Share

ตอนที่ 34 เล่ห์รักของญาณวดี (2)

ณัฐรินีย์หลับตาเพื่อพักสายตาครู่หนึ่ง ก่อนจะเหลือบไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเธอเท่าไหร่นัก ธีรเทพกำลังจ้องมองโน้ตบุ๊คเบื้องหน้าของเขาด้วยสายตาจริงจัง แว่นกันแสงบลูไลท์ที่เขาใส่ ทำให้เขาดูเท่และสมกับเป็นนักธุรกิจยิ่งขึ้น

“นี่คุณ” ณัฐรินีย์เอ่ยทำลายความเงียบ

“หืม?” ธีรเทพตอบกลับโดยไม่ได้ละสายตาจากโน้ตบุ๊ค

“คุณ...ไม่ต้องพากานต์รวีไปเที่ยวบ้างเหรอ?”

“....” มือของธีรเทพชะงักไป ก่อนจะหันมามองหญิงสาวที่จ้องมองเขาด้วยความสงสัย

“ไม่อะ” ชายหนุ่มตอบง่ายๆ

“เอ้า ทำไมอะ?”

“รวีไปกับชัญญาน่ะ” ธีรเทพตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“ห๊ะ?” ณัฐรินีย์ยิ่งแปลกใจมากขึ้น

“ตั้งแต่รวีเจอกับชัญญา รวีก็แทบไม่ได้อยู่บ้าน ส่วนมากจะไปกับชัญญาตลอด” ธีรเทพตอบด้วยท่าทางไม่เดือดร้อน

“นี่คุณ ที่คุณพูดมา มันแปลกไม่ใช่เหรอ? เป็นสามีภรรยากัน มีอย่างที่ไหนไปกับเพื่อน?” ณัฐรินีย์ขมวดคิ้ว

“อืม...ไม่รู้สิ ผมก็พยายามหาคำตอบอยู่”

“แล้วคุณไม่เดือดร้อนเหรอ? โดนเพื่อนภรรยาแย่งเวลาไปหมดแบบนี้น่ะ” ณัฐรินีย์ชะโงกหน้าเข้าไปจ้องมองราวกับจะอ่านความรู้สึกของธีรเทพ

“ไม่นะ เพราะผมได้ทำงานเต็มที่ ที่สำคัญ....” ธีรเทพหันไปมองตาณัฐรินีย์

“ผมได้เจอคุณด้วยไง” ธีรเทพยิ้มกริ่ม ดวงตาเป็นประกาย

“เอ้อ....ทำงานๆ” ณัฐรินีย์หน้าแดง ก่อนจะเบือนหน้าหนี

“หึหึ” ธีรเทพหัวเราะเบาๆ

“อีตาบ้านี่...” ณัฐรินีย์บ่นพึมพำ และเอามือแตะหน้าของตัวเองเพราะรู้สึกร้อนวูบ

“นี่คุณ ดูนี่สิ” จู่ๆ ธีรเทพก็โพล่งขึ้น พร้อมกับหันจอโน้ตบุ๊คของเขาให้เธอดู

“โห อะไรของคุณ ดูไม่รู้เรื่องเลย” หน้าจอโน้ตบุ๊คของธีรเทพเต็มไปด้วยตัวเลข ณัฐรินีย์มองแล้วได้แต่งุนงง

“อะไรเนี้ย คุณไม่ดูไม่รู้เรื่องเหรอ?” ธีรเทพขมวดคิ้ว ณัฐรินีย์หรี่ตามองเขาไม่สบอารมณ์

“มันคือสเตทเมนท์บัตรเครดิต”

“แล้ว?”

“มันแปลกตรงที่ ช่วงวันหยุดใช้บัตรเครดิตอยู่ที่จังหวัดเดิมทุกครั้งน่ะสิ” ธีรเทพใช้ความคิด

“หืม...ถ้าจำไม่ผิด จังหวัดนี้มีหมอทำเสน่ห์ขึ้นชื่อนี่นา รู้สึกจะชื่อว่า หมอมั่นกับอาจารย์คงมั้งนะ” ณัฐรินีย์หยิบแท็บเล็ตของตัวเองออกมาแล้วเปิดค้นหาข้อมูลทันที ธีรเทพฟังข้อมูลแล้วรู้สึกอึ้ง

“แล้วก็นะ...”

“เฮ้อ...ผมไม่คิดเลยนะว่า ต้องมาหาข้อมูลเรื่องพวกนี้” ธีรเทพถอนใจยาว

“?” ณัฐรินีย์มองเขาอย่างงุนงง

“จะว่าไงดีล่ะ ผมว่ามันบ้ามากเลยนะ เรื่องที่เรากำลังทำเนี่ย”

“คุณคิดดูสิ วิญญาณเอย หมอทำเสน่ห์เอย คุณไสยมนตร์ดำเอย นี่มันยุคไหนแล้ว เรื่องพวกนี้มันมีจริงที่ไหน” ธีรเทพกุมขมับ ณัฐรินีย์ได้กระพริบตาปริบๆ มองเขา

“นี่ถ้าผมไม่เห็นเหตุการณ์วันนั้นก็คงจะดีหรอก” ธีรเทพถอนหายใจยาว

ธีรเทพยังคงจำได้ไม่ลืม ภาพเหตุการณ์วันนั้น ความมืดมิดที่ปกคลุมและเริ่มกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้าง ดวงตาสีแดงที่อยู่ในความมืดวาวโรจน์เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและชิงชัง เขาคิดว่าคงไม่มีชีวิตรอดออกจากตรงนั้นได้

แต่ทันใดนั้น แสงสว่างสีขาว ก็ปรากฎออกจากร่างชายหนุ่มที่เขารู้จักเป็นอย่างดี กฤติน แสงสีขาวจากร่างของเขาเปล่งประกายคล้ายผีเสื้อขนาดเล็ก และส่องสว่างเจิดจ้า จนทำให้ความมืดมิดนั้น หายไปราวกับเรื่องโกหก

เขาได้แต่คิดว่า วันนั้นเขาคงฝันไป

“เอาน่า เดี๋ยวก็ชิน” ณัฐรินีย์ตบบ่าของเขาเป็นเชิงปลอบใจ ก่อนจะยิ้มให้กำลังใจ

“คุณก็พูดได้สิ” ธีรเทพถอดแว่นกันบลูไลท์วางไว้บนโต๊ะ ประสานสายตากับหญิงสาวที่นั่งด้านข้าง

“วันนั้นน่าจะตัวเป้ง ปกติเจอกับไอแค่ตัวเล็กๆ แปปเดียวไอก็จัดการได้ละ” ณัฐรีนีย์เล่าไปเรื่อย พลางเอามือจิ้มขนมใส่ปาก เป็นขนมเค้กที่พ่อบ้านวิลเลียมมาเสิร์ฟไว้ตอนไหนก็ไม่ทันรู้ตัว

“ที่น่าแปลกคือ คุณกฤตต่างหาก” ณัฐรินีย์เคี้ยวขนมตุ้ยๆ พูดออกมาแบบไม่ทุกข์ร้อน

“เฮ้อ ช่างเถอะ เรื่องนี้มันเกินความรู้สึกสามัญธรรมดาไปละ” ธีรเทพยอมแพ้

“อะ แล้วเราจะทำยังไงกับเรื่องสเตทเมนท์บัตรเครดิตนี้ล่ะ”

“ผมว่า เราบอกคุณกฤตกับอาคิราตอนมื้อค่ำวันนี้ละกัน แล้วค่อยวางแผนว่าจะทำยังไงกันต่อไป” ธีรเทพตัดสินใจ ซึ่งณัฐรินีย์เห็นด้วยกับความคิดของเขา


แผนสืบหาความจริง

ภายในห้องอาหารของหอสมุดลึกลับของกฤติน ที่ตั้งอยู่ในมุมที่เงียบสงบและแฝงด้วยมนต์ขลัง โคมไฟระย้าที่ประดับประดาด้วยคริสตัลส่องแสงอ่อนโยนลงมายังโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเตรียมอย่างประณีต บนโต๊ะมีผ้าปูโต๊ะสีขาวบริสุทธิ์ และถ้วยชามที่ประดับด้วยลายทอง

อาหารบนโต๊ะมีความหลากหลาย ทั้งซุปข้าวโพดเนียนละเอียดเสิร์ฟในถ้วยเล็ก ๆ ขนมปังฝรั่งเศสที่อบกรอบ หอมกรุ่นจากเตา สลัดผักสดที่จัดเรียงอย่างสวยงาม และจานหลักที่เป็นสเต็กเนื้อชั้นดีที่ปรุงสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งอบและผักย่าง น้ำจิ้มและซอสต่าง ๆ ถูกจัดวางอยู่ในถ้วยเล็ก ๆ ที่เรียงรายอยู่ข้างกัน

ณัฐรินีย์นั่งเคียงข้างธีรเทพ ส่วนอาคิรานั่งเคียงข้างกฤติน ทั้งหมดกำลังร่วมรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน มีพ่อบ้านวิลเลี่ยมและคนรับใช้หญิงสาวอีกประมาณสามคน คอยผลัดกันเสิร์ฟอาหารให้กับพวกเขา

“เอาล่ะ ข้อมูลที่ได้มาจากพวกคุณน่าสนใจมาก เท่าที่ผมทราบดูเหมือนแถวนั้นจะมีหมอผีฝีมือดีอยู่จริงๆ”

กฤตินเริ่มต้นพูดหลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พ่อบ้านวิลเลี่ยมกำลังเตรียมเสิร์ฟน้ำชากลิ่นหอมหวานให้หลังอาหารมื้อค่ำ

“แล้วเราจะทำเอาไงดี?”

“ฉันกับณัฐไปดูให้มั้ย?” อาคิรายกมือเสนอตัว

“ไม่ได้ เธอต้องไปทำธุระกับฉันก่อน” กฤตินปฏิเสธทันที อาคิราหน้าจ๋อย

“งั้นผมไปกับณัฐก็ได้” ธีรเทพเสนอตัว

“ห๊ะ? จะไหวเหรอคุณ?” ณัฐรินีย์เหล่มองเขาอย่างไม่ไว้ใจ

“ไหวสิ”

“แค่เห็นไอ้ตัวนั้น คุณก็เข่าอ่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?” ณัฐรินีย์หัวเราะคิกคัก

“เปล่าซะหน่อย” ธีรเทพโวยวาย

“.....” กฤตินมองทั้งคู่ที่ถกเถียงกันอย่างใช้ความคิด

“พวกคุณไปก็ได้ แต่ว่า....”

“โซระ”

“ว่า?”

ทันทีที่กฤตินเอ่ยชื่อ เด็กหนุ่มหล่อ ผมสั้นสีดำ ดวงตาสีดำ แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าสีดำก็เดินออกมาจากด้านหลังของเขา

“นายไปกับพวกเขาที” กฤตินบอกก่อนจะยกแก้วชาขึ้นจิบ

“โอ้ ได้สิ” โซระคลี่ยิ้มอย่างพอใจ

“เอ่อ..เขาคือ...?”

ณัฐรินีย์มองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เด็กหนุ่มคนนี้ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 20 ปี แต่สีหน้าและดวงตาดูหยิ่งผยองมาก ที่สำคัญรู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่แผ่กระจายออกจากตัวของเขา

“ผู้ช่วยบรรณารักษ์น่ะ” กฤตินตอบยิ้มๆ

“เห...ลักษณะไม่น่าเป็นผู้ช่วยเลยนะ” ณัฐรินีย์แคลงใจ

“โซระ เป็นคนใน ‘ตระกูล’ รับรองช่วยเหลือพวกคุณได้แน่นอน”

“ฝากตัวด้วยล่ะ” โซระแสยะยิ้มให้ ยิ่งทำให้ดวงตาของเขาดูเจ้าเล่ห์และชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น

“ฝากตัวด้วยเช่นกัน” ธีรเทพตอบรับอย่างง่ายดาย

“จะดีเหรอ? เดี๋ยวพวกเขากลัวจะทำยังไงล่ะ” อาคิรากระซิบข้างหูกฤติน

“ทำไมต้องกลัวล่ะ?” กฤตินกระซิบกลับ

“ก็...ผมสีดำ ตาสีแดง แถมมีปีกสีดำอยู่ข้างหลังแบบนั้น”

อาคิรากระซิบพร้อมกับหรี่ตามองชายหนุ่มตรงหน้าคาดคั้น

“หึหึ คุณเห็นจริงด้วย” กฤตินยิ้มเป็นปริศนา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status