แชร์

บทที่ : 10

ผู้เขียน: เจ้าจิ้งจอกน้อยหางขาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 10:47:27

10

 เสียงครึกครื้นของเหล่าชาวบ้านชวนให้หมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้ดูมีสีสันและความสุข ยามมีอาหารดีก็มักจะนำมาแบ่งปันกันอยู่เสมอ แม้นผู้คนที่อาศัย ณ หมู่บ้านแห่งนี้จะมีแต่เหล่าสัตว์อสูร ทว่าทุกคนก็ต่างมีจิตใจงดงามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันตลอด ต่างจากมนุษย์ที่มีจิตใจชั่วร้ายใคร่ยากจะรู้

เสียงวิ่งย่ำเท้ามาทางเรือนของท่านผู้นำด้วยความเร็วพลางส่งเสียงร้องเรียกยามมาถึงหน้าเรือน ก่อนจะก้มใบหน้าเล็กลงมองพื้นดินหอบหายใจถี่แรงด้วยความเหนื่อยล้า

" ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วยขอรับ! "

เสียงร้องของเด็กชายดังลั่น ทำให้หูหลี่กับลู่ปิงปิงที่อยู่ภายในเรือนปรุงโอสถต้องเดินออกมาดู ปรากฎให้เห็นร่างของเด็กชายวัย 7 ขวบที่มีรูปร่างผอมกำลังยืนโน้มตัวไปข้างหน้าสองมือจับเอาไว้ที่หัวเข่าทั้งสองข้าง หอบหายใจแรงถี่จนร่างกายสั่นไปทั้งกาย หูหลี่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเด็กชายตรงหน้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันท่วงที

" เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเด็กน้อย "

" ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วยขอรับ เมื่อวานท่านพ่อของข้าเข้าไปหาสมุนไพรในป่า แต่พอท่านพ่อกลับมาท่านกลับมีอาการไข้ขึ้นสูง บริเวณข้อเท้ามีรอยกัดเป็นจ้ำม่วงด้วยขอรับ " เด็กน้อยเอ่ยขึ้นเสียงสั่นเทา กลัวว่าท่านพ่อของตนจะเป็นอะไรไป

" เด็กน้อยเจ้ามีนามว่าอันใดรึ "

" ข้ามีนามว่าเฉินอันเฉินหรือท่านทั้งสองจะเรียกข้าว่าเฉินอันก็ได้ขอรับ ส่วนท่านพ่อของข้ามีนามว่าเฉินเซียวขอรับท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ " 

" เฉินเซียวหรือ เฉินอันเจ้ามิต้องกลัว ท่านเสี่ยวลู่จะต้องรักษาพ่อของเจ้าให้หายได้แน่ ฉะนั้นเจ้าจงนำทางข้าไปที่เรือนของเจ้าเถอะ "

" ขอรับท่านผู้นำ " เฉินอันเฉินรีบเดินนำหน้าของท่านผู้นำและภรรยาของท่านไปยังเรือนของตน

​​​​​" ซูซู่เจ้าจงรีบไปเตรียมโอสถและสมุนไพรตามที่ข้าบอกเจ้าเมื่อครู่แล้วรีบนำมันตามข้ามานะ " 

" เจ้าค่ะคุณหนู "

ลู่ปิงปิงรีบก้าวเดินตามสามีและเด็กชายออกจากเรือนไปทันทีหลังจากจบบทสนทนากับสาวรับใช้ 

ซูซู่รีบเดินเข้าไปภายในเรือนปรุงโอสถ มือเรียวหยิบโอสถและสมุนไพรตามที่คุณหนูของนางได้บอกใส่กระตร้าใบเล็ก แล้วรีบตามคุณหนูของนางไปที่เรือนของเฉินเซียวทันท่วงที 

เฉินอันเฉินพาทุกคนเข้ามาภายในเรือนไม้ขนาดกลาง ที่ยามนี้มีบุรุษรูปร่างกำยำกำลังนอนหลับไหลด้วยพิษไข้ หายใจรวยรินอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเชียวไร้เลือดฝาด ตามร่างกายต่างเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการต่อสู้ บงบอกให้รู้ว่าเขาเคยเป็นทหารของหมู่บ้านมาก่อน

" อาการหนักกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะเนี่ย หากเรามาช้ากว่านี้ท่านผู้นี้อาจจะมิมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว "

" ข้าก็คิดเช่นนั้น เจ้ามีวิธีช่วยเขาหรือไม่เหล่าผ๋อ "

" มีเจ้าค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยถึงจะกลับมาเป็นปกติได้ "

" คุณหนูซูซู่มาแล้วเจ้าค่ะ " ซูซู่เดินนำเอาตะกร้าที่ใส่โอสถและสมุนไพรส่งให้แก่คุณหนูของนาง

" ได้มาครบหรือไม่ซูซู่ "

" ครบเจ้าค่ะ "

" ขอบใจเจ้ามากนะซูซู่ "

ลู่ปิงปิงเดินเข้ามานั่งข้างกายของเฉินเซียว เธอยื่นมือมาวัดชีพจรของอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นมือขึ้นไปเปิดเปลือกตาทั้งสองข้างดู จากนั้นจึงหันมาจ้องมองรอยของสัตว์ร้ายบริเวณข้อเท้าที่ขึ้นสีม่วงช้ำมากแล้ว 

" ชีพจรอ่อนมากแถมยังมีไข้สูงอีกด้วย ส่วนรอยกัดนี้โชคดีที่สัตว์ที่กัดมิมีพิษ เพียงแต่ท่านเฉินเซียวฝืนเดินมากเกินไป จนทำให้รอยที่ถูกกัดติดเชื้อ จนกลายเป็นบาดทะยัก ซูซู่เจ้านำใบสาบเสือ ขมิ้นชันและใบบัวบกลงไปบดให้ข้าที เหล่ากงท่านช่วยป้อนโอสถนี้ให้แก่ท่านเฉินเซียวแทนข้าหน่อยเจ้าค่ะ "

" เจ้าค่ะคุณหนู "

" ได้สิเหล่าผ๋อ " หูหลี่จัดการป้อนโอสถให้เฉินเซียวตามคำขอของภรรยา

" ซูซู่บดเสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู "

" เจ้านำไปทาบบริเวณรอยแผลที่ถูกกัดแล้วนำผ้าขาวพันเอาไว้ "

" เจ้าค่ะคุณหนู " นางทำตามคำสั่งของคุณหนูมิขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นางได้ช่วยคุณหนูอย่างจริงจัง ยามที่คุณหนูรักษาผู้คนคุณหนูมักจะให้นางจัดเตรียมสมุนไพรให้เท่านั้น ส่วนที่เหลือคุณหนูจะเป็นคนจัดการทั้งหมดเองแต่เพียงผู้เดียว นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมนางถึงได้ดีใจมาก ยามที่คุณหนูกล่าวว่าจะสอนวิชาเหล่านี้ให้แก่นาง

" เฉินอันท่านพ่อของเจ้ามิเป็นไรแล้ว หากยามค่ำท่านพ่อของเจ้ายังมีอาการไข้ขึ้นอีกให้เจ้านำน้ำอุณหภูมิปกติเช็ดตัวให้ท่านพ่อของเจ้านะ วันพรุ่งข้าจะกลับมาดูอาการของท่านพ่อเจ้าอีกครา " ลู่ปิงปิงคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้แก่เฉินอันเฉิน

" ขอรับท่านเสี่ยวลู่ ข้าต้องขอบคุณท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำและท่านซูซู่มากเลยนะขอรับ หากมิได้ท่านทั้งสามช่วยเอาไว้ ป่านนี้ท่านพ่อของข้าอาจจะมิได้อยู่กับข้าอีกต่อไปแล้ว ในชีวิตของข้ามีเพียงท่านพ่อที่เหลืออยู่เท่านั้น หากสิ้นท่านพ่อไป ข้าเองก็มิอาจรู้ได้เช่นกันว่าข้าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร " เฉินอันเฉินปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ตนมิคิดว่าตนจะโชคดีเช่นนี้ หากมิได้ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่และท่านซูซู่ช่วย ตนก็มิรู้จะหันไปพึ่งผู้ใดเช่นกัน ตนรู้ว่าชาวบ้านในที่นี้ล้วนแต่ใจดีมีน้ำใจต่อกัน แต่มิมีผู้ใดเก่งเรื่องปรุงโอสถหรือสมุนไพรเลยแม้แต่น้อย 

" ข้าต้องกลับแล้ว เจ้าเองก็อย่าลืมสิ่งที่ท่านเสี่ยวลู่บอกล่ะ "

" ข้ามิลืมแน่นอนขอรับท่านผู้นำ "

" อย่าลืมดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ เฉินอัน "

" ขอรับท่านเสี่ยวลู่ ข้าจะดูแลตัวเองและท่านพ่อเป็นอย่างดีเลยขอรับ "

" ข้ากลับแล้วนะเฉินอัน "

" ขอรับท่านซูซู่ "

ทั้งสามคนเดินออกมาจากเรือนของเฉินเซียว ตลอดทางลู่ปิงปิงก็เอาแต่พลางคิดถึงเรื่องของบุรุษที่ตนกำลังรักษา ในภพชาติของเธอ ตัวเธออาจจะทำอะไรไม่ได้นอกจากจะรีบนำตัวคนเจ็บหรือคนป่วยไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้หมอทำการรักษา แต่ในภพชาตินี้ตัวเธอทำได้มากกว่านั้น เธอสามารถรักษาคนได้โดยไม่ต้องรอหรือพาไปที่โรงหมอ ในภพชาตินี้ตัวเธอมีประโยชน์มากกว่าในภพชาติที่ตัวเธอจากมาเสียอีก 

" เหล่าผ๋อเจ้าคิดอันใดอยู่หรือ "

" ข้าเพียงคิดถึงเรื่องราวในสมัยที่ข้ายังเป็นเด็กอยู่น่ะ สมัยนั้นหากมีผู้ใดได้รับความเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บก็จะต้องถูกนำตัวไปที่โรงหมอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากเรือนผู้ใดอยู่ใกล้โรงหมอก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากเรือนผู้ใดอยู่ไกลจากโรงหมอก็จะต้องทำใจ นอกจากนั้นหากเรือนผู้ใดมีทรัพย์สินมากก็จะได้รับการรักษาในทันท่วงที แต่ถ้าหากเรือนผู้ใดมิมีทรัพย์สินมากพอก็มิอาจจะได้รับการรักษาเช่นเดียวกัน " ลู่ปิงปิงหันใบหน้ามายิ้มให้แก่สามี สิ่งที่เธอพูดออกมาล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้น

" คำที่เจ้ากล่าวมาล้วนแต่เป็นเรื่องจริง มนุษย์นั้นหากมิได้รับผลประโยชน์ก็จะมิชายตาแลมองผู้ที่ต่ำต้อยกว่า ถึงแม้นว่าผู้ที่ต่ำต้อยจะมีทรัพย์มากพอที่จะรักษาตน แต่ก็มิอาจได้รับการรักษาที่ดีนัก มนุษย์นั้นช่างต่ำตมโหดร้ายเลวทรามไร้เมตตา จนสัตว์อสูรเช่นพวกข้ามิอาจอยู่รวมกับเหล่ามนุษย์ได้ เหล่ามนุษย์เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับพวกข้า แต่ทว่าเจ้ากับซูซู่เป็นข้อยกเว้นสำหรับพวกข้า เพราะเจ้ากับซูซู่แตกต่างจากมนุษย์เหล่านั้น พวกเจ้าเป็นคนดีมีจิตใจเมตตาต่อทุกคน แม้นแต่สัตว์อสูรเช่นพวกข้าพวกเจ้าก็มิทอดทิ้ง "

" เหล่ากงพวกท่านและพวกข้าต่างก็มีชีวิตเช่นเดียวกัน เหตุใดข้าจึงต้องแบ่งแยกด้วย "

" ข้าช่างโชคดีเสียจริงที่ได้เจ้ามาเป็นฟูเหริน ข้าต้องขอบใจท่านปู่ของเจ้าสินะที่ได้มอบคนที่แสนวิเศษเช่นเจ้าให้แก่ข้าผู้นี้ "

" แล้วท่านยังคิดจะแก้แค้นให้ท่านพ่อท่านแม่ของท่านอยู่อีกหรือไม่ "

" เจ้าคิดเช่นไร "

" หึ มิว่าท่านจะคิดเช่นไรท่านยังคงมีข้าอยู่เคียงข้างท่านอยู่เสมอ "

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 11

    11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 12

    12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 13

    13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 14

    14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 15

    15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 16

    16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 17

    17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 18

    18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28

บทล่าสุด

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 19 ( จบบริบูรณ์ )

    19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 18

    18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 17

    17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 16

    16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 15

    15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 14

    14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 13

    13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 12

    12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 11

    11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา

DMCA.com Protection Status