แชร์

ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย
ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย
ผู้แต่ง: แมวน้อยหมวกเขียว

บทที่ 1.1 ความตายหายาก ทำยังไงก็ไม่ตายสักที 

บทที่ 1.1 ความตายหายาก ทำยังไงก็ไม่ตายสักที 

ฟางเซียน มีความหมายว่า นางฟ้าผู้มีกลิ่นหอม มันคือชื่อเล่นภาษาจีนที่แม่ของนางตั้งให้เพราะแม่ของนางเป็นชาวจีน แต่เนื่องจากว่าพ่อของนางเป็นชาวไทยดังนั้นฟางเซียนจึงอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เกิดกับพ่อแม่และน้องสาว พวกเราดูเหมือนครอบครัวอบอุ่นทั่วไปจนกระทั่งแม่ของนางจับได้ว่าพ่อแอบมีผู้หญิงคนอื่น 

แม่ของนางพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิมเพราะเห็นแก่นางที่เพิ่งมีอายุเจ็บขวบและน้องสาวของนางที่มีอายุเพียงสามขวบ แต่แล้วพ่อของนางก็ทิ้งครอบครัวไปพร้อมกับเงินจำนวนมาก 

แม่ของนางจึงตัดสินใจพาพวกนางสองพี่น้องกลับไปยังบ้านเกิดที่ประเทศจีน แต่เพราะแม่ของนางถูกตัดขาดออกจากตระกูลแล้วพวกเราสามแม่ลูกจึงต้องไปอาศัยอยู่ในห้องเช่าขนาดเล็ก แม่ของนางต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงนางและน้องสาวจนกระทั่งแม่ของนางพบรักครั้งใหม่กับผู้ชายคนหนึ่ง 

มันดูเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดีเพราะผู้ชายคนนั้นที่แม่หลงรักไม่ต้องการลูกติด ดังนั้นแม่ของนางซึ่งเหนื่อยกับการเลี้ยงดูนางและน้องจึงตัดสินใจทิ้งพวกนางที่เป็นเหมือนภาระและไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกับสามีใหม่อย่างไม่ลังเล 

ฟางเซียนในวัยเพียงสิบสองขอบและน้องสาววัยแปดขวบจึงต้องไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่นั่นไม่น่าอยู่เท่าไหร่นัก เตียงนอนไม่อบอุ่น อาหารน้อย และไม่อร่อย และยังมีเด็กเกเรหลายคนที่ชอบรังแกเด็กที่อ่อนแอกว่า ฟางเซียนพยายามปกป้องน้องสาวเพียงคนเดียวของนางอย่างสุดความสามารถและฟางเซียนก็ได้ให้คำสัญญากับตัวเองว่านางจะไม่มีวันทิ้งน้องสาวเด็ดขาด  

ฟางเซียนพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้มีชีวิตอย่างมีความสุขกับน้องสาว แต่แล้วฟางเซียนก็ต้องได้รับข่าวร้ายที่สุดในชีวิต น้องสาวที่รักของนางป่วยเป็นโรคร้าย การรักษาจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ฟางเซียนจึงต้องพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมารักษาน้องสาวให้หายป่วยจากโรคร้าย ไม่ว่าจะเป็นงานแบบไหนนางก็ยอมทำ แม้ว่ามันจะเป็นงานผิดกฎหมายหรืองานขายร่างกายก็ตาม 

ระหว่างนั้นนางก็ได้พบรักกับชายคนหนึ่ง ซึ่งมันเป็นความรักที่ย่ำแย่มากเพราะผู้ชายคนนั้นเป็นพวกหลอกลวง มันเป็นบทเรียนราคาแพงมากทีเดียว ราคาแพงพอๆ กับเงินที่นางเก็บสะสมมาเพื่อรักษาโรคร้ายของน้องสาวของนางเลยล่ะ... 

ฟางเซียนขอบอกเลยว่า เธอ เกลียด ผู้ชาย!  

เมื่อเงินที่นางเก็บสะสมมาหายไปเกือบหมด น้องสาวของนางจึงได้รับการรักษาช้าลงและต้องนอนซมอยู่บนเตียง ฟางเซียนหวังอยากให้น้องสาวมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่น้อย นางจึงพยายามทำงานหนักมากกว่าเดิมจนกระทั่งเมื่อนางอายุสิบเก้าปี นางได้ถูกทาบทามให้ไปเป็นนักร้อง 

ฟางเซียนไม่มีทางยอมพลาดโอกาสนี้ นางจึงพยายามฝึกฝนการเต้นและร้องเพลงอย่างหนักจนกระทั่งได้เดบิวต์เป็นนักร้องเสียงดีและมีชื่อเสียงโด่งดัง และในที่สุดฟางเซียนก็มีเงินพอที่จะจ่ายค่ารักษาให้กับน้องสาวแล้ว 

เมื่ออาการป่วยของน้องสาวของนางดีขึ้นมาแล้ว น้องสาวของนางจึงสามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติเหมือนคนอื่น ได้เรียน ได้มีเพื่อน และมีแฟนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ฟางเซียนไม่ห้ามอะไรเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง ในเมื่อพวกนางไม่มีดวงเรื่องผู้ชายถ้างั้นก็คบผู้หญิงซะก็สิ้นเรื่อง!  

แต่แล้วปัญหาชีวิตก็เข้ามาอีก ฟางเซียนถูกขุดคุ้ยประวัติ งานที่นางเคยทำในอดีตเพื่อหาเงินถูกค้นพบทั้งหมด สังคมได้แสดงความรังเกียจนางทุกช่องทางของสื่อ อีกทั้งยังหาว่านางขายตัวเพื่อให้ได้ตำแหน่งนักร้องชื่อดังมา การถูกเกลียดจากสังคมมันแย่มาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะถูกด่าทอและขับไล่ราวกับว่ามันไม่มีที่สำหรับนาง 

เรื่องเลวร้ายไม่ได้เกิดกับแค่ฟางเซียน น้องสาวของนางก็ถูกเหมารวมว่าเป็นคนไร้ยางอายไปด้วย น้องสาวของนางถูกกดดันจนกระทั่งอาการป่วยเริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้น้องสาวของนางอาการทรุดกว่าเดิมก็คือ แฟนสาวของน้องสาวของนางไปท้องกับคนอื่นและกำลังจะแต่งงานกับผู้ชาย 

“อยู่กับน้องนะพี่ฟางเซียน...น้องกลัว น้องมีแค่พี่แค่คนเดียว อย่าทิ้งน้องไปเลย...” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่น้องสาวของนางพูดก่อนที่จะเสียชีวิตเนื่องจากโรคที่รักษาไม่หาย ในตอนนั้นโลกของฟางเซียนก็คล้ายจะพังทลายลงไปด้วย 

ถ้าหากนางพยายามทำงานมากกว่านี้ ถ้าหากนางใส่ใจดูแลมากกว่านี้ ถ้าหากนางมีเงินมากกว่านี้ และถ้าหากว่านางปกป้องน้องสาวได้ดีกว่านี้ น้องสาวของนางก็คงจะมีชีวิตที่ดีและมีอายุยืนยาวมากกว่านี้ ฟางเซียนโทษตัวเองด้วยความเสียใจและเริ่มคิดว่า ในเมื่อคนสำคัญเพียงคนเดียวของนางจากโลกนี้ไปแล้วและทุกคนก็ผลักไสนางเหมือนไม่อยากให้นางมีชีวิตอยู่ แล้วนางจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไรอีก? 

“ฉันอยากตาย” ฟางเซียนหมดกำลังใจในการมีชีวิตอยู่แล้ว นางจึงได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะฆ่าตัวตาย 

การฆ่าตัวตายวิธีที่หนึ่ง แขวนคอ ฟางเซียนไปซื้อเชือกมาและแขวนคอตัวเองกับต้นไม้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขาดอากาศหายใจตายเชือกดันคลายตัวซะก่อน รอบที่สองกิ่งไม้ก็ดันหักก่อน รอบที่สามเชือกก็ดันขาด รอบต่อไปพลเมืองดีก็ดันผ่านมาเห็นและเข้ามาห้ามไม่ให้นางฆ่าตัวตาย ฟางเซียนจึงเปลี่ยนวิธีฆ่าตัวตาย 

การฆ่าตัวตายวิธีที่สอง กรีดข้อมือ วิธีที่เป็นที่นิยมอีกอย่างหนึ่งในละคร นางเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปิดน้ำร้อนเต็มอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็กินยานอนหลับและใช้มีดกรีดข้อมือของตัวเอง แต่ฟางเซียนกลับรอดตายมาได้เพราะโจร ใช่แล้ว โจร! มีโจรคนหนึ่งแอบเข้ามาในบ้านของนางเพื่อขโมยเงินและบังเอิญมาเห็นตอนที่นางกำลังตัวฆ่าตายพอดี โจรใจดีจึงช่วยพานางไปส่งโรงพยาบาล  

ช่างเป็นโจรที่จิตใจงามยิ่งนัก... 

“ถึงฉันจะไม่มีเงินและต้องนอนข้างถนน แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะตายเลย พยายามมีชีวิตเข้าล่ะ!” โจรใจงามบอกกับฟางเซียนไว้ แต่ฟางเซียนอยากจะตะโกนตอบกลับไปว่า ฉันอยากตายโว้ย!  

การฆ่าตัวตายวิธีที่สาม โดดตึก เป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมสำหรับการฆ่าตัวตาย ฟางเซียนขึ้นไปยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสิบชั้นและกระโดดลงไปข้างล่างอย่างไม่ลังเล แต่นางก็ไม่ตาย...ใช่แล้ว นางกระโดดตึกสิบชั้นแต่ดันไม่ตาย! นั้นเพราะว่านางอัดบังเอิญตกลงไปบนเตียงนอนนุ่มๆ ที่พนักงานขนของกำลังขนมันเข้าไปในตึกพอดี ฟางเซียนจึงได้รับบาดเจ็บแค่แขนหักเท่านั้น 

“บัดซบ!” ฟางเซียนสบถออกมาอย่างหัวเสีย แม้ความโชคดีจะช่วยชีวิตไว้ฟางเซียนก็ไม่มีความรู้สึกยินดีกับมันเลยสักนิด ฟางเซียนยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะฆ่าตัวตายเหมือนเดิม 

การฆ่าตัวตายวิธีที่สี่ ไปที่สะพานแขวนและกระโดดลงไปในแม่น้ำที่เย็นเฉียบ แต่เชื่อไหมว่าฟางเซียนสามารถรอดตายมาได้อีกเหมือนเดิมเพราะสุนัขตำรวจตัวหนึ่ง มันถูกฝึกมาให้ช่วยเหลือคนที่จมน้ำมันจึงได้เข้ามาช่วยเหลือนางไว้ การถูกสุนัขช่วยชีวิตทำให้ฟางเซียนร้องไห้ ไม่ใช่เพราะซาบซึ้งใจหรอกนะ มันเป็นอารมณ์อัดอั้นที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ต่างหาก  

และตอนที่นางถูกสุนัขตำรวจช่วยชีวิตไว้นักข่าวคนหนึ่งก็ได้บังเอิญผ่านมาเห็นเข้าพอดี นักข่าวคนนั้นจึงได้ทำข่าวของฟางเซียนจนดังระเบิด นักข่าวหลายคนจึงบุกมาที่บ้านของฟางเซียนเพื่อขอทำข่าว 

กูอยากตายโว้ย! อย่ามายุ่งได้ไหม!!  

การฆ่าตัวตายวิธีที่ห้า กินยาพิษ ในเมื่อการฆ่าตัวตายข้างนอกมันเป็นปัญหามากก็ต้องพยายามฆ่าตัวตายในบ้าน แต่ฟางเซียนก็ดันถูกช่วยไว้ได้โดยนักข่าวที่แอบเข้ามาส่องในบ้านของนาง ฟางเซียนรอดอีกแล้ว... 

การฆ่าตัวตายวิธีที่หก ไปที่ทะเล และถ่วงน้ำตัวเองซะ แต่นางก็ไม่ตายเช่นเดิม เพราะคลื่นทะเลได้ซัดร่างของนางเข้าฝั่งซะก่อน... 

วิธีการฆ่าตัวตายที่เจ็ด แปด เก้า สิบก็ได้ตามมาไม่หยุด ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายฟางเซียนถึงไม่ตายสักที 

“ดื่มยาพิษ กรีดข้อมือ โดดน้ำ โดดตึก ฉันทำถึงขนาดนี้แล้วทำไมฉันถึงยังไม่ตายอีก!! สวรรค์ ไม่สิ นรกไม่อยากรับคนเพิ่มแล้วรึไง!!” ฟางเซียนกรีดร้องอย่างหนักราวกับคนเสียสติ 

นางสิ้นหวังในการฆ่าตัวตายสำเร็จแล้ว... 

ฟางเซียนหยิบมีดขึ้นมาและมองมันด้วยอาการเหม่อลอย ในขณะที่นางกำลังตัดสินใจที่จะใช้มีดแทงหัวใจของตัวเองอยู่นั้นหน้าต่างระบบปริศนาก็ปรากฏขึ้นมากลางอากาศ บนหน้าต่างระบบได้แสดงตัวเลขเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ จากนั้นมันก็แสดงข้อความว่า [เชื่อมต่อสมบูรณ์]  

[สวัสดีครับคุณฟางเซียน ผมคือระบบห้ามฆ่าตัวตาย] เสียงปริศนาดังขึ้นมาพร้อมกับปรากฏอีโมจิรูปยิ้ม ฟางเซียนมองด้วยสายตาว่างเปล่า [จากนี้ไปคุณจะถูกผูกมัดกับระบบห้ามฆ่าตัวตายและคุณจะต้องทำตามกฎที่เรามีอยู่ กฎข้อที่หนึ่งคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎข้อที่สองคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎข้อที่สามคือ ห้ามฆ่าตัวตาย]  

“...” ฟางเซียนนิ่งสนิทไร้ซึ่งการแสดงออกทางอารมณ์ นางหันปลายมีดเข้าหาตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ทันใดนั้นเองนางก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามใจชอบ มันราวกับว่ามีบางอย่างเข้ามาควบคุมร่างกายของนาง 

[คุณจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้จนกว่าคุณจะมีอายุครบหนึ่งหมื่นปี โปรดเข้าใจด้วย] สิ่งที่เรียกตัวเองว่าระบบห้ามฆ่าตัวตายบอกฟางเซียน 

“เข้าใจมารดาแกสิ!! หมื่นปีเรอะ! ใครจะอยากอยู่นานขนาดนั้นกัน! ฟังฉันนะ ฉัน อยาก ตาย! ชัดเจนพอไหม!” ไม่ว่าสิ่งปริศนานั่นจะเป็นอะไรฟางเซียนก็ไม่เกรงใจ นางตะโกนใส่มันด้วยความโมโห 

[มนุษย์อยากมีชีวิตยืนยาว] ระบบตอบ 

“เออ! แต่พอดีว่าฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวจากดาวเนปจูน ฉันจะฆ่าตัวตาย!!” ฟางเซียนกำมีดในมือแน่นและพยายามที่จะกดปลายมีดลงไปแทงหัวใจของตัวเอง แต่มือของนางมันแข็งค้างไม่ยอมขยับตามที่นางต้องการ 

[ผู้ที่ถูกผูกมัดกับระบบห้ามฆ่าตัวตายมีกฎว่าห้ามฆ่าตัวตายเด็ดขาด หากคุณต้องการฆ่าตัวตายคุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน ภารกิจแรก เป็นอาจารย์ให้กับตัวร้ายสูงสุด ภารกิจที่สอง เป็นอาจารย์ให้กับรองตัวร้าย ซึ่งภารกิจนี้จะตามมาในอีกร้อยปีต่อมา และอีกหนึ่งร้อยปีต่อไปภารกิจที่สามก็จะตามมา และอีกร้อยๆ ปีต่อไปอีกภารกิจที่สี่ก็จะตามมา]  

“...ไปตายซะไอ้ระบบเวร!!” ฟางเซียนเปลี่ยนทิศทางของมีดจากตัวเองไปที่หน้าต่างระบบใสตรงหน้าทันที นางพยายามใช้มีดแทงมันแต่มีดของนางกลับทะลุผ่านมันไป “ทำไมต้องเป็นฉันด้วย! ฉันอยากจะตาย!” ฟางเซียนตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย นางเริ่มมีอาการหอบหายใจอย่างหนักหลังจากออกแรงไปเยอะกับการพยายามทำลายหน้าจอประหลาดตรงหน้า 

[เนื่องจากคุณตรงกับเงื่อนไขของเรามากที่สุด] ระบบตอบ 

“เงื่อนไขอะไร?”   

[เงื่อนไขของเราคือ คนที่ต้องการความตายอย่างแท้จริง ไม่มีความลังเลหรือความเสียใจก่อนจะจบชีวิตตัวเอง แต่กลับไม่ตายสักทีทั้งที่พยายามฆ่าตัวตายมากกว่าสิบรอบขึ้นไป ระบบจึงเลือกคุณ]  

“คนอยากตายทำไมแกต้องมาขัดขวางด้วย!!” ฟางเซียนรู้สึกคับแค้นใจอย่างมาก นางจึงใช้มีดแทงพื้นเพื่อระบายอารมณ์ ในเมื่อแทงตัวเองก็ไม่ได้ แทงไอ้ระบบประหลาดนี่ก็ไม่ได้อีก แทงพื้นแทนแล้วกัน!  

พื้นที่น่าสงสาร: ทำไมเป็นฉัน?  

[เนื่องจากมีคนตายทั้งที่ยังไม่ถึงฆาตมากเกินไปสถานที่รอเกิดจึงเต็มแล้ว ผู้สร้างจึงได้สร้างระบบห้ามฆ่าตัวตายขึ้นมาเพื่อห้ามไม่ให้มีคนฆ่าตัวตายไปมากกว่านี้ และเพื่อนำคนที่พยายามฆ่าตัวตายไปใช้ประโยชน์ด้วย เอาล่ะ! ได้เวลาเดินทางของคุณแล้ว]  

“เดินทาง? เดินทางไปไหน? ฉันไม่ไป ยังไงฉันก็ยังอยากจะฆ่าตัวตาย!” ยังไม่ทันที่จะได้พูดไปมากกว่านี้ฟางเซียนก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายกำลังโดนบางอย่างดึงดูด 

[วางใจได้เลยครับ การเดินทางข้ามมิติของเราปลอดภัยหายห่วงไม่ตายแน่นอน ไว้เจอกันอีกครั้งที่โลกใหม่นะครับ คุณฟางเซียน]  

ไอ้ระบบเวร!!!  

หลังจากนั้นฟางเซียนก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกหมุนอยู่ในเครื่องซักผ้ายาวนานหลายชั่วโมง... 

อยากตายแล้วสิ 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status