Home / รักโบราณ / ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย / บทที่ 1.2 ความตายหายาก ทำยังไงก็ไม่ตายสักที

Share

บทที่ 1.2 ความตายหายาก ทำยังไงก็ไม่ตายสักที

last update Last Updated: 2024-11-10 07:36:28

บทที่ 1.2 ความตายหายาก ทำยังไงก็ไม่ตายสักที

ราชันมังกรทองสยบนภา คือนิยายแนวผจญภัยในโลกของผู้บำเพ็ญเพียรเป็นเซียนและมารเรื่องหนึ่งที่ยาวมาก

อธิบาย ‘มาร’ และ ‘เซียน’ ก็คือมนุษย์หรือสรรพสัตว์ที่บำเพ็ญเพียรตบะเพื่อให้ได้รับพลังมา ทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันแค่ มารจะฝึกวิชาสายชั่วร้ายและดูดซับปราณสีดำ ฝ่ายเซียนก็จะฝึกในเส้นทางตรงกันข้าม หรือที่เรียกว่าเส้นทางคนดี๊ดี ดูดซับแค่ปราณขาวสะอาด ส่วน ‘ปีศาจ’ และ ‘เทพ’ ก็คือเผ่าพันธุ์หนึ่งที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับพลังโดยไม่ต้องฝึกฝนอะไรมากมาย

แน่นอนว่าสูตรโกงของพระเอกของนิยายเรื่อง ‘ราชันมังกรทองสยบนภา’ ก็คือการที่ได้เกิดเป็นมังกรทองเผ่าเทพ จ้าวหลงเทียน คือชื่อของเขา ตำแหน่งของเขาในพิภพเทพค่อนข้างสูงส่งเพราะมังกรทองมีไม่มากนัก แต่อยู่มาวันหนึ่งจ้าวหลงเทียนเหมือนจะเบื่อการเป็นเทพหรืออะไรก็ไม่รู้เขาได้ลงไปเกิดเป็นมนุษย์บนพิภพมนุษย์

เรื่องราวนิยายเริ่มต้นตรงนั้น

เนื่องมาจากว่านิยายเรื่อง ‘ราชันมังกรทองสยบนภา’ เป็นนิยายแนวฝึกฝนพลังและออกไปวิ่งไล่ตบตัวร้ายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้อ่านจึงจะได้พบแค่เพียงการต่อสู้ของพระเอกและตัวร้ายจนดูน่าเบื่อหน่าย แต่จุดขายอย่างอื่นก็มีอยู่บ้าง อย่างเช่นความดีงามของตัวละครฝ่ายชายของทั้งตัวร้ายและพระเอก และความรักหวานแหววของพระเอกและตัวละครฝ่ายหญิง มันสร้างความรู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจได้ดีทีเดียว

เทพมังกรทองในร่างมนุษย์ไร้ซึ่งความทรงจำยามเป็นเทพได้ออกผจญภัยไปทั่วสามพิภพเพื่อฝึกฝนพลังของตัวเอง เขาต้องผ่านอุปสรรคมากมายโดยการต่อสู้กับตัวร้ายที่เป็นทั้งปีศาจ มารร้าย หรือแม้แต่เซียนหรือเทพด้วยกัน ด้วยความที่เดิมทีแล้วเขาเป็นเทพมังกร เขาจึงสามารถนำพลังของเทพออกมาใช้ได้และสามารถชนะศัตรูของตัวเองไปได้อย่างง่ายดาย

แต่ถ้าพระเอกเอาชนะตัวร้ายได้ทั้งหมดมันก็น่าเบื่อไปหน่อย พระเอกจึงได้มีคู่ปรับที่ยังไม่สามารถล้มได้อยู่คนหนึ่ง นั่นก็คือตัวร้ายสูงสุด เขาเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างลึกลับและเก่งกาจมาก ทุกคนต่างเรียกเขาว่ามารนกยูง

มารนกยูงได้ถือกำเนิดมาจากแม่ที่เป็นปีศาจและพ่อที่เป็นมาร เขาจึงมีพลังปราณสีดำแห่งความชั่วร้ายตั้งแต่กำเนิด

เอาเป็นว่าในนิยายบรรยายว่ามารนกยูงผู้เป็นตัวร้ายสูงสุดมีความสามารถร้ายกาจอย่างมาก เขาได้สร้างความปั่นป่วนให้กับพิภพมนุษย์ยิ่งกว่าตัวร้ายคนอื่นๆ พระเอกผู้รักในความยุติธรรมจำเป็นต้องต่อสู้กับตัวร้ายสูงสุดเพื่อปกป้องโลก

ซึ่งถึงแม้ว่าตัวร้ายจะถูกบรรยายว่าเก่งกาจมากเท่าไร สุดท้ายในตอนจบเหล่าตัวร้ายที่เป็นมารระดับสูงทั้งหลายก็จะถูกกำจัดโดยจ้าวหลงเทียน พระเอกของนิยายเรื่อง ‘ราชันมังกรทองสยบนภา’

.

.

[ทั้งหมดคือเรื่องย่อของนิยายเรื่องราชันมังกรทองสยบนภาครับ] ระบบห้ามฆ่าตัวตายเอ่ยประโยคนี้หลังจากอ่านเรื่องย่อของนิยายเรื่อง ‘ราชันมังกรทองสยบนภา’ ให้ฟางเซียนฟังจนจบ เหตุผลที่มันต้องอ่านเรื่องย่อของนิยายเรื่องนี้ให้ฟางเซียนฟังนั่นก็เป็นเพราะว่าฟางเซียนได้ทะลุมิติเข้ามาในโลกของนิยายเรื่องนี้แล้วนั่นเอง

ฟางเซียนมึนงงอยู่ครู่หนึ่งหลังจากถูกหมุนอยู่ในเครื่องซักผ้าและมาปรากฏตัวอยู่กลางป่าซึ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าเดินออกจากป่าไปเล็กน้อยนางก็จะพบกับสิ่งก่อสร้างโบราณของจีน สิ่งเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นทำให้ฟางเซียนสับสนมาก แต่นางก็รีบดึงสติกลับมาและกลับเข้าสู่โหมดปกติอย่างรวดเร็ว

โหมดของคนอยากตาย...

“ปล่อยให้ฉันตายได้แล้ว!” ฟางเซียนพูดกระแทกเสียงอย่างโมโหร้าย สำหรับนางตอนนี้มันไม่มีอะไรน่าอารมณ์เสียเท่ากับการถูกขัดขวางไม่ให้ฆ่าตัวตายแล้ว!

[เรื่องนั้นผมไม่สามารถทำได้ เนื่องจากคุณถูกผูกมัดกับระบบแล้วคุณจำเป็นต้องทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง คุณต้องเป็นอาจารย์ของเหล่ามารให้จงได้]

“ทำไมฉันต้องทำ” ฟางเซียนหรี่ตาลงอย่างเย็นชา

[ถ้าไม่มีอาจารย์มารพวกตัวร้ายก็จะเป็นได้แค่นักเลงปลายแถวน่ะเพราะว่าความจริงแล้วเบื้องหลังความแข็งแกร่งของตัวร้ายทุกตัวมาจากอาจารย์มารทั้งหมดและเนื่องจากว่าอาจารย์มารเป็นผู้คิดค้นและเผยแพร่วิชามารที่แข็งแกร่งมากมายและเป็นถึงอาจารย์ของตัวร้ายสูงสุด อาจารย์มารจึงเป็นเหมือนตัวละครลับของเรื่องเลยเชียวล่ะ ซึ่งตำแหน่งสำคัญเช่นนี้คุณฟางเซียนจะต้องรับผิดชอบ]

“ฉันไม่ทำ” ตอบกลับพร้อมกับแสดงออกอย่างไร้อารมณ์ “ทำไมฉันต้องมารับบทเป็นอาจารย์ของเหล่ามารด้วย ให้ไอ้อาจารย์มารที่อยู่ในเรื่องมันจัดการไปเองสิ”

[เขาทำไม่ได้แล้วครับเนื่องจากว่าเขาไปเกิดใหม่แล้ว] ระบบแสดงภาพจำลองการตายและการไปเกิดใหม่ของอาจารย์มารในรูปแบบการ์ตูนน่ารัก ฟางเซียนเผยสี

หน้ารำคาญ [เนื่องจากอาจารย์ของเหล่ามารในอนาคตตายก่อนกำหนดทางเราจึงต้องหาตัวแทนมาเพื่อให้ทำหน้าที่แทนครับ]

ฟางเซียนคิ้วกระตุก ความเกลียดชังของนางมอบให้อาจารย์มารทันที ทิ้งภาระใหญ่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างนางทำไม!

“ทำไปเพื่ออะไร ปล่อยให้โลกไม่มีตัวร้ายก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง” ว่าพลางโบกมือปัดอย่างไม่สนใจ

[ไม่ได้หรอกครับ หากโลกนี้ขาดความมืด สมดุลของโลกก็จะถูกทำลายและโลกก็จะล่มสลายในที่สุด ตัวตนอาจารย์มารที่คุณได้รับให้สวมบทบาทสำคัญมาก]

“ล่มสลายหรือไม่ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน แค่ปล่อยให้ฉันตาย” ฟางเซียนพยายามที่จะไม่ระเบิดความโกรธจึงกล่าวอย่างใจเย็น

[คุณสามารถตายได้] ระบบกล่าว [แต่ต้องหลังจากทำหน้าที่เป็นอาจารย์ตัวร้ายเป็นเวลาหนึ่งหมื่นปี เมื่อครบแล้วพระเอกจะฆ่าคุณเอง] ในประโยคหลังฟางเซียนได้กระอักเลือดออกมา

“จะบ้ารึไง! หมื่นปีงั้นเหรอ? ไปให้บิดาของแกทำเองซะสิ!!” ฟางเซียนกรีดร้อง “ฉันรอให้พระเอกมาฆ่าในอีกหมื่นปีข้างหน้าไม่ได้หรอกนะ! ที่สำคัญคือฉันเป็นแค่มนุษย์อายุไม่มีทางเกินร้อยปี เพราะงั้นฆ่าฉันตอนนี้!”

[ไม่ต้องกังวล ถ้าคุณสามารถบำเพ็ญเพียรจนกระทั่งมีพลังปราณจนถึงระดับเจ็ดแล้วคุณก็จะไม่แก่ตาย! การมีพลังปราณถึงขั้นนั้นเป็นเรื่องยากแต่ระบบสามารถช่วยแนะนำวิธีที่จะทำให้คุณได้พลังมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเลย] ระบบกล่าวเสียงสดใส แต่สีหน้าของฟางเซียนมืดมนกว่าเดิม [ผมจะเติมทรูและคอยสนับสนุนคุณเอง อย่าได้กังวล]

ฟางเซียนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน จิตใจของนางเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว นางเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาทางตาย

[ภารกิจแรกของคุณก็คือเป็นอาจารย์ให้กับตัวร้ายสูงสุด คุณต้องทำการสั่งสอนเขาให้กลายเป็นมารร้ายที่เก่งกาจที่สุด และไม่ต้องเป็นห่วง ระบบได้เตรียมบทเรียนที่จะสอนไว้ให้แล้ว] เครื่องหมายมือชูนิ้วโป้งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ฟางเซียนใช้มือตบให้มันหายไปอย่างหัวเสียและมุ่งหน้าเข้าไปในป่าต่อไป ระบบจึงพูดขึ้นมาอีกว่า [มันเป็นภารกิจบังคับ หากไม่ทำตามคุณจะต้องมีชีวิตต่อไปอีกสองหมื่นปี] ตัวเลขสองหมื่นเด้งขึ้นมาเพื่อข่มขู่

“ไอ้ระบบเฮงซวย!! ออกมาให้ฉันฆ่าเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ระบบเฮงซวย!!!” ฟางเซียนสบถ

[ระบบมีชื่อว่า ระบบห้ามฆ่าตัวตาย ครับไม่ใช่ระบบเฮงซวย และอีกอย่างผมไม่มีร่างหรือชีวิตเพราะงั้นผมตายไม่ได้หรอกครับ] ระบบตอบเสียงเรียบเฉย [คุณยังต้องสอนวิชาให้กับรองตัวร้ายในอีกร้อยปีข้างหน้าและอีกร้อยปีต่อไปจนกว่าจะครบหมื่นปี กรุณากระตือรือร้นให้มากกว่านี้ด้วยครับ]

ในขณะที่ระบบกำลังพูดพล่ามฟางเซียนก็พยายามทำร้ายตัวเอง แต่แผลที่ได้มาจากการทำร้ายตัวเองของนางมันไม่สามารถทำให้นางตายได้ มันเหมือนจะเจ็บตัวอย่างเปล่าประโยชน์ นางพยายามกระโดดจากที่สูงแต่พอจะกระโดดร่างกายของนางก็ดันไม่ยอมขยับ ดูเหมือนว่าเมื่อไหร่ที่นางพยายามทำสิ่งที่จะทำให้ตัวเองตายร่างกายของนางก็จะไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง

“ฉันทำไม่ได้ ฆ่าตัวตายไม่ได้” ฟางเซียนรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก

[อย่าเศร้าใจไป! เรายังมีเป้าหมายที่ดีกว่า! ตำแหน่งอาจารย์มารผู้ยิ่งใหญ่กำลังรออยู่!] ระบบเหมือนจะร่าเริงมากขึ้น

ฟางเซียนรู้สึกปวดหัวเพราะคิดวิธีฆ่าตัวตายมากเกินไป และนางรู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ไม่พยายามฆ่าตัวตายให้มากกว่านี้

[เตือนภัย! ระวังอุบัติเหตุครับ! ระวังอุบัติเหตุ!] ระบบตะโกนเตือนขึ้นมาอย่างฉับพลันและเสียงเตือนภัยก็ดังลั่นในหัวของฟางเซียนและในขณะเดียวกันแผ่นดินก็สั่นสะเทือน

ทันใดนั้นฟางเซียนก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ว่า ถ้าฆ่าตัวตายไม่ได้นางก็แค่ใช้ให้คนอื่นฆ่านางแทนก็ได้นี่นา อุบัติเหตุที่ระบบเตือนอาจจะสามารถทำให้ตายนางก็ได้! เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วฟางเซียนก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา

พึ่บ!

ทันใดนั้นบางสิ่งก็ได้ลอยผ่านหน้าของฟางเซียนไปอย่างฉับพลัน ดวงตาของฟางเซียนเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าสิ่งที่บินผ่านหน้าไปก็คือชายหนุ่มในชุดสีขาวที่กำลังขี่กระบี่

“อ๊ะ!” ชายหนุ่มที่เพิ่งขี่กระบี่ผ่านไปคนนั้นหันกลับมามองฟางเซียนด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน

[ระวังอุบัติเหตุ!] ระบบเตือนอีกครั้ง ต่อมาฟางเซียนจึงได้เห็นสิ่งที่ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน

มันคือหมูป่าจำนวนมากและหมูป่าทุกตัวมีขนาดใหญ่เท่าช้าง

ฟางเซียนรู้สึกเหมือนฝัน แต่แรงสั่นสะเทือนจากพื้นชัดเจนมากนางจึงสามารถมั่นใจได้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน หมูป่ายักษ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่นางไม่เคยเจอมาก่อน การขี่กระบี่นั่นด้วย ดูเหมือนว่าเรื่องที่นางได้ข้ามมิติมายังโลกที่ไม่รู้จักจะเป็นความจริง

“แม่นาง! ระวัง!” ชายหนุ่มที่เพิ่งบินผ่านหน้าฟางเซียนไปรีบขี่กระบี่ย้อนกลับมาพร้อมกับตะโกนเตือนฟางเซียนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

แต่ฟางเซียนยืนนิ่งอยู่กับที่ หัวใจของนางเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นฝูงหมูป่าวิ่งเข้ามาหา ร่างกายอันใหญ่โตของพวกมันพุ่งชนทุกอย่างที่ขวางหน้าจนพังราบ ถ้าถูกชนนางตายแน่! นางจึงหวังอย่างยิ่งว่าพวกมันจะพุ่งชนนาง

พึ่บ!

แต่แล้วพวกหมูป่าก็วิ่งผ่านฟางเซียนไป...ใช่แล้ว มันวิ่งผ่านฟางเซียนไปโดยลืมที่จะทำร้ายนาง ตัวเดียวก็ยังพอว่าแต่นี่มันทั้งฝูง! ไม่มีหมูป่าตัวไหนชนนางเลย!

เฮงซวย! ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะ!?

[จริงด้วยสิ ระบบลืมบอกคุณไปเลยว่าคุณมีแต้มโชครอดตายจากอุบัติเหตุ 3,500,000 แต้ม และมีแต้มโชครอดตายจากการถูกฆ่า 4,454,444 แต้ม เพราะงั้นสบายใจหายห่วงได้เลย ไม่ว่าคุณจะเจอเหตุการณ์แบบไหนคุณก็จะรอดตาย!] ระบบกล่าวแสดงความยินดีพร้อมกับเปิดเสียงตบมือประกอบรัวๆ

ฟางเซียน “...”

ถ้าเป็นไปได้ฟางเซียนอยากจะสบถคำหยาบจนขาดใจตายไปซะเดี๋ยวนี้

Related chapters

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 2.1 ถ้าเป็นอาจารย์ของตัวร้าย ระบบมีเงินให้โปรยเล่น

    บทที่ 2.1ถ้าเป็นอาจารย์ของตัวร้าย ระบบมีเงินให้โปรยเล่นฟางเซียนถูกพาออกจากป่าโดยชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับฝูงอสูรหมูป่าที่มีนามว่า ฮุ่ยหวง เขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียรสายเซียนจากสำนักเซียน เฉิน ซึ่งได้รับภารกิจให้มาจัดการฝูงอสูรหมูป่าที่ออกมาสร้างความวุ่นวายให้กับชาวบ้านในช่วงนี้ แต่เนื่องจากว่าพวกมันมีจำนวนมากเกินไปเขาจึงใช้วิธีไล่ต้อนให้พวกมันกลับเข้าป่าแทนการกำจัดและในระหว่างปฏิบัติภารกิจเขาก็ได้บังเอิญผ่านมาพบฟางเซียนเข้าพอดีนั่นเองแม้ว่าฟางเซียนจะไม่ได้ถูกหมูป่าทำร้ายแต่ฮุ่ยหวงก็รู้สึกผิดที่ทำให้ฟางเซียนตกอยู่ในอันตราย ยิ่งพอได้เห็นบาดแผลตามตัวของฟางเซียนแล้วเขาก็ไม่ลังเลที่จะอาสาพาฟางเซียนออกจากป่าโดยไม่คิดที่จะถามความคิดเห็นของฟางเซียนสักคำแต่ถึงจะถามไปฟางเซียนก็คงตอบไม่ได้เนื่องจากว่านางกำลังตกอยู่ในอาการช็อกหลังจากได้รู้ว่าโชครอดตายของตัวเองมีมากมายเหลือเกิน แต่เมื่อฮุ่ยหวงเห็นอาการของฟางเซียนดังนั้นเขากลับเข้าใจผิดไปว่าฟางเซียนกำลังตกใจกลัวฝูงหมูป่า เขารู้สึกเป็นห่วงมากว่าฟางเซียนจะบาดเจ็บสาหัสทางจิตใจเขาจึงตัดสินใจเสียมารยาทอุ้มฟางเซียนออกจากป่าเพื่อไปรวมตัวกับพี่น้องของเขาโดยเร็ว

    Last Updated : 2024-11-10
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 2.2 ถ้าเป็นอาจารย์ของตัวร้าย ระบบมีเงินให้โปรยเล่น

    บทที่ 2.2 ถ้าเป็นอาจารย์ของตัวร้าย ระบบมีเงินให้โปรยเล่นพิภพมนุษย์ พิภพเทพ และพิภพปีศาจ สามพิภพแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน ทว่าเผ่าปีศาจและเผ่าเทพก็ยังคงไม่ลงรอยกัน อาจจะเพราะความแตกต่างของเผ่าพันธุ์หรือไม่ก็พลังปราณที่มีสีขั้วตรงข้ามกัน อย่างไรก็ตามสองเผ่าพันธุ์นี้ก็มักจะเข้าปะทะกันบ่อยครั้งในพิภพมนุษย์เนื่องจากว่าพิภพมนุษย์มีทั้งประตูเชื่อมต่อไปยังพิภพเทพและพิภพปีศาจ บางครั้งเทพและปีศาจจึงเดินทางมายังพิภพมนุษย์บ้างเป็นบางครั้ง พิภพมนุษย์จึงเป็นเหมือนศูนย์กลางของทั้งสามพิภพนั่นเอง เพราะเหตุนี้เองมันจึงทำให้บนพิภพมนุษย์มักเต็มไปด้วยหายนะ มนุษย์จึงจำเป็นต้องดิ้นรนหาความแข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดมนุษย์หรือแม้แต่สัตว์อสูรต่างก็มีแกนพลังปราณเป็นของตัวเอง แต่จะไร้พลังปราณแตกต่างจากเผ่าเทพและปีศาจซึ่งมีพลังปราณตั้งแต่กำเนิด แต่หากได้รับการฝึกฝนมนุษย์หรือสัตว์อสูรก็จะสามารถดูดซับพลังปราณเข้าสู่ร่างกายได้ หากยิ่งเลื่อนระดับพลังปราณให้สูงมากขึ้นเท่าไหร่พวกเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นแต่ทว่าเผ่ามนุษย์ก็ยังคงไม่สามารถต่อกรกับเผ่าปีศาจหรือเผ่าเทพได้เมื่อเปรียบเทียบปราณเซียนหรือปราณมารของผู้บำเพ็ญเพี

    Last Updated : 2024-11-10
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 3.1 อาจารย์มารอยากตายกับลูกศิษย์ผู้น่าสงสาร

    บทที่ 3.1 อาจารย์มารอยากตายกับลูกศิษย์ผู้น่าสงสารสตรีผู้นั้นประมูลเขามาจากโรงประมูลทาส นางได้พูดว่าจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ ลู่เหลียนไม่คิดว่านางจะพูดความจริง ไม่มีทางที่มนุษย์ธรรมดาเช่นนางจะอยากรับลูกครึ่งปีศาจเช่นเขาเป็นลูกศิษย์ทว่าเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อนางสามารถปลดกำไลทาสบนข้อเท้าของเขาออกได้อย่างง่ายดายทั้งที่อาคมของมันน่าจะแน่นหนาและยากที่จะปลดออก บุคคลธรรมดาไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ นั่นหมายความว่านางหาใช่คนธรรมดาอย่างที่เขาเข้าใจ นางคงเป็นผู้บำเพ็ญเพียรระดับสูงที่สามารถปกปิดพลังปราณของตัวเองได้อย่างมิดชิดและหลังจากที่กำไลทาสถูกปลดออกนางก็ได้ประทับตราบนหน้าผากของเขาโดยไม่ถามเขาก่อนว่าเขายินยอมหรือไม่ลู่เหลียนลูบหน้าผากที่เรียบเนียนของตนเอง แม้ตราสัญลักษณ์จะซ่อนอยู่แต่เขารู้สึกได้ว่ามันยังอยู่ เขาถอนหายใจอย่างอับจนหนทาง หลุดพ้นจากกำไลทาสมาได้แต่กลับได้รับสัญลักษณ์การเป็นลูกศิษย์มาแทนเสียได้ ถึงมันจะไม่ได้กักขังหรือทรมานเขาอย่างเช่นที่กำไลทาสทำ แต่มันก็ทำให้เขาไม่สามารถหนีพ้นไปจากนางได้เพราะนางจะรู้ตำแหน่งที่อยู่ของเขาได้ทุกเมื่อจากตราสัญลักษณ์นี้“วันนี้เจ้าไปพักในห้องนั้น วันพรุ่งนี้ข

    Last Updated : 2024-11-10
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 3.2 อาจารย์มารอยากตายกับลูกศิษย์ผู้น่าสงสาร

    บทที่ 3.2 อาจารย์มารอยากตายกับลูกศิษย์ผู้น่าสงสารฟางเซียนรู้สึกรับไม่ได้อย่างยิ่ง เมื่อนางกลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรสายมารระดับเจ็ดนั่นก็หมายความว่านางจะเป็นอมตะไม่แก่ไม่ตาย! หากรวมเข้ากับแต้มโชครอดตายมันก็หมายความว่านางจะไร้หนทางตาย!ฟางเซียนรู้สึกสิ้นหวัง เข่าของนางอ่อนแรงจนนางไม่สามารถยืนได้อีก นางนั่งซึมเศร้าอยู่ข้างร่างแห้งเหี่ยวของหนูยักษ์และนึกเสียใจที่หลงกลตื้นเขินของระบบ นางมันโง่มาก!อยากตายมากขึ้นเพราะความโง่นี่ล่ะ! ฟางเซียนไม่อยากเดินไปข้างหน้าอีกต่อไปแล้วแต่ทว่าระบบห้ามฆ่าตัวตายก็ยังคงผลักให้นางเดินต่อไปข้างหน้าอยู่ดี สิ่งที่นางทำได้ในตอนนี้ก็คือ ทำใจให้ได้!เมื่อคิดดังนั้นฟางเซียนก็หัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ทำไมนางถึงโชคร้ายแบบนี้!เมื่อดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่นางได้พบความสิ้นหวังมายาวนานทั้งชีวิต เมื่อต้องการที่จะตายนางก็ยังคงสิ้นหวังเพราะไม่สามารถตายได้ มันเป็นความรู้สึกอัดอั้นที่บรรยายออกมาไม่ได้ อยากจะหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันจนเสียสติไปเลยในขณะที่ฟางเซียนกำลังเสียสติไปแล้วจริงๆ ความรู้สึกแปลกประหลาดก็แทรกเข้ามาในหัว นางคิดว่ามีบาดแผลตามร่างกาย แต่ว่ามันไม่ใช่ของนา

    Last Updated : 2024-11-15
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 4.1 ท่านอาจารย์ประหลาดเกินไป

    บทที่ 4.1 ท่านอาจารย์ประหลาดเกินไปสภาพร่างกายของลู่เหลียนไม่มีส่วนไหนบุบสลายจึงไม่น่าเป็นห่วง สิ่งที่ต้องหวงมากที่สุดก็คือสภาพจิตใจของเขามากกว่า การได้เผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนใจมันทำให้ลู่เหลียนตกอยู่ในอาการหวาดระแวง เขาจึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษแน่นอนว่าฟางเซียนต้องเป็นคนรับผิดชอบดูแลลู่เหลียนเพราะนางมีส่วนผิดไม่มากก็น้อยที่ปล่อยให้ลู่เหลียนถูกตาแก่มากตัณหาลักพาตัวไปจนต้องเผชิญหน้ากับเรื่องสะเทือนใจเพื่อเป็นการดูแลเอาใจใส่ฟางเซียนจึงทำอาหารสำหรับลู่เหลียนและยกไปส่งถึงห้องนอนเนื่องจากว่าตั้งแต่กลับบ้านมาลู่เหลียนเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมาแม้แต่ก้าวเดียว“อาหารสำหรับเจ้า” ฟางเซียนวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะและหันไปพูดกับเด็กชายที่นั่งขดตัวอยู่บนเตียง “รีบมากิน หากเจ้าอดตายขึ้นมาข้าคงลำบาก” นางกล่าวอย่างเย็นชาทว่าลู่เหลียนก็ยังคงนิ่งเงียบ เขาเหลือบมองฟางเซียนด้วยสายตาเคลือบแคลงและสงสัย เวลาผ่านไปครู่หนึ่งลู่เหลียนก็ยังคงไม่ขยับ ฟางเซียนนั่งรออย่างใจเย็น จนกว่าลู่เหลียนจะยอมกินอาหารนางก็คงจะไม่ได้ไปไหน เมื่อลู่เหลียนเห็นฟางเซียนอยู่ในท่าทางสงบนิ่งเขาจึงรู้สึกสงบใจมากกว่าการอยู่ค

    Last Updated : 2024-11-17
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย    บทที่ 4.2 ท่านอาจารย์ประหลาดเกินไป

    บทที่ 4.2 ท่านอาจารย์ประหลาดเกินไปพื้นที่รอบเมืองเหยียนเป็นหุบเขามีภูเขาและเทือกเขาสูงใหญ่มากมาย การจะสร้างบ้านบนภูเขาสักลูกเป็นเรื่องยากลำบาก แต่เพราะฟางเซียนอยากมีบ้านบนภูเขาอันเงียบสงบนางจึงยอมจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่อั้น เพราะอย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่เงินของนางอยู่แล้ว ทางด้านผู้รับเหมาก่อสร้างยินดีให้บริการอย่างยิ่งเมื่อได้รับเงินมากมาย พวกเขาสัญญาว่าจะเร่งมือแต่คาดว่าการก่อสร้างคงต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน ในขณะที่รอให้บ้านสร้างเสร็จฟางเซียนและลู่เหลียนจึงอาศัยอยู่ในโรงเตี๊ยมชั่วคราวและในระหว่างนั้นลู่เหลียนก็ได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการอ่านและเขียนยันต์ สำหรับมารหรือเซียนมือใหม่จำเป็นต้องรู้จักการเขียนยันต์เพราะการจะใช้คาถาจำเป็นต้องใช้ยันต์เป็นสื่อกลาง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมลู่เหลียนจำเป็นต้องอ่านและเขียนตัวอักษรให้ได้ทุกตัว แน่นอนว่าคนที่จะสอนลู่เหลียนอ่านเขียนจะต้องเป็นฟางเซียน แม้ว่าลายมือของฟางเซียนจะแย่สักหน่อยเพราะนางไม่คุ้นเคยกับการใช้พู่กัน แต่อย่างน้อยลู่เหลียนก็สามารถเขียนออกมาได้สวยงามตามตำราเพราะหากเขา

    Last Updated : 2024-11-17
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 5 ปีศาจกินคนและลัทธิฆ่าตัวตายบทที่ 5 ปีศาจกินคนและลัทธิฆ่าตัวตาย

    บทที่ 5 ปีศาจกินคนและลัทธิฆ่าตัวตายฟางเซียนต้องการค้นหาลัทธิฆ่าตัวตายและปีศาจกินคน แต่ระบบก็แย้งว่าถึงนางจะค้นพบลัทธิฆ่าตัวตายนางก็คงไม่สามารถฆ่าตัวตายได้อยู่ดีและถึงจะเจอปีศาจกินคนนางก็ไม่มีทางถูกกินเช่นกันเพราะโชคอันเหลือล้นของนางเอง แต่ฟางเซียนก็อยากลองออกไปค้นหาดูเผื่อจะโชคดีเจอคนพวกนั้นเข้า แต่สุดท้ายนางก็ไม่พบและต้องกลับบ้านบนภูเขาเฮยอั้นพร้อมกับความผิดหวัง “ทำไมความตายถึงได้หายากอย่างนี้!” ฟางเซียนบ่น ลู่เหลียนวางหนังสือที่กำลังอ่านลงและแอบถอนหายใจแผ่วเบา เมื่อฟางเซียนบ่นถึงความตายมันทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนในใจจนไม่มีสมาธิในการเรียนหนังสือเลย “ลู่เหลียน เมื่อไหร่เจ้าจะแข็งแกร่งแล้วมาสังหารข้า? ข้าเลี้ยงดูเจ้าเพราะอยากให้เจ้าแข็งแกร่งเหนือทุกคนและมาสังหารข้า หากเจ้าไม่สามารถทำได้ข้าก็คงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเลี้ยงดูเจ้าอีกต่อไปแล้ว” ฟางเซียนกล่าวออกมาเสียงเรียบและเย็นชา [คุณทำอย่างนั้นได้ที่ไหนกันล่ะครับ] ระบบหัวเราะ ฟางเซียนทำหน้าบึ้งตึง นางรู้อยู่แล้วล่ะว่าทำไม่ได้ นางพูดออกไปแบบนั้นก็เพราะอยากกดดันลู่เหลียนเท่านั้นเอง หากเด็กคนนี้ไม่ได้รับการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากน

    Last Updated : 2024-11-18
  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 6 สุสานอาวุธ

    บทที่ 6 สุสานอาวุธสุสานอาวุธมีชื่อเสียงในด้านความอันตรายมาก เนื่องจากว่าที่นั่นมีอาวุธอันตรายรวมกันอยู่มากมาย เมื่อความชั่วร้ายของพวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน พวกมันจึงสามารถสร้างหมอกพิษมาปกคลุมพื้นที่โดยรอบได้ อีกทั้งมันยังสามารถดึงดูดสัตว์อสูรอันตรายได้อีกด้วย สุสานอาวุธจึงกลายเป็นเหมือนสถานที่รวมตัวของสัตว์อสูรอีกด้วย แต่เพราะมันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสมบัติและอาวุธวิเศษ เหล่านักล่าสมบัติผู้โลภมากทั้งหลายจึงเดินทางเข้าไปในสุสานแห่งนั้นไม่หยุดหย่อน แต่ผู้คนส่วนมากที่เข้าไปในนั้นมักจะถูกฆ่าตายโดยสัตว์อสูรหรือไม่ก็พิษที่อยู่โดยรอบสุสานอาวุธ หรือบางครั้งพวกเขาก็อาจจะถูกฆ่าโดยอาวุธชั่วร้ายที่ถูกผนึกอยู่ที่นั่น แต่ถึงจะมีผู้คนมากมายตายที่นั่น นักล่าสมบัติก็ยังคงเข้าไปในสุสานอาวุธอย่างไม่กลัวตายอยู่ทุกวัน เมืองซู ซึ่งเป็นเมืองที่ใกล้กับสุสานอาวุธมากที่สุดจึงมักจะถูกใช้เป็นสถานที่แวะพักของเหล่านักล่าสมบัติ มันจึงไม่แปลกที่เมืองซูจะพลุกพล่านและคึกคักไปด้วยผู้คนอยู่ทุกวันและฟางเซียนและลู่เหลียนก็ได้เดินทางมาถึงเมืองอันวุ่นวายแห่งนี้แล้ว ส่วนเหตุผลที่ฟางเซียนเดินทางมาที่นี่ก็เพราะภารกิจจากระบ

    Last Updated : 2024-11-19

Latest chapter

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   ตอนพิเศษสั้น

    ตอนพิเศษ ลู่เหลียนกับความฝัน ลู่เหลียนเฝ้ารอ เฝ้ารอมาหลายปี ณ ทางเข้าปรโลก แต่แล้วเขาก็ไม่พบสิ่งที่เฝ้ารอมาตลอดหลายปี หลายคนบอกให้เขาตัดใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ เขาไม่สามารถที่จะลืมฟางเซียนไปได้ เขาจึงตัดสินใจฝึกฝนตัวเองอย่างบ้าคลั่ง มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาลืมเวลาได้รู้สึกตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว เขาเติบโตเต็มวัยแล้วและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เขาจึงสร้างพรรคมารขึ้นมาเพื่อเผยแพร่วิชามารที่ฟางเซียนเคยบอกในทำก่อนจะร่วงหล่นลงไปที่ปรโลก แต่ลู่เหลียนไม่ได้สนใจพรรคมารที่ตัวเองก่อตั้งขึ้นมามากนัก ส่วนมากเขาจะยกให้ซงเลี่ยงจินจัดการทุกอย่างแบบไม่สนใจไยดีระหว่างที่ซงเลี่ยงจินต้องหัวหมุนกับงานเขาก็จะไปอาละวาด ใช่แล้ว เขาอาละวาดกับเผ่าเทพที่ลงมาที่พิภพมนุษย์ เขาเกลียดเผ่าเทพมากจึงตามสังหารเผ่าเทพที่ลงมาที่พิภพมนุษย์ทั้งหมด นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นศัตรูกับเผ่าเทพ แต่ลู่เหลียนก็หาสนใจไม่เขาอาละวาดต่อไปจนมีแข็งแกร่ง

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   ตอนพิเศษ นิทานเจ้าหญิง

    ตอนพิเศษ นิทานเจ้าหญิง***เนื่องมาจากว่ามีคนถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ว่าทำไมฟางเซียนในชาติก่อนฆ่าตัวตาย ตอนพิเศษสั้นๆ ฉบับนิทานจึงถือกำเนิดกาลครั้งหนึ่ง ณ โลกสีเทา ภูตหนุ่มได้พบกับเจ้าหญิงผู้สิ้นหวังที่ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ เขาได้พาเธอออกมาจากโลกสีเทาไปยังโลกใบใหม่โลกใบใหม่สวยงามแต่ทว่ามันกลับกำลังล่มสลายและกลายเป็นเหมือนโลกสีเทาที่เธอจากมา ภูตตนนั้นจึงขอให้เธอช่วยเหลือโลกใบนี้เจ้าหญิงผู้สิ้นหวังที่ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ราวกับได้พบเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ต่อไปของเธอ เธอจึงยอมตอบรับคำขอของภูตตนนั้นอย่างง่ายดายเจ้าหญิงช่วยเหลือผู้คนและโลกใบใหม่นี้ด้วยความรู้สึกมีความสุขจากใจจริง นั่นเพราะว่าเธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นมีประโยชน์ ผู้ที่มีประโยชน์เท่านั้นถึงจะได้รับการยอมรับ เธอเชื่อมั่นอย่างสุดใจนั่นทำให้เธอมีความสุขมากที่ตนเองมีประโยชน์ต่อทุกคนและได้รับการยอมรับเจ้าหญิงทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยเหลือ

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทส่งท้าย 

    บทส่งท้ายหลังจากหนังสือสัญญายุติสงครามระหว่างผู้บำเพ็ญเพียรสายมารและผู้บำเพ็ญเพียรสายเซียนถูกเขียนขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ปัญหาระหว่างผู้บำเพ็ญเพียรบนพิภพมนุษย์ก็ลดน้อยลงและเมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาวะสงบลู่เหลียนก็ไม่ลังเลที่จะจัดงานแต่งงานของเขากับฟางเซียนขึ้นมาลู่เหลียนได้จัดงานแต่งงานอย่างใหญ่โตแต่ไม่มากพิธีเพราะหลังจากคำนับฟ้าดินแล้วลู่เหลียนก็ลากฟางเซียนเข้าห้องหอทันทีโดยไม่คิดจะส่งแขกก่อน ฟางเซียนไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ร่วมงานเลี้ยงด้วยซ้ำ“ข้าเพียงแค่อยากให้คนพวกนั้นรู้ว่าท่านคือภรรยาของข้าเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นเลยที่ท่านจะต้องเปิดเผยความงามของท่านให้คนพวกนั้นเห็น” ลู่เหลียนว่ามาอย่างนั้น“เจ้าไม่คิดจะให้ข้าออกไปพบปะผู้คนหรืออย่างไร” แม้ว่าฟางเซียนจะบ่นไปอย่างนั้น แต่สุดท้ายนางก็ชอบนอนเล่นอยู่ในห้องมากกว่าออกไปข้างนอกอยู่ดี เพราะในช่วงที่นางอยากฆ่าตัวตาย นางมักจะหมกตัวอยู่ในบ้านจนมันก

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 21 ค่ำคืนแรกอันร้อนแรง 

    บทที่ 21 ค่ำคืนแรกอันร้อนแรง หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากต้นไม้แห่งหายนะถูกโค่นล้ม กองทัพปีศาจก็กลับพิภพปีศาจ กองทัพเทพก็กลับพิภพเทพ กองทัพเทพที่มาพิภพมนุษย์เพื่อต่อสู้กับพรรคมารข่งเชวียก็กลับไปเช่นกัน ส่วนพรรคมารข่งเชวียและสำนักเซียนทั้งหลายบนพิภพมนุษย์ก็สงบศึกกันชั่วคราวเพราะสูญเสียกำลังรบไปมากจากการโจมตีของต้นไม้แห่งหายนะ ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงทำสงครามเย็นใส่กัน เพื่อไม่ให้มีการสูญเสียมากกว่านี้จ้าวหลงเทียนจึงไปพบทั้งสองฝ่ายเพื่อเจรจาสงบศึกและเสนอให้ทั้งสองฝ่ายทำสัญญาปรองดองกัน เนื่องจากว่าผู้นำฝ่ายเซียนอย่างฮุ่ยหวงตายไปแล้วฝ่ายเซียนจึงยอมสงบศึกแต่โดยดี แต่ลู่เหลียนกลับไม่ยอมสงบศึกโดยง่าย เขาให้เหตุผลว่าฝ่ายมารเป็นฝ่ายเสียหาย ฝ่ายเซียนที่เป็นฝ่ายเริ่มสงครามจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้ฝ่ายมารก่อนเขาจึงจะยอมสงบศึกแต่โดยดี จ้าวหลงเทียนพยายามเป็นตัวกลางเจรจากับลู่เหลียนและฝ่ายเซียนอยู่นานจนกระทั่งฝ่ายเซียนยอมชดใช้ค่าเสียหายด้วยเงินทอง ทรัพยากรทางธรรมชาติหรือก็คือดินแดน และสัญญาการซื้อขายสินค้าด้วยเพราะการปิดเขตแดนของพรรคข่งเชวียทำให้ชาวบ้านขาดแคลนอะไรหลายอย่าง การติดต่อซื้อขายสินค้าจากนอกด

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 20.2 ระบบใหม่น่ารำคาญกว่านายอีก

    บทที่ 20.2 ระบบใหม่น่ารำคาญกว่านายอีกระบบนำทางสู่ความตายทราบดีว่าถ้าหากมันปะทะกับลู่เหลียนและหมิงหยู มันจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะมันจะสูญเสียพลังวิญญาณมากเกินไป ถ้าหากมีพลังวิญญาณน้อยเกินไปแกนวิญญาณก็จะได้รับความเสียหายได้ง่ายมากขึ้น มันจึงควรประหยัดพลังวิญญาณให้ได้มากที่สุดและเพื่อการนั้นมันจึงทำให้ฮุ่ยหวงหลุดออกจากผนึกน้ำแข็งของฟางเซียนและสิงร่างของฮุ่ยหวงเพื่อดึงพลังของฮุ่ยหวงมาใช้แทนพลังวิญญาณที่กำลังร่อยหรอของตัวเองและเพื่อลดผลกระทบจากการโจมตีด้วย ถ้าหากมันถูกโจมตี ฮุ่ยหวงจะได้รับผลกระทบจากการโจมตีเป็นส่วนมากเมื่อเป็นเช่นนั้นการจัดการกับระบบนำทางสู่ความตายก็คงจะยากมากขึ้น แต่ลู่เหลียนและหมิงหยูก็ไม่หวั่นและร่วมมือกันโจมตีระบบนำทางสู่ความตายไม่ยั้งมือ มันไม่เหลือช่องว่างให้ฟางเซียนเข้าไปโจมตีเลย ฟางเซียนจึงได้แต่ยืนมองกระบี่หลายสิบเล่มและธนูไฟหลายดอกลอยผ่านหน้าไปมา“ดิ้วเหล็กนั่นเปลี่ยนร่างได้ด้วยเหรอ” ฟางเซียนพึมพำถามระบบใหม่เมื่อเห็นว่าดิ้วเหล

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 20.1 ระบบใหม่น่ารำคาญกว่านายอีก

    บทที่ 20.1 ระบบใหม่น่ารำคาญกว่านายอีกไม่ว่าโลกไหนหรือยุคไหนก็หนีไม่พ้นสงครามและบางครั้งสงครามก็เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล อย่างเช่นสงครามระหว่างมารและเซียนในครั้งนี้ผู้บำเพ็ญเพียรสายเซียนต่างก็คิดว่าผู้บำเพ็ญเพียรสายมารนั้นชั่วร้ายและไม่ควรมีตัวตนอยู่ พวกเซียนจึงยอมรับไม่ได้ที่พวกมารมีดินแดนในครอบครองหรือก็คือพวกเซียนหวาดกลัวความแข็งแกร่งของเหล่ามารและคิดไปเองว่าพรรคมารข่งเชวียปกครองดินแดนอย่างโหดเหี้ยมและบังคับให้ชาวบ้านกลายเป็นมารเหล่าเซียนจึงคิดจะก่อสงครามกับเหล่ามารเพื่อแย่งชิงความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านธรรมดาทั้งที่ไม่รู้เลยว่าอะไรคือความจริงหรือความเท็จ พวกเขาคิดแค่ว่าจะต้องทำให้เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรสายมารไร้ที่อยู่ในแผ่นดินอีกครั้งมันช่างไร้ความยุติธรรมสิ้นดีทั้งที่หากเหล่ามารไม่มีความคิดโง่เง่าฝังหัวว่าผู้บำเพ็ญเพียรสายมารจะต้องทำสิ่งชั่วร้ายอย่างที่สั

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 19.2 ระบบนำทางสู่ความตาย

    บทที่ 19.2 ระบบนำทางสู่ความตายย้อนกลับไปเมื่อสามร้อยปีก่อน ถ้านอนหลับแล้วฝันร้าย แค่ตื่นขึ้นมาฝันร้ายก็จะหายไป แต่สำหรับฮุ่ยหวงไม่ว่าจะหลับหรือตื่นเขาก็ยังฝันร้ายและมันยังเป็นฝันร้ายที่สุดแสนจะยาวนาน... “พี่ใหญ่ พี่รอง ข้าขอโทษเพราะข้าชักช้าเราจึงมาช่วยแม่นางฟางเซียนไว้ไม่ทันการ” ฮุ่ยหลิงร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็นเวลานานและเขาก็ยังโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหน้าป้ายหลุมศพที่มีชื่อสลักไว้ว่า ‘ฟางเซียน’ “หาใช่ความผิดของเจ้าไม่ น้องเล็ก” ฮุ่ยเหอเอ่ยปลอบใจน้องชาย แต่ฮุ่ยหลิงก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ดูเหมือนว่าการจากไปของ ‘แม่นางฟางเซียน’ จะสร้างความรู้สึกสะเทือนใจให้กับน้องชายของเขามากเกินไป ฮุ่ยเหอที่ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไรต่อจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายคนโต “ชาตินี้เป็นเคราะห์ร้ายของนาง...ข้าจึงเชื่อว่าชาติหน้านางจะต้องได้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขยาวนาน” ฮุ่ยหวงยิ้มอ่อนพลางลูบหัวปลอบฮุ่ยหลิงอย่างอ่อนโยน “ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ฮุ่ยหลิงเช็ดน้ำตาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เจ้าของหลุมศพนามว่าฟางเซียนเป็นหญิงสาวที่น่าเห็นใจ นางสูญเสียทุกอย่างรวมถึงเหตุผลที่จะมีชีวิต นางจึงอยากฆ่าตัวตา

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย   บทที่ 19.1 ระบบนำทางสู่ความตาย

    บทที่ 19.1 ระบบนำทางสู่ความตายเมื่อตื่นขึ้นมาฟางเซียนก็รู้สึกถึงอาการเมื่อยล้าตามร่างกายซึ่งเป็นผลมาจากการนอนหลับกึ่งตายมาหลายวัน ฟางเซียนก็เลยนอนต่ออีกสักพักเพื่อรวบรวมเรี่ยวแรงที่หายไปกลับมา แต่เพราะนอนหงายมานานก็เลยเริ่มรู้สึกไม่สบายตัว นางจึงเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนตะแคงข้างและเมื่อพลิกตัวนางก็ได้พบกับใบหน้ายามหลับใหลของปีศาจ แถมยังเป็นปีศาจรูปงามราวกับเทวดาจากสรวงสวรรค์อีกด้วยรูปหน้าสมบูรณ์แบบ ริมฝีปากเรียวสวยและหยักเป็นธรรมชาติ สีสันก็สดใสไม่หมองคล้ำ จมูกก็โด่งเป็นสัน คิ้วก็คมเข้ม ขนตาก็ยาวราวกับขนตาม้า รวมแล้วมันช่างเป็นใบหน้าที่งดงามและหล่อเหล่าไปในเวลาเดียวกันจนหลายคนลุ่มหลงฟางเซียนนอนมองลู่เหลียนจนกระทั่งคิดขึ้นมาได้ว่ามันถึงเวลาที่ควรจะลุกออกจากเตียงได้แล้ว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลูกขึ้นนั่ง คนที่น่าจะกำลังหลับก็ดึงแขนของนางจนนางล้มลงไปนอนอีกครั้ง“ไม่คิดว่ามันเช้าเกินไปที่จะตื่นหรือขอรับ?” ลู่เหลียนพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ขนตายาวสั่นไหวเล็กน้อยยามกะพริบตา “หรือคิดจะไปไหนแต่เช้า?คิดจะทิ้งข้าไว้บนเตียงแล้วหนีไปที่อื่นหรือขอรับ?” เขาเอ่ยพลางขยับตัวอย่างเกียจคร้าน ดวงตาสีแดงที่เปิด

  • ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย    บทที่ 18.2 ข้ารักท่าน…ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 18.2 ข้ารักท่าน…ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปลู่เหลียนกุมมือฟางเซียนแน่น เขาหวังว่าความร้อนจากมือของเขาจะทำให้มืออันเย็นเฉียบของฟางเซียนอบอุ่น แต่ไม่ว่าเขาจะกุมมือของฟางเซียนนานเพียงไร มันก็ยังคงเย็นเฉียบราวกับว่ามันแช่อยู่ในน้ำเย็นตลอดเวลา ลู่เหลียนไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคลาดสายตาเพียงครู่เดียว ฟางเซียนก็สลบไสลไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขนของซงเลี่ยงจินเสียแล้ว ทั้งที่สงครามระหว่างมารและเซียนจบไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน แต่ฟางเซียนก็ยังคงหลับไม่ยอมตื่นราวกับว่าไม่ต้องการที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง “ลู่เหลียน...เจ้าอยู่เช่นนี้มาหลายวันแล้วนะ” ซงเลี่ยงจินเดินเข้ามาในห้องและเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะลู่เหลียนมัวแต่นั่งเฝ้าฟางเซียนไม่ยอมขยับไปไหนเลยมาหลายวันแล้ว หากปล่อยไว้เช่นนี้ร่างกายของลู่เหลียนคงทรุดโทรมอีกแน่ แต่ไม่ว่าซงเลี่ยงจินจะเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วงมากเท่าไหร่ ลู่เหลียนก็ไม่ยอมตอบสนองแม้แต่นิดเดียว ซงเลี่ยงจินถอนหายใจก่อนจะหยิบคัมภีร์ออกมา “ข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการเช่นนี้ของท่านปรมาจารย์ฟางเซียนมาหมดแล้ว ข้าคาดว่าท่านปรมาจารย์ฟางเซียนน่าจะโดนโจมตีทางวิญญาณเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status