08
เมืองปีศาจ เมืองปีศาจถูกสร้างขึ้นอยู่ในหุบเขาลึก มีจอมราชานามว่า ซีจ้าวเหว่ย ซึ่งได้ถูกเทพเซียนผนึกไว้ใต้พิภพ ทำให้จ้าวจื่อเหนียงที่เป็นองครักษ์ส่วนพระองค์และเหล่าปีศาจที่จงรักภักดีแก่จอมราชาปีศาจต้องออกตามหาต้นรักใหญ่ เพื่อนำมาเป็นส่วนปลดผนึกให้แก่จอมปีศาจ แต่ทว่าเหล่าปีศาจไม่อาจเข้าไปในอาณาเขตนั้นได้ จึงต้องยืมมือของพวกมนุษย์ให้ทำแทน แต่พวกมนุษย์ช่างโง่เขลาดันทำลายต้นรักใหญ่ จนไม่เหลือสิ่งที่เหล่าปีศาจต้องการ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรกับพวกมนุษย์เหล่านั้นได้ จึงต้องซื้อเศษซากต้นรักใหญ่มาในราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งสิ่งที่เหล่าปีศาจต้องการอย่างแท้จริงคือแก่นกลางของต้นรักใหญ่ ในห้องทำงานของจอมราชาที่บัดนี้มีองครักษ์รูปงามร่างกำยำ นัยตาแดงฉาน ผมสั้นแดงเพลิงนามว่า จ้าวจื่อเหนียง กำลังนั่งหารืออยู่กับสตรีงาม นัยตาดำขลับแดง ผมยาวสลวยแดงเลือดนกนามว่า หลิวถาเอ๋อร์ " ข้าได้ยินว่าต้นรักใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งแล้ว จากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อ " " หึ ยืมมือของพวกมนุษย์ยังไงเล่า " บุรุษหนุ่มยกยิ้มมุมปากขึ้น เหตุใดตนจะต้องลงมือเองด้วย ในเมื่อยังมีพวกมนุษย์หน้าโง่อยู่ในกำมือก็หลอกให้พวกมันทำแทนก็สิ้นเรื่อง " แล้วท่านมิกลัวว่าพวกมนุษย์หน้าโง่เหล่านั้นจะทำผิดพลาดอีกหรือ " เหตุการณ์ในครั้งนั้นนางยังจำมันได้ดี ทำให้นางมิอาจไว้ใจพวกมนุษย์เหล่านั้นได้อีก " ครั้งนี้จะมิมีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน ข้าได้ให้ซินเหว่ยคอยตามจับตาดูพวกมนุษย์เหล่านั้นแล้ว " " น้องชายของท่านรึ ช่างน่าสนใจยิ่งนัก " " อีกมินานเขาก็จะได้แต่งงานกับเจ้าแล้วมิใช่รึ " " ฮึ " นางเพียงกระตุกยิ้มให้แก่บุรุษหนุ่มตรงหน้าเท่านั้น มือเรียวสวยพลางหยิบแก้วชาขึ้นมาดื่ม หมู่บ้านฉิงอี้ เรือนปรุงโอสถ " เรียบร้อย " " ว้าว สุดยอดเลยเจ้าค่ะคุณหนู " ลู่ปิงปิงยกมือที่ถือขวดบรรจุโอสถให้ซูซู่ดู นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เธอทำยาลูกกลอนเอง มันทำยากแต่ว่าพอทำได้มันกลับทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย " เจ้าจำได้ใช่หรือไม่ซูซู่ " " ซูซู่จำได้ทั้งหมดแล้วเจ้าค่ะคุณหนู ขอบคุณคุณหนูมากเลยนะเจ้าค่ะที่สอนวิชาสมุนไพรให้แก่ซูซู่ผู้นี้ " ซูซู่ผู้นี้ช่างซาบซึ้งน้ำใจของคุณหนูยิ่งนัก " ข้าจะสอนเจ้าให้เก่งเช่นข้า ฉะนั้นเจ้าจงอย่าลืมนำไปฝึกฝนด้วยล่ะ " " เจ้าค่ะคุณหนู ซูซู่จะไม่ทำให้คุณหนูผิดหวังแน่นอนเจ้าค่ะ " นอกหมู่บ้านฉิงอี้ " หูหลี่เจ้าดูนี่สิ " โมลู่หานนั่งทับส้นเท้าจ้องมองร่องรอยประหลาด ร่องรอยเช่นนี้คงมิพ้นพวกมนุษย์เป็นแน่แท้ หูหลี่เดินเข้ามาหาสหายรักพลางย่อตัวนั่งลงทาบส้นเท้า เพื่อดูร่องรอยประหลาดที่สหายกล่าวเมื่อครู่ " รอยพวกนี้เป็นของมนุษย์ แต่แปลกที่มนุษย์เหล่านั้นกลับมีกลิ่นไอของปีศาจ " " เจ้าคิดว่ามนุษย์พวกนั้นถูกพวกปีศาจครอบงำและอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ " โมลู่หานลุกขึ้นยืนกอดอก หากเป็นเช่นคำกล่าวของสหาย งานนี้คงยากเป็นแน่ แต่จะให้พวกปีศาจเหล่านั้นได้ครอบครองแก่นกลางของต้นรักใหญ่ก็มิอาจได้เช่นกัน " งานนี้คงมิง่ายแน่ หากมนุษย์เหล่านั้นทำลายค่ายกลของเราได้ เหล่าปีศาจที่ครอบงำและบงการอยู่เบื้องหลังจะต้องเข้ามาสังหารเหล่าผู้ที่ปกปักรักษาต้นรักใหญ่ทั้งหมดเป็นแน่แท้ " หูหลี่ลุกขึ้นยืนพลางคิดไม่ตกกับสิ่งที่เห็น " พวกเราบำเพ็ญตบะมายาวนานแถมยังได้รับพรจากองค์เทพจักรพรรดิสวรรค์ ไฉนพวกเราจะต้องหวั่นใจกับเรื่องเช่นนี้ด้วยเล่า " " เจ้าอย่าได้ประมาทไปโมลู่หาน มนุษย์กับเหล่าปีศาจเมื่อร่วมมือกันก็ยากที่จะจัดการได้ ถึงพวกเราจะบำเพ็ญตบะมายาวนานนับร้อยปี แต่ก็มิอาจคาดเดาได้ว่าฝ่ายเราจะชนะ ฉะนั้นเราอย่าประมาทและรีบคิดหาวิธีรับมือกับการนี้จะเป็นการดีกว่า " หูหลี่กล่าวเตือนสหาย หมู่บ้านฉิงอี้ใช่ว่าจะมีเพียงสัตว์อสูรเท่านั้น ยังมีมนุษย์ที่จะต้องปกป้องด้วยชีวิตอีกสองคน " เป็นดั่งที่เจ้ากล่าวข้าเองที่คิดน้อยไป แล้วเจ้าจะทำเช่นไรต่อ " ครั้งนี้เป็นตนเองที่ประมาท หากมิได้สหายรักกล่าวเตือนสติตนคงได้นำหายนะมาเยือนเหล่าชาวบ้านแล้ว " เผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจต่างมีนิสัยใจคอโหดร้ายมิต่างกันมากนัก ครั้งนี้เราจะต้องระวังเป็นอย่างมาก ข้าจะมิยอมให้เกิดเรื่องเช่นในอดีตอีก ข้าจะมิทำให้ความประสงค์ของท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านอาสื่อและเหล่าชาวบ้านที่ยอมสละชีวิตของตน เพื่อปกป้องต้นรักใหญ่ต้องสูญเปล่า ข้าจะต้องทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ " " ข้าเองก็จะปกป้องต้นรักใหญ่ด้วยชีวิตของข้าเช่นกัน จริงสิหูหลี่ข้ามีความคิดหนึ่งมิรู้ว่าเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่ " " อันได้หรือ " หูหลี่กล่าวขึ้นด้วยความคลางแคลงใจ " ข้ามีความคิดเห็นข้าว่าเราจะต้องมีที่หลบภัยให้แก่ชาวบ้าน ยามมีเหตุอันใดคับขันเราจะได้ย้ายชาวบ้านได้ทันท่วงที เจ้าว่าเช่นไร " " ข้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเจ้าโมลู่หาน " หูหลี่พยักหน้า ตนจะมิยอมให้สัตว์อสูรที่ตนปกครองต้องมาล้มตายอีก หากมีการต่อสู้ที่มิอาจเลี่ยงได้อย่างน้อยก็สามารถรักษาชีวิตของสัตว์อสูรมิให้ล้มตายเป็นจำนวนมากเกินไปได้ " เช่นนั้นข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง " " ข้าฝากเจ้าด้วยนะ ยิ่งห่างจากหมู่บ้านมากเท่าไรยิ่งดี " " ข้าเข้าใจแล้ว งานนี้เจ้าสบายใจได้ข้ามิทำให้เจ้าผิดหวังเป็นแน่ " หมู่บ้านฉิงอี้ ศาลาริมสระ สองสตรีหลังปรุงโอสถเสร็จก็พากันออกมานั่งจิบน้ำชาอยู่ที่ศาลาริมสระบัว นางทั้งสองจิบชาไปด้วยพูดคุยเรื่องสมุนไพรไปด้วย ลู่ปิงปิงพลางเบี่ยงสายตาจ้องมองดอกบัวที่บานสะพรั่ง สายลมพัดโบกผ่านร่างกายแผ่วเบา ทำให้รู้สึกสดชื้นผ่อนคลาย บรรยากาศแบบนี้ในภพชาติของเธอเปฺ็นอะไรที่หาได้ยากนัก " คุณหนูเจ้าค่ะ หากเรามิอาจปรุงโอสถออกมาได้สำเร็จมันมีผลกระทบอันใดหรือไม่เจ้าค่ะ " " แน่นอนว่ามันต้องมีอยู่แล้ว หากเจ้ามิอาจปรุงโอสถได้สำเร็จ ผู้ที่ได้รับโอสถก็จะได้รับผลกระทบเหล่านั้นทั้งหมดและเจ้ามิอาจแบกรับผลกระทบที่เกิดได้แน่ " " ช่างเป็นอะไรที่อันตรายยิ่งนักเจ้าค่ะ " " มันคือชีวิตของผู้คนนี่ " " เป็นดั่งที่คุณหนูกล่าวมามิผิดเจ้าค่ะ ชีวิตของผู้คนจะทำเป็นเล่นได้เยี่ยงไร " " ข้าดีใจนะที่คนที่ข้าได้มอบวิชาความรู้ให้รู้ถึงแก่นแท้ชีวิตของผู้คนเช่นนี้ " " คุณหนูซูซู่จะมิทำให้คุณหนูต้องผิดหวังอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ " " ข้าเชื่อว่าเจ้าจะมิทำให้ข้าผิดหวังซูซู่ " เธอเชื่ออย่างนั้น มีภพชาติใดบ้างที่ไม่เคยมีใครทำผิดพลาด ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าความผิดพลาดเหล่านั้นจะกลายเป็นบทเรียนของคนเหล่านั้นมากแค่ไหน เรียนรู้จักความผิดพลาดของตนมากเท่าใด รู้จักปรับปรุงตนไม่ให้กลับไปทำผิดพลาดอีกได้หรือไม่...09ยามซวีมาเยือนพร้อมสายลมพัดโบกส่งผลให้เหล่าใบไม้พัดพริ้ว เผยเสียงเสียดสีชวนเคลิบเคลิ่มน่าฟัง แต่แอบแฝงไปด้วยอันตราย ไอปีศาจแผ่กระจายเป็นหย่อม กองไฟขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เดาไม่ยากว่าปีศาจและมนุษย์กลุ่มนั้นเป็นพวกเดียวกัน " นายท่านจะให้พวกข้าทำเช่นไรต่อ " บุรุษมีอายุรูปหนึ่งกล่าวขึ้นต่อปีศาจที่เป็นหัวหน้า ซึ่งกำลังแผดรังศีความแข็งแกร่งออกมาทุกขณะ มีผู้ติดตามอยู่ไม่ห่างกายสองตน" หึ หน้าที่ของพวกเจ้าคือตามหาร่องรอยของสัตว์อสูรให้พบเท่านั้น ส่วนที่เหลือพวกข้าจะจัดการเอง แล้วอย่าคิดทำนอกเหนือจากคำสั่งของข้าเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้ามิรับประกันชีวิตของพวกเจ้าแน่ "" ขอรับนายท่าน " ผู้อาวุโสโค้งคำนับแล้วเดินเข้ามาร่วมกลุ่มกับลูกสมุนของตน" ท่านอาวุโสเว่ย ท่านว่าพวกเราจะหาต้นรักใหญ่พบในเร็ววันหรือไม่ " บุรุษในกลุ่มเอ่ยถามขึ้น " แน่นอนว่าพวกเราจะต้องหาพบในเร็ววัน ทว่าครั้งนี้พวกเราจะต้องระวังกันให้มากกว่าในครั้งอตีดเสียหน่อย มิเช่นนั้นจะเป็นพวกเราที่จะเดือดร้อน " ผู้อาวุโสเว่ยแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมายามที่เอ่ยกล
10 เสียงครึกครื้นของเหล่าชาวบ้านชวนให้หมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้ดูมีสีสันและความสุข ยามมีอาหารดีก็มักจะนำมาแบ่งปันกันอยู่เสมอ แม้นผู้คนที่อาศัย ณ หมู่บ้านแห่งนี้จะมีแต่เหล่าสัตว์อสูร ทว่าทุกคนก็ต่างมีจิตใจงดงามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันตลอด ต่างจากมนุษย์ที่มีจิตใจชั่วร้ายใคร่ยากจะรู้เสียงวิ่งย่ำเท้ามาทางเรือนของท่านผู้นำด้วยความเร็วพลางส่งเสียงร้องเรียกยามมาถึงหน้าเรือน ก่อนจะก้มใบหน้าเล็กลงมองพื้นดินหอบหายใจถี่แรงด้วยความเหนื่อยล้า" ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วยขอรับ! "เสียงร้องของเด็กชายดังลั่น ทำให้หูหลี่กับลู่ปิงปิงที่อยู่ภายในเรือนปรุงโอสถต้องเดินออกมาดู ปรากฎให้เห็นร่างของเด็กชายวัย 7 ขวบที่มีรูปร่างผอมกำลังยืนโน้มตัวไปข้างหน้าสองมือจับเอาไว้ที่หัวเข่าทั้งสองข้าง หอบหายใจแรงถี่จนร่างกายสั่นไปทั้งกาย หูหลี่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเด็กชายตรงหน้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันท่วงที" เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเด็กน้อย "" ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วยขอรับ เมื่อวานท่านพ่อของข้าเข้าไปหาสมุนไพรในป่า แต่พอท่านพ่
11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา
12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน
13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู
14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ
15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป
16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล
19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส
18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน
17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!
16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล
15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป
14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ
13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู
12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน
11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา