั้งแต่จำความได้ เธอก็อยู่กับฉันมาตลอด”

อาคิราซบหน้ากับแผ่นอกของกฤติน ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต

“พ่อของฉันเป็นคนไม่ดี ส่วนแม่ของฉันเป็นมิโกะอยู่ที่ศาลเจ้าประเทศญี่ปุ่น พ่อกับแม่พบกันที่นั่น และรักกันจนมีฉัน แต่ทางศาลเจ้าไม่ยอม บอกว่าความรักของพ่อและแม่เป็นสิ่งต้องห้าม พวกเขาไล่ล่าพ่อกับแม่ของฉัน จนแม่ของฉันตาย พ่อก็พาฉันย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองไทย”

“พอกลับมาอยู่ที่นี่ ฉันก็เจอกับอาเรีย เธอบอกว่าเธอเป็นวิญญาณเทพพิทักษ์ แต่ฉันว่า เธอเป็นเหมือนเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายมากกว่า” อาคิราหัวเราะออกมาเบาๆ

“หืม ทำไมล่ะ?” กฤตินเอานิ้วเขี่ยปลายผมของอาคิราเล่น

“พลังของเธอดูไม่เหมือนพวกเทพพิทักษ์น่ะสิ แต่ว่าเธอก็ปกป้องฉันมาตลอดตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าใครที่จะทำร้ายฉัน หรืออะไรก็ตาม เธอคอยช่วยฉันเสมอ”

“อืม ที่สำคัญเธอสวยมากเสียด้วยสิ” กฤตินเอ่ยลอยๆ

“ใช่ เอ๊ะ คุณเห็นเธอเหรอ?” อาคิรารู้สึกเอะใจ

“เธอคิดว่าไงล่ะ?” กฤตินยักคิ้วให้อย่างเจ้าเล่ห์

“ฮื้อ...ตาคุณแล้ว” อาคิรางอนแก้มป่อง ตัดบทเอาดื้อๆ

“หึหึ” กฤตินรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยขี้งอนคนนี้ เขาจูบไปที่หน้าผากของเธอ สูดลมหายใจลึก เขาหลับตาชั่วครู่ก่อนจะเปิดเผยความลับของตัวเอง

“อย่างที่เธอรู้ ฉันอยู่ในตระกูลเทวานุรักษ์ เป็นหนึ่งในตระกูลที่สืบทอดเชื้อสายจากเทพเจ้าเท็นงุของประเทศญี่ปุ่น สำหรับตระกูลของฉัน มีหน้าที่ปกป้องหนังสือหรืออะไรก็ตามที่บรรจุความรู้โบราณและความลับของจักรวาล”

“สมาชิกในตระกูลทุกคนมีความสามารถมองเห็นวิญญาณได้ รวมไปถึงการมีพลังในการจัดการกับสิ่งชั่วร้ายได้”

“มิน่า คุณถึงจัดการกับวิญญาณร้ายของคุณเกศได้” อาคิรามองกฤตินด้วยความทึ่ง

“หึหึ นั่นก็ใช่ แต่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งล่ะนะ” กฤตินหัวเราะ

“มีอะไรอีกอะ?” อาคิราจ้องมองกฤตินด้วยแววตาเป็นประกาย

“พอละ” กฤตินมองดวงตาสีอำพันที่จ้องมองเขาด้วยประกายตาวิบวับแล้วทำให้เขาเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว

“อ้าว อ๊ะ”

กฤตินพลิกตัว กดร่างของอาคิราลงบนเตียงที่อ่อนนุ่ม ใบหน้าของเขาห่างกับเธอเพียงแค่คืบ ลมหายใจอุ่นๆ ของกฤตินรดที่ใบหน้าของอาคิรา ทำให้เธอหน้าแดง

“เรามาต่อเรื่องของเราดีกว่า”

กฤตินยิ้มกริ่ม ใบหน้าที่มีแสงจันทร์ส่องตกกระทบทำให้เขาดูหล่อและมีเสน่ห์มาก

“.......”

อาคิรากระพริบตาถี่ๆ ความใกล้ชิดขนาดนี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอเข้าใจความหมายของเขาเป็นอย่างดี

กฤตินยิ้มให้อาคิรา ดวงตาของเขาสะท้อนแสงเทียนและแสงจันทร์ ทำให้ดูมีประกายราวกับดวงดาว เขาโน้มตัวไปและจูบอาคิราเบาๆ ที่ริมฝีปากย่างอ่อนโยน สัมผัสของเขาหวานละมุนเหมือนกลิ่นของเทียนหอมที่เติมเต็มบรรยากาศ นาทีนั้นดูเหมือนเวลาเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากที่สัมผัสกันอย่างช้าๆ แต่ทว่าเต็มไปด้วยความร้อนแรงที่ซ่อนอยู่

อาคิราตอบรับจูบของกฤตินด้วยความเต็มใจ มือของเธอเลื่อนไปจับที่คอของเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น หัวใจของทั้งสองคนเต้นแรงและเร็วขึ้นตามจังหวะจูบที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความปรารถนา

กฤตินค่อย ๆ เอนอาคิราลงบนเตียง ผมของเธอแผ่กระจายอยู่บนหมอน เขาหยุดจูบและมองดูใบหน้าของเธอที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์และแสงเทียน ความงดงามและเสน่ห์ของอาคิราทำให้กฤตินไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ เขาก้มลงมาจูบที่ลำคอของเธอ ไล่ลงไปที่ไหล่และอก ทำให้อาคิราครางเบา ๆ ผสมกับลมหายใจที่หนักหน่วงและเต็มไปด้วยความรู้สึก

มือของกฤตินเริ่มสำรวจร่างกายของอาคิรา ลูบไล้ไปตามเส้นโค้งของเธออย่างช้า ๆ และอ่อนโยน อาคิรารู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่ส่งผ่านจากการสัมผัสของเขา เธอไม่สามารถต้านทานความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป

อาคิราเคลื่อนตัวเข้าหากฤตินมากขึ้น การจูบเริ่มกลายเป็นความร้อนแรงเมื่อริมฝีปากของพวกเขาขยับสัมผัสกันอย่างลึกซึ้ง

แสงเทียนที่ส่องสว่างรอบๆ ทำให้เงาของพวกเขาทำหน้าที่บ่งบอกความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การสัมผัสที่ลึกซึ้งและร้อนแรงของพวกเขาทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

ในขณะที่มือของอาคิราเลื่อนไปสัมผัสกับผิวกายของกฤตินอย่างนุ่มนวลและแน่นแฟ้น ความอบอุ่นจากการสัมผัสที่ลึกซึ้งทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความใกล้ชิดที่ยิ่งใหญ่

จังหวะของการจูบช้าลงอย่างเต็มที่ พวกเขาหลับตาลงเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่แท้จริงในขณะนี้ มือของกฤตินแทรกซึมไปตามแนวร่างของอาคิรา การสัมผัสของเขาค่อย ๆ พาอาคิราไปสู่โลกแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยความรักและความเร่าร้อน

เมื่อร่างกายของพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลและประสานกัน การเต้นของหัวใจของพวกเขาก็เริ่มสอดประสานกัน ความรู้สึกของความรักที่ร้อนแรงและความใกล้ชิดยิ่งทำให้ทุกสิ่งรอบตัวจางหายไป ปล่อยให้การเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งและซาบซึ้งใจนี้เป็นจุดเด่นของค่ำคืนที่เป็นของพวกเขา

แสงจันทร์และแสงเทียนยังคงล้อมรอบพวกเขา ราวกับเป็นพยานที่เงียบสงบต่อความรักที่ลึกซึ้งและร้อนแรงของกฤตินและอาคิรา ในที่สุดความร้อนแรงของค่ำคืนนี้ก็ค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงความอบอุ่นและความสงบที่พวกเขาพบเจอได้ในวงแขนของกันและกัน

ค่ำคืนที่แสนหวานและโรแมนติกนี้ เป็นค่ำคืนที่ทั้งคู่รอคอยมานาน และพวกเขาก็กำลังใช้เวลาให้คุ้มค่ากับที่เฝ้ารอ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status