Share

ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
Author: หว่านชิงอิ๋น

บทที่ 1

Author: หว่านชิงอิ๋น
ตำหนักอ๋อง

ในห้องฝั่งปีกตะวันออก ถัดจากเตียงแกะสลักขาดใหญ่ มีเสื้อผ้าเกลื่อนอยู่เต็มพื้นห้อง

ลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง นางมองดูรอยยุ่งเหยิงบนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว

แสงแดดส่องกระทบรอยสีแดง ทำให้นึกไปถึงชายห้าหกคนที่บุกเข้ามาในห้องหอเมื่อคืนนี้ ความอัปยศอดสู และความโกรธค่อย ๆ หลั่งไหลเข้ามาโจมตีนางอย่างหนักหน่วง

น้ำตาแห่งความรู้สึกอัปยศเอ่อล้นในดวงตา

“จะร้องไห้ทำไม ในเมื่อเจ้าได้แต่งงานกับท่านอ๋องอย่างที่หวังไว้ ก็ควรจะดีใจมิใช่รึ?”

เสียงทุ้มเย็นยะเยือกดังขึ้น ความหนาวเหน็บแผ่ซ่านไปที่กระดูกสันหลังของลั่วชิงยวน นางหันกลับไปด้วยความตกใจ

เห็นผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ รูปร่างสง่างามและน่าเกรงขาม สายตาเย็นชา และไม่แยแสนั้นจับจ้องมา ราวกับมีดที่กำลังกรีดเลือดของนาง

บางสิ่งกำลังระเบิดในหัว ลั่วชิงยวนรู้สึกหายใจไม่ออกชั่วขณะ “ท่านอ๋อง… ท่านอยู่ตรงนี้มาตลอดเลยหรือเพคะ?”

น้ำเสียงไม่แยแสกล่าวขึ้น “วันอภิเษกสมรสของข้ากับเจ้า ถ้าข้าไม่อยู่ที่นี่ แล้วข้าควรจะอยู่ที่ใดเล่า?”

ทันใดนั้น นางก็รู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาด เลือดทั่วร่างพลันแข็ง

มองดูรอยยับบนเตียง นึกถึงคนที่บุกเข้ามาในห้องหอเมื่อคืนนี้ นางรู้สึกละอายใจ และโกรธเป็นอย่างมาก ชายผู้ที่ควรจะร่วมหอด้วย กลับนั่งอยู่ในห้องนี้ทั้งคืนและมองดูชายเหล่านั้นฉีกเสื้อผ้าของนาง…

“เหตุใดท่านถึงทรงเกลียดชังหม่อมฉันได้มากเพียงนี้เพคะ!” นางทรุดตัวลงกรีดร้อง น้ำตาไหลริน

ชายที่รักมากที่สุด สั่งให้คนรับใช้มาพรากพรหมจรรย์ของนาง ทำลายนางทั้งกายและใจในคืนวันแต่งงาน

หัวใจราวกับถูกเขาฉีกออกเป็นชิ้น ๆ มันเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ

นางชื่นชมเขาตั้งแต่ยังเยาว์วัย เมื่อก่อนฮองไทเฮาเคยชื่นชมทั้งสองว่าช่างเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก สมบูรณ์แบบดั่งสวรรค์สร้าง และยังบอกว่าจะให้ทั้งสองแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงคำพูดลอยลม แต่นางก็จำไม่เคยลืม

แต่เมื่ออายุได้สิบสามปีนางก็เกิดป่วย ทำให้นางมีรูปร่างอ้วนท้วม และหน้าตาน่าเกลียด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิ่งที่นางพบเจอคือสายตาที่เย็นชา และน้ำเสียงเยาะเย้ย มีเพียงสายตาจากเขาเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง นางจึงสาบานว่า ถ้าหากไม่ใช่เขา นางก็จะไม่แต่งงานเป็นอันขาด

แต่หลังจากที่รอแล้วรอเล่า สิ่งที่รอกลับเป็นการแต่งงานระหว่างเขากับน้องสาวต่างมารดาของนาง

นางไม่เต็มใจที่จะเป็นได้เพียงคนแปลกหน้ากับเขา ดังนั้นเมื่อน้องสาวขอให้นางแต่งงานแทน นางจึงตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

นางคิดเพียงว่า ขอแค่ได้แต่งงานกับเขา สักวันหนึ่ง นางคงจะสามารถเอาชนะใจเขาได้

คืนวันแต่งงานที่เฝ้ารอ กลับกลายเป็นคืนแห่งความอัปยศที่แสนเจ็บปวด

เมื่อได้ยินคำพูดของนาง เขาทำเสียงขันเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ และมองลงไปที่นาง

“เกลียดงั้นรึ? เจ้ามองตัวเองสูงส่งเกินไปแล้ว ข้าก็แค่ขยะแขยง และรังเกียจเจ้าก็เท่านั้น!”

ไส้ศึกอย่างนางกล้าดีอย่างไรมาแต่งงานแทน และหวังที่จะเป็นชายาของเขา? แถมยังกล้าคิดร้ายต่อเขาอีก!

เมื่อฟังคำพูดของเขา เสียงของลั่วชิงยวนก็เสียงแหบแห้ง “เช่นนั้น ท่านก็เลยสั่งให้คนมาทำร้าย และทำลายชื่อเสียงของหม่อมฉัน…”

นางคว้าแขนเสื้อของเขาอย่างไม่พอใจ และถามต่อด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ถ้าหากว่า หม่อมฉันไม่ได้น่าเกลียดเพียงนี้ ท่านจะชอบหม่อมฉันบ้างหรือไม่?”

ท่าทางที่บ้าคลั่งของนาง ยิ่งทำให้นางดูน่ารังเกียจในสายตาของฟู่เฉินหวน ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาจับคางของนางอย่างแรง ราวกับอยากจะบีบให้แตกคามืออย่างไรอย่างนั้น “ถึงแม้ว่าเจ้าจะหน้าตาราวกับนางฟ้านางสวรรค์ แต่ข้าก็ยังคงคลื่นไส้อยู่ดี!”

หลังจากพูดจบ มือที่บีบคางนางอยู่ก็สะบัดออกอย่างแรง

ลั่วชิงยวนถูกผลักลงนอนบนเตียง ผ้าห่มหลุดออกเผยให้เห็นรอยฟกช้ำตามร่างกาย ดวงตาเย็นชาของชายคนนั้นกวาดมองนาง ซึ่งทำให้นางรู้สึกอับอายยิ่งนัก

ฟู่เฉินหวนเดินจากไปด้วยความขยะแขยง

ลั่วชิงยวนมองภาพที่เขาเดินจากไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง นางสะอึกสะอื้นออกมาด้วยความว่างเปล่า “หม่อมฉัน… หม่อมฉันผิดไปแล้ว…”

เมื่อเดินไปถึงประตู เขาชะงักเล็กน้อย แต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนจะเดินจากไป

มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะขอให้จักรพรรดิออกสารแต่งงานระหว่างเขากับลั่วเยวี่ยอิง แต่กลับถูกผู้หญิงที่น่าขยะแขยงคนนี้ทำให้ยุ่งเหยิงไปหมด

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ นัยน์ตาเขาก็แข็งกร้าวขึ้น พลางกำมือแน่น

หลังจากนั้นไม่นาน นางรับใช้สองคนก็เข้ามาในห้องพร้อมกับถังน้ำ ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็ย่อตัวลงไปที่มุมเตียง นางกำผ้าห่มแน่นเพื่อปกปิดร่างกาย แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดร่องรอยได้ทุกที่

สายตาแปลก ๆ นั้นทำให้นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง

ถัดจากผนังกั้น เสียงของนางรับใช้คุยกันดังเข้ามา

“แย่กว่าที่ได้ยินมาเสียอีก เมื่อคืนนี้นางแต่งงานแทนได้อย่างไรกัน คุณหนูรองผอมกว่ามากนัก เกี้ยวที่ส่งไปรับเจ้าสาวมองไม่ออกกันหรืออย่างไร?”

นางรับใช้เอ่ยด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนางข้ามาในตำหนักได้อย่างไร นางทำร้ายคุณหนูรองจนหมดสติ ก่อนที่ตัวนางจะเข้าไปในห้องหอ เมื่อคืนนี้ท่านอ๋องทรงดื่มหนัก พอเข้าไปในห้องหอก็เกือบจะโดนนางจัดการ! โชคดีที่ท่านอ๋องของเรารู้สึกตัวเร็ว ไม่อย่างนั้นได้โดนหมูตัวนี้ทำให้เป็นมลทินแน่ ๆ !”

"สวรรค์ ไม่ละอายใจเอาซะเลย! เป็นคางคกยังอยากจะกินเนื้อหงส์!"

เสียงเหล่านั้นชั่งแหลมคม นางสัมผัสได้ถึงความดูถูกและความขยะแขยงผ่านกำแพงนั้น

แม้แต่คนใช้เหล่านี้ยังรู้สึกเช่นนั้น ในใจของฟู่เฉินหวนคงจะต้องเกลียดนางมากเป็นแน่…

ไม่สิ แม้แต่คำว่าเกลียดนางก็ยังไม่คู่ควรด้วยซ้ำไป

ลั่วชิงยวนกำผ้านวมแน่น ใบหน้าของนางซีดเผือด ทั้งอับอายและว้าวุ่น ในที่สุดน้ำตาก็ไหลออกมา นางสะอึกสะอื้น “หากย้อนเวลาได้ ข้าจะไม่ทำให้ท่านโกรธ เกลียด…”

นางรับใช้สองคนที่ยังไม่ได้เดินออกไป จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงโครมครามในห้องดังขึ้น พากันตกใจรีบหันหลังวิ่งกลับเข้ามาในห้องทันที

ทันใดนั้นก็มีเสียงอุทานดังขึ้นจากในห้อง "ช่วยด้วย! พระชายาปลิดชีพตัวเอง!"
Comments (3)
goodnovel comment avatar
prapa
ยังไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง
goodnovel comment avatar
ภาณุพัฒน์ เงียบสดับ
เติมเงินไม่ได้ครับ
goodnovel comment avatar
บุญมี ศรีสุพัน
เรื่องนี้ พระเอกโง่มาก นิยายแอพนี้ ไม่พระเอกโง่จัด ก้อนางเอกโง่จัด เรื่องที่พอดีๆ ก้อไม่อัพอีก เซ็งงงงง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 2

    ซ่า…น้ำเย็นในขันถูกสาดลงบนหน้าอย่าแรง!ลั่วชิงยวนยกเปลือกตาขึ้นด้วยความยากลำบาก นี่นางยังไม่ตายหรือ ทำไมถึงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด?หญิงที่แต่งตัวเหมือนแม่นมคนหนึ่งโยนขันน้ำทิ้ง และมองมาที่นางด้วยสายตาโกรธเคือง "อย่ามาเล่นเล่ห์ด้วยการร้องไห้สร้างปัญหา และแขวนคอตัวเองเช่นนี้ ท่านอ๋องไม่หลงกลท่านหรอก! ไม่ได้ดูสารรูปตัวเลยว่าเป็นสินค้าเช่นใด ถึงได้กล้าเข้าพิธีอภิเษกสมรสแทนคุณหนูรอง ท่านคิดว่า​​ตำหนักอ๋องนี้เข้ามาได้ง่าย ๆ งั้นรึ!”หน้าตาของแม่นมเติ้งเต็มไปด้วยความโกรธ เดิมทีนางวางแผนที่จะกลับบ้านไปดูแลแม่ที่ชรา แต่ใครจะรู้ว่า พระชายาที่ไร้ยางอายผู้นี้จะเล่นอุบายแกล้งปลิดชีพตน ทำให้ต้องมาที่นี่เพื่อรับใช้นางแทน“เป็นคุณหนูจวนอัครเสนาบดีดี ๆ มิเป็น แต่กลับทำแต่เรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ ตายไปเสียยังจะดีกว่า!”เสียงข่มเหงและเสียงบ่นดังอยู่เหนือหัวนางอย่างต่อเนื่อง ลั่วชิงยวนมองดูทุกสิ่งที่แปลกประหลาดนี้ และความทรงจำที่ไม่ใช่ของนางก็พุ่งเข้ามาเมื่อวานนี้เป็นวันอภิเษกสมรสของท่านอ๋องกับลั่วเยวี่ยอิงแต่ลั่วชิงยวนก็ยอมเสี่ยง แสร้งทำว่าตนคือเจ้าสาวในคืนวันแต่งงาน แถมยังจุดกำยานปลุกกำหนัดในห้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 3

    แม่นมเติ้งร้องขึ้นอย่างตกใจ “อุ๊ย คุณหนูรอง มือของคุณหนู!”นางรีบเข้าไปประคองลั่วเยวี่ยอิง พลางก่นด่า “ท่านช่างเป็นหญิงที่ร้ายกาจนัก แย่งงานแต่งคุณหนูรองไปแล้ว คุณหนูยังใจดีป้อนยาให้ ท่านยังกล้าผลักคุณหนูอีก!”ทันใดนั้น ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้อง ปรี่ไปที่ลั่วเยวี่ยอิงด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก “เยวี่ยอิง!”ลั่วเยวี่ยอิงขมวดคิ้ว และยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของนางขึ้น ทำให้ผู้ที่มองเห็นรู้สึกสงสารยิ่งนักฟู่เฉินหวนมองไปที่มือของลั่วเยวี่ยอิงที่เต็มไปด้วยเลือด ก่อนจะมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาตลั่วชิงยวนรีบพูดขึ้นทันที “หม่อมฉัน…”แต่ยังไม่ทันที่จะได้อธิบาย ก็มีเงาปกคลุมมาที่นางก่อนที่ร่างของนางจะถูกกระชากลงมาจากเตียง จนล้มตัวลงกับพื้น ยังไม่ทันที่จะได้ทรงตัว มือใหญ่ก็ตวัดลงมาอย่างแรงทันใดนั้น ในหัวของนางก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น ก่อนจะรู้สึกแสบร้อนและระบมที่แก้มยังไม่ทันที่นางจะได้สติ ลั่วเยวี่ยอิงรีบคว้าแขนเสื้อฟู่เฉินหวน และขอร้องอ้อนวอน “ท่านอ๋องข้ามิระวังเอง อย่าโทษท่านพี่เลยเพคะ!”แม่นมเติ้งรีบฟ้องท่านอ๋องทันที “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเห็นกับตาว่า คุณหนูรองป้อนยาให้ แต่พระชายามิรับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 4

    ดวงตาของนางแดงก่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชานางปิดประตู ยกมือขึ้นกดหน้าอกที่ยังปวดอยู่ พลางเดินกลับไปนั่งทำสมาธิบนเตียงการมาเข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางแทบจะไม่มีพละกำลังนางคือนักบวชที่ทุกคนต่างเคารพในแคว้นหลี่ นอกเหนือจากทักษะพิเศษด้านฮวงจุ้ย การอ่านโหงวเฮ้ง และการทำนายดวงชะตาแล้ว นางยังมีวรยุทธที่น่าเกรงขาม แบบหนึ่งต่อร้อยเมื่อนึกถึงตรงนี้ นางก็คิดถึงร่างกายของตนเองเป็นอย่างมาก นางฝึกฝนวรยุทธตั้งแต่ยังเด็ก เส้นลมปราณของนางค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ข้ารับใช้เหล่านี้ไม่สามารถจะกลั่นแกล้งนางได้น่าเสียดาย บัดนี้ร่างกายของนางน่าจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว… พอกลับมาที่ห้องตำรา ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกซูโหยวเดินมาเคาะประตู “ท่านอ๋อง คืนนี้ยังจะส่งชายพวกนั้นไปแกล้งขู่คุณหนูลั่วอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”พอได้ยิน ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก “ช่างเถอะ”เมื่อคืนนี้เขาได้สั่งสอนนางไปแล้ว หากขู่นางอีก นางคงแกล้งปลิดชีพตนไม่จบไม่สิ้นเสียทีและถ้าหากนางตายขึ้นมาจริง ๆ คงจะรายงานกับจวนอัครเสนาบดีได้ยากซูโหยวพยักหน้ารับ “พ่ะย่ะค่ะ”……ฟึ่บบบานประตู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 5

    “ก็ช่วยไปแล้ว เหตุใดจะต้องมีเหตุผลด้วยเล่า?” ลั่วชิงยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยจากนั้นนางก็หันหลังและจากไปเมื่อเห็นว่านางกำลังจะเดินจากไปไกล แม่นมเติ้งก็รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เลยอดไม่ได้ที่จะเรียกนางไว้ "พระชายาเจ้าคะ!" ลั่วชิงยวนชะงักฝีเท้า แม่นมเติ้งรีบก้าวไปข้างหน้าทันที“บ่าวขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องดูแลรับใช้ท่าน บ่าวก็คงได้ออกจากตำหนักไปนานแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่บ่าวรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยระบายความโกรธใส่ท่าน..." แม่นมเติ้งก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดนางไม่คิดว่า พระชายาจะเข้ามาช่วยนาง มิเช่นนั้นนางคงถูกเมิ่งจิ่นอวี่ทุบตีจนตายเป็นแน่! แล้วนางยังช่วยต่อแขนของตนอีกด้วย ซึ่งนั่นแตกต่างจากข่าวลือที่ว่านางคือนางงูพิษโดยสิ้นเชิงเมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเหตุผลแม่นมเติ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง "หากท่านต้องการอยู่ในตำหนักต่อไป ก็อย่าได้ทำให้เมิ่งจิ่นอวี่ขุ่นเคืองเลยเจ้าค่ะ นางเป็นสาวใช้ชั้นหนึ่งในตำหนัก แล้วยังเป็นลูกสาวของแม่บ้านของตำหนักนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ""ไม่ทันแล้วกระมัง" มาพูดเอาป่านนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วแม่นมเติ้งมองไปรอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 6

    ลั่วชิงยวนหยิบไม้ที่อยู่ตรงมุมกำแพงขึ้นมา และหวดไม้ใส่เมิ่งจิ่นอวี่จนหมดสติ นางหยิบหมั่นโถวชิ้นเล็ก ๆ ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยัดเข้าไปในปากของเมิ่งจิ่นอวี่ ทำให้นางกลืนมันลงไปชายบางคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางหน้าต่าง คิดว่าลั่วชิงยวนกำลังจะหนีออกไป "นี่! คิดจะหนีรึ!" หนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้า และกระชากนางลงมาทันที ลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ปล่อยตัวเมิ่งจิ่นอวี่ พวกนั้นคิดว่าเมิ่งจิ่นอวี่ที่สลบไปคือลั่วชิงยวน จึงได้พานางกลับไปที่เตียงลั่วชิงยวนพิงผนังและฟังเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อแน่ใจว่ามันเป็นไปตามแผน นางจึงหันหลังและจากไปอย่างสบายใจในความมืด นางแอบเดินเข้าไปในครัวด้านหลัง หลังจากค้นหาทั่วครัวก็ไม่มีอะไรเหลือให้กิน! นางจึงหามุมเพื่อเอนตัวลงนอน ก่อนจะผล็อยหลับไปณ ห้องตำราฟู่เฉินหวนกำลังจะหยุดพักหลังจากทำงานเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตื่นตระหนกของลั่วเยวี่ยอิง "ท่านอ๋อง ท่านบรรทมอยู่หรือไม่เพคะ?"เมื่อได้ยินเสียงที่ลุกลน ฟู่เฉินหวนจึงรีบก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู "มีเรื่องอันใดรึ?"ลั่วเยวี่ยอิงมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาที่ชุ่มน้ำของน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 7

    เมิ่งจิ่นอวี่และคนรับใช้พวกนี้ไม่ควรปรากฏตัวในห้องของลั่วชิงยวน แต่คืนนี้กลับมารวมตัวกันในห้องของนาง แถมนางยังไม่ได้อยู่ในห้องอีก เลยทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า หรือนี่อาจจะเป็นแผนการของลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรู้สึกสับสน นางขมวดคิ้วพร้อมพลางมองด้วยสายตาเย็นชา "ท่านกำลังสอบสวนนักโทษอยู่หรือเพคะ?" เมื่อเห็นดังนั้น ลั่วเยวี่ยอิงก็รีบไปข้างหน้า และคว้าแขนของนาง จงใจใช้เสียงเบาที่ทุกคนได้ยินกล่าวว่า "ท่านพี่ อย่าพูดกับท่านอ๋องแบบนี้สิเจ้าคะ คืนนี้ท่านทำอะไร บอกความจริงกับท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ท่านอ๋องไม่ทำอะไรท่านพี่หรอก” การกระทำของลั่วเยวี่ยอิง ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ลั่วชิงยวนเป็นคนทำจริง ๆดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก นางจงใจหลุบตาลงอย่างรู้สึกผิด และกระซิบตอบ "ข้ายอมรับว่าคืนนี้ข้าทำบางสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้..."เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นตกใจ และเปล่งเสียงออกมา "อะไรนะเจ้าคะ? ท่านพี่สับสนขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!"ลั่วเยวี่ยอิงดึงลั่วชิงยวนไปข้างหน้า และพูดกับนางด้วยท่าทางเคร่งขรึม "ท่านพี่ ท่านยอมรับผิดต่อท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ไม่เป็นไรหรอกเจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 8

    ภายใต้คำวิจารณ์ สีหน้าของลั่วชิงยวนยังคงเรียบเฉย นางเดินตรงไปข้างหน้าคนรับใช้ที่คุกเข่าเหล่านั้น และถามอย่างใจเย็น "พวกเจ้าพูดว่าข้าเป็นคนสั่งอย่างนั้นรึ?"“เช่นนั้นจงพูดมา ข้าไปสั่งให้พวกเจ้าที่ไหน เมื่อไหร่? แล้วให้เข้ามาในห้องนี้เวลาใด?”“ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือห้องของพระชายา พวกเจ้าก็ตกลงเข้ามาอย่างง่ายดายเช่นนั้นเลยรึ? ข้าตั้งเงื่อนไขอะไรให้กับพวกเจ้ากัน? ถึงได้กล้าเสี่ยงชีวิตมาที่นี่?” เมื่อนางถามออกไปเช่นนั้น สีหน้าของคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาจ้องไปที่เมิ่งจิ่นอวี่ เห็นได้ชัดว่ากำลังขอความช่วยเหลือจากเมิ่งจิ่นอวี่พวกเขาควรตอบอย่างไรดีฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย มองดูฉากนี้อย่างเงียบ ๆ เขายังมองไปที่ลั่วชิงยวน ในสถานการณ์ที่มีศัตรูจำนวนมาก แต่นางยังสามารถควบวคุมสติอารมณ์ได้ ลั่วชิงยวนผู้นี้ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว"พูดมาสิ? ข้าเป็นคนสั่งพวกเจ้าใช่หรือไม่? ข้าพูดอะไรกับพวกเจ้า เล่ามันออกมา?" ลั่วชิงยวนตะคอกเบา ๆเห็นดังนั้นเมิ่งจิ่นอวี่ก็รู้สึกเป็นกังวล แผนของพวกนางผิดเพี้ยนไปหมด นางไม่สามารถเชื่อมโยงคำถามเหล่านี้ได้เลยเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ นางก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 9

    ลั่วชิงยวนเห็นว่าคิ้วของฟู่เฉินหวนล้อมรอบด้วยวิญญาณชั่วร้าย รอบดวงตาค้ำ นางขมวดคิ้ว และอดไม่ได้ที่จะเตือนเขาอีกครั้ง "ท่านอ๋อง แล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ ก็ไม่มีความหวังจริง ๆ ! ข้าแนะนำว่าอย่าออกไปไหนเป็นเวลาสองวัน มิเช่นนั้นจะเกิดการนองเลือด!"อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฟู่เฉินหวนได้ยินคำพูดของนาง เขาก็ไม่ได้เก็บมันมาคิดเลย แถมยังขู่กลับไปอีกด้วยว่า "หากเจ้ายังคงสร้างความสับสนให้กับผู้คนในตำหนักด้วยเรื่องไร้สาระนี้ และพูดชื่อของลั่วเยวี่ยอิงอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะตัดลิ้นและหัวของเจ้าซะ!” ลั่วชิงยวนสถบเบา ๆ นางอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี แต่ในสายตาของฟู่เฉินหวนกลับคิดว่านางกำลังใส่ร้ายลั่วเยวี่ยอิง ไม่น้อมรับน้ำใจคนก็แล้วไป เขาจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวกับนางเสียหน่อย! หากเขาตาย นางจะได้ไม่ต้องขอใบหย่า! นางเองก็ขี้เกียจเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงก้าวเท้าเดินกลับห้องไป ด้วยสถานะคุณหนูใหญ่ของจวนอัครเสนาบดี ฟู่เฉินหวนจึงจะยังไม่ฆ่านาง แต่เขาก็จะไม่ปล่อยให้นางมีชีวิตที่ดีเช่นกันนางต้องรอดูก่อนว่าฟู่เฉินหวนจะรอดจากหายนะครั้งนี้ได้หรือไม่ เพราะในตัวเขามีพลังงานมังกรอยู่ บางทีเขาอาจจะมีสิ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1244

    จากนั้นเขาก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ดวงตาแดงก่ำ มือที่บีบคอของลั่วฉิงออกแรงมากขึ้น เสียงของเขาแหบพร่าด้วยความโกรธ “คืออะไร! วิธีนั้นคืออะไร!”ลั่วฉิงถูกบีบคอจนหายใจมิออก แต่กลับมิตื่นตระหนกและยังคงแสยะยิ้ม“ท่านอ๋อง อย่าทนอีกเลย ท่านฆ่าข้ามิได้หรอก”“ตอนนี้ท่านคงจะทรมานมาก อยากฆ่าข้าแต่ฆ่ามิได้”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า หากท่านฆ่าข้า บนใต้หล้านี้ก็จะไม่มีใครรู้วิธีแก้ไขการควบคุมของน้ำศักดิ์สิทธิ์อีก”“ท่านอ๋อง ท่านแน่ใจหรือว่าจะใช้กำลังกับข้า?”ลั่วฉิงมิกลัวแม้แต่น้อย ในดวงตายังมีแววท้าทายในที่สุดฟู่เฉินหวนก็ปล่อยมือ ถอยหลังไปหลายก้าว แล้วกระอักเลือดออกมา รู้สึกเจ็บปวดจนเส้นเลือดที่หน้าผากปูดขึ้นมาความโกรธในใจทำให้เขาเกิดความคิดต่อต้านอย่างรุนแรงลั่วฉิงเห็นดังนั้นจึงยกยิ้มอย่างเย็นชา ค่อย ๆ เดินเข้าไปหา “น่าเสียดาย ตอนนี้ท่านรู้ความจริงก็สายไปแล้ว เฉินชีพาลั่วชิงยวนไปแล้ว”“ส่วนจะโดนอะไรบ้าง ข้าเองก็มิรู้”“คนที่ตายด้วยน้ำมือของเฉินชีมีมากมายมิต่างจากลั่วชิงยวนหรอก แค่กระบวนการทรมานอาจจะโหดร้ายหน่อย”คำพูดเหล่านี้ยิ่งทำให้ฟู่เฉินหวนโกรธจัดแต่เขาก็ได้แต่กำมือแน่นอดทน เขาทำอะไรลั่วฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1243

    “การอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลาสุดท้าย อย่างน้อยก็ได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน”“จะได้มิเสียใจภายหลัง”จักรพรรดิสูงสุดกล่าวอย่างลึกซึ้งฟู่เฉินหวนกำมือแน่น กล่าวว่า “เสด็จพ่อ ระหว่างลูกกับนางมีความแค้นต่อกัน ย่อมทำเช่นนั้นมิได้ เจ็บแต่จบดีกว่าเจ็บเรื้อรัง...”จักรพรรดิสูงสุดได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้ว “ว่ากระไรนะ? ความแค้นอันใด?”ฟู่เฉินหวนรู้สึกหนักใจ ในเมื่อลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตอนนี้ก็ถือว่าจักรพรรดิสูงสุดเป็นเสมือนพ่อ เขามิอยากปิดบังความในใจอีกต่อไป“มารดาของนางเคยหลอกลวงเสด็จแม่ของลูก ใช้เสด็จแม่ให้ลูกกินอะไรบางอย่าง ตอนนี้ลูกถูกสิ่งนั้นทรมานจนทนมิไหว”จักรพรรดิสูงสุดขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่า ฮูหยินของอัครเสนาบดีลั่วหลอกลวงเสด็จแม่ของเจ้างั้นหรือ?”“เจ้าไปฟังใครพูดมา? ฮูหยินลั่วกับเสด็จแม่ของเจ้าสนิทกันราวกับพี่น้อง!”ฟู่เฉินหวนตกใจเล็กน้อย ก่อนตอบว่า “นางจึงหลอกลวงเสด็จแม่ของลูก นี่เป็นสิ่งที่เสด็จแม่เขียนไว้ในจดหมายพ่ะย่ะค่ะ”จักรพรรดิสูงสุดได้ฟังก็ส่ายหน้า “ไม่มีทาง! ใครในใต้หล้านี้ก็อาจจะทำร้ายเสด็จแม่ของเจ้าได้ แต่ฮูหยินลั่วจะมิทำ นางสามารถสละชีวิตเพื่อเสด็จแม่ของเจ้าได้”“พ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1242

    แคว้นเทียนเชวียฟู่เฉินหวนป่วยหนัก นอนอยู่บนเตียงหลายวัน เมื่อฟื้นขึ้นจึงรีบออกเดินทางกลับเมืองหลวงโดยมิสนใจคำทัดทาน ไม่มีใครห้ามปรามได้เขาเร่งเดินทางกลับสู่เมืองหลวงฟู่เฉินหวนรีบเข้าวังรายงานภัยคุกคามที่ซีหลิงสิ้นสุดลง ขุนนางในราชสำนักต่างก็ดีใจ“ครั้งนี้ท่านมหาปราชญ์ทำนายถูก เพราะท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการออกรบจึงสามารถยุติสงครามได้!”ผู้คนจึงมองลั่วฉิงในแง่ดีขึ้น“ครั้งนี้ท่านอ๋องสร้างคุณงามความดีอีกแล้ว มิรู้ว่าจักรพรรดิจะประทานรางวัลอะไรให้”...ในห้องทรงพระอักษรฟู่อวิ๋นโจวมิได้ดีใจที่สงครามซีหลิงยุติแต่กลับโมโหมาก เขาถามเสียงดัง “ข้าได้ยินว่ามีคนเห็นลั่วชิงยวนในสนามรบ?! เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”น้ำเสียงเย็นยะเยือกนั้นเต็มไปด้วยความโกรธฟู่เฉินหวนมิตอบ ความเงียบก็คือคำตอบฟู่อวิ๋นโจวเดินเข้ามา “เช่นนั้นเจ้าแอบวางแผนให้ลั่วชิงยวนแกล้งตาย แล้วแอบพานางไปชายแดนซีหลิง เพื่อใช้นางเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนยุติสงครามหรือ?”ฟู่เฉินหวนยังคงมิตอบแต่ฟู่อวิ๋นโจวก็เห็นคำตอบจากความเงียบแล้ว เขาจึงต่อยเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนด้วยความโกรธ ต่อยแรงจนฟู่เฉินหวนล้มลงกับพื้นฟู่เฉินหวนลุ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1241

    ลั่วชิงยวนมิเคยได้ยินน้ำเสียงและคำพูดแบบนี้จากเฉินชีมาก่อนเห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเกาเหมียวเหมี่ยวจริง ๆแต่เกาเหมียวเหมี่ยวชอบเขามาตั้งแต่เด็ก อาจจะเพราะนิสัยคล้ายกัน คนเหี้ยมโหดอย่างเฉินชีจึงมีเสน่ห์ดึงดูดเกาเหมียวเหมี่ยวเป็นพิเศษเกาเหมียวเหมี่ยวจากไปด้วยความโกรธ ก่อนไปนางยังมองลั่วชิงยวนด้วยแววตาอาฆาตในแววตานั้นยังเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาด้วยแท้จริงแล้วเกาเหมียวเหมี่ยวมิได้อ้วน แต่มีรูปร่างอวบอิ่ม เป็นแบบที่บุรุษเห็นแล้วชื่นชอบ สตรีเห็นแล้วอิจฉาแต่เฉินชีกลับด่านางว่าอ้วนลั่วชิงยวนคิดในใจว่า หากนางมิได้ผอมลง เฉินชีคงจะมิสนใจนางน่าเสียดาย คงจะอ้วนขึ้นมามิได้ในเวลาอันสั้นเมื่อภัยอันตรายผ่านพ้นไป เตี่ยฉุยก็กลับเข้าไปในหยกแต่ในจังหวะที่เขาออกจากร่าง กลับทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลง จึงรีบยันต้นไม้ไว้ดูเหมือนว่าต่อไปหากมิใช่สถานการณ์คับขันก็มิสามารถให้เตี่ยฉุยเข้าสิงร่างได้แล้ว เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังของนางมากเฉินชีรีบเข้ามาพยุงนาง “เป็นอะไรหรือไม่?”ลั่วชิงยวนผลักเขาออกอย่างเย็นชานางกล่าวเสียงเย็น “เจ้ากับหญิงบ้าคนนั้นช่างเหมาะสมกันนัก”เฉินชีเลิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1240

    ลั่วชิงยวนขยี้ยันต์จนแหลกละเอียด เตี่ยฉุยถูกดูดเข้าไปในร่างของลั่วชิงยวนในจังหวะที่แส้ฟาดมา ลั่วชิงยวนรีบยื่นมือออกไปรับพลันคว้าแส้ไว้แล้วดึงอย่างแรง ก่อนจะเหวี่ยงเกาเหมียวเหมี่ยวกระเด็นออกไปเกาเหมียวเหมี่ยวตกใจ แต่ยังรีบกระโจนเข้ามา ลั่วชิงยวนถือโอกาสต่อยเข้าที่ท้องของเกาเหมียวเหมี่ยวอย่างแรงซัดนางกระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ ล้มลงกับพื้นแล้วกระอักเลือด“เจ้า! เจ้าเป็นใครกันแน่!” เกาเหมียวเหมี่ยวมองหญิงสาวที่อ่อนแอและซีดเซียวตรงหน้าด้วยความตกใจมิอยากจะเชื่อว่านางจะสามารถควบคุมวิญญาณให้เข้าสิงร่างได้หากคนที่ถูกสิงไม่มีพลังและจิตใจที่แข็งแกร่งย่อมถูกกลืนกินได้ทุกเมื่อโดยเฉพาะวิญญาณเร่ร่อนที่ไปเกิดใหม่มิได้นั้นก็อยากจะมีร่างอยู่แล้วเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวผู้นี้อ่อนแอและมิน่าจะสามารถควบคุมวิญญาณได้ ทว่านางมิเพียงแต่ควบคุมได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ด้วย“ลั่วชิงยวน” นางเอ่ยชื่อสามพยางค์น้ำเสียงเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่นเจือปนแต่พลังที่แผ่ซ่านออกมากลับทำให้น่าหวาดกลัวอย่างบอกมิถูกแต่ในตอนนั้น ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก เลือดเอ่อล้นขึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1239

    ฉู่จิ้งคลี่ยิ้ม รอยยิ้มนั้นแสนอ่อนโยน......เฉินชีลงเขาไปสามวันแล้วบอกว่าจะไปฆ่าลั่วฉิง ลั่วชิงยวนก็มิรู้ว่าเขาจะฆ่าลั่วฉิงจริงหรือไม่ได้แต่รอผลลัพธ์นางอยู่ในห้องสามวัน มิออกไปไหน แค่เปิดประตู นอนมองทิวทัศน์นอกประตูอยู่บนเก้าอี้กินยามาหลายวัน ในที่สุดร่างกายก็มีแรงขึ้นบ้างแล้วคืนหนึ่งลั่วชิงยวนลุกขึ้นไปเดินยืดเส้นยืดสายที่ลานและฝึกฝนด้วยเข็มทิศทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากในป่าแต่มิใช่เสียงฝีเท้าของเฉินชีลั่วชิงยวนจ้องมองไปที่ป่าสายตาพลันเห็นหญิงสาวชุดฟ้าเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน สีหน้ามิเป็นมิตรเมื่อเห็นผู้มาเยือน ลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อยเกาเหมียวเหมี่ยว!นางมาที่นี่ได้อย่างไรในตอนนี้เกาเหมียวเหมี่ยวก็กำลังจ้องมองหญิงสาวในลานอยู่ นางสวมชุดขาว สวมผ้าคลุมสีดำ ใบหน้างามราวกับหยกซีดเซียวท่ามกลางแสงจันทร์เหมือนคนตายใช่แล้ว! เฉินชีชอบแบบนี้!“เจ้าคือพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการที่เฉินชีลักพาตัวมาจากแคว้นเทียนเชวียใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนตอบอย่างใจเย็น “เขียนหนังสือหย่าแล้ว มิใช่พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแล้ว”“ข้ามิสนว่าเจ้าจะเป็นพระชายาผู้สำเร็จราชการหร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1238

    เซียวชูได้ยินดังนั้นก็ตกใจ รีบกล่าวด้วยความร้อนใจ “เห็ดหลินจือน้ำแข็งอยู่ที่ใด ข้าจะไปตามหา!”เซียวชูพูดจบก็จะวิ่งออกจากห้องไปแต่ในตอนนั้นเอง พลันมีเสียงดังมาจากด้านนอก“ข้ามีเห็ดหลินจือน้ำแข็ง!”ในวินาทีต่อมา ซ่งเชียนฉู่ก็วิ่งเข้ามาด้วยความร้อนใจ“เชียนฉู่?” ซ่งอวี่ตกใจซ่งเชียนฉู่รีบหยิบเห็ดหลินจือน้ำแข็งส่งให้ซ่งอวี่ “ท่านพ่อ รีบช่วยชีวิตคนเถิดเจ้าค่ะ”ซ่งอวี่ตาเป็นประกาย รีบลงมือทันใดเซียวชูซาบซึ้งใจ “คุณหนูซ่ง ขอบคุณมาก!”ซ่งเชียนฉู่ยังคงหอบหายใจขณะถามว่า “ชิงยวนเล่า? นางพักอยู่ที่ใด?”เป็นฉู่จิ้งที่ไปรับนางบนเขา แล้วจึงพานางกลับมาซีหลิงได้อย่างรวดเร็วมิเช่นนั้นหากนางเดินทางเองคงต้องใช้เวลาอีกสองวันกว่าจะถึงเซียวชูได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าลำบากใจ รีบพาซ่งเชียนฉู่ออกไปข้างนอกแล้วกล่าวอย่างลังเล “พระชายาไปกับเฉินชีแล้ว”“ไปแคว้นหลี”ซ่งเชียนฉู่ได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ “ว่ากระะไรนะ? นางไปแคว้นหลีแล้วหรือ?”“เหตุใดกัน?”เซียวชูจึงเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ซ่งเชียนฉู่ฟังเรื่องราวตอนนั้นเกิดขึ้นกะทันหัน เซียวชูจึงมิรู้ว่าเหตุใดพระชายาจึงไปกับเฉินชีหลังจากที่ซ่งเชียนฉู่ฟั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1237

    แต่ในตอนนี้จู่ ๆ ก็กลับนึกขึ้นได้ราวกับย้ำเตือนนางว่า ความหวังดีชั่วคราวของเฉินชีอาจจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงชายคนนี้โหดเหี้ยมไร้ยางอายมาตั้งแต่เด็กเป็นคนไร้หัวใจ“อาเหลา มานี่สิ กินยาก่อนเถิด” ทันใดนั้นก็มีเสียงของเฉินชีดังขึ้นลั่วชิงยวนจึงได้สติกลับมานางรับชามยามาแต่วางไว้บนโต๊ะ “ร้อน”“เช่นนั้นข้าเป่าให้”แต่ลั่วชิงยวนยกมือห้ามเขา “มิต้อง”เฉินชีหยิบขวดยาอีกสองขวดวางไว้บนโต๊ะ“ยานี้รักษาอาการบาดเจ็บภายใน อย่าลืมกินด้วย”กล่าวจบเฉินชีก็เดินออกไป เขาวุ่นวายอยู่ในกระท่อมบนเขา ทั้งปูที่นอน เตรียมอาหารและอาภรณ์ให้นางลั่วชิงยวนนอนอยู่บนเก้าอี้ตลอด มิอยากขยับตัวหลังจากกินยาแล้วก็หลับไปเฉินชีเติมฟืนในเตาผิงเสร็จจึงจากไปในเมื่อนางให้เขาฆ่าลั่วฉิง เขาก็ต้องทำให้สำเร็จ......ซีหลิงฟู่เฉินหวนบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่บนเตียง เซียวชูแบกซ่งอวี่ขึ้นหลังวิ่งมาเมื่อถูกวางลงบนพื้น ซ่งอวี่ก็ตกใจ พลันรีบเข้าไปตรวจชีพจรและตรวจดูบาดแผลให้ฟู่เฉินหวนก่อนจะกล่าวด้วยความตกใจมาก “เหตุใดจึงมีบาดแผลมากมายเช่นนี้”“ท่านหมอซ่ง ตอนนี้มีเพียงท่านเท่านั้นที่ช่วยท่านอ๋องได้ ได้โปรดช่วยรักษาช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1236

    เฉินชีตกตะลึง หลังจากครุ่นคิดสักพักจึงพยักหน้า “ได้!”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยแววตาลึกล้ำ “จริงหรือ? เจ้าตัดใจได้หรือ?”เฉินชีนั่งลงรินชาใส่ถ้วย แล้วยื่นให้นาง “มีเพียงอาเหลาเท่านั้นที่ทำให้ข้าตัดใจมิได้”“รอให้ร่างกายของเจ้าดีขึ้น ข้าค่อยไปฆ่าลั่วฉิงได้หรือไม่?”“บนเขานี้ไม่มีใครดูแลเจ้า ข้ามิวางใจ”ลั่วชิงยวนก้มหน้า นัยน์ตาฉายแววเย็นชาขณะกล่าวเสียงแผ่วเบา “กลัวข้าหนีหรือ”“เจ้าสบายใจได้ ในเมื่อข้าเต็มใจไปกับเจ้าแล้วก็จะมิกลับไปอีก”เมื่อก้าวออกจากซีหลิง นางก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับแคว้นเทียนเชวียอีกต่อไปนางตายครั้งแล้วครั้งเล่า ควรจะตัดใจได้แล้วเวลาที่เหลือ นางจะทำสิ่งที่อาจารย์ยังทำมิเสร็จให้สำเร็จ“เช่นนั้นรอข้าไปหาสมุนไพรมาให้เจ้าก่อน”ตอนนี้เฉินชีอ่อนโยนราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนแต่ลั่วชิงยวนก็หาได้แปลกใจไม่เอาแน่เอานอนมิได้ นิสัยเปลี่ยนแปลงง่าย นี่คือที่มาของฉายาเฉินชีจอมบ้าคลั่งลั่วชิงยวนหลับตาลง อยากจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า มิอยากตื่นขึ้นมาอีกเลยเฉินชีออกจากห้อง ปิดประตูแล้วเดินออกไปหลังจากรีบไปเก็บสมุนไพรแล้วเขาก็วิ่งขึ้นเขาด้วยความเหนื่อยหอบ เมื่อผลักปร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status