ความปรารถนาที่ถูกบ่ายเบี่ยง
ภายในห้องนอนของญาณวดีและก้องเกียรติ ที่เพิ่งผ่านพ้นมรสุมของความรักไป แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างกระทบกับเตียงที่เปียกชื้นจากเหงื่อและความรู้สึกที่ร้อนแรง ญาณวดีนอนอยู่ข้างก้องเกียรติ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข แต่ในสายตาของเธอซ่อนเร้นด้วยเล่ห์ร้ายบางอย่าง
เธอมองดูร่างของก้องเกียรติที่นอนเปลือยเปล่าข้าง ๆ กัน พลางลูบไล้เบา ๆ ไปที่แผ่นหลังของเขา สัมผัสอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความหวัง
“ก้องคะ..” ญาณวดีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“หืม?”
“ฉันอยากคุยเรื่องของเราน่ะค่ะ”
“อะไรล่ะ?” ก้องเกียรติหลับตา เพราะยังรู้สึกเพลียกับสมรภูมิรักเมื่อครู่
“ฉันอยากให้เราก้าวไปอีกขั้นในความสัมพันธ์นี้ ฉันอยากเป็นภรรยาที่ถูกต้องของคุณ”
ก้องเกียรติที่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ รอยยิ้มที่เคยมีหายไปในทันที ความสงสัยและความไม่แน่ใจปรากฎในดวงตาของเขา
“แต่นวล...ยังอยู่โรงพยาบาล ผมทิ้งเธอไม่ได้หรอก” ก้องเกียรติพยายามเลี่ยง
“ฉันเข้าใจค่ะ แต่เธอเป็นบ้าไปแล้ว คุณจะปล่อยให้ตัวเองยึดติดกับคนที่เสียสติไปแล้วเหรอ?”
“ฉันรักคุณ และฉันพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ฉันต้องการเป็นเมียที่ถูกต้องของคุณค่ะ” ญาณวดีแสร้งทำเป็นน้อยใจ
ถ้าไม่อยากเสียสติเหมือนภรรยาของคุณ
ก็อย่ากินของที่ญาณวดีเอามาให้
จู่ๆ คำพูดของอาคิราก็ผุดขึ้นมาในสมองของก้องเกียรติ เขาเริ่มรู้สึกสงสัย และอยากรู้ว่าที่อาคิราพูดหมายความว่ายังไง แต่...จะให้เขาตัดความสะดวกสบายทางการเงินจากญาณวดีก็คงไม่ได้ ที่สำคัญอาคิราสวยเสียด้วย
ทางที่ดีที่สุดคือ ต้องไปพบและคุยกับอาคิราให้หายข้องใจ
“มันไม่ง่ายเลยนะ วดี” ก้องเกียรติถอนหายใจหนัก เขามองเธอด้วยสายตาที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
“วดี นวลพรรณยังเป็นภรรยาของฉัน ไม่ว่าตอนนี้เธอจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม”
“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ถ้าคุณรักฉันจริง คุณต้องทำเพื่อเราสองคน” ญาณวดีโน้มตัวลงไปใกล้เขา ริมฝีปากที่เย้ายวนของเธอใกล้จะแตะกับเขา เนินหน้าอกที่โผล่พ้นผ้าห่มเบียดกับหน้าอกของเขาเป็นการยั่วยวน ดวงตาของเธอจ้องมองเขาอย่างมีความหวัง
ก้องเกียรติพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของเธอ เขารู้สึกถึงความกดดันและความปรารถนาของเธอ แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตัดสินใจได้ง่ายๆ
“วดี เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอกนะ”
ก้องเกียรติยิ้มให้เธอ และดึงเธอเข้ามาใกล้ จูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ
“วดี...ผมรักคุณ” เขากระซิบเบา ๆ ก่อนจะเริ่มจูบเธออย่างร้อนแรงขึ้น ความร้อนแรงในจูบของเขาทำให้เธอลืมความกังวลชั่วขณะหนึ่ง
มือของก้องเกียรติลูบไล้ไปทั่วร่างของญาณวดี เธอเริ่มตอบรับด้วยความปรารถนา เธอรู้สึกได้ถึงความรักและความอบอุ่นที่เขามอบให้ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขาพยายามเปลี่ยนเรื่อง แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกที่มีต่อเขาได้
ในที่สุด ทั้งสองคนก็หลอมรวมกันอีกครั้ง ความร้อนแรงและความปรารถนาที่เต็มเปี่ยมทำให้ญาณวดีลืมทุกสิ่งรอบตัวไปหมด
ญาณวดีรู้สึกถึงความสุขและความรักที่ได้รับจากก้องเกียรติ แม้ว่าในใจลึก ๆ ของเธอจะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาอยู่
แต่ในขณะนี้ เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อน แม้ว่าเธอจะยังไม่สามารถเป็นเมียหลวงได้ แต่เธอก็มีหนทางที่จะให้เขาขอเธอแต่งงานเหมือนกับที่เอกวัฒน์ขอชัญญาแต่งงานให้ได้
ในเมื่อเธอเป็นบ้า มันไม่เพียงพอสำหรับคุณ
งั้นถ้าเป็นความตายล่ะ คงเพียงพอแล้วใช่มั้ย
ญาณวดียิ้มให้ความคิดชั่วร้ายของเธอ ก่อนจะผลอยหลับไปในอ้อมกอดของก้องเกียรติ
อำนาจที่ซ่อนเร้น
บ้านของธีรเทพและกานต์รวีตั้งอยู่ใจกลางเมืองในโครงการหมู่บ้านหรูหลังใหญ่โดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่ทันสมัย ผนังภายนอกสีขาวขุ่นตัดกับบานหน้าต่างกระจกใสขนาดใหญ่ ทำให้ภายในบ้านสว่างไสวและโปร่งโล่ง
บริเวณสวนหน้าบ้านตกแต่งด้วยหญ้าเทียมและต้นไม้ประดับสีเขียวสดใส สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดพอเหมาะตั้งอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน พร้อมระเบียงไม้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวเมือง
ชัญญาเดินทางมาถึงบ้านของกานต์รวีในช่วงยามเย็น เธอเดินเข้ามาในบ้านของกานต์รวีด้วยท่าทีสง่างามและมั่นใจ
ภายในบ้านเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟบนโต๊ะที่ให้บรรยากาศอุ่น ๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความอึดอัด กานต์รวีนั่งอยู่บนโซฟาขนาดใหญ่ ใบหน้าเธอแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
“ว่าไงเพื่อนรัก” ชัญญาส่งเสียงทักทายอย่างอารมณ์ดี
“ญ่า เธอมาทำไมที่นี่” กานต์รวีเสียงแข็งเมื่อเห็นชัญญา
“เอ้า ก็คิดถึงเธอไง” ชัญญายิ้มเล็กน้อย วางกระเป๋าถือของตัวเองไว้บนโต๊ะที่อยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่น
“ไม่จำเป็น” กานต์รวีสะบัดหน้าไปทางอื่น
“รวี เธอก็รู้ว่าฉันต้องการตำแหน่งเมียหลวงของคุณเอกมาตั้งนานแล้วนะ” ชัญญานั่งลงข้างๆ กานต์รวี
“ญ่า เธอใช้โหงพรายไปทำร้ายคุณเกศจนเธอต้องตายไป เธอคิดอะไรอยู่ เธอฆ่าคนนะ” กานต์รวีมองเพื่อนด้วยความเสียใจ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เธอก็รู้” ชัญญายิ้มราวกับมันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง”
“ญ่า...”
“รวี ฉันรู้เธอไม่พอใจที่ฉันแต่งงาน แต่ฉันก็ยังต้องการเธออยู่นะ” ชัญญาพูดพร้อมกับเอามือของเธอลูบไล้ไปที่แก้มของกานต์รวี
กานต์รวีตัวแข็งทื่อ ไม่ทันที่เธอจะตอบสนอง ชัญญาก็ยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ
“ฉันรู้ว่าเธอชอบอะไร และฉันก็รู้ว่าเธอต้องการฉันเหมือนกัน” ชัญญายิ้มหวาน กระซิบที่ข้างหูของกานต์รวี
ชัญญาเริ่มจูบกานต์รวีเบาๆ ที่ริมฝีปาก ก่อนที่จะเริ่มรุกหนักขึ้น จูบของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาและความต้องการ
กานต์รวีพยายามจะต้านทาน แต่ความปรารถนาที่เธอซ่อนอยู่ภายในใจกลับทำให้เธอยอมจำนนต่อชัญญา
กานต์รวีตอบสนองด้วยการครางเสียงเบา ๆ มือของชัญญาลูบไล้ไปทั่วร่างของกานต์รวี ความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นทำให้ความโกรธในใจของกานต์รวีเริ่มหายไป และความรู้สึกที่แท้จริงกลับมาท่วมท้น
ทั้งสองคนนัวเนียกันบนโซฟา ชัญญาใช้ทักษะที่เธอรู้ว่ากานต์รวีชอบที่สุด ทุกการเคลื่อนไหวของเธอถูกควบคุมอย่างระมัดระวัง โดยที่ชัญญาแอบตั้งกล้องถ่ายคลิปเอาไว้โดยที่กานต์รวีไม่รู้ตัว
ในที่สุด เมื่อทุกอย่างจบลง ทั้งสองคนนอนกอดกัน กานต์รวีนอนหอบเหนื่อยอยู่บนโซฟา เธอรู้สึกถึงความอ่อนล้าแต่ก็เต็มไปด้วยสุข
“ญ่า...ฉันรักเธอนะ” กานต์รวีพึมพำออกมา
“ฉันรู้” ชัญญายิ้มอย่างพอใจในเกมที่เธอเป็นผู้ชนะอีกครั้ง
ความลับที่ถูกซ่อนเมื่อเข็มนาฬิกาเคลื่อนเข้าสู่เวลาเลิกงาน อาคิราก็เก็บข้าวของเตรียมตัวเพื่อกลับบ้าน วันนี้เธอต้องกลับบ้านเพียงลำพัง เพราะณัฐรินีย์ต้องอยู่ช่วยงานออกแบบของธีรเทพหลังเลิกงานทุกวัน เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัทธีรเทพแล้วหญิงสาวเดินออกจากออฟฟิศและกดลิฟท์ลงไปยังชั้นหนึ่ง อาคิราเผลอคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยไม่รู้ตัวว่า ในเงามืดของทางเดินมีใครบางคนกำลังรออยู่“เฮ้ คุณ”เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เธอหยุดชะงักและหันกลับไปมอง ก้องเกียรติยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของมีความกังวลเล็กน้อย“คุณนี่เอง” อาคิรานึกออกทันทีว่าเขาคือแฟนของญาณวดี“ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ” ก้องเกียรติมองหน้าอาคิรานิ่ง“คาเฟ่ชั้นหนึ่งยังเปิดอยู่ เราไปคุยกันที่นั่นก็แล้วกัน”ทั้งสองคนเดินไปยังคาเฟ่ชั้นหนึ่งของตึก อาคารที่เต็มไปด้วยคนเดินขวักไขว่ แต่บรรยากาศในคาเฟ่กลับเงียบสงบอย่างประหลาด พวกเขาเลือกที่นั่งมุมหนึ่งที่เงียบสงบ“ผมมีเรื่องอยากถามสองเรื่อง” ก้องเกียรติเริ่มต้นก่อนหลังจากที่สั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว“หนึ่ง เรื่องญาณวดีที่คุณพูดหมายความว่ายังไง สองคุณรู้ได้ยังไงว
ความลับของญาณวดีในค่ำคืนที่เงียบสงบและมืดมิด ญาณวดีเดินผ่านตรอกซอยแคบๆ ที่มืดทึบและเต็มไปด้วยความลึกลับ ความรู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นกระจายไปทั่วใจเธอ แม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่น่ากลัวและอันตราย แต่เธอก็ไม่ลังเลที่จะเดินเข้ามาเมื่อเธอถึงหน้าประตูไม้เก่าๆ ที่ดูเหมือนจะผ่านกาลเวลามานาน เธอเคาะเบาๆ ไม่กี่ครั้ง ประตูค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นหญิงวัยชราคนหนึ่ง ผู้มีดวงตาลึกลับและน่ากลัวที่มองตรงมาที่เธอ“คือฉัน...”“เข้ามาสิ” เสียงแหบพร่าดังขึ้นญาณวดีพยักหน้าเบาๆ และเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นห้องที่มืดและเต็มไปด้วยกลิ่นธูปและสมุนไพรลอยอวล ญาณวดีเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ใจเธอเต้นรัวไปด้วยความกล้าและความกลัวเสียงกระพือของลมเย็นยามค่ำคืนดังแทรกเข้ามาในห้อง แสงเทียนวับวาวสะท้อนเงามืดที่ดูน่ากลัว“มาแล้วหรือ?”เสียงแหบพร่าของหมอผีดังขึ้นจากมุมหนึ่งของห้อง เขานั่งอยู่บนเบาะเก่า ๆ ในสภาพที่ดูราวกับออกมาจากฝันร้าย ผมยาวสีดำนั้นยุ่งเหยิงและแววตาสะท้อนแสงเทียนจ้องมองมาที่ญาณวดี“ฉันมาขอความช่วยเหลือค่ะ” ญาณวดีตอบเบา ๆ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความกระหายที่จะได้สิ่งที่ต้องการ“เจ้าต้องการอะไร?” หมอผียิ้มอย่า
ณัฐรินีย์หลับตาเพื่อพักสายตาครู่หนึ่ง ก่อนจะเหลือบไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเธอเท่าไหร่นัก ธีรเทพกำลังจ้องมองโน้ตบุ๊คเบื้องหน้าของเขาด้วยสายตาจริงจัง แว่นกันแสงบลูไลท์ที่เขาใส่ ทำให้เขาดูเท่และสมกับเป็นนักธุรกิจยิ่งขึ้น“นี่คุณ” ณัฐรินีย์เอ่ยทำลายความเงียบ“หืม?” ธีรเทพตอบกลับโดยไม่ได้ละสายตาจากโน้ตบุ๊ค“คุณ...ไม่ต้องพากานต์รวีไปเที่ยวบ้างเหรอ?”“....” มือของธีรเทพชะงักไป ก่อนจะหันมามองหญิงสาวที่จ้องมองเขาด้วยความสงสัย“ไม่อะ” ชายหนุ่มตอบง่ายๆ“เอ้า ทำไมอะ?”“รวีไปกับชัญญาน่ะ” ธีรเทพตอบอย่างไม่ใส่ใจ“ห๊ะ?” ณัฐรินีย์ยิ่งแปลกใจมากขึ้น“ตั้งแต่รวีเจอกับชัญญา รวีก็แทบไม่ได้อยู่บ้าน ส่วนมากจะไปกับชัญญาตลอด” ธีรเทพตอบด้วยท่าทางไม่เดือดร้อน“นี่คุณ ที่คุณพูดมา มันแปลกไม่ใช่เหรอ? เป็นสามีภรรยากัน มีอย่างที่ไหนไปกับเพื่อน?” ณัฐรินีย์ขมวดคิ้ว“อืม...ไม่รู้สิ ผมก็พยายามหาคำตอบอยู่”“แล้วคุณไม่เดือดร้อนเหรอ? โดนเพื่อนภรรยาแย่งเวลาไปหมดแบบนี้น่ะ” ณัฐรินีย์ชะโงกหน้าเข้าไปจ้องมองราวกับจะอ่านความรู้สึกของธีรเทพ“ไม่นะ เพราะผมได้ทำงานเต็มที่ ที่สำคัญ....” ธีรเทพหันไปมองตาณัฐรินีย์“ผมได้เจอคุณ
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านตึกสูงระฟ้าในกรุงเทพฯ เสียงรถราและผู้คนพลุกพล่าน เป็นสัญญาณเริ่มต้นของอีกหนึ่งวันทำงาน สำหรับชัญญา พนักงานสาวสวยฝ่ายการตลาด เช้าวันนี้เธอมีรอยยิ้มที่สดใส แฝงไว้ด้วยความทะเยอทะยาน และความมุ่งมั่นชัญญา เดินเข้ามาในบริษัท “Vivid Enterprise” ด้วยท่าทางสง่า เธอแต่งกายด้วยชุดเดรสสีแดงโดยสวมทับด้วยสูทสีดำเรียบหรู เส้นผมสลวยยาว ใบหน้าสวยคม ดวงตาเฉียบคม เธอเป็นที่หมายปองของผู้ชายในบริษัท แต่ชัญญาไม่เคยสนใจใคร เธอมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือการก้าวขึ้นสู่อำนาจ เป็นผู้หญิงที่เหนือกว่าใครๆภายในห้องทำงาน ชัญญาในชุดเดรสสีแดง นั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น เธอจัดการเอกสารต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ เธอมองไปรอบๆ เห็นพนักงานคนอื่นๆ ทำงานอย่างขยันขันแข็ง แต่ไม่มีใครเก่งเท่าเธอ ชัญญารู้สึกภูมิใจในตัวเอง เธอคิดว่าเธอสมควรได้รับตำแหน่งที่สูงกว่านี้ก๊อก ก๊อก“เชิญค่ะ” ชัญญาตอบด้วยน้ำเสียงหวานใส“คุณญ่าคะ คุณเอกวัฒน์ว่างแล้วค่ะ” เลขาแจ้ง“ได้ค่ะ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ชัญญาตอบ รีบลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน จัดเอกสารให้เรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องไปก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตค่ะ” ชัญญาบอกเสียงใส
ในบ้านหลังใหญ่ที่หรูหราภายในห้องนอนที่มืดมิด แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่าง เป็นประกายระยิบระยับ กานต์รวี นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง ดวงตาของเธอปิดสนิท แต่หัวใจของเธอดิ้นรนด้วยความปรารถนา เธอคิดถึงชัญญา หญิงสาวผู้จุดประกายไฟแห่งรักในตัวเธอกานต์รวี รู้จักชัญญามานานแล้ว ทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันสมัยเรียนด้วยกัน ทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน ชอบทำกิจกรรมคล้ายๆ กัน กานต์รวี ชื่นชมในความสวยงามและความร่าเริงของชัญญา ในขณะที่ชัญญา ชื่นชอบในความฉลาดและความใจดีของกานต์รวี ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเสมอกานต์รวีแอบหลงรักชัญญา เธอเกือบจะสารภาพรักกับชัญญา แต่เมื่อชัญญาพาแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาและดูดีมาแนะนำให้รู้จัก กานต์วรีรู้สึกเสียใจ และต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้หลังเรียนจบ ทั้งคู่แยกย้ายกันไปทำงานและไม่ได้ติดต่อกันอีก ในที่สุดกานต์รวีตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มที่ชื่อ ธีรเทพ เพื่อลืมความรักที่มีต่อชัญญา แต่ถึงแม้จะแต่งงานแล้ว กานต์รวีก็ยังไม่สามารถลืมชัญญาได้ เธอแอบติดตามชีวิตของชัญญาผ่านโซเชียลมีเดียอยู่เสมอจนกระทั่งวันหนึ่ง เหมือนสวรรค์เล่นตลกให้ชัญญามาสมัครงานที่บริษัท Vivid Ente
สัปดาห์ถัดมา ชัญญาได้เริ่มต้นทำงานใหม่ในตำแหน่งเลขาของเอกวัฒน์ เธอตั้งเป้าที่จะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ความสามารถของเธอ และเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจที่เธอต้องการภายในห้องทำงานของเอกวัฒน์ชัญญา ทำงานอย่างขะมักเขม้น เธอจัดการเอกสารต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ เธอสามารถตอบคำถามของเอกวัฒน์ได้อย่างถูกต้อง และตรงประเด็น เอกวัฒน์รู้สึกประทับใจในความสามารถของชัญญามากขึ้นทุกทีในฐานะเลขาของเอกวัฒน์ ชัญญามีงานที่หนักขึ้น เธอต้องจัดการงานต่างๆ ให้กับเอกวัฒน์ ทั้งงานเอกสาร งานประชุม งานติดต่อลูกค้า ชัญญาทำงานอย่างคล่องแคล่ว และมีประสิทธิภาพ เธอสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเอกวัฒน์นั่งมองหญิงสาวทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยสายตาชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง“นายคะ กาแฟค่ะ” ชัญญาเสิร์ฟกาแฟ พร้อมเปลี่ยนสรรพานามในการเรียกเอกวัฒน์ใหม่“ขอบคุณมาก คุณทำงานดีมาก ผมประทับใจจริงๆ” เอกวัฒน์ชม พร้อมกับจับมือของชัญญาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาเจ้าชู้ และแรงปรารถนา“อ๊ะ..ถ้านายชอบ ญ่าก็ดีใจค่ะ” ชัญญามีท่าทีเขินอาย เธอพยายามดึงมือออก“คืนนี้คุณว่างมั้ย ?” เอกวัฒน์ยอมปล่อยมือ“ว่างค่ะ ทำไมเหรอคะ?” ชัญญาประสานมือไว้ด้
ในห้องทำงานหรูหราใจกลางคฤหาสน์เอกวัฒน์ นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังนุ่ม แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างลงมาบนใบหน้าของเขา ในมือถือแก้วไวน์แดง จิบไปช้าๆ พลางจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างค่ำคืนนี้ เอกวัฒน์รู้สึกเหงา และคิดถึงชัญญา เลขาคนสวย ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาจากดินเนอร์กับชัญญา บรรยากาศในร้านอาหารโรแมนติก แสงไฟสลัว เสียงเพลงคลอเบาๆชัญญา ดูสวยมากในชุดเดรสสีดำ เธอฉลาด พูดเก่ง ภาพชัญญายิ้มหวาน พูดคุยอย่างสนุกสนาน ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว และรู้สึกหลงใหลในตัวชัญญา เขารู้สึกว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขารู้จักเขารู้สึก...เหมือนหลงรักเธอเขารู้สึก..อยากกอด จูบเธอเขารู้สึก...อยากครอบครองเธอเอกวัฒน์ถอนหายใจยาว พักหลัง เขารู้สึกถึงความเย็นชาในความสัมพันธ์ของเขากับภรรยา เขาต้องการผู้หญิงที่สดใส มีชีวิตชีวา และทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเหมือนชัญญาเอกวัฒน์ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังหน้าต่าง เขามองออกไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับ เหมือนกับความฝันของเขาเขาฝันอยากจะมีความสุขกับชัญญาเอกวัฒน์กำหมัดแน่น เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องได้ตัวชัญญามาคร
นที่ 5:ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในห้องทำงานของญาณวดีญาณวดีนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูขวดแก้วสีแดงที่บรรจุยาเสน่ห์สีดำขลับ เธอรู้สึกโกรธแค้นและผิดหวังยาเสน่ห์ที่เธอคิดว่าจะช่วยให้เธอเอาชนะใจของเอกวัฒน์ กลับกลายเป็นว่าไร้ผล เอกวัฒน์ไม่ได้หลงรักเธอ แต่เขากลับหลงรักชัญญา เลขาสาวของเขา“ทำไมมันถึงไม่ได้ผล ฉันใช้ยาเสน่ห์ชั้นดี แต่ทำไมคุณเอกถึงไม่หลงรักฉัน” ญาณวดีกำขวดยาเสน่ห์แน่นญาณวดีนึกย้อนเหตุการณ์ในอดีต เธอเคยใช้ยาเสน่ห์กับผู้ชายมากมาย และทุกครั้งมันก็ได้ผล ผู้ชายทุกคนหลงรักเธอ หัวปักหัวปำ แต่ทำไมกับเอกวัฒน์ ยาเสน่ห์ถึงไม่ทำงาน“ชัญญา เธอต้องชดใช้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้” ญาณวดีคำรามในลำคอเบาๆญาณวดีลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบขวดแก้วอีกขวดหนึ่งขึ้นมา ขวดแก้วนี้บรรจุยาเสน่ห์สูตรใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับจากหมอทำเสน่ห์ที่มีชื่อเสียงแถวภาคกลาง“ยาสูตรนี้แรงมาก ไม่จำเป็นต้องหยดใส่ให้ไอ้หนุ่มนั่นกิน แต่เธอต้องเป็นคนกินเอง ว่าแต่เธอจะกล้ากินหรือเปล่า?” คำพูดของหมอทำเสน่ห์ดังก้องในหัว“ก็เอาสิ ลองดูกันสักตั้ง”ญาณวดีเทยาเสน่ห์ลงในแก้วน้ำ และยกขึ้นจิบ รสชาติของยาเสน่ห์ช่างขมขื่น แต่เ