หลังจากสุกี้แยกตัวออกมาจากสุก้า เขาก็มาเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าเพียงคนเดียว ในระหว่างที่สุกี้กำลังเดินดูสินค้าต่างๆอย่างเพลินๆเขาก็ต้องตกใจ เมื่อมีมือหนึ่งมาจับแขนเขาไว้
“ทำไมมาเที่ยวคนเดียว”นิกกี้เอ่ยขึ้นทันพร้อมจ้องมองสุก้า
“พี่นิกกี้”
“ทำไมเห็นพี่แค่นี้ถึงกับต้องตกใจกันเลยเหรอ”
“เปล่าแค่แปลกใจเฉยๆก็พี่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดนี่ จูจู่มาเจอที่นี่ก็ต้องแปลกใจธรรมดา”
“พี่จะหยุดบ้างไม่ได้เหรอ”
“ถ้างั้นก็แล้วแต่พี่”
สุกี้แกะแขนของนิกกี้ออก พร้อมกับมองหน้าอย่างเฉยเมย เพราะสุกี้ไม่ได้รักหรือชอบนิกกี้แต่อย่างใด เพียงแต่ที่วันนั้นมีความสัมพันธ์ด้วยแค่อารมณ์พาไป อีกอย่างหนึ่งเพราะสุกี้ค่อนข้างชอบเรื่องแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก่อนที่จะได้นิกกี้เขาก็ผ่านผู้ชายมาตั้งหลายคน ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับสุกี้
“กินข้าวกันไหม”นิกกี้เอ่ยขึ้น
“ไม่กินสุกี้จะกลับบ้าน”
“ถ้างั้นพี่ไปส่ง”
“ไม่ต้องสุกี้กลับเองได้”
“ทำไมทีกับพี่ถึงเย็นชาอย่างนี้”
“สุกี้ไม่ได้เย็นชา สุกี้ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว”
“แต่วันนั้นเรา เอ่อ”นิกกี้ไม่อยากจะพูดออกมา เพราะมีคนเดินผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ และอีกอย่างเขาเป็นลูกรัฐมนตรีกับคุณหญิงโสภิตา การวางตัวและรักษาภาพพจน์จึงเป็นเรื่องสำคัญ
“เรื่องวันนั้นน่ะเหรอ ก็แค่สนุกกันไม่เห็นต้องจริงจังอะไรเลย และอีกอย่างสุกี้ว่าพี่นิกกี้ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายอยู่แล้วนี่ แค่มีอะไรกับสุกี้ก็ถือว่าแค่สนุกไม่ใช่เหรอ”สุกี้เชิดหน้าขึ้น
“แต่มัน”นิกกี้อ่ำอึ้ง เพราะเขาเริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน
“หรือว่าติดใจ”สุกี้อมยิ้มแล้วเหล่ตามองนิกกี้
“คือไม่ใช่อย่างที่สุกี้คิดเลยนะ”
“ถ้าไม่ใช่ก็ดีแล้ว เราแค่สนุกกันแต่ถ้าพี่นิกกี้ยังต้องการอยู่วันนี้ก็ได้”
ตอนแรกสุกี้ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับนิกกี้อีก เพราะเป็นพี่ชายของมิคกี้คนที่เขารัก แต่ในเมื่อเขาเห็นทีท่าของนิกกี้ยังมีเยื่อใยเรื่องวันนั้นอยู่ สุกี้จึงอยากจะมีอะไรด้วยอีกสักครั้ง
“พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น”
“แต่สุกี้คิดนะ ถ้าวันนี้พี่ว่างเราไปทำอะไรอย่างวันนั้นในคอนโดพี่ก็ได้”สุกี้พยายามใช้สายตาอ่อยนิกกี้
“พี่ไม่ได้ต้องการอย่างนั้น”
“เหรอ ถ้างั้นขอโทษด้วยที่สุกี้เข้าใจผิดไปเอง”
“คือ เอ่อ”
“สุกี้ขอตัวนะ”
“เดี๋ยวก่อน”นิกกี้จับมือสุกี้ไว้
“อะไร”
“ก็ได้”นิกกี้ไม่อาจตัดใจลืมเรื่องวันนั้นได้ที่เขาได้มีความสัมพันธ์กับสุกี้
“โอเค ไปก็ไป”
สุกี้แอบยิ้มในความเขอะเขินของนิกกี้ ในส่วนของนิกกี้เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงลืมเรื่องวันนั้นไม่ได้ซักที สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ เพราะยังติดใจในรสรักที่สุกี้มอบให้
ในช่วงเวลาเดียวกันบิวก็เดินไปยังบ้านของยูโร ซึ่งวันนี้เขาไม่ได้ไปซ้อมฟุตบอลเพราะมิคกี้ยกเลิกเขาจึงจึงไม่อยากไป เมื่อบิวไปถึงบ้านของยูโรเขาก็พบกับพ่อแม่ของยูโรก่อนที่จะไปทำธุรข้างนอก จึงทำให้ยูโรไม่สามารถไล่บิวออกจากบ้าน เขาจึงจำเป็นนั่งคุยกับยูโรที่ห้องรับแขกเพียงสองคน
“มามีธุระอะไร”ยูโรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง
“ก็คิดถึงนาย มาหาไม่ได้เหรอ”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย แม้แต่เพื่อนเราก็ไม่เป็นนี่ แค่คนรู้จักกันธรรมดา”
“ก็เราอยากเป็นเพื่อนกับนายไมได้เหรอ”
“อยากเป็นเพื่อนหรืออย่างอื่นกันแน่”
“นายก็รู้นี่ไม่น่าถามเลย”บิวอมยิ้มนิดๆ
“แต่เราไม่ได้อยากนี่”
“แต่เราอยาก”
“นายนี่อย่างไงนะ”
“ก็เป็นอย่างที่นายต้องการไง”
“เราไม่ได้ต้องการนาย”
“แต่นายต้องการมิคกี้ซึ่งเป็นแบบนาย ความรักของนายไม่มีวันสมหวังหรอก”
“บิว นายอย่ามาพูดไปเรื่อยแบบนี้นะ เรากับมิคกี้เสียหาย”ยูโรเริ่มไม่พอใจบิวขึ้นอย่างมาก
“เหรอ ขอโทษนะเราเข้าใจผิด เราก็นึกว่านายชอบมิคกี้ แต่อีกนั่นแหละถึงนายชอบก็ไม่สมหวังหรอก เพราะตอนนี้มิคกี้อยู่กับบอมบอม ไหนจะสุกี้สุก้าอีก แต่ละคนหน้าตาน่ารักทั้งนั้น ดูนายซิบึกบึนคมเข้มขนาดนั้น ใครเขาจะไปสนใจนายถึงนายจะยอมเปลื่ยนตัวเองก็เถอะ”
“บิวนายจะมากไปแล้วนะ”
“เราขอโทษอีกครั้งนะ”บิวแกล้งสำนึกผิดแต่ใจของเขารู้สึกดีที่พูดเช่นนั้นออกไป
“รู้สึกว่าใช้คำขอโทษเปลืองจัง”
“ไม่เปลืองหรอกเพราะสิ่งที่เราพูดไป มันจะทำให้นายยอมรับความจริงได้บ้าง”
“ความจริงอะไร”
“ความจริงที่นายรักมิคกี้ แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้”
“สุดท้ายก็วกกลับมาเรื่องนี้อีก”
“เราต้องย้ำให้นายได้คิดไง”
“เราก็จะย้ำเหมือนกัน เราไม่มีวันชอบนายหรอก”
“เราไม่ดีตรงไหน”บิวมีสีหน้าที่บึ่งตึงขึ้นมาทันที
“ตามตื้อคนที่ไม่รัก น่าเบื่อน่ารำคาญ”
“ก็เหมือนนายนั่นแหละ ที่ตามตื้อมิคกี้เขาก็ไม่ได้รักนายเหมือนกัน ตอนนี้เขาอาจจะรำคาญนายเหมือนที่นายรำคาญเราก็ได้”บิวหัวเราะนิดหน่อย
“บิว นายอยากมากเลยใช่ไหม หน้าตาก็ดีทำไมไม่ไปหาคนอื่นที่ชอบนาย หน้าตาอย่างนายคงหาได้ไม่อยากหรอก แต่ถ้าหาไม่ได้บ้านก็รวยนี่ใช้เงินซื้อซิ”
“มันแน่อยู่แล้วใช้เงินซื้อ แต่ไม่เร้าใจเท่ากับของฟรีอย่างนาย”
“พูดจาไม่อายเลยเนอะ”
“ทำไมต้องอาย ด้านได้อายอด”
“ดูพูดเข้านั่น”
“ว่าแต่นายเถอะ รอแต่มิคกี้คงได้ เอ่อ อ่า”
“อะไร”
บิวมองไปทีเป้ากางเกงของยูโรและจับมือตัวเอง ยูโรเห็นเช่นนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่าบิวหมายความว่าอย่างไร เขาจึงรู้สึกโกรธและโมโหบิวอย่างมาก
“นายนี่มันเกินคนไปแล้ว”
“ทำเพื่อรักไม่เกินคนหรอก ดีกว่านายได้แต่เฝ้ามองแม้แต่พูดยังไม่กล้า ไม่เหมือนเราได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ถึงแม้จะผิดหวังก็ไม่เป็นไร”
“มันเรื่องของเรา”
“ใช่ เรื่องของนายแต่มันหนักที่เรา เพราะเรารักนาย”
“พอเลย เราขึ้เกียจพูดกับนายแล้ว กลับไปซะเราจะขึ้นห้องถ้ายังไม่อยากกลับก็นั่งอยู่ที่นี่คนเดียวไปเลย”
“นายนี่ไล่แขกแบบนี้ด้วยเหรอ วันหลังถ้าเรามาอีกเราจะฟ้องพ่อกับแม่นายว่านายไล่เราออกจากบ้าน”
“เชิญ”ยูโรลุกขึ้นยืนมองหน้าบิวที่กำลังนั่งนิ่งๆ
“นายใจร้ายกับเรามากเลยนะ ก็ได้เราจะกลับแต่ก่อนกลับเราบอกนายไว้ก่อนเลย นายกับมิคกี้ไม่มีวันสมหวังหรอก เพราะบอมบอมเขารักมิคกี้มาก เราจะทำให้ทั้งสองสมหวังให้ได้”
“อย่าแม้แต่คิด”
“มันเลยคำว่าคิดไปแล้วแหละ เพราะทั้งสองป่านนี้ไปไหนถึงไหนกันแล้วมั้ง ส่วนนายก็ฝันลมๆแล้งต่อไปเถอะ”
“นายด้วยเหมือนกัน”
“ใช่ ถึงเราจะฝันลมๆแล้งๆเหมือนนาย แต่เราก็มีความสุขที่เห็นเพื่อนเราทั้งสองสมหวัง”
“เราก็จะทำทุกวิถีทางเหมือนกัน ที่ไม่ให้ทั้งสองได้รักกัน”ยูโรเอ่ยขึ้น
“ถ้านายคิดจะขัดขวางมิคกี้กับบอมบอม เราก็จะบอกมิคกี้ว่านายชอบ คิดดูซินายก็จะสูญเสียเพื่อนรักไปตลอดกาล”
“นายมันร้ายมาก”ยูโรมองบิวตาขวาง
“ร้ายเพราะรักนายไง”
ยูโรใจคอไม่ดีเท่าไรนัก เพราะถ้าเกิดบิวพูดออกไปเขาต้องเสียเพื่อนอย่างมิคกี้แน่นอน เขาจึงพยายามคิดหาวิธีแก้เกมเพื่อที่จะไม่ให้บิวพูดเรื่องนี้ออกมา
“เงียบเลยเนาะ สงสัยจะกลัวของจริง”บิวหัวเรานิดๆแต่ใจจริงเขาแค่ขู่ไม่เคยคิดที่จะทำอย่างนั้นหรอก
“นายต้องการเราขนาดนั้นเลยเหรอ ได้เดี๋ยวเราจะจัดการนายก็แล้วกัน ถือว่านายเป็นตัวแทนของมิคกี้”
ยูโรคิดออกมาในทันที ถ้าเขาสามารถหลอกล่อและทำตามในสิ่งที่บิวต้องการได้ อย่างน้อยบิวก็จะไม่พูดอะไรออกไป
“นายจะทำอะไร”บิวมีสีหน้าที่มึนงงนิดหน่อย
“ก็อย่างที่นายต้องการ”
“ นายไม่กล้าหรอก เพราะเราไม่ใช่สเป็คนายนี่ นายชอบแบบบึกๆแมนไม่ใช่เหรอ”บิวหัวเราะ
“อย่ามาท้านะ”
“ไม่ได้ท้านะ และไม่ได้ดูถูกด้วยเราว่านายทำอะไรไม่เป็นมากกว่า ถ้างั้นเรากลับแล้วนะวันหลังจะมาใหม่”บิวลุกขึ้นและกำลังหันหลังกลับเพื่อเดินออกจากบ้าน
ยูโรด้วยความโมโหในคำพูดดูถูกของบิว และกลัวว่าบิวจะพูดความจริงให้มิคกี้รู้ เขาจึงคิดจะจัดการปิดปากด้วยเล่ห์เหลื่ยมที่บิวไม่อาจปฏิเสธได้
“เดี๋ยวก่อน”
“อะไร”บิวหันหลังกลับมามองหน้ายูโร
ในช่วงเวลานั้นนั่นเองยูโรตัดสินใจขั้นเด็ดขาด และฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ได้คิดอยากทำ แต่เขาจำเป็นต้องทำเพื่อปิดบังความลับ
ยูโรมองหน้าบิวอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นเขาเดินเข้าไปหาบิวและจับศีรษะของบิวไว้ พร้อมประกบปากดันลิ้นเข้าไปภายในปากของบิว ในทีแรกบิวตกใจพยายามดิ้น แต่เมื่อได้สติเขาคิดได้ว่านี่ยูโรคนที่เขารัก บิวจึงปล่อยกายปล่อยใจตามแรงปรารถนาของตัวเองอย่างไม่ขัดขืน “ชอบใช่ไหม”ยูโรถอนริมฝีปากออกจากปากของบิวแล้วเอ่ยขึ้น “ใช่ชอบอยากให้นายทำแบบนี้ แต่อย่างว่านายทำไม่เป็น” ด้วยน้ำเสียงและกิริยาของบิวที่ดูแคลนยูโรอย่างหนัก เขาจึงรู้สึกโมโหและอยากทำให้บิววรู้ให้ได้ว่าเขาเก่งเรื่องแบบนี้ ส่วนบิวแกล้งท้าทายเพราะเขาอยากได้ยูโรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว “ได้” เมื่อยูโรพูดจบก็ผลักร่างของบิวล้มลงบนโซฟา หลังจากนั้นเขาทาบทับร่างของบิวไว้ ยูโรก้มลงไซร้ซอกคอของบิววอย่างบ้าคลั่ง จนบิวเคลิ้มในความเสียวซ่านสุดขั้วร่างกายสั่นสะท้าน ยูโรยังไม่หยุดอยู่แค่นั้นเขาถลกเสื้อของบิวขึ้นและเลื่อนมากัดหัวนมชมพูดของบิวอย่างรุนแรง “โอ๊ย เจ็บ”บิวร้องลั่นและดันร่างของยูโรออกแต่ไม่เป็นผล บิวพยายามดิ้นเพราะรู้สึกเจ็บ พอยูโรเปลื่ยนมาใช้ปลายลิ้นไล้เลียอย่างอ่อนละมุนขึ้น
ในระหว่างรอเข้าเรียนบิวกับบอมบอม ต่างมานั่งพูดคุยเรื่องผู้ชายกันอย่างเปิดเผย เพราะทั้งสองคนนั้นสนิทกันมากจึงไม่มีเรื่องอะไรที่ปิดบังกัน “เมื่อวานไปกับมิคกี้มาเหรอ”บิวถาม “ไปบ้านมิคกี้มา” “เป็นไงบ้างล่ะ” “จะมีอะไรล่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย” “ทำไมไม่เผด็จศึกมิคกี้” “เราไม่ได้ชอบมิคกี้จริงๆซักหน่อย เราแค่เอาคืนแกล้งไปอย่างนั้นแหละ” “แน่ใจ”บิวจ้องตาบอมบอม “แน่ใจซิ เราไม่ได้มีความคิดอย่างนายคิดหรอก” “ก็ได้ เอาเป็นว่านายแกล้งชอบมิคกี้เพื่อแก้แค้น เราเข้าใจแล้วที่ผ่านมาเราเข้าใจผิดคิดไปเอง” “ใช่”เสียงของบอมบอมเริ่มอ่อยลง “หรือว่านายชอบมิคกี้จริงๆหรือเปล่า เราเพื่อนกันนะมีอะไรก็บอกกันมาตรงๆ”บิววกกลับมาความคิดเดิมเมื่อได้ยินน้ำเสียงเอื่อยๆของบอมบอม “ตอนแรกเราไม่ได้ชอบแค่อยากเอาชนะ และแกล้งมิคกี้แค่นั้นแหละ เอ๊ะแต่ตอนนี้เราก็ไม่รู้นะ” “เอาแบบนี้ก็แล้วตอนที่นายอยู่กับมิคกี้ นายมีความรู้สึกอย่างไงบ้าง” “ก็ อือ ไม่ได้เฉยๆเหมือนเมื่อก่อนนะ”
หลังเลิกเรียนเป็นอีกครั้งที่ก็อตตัดหน้ามิคกี้ เขาได้พาตัวของสุก้าออกไปนอกมหาวิทยาลัย เพราะสุกี้ได้ช่วยให้ก็อตและสุก้าได้ไปด้วยกัน “เย็นนี้เราไปเที่ยวไหนกันดีไหม”ก็อตเอ่ยขึ้น “ไม่ไปหรอกสุก้าต้องกลับบ้านมันก็เย็นแล้วด้วย” “ไปหาอะไรกินแถวนี้ก็ได้แล้วค่อยกลับ” “ไม่เอาหรอก” “ต้องกินซิ เดี๋ยวพี่จะพาไปกินไอศกรีมอร่อยๆกินไหม” “ไม่กินหรอก” “ใช่สิ พี่ไม่ได้รวยเหมือนคนอื่นเขา สุก้าเลยไม่ค่อยอยากไปไหนกับพี่ ส่วนคนที่สุก้าอยากไปด้วยเขาไปกลับใครก็ไม่รู้เนาะ” ด้วยสุก้ามีนิสัยที่เกรงใจคนพอสมควร เขาจึงไม่อยากปฏิเสธก็อตซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่คณะ และอีกอย่างหนึ่งเขายังรู้สึกเศร้าใจหลังจากสุก้าโกหกว่ามิคกี้ไปกลับบอมบอม แต่สุก้าหารู้ไม่ว่าสุกี้นั่นแหละที่ลากมิคกี้ไปที่อื่นหาใช่บอมบอม “ก็ได้ แค่กินไอศรีมพอนะ” “แน่นอนอยู่แล้วสุก้า แค่ไปกินไอศกรีมกับพี่แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว” “ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะ” ก็อตและสุก้าเดินเดียงคู่ข้ามสะพานลอยไปยังอีกฟาก เพื่อที่จะไปกินไอศกรีมที่ก็อตเชิญช
ค่ำคืนที่สุก้ารอคอยก็มาถึง เมื่อมิคกี้ไปรับสุก้าแล้วทั้งสองก็มายังบาร์เปิดใหม่ใจกลางเมือง มีนักเที่ยวราตรีพอสมควรต่างสังสรรค์เฮฮากันอย่างครึกครื้น “เป็นไงบ้าง”สุกี้ยืนแก้วเบียร์ชนมิคกี้ “ก็ดีนะ”มิคกี้ชนแก้วกับสุกี้และพยักหน้ามองไปรอบ เขาก็รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้มาปลดปล่อยที่นี่ “สุกี้ดีใจนะที่มิคกี้ชอบ วันต่อๆไปสุกี้จะพามาเที่ยวเรื่อยๆ” “สุกี้มาบ่อยเหรอ”มิคกี้มีสีหน้าที่สงสัย “จะบ่อยได้ไง สุกี้อายุเท่ากับมิคกี้นี่ พึ่งเริ่มมาเที่ยวก็ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ” “อือ” “ว่าแต่มิคกี้ไม่เคยมาเหรอ” “ก็มาบ้างกับเพื่อนนักฟุตบอล” “คนทีชื่อยูโรใช่ไหม” “ใช่” “มีแฟนหรือยังล่ะ”สุกี้แกล้งถาม “ยังไม่มีนะ แต่เห็นบิวแอบชอบอยู่ พอสุกี้ได้ยินชื่อบิวเขารู้สึกหงุดหงิดทันที เพราะเขาไม่ชอบเลยบิวกับบอมบอม ถือว่าเป็นคู่อริกันก็ว่าได้ “สนใจเหรอ”มิคกี้จ้องมองสุกี้ “เปล่า ถามเฉยๆเห็นไปไหนมาไหนกับมิคกี้ตลอด” “อ๋อ แล้วไป” “แต
สุกี้นั้นคิดว่าเป็นมิคกี้ สุกี้จึงไม่รอช้าอีกต่อไปเขาลุกขึ้นนั่งท่ามกลางความมืด หลังจากนั้นสุกี้ปลดตะขอกางเกงของนิกกี้แล้วใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงใน พร้อมกับจับท่อนเอ็นของนิกกี้ออกมา สุกี้ไม่รีรออะไรอีกต่อไปเขาจึงรูดส่วนปลายออกและก้มลงอมด้วยความเมามันส์ และอารมณ์ที่อยากได้มิคกี้มาเนิ่นนาน สุกี้จึงตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือเพื่อให้มิคกี้พอใจเมื่อนิกกี้ได้รับสัมผัสอันเร่าร้อนของสุกี้ที่มอบให้ และเขารู้สึกแปลกใจทำไมลีลารักของสุกี้นั้นเปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะครั้งนี้สุกี้ทั้งดูดอมไล้เลียอย่างดูดดื่ม พร้อมกับใช้ริมฝีปากรูดท่อนเอ็นของเขาอย่างหิวกระหายใคร่อยาก“อ่า อ่า อ่าส์” นิกกี้เสียวอย่างมากเขาจึงครางออกมาอย่างไม่รู้ตัวสุกี้คิดว่าเป็นมิคกี้เขาจึงรีบทำรูดขึ้นลงอย่างไว เพราะต้องการกลืนกินน้ำในกายของมิคกี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่ารักมิคกี้อย่างจริงใจ ซึ่งช่วงเวลานี้สุกี้มีความสุขอย่างมาก ในส่วนของนิกกี้ก็ไม่ต่างกัน จนเขารู้สึกเสียวที่ท่อนลำ เพราะสุกี้รูดอมดูดอย่างหนักหน่วง จนนิกกี้ไม่สามรถทานทนได้อีกต่อ เขาจึงเริ่มเกร็งตัวแอ่นสะโพกเพื่อที่จะพ่นน้ำในกายออกมาด้วยความเสียวซ่านที่เกินต้าน นิกกี้ทนไม่
บอมบอมไม่ได้เอารถมาให้คนขับรถมาส่ง เขาจึงขึ้นรถมากับมิคกี้ เมื่อมาถึงที่วัดบอมบอมจึงพามิคกี้เข้าไปในวัดและโบสถ์เพื่อไหว้พระ“ขอให้ลูกสมหวังในความรักด้วยเทิด คนนี้แหละที่ลูกหวังว่าจะได้เป็นคนรัก สาธุ” บอมบอมบอมขอพรอยู่หลายอย่าง และใช้เวลานานอยู่พอสมควร“ขอพรอะไรนานจัง” มิคกี้จ้องมองพร้อมอมยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นบอมบอมทำปากขมุบขมิบ“ขอให้สมหวัง เปล่า ขอให้พ่อกับแม่สุขภาพแข็งแรง”“โกหกบาปกรรม ในวัดแท้ๆ ยังจะมาพูดโกหกอีก”“พูดมาก ไปเหอะปล่อยนกปล่อยปลากันดีกว่า”เมื่อบอมบอมกราบพระสามครั้งแล้ว เขาจึงเดินน้ำหน้ามิคกี้มายังที่ปล่อยปลา ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำพอดี ทั้งสองจึงซื้อปลาคนละถุงแล้วปล่อยลงสู่แม่น้ำ“อ้าว บอมบอม” ก็อตพี่รหัสที่แสนดีเรียกบอมบอมเมื่อขึ้นมาจากท่าน้ำ“พี่ก็อตมาได้ไง มาคนเดียวเหรอ”“เปล่ามากับสุก้า นั่นไงกำลังซื้อปลามาปล่อยอยู่”“บังเอิญจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอพี่ก็อต”ริมฝีปากของบอมบอมขยับคุยกับก็อต แต่สายตาแอบมองมิคกี้ทุกระยะ ยิ่งเมื่อสุก้าเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ว บอมบอมสังเกตเห็นได้ชัดว่าสุก้ามีท่าทีตกใจ และมีความไม่พึงพอใจอย่างมาก“เราลงไปปล่อยปลากันเถอะพี่ก็อต” สุก้าเอ่ยขึ้น“ไป
บอมบอมและมิคกี้ต่างแยกย้ายกันกลับคนละทาง มิคกี้จึงได้มาส่งบอมบอมที่บ้าน ซึ่งมาในครั้งนี้เขาค่อนข้างเต็มใจมา ไม่เหมือนแต่ครั้งก่อนหน้านี้ที่แสนจะอึดอัดเมื่อได้อยู่กับบอมบอม เมื่อทั้งคู่มาถึงที่บ้านต่างรีบลงจากลงและพาแมวน้อยสีส้มออกมาดูเล่น“น่ารักมากเลยนะ” บอมบอมเอ่ยขึ้น“ใช่ ตอนนี้เจ้าหนูมีแม่แล้วนะ” มิคกี้ยิ้มอย่างสดใจ“ใครแม่” บอมบอมสงสัย“ก็นายไง หรือว่านายอยากเป็นพ่อเหรอ หรือจะเปลื่ยนรสนิยมแล้ว”“ไม่ได้เปลื่ยนหรอก เป็นแม่ก็ได้แล้วพ่อล่ะ”“เดี๋ยวเราเป็นเอง”“ก็ดีลูกเราจะได้มีพ่อมีแม่แต่ยังไม่ชื่อเลยนิสิ” บอมบอมมีท่าทีครุ่นคิดอย่างหนัก“เราชื่อมิคกี้ นายชื่อบอมบอม ถ้าเอามารวมกันจะเป็นชื่ออะไรดี” มิคกี้มีท่าทีครุ่นคิดเช่นเดียวกัน“มอมมอม ไง เอา มอม้าของนายมาใส่ชื่อเราดีไหม”“มอมมอม ชื่อเหมือนหมาเลย อีกอย่างกลัวเรียกผิด แล้วดันเรียกนายว่ามอมมอมจะยุ่งไปใหญ่นะ”“มิคกี้นายว่าเราเป็นหมาเหรอ” บอมบอมหน้ามุ่ยทันที“เปล่าเราพูดเล่นแค่นั้น ใครจะคิดอย่างนั้นได้นายทั้งน่ารักและจิตใจดี” มิคกี้อมยิ้ม“แล้วไป ถ้างั้นเรามาเชลฟี่กันดีกว่า เดี่ยวเราอุ้มแมวไว้นายเป็นคนถ่ายก็แล้วกันนะ”“ได้ ถ่ายคู่เลยนะ
เย็นนี้นิกกี้อดรนทนความคิดถึงสุกี้ไม่ไหว เพราะเขายังติดใจรสรักที่สุกี้มอบให้ และอีกอย่างเขารู้ใจตัวเองแล้วว่าชอบสุกี้อย่างหมดใจ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสุกี้นั้นไม่ได้รักเขาแต่อย่างใด เพราะมีใจให้น้องชายของเขา อย่างแท่บไม่มีเหลือพื้นที่ว่างไว้ให้เขาแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นนิกกี้ก็ไม่มีวันยอมแพ้อย่างเด็ดขาดนิกกี้จึงเป็นฝ่ายเข้าหาพ่อแม่ของสุกี้ พอกลับจากทำงานช่วงวันหยุด เขาจึงซื้อของกินของฝากมาให้เป็นประจำ ซึ่งก็สร้างความพึงพอใจให้แกทั้งสองอย่างมาก ในเย็นนี้สุกี้จึงไม่อาจปฏิเสธการมารับของนิกกี้ได้“พี่นิกกี้จะพาสุกี้ไปไหนเหรอ”“คอนโด”“ไม่ไป” สุกี้รู้สึกโกรธที่นิกกี้คิดแต่เรื่องแบบนี้“พี่พูดเล่นพี่ก็อยากจะพาสุกี้ไปเที่ยวไม่ได้เหรอ ได้ข่าวว่าสุกี้ชอบช้อปปิ้ง วันนี้พี่จะซื้อให้ไม่อั้นเลย”“จริงเหรอ” สุกี้อมยิ้มนิดๆ เพราะมีหลายสิ่งที่เขาอยากได้มาก แต่ไม่สามารถที่จะซื้อได้เพราะราคาค่อนข้างแพงมาก สำหรับนักศึกษาที่ยังไม่ได้ทำงานอย่างเขา และอีกอย่างพ่อแม่ของสุกี้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย“ใช่ ถ้าอย่างงั้นขึ้นรถไปกันเลย” นิกกี้ยิ้มอย่างเริงร่า เพราะรู้สึกดีใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าสุกี้จะไปเพราะอยากได้ของที่
บอมบอมตัดสินใจตามง้อขอคืนดีกับมิคกี้ เพราะช่วงเวลาที่มิคกี้โกรธอยู่นั้น บอมบอมใจคอไม่ดีและวุ่นวายพอสมควร พอเขามาถึงบ้านจึงหอบเจ้าแมวเหมียวมอมมอม และกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อไปบ้านมิคกี้ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ในเมื่อตัดสินแล้ว ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรบอมบอมก็พร้อมยอมรับได้โดยไม่มีข้อแม้แต่อย่างใดซึ่งเย็นนี้ทางสะดวกเพราะรัฐมนตรีพายัพกับคุณหญิงโสภิตาไม่อยู่บ้าน บอมบอมมาถึงก็รีบขึ้นไปบนห้องของมิคกี้ในทันที บอมบอมยืนรออยู่หน้าประตูห้องอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเคาะประตูห้องด้วยใจคอไม่ดีเท่าไรนัก“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เมื่อประตูเปิดออกบอมบอมรีบลอดใต้วงแขนของมิคกี้เข้าไปในห้องทันที โดยที่มิคกี้ยังไม่ทันตั้งตัวแต่อย่างใด มิคกี้จึงรีบหันหลังกลับเพื่อไปขับไล่บอมบอมออกจากห้องนอนของเขา“นายมาทางไหนไปทางนั้นเลย” มิคกี้ชี้มือไปที่ประตูห้อง“นายจะให้เราไปได้ไง เราพามอมมอมมาด้วย นายก็ต้องช่วยเราเลี้ยงดูแลนะ นายสัญญากับเราแล้ว นายจะเป็นพ่อส่วนเราจะเป็นแม่ หรือว่านายลืมไปแล้ว” บอมบอมเปิดกรงเพื่อนำแมวออกมาให้วิ่งเล่นที่ห้องของมิคกี้“เราไม่ลืมหรอก แต่เราไม่เข้าใจในเมื่อนายทำสำเร็จแล้วนี่ ทำไมนายยั
นิกกี้ได้ขับรถพาสุกี้ไปยังเหมืองแร่ที่เขาทำงานในช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ ช่วงแรกสุกี้ก็ไม่พอใจและโวยวาย แต่เมื่อโดนขู่ว่าจะฟ้องพ่อกับแม่ ซึ่งสุกี้กลัวมากเลยต้องตามใจนิกกี้ไปยังเหมืองแร่“ไม่พอใจพี่เหรอ” นิกกี้เอ่ยขึ้น“แต่ที่พี่ทำลงไปเพื่อสุกี้นะ มิคกี้เขาชอบบอมบอม สุกี้น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ พี่พูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน ขนาดหน้าน้องเหมือนสุก้าคนที่มิคกี้เคยรัก มิคกี้ยังไม่สนใจเลย ทำไมน้องสุกี้ไม่เห็นคุณค่าในตัวเองบ้างล่ะ”“ไม่ต้องมาตอกย้ำสุกี้หรอก”“ไม่ได้ตอกย้ำ แต่พี่อยากให้สุกี้มองคนที่รักตัวตนสุกี้บ้าง” นิกกี้เหล่ตามองเพื่ออยากเห็นสีหน้า“ใคร”“พี่ไง”สุกี้หันไปมองนิกกี้ที่กำลังยิ้มอยู่ ซึ่งสุกี้ก็พอรู้บ้างเพราะพฤติกรรมของนิกกี้บ่งบอกมาอย่างชัดเจน แต่สุกี้แกล้งไม่รับรู้และยอมรับ“พี่ก็รู้นี่ว่าสุกี้ไม่ได้รักพี่”“ถ้าไม่ได้รักแล้วยอมเป็นของพี่ทำไม”“เผลอตัวไปหน่อย” เมื่อสุกี้พูดจบเขาก็ครุ่นคิดว่าเป็นอย่างที่นิกกี้บอกหรือไม่“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ไปอยู่กับพี่ที่เหมืองช่วงมหาวิทยาลัยปิด สุกี้อาจจะพบคำตอบก็ได้นะ”“ได้ สุกี้ก็เบื่อตามตื้นคนอื่นเหมือนกัน หันมาลองรักคนที่รักเราชีวิตอาจมีสีสันที่สดใส
วันนี้บอมบอมมาเรียนแต่เช้า เพราะเขามีความรู้สึกดีอย่างมากที่ได้ใกล้ชิด และสมหวังกับมิคกี้ ถึงแม้มิคกี้ยังไม่ได้บอกว่ารักเขา แต่เมื่อได้เสียตัวให้กันแล้ว บอมบอมจึงถือว่ามิคกี้บอกรักไปในตัว โดยมีแมวชื่อมอมอมเป็นสื่อกลางหัวใจบอมบอมกำลังฝันหวานคิดถึงมิคกี้อยู่นั้น เพื่อนรักบิวก็เดินเข้ามาหาและจี้ที่เอวของเขา จนทำให้บอมบอมตกใจ“นายก็ เราตกใจหมดเลย”“ขวัญอ่อนจริงนะ มอมมอม”“เราชื่อบอมบอมไม่ใช่มอมมอม” บอมบอมมองค้อนเป็นการใหญ่“แหมทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถ่ายรูปแมวมอมมอมกับมิคกี้ลงเต็มโซเซียลไปหมด”“มีบ้างนิดหน่อย” บอมบอมอมยิ้ม“เห็นถ่ายในห้องด้วยกัน เราจำได้นะว่าแต่ได้กันหรือยัง” บิวกระซิบเบาๆ“อือ”“เป็นไงบ้าง”“ก็ดีนะแต่เล็กไปหน่อย”“ไม่เป็นไรหรอกเน้นหล่อไว้ก่อน”“บ้า”“เรามีเรื่องจะถามนายหน่อย ที่นายบอกว่าจะแกล้งมิคกี้ให้หลงรักแล้วจะทิ้ง ตอนนี้ยังคิดอยู่ไหม”“อือ” บอมบอมครุ่นคิดและเขาก็ได้ทราบความรู้สึกของตัวเองแล้วว่ารักมิคกี้อย่างจริงๆ“บอมบอมนายหลอกเรา” เสียงมิคกี้ดังอยู่ข้างหลัง“บอมบอมรีบหันไปทันใด และเขาก็ต้องตกใจอย่างมาก เพราะสีหน้าของมิคกี้บ่งบอกชัดเจนว่าผิดหวังและเสียใจ เมื่อได้ยินคำ
ความสัมพันธ์ของสุก้าและก็อตได้คืบหน้าไปอย่างมาก เพราะห้วงเวลานี้มิคกี้ไม่ได้ตามจีบสุก้าอีกแต่อย่างใด เพราะมัวไปอยู่กับบอมบอมเนื่องด้วยต้องช่วยกันเลี้ยงลูกแมว จึงเป็นโอกาสอันดีที่ก็อตทำคะแนน สุก้าจึงเริ่มใจอ่อนขึ้นมาบ้าง และในเย็นนี้สุก้าจึงตกปากรับคำก็อตมาที่บ้านของเขา เพื่อมากินอาหารฝีมือกิตพ่อเลี้ยงเดี่ยว “กินให้เต็มทีเลยนะลูก วันนี้เป็นฝีมือพ่อเอง”กิตเอ่ยขึ้นพร้อมมองทั้งสองอย่างใคร่เอ็นดู “ครับคุณพ่อ”สุก้ารับคำ สุก้าถูกปากรสชาติอาหารที่ทำแบบง่ายๆแต่อร่อย เขาจึงทานอาหารมื้อนี้จนหมด หลังจากนั้นก็เข้าไปช่วยก็อตล้างชามในห้องครัว แต่ฝนฟ้าไม่เป็นใจดันตกมาอย่างมาก จนสุก้าหวั่นวิตกกลัวกลับบ้านไม่ได้ เมื่อล้างถ้วยชามเสร็จเขาจึงรีบออกมานั่งห้องรับแขก “พี่ต้องขอโทษด้วยไม่น่าชวนสุก้ามาที่บ้านเลย”ก็อตรู้สึกผิดแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ มันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราไม่สามารถจะรู้ได้” “ขอบใจมากนะ ที่พูดให้พี่ได้สบายใจขึ้นมาบ้าง” ทั้งสองนั่งคุยกันเป็นเวลานานฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายตก ก็อตจึงต
ค่ำคืนวันหยุดมิคกี้มาตามสัญญา เพราะเขาอยากเจอมอมมอมแมวเหมียวแสนน่ารัก ที่เขาร่วมตัดสินใจจะเลี้ยงดูร่วมกันกับบอมบอม ซึ่งทั้งคู่ก็ได้นำมอมมอมมานอนเล่นนอนกอดอย่างมีความสุข“มอมมอมซ้ำหมดแล้วตัวนิดเดียวดูมือนายสิอย่างใหญ่เลย” บอมบอมเอ่ยขึ้นแต่ตัวเองก็ยังจับหางของมอมอมเล่นเหมือนกัน“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นแค่นี้พอเอานอนดีกว่า” มิคกี้อุ้มมอมมอมลงบนเตียงนอนเล็กและวางไว้ข้างๆ ที่นอนของบอมบอม“มาเหนื่อยๆ ก็ไปอาบน้ำซะเนื้อตัวจะได้สะอาด ถ้าได้มาจับมอมมอมอีกจะได้ไม่สกปรก”“นายเห็นเราสกปรกอย่างนั้นเลยเหรอ แต่ก็ยังอยากได้เราอยู่นินายชอบพูดจาย้อนแย้งน่าดูนะ” เมื่อมิคกี้พูดจบเขาก็ไม่ได้สนใจคำพูดของบอมบอม ว่าจะพูดอะไรต่อเพราะเขาก็รู้สึกเหนียวตัวอยู่เหมือนกัน มิคกี้จึงรีบไปอาบน้ำเพื่อชำระคาบเหงื่อใคร่ ส่วนบอมบอมก็ห่มผ้าให้มอมมอมแมวเหมียวสุดที่รักเมื่อบอมบอมจัดการดูแลแมวเหมียวเสร็จเขาก็ล้มตัวลงนอน โดยไม่ได้สนใจมิคกี้แม้แต่น้อยและลืมไปว่ามิคกี้ได้เข้ามาอยู่ในห้องแล้ว จนมิคกี้ออกมาจากห้องน้ำเปลื่ยนเสื้อผ้าและขึ้นมาบนเตียงนอนของบอมบอม“อ้าว” บอมบอมมีท่าทีตกใจ“ตกใจอะไร” มิคกี้ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“ไม่มีอะไรหร
วันนี้สุก้าได้ไปเที่ยวกับก็อตทั้งวันจึงทำให้เขาเริ่มรู้สึกดีๆ กับก็อตมากขึ้น ถึงแม้เขายังไม่สามารถที่จะลืมมิคกี้ได้ แต่ในเมื่อภาพตรงหน้าที่เขาเห็นนั้น มีเพียงแต่บอมบอมที่ได้ยืนเคียงข้างมิคกี้ตลอดเวลา ถึงแม้สุก้าอยากให้เป็นตัวเขาเองแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ และเขาก็ไม่สามารถที่จะไปสู้รบต่อกรแย่งชิงมิคกี้กับบอมบอมได้เลยหลังจากสุก้าอาบน้ำเสร็จเขาก็นอนครุ่นคิดเรื่องมิคกี้อยู่เบนเตียง และช่วงเวลาเดียวกันนั้นนั่นเองที่ก็อตได้โทรมาหาเขา ซึ่งสุก้าก็ยินดีรับแต่โดยดี เพราะเขาก็รู้สึกเคว้งและอยากมีคนมาปลอบใจเขาอยู่เหมือนกัน“ทำอะไรอยู่” เสียงก็อตดังขึ้น“ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก นอนเล่นๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”“คิดถึงคนอื่นหรือเปล่า แต่พี่อยากให้สุก้าคิดถึงพี่มากกว่าคนอื่น”“อยู่ด้วยกันมาทั้งวันจะมาคิดถึงอะไรกันอีกล่ะ”“พี่ไม่ได้เห็นหน้าสุก้าแค่ชั่วโมงเดียวก็เหมือนไม่ได้เห็นเป็นหมื่นปี”“พูดไปเรื่อย” สุก้าอดยิ้มไมได้ เพราะคำพูดกับหน้าตาของก็อตนั้นไปคนละทางกันทีเดียว ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมก็อตต้องมาติดพันเขา ทั้งๆ ที่น้องรหัสของก็อตออกจะน่ารักมากกว่าเขาอีก ซึ่งตรงนี้สุก้าก็ยอมรับอย่างใจจริงว่าบอมบ
เย็นนี้นิกกี้อดรนทนความคิดถึงสุกี้ไม่ไหว เพราะเขายังติดใจรสรักที่สุกี้มอบให้ และอีกอย่างเขารู้ใจตัวเองแล้วว่าชอบสุกี้อย่างหมดใจ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสุกี้นั้นไม่ได้รักเขาแต่อย่างใด เพราะมีใจให้น้องชายของเขา อย่างแท่บไม่มีเหลือพื้นที่ว่างไว้ให้เขาแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นนิกกี้ก็ไม่มีวันยอมแพ้อย่างเด็ดขาดนิกกี้จึงเป็นฝ่ายเข้าหาพ่อแม่ของสุกี้ พอกลับจากทำงานช่วงวันหยุด เขาจึงซื้อของกินของฝากมาให้เป็นประจำ ซึ่งก็สร้างความพึงพอใจให้แกทั้งสองอย่างมาก ในเย็นนี้สุกี้จึงไม่อาจปฏิเสธการมารับของนิกกี้ได้“พี่นิกกี้จะพาสุกี้ไปไหนเหรอ”“คอนโด”“ไม่ไป” สุกี้รู้สึกโกรธที่นิกกี้คิดแต่เรื่องแบบนี้“พี่พูดเล่นพี่ก็อยากจะพาสุกี้ไปเที่ยวไม่ได้เหรอ ได้ข่าวว่าสุกี้ชอบช้อปปิ้ง วันนี้พี่จะซื้อให้ไม่อั้นเลย”“จริงเหรอ” สุกี้อมยิ้มนิดๆ เพราะมีหลายสิ่งที่เขาอยากได้มาก แต่ไม่สามารถที่จะซื้อได้เพราะราคาค่อนข้างแพงมาก สำหรับนักศึกษาที่ยังไม่ได้ทำงานอย่างเขา และอีกอย่างพ่อแม่ของสุกี้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย“ใช่ ถ้าอย่างงั้นขึ้นรถไปกันเลย” นิกกี้ยิ้มอย่างเริงร่า เพราะรู้สึกดีใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าสุกี้จะไปเพราะอยากได้ของที่
บอมบอมและมิคกี้ต่างแยกย้ายกันกลับคนละทาง มิคกี้จึงได้มาส่งบอมบอมที่บ้าน ซึ่งมาในครั้งนี้เขาค่อนข้างเต็มใจมา ไม่เหมือนแต่ครั้งก่อนหน้านี้ที่แสนจะอึดอัดเมื่อได้อยู่กับบอมบอม เมื่อทั้งคู่มาถึงที่บ้านต่างรีบลงจากลงและพาแมวน้อยสีส้มออกมาดูเล่น“น่ารักมากเลยนะ” บอมบอมเอ่ยขึ้น“ใช่ ตอนนี้เจ้าหนูมีแม่แล้วนะ” มิคกี้ยิ้มอย่างสดใจ“ใครแม่” บอมบอมสงสัย“ก็นายไง หรือว่านายอยากเป็นพ่อเหรอ หรือจะเปลื่ยนรสนิยมแล้ว”“ไม่ได้เปลื่ยนหรอก เป็นแม่ก็ได้แล้วพ่อล่ะ”“เดี๋ยวเราเป็นเอง”“ก็ดีลูกเราจะได้มีพ่อมีแม่แต่ยังไม่ชื่อเลยนิสิ” บอมบอมมีท่าทีครุ่นคิดอย่างหนัก“เราชื่อมิคกี้ นายชื่อบอมบอม ถ้าเอามารวมกันจะเป็นชื่ออะไรดี” มิคกี้มีท่าทีครุ่นคิดเช่นเดียวกัน“มอมมอม ไง เอา มอม้าของนายมาใส่ชื่อเราดีไหม”“มอมมอม ชื่อเหมือนหมาเลย อีกอย่างกลัวเรียกผิด แล้วดันเรียกนายว่ามอมมอมจะยุ่งไปใหญ่นะ”“มิคกี้นายว่าเราเป็นหมาเหรอ” บอมบอมหน้ามุ่ยทันที“เปล่าเราพูดเล่นแค่นั้น ใครจะคิดอย่างนั้นได้นายทั้งน่ารักและจิตใจดี” มิคกี้อมยิ้ม“แล้วไป ถ้างั้นเรามาเชลฟี่กันดีกว่า เดี่ยวเราอุ้มแมวไว้นายเป็นคนถ่ายก็แล้วกันนะ”“ได้ ถ่ายคู่เลยนะ
บอมบอมไม่ได้เอารถมาให้คนขับรถมาส่ง เขาจึงขึ้นรถมากับมิคกี้ เมื่อมาถึงที่วัดบอมบอมจึงพามิคกี้เข้าไปในวัดและโบสถ์เพื่อไหว้พระ“ขอให้ลูกสมหวังในความรักด้วยเทิด คนนี้แหละที่ลูกหวังว่าจะได้เป็นคนรัก สาธุ” บอมบอมบอมขอพรอยู่หลายอย่าง และใช้เวลานานอยู่พอสมควร“ขอพรอะไรนานจัง” มิคกี้จ้องมองพร้อมอมยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นบอมบอมทำปากขมุบขมิบ“ขอให้สมหวัง เปล่า ขอให้พ่อกับแม่สุขภาพแข็งแรง”“โกหกบาปกรรม ในวัดแท้ๆ ยังจะมาพูดโกหกอีก”“พูดมาก ไปเหอะปล่อยนกปล่อยปลากันดีกว่า”เมื่อบอมบอมกราบพระสามครั้งแล้ว เขาจึงเดินน้ำหน้ามิคกี้มายังที่ปล่อยปลา ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำพอดี ทั้งสองจึงซื้อปลาคนละถุงแล้วปล่อยลงสู่แม่น้ำ“อ้าว บอมบอม” ก็อตพี่รหัสที่แสนดีเรียกบอมบอมเมื่อขึ้นมาจากท่าน้ำ“พี่ก็อตมาได้ไง มาคนเดียวเหรอ”“เปล่ามากับสุก้า นั่นไงกำลังซื้อปลามาปล่อยอยู่”“บังเอิญจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอพี่ก็อต”ริมฝีปากของบอมบอมขยับคุยกับก็อต แต่สายตาแอบมองมิคกี้ทุกระยะ ยิ่งเมื่อสุก้าเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ว บอมบอมสังเกตเห็นได้ชัดว่าสุก้ามีท่าทีตกใจ และมีความไม่พึงพอใจอย่างมาก“เราลงไปปล่อยปลากันเถอะพี่ก็อต” สุก้าเอ่ยขึ้น“ไป