Share

ตอนที่ 33 เล่ห์รักของญาณวดี (1)

ความลับของญาณวดี

ในค่ำคืนที่เงียบสงบและมืดมิด ญาณวดีเดินผ่านตรอกซอยแคบๆ ที่มืดทึบและเต็มไปด้วยความลึกลับ ความรู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นกระจายไปทั่วใจเธอ แม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่น่ากลัวและอันตราย แต่เธอก็ไม่ลังเลที่จะเดินเข้ามา

เมื่อเธอถึงหน้าประตูไม้เก่าๆ ที่ดูเหมือนจะผ่านกาลเวลามานาน เธอเคาะเบาๆ ไม่กี่ครั้ง ประตูค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นหญิงวัยชราคนหนึ่ง ผู้มีดวงตาลึกลับและน่ากลัวที่มองตรงมาที่เธอ

“คือฉัน...”

“เข้ามาสิ” เสียงแหบพร่าดังขึ้น

ญาณวดีพยักหน้าเบาๆ และเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นห้องที่มืดและเต็มไปด้วยกลิ่นธูปและสมุนไพรลอยอวล ญาณวดีเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ใจเธอเต้นรัวไปด้วยความกล้าและความกลัว

เสียงกระพือของลมเย็นยามค่ำคืนดังแทรกเข้ามาในห้อง แสงเทียนวับวาวสะท้อนเงามืดที่ดูน่ากลัว

“มาแล้วหรือ?”

เสียงแหบพร่าของหมอผีดังขึ้นจากมุมหนึ่งของห้อง เขานั่งอยู่บนเบาะเก่า ๆ ในสภาพที่ดูราวกับออกมาจากฝันร้าย ผมยาวสีดำนั้นยุ่งเหยิงและแววตาสะท้อนแสงเทียนจ้องมองมาที่ญาณวดี

“ฉันมาขอความช่วยเหลือค่ะ” ญาณวดีตอบเบา ๆ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความกระหายที่จะได้สิ่งที่ต้องการ

“เจ้าต้องการอะไร?” หมอผียิ้มอย่างสะพรึง

“ฉันต้องการให้หมอส่งโหงพรายไปทำเสน่ห์ใส่ผู้ชายคนที่ชื่อก้องเกียรติค่ะ” ญาณวดีกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ พร้อมกับเอารูปของก้องเกียรติวางไว้ด้านหน้า เธอต้องการให้ก้องเกียรติตกหลุมรักเธอจนหมดใจ

“เจ้าแน่ใจหรือ? การใช้โหงพรายทำเสน่ห์ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ มันอาจนำพาหายนะมาสู่ตัวเจ้าเองได้” หมอผีหรี่ตาลง และในห้องนั้นเสียงธูปไหม้เปล่งประกายเล็กน้อย

“ฉันแน่ใจค่ะ” ญาณวดีหายใจเข้าลึกและตอบด้วยความมั่นใจ

“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะช่วยเจ้า แต่จำไว้ว่า ทุกสิ่งมีราคาที่ต้องจ่าย” หมอผีแสยะยิ้ม

หมอผีพยักหน้าเบาๆ และลุกขึ้นไปหยิบขวดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำมันสีเข้มจากชั้นวาง

“เจ้าจงรู้ไว้ว่านี่คือโหงพราย มันจะทำให้คนที่เจ้าต้องการหลงรักเจ้าจนไม่มีสติ แต่ราคาที่เจ้าต้องจ่ายนั้นสูงมาก”

ภายในขวดแก้วนั้นเหมือนมีพลังงานมืดบางอย่างอาศัยอยู่ ญาณวดีรู้สึกถึงความเย็นที่ไหลผ่านร่างกายเมื่อหมอผีเริ่มร่ายคาถา

“จงไปทำให้ผู้ชายคนนี้หลงรักผู้หญิงคนนี้ เจ้าจงทำให้เขาหลงใหลจนไม่อาจห้ามใจได้”

หมอผีส่งเสียงแหบพร่าขณะที่พ่นคาถาใส่ขวดแก้วนั้น พลังงานดำมืดที่อยู่ภายในขวดแก้ว ม้วนเป็นสีดำวงกลมใหญ่ราวกับเข้าใจในคำสั่ง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มืดมิดและน่ากลัว ปกคลุมด้วยเงามืดและแสงสว่างเพียงเล็กน้อยที่สะท้อนจากเปลวเทียน

หมอผีส่งขวดแก้วนั้นให้กับญาณวดี

“ขอบคุณมากค่ะ พ่อหมอ แล้วค่าใช้จ่าย..” ญาณวดีรับขวดนั้นมาและเก็บไว้ในกระเป๋า

“ไม่ต้องรีบ รอให้มันได้ผลก่อน ค่อยมาจ่ายก็ได้” หมอผีแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว

หลังจากได้รับขวดโหงพราย ญาณวดีกลับออกมาจากบ้านของหมอผี ความมืดมิดของค่ำคืนนี้ไม่สามารถทำให้ใจของเธอหวาดหวั่นได้ ความมุ่งมั่นในใจทำให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้า ด้วยความหวังที่จะได้ครอบครองหัวใจของก้องเกียรติ แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยความลับที่แสนอันตราย


นักสืบจำเป็น

ห้องทำงานภายในหอสมุดลึกลับที่กฤตินเป็นผู้ดูแลนั้น ดูราวกับหลุดออกมาจากยุคสมัยที่ต่างออกไป ผนังห้องหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาลเข้มที่ดูเก่าคร่ำคร่า บรรจุหนังสือโบราณที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงไว้เป็นจำนวนมาก ชั้นวางหนังสือสูงเสียดฟ้าเรียงรายอยู่รอบห้อง สร้างบรรยากาศที่ทั้งน่าค้นหาและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกัน

แสงไฟ ในห้องสลัวมาจากโคมไฟระย้าคริสตัลที่ห้อยลงมาจากเพดานสูง โคมไฟกระพริบวูบวาบราวกับจะเตือนถึงความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในห้องนี้ เงาของหนังสือและชั้นวางหนังสือทอดเงาลงบนพื้นไม้ขัดมัน ทำให้เกิดลวดลายที่แปลกตาและน่าหลงใหล

โต๊ะทำงานไม้โอ๊คขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง บนโต๊ะเต็มไปด้วยเครื่องมือแปลกประหลาดที่ไม่สามารถระบุได้ว่าใช้ทำอะไรบ้าง มีกล้องส่องทางไกลโบราณ หมึกหมึกต่างๆ และแผ่นป้ายที่เขียนด้วยอักษรโบราณวางเรียงรายอยู่

เก้าอี้นวมตัวใหญ่หุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้มตั้งอยู่ข้างโต๊ะทำงาน เชิญชวนให้ผู้ใดผู้หนึ่งมานั่งพักผ่อนและอ่านหนังสือ แต่ดูเหมือนว่าเก้าอี้นั่งตัวนี้จะเคยผ่านการใช้งานมานานมากแล้ว และดูเหมือนจะมีเรื่องราวมากมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

มุมหนึ่งของห้อง มีเตาผิงขนาดใหญ่ที่ดับสนิทแล้ว เถ้าถ่านที่เหลืออยู่ภายในเตาบ่งบอกว่าเคยมีคนจุดไฟในที่แห่งนี้มาก่อน เหนือเตาผิงมีนาฬิกาตั้งโต๊ะโบราณที่หยุดเดินมานานแล้ว เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เวลา 12:00 น. เหมือนกับเวลาได้หยุดนิ่งลง ณ ที่แห่งนี้

บนชั้นวางหนังสือสูงสุด มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ดูแตกต่างจากเล่มอื่นๆ มันมีขนาดใหญ่กว่าและมีปกหนังที่ทำจากวัสดุแปลกประหลาด หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ และอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาของห้องสมุดแห่งนี้ก็เป็นได้

รรยากาศโดยรวมของห้องทำงานนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและน่าค้นหา แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความน่ากลัวและอันตราย ผู้ที่เข้ามาในห้องนี้จะรู้สึกเหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังเฝ้าดูพวกเขาอยู่เบื้องหลัง

บัดนี้ ห้องทำงานที่เคยเงียบสงบกลับคึกคักขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เสียงกระดาษที่พลิกไปมา เสียงเคาะแป้นพิมพ์ของโน้ตบุ๊คดังเบาๆ และเสียงพูดคุยเบาๆ ของณัฐรินีย์กับธีรเทพดังก้องไปทั่วห้อง

เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดการเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัทธีรเทพ ช่วงนี้ณัฐรินีย์และธีรเทพจึงมาพบกันเพื่อทำงานร่วมกันเกือบทุกวัน ณัฐรินีย์ตั้งสมาธิกับการออกแบบที่เหลือเพียงเล็กน้อย ก็จะเสร็จสมบูรณ์

เพียงครู่หนึ่ง ณัฐรินีย์ก็ยืดเหยียดแขนทั้งสองข้างออกไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการแก้ไขแบบ เธอหันไปหยิบถ้วยชาที่อยู่ด้านข้างยกขึ้นมาจิบ แล้วก็ต้องประหลาดใจที่ความร้อนของน้ำชายังคงอยู่ ราวกับมีใครคอยทำให้มันอุ่นร้อนตลอดเวลา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status