Share

ตอนที่ 32 ล่าหาความจริง (2)

ความลับที่ถูกซ่อน

เมื่อเข็มนาฬิกาเคลื่อนเข้าสู่เวลาเลิกงาน อาคิราก็เก็บข้าวของเตรียมตัวเพื่อกลับบ้าน วันนี้เธอต้องกลับบ้านเพียงลำพัง เพราะณัฐรินีย์ต้องอยู่ช่วยงานออกแบบของธีรเทพหลังเลิกงานทุกวัน เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัทธีรเทพแล้ว

หญิงสาวเดินออกจากออฟฟิศและกดลิฟท์ลงไปยังชั้นหนึ่ง อาคิราเผลอคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยไม่รู้ตัวว่า ในเงามืดของทางเดินมีใครบางคนกำลังรออยู่

“เฮ้ คุณ”

เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เธอหยุดชะงักและหันกลับไปมอง ก้องเกียรติยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของมีความกังวลเล็กน้อย

“คุณนี่เอง” อาคิรานึกออกทันทีว่าเขาคือแฟนของญาณวดี

“ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ” ก้องเกียรติมองหน้าอาคิรานิ่ง

“คาเฟ่ชั้นหนึ่งยังเปิดอยู่ เราไปคุยกันที่นั่นก็แล้วกัน”

ทั้งสองคนเดินไปยังคาเฟ่ชั้นหนึ่งของตึก อาคารที่เต็มไปด้วยคนเดินขวักไขว่ แต่บรรยากาศในคาเฟ่กลับเงียบสงบอย่างประหลาด พวกเขาเลือกที่นั่งมุมหนึ่งที่เงียบสงบ

“ผมมีเรื่องอยากถามสองเรื่อง” ก้องเกียรติเริ่มต้นก่อนหลังจากที่สั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว

“หนึ่ง เรื่องญาณวดีที่คุณพูดหมายความว่ายังไง สองคุณรู้ได้ยังไงว่า ภรรยาผมเสียสติ” ก้องเกียรติยิงคำถามทันที

“ฉันบอกไม่ได้” อาคิราตอบมองหน้าเขานิ่ง

“เพราะอะไร?”

“เพราะคุณไม่เชื่อ” อาคิราสวนทันควัน

“เชื่อหรือไม่ มันเรื่องของผม แต่คุณควรบอก” ก้องเกียรติไม่ยอมให้อาคิราปฏเสธ

“....”

“ก็ได้” อาคิราถอนหายใจ ดวงตาสีอำพันมองก้องเกียรติราวกับจะอ่านความรู้สึกของเขา

“เรื่องแรก ญาณวดีใส่น้ำมันพรายยาเสน่ห์ในของให้คุณกิน เพื่อให้คุณหลงรักเธอ เรื่องที่สอง วิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับคุณบอกฉัน”

“...”

ก้องเกียรตินิ่งอึ้งไปชั่วขณะ คำพูดของหญิงสาวตรงหน้าเหมือนคนเสียสติ เธอพูดเรื่องอะไร น้ำมันพราย วิญญาณ ของพวกนั้นมันมีจริงที่ไหนกัน

“คุณไม่เชื่อ” อาคิราย้ำคำพูดอีกครั้ง

“มัน...ออกจะเหลือเชื่อดีกว่า นี่มันยุคไหนแล้ว ของพวกนั้น มันไม่มีอยู่จริงซักหน่อย” ก้องเกียรติส่ายหน้าอย่างเชื่อไม่ลง

“คุณไม่เห็น ไม่เคยสัมผัส ไม่ได้หมายความว่า มันไม่มีอยู่จริงซักหน่อย” อาคิราพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เฮ่อ...ผมนึกว่าคุณจะมีหลักฐาน หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ผมเชื่อได้เสียอีก มโนขึ้นมาเองแบบนี้ ผมว่า..มันก็เกินไปหน่อยมั้ง” ก้องเกียรติยักไหล่

“ภรรยาของคุณชื่อ นวลพรรณ ก่อนหน้าที่เธอจะเข้าโรงพยาบาล เธอมีเรื่องกับญาณวดีในร้านอาหารที่ชื่อว่า....”

“!!”

ก้องเกียรติมีสีหน้าตกใจ ทุกสิ่งที่อาคิรากล่าวมา เป็นเรื่องจริง และเธอไม่มีทางรู้แน่นอน เพราะวันนั้นมีคนอยู่ในเหตุการณ์เพียงแค่ เขา นวลพรรณ และญาณวดีเท่านั้น

“คุณรู้ได้ไง คุณแอบไปเอากล้องวงจรปิดมาดูเหรอ?”

“ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างคุณตอนนี้ เล่าให้ฉันฟัง”

“....” ก้องเกียรติหันไปมองรอบตัวด้วยความตกใจ

“ฮะๆ หลอกกันสินะ”

“คุณจะเชื่อหรือไม่ มันเรื่องของคุณ”

“แต่ฉันบอกได้ว่า ภรรยาของคุณเห็นสิ่งที่คุณทำกับญาณวดี ก่อนวันที่จะเกิดเรื่องทะเลาะกัน”

อาคิราพูดเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับวางเงินไว้บนโต๊ะเป็นค่าเครื่องดื่มที่เธอสั่ง

“ถ้าคุณอยากรู้ว่าจริงมั้ย ลองถาม ‘คุณมินตรา’ ที่เป็นเพื่อนของภรรยาคุณดูสิ เผื่อคุณจะได้คำตอบ”

อาคิราพูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกจากคาเฟ่ไปโดยไม่เหลียวกลับมามองก้องเกียรติแม้แต่นิดเดียว

“มินตรา...งั้นเหรอ?” ก้องเกียรติกุมขมับ ก่อนจะพึมพำออกมาเบา

ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่า การพบกันของทั้งคู่มีสายตาประสงค์ร้ายแอบจ้องมองด้วยความริษยาอยู่ที่มุมมืดแห่งหนึ่งในคาเฟ่แห่งนั้น


การประชุมลับในหอสมุด

ในหอสมุดลึกลับอีกแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในมุมลึกของเมือง แสงไฟจากโคมไฟเก่าทำให้บรรยากาศในห้องอ่านหนังสือดูอบอุ่นและลึกลับ เสียงกระซิบของการพูดคุยเบา ๆ ดังไปทั่ว

กฤติน อาคิรา ธีรเทพ และณัฐรินีย์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ใหญ่กลางห้องสมุด มีหนังสือเก่าแก่ และถ้วยชาเล็กๆ วางอยู่เคียงข้างแต่ละคน

เสียงใบไม้ที่พัดผ่านและเสียงจิ้งหรีดทำให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความเงียบสงบ

“เอาล่ะ ฉันขอสรุปแบบง่ายๆ ละกัน หนึ่ง เรื่องการแต่งงานกระทันหันของคุณเอกและชัญญา ฉันคิดว่าเกิดจากยาเสน่ห์ที่ชัญญาใช้เพื่อควบคุมคุณเอก ซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก”

“และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้คุณเอกวัฒน์เริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการติดสินใจอย่างไม่ปกติ” กฤตินพยักหน้าเห็นด้วย

“สอง การที่คุณเกศเสียชีวิต น่าจะเกิดจากการใช้ไสยศาสตร์มนตร์ดำของใครซักคน โดยคนที่ออกคำสั่งก็น่าจะคือ ชัญญา” อาคิราสรุปแบบเหตุการณ์รวดเดียวจบ

“แล้วเราต้องทำยังไงล่ะ?” ณัฐรินีย์ที่ฟังอยู่เงียบๆ เอ่ยถาม

“ผมว่า เราควรต้องหาหลักฐานให้ได้ว่า ชัญญาเป็นคนทำ” ธีรเทพเสนอขึ้นมา

“....”

อาคิรามองหน้ากฤตินที่อมยิ้มด้วยท่าทางสนุกสนาน ก่อนจะหันไปมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าแปลกใจที่ทั้งคู่ยอมรับผลการสรุปของพวกเขาอย่างไม่คัดค้าน และไม่มีคำถามเลยสักนิด

“ผมคิดว่า..น่าจะมีคนที่คอยช่วยเหลือชัญญาอยู่เบื้องหลังด้วย” ธีรเทพมีสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยออกมา

“ฉันว่าคนที่เข้าข่ายน่าสงสัยคือ....” ณัฐรินีย์ชะงักไปเล็กน้อย

“ทำไมเหรอ?” ณัฐรินีย์ถาม มองอาคิราด้วยความสงสัย

“เอ่อ...พวกเธอดูยอมรับได้แบบแปลกๆ น่ะ” อาคิรามีสีหน้าที่งุนงง ส่วนกฤตินกลั้นหัวเราะ

“ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ก็คงไม่เชื่อหรอก” ธีรเทพยักไหล่

“เห็น!!” อาคิราเบิกตาโต หันไปมองณัฐรินีย์

“อื้อ”

“อ๊ะ คุณรู้อยู่แล้วเหรอ?” อาคิรานึกขึ้นได้หันไปคาดคั้นกฤตินที่อมยิ้ม

“เธอคิดว่าไงล่ะ?” กฤตินยักคิ้วให้เธอ

“..นี่คุณ...” อาคิราหรี่ตามองอย่างเจ็บใจ

“เอาน่ะ ว่าแต่เมื่อกี้คุณณัฐสงสัยใครนะ?” กฤตินยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันที

“อ่ะ คนที่ฉันสงสัยคือ....” ณัฐรินีย์อึกอักเล็กน้อย

“รวีสินะ” ธีรเทพกลับเป็นคนพูดชื่อบุคคลน่าสงสัยออกมาเอง

“ใช่ ฉันสงสัยกานต์รวีน่ะ” ณัฐรินีย์พูดเบาๆ ด้วยความเกรงใจ

“คุณไม่ต้องเกรงใจผมหรอก ผมเห็นด้วยกับคุณ” ธีรเทพยิ้มให้ณัฐรินีย์

“ถ้าเห็นตรงกันแบบนี้ งั้นผมว่าใช้แผนนี้ดีกว่า” กฤตินครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเสนอแผนการ

“คุณณัฐกับคุณธีร์ ช่วยหาหลักฐานที่เป็นรูปธรรมจากกานต์รวีและชัญญา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างหมอผี หรือหมอที่ทำคุณไสยแล้วกัน”

“ส่วนผมกับไอ จะหาทางแก้ให้คุณเอกวัฒน์พ้นจากเสน่ห์มนตร์ดำเอง”

“โอเค ตกลงตามนี้”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status