แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-04-28 10:51:23
ดวงตาของนางแดงก่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

นางปิดประตู ยกมือขึ้นกดหน้าอกที่ยังปวดอยู่ พลางเดินกลับไปนั่งทำสมาธิบนเตียง

การมาเข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางแทบจะไม่มีพละกำลัง

นางคือนักบวชที่ทุกคนต่างเคารพในแคว้นหลี่ นอกเหนือจากทักษะพิเศษด้านฮวงจุ้ย การอ่านโหงวเฮ้ง และการทำนายดวงชะตาแล้ว นางยังมีวรยุทธที่น่าเกรงขาม แบบหนึ่งต่อร้อย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ นางก็คิดถึงร่างกายของตนเองเป็นอย่างมาก นางฝึกฝนวรยุทธตั้งแต่ยังเด็ก เส้นลมปราณของนางค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ข้ารับใช้เหล่านี้ไม่สามารถจะกลั่นแกล้งนางได้

น่าเสียดาย บัดนี้ร่างกายของนางน่าจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว…

พอกลับมาที่ห้องตำรา ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

ซูโหยวเดินมาเคาะประตู “ท่านอ๋อง คืนนี้ยังจะส่งชายพวกนั้นไปแกล้งขู่คุณหนูลั่วอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

พอได้ยิน ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก “ช่างเถอะ”

เมื่อคืนนี้เขาได้สั่งสอนนางไปแล้ว หากขู่นางอีก นางคงแกล้งปลิดชีพตนไม่จบไม่สิ้นเสียที

และถ้าหากนางตายขึ้นมาจริง ๆ คงจะรายงานกับจวนอัครเสนาบดีได้ยาก

ซูโหยวพยักหน้ารับ “พ่ะย่ะค่ะ”

……

ฟึ่บบ

บานประตูถูกเปิดออก แสงสลัวส่องเข้ามาในห้อง

พระอาทิตย์ตกดินแล้วหรือนี่

นางรับใช้แสนสวยเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางยโส เย้ยหยัน “พระชายา นี่ท่านอยากจะเป็นนางฟ้าอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนที่นั่งไขว่ห้างอยู่ลืมตาขึ้น ดวงตาของนางเย็นชาและเฉียบคม

เพียงสบตา เมิ่งจิ่นอวี่ก็รู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย

นางยกมือขึ้นมาทักทาย พลางถือสำรับเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า “พระชายาไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน คงจะหิวน่าดู นี่คือความเมตตาจากท่านอ๋องที่มีต่อท่านเจ้าค่ะ”

เหล่านางรับใช้ถือถาดเข้ามาทีละคน และในถาดก็เต็มไปด้วยหมั่นโถว

“กินเถิดเพคะ กินเสร็จแล้วยังมีงานที่ต้องทำเจ้าค่ะ” เมิ่งจิ่นอวี่มองนางอย่างมีความหมาย ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

หลังจากพูดจบ นางก็ก้าวออกจากห้องไป เมื่อเดินไปถึงประตู ไม่วายหันกลับมาจ้องลั่วชิงยวนด้วยสายตาดุร้าย

นางเฝ้ารอมานานหลายปีแล้ว ต้องการที่จะเป็นนางรับใช้ของท่านอ๋อง หากลั่วเยวี่ยอิงได้เป็นพระชายา นางก็จะกลายเป็นสาวรับใช้ท่านอ๋องในคืนนี้!

อีกนิดเดียวความฝันของนางก็จะได้กลายเป็นจริง แต่กับโดนผู้หญิงคนนี้ทำลาย!

น่าเกลียดขนาดนี้ ยังเหมาะจะเป็นพระชายาหรือ? ถุย!

ลั่วชิงยวนได้กลิ่นหอมของหมั่นโถวนึ่งร้อน ๆ ท้องของนางก็ร้องขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ นางหิวมากจริง ๆ

หมั่นโถวก็หมั่นโถวสิ การกินหมั่นโถวสักสองสามคำคงไม่ทำให้นางติดคอตายหรอก

นางลุกขึ้นเดินไปนั่งที่มุมโต๊ะหยิบหมั่นโถวขึ้นมาหนึ่งลูก ก่อนจะกัดและเคี้ยวสองครั้ง ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และคายมันออกมาทันที

นางหยิบหมั่นโถวที่อยู่บนจานใกล้ ๆ ขึ้นมาดมทีละอัน พวกมันถูกใส่ยาทั้งหมด!

​​ผงมหาสุข มันสามารถสร้างภาพหลอนที่รุนแรง และสามารถอยู่ได้นานถึงสี่ชั่วโมง จะทำให้คนที่กินมันเข้าไปเห็นแต่คนที่นึกถึงในใจ โดยไม่แยกแยะรูปร่างหน้าตาว่าเป็นคนหรือสัตว์

เมื่อคืนนี้ใช้กำยาน คืนนี้เปลี่ยนมาใช้ผงมหาสุข

เป็นเพราะว่าวันนี้นางทำร้ายลั่วเยวี่ยอิง ฟู่เฉินหวนถึงได้เกลียดนางเข้าไปอีก ดังนั้นจึงใช้วิธีแก้แค้นที่เลวร้ายแบบนี้อย่างนั้นรึ!

ท่านอ๋องแห่งแคว้นเทียนเชวียนั้นดุร้ายอย่างที่เล่าลือกันจริง ๆ

หมั่นโถวโดนใส่ยาทั้งหมด นางไม่สามารถกินมันเข้าไปได้ จึงทำได้เพียงอดทนกับความหิวเท่านั้น

มีแสงเย็นวาบเกิดขึ้นมาในดวงตาของนาง ฟู่เฉินหวนต้องการทรมานนาง แต่นางไม่ใช่ลั่วชิงยวนที่ยอมเชื่อฟังทุกอย่าง!

นางซ่อนหมั่นโถวสามลูกไว้ใต้เตียง ทำทีว่ากินหมั่นโถวเข้าไปแล้ว

ในความเงียบ มีเสียงทุบตีและดุด่าจากลานด้านนอก และมีเสียงแผ่ว ๆ ของแม่นมเติ้ง นางสงสัยจึงเดินตามเสียงออกไป

​และเห็นแม่นมเติ้งถูกนางรับใช้หลายคนลุมเตะอย่างทารุณ นางร้องอ้อนวอนด้วยความเจ็บปวด “แม่นางจิ่น แม่ของข้าป่วยหนัก เกรงว่าจะไม่ไหวแล้ว ข้าต้องรีบกลับไปจริง ๆ หากท่านตบตีระบายความโกรธข้าเสร็จแล้ว ได้โปรดอนุญาตให้ข้าออกไปนอกตำหนักด้วยเถิดนะเจ้าคะ?”

เมิ่งจิ่นอวี่กอดอก และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยังไม่ทันตายเสียหน่อย! ตายแล้วค่อยว่ากัน!”

แม่นมเติ้งกระวนกระวายมาก นางรีบคว้าแขนเสื้อของเมิ่งจิ่นอวี่ พลางขอร้อง “แม่นางจิ่น ข้าขอร้องล่ะนะ! ข้าขอร้อง…”

“ถอยไป!” ในระหว่างที่ฉุดกระชากกันอยู่นั้น แขนเสื้อของเมิ่งจิ่นอวี่ก็ขาด และนางก็เตะหน้าอกแม่นมเติ้งอย่างรุนแรง พร้อมทั้งด่ากราด “นังหญิงชรา! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อตัวนี้แพงแค่ไหน! เอาเจ้าไปขายยังชดใช้มิได้เลย! ถุย! หญิงชราเช่นนี้ขายให้ใครก็ไม่มีใครเอา!”

ลั่วชิงยวนมองดูด้วยความโกรธ นางรับใช้คนนี้เป็นคนที่ให้หมั่นโถวกับนาง ทำไมถึงได้ทำเยี่ยงนี้?

แถมยังกล้าเตะแม่นมเติ้งอีกด้วย

แม่ของแม่นมเติ้งป่วยหนัก และนางต้องการกลับบ้าน ขัดขวางมิให้กลับก็แล้วไป แต่อายุปูนนี้แล้วยังโดนทำให้อับอายขายขี้หน้าเช่นนี้อีก!

นางมิได้มีจิตใจแม่พระ แต่ก็ไม่สามารถมองคนโดนทุบตีจนตายได้

“หยุดเดี๋ยวนี้!” ลั่วชิงยวนเอ่ยเสียงกร้าว พลางก้าวออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางผลักนางรับใช้สองสามคนที่กำลังเตะแม่นมเติ้งออกไป

เมื่อเห็นนาง เมิ่งจิ่นอวี่ก็เงยหน้าขึ้นทันที แสดงท่าทางเย่อหยิ่งก่อนจะพูดออกมาเสียงเย็น “พระชายานี่ยุ่งไม่เข้าเรื่องเสียจริง ท่านทำร้ายเจ้าสาวตัวจริง แล้วยังมายุ่งเรื่องการสั่งสอนบ่าวไพร่ของข้าอีก ถ้าพระชายาใจดีเยี่ยงนี้ เหตุใดมิทำความสะอาดห้องน้ำทั้งหมดในตำหนัก เพื่อให้คนรับใช้ได้พักผ่อนล่ะเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนไม่แสดงสีหน้าใด ๆ นางยกฝ่ามือขึ้นมาตวัดลงไป พลางกล่าวเสียงเย็น “ไพร่อย่างเจ้ากล้าดีอย่างไรมาใช้ข้า? ไปเอาความกล้านี้มาจากที่ใดกัน!”

ข้อดีของขนาดร่างกายนาง ตบของลั่วชิงยวนนั้นค่อนข้างทรงพลัง ทำเอาร่างของเมิ่งจิ่นอวี่นั้นลอยออกไปไกล ก่อนจะหมุนอยู่สองสามรอบ กว่าร่างนั้นจะทรงตัวได้ นางรับใช้ต่างอุทานอย่างตกใจ พลางคว้าแขนของนางเอาไว้

นางรับใช้ตกตะลึงกับการกระทำนี้ แม่นมเติ้งเองก็ตกใจเช่นกัน

เมิ่งจิ่นอวี่รู้สึกไม่อยากเชื่อ เมื่อนางทรงตัวได้ก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้านางมีรอยนิ้วมือห้านิ้ว และเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก "ท่านตบข้างั้นรึ?!!"

“ท่านมันผู้หญิงสารเลว! ท่านอ๋องยังมิทรงกล้าตีข้าด้วยซ้ำ ท่านบังอาจตบข้า?” เมิ่งจิ่นอวี่จ้องมอง และก่นด่าด้วยความโกรธ

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว "โอ้? เจ้าเป็นคนร่ำรวยอะไรขนาดนั้นเชียวรึ แม้แต่ท่านอ๋องยังมิทรงกล้าตบเจ้า?"

เมื่อถูกลั่วชิงยวนจี้ด้วยคำพูด หน้าของนางก็ถอดสี “ข้า…”

เมื่อสติกลับมา เมิ่งจิ่นอวี่ก็จ้องหน้านางด้วยความโกรธ “เจ้ามันผู้หญิงสารเลว แค่ได้ชื่อว่าพระชายา เจ้าก็นึกว่าตัวเองเป็นพระชายาจริง ๆ แล้วรึ? อยู่ในตำหนักนี้ เจ้ามันต่ำกว่าสัตว์เสียอีก! กล้าที่จะรุกรานข้า จงเตรียมตัวไว้เถอะ!”

เมิ่งจิ่นอวี่ยกมือขึ้นปิดแก้ม จ้องมองนางด้วยความโกรธก่อนจะเดินจากไป

กล้าตบนางหรือ? คืนนี้จะต้องทำให้นังผู้หญิงสารเลวคนนี้ได้เห็นดีแน่

ทั้งเมิ่งจิ่นอวี่และนางรับใช้เดินออกไปแล้ว แม่นมเติ้งพยายามลุกขึ้น โดยที่ร่างกายเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ลั่วชิงยวนอยากจะกลับหลังเดินหนีไป แต่เมื่อเห็นแขนที่แกว่งไปมาของแม่นมเติ้ง นางก็แน่ใจว่าแขนของแม่นมเคลื่อน

นางก้าวไปข้างหน้าทันที และกดไหล่ขวาของแม่นมเติ้ง

การกระทำของนางทำให้แม่นมเติ้งตกใจกลัว และพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง “นี่ท่านจะทำอะไร! ปล่อยข้านะ!”

“อย่าขยับ แขนของเจ้าเคลื่อนแล้ว” ลั่วชิงยวนเอ่ยเสียงดุ

แม่นมเติ้งมองนางด้วยความประหลาดใจ นางมิอยากจะเชื่อเลยว่า ลั่วชิงยวนมิได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา

นางใช้โอกาสตอนที่แม่นมเติ้งยังไม่ได้สติดี ลั่วชิงยวนพบตำแหน่งที่ถูกต้อง และดึงแขนกลับอย่างเรียบร้อย

เสียงกระดูกลั่นดังขึ้น ใบหน้าของแม่นมเติ้งซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด นางกัดฟันแน่น

“เรียบร้อยแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนั้น แม่นมเติ้งรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก นางจึงลองขยับแขนดู กลายเป็นว่ามันหายแล้วจริง ๆ !

แม่นมเติ้งมองลั่วชิงยวนอย่างไม่เชื่อสายตา “ท่าน…ทำไมท่านถึงช่วยข้า?”

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Pailin
ไม่สมเหตุสมผล พ่อแม่ไม่มาดู ให้ลูกคนลองมา แค่แต่งผิดก็ควรมาพูด ว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้ผู้สำเร็จราชการก็ เลวระยำมาก ส่งคนมาขมขื่นเมียตัวเอง ถึงไม่ชอบเขาแต่กราบไหว้ ฟ้าดินใช่มั้ย ...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 5

    “ก็ช่วยไปแล้ว เหตุใดจะต้องมีเหตุผลด้วยเล่า?” ลั่วชิงยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยจากนั้นนางก็หันหลังและจากไปเมื่อเห็นว่านางกำลังจะเดินจากไปไกล แม่นมเติ้งก็รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เลยอดไม่ได้ที่จะเรียกนางไว้ "พระชายาเจ้าคะ!" ลั่วชิงยวนชะงักฝีเท้า แม่นมเติ้งรีบก้าวไปข้างหน้าทันที“บ่าวขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องดูแลรับใช้ท่าน บ่าวก็คงได้ออกจากตำหนักไปนานแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่บ่าวรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยระบายความโกรธใส่ท่าน..." แม่นมเติ้งก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดนางไม่คิดว่า พระชายาจะเข้ามาช่วยนาง มิเช่นนั้นนางคงถูกเมิ่งจิ่นอวี่ทุบตีจนตายเป็นแน่! แล้วนางยังช่วยต่อแขนของตนอีกด้วย ซึ่งนั่นแตกต่างจากข่าวลือที่ว่านางคือนางงูพิษโดยสิ้นเชิงเมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเหตุผลแม่นมเติ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง "หากท่านต้องการอยู่ในตำหนักต่อไป ก็อย่าได้ทำให้เมิ่งจิ่นอวี่ขุ่นเคืองเลยเจ้าค่ะ นางเป็นสาวใช้ชั้นหนึ่งในตำหนัก แล้วยังเป็นลูกสาวของแม่บ้านของตำหนักนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ""ไม่ทันแล้วกระมัง" มาพูดเอาป่านนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วแม่นมเติ้งมองไปรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 6

    ลั่วชิงยวนหยิบไม้ที่อยู่ตรงมุมกำแพงขึ้นมา และหวดไม้ใส่เมิ่งจิ่นอวี่จนหมดสติ นางหยิบหมั่นโถวชิ้นเล็ก ๆ ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยัดเข้าไปในปากของเมิ่งจิ่นอวี่ ทำให้นางกลืนมันลงไปชายบางคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางหน้าต่าง คิดว่าลั่วชิงยวนกำลังจะหนีออกไป "นี่! คิดจะหนีรึ!" หนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้า และกระชากนางลงมาทันที ลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ปล่อยตัวเมิ่งจิ่นอวี่ พวกนั้นคิดว่าเมิ่งจิ่นอวี่ที่สลบไปคือลั่วชิงยวน จึงได้พานางกลับไปที่เตียงลั่วชิงยวนพิงผนังและฟังเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อแน่ใจว่ามันเป็นไปตามแผน นางจึงหันหลังและจากไปอย่างสบายใจในความมืด นางแอบเดินเข้าไปในครัวด้านหลัง หลังจากค้นหาทั่วครัวก็ไม่มีอะไรเหลือให้กิน! นางจึงหามุมเพื่อเอนตัวลงนอน ก่อนจะผล็อยหลับไปณ ห้องตำราฟู่เฉินหวนกำลังจะหยุดพักหลังจากทำงานเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตื่นตระหนกของลั่วเยวี่ยอิง "ท่านอ๋อง ท่านบรรทมอยู่หรือไม่เพคะ?"เมื่อได้ยินเสียงที่ลุกลน ฟู่เฉินหวนจึงรีบก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู "มีเรื่องอันใดรึ?"ลั่วเยวี่ยอิงมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาที่ชุ่มน้ำของน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 7

    เมิ่งจิ่นอวี่และคนรับใช้พวกนี้ไม่ควรปรากฏตัวในห้องของลั่วชิงยวน แต่คืนนี้กลับมารวมตัวกันในห้องของนาง แถมนางยังไม่ได้อยู่ในห้องอีก เลยทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า หรือนี่อาจจะเป็นแผนการของลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรู้สึกสับสน นางขมวดคิ้วพร้อมพลางมองด้วยสายตาเย็นชา "ท่านกำลังสอบสวนนักโทษอยู่หรือเพคะ?" เมื่อเห็นดังนั้น ลั่วเยวี่ยอิงก็รีบไปข้างหน้า และคว้าแขนของนาง จงใจใช้เสียงเบาที่ทุกคนได้ยินกล่าวว่า "ท่านพี่ อย่าพูดกับท่านอ๋องแบบนี้สิเจ้าคะ คืนนี้ท่านทำอะไร บอกความจริงกับท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ท่านอ๋องไม่ทำอะไรท่านพี่หรอก” การกระทำของลั่วเยวี่ยอิง ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ลั่วชิงยวนเป็นคนทำจริง ๆดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก นางจงใจหลุบตาลงอย่างรู้สึกผิด และกระซิบตอบ "ข้ายอมรับว่าคืนนี้ข้าทำบางสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้..."เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นตกใจ และเปล่งเสียงออกมา "อะไรนะเจ้าคะ? ท่านพี่สับสนขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!"ลั่วเยวี่ยอิงดึงลั่วชิงยวนไปข้างหน้า และพูดกับนางด้วยท่าทางเคร่งขรึม "ท่านพี่ ท่านยอมรับผิดต่อท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ไม่เป็นไรหรอกเจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 8

    ภายใต้คำวิจารณ์ สีหน้าของลั่วชิงยวนยังคงเรียบเฉย นางเดินตรงไปข้างหน้าคนรับใช้ที่คุกเข่าเหล่านั้น และถามอย่างใจเย็น "พวกเจ้าพูดว่าข้าเป็นคนสั่งอย่างนั้นรึ?"“เช่นนั้นจงพูดมา ข้าไปสั่งให้พวกเจ้าที่ไหน เมื่อไหร่? แล้วให้เข้ามาในห้องนี้เวลาใด?”“ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือห้องของพระชายา พวกเจ้าก็ตกลงเข้ามาอย่างง่ายดายเช่นนั้นเลยรึ? ข้าตั้งเงื่อนไขอะไรให้กับพวกเจ้ากัน? ถึงได้กล้าเสี่ยงชีวิตมาที่นี่?” เมื่อนางถามออกไปเช่นนั้น สีหน้าของคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาจ้องไปที่เมิ่งจิ่นอวี่ เห็นได้ชัดว่ากำลังขอความช่วยเหลือจากเมิ่งจิ่นอวี่พวกเขาควรตอบอย่างไรดีฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย มองดูฉากนี้อย่างเงียบ ๆ เขายังมองไปที่ลั่วชิงยวน ในสถานการณ์ที่มีศัตรูจำนวนมาก แต่นางยังสามารถควบวคุมสติอารมณ์ได้ ลั่วชิงยวนผู้นี้ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว"พูดมาสิ? ข้าเป็นคนสั่งพวกเจ้าใช่หรือไม่? ข้าพูดอะไรกับพวกเจ้า เล่ามันออกมา?" ลั่วชิงยวนตะคอกเบา ๆเห็นดังนั้นเมิ่งจิ่นอวี่ก็รู้สึกเป็นกังวล แผนของพวกนางผิดเพี้ยนไปหมด นางไม่สามารถเชื่อมโยงคำถามเหล่านี้ได้เลยเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ นางก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 9

    ลั่วชิงยวนเห็นว่าคิ้วของฟู่เฉินหวนล้อมรอบด้วยวิญญาณชั่วร้าย รอบดวงตาค้ำ นางขมวดคิ้ว และอดไม่ได้ที่จะเตือนเขาอีกครั้ง "ท่านอ๋อง แล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ ก็ไม่มีความหวังจริง ๆ ! ข้าแนะนำว่าอย่าออกไปไหนเป็นเวลาสองวัน มิเช่นนั้นจะเกิดการนองเลือด!"อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฟู่เฉินหวนได้ยินคำพูดของนาง เขาก็ไม่ได้เก็บมันมาคิดเลย แถมยังขู่กลับไปอีกด้วยว่า "หากเจ้ายังคงสร้างความสับสนให้กับผู้คนในตำหนักด้วยเรื่องไร้สาระนี้ และพูดชื่อของลั่วเยวี่ยอิงอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะตัดลิ้นและหัวของเจ้าซะ!” ลั่วชิงยวนสถบเบา ๆ นางอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี แต่ในสายตาของฟู่เฉินหวนกลับคิดว่านางกำลังใส่ร้ายลั่วเยวี่ยอิง ไม่น้อมรับน้ำใจคนก็แล้วไป เขาจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวกับนางเสียหน่อย! หากเขาตาย นางจะได้ไม่ต้องขอใบหย่า! นางเองก็ขี้เกียจเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงก้าวเท้าเดินกลับห้องไป ด้วยสถานะคุณหนูใหญ่ของจวนอัครเสนาบดี ฟู่เฉินหวนจึงจะยังไม่ฆ่านาง แต่เขาก็จะไม่ปล่อยให้นางมีชีวิตที่ดีเช่นกันนางต้องรอดูก่อนว่าฟู่เฉินหวนจะรอดจากหายนะครั้งนี้ได้หรือไม่ เพราะในตัวเขามีพลังงานมังกรอยู่ บางทีเขาอาจจะมีสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 10

    คนในกระจกพูดอย่างมีความสุข "เจ้าค่ะ บ่าวจำได้! บ่าวไม่รู้ว่าจะขอบคุณพระชายาอย่างไร จากนี้ไป บ่าวจะปรนนิบัติรับใช้ท่านเอง หวังว่าพระชายาจะไม่รังเกียจบ่าวรับใช้ผู้นี้นะเจ้าคะ”ขณะที่แม่นมเติ้งพูด นางก็หยิบปิ่นปักผมขึ้นมาปักบนหัวให้นาง ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก นางจับมือแม่นม และยืนขึ้นเผชิญหน้ากับนางแม่นมเติ้งตกใจ และมองนางด้วยความงุนงง "พระชายา เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?"เมื่อลั่วชิงยวนออกแรง แม่นมเติ้งเจ็บจนต้องปล่อยมือออก และปิ่นก็ร่วงลงกับพื้นอีกฝ่ายก็สัมผัสได้ความหมายของลั่วชิงยวน ทันใดนั้นก็มีแสงแล่นผ่านม่านตา นางรีบคว้าปิ่นที่เหลือบนโต๊ะอีกครั้ง และพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอย่างโหดเหี้ยมลั่วชิงยวนไม่สามารถทนแรงนั้นได้ ร่างนางถูกเหวี่ยงลงกับพื้น ปิ่นเงางามที่ลอยอยู่เหนือดวงตาของนางราวกับใบมีดคมกริบแม่นมเติ้งกัดฟัน พยายามแทงปิ่นลงไปที่ดวงตาของนางอย่างเอาเป็นเอาตายสิ่งที่นักปราชญ์ด้านฮวงจุ้ยขาดมิได้เลยก็คือ ดวงตาที่เฉียบแหลมคู่นี้ ลั่วชิงยวนมองไปที่แสงสีเขียวในดวงตาของแม่นมเติ้ง และก็ยิ่งแน่ใจว่ากำลังเจอกับอะไร!“เจ้าสัตว์ร้าย รนหาความตาย!” นางปล่อยข้อมือของแม่นมเติ้งทันทีป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 11

    เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ จือเฉาก็รู้สึกปลื้มปีติ นางพูดเสียงติดอ่างด้วยความตกใจ "พระ... พระชายา แต่บ่าวทำอะไรไม่เป็นเลยนะเจ้าคะ"“เจ้ารู้วิธีส่งชาและส่งน้ำหรือไม่? วิธีหวีผมแบบง่าย ๆ ทำได้หรือไม่? ถ้าทำได้ ก็เพียงพอแล้ว” นางดึงจือเฉาขึ้นมาจากพื้นจือเฉาสติยังกลับมาไม่สมบูรณ์นัก ลั่วชิงยวนวางชามและตะเกียบไว้ข้างหน้านาง "กับข้าวเยอะขนาดนี้ ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก เจ้ามานั่งกินด้วยกันสิ" จือเฉารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร นางหยิบชามข้าวขึ้นมาอย่างเชื่อฟัง และเริ่มกินเมื่อเห็นท่าทางมึนงงของนาง ลั่วชิงยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความทรงจำบางอย่าง ครั้นเมื่อน้องสาวคนเล็กถูกท่านอาจารย์รับมานั้น นางก็มีลักษณะท่าทางเช่นนี้เช่นกันหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดลง และฝนก็เริ่มตก หลังจากที่จือเฉาจากไป ในที่สุดลั่วชิงยวนก็มีโอกาสที่หยิบเข็มทิศแห่งโชคชะตาออกมา นางสำรวจมันอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นเข็มทิศก็หมุนอย่างรวดเร็ว นางตกใจเล็กน้อย จึงหยิบเข็มทิศแล้วเดินออกไปที่ประตู แต่กำลังจะเข้าไปในลาน จู่ ๆ ฝนก็ตกหนักนางเพิ่งส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 12

    "เจ้าดูที่พื้นสิ มีกู่ฉงที่ข้าบดขยี้อยู่! ถ้าเอามันออกมาไม่ทันเวลา เจ้านายของพวกเจ้าคงตายไปแล้ว!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูโหยวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ห้องและตรวจดูที่พื้น และเห็นหนอนที่ถูกบดขยี้อยู่จริง เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าหยิบซากมันขึ้นมา และถามท่านหมอกู้ที่เพิ่งเย็บแผลให้ท่านอ๋องเสร็จ “ท่านหมอกู้ ท่านคิดว่าสิ่งนี้คือกู่ฉงหรือไม่?”ดวงตาของท่านหมอกู้สว่างขึ้น เขาตรวจสอบก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า "ข้าว่าแล้วทำไมพิษบาดแผลของท่านอ๋องถึงได้แปลกประหลาดยิ่งนัก ไม่ทำลายชีวิต ที่แท้คือพิษกู่ฉงนี่เอง มันไม่ทำลายชีวิต แต่ช่วยให้หนอนตัวนี้ได้เข้าไปข้างในร่างกายนั่นเอง"หลังจากพูดจบ ท่านหมอกู้ก็อุทานว่า "โอ้! โชคดีจริง ๆ ที่นำสิ่งนี้ออกมาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นชีวิตของท่านอ๋องอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูโหยวและฟู่เฉินหวนที่อยู่บนเตียงต่างก็ตกใจซูโหยวรู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่า ทำไมนางถึงยื่นมือเข้ามาช่วย แต่เมื่อสักครู่นางถูกตำหนิอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้นเขาจึงรีบบอกให้องครักษ์ตัวลั่วชิงยวนทันที"ข้าน้อยรีบร้อนจนเกินไป ขอประทานอภัยพระชายาด้วยขอรับ"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-04-28

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1185

    “องค์หญิง กระหม่อมชื่อจินเจา เชี่ยวชาญทั้งหมากรุก การขว้างลูกดอก การขี่ม้าและการยิงธนู หากองค์หญิงอยากจะออกไปเล่นสนุก กระหม่อมก็สามารถร่วมเล่นด้วยได้พ่ะย่ะค่ะ!”ชายหนุ่มทั้งสามมีบุคลิกลักษณะแตกต่างกัน แต่ล้วนมีรูปโฉมหล่อเหลายิ่งนักหลี่ว์โม่มีท่าทางสุภาพอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่น มีกลิ่นอายของผู้แก่เรียนหลีฉีมีท่าทางรักอิสรเสรี ใบหน้าค่อนข้างเย็นชา แต่ดูแล้วก็รู้ว่ามีวรยุทธ์สูงส่งส่วนจินเจาเป็นชายหนุ่มที่ดูหยิ่งทะนง มิยึดติดในกฎเกณฑ์ลั่วชิงยวนพิจารณาดู แล้วเอ่ยด้วยความตกใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงพาพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”ที่นี่คือวังหลวง หากมิใช่ขุนนาง คนภายนอกย่อมมิอาจเข้ามาได้ยิ่งเป็นการปรากฏตัวในห้องของนางด้วยหากมิได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิสูงสุด ชายหนุ่มทั้งสามย่อมไม่มีทางที่จะทำเช่นนี้ได้“องค์หญิงทรงคาดเดาถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงส่งพวกเรามาปรนนิบัติองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”“เพียงแต่องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงกำชับว่า ให้พวกเราแต่งกายเป็นองครักษ์เวลาเข้าออกวังพ่ะย่ะค่ะ”“ต่อไปพวกเราจะเป็นทหารองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1184

    ในยามที่สติเลือนราง ลั่วชิงยวนเห็นเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงอุ้มนางขึ้น“ฟู่เฉินหวน… ในที่สุดท่านก็ยอมมาพบหม่อมฉัน...”ทว่าเสียงที่ดังขึ้นในวินาทีต่อมากลับทำให้นางรู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง“ข้าเอง ฟู่จิ่งหลี!”ฟู่จิ่งหลีมีสีหน้าเคร่งเครียด รีบอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นรถม้าลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนรถม้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ท่านมาทำอะไรที่นี่”“หากข้ามิมา เจ้าคงแข็งตายอยู่หน้าประตูตำหนักแล้ว” ฟู่จิ่งหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรนแล้วสั่งสารถี “เข้าวัง เร็วเข้า!”ลั่วชิงยวนดิ้นรนจะลงจากรถม้า “เรื่องของหม่อมฉัน ท่านอย่ามายุ่ง! หม่อมฉันมิเชื่อว่าเขาจะทนดูหม่อมฉันแข็งตายอยู่หน้าประตูตำหนักได้!”“หม่อมฉันเพียงต้องการคำอธิบาย!”ฟู่จิ่งหลีดึงนางกลับมา“ในเมื่อเขาตัดสินใจหย่ากับเจ้าแล้วก็จะมิเหลียวแล เขามักจะเด็ดขาดเช่นนี้มาโดยตลอด เจ้าจะดิ้นรนไปเพื่ออะไร”“ใช้ชีวิตอยู่ในวังมิดีหรือ”ฟู่จิ่งหลีก็รู้สึกอึดอัดใจลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ นางมิรู้ว่าควรทำเช่นไรแล้วแต่นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนมิใช่คนเช่นนั้นเพียงแต่นางมิรู้ว่าจะทำอย่างไร เขาจึงจะเปลี่ยนใจรถม้าแล่นเข้าวังลั่วชิงยวนถูกพากลับไปที่ตำหนักขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1183

    วิธีนี้ทำร้ายลั่วฉิงมิได้ในระยะสั้นยังไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้ เขาจึงได้แต่ให้ลั่วชิงยวนอยู่ห่างจากเขาเพื่อความปลอดภัยลั่วชิงยวนก็ตามเขามาจนถึงหน้าประตูตำหนักอ๋องแต่ฟู่เฉินหวนกลับเดินเข้าประตูไป แล้วปิดประตูใส่หน้านางโดยมิหันกลับมามองลั่วชิงยวนมีสีหน้าอิดโรยซีดเซียว เมื่อมองภาพนั้น หัวใจเขาก็เจ็บปวดจนเกือบจะร้องไห้ออกมาเขารู้ว่านางตามมาตลอดนางมิยอมแพ้ ยังคงเข้าตำหนักทางประตูหลังแล้วตรงไปที่ห้องตำรานางรับใช้และทหารองครักษ์ที่พบเห็นต่างตกใจ แต่ก็ไม่มีใครขัดขวางเมื่อมาถึงหน้าห้องตำรา ลั่วชิงยวนก็เอ่ยขึ้น “ฟู่เฉินหวน อย่าหลบหน้าหม่อมฉัน มีเรื่องอะไร พวกเรามาพูดกันให้ชัดเจน!”ฟู่เฉินหวนตกใจ เดินไปเปิดประตูแล้วมองนางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าตามเข้ามาในตำหนักได้อย่างไร”“ลั่วชิงยวน ข้าพูดชัดเจนแล้ว ข้าหย่ากับเจ้าแล้ว มิอยากเจอเจ้าอีก!”กล่าวจบ เขาก็ตะโกนเสียงดัง “ใครก็ได้!”“ไล่ลั่วชิงยวนออกไป! เอาข้าวของของนางไปทิ้งให้หมด!”“หากผู้ใดกล้าให้นางเข้าตำหนักอีก ข้าจะมิละเว้น!”จากนั้นองครักษ์ก็เข้ามา ทำท่าทางเชิญ “เชิญเถิดขอรับ”ลั่วชิงยวนมองฟู่เฉินหวนด้วยความเสียใจ “ท่านจะผลัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1182

    ฟู่อวิ๋นโจวมิยอมแพ้แม้แต่น้อยจักรพรรดิสูงสุดก็ตกใจมาก ฟู่อวิ๋นโจวเหมาะสมที่จะเป็นจักรพรรดิมากกว่าฟู่จิ่งหานจริง ๆ เขามีบารมีและความกล้าหาญต่อหน้าตัวเขาเองก็ยังกล้าที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ตนเองคิด มิยอมแพ้เพียงแต่เรื่องของลั่วชิงยวนนั้นมิอาจตามใจเขาได้ก่อนที่จักรพรรดิสูงสุดจะกล่าว ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นด้วยความมิพอใจ “แม้ท่านจะต้องการ หม่อมฉันก็จะมิแต่งงานกับท่าน”“หากท่านยังยืนยันที่จะออกพระราชโองการนี้ สิ่งที่ท่านจะได้ก็มีเพียงแค่ศพของหม่อมฉันเท่านั้น”ลั่วชิงยวนเห็นว่าแม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็ห้ามฟู่อวิ๋นโจวมิได้ จึงกล่าวคำรุนแรงออกมาฟู่อวิ๋นโจวตกใจ มีสีหน้าโกรธเคือง “เหตุใดจึงมิยอมให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง? เจ้ายังให้โอกาสฟู่เฉินหวนตั้งหลายครั้ง”“เหตุใดข้าทำผิดเพียงครั้งเดียวก็ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว ลั่วชิงยวน เหตุใดเจ้าจึงมิยุติธรรมกับข้าบ้าง?”ดวงตาของฟู่อวิ๋นโจวแดงก่ำ เล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือแน่นลั่วชิงยวนชะงักแล้วมองเขาอย่างจริงจัง “เรื่องนี้มิเกี่ยวกับว่าทำผิดหรือไม่ ตั้งแต่ต้นจนจบ หม่อมฉันถือว่าท่านเป็นเพียงสหาย”“แม้ว่าพวกเราจะยังมีความสัมพันธ์กันเหมือนเดิม หากท่านจะรั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1181

    เหยียนหน่ายซินแย้มยิ้ม “มิเคยมีสิ่งใดที่ข้าต้องการแล้วมิได้”“ที่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาครองในวันนี้ ก็ต้องขอบคุณเจ้าที่ปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่า”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง “มิเป็นอะไร”“เพียงแต่ตำแหน่งฮองเฮานั้นมิใช่ตำแหน่งที่จะครองได้ง่าย ๆ เช่นกัน”เหยียนหน่ายซินหัวเราะอย่างมั่นใจ “ข้าไร้ซึ่งความรัก ไร้ซึ่งความผูกพัน ย่อมมิถูกเรื่องเหล่านั้นรบกวน ตำแหน่งฮองเฮานั้นไม่มีสิ่งใดที่ควบคุมมิได้”“ข้ามิเหมือนเจ้าที่จมปลักอยู่กับความรัก”ลั่วชิงยวนมิใส่ใจ เพียงแค่หัวเราะเบา ๆ “ความปรารถนาของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเจ้าได้ตำแหน่งฮองเฮาแล้วก็จะอยากได้มากขึ้นไปอีก”“ข้ายอมรับในความโหดเหี้ยมและเล่ห์เหลี่ยมของเจ้า หวังว่าเจ้าจะทำตามที่พูดและเป็นฮองเฮาที่ดีได้”“ฟู่เฉินหวนมิได้มีใจคิดอยากได้บัลลังก์ ขอให้เจ้าเมตตาปล่อยเขาไปเถิด”เหยียนหน่ายซินยกยิ้ม “ถึงตอนนี้ เจ้าก็ยังคงคิดถึงเขา”“ฟู่อวิ๋นโจวเพิ่งขึ้นครองราชย์ เขายังไม่มีฐานอำนาจในราชสำนัก แคว้นเทียนเชวียเพิ่งผ่านความวุ่นวาย ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ”“ตอนนี้แคว้นเทียนเชวียยังขาดฟู่เฉินหวนมิได้ พวกข้าจะมิทำอะไรเขา”“วันนี้ที่ข้ามาก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1180

    “เพราะเหตุการณ์กลียุควังหลัง”“แต่เหตุการณ์กลียุควังหลัง พระชายาหลีก็ถูกใส่ร้าย ทั้งหมดเป็นฝีมือของไทเฮา! นางใส่ร้ายพระชายาหลีเพื่อกำจัดศัตรู ทำให้เกิดกลียุควังหลัง มีคนบริสุทธิ์ล้มตายนับมิถ้วน”“นางมีสายเลือดบริสุทธิ์ เป็นคนของแคว้นเทียนเชวีย ชาติตระกูลก็มิธรรมดา แต่สุดท้ายแล้ว นางทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้หรือเพคะ?”“ท่านก็ยังต้องให้ฟู่เฉินหวนเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อถ่วงดุลอำนาจของตระกูลเหยียนมิใช่หรือเพคะ?”เมื่อลั่วชิงยวนเอ่ยเช่นนี้ จักรพรรดิสูงสุดก็ชะงักรู้สึกตกใจมิรู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรไปครู่หนึ่งสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดล้วนถูกต้อง เขาเกือบจะถูกโน้มน้าวแล้วแต่เมื่อนึกถึงวันที่ฟู่เฉินหวนมาเข้าเฝ้า แล้วให้เขาดูบาดแผล บอกว่ามิรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดแคว้นเทียนเชวียมิสามารถมีจักรพรรดิที่อาจจะสิ้นพระชนม์ได้ทุกเมื่อได้ดังนั้น เขาจึงเป็นได้เพียงอ๋องผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน คอยช่วยเหลือฟู่อวิ๋นโจวให้ขึ้นครองราชย์ เพื่อให้แคว้นเทียนเชวียสงบสุขตลอดไปแต่สิ่งที่ปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวคือ มิอยากให้ลั่วชิงยวนต้องลำบากด้วยจักรพรรดิสูงสุดยึดมั่นในใจลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1179

    จักรพรรดิสูงสุดเคลื่อนไหวช้า การเดินหมากก็เชื่องช้า ลั่วชิงยวนก็รอด้วยความเบื่อหน่ายทันใดนั้นขันทีเฉินก็รีบร้อนเข้ามา “จักรพรรดิสูงสุด องค์ชายห้าทรงถามว่า ท่านจะเสด็จร่วมพิธีขึ้นครองราชย์หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้นพิธีขึ้นครองราชย์หรือ?ฟู่อวิ๋นโจวจะขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว!จักรพรรดิสูงสุดตอบ “มิไปหรอก แขนขาของข้าเป็นเช่นนี้ เดินเหินมิไหวแล้ว”“พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นกระหม่อมจะไปแจ้งให้ทราบ”ขันทีเฉินจากไปแล้ว จักรพรรดิสูงสุดก็เล่นหมากรุกต่อ แต่ลั่วชิงยวนกลับนิ่งเฉยฟู่เฉินหวนมิได้ขัดขวางการขึ้นครองราชย์ของฟู่อวิ๋นโจว เขาสังหารฟู่จิ่งหานแต่กลับมิได้รับโทษใด ๆแต่ยังทำให้ฟู่เฉินหวนหย่ากับนางแทน!ฟู่อวิ๋นโจวใช้วิธีใดกันแน่!นางมองจักรพรรดิสูงสุดด้วยสายตามิพอใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุด ท่านทรงทราบทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่เพคะ? การกระทำของฟู่อวิ๋นโจว ท่านจะทรงปล่อยไปเช่นนี้หรือเพคะ?”“ฟู่จิ่งหานมิใช่โอรสของท่านแล้วหรือเพคะ?”น้ำเสียงของลั่วชิงยวนแฝงไปด้วยความมิพอใจจักรพรรดิสูงสุดมิได้โกรธเคืองแต่กลับเผยรอยยิ้ม “เจ้าเก็บคำพูดนี้ไว้นานแล้วสินะ”“อดทนมาจนถึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1178

    “มิว่าท่านจะทำสิ่งใด ท่านปล่อยพวกเราไปมิได้หรือ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยแล้วก็ไอหนักอีกครั้งฟู่อวิ๋นโจวได้ยินเสียงไอของนางแล้วรู้สึกเจ็บปวดในใจ จึงลูบหลังนางเบา ๆ “บาดแผลของเจ้ายังมิหาย เจ้าเป็นหวัดอีกแล้วหรือ? ในเมื่อเขาหย่ากับเจ้าแล้ว เจ้าก็พักอยู่ในวัง รักษาตัวให้หายดีก่อนเถิด”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วปัดมือเขาออก“มิต้องมาเสแสร้ง”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นเดินจากไปเดิมทีตั้งใจจะออกจากวัง แต่เมื่อใกล้ถึงประตูวังก็พบกับขันทีเฉิน ซึ่งเป็นขันทีที่คอยรับใช้ข้างกายจักรพรรดิสูงสุด“องค์หญิง จักรพรรดิสูงสุดทรงทราบว่าท่านเข้าวัง จึงเชิญท่านไปพบพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แม้แต่คำเรียกขานก็เปลี่ยนไปแล้วด้วยดูท่าว่าจักรพรรดิสูงสุดคงทราบเรื่องที่ฟู่เฉินหวนหย่ากับนางแล้ว“ช่วงนี้จักรพรรดิสูงสุดทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ข้ายังมีธุระอยู่ ไว้คราวหน้าจะไปเข้าเฝ้า”ขันทีเฉินคลี่ยิ้ม “อาการประชวรขององค์หญิงยังมิหายดี ฤดูหนาวเช่นนี้ ยากที่จะทนได้ องค์หญิงควรพักรักษาตัวในวังก่อน จักรพรรดิสูงสุดก็ทรงเป็นห่วงองค์หญิงมากพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนลังเล แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง บังเอิญว่านางก็อยาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1177

    จดหมายหย่าร่วงหล่นลงพื้น บนนั้นเขียนไว้ชัดเจนว่าหนังสือหย่าลั่วชิงยวนชะงัก ยังคงตกตะลึงมิหาย แต่นางก็รีบหันหลังวิ่งตามฟู่เฉินหวนไป“เพราะเหตุใดกัน? เกิดอะไรขึ้นกับท่านในวัง? แผนการล้มเหลวหรือเพคะ?”“เหตุใดจู่ ๆ ก็เขียนหนังสือหย่า?”ลั่วชิงยวนร้อนใจ ต้องการคำอธิบายแต่แววตาของฟู่เฉินหวนกลับเย็นเยียบ มองนางด้วยสายตาเย็นชา “ลั่วชิงยวน ตอนนี้ข้ามิอยากพูดกับเจ้าแม้แต่คำเดียว มิอยากเห็นหน้าเจ้าด้วย!”“เจ้ารีบเก็บข้าวของออกไปเองเสีย อย่าบีบบังคับให้ข้าลงมือเลย!”ฟู่เฉินหวนกล่าวจบก็เดินจากไปลั่วชิงยวนยืนนิ่งอึ้งนี่มันเรื่องอะไรกัน?นางมิยอมแพ้ วิ่งตามไปที่ห้องตำราของฟู่เฉินหวน แต่กลับพบว่าเขาปิดประตูลงกลอนจากด้านในมิว่าลั่วชิงยวนจะทุบประตูอย่างไร เขาก็มิยอมเปิด“ฟู่เฉินหวน! ท่านพูดมาให้ชัดเจน! เหตุใดจึงจู่ ๆ จะหย่ากับหม่อมฉัน?”“มิได้ตกลงกันแล้วหรอกหรือว่ามีเรื่องใดก็จะร่วมกันฝ่าฟัน!”“เหตุใดท่านจึงผลักไสหม่อมฉันอีก?”“ท่านอธิบายมาให้ชัดเจน!”เสียงเย็นชาที่แฝงด้วยความโกรธของฟู่เฉินหวนดังมาจากด้านใน “เจ้าหลอกลวงข้า ยังมิพออีกรึ!”ลั่วชิงยวนตกใจ “หม่อมฉันหลอกลวงท่านอย่างไร?

DMCA.com Protection Status