Share

บทที่ : 7

Author: เจ้าจิ้งจอกน้อยหางขาว
last update Last Updated: 2024-11-28 10:47:27

07

ทั้งสองฝั่งต่างแสดงวรยุทธใส่กันดังสะท้านไปทั่วผืนป่า การต่อสู้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หูหลี่ใช้พลังปราณที่ตนฝึกฝนและบำเพ็ญตบะถึงขั้นราชันยุทธ์ขั้นเจ็ด สาดใส่สตรีรูปลักษณ์งดงาม ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากแดงฉาน ผิวพรรณขาวซีด แต่งชุดระบำจีนสีแดงสด สตรีงดงามเหล่านี้เป็นปีศาจเผ่าแมงมุมที่ออกล่าเหยื่อในยามซวี ซึ่งปีศาจแมงมุมจะใช้หน้าตาของตนล่อลวงเหล่าบุรุษทั้งหลายให้ลุ่มหลง ก่อนจะลงมือดูดวิญญาณบุรุษเหล่านั้น เพื่อล่อเลี้ยงพลังชีวิตและตบะของตน

" ย๊ะ "

ลู่ปิงปิงกับซูซู่หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ดูการต่อสู้ของเหล่าปีศาจกับเหล่าหูหลี่ ฝั่งเหล่าปีศาจเริ่มสลายเป็นผุยผง จนเหลือเพียง 4 ตน ต่อสู้กันตัวต่อตัว ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บกันอยู่ไม่น้อย สุดท้ายฝั่งปีศาจก็พ่ายแพ้ไป 

ลู่ปิงปิงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่เดินตรงดิ่งมาหาสามีกับเหล่าทหาร ซึ่งทุกคนต่างได้รับบาดเจ็บอยู่พอสมควร เธอจึงหยิบขวดยาที่นำติดตัวออกมาเปิดฝาเทยาลูกกลอนให้ทุกคนคนละเม็ด เพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บและเสริมพลังปราณภายในร่างกายให้แต่ละคน 

" ข้าว่าพวกเรารีบเดินทางกันต่อดีกว่า มิรู้ว่าจะมีเหตุอันใดเกิดขึ้นอีกหรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยขึ้น เธอไม่คิดว่าเธอกับเหล่าผู้มาเก็บสมุนไพรด้วยจะมาเจอกับเหล่าปีศาจแบบนี้ นี่คือครั้งแรกที่เธอได้เห็นปีศาจตัวเป็น ๆ 

" สตรีเหล่านั้นคือสิ่งใดเจ้าคะ " ซูซู่เอ่ยถามอย่างใคร่รู้ เหตุใดสตรีเหล่านั้นจึงมีพลังมากถึงเพียงนี้ 

" สตรีเหล่านั้นมิใช่มนุษย์ แต่เป็นปีศาจแมงมุม ชอบใช่ความงดงามล่อลวงเหล่าบุรุษมาสูบวิญญาณ เพื่อล่อเลี้ยงชีวิตและเพิ่มตบะของตน " จินจื่อเอ่ยตอบคำถามของซูซู่ให้ไขกระจ่าง 

" ออกเดินทางกันต่อเถิด ยิ่งยามห้ายมันยิ่งอันตราย " 

" ขอรับท่านผู้นำ/ขอรับท่านผู้นำ "

" ไปเจ้าค่ะคุณหนู " 

ทั้งหกคนเริ่มออกเดินทางกันต่อ ตลอดระยะทางทุกคนต่างระแวกระวังกันมากขึ้น เดินมาประมาณ 1 ชั่วยามก็เจอกับทางเข้าหมู่บ้าน ทั้งหกคนเดินเข้ามาภายในหมู่บ้านได้ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยร่ำลาต่อกัน จากนั่นจึงแยกย้ายกันไปพัก 

" ซูซู่เจ้าไปพักเถิด " 

" เจ้าค่ะคุณหนู "

" คราวหน้าข้ามิให้เจ้าเข้าไปหาสมุนไพรในป่าลึกอีกแล้ว "

" ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงความปลอดภัยของข้า แต่สมุนไพรที่ข้าต้องการมันอยู่ในป่าลึกแทบนั้นนิเจ้าค่ะ " 

" แต่ป่าลึกแทบนั่นมันอันตรายเกินไป เจ้าก็ได้เห็นแล้วมิใช่หรือ "

" ข้าจะพยายามก็แล้วกันนะเจ้าค่ะ " ลู่ปิงปิงตัดบทแล้วเดินเข้าห้องนอน เพื่อจะได้ชำระร่างกาย 

หูหลี่ถอนหายใจแผ่วเบาแล้วย่างกายเข้าไปภายในห้องตามนาง พลางคิดหาวิธีที่จะมิทำให้นางเข้าไปที่ป่าลึกแถบนั้นอีก ปกตินางมักจะเชื่อฟังตนอยู่เสมอ แต่ยามนี้นางกลับแข็งข้อขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น ป่าลึกแถบนั้นล้วนแต่มีภัยอันตราย มีแต่เหล่าปีศาจพลุ่งพลาน มนุษย์ธรรมดามิมีทางเอาชนะปีศาจเหล่านั้นได้ วันพรุ่งตนจะต้องพาสหายรักและเหล่าทหารไปตรวจตราดูร่องรอยของปีศาจที่เริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้หมู่บ้านอย่างจริงจังเสียแล้ว ปล่อยนานกว่านี้อาจมีภัยรุกรานเข้ามาในหมู่บ้านเป็นท่องแท้ 

ลู่ปิงปิงอาบน้ำแต่งกายเสร็จก็ย่างกายออกมา หวังนอนพักผ่อนเก็บแรงเอาไว้เพื่อปรุงโอสถในวันรุ่งสาง 

" เหล่ากงท่านไปอาบน้ำเถอะ "

 " อืม " หูหลี่หยันกายลุกขึ้นเดินตรงไปที่อ่างไม้ที่ถูกจัดเตรียมด้วยฝีมือของภรรยาผู้งดงาม มุมปากหนาระบายยิ้มอ่อนออกมาให้กับความเอาใจใส่ของนางที่มีให้แก่ตนไม่เคยเปลี่ยน

ลู่ปิงปิงส่ายหน้า ตัวเธอจะต้องไม่ตาย เพื่อกั้นไม่ให้สามีของเสี่ยวลู่ต้องกลายเป็นจอมปีศาจในวันข้างหน้า เธอจะต้องรีบเร่งหาวิธีที่จะทำให้ร่างกายต้านทานต่อพลังปีศาจให้ได้โดยเร็ว เธอ ซูซู่และโมลู่หานจะตายไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าแผนของเธอพัง แล้วหูหลี่ถูกพลังปีศาจครอบงำและกลายเป็นราชาปีศาจจิ้งจองโดยสมบูรณ์ จะมีแค่ตัวของเธอที่อยู่ในร่างเสี่ยวลู่ ซูซู่ที่เป็นสาวรับใช้ โมลู่หานที่เป็นรองผู้นำและเป็นสายเลือดหมาป่าสีเงินเท่านั้นที่จะสามารถปกปักรักษาต้นรักใหญ่ได้แล้วยังสามารถยับยั้งและช่วยให้หูหลี่กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

ยามเช้าตรู่ลู่ปิงปิงจัดเตรียมสมุนไพรที่หามาเมื่อวาน ซึ่งมีสาวรับใช้อย่างซูซู่จัดเตรียมอุปกรณ์ปรุงโอสถให้ ลู่ปิงปิงทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล้ว เมื่อจัดเตรียมสมุนไพรทุกอย่างเสร็จจึงเริ่มลงมือปรุงโอสถ

" ซูซู่เจ้ารู้หรือไม่ว่าสมุนไพรที่ข้าหามาในครั้งนี้มีสรรพคุณเช่นไร " ลู่ปิงปิงหันมาเอ่ยถามสาวรับใช้ เธอเองก็อยากรู้ว่านางจะเก่งเรื่องสมุนไพรอย่างนายของนางไหม

" ซูซู่ผู้นี้ช่างด้อยปัญญายิ่งนักเจ้าค่ะคุณหนู " นางเอ่ยตอบคุณหนูตามจริง นางเองก็รู้จักสมุนไพรเพียงบ้างชนิดเท่านั้น 

 ลู่ปิงปิงลูบคางของเธอก่อนจะเอ่ยกับสาวรับใช้ " อืม...เช่นนั้นข้าจะให้ความรู้แก่เจ้าก็แล้วกันซูซู่ "

" ซูซู่น้อมรับวิชาความรู้จากคุณหนูเจ้าค่ะ " ซูซู่น้อมตัวเคารพให้แก่คุณหนู นางดีใจที่คุณหนูจะมอบวิชาความรู้ให้แก่คนต่ำต้อยเช่นนางแบบนี้ ถือเป็นโอกาสที่นางจะได้เก็บสะสมความรู้เหล่านี้ไปใช้ในภายภาคหน้าได้

" ก่อนที่ข้าจะสอนข้ามีคำถามที่จะถามเจ้าหนึ่งข้อ "

" เจ้าค่ะคุณหนู "

" เจ้าเคยได้ยินคำกล่าวนี้หรือไม่ กลางอากาศ พาดหง่าไม้ ไหง้ธรณี หนีสงสาร ไปนิพพานมิกลับ ”

" ซูซู่มิเคยได้ยินคำกล่าวเช่นนี้มาก่อนเลยเจ้าค่ะคุณหนู " 

" เช่นนั้นเจ้าจงฟังข้าให้ดี ๆ ข้าจะบอกความหมายของคำกล่าวนี้ให้เจ้าฟัง คำกล่าวที่ว่ากลางอากาศหรือบางตำรากล่าวเรียกว่าบินกลางอากาศคือ น้ำผึ้งเดือนห้า เจ้าคงจะสงสัยว่าเหตุใดจึงต้องเป็นน้ำผึ้งเดือน 5 ใช้น้ำผึ้งเดือนอื่น ๆ ได้หรือไม่ ในความเป็นจริงจะใช้น้ำผึ้งเดือนไหนก็เป็นน้ำผึ้งเช่นกัน แต่การสะสมน้ำผึ้งจำเป็นต้องใช้น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ เมื่อผึ้งไปดูดน้ำหวานจากดอกไม้ ทำให้มีเกสรดอกไม้ติดเข้ามาปนอยู่ในน้ำผึ้งด้วย ในช่วงเดือน 5 เป็นเดือนที่ดอกไม้มากมายออกดอก ดังนั้นน้ำผึ้งเดือน 5 จึงเป็นน้ำผึ้งที่ประกอบด้วยเกสรดอกไม้นานาชนิด ซึ่งเท่ากับมีพืชพรรณดอกไม้หรือสมุนไพรมากมายช่วยในการบำรุงร่างกาย จึงเชื่อกันว่าน้ำผึ้งเดือน 5 เป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีที่สุดในการปรุงยา

ต่อมา พาดหง่าไม้ หมายถึง บอระเพ็ดหรือเครือเขาฮอ บอระเพ็ดเป็นเถาเลื้อยตามคาคบหรือกิ่งไม้จึงเรียกว่พาดหง่าไม้ เถาบอระเพ็ดมีรสขมจัด เย็น ใช้แก้ไข้ทุกชนิด แก้พิษฝีดาษ เป็นยาขมเจริญอาหาร

ต่อมา ไหง้ธรณี คำว่า ไหง้ หมายถึงแยกหรือแหวก สมุนไพรชนิดนี้คือ หัวแห้วหมู เพราะหัวจะดันดินแยกออกจึงเรียกว่า ไหง้ธรณี หญ้าแห้วหมูเป็นพืชจำพวกหญ้ามีความทนทานใครคิดฆ่าก็มิตายง่าย ๆ

ต่อมา หนี้สงสารหมายถึงเครือง้วนหมู คำว่า ง้วน หมายถึงพิษ ชื่อ ง้วนหมู จึงหมายถึงหมูที่เป็นพิษ ง้วนหมูเป็นไม้เถาชนิดหนึ่งมีรสขม ใบและดอกกินได้ อาจถือว่าเป็นผักที่มีรสขมอมหวานมัน มีสรรพคุณช่วยบรรเทาความร้อนในร่างกายและช่วยเจริญอาหาร ในทางยาสมุนไพร รากและเถามีสรรพคุณช่วยทำให้นอนหลับ เป็นยาขับเสมหะ แต่ถ้าใช้มากเกินไปจะทำให้อาเจียน ลำต้นอ่อนก็มีสรรพคุณทำให้อาเจียนเช่นกัน เถายังใช้เป็นยาแก้พิษงูกัดได้ด้วย ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศจะใช้เป็นยาลดไข้ ทำให้อาเจียนแถมยังใช้แก้เจ็บคอ แก้กลาก แก้โรคหอบหืดและเป็นยาแก้พิษเมื่อถูกยาพิษด้วย

ต่อมา ไปนิพพานมิกลับ หมายถึง ขมิ้นขึ้นหรือขมิ้นอ้อย เหง้าขมิ้นอ้อยมีรสเผ็ดขม เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อตับและม้าม ช่วยกระจายโลหิต รักษาอาการเลือดคั่งหรือเลือดไหลเวียนมิสะดวก เส้นเลือดในท้องอุดตัน คำว่าขมิ้นขึ้นนั้นจะมีลักษณะพิเศษจะมีแง่งหรือหัวขึ้นมาเรียงรายอยู่บนพื้นดินเป็นส่วนใหญ่เหมือนกับว่ามิกลับลงไปอยู่ดินอีก เอาล่ะที่นี้ข้าจะกล่าวถึงการปรุงโอสถแล้วเจ้าจงจำให้ดีล่ะ "

" เจ้าค่ะคุณหนู "

" การปรุงโอสถ มีขั้นตอนดังนี้ให้นำเอาตัวยาทั้ง 5 ชนิด เถาบอระเพ็ด เครือง้วนหมู หัวแห้วหมูและขมิ้นขึ้นหรือขมิ้นอ้อยมาล้างให้สะอาด หั่นแล้วผึ่งแดดให้แห้ง บดให้ละเอียดผสมกันแล้วใช้น้ำผึ้งเดือน 5 ผสมให้เหนียว ปั้นเป็นลูกกลอน ผึ่งแดดให้พอแห้ง เก็บไว้กินก่อนนอนจะทำให้อายุยืนนาน "

" ยืนนานหรือเจ้าค่ะ เช่นนั้นโอสถนี้ก็... "

" ยาอายุวัฒนะ "

​​​​​

Related chapters

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 8

    08เมืองปีศาจเมืองปีศาจถูกสร้างขึ้นอยู่ในหุบเขาลึก มีจอมราชานามว่า ซีจ้าวเหว่ย ซึ่งได้ถูกเทพเซียนผนึกไว้ใต้พิภพ ทำให้จ้าวจื่อเหนียงที่เป็นองครักษ์ส่วนพระองค์และเหล่าปีศาจที่จงรักภักดีแก่จอมราชาปีศาจต้องออกตามหาต้นรักใหญ่ เพื่อนำมาเป็นส่วนปลดผนึกให้แก่จอมปีศาจ แต่ทว่าเหล่าปีศาจไม่อาจเข้าไปในอาณาเขตนั้นได้ จึงต้องยืมมือของพวกมนุษย์ให้ทำแทน แต่พวกมนุษย์ช่างโง่เขลาดันทำลายต้นรักใหญ่ จนไม่เหลือสิ่งที่เหล่าปีศาจต้องการ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรกับพวกมนุษย์เหล่านั้นได้ จึงต้องซื้อเศษซากต้นรักใหญ่มาในราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งสิ่งที่เหล่าปีศาจต้องการอย่างแท้จริงคือแก่นกลางของต้นรักใหญ่ในห้องทำงานของจอมราชาที่บัดนี้มีองครักษ์รูปงามร่างกำยำ นัยตาแดงฉาน ผมสั้นแดงเพลิงนามว่า จ้าวจื่อเหนียง กำลังนั่งหารืออยู่กับสตรีงาม นัยตาดำขลับแดง ผมยาวสลวยแดงเลือดนกนามว่า หลิวถาเอ๋อร์ " ข้าได้ยินว่าต้นรักใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งแล้ว จากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อ "" หึ ยืมมือของพวกมนุษย์ยังไงเล่า " บุรุษหนุ่มยกยิ้มมุมปากขึ้น เหตุใดตนจะต้องลงมือเองด้วย ในเมื่อยังมีพวกมนุษย์ห

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 9

    09ยามซวีมาเยือนพร้อมสายลมพัดโบกส่งผลให้เหล่าใบไม้พัดพริ้ว เผยเสียงเสียดสีชวนเคลิบเคลิ่มน่าฟัง แต่แอบแฝงไปด้วยอันตราย ไอปีศาจแผ่กระจายเป็นหย่อม กองไฟขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เดาไม่ยากว่าปีศาจและมนุษย์กลุ่มนั้นเป็นพวกเดียวกัน " นายท่านจะให้พวกข้าทำเช่นไรต่อ " บุรุษมีอายุรูปหนึ่งกล่าวขึ้นต่อปีศาจที่เป็นหัวหน้า ซึ่งกำลังแผดรังศีความแข็งแกร่งออกมาทุกขณะ มีผู้ติดตามอยู่ไม่ห่างกายสองตน" หึ หน้าที่ของพวกเจ้าคือตามหาร่องรอยของสัตว์อสูรให้พบเท่านั้น ส่วนที่เหลือพวกข้าจะจัดการเอง แล้วอย่าคิดทำนอกเหนือจากคำสั่งของข้าเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้ามิรับประกันชีวิตของพวกเจ้าแน่ "" ขอรับนายท่าน " ผู้อาวุโสโค้งคำนับแล้วเดินเข้ามาร่วมกลุ่มกับลูกสมุนของตน" ท่านอาวุโสเว่ย ท่านว่าพวกเราจะหาต้นรักใหญ่พบในเร็ววันหรือไม่ " บุรุษในกลุ่มเอ่ยถามขึ้น " แน่นอนว่าพวกเราจะต้องหาพบในเร็ววัน ทว่าครั้งนี้พวกเราจะต้องระวังกันให้มากกว่าในครั้งอตีดเสียหน่อย มิเช่นนั้นจะเป็นพวกเราที่จะเดือดร้อน " ผู้อาวุโสเว่ยแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมายามที่เอ่ยกล

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 10

    10 เสียงครึกครื้นของเหล่าชาวบ้านชวนให้หมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้ดูมีสีสันและความสุข ยามมีอาหารดีก็มักจะนำมาแบ่งปันกันอยู่เสมอ แม้นผู้คนที่อาศัย ณ หมู่บ้านแห่งนี้จะมีแต่เหล่าสัตว์อสูร ทว่าทุกคนก็ต่างมีจิตใจงดงามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันตลอด ต่างจากมนุษย์ที่มีจิตใจชั่วร้ายใคร่ยากจะรู้เสียงวิ่งย่ำเท้ามาทางเรือนของท่านผู้นำด้วยความเร็วพลางส่งเสียงร้องเรียกยามมาถึงหน้าเรือน ก่อนจะก้มใบหน้าเล็กลงมองพื้นดินหอบหายใจถี่แรงด้วยความเหนื่อยล้า" ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วยขอรับ! "เสียงร้องของเด็กชายดังลั่น ทำให้หูหลี่กับลู่ปิงปิงที่อยู่ภายในเรือนปรุงโอสถต้องเดินออกมาดู ปรากฎให้เห็นร่างของเด็กชายวัย 7 ขวบที่มีรูปร่างผอมกำลังยืนโน้มตัวไปข้างหน้าสองมือจับเอาไว้ที่หัวเข่าทั้งสองข้าง หอบหายใจแรงถี่จนร่างกายสั่นไปทั้งกาย หูหลี่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเด็กชายตรงหน้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันท่วงที" เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเด็กน้อย "" ท่านผู้นำ ท่านเสี่ยวลู่ ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วยขอรับ เมื่อวานท่านพ่อของข้าเข้าไปหาสมุนไพรในป่า แต่พอท่านพ่

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 11

    11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 12

    12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 13

    13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 14

    14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ

    Last Updated : 2024-11-28
  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 15

    15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป

    Last Updated : 2024-11-28

Latest chapter

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 19 ( จบบริบูรณ์ )

    19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 18

    18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 17

    17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 16

    16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 15

    15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 14

    14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 13

    13อีกฝั่งของป่ากลุ่มบุรุษมนุษย์ที่เดินทางมากับปีศาจสามตน เพื่อค้นหาหมู่บ้านลึกลับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีสิ่งล้ำค่าซุกซ่อนเอาไว้และเป็นสิ่งที่เผ่าปีศาจต้องการมาก สิ่งนี้สามารถทำให้จอมราชาปีศาจที่ถูกผนึกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หากแต่ว่าบุรุษมนุษย์กลุ่มนี้กลับมิได้จงรักภักดีต่อเผ่าปีศาจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากพวกเขามิอยากตกเป็นทาสของเผ่าปีศาจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่และอยากลบล้างความผิดของตนที่ก่อขึ้นในอดีต" นี่พวกเราก็เดินมากันหลายวันแล้วนะทำไมถึงยังมิเจอหมู่บ้านลึกลับแห่งนี้สักที " บุรุษมนุษย์ผู้หนึ่งภายในกลุ่มกล่าวขึ้นเมื่อเริ่มเหนื่อยล้า" นั่นสิหรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีค่ายกลปกปิดเอาไว้เพื่อกันผู้บุกรุก หากต้องการที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้านก็จะต้องเป็นคนในหมู่บ้านพาเข้าไป " บุรุษมนุษย์อีกคนกล่าวขึ้นเสริม หากเป็นดั่งที่ตนคิดจริงคงเป็นเรื่องยากเสียแล้วล่ะ" หากเป็นเช่นที่เจ้ากล่าวมางานนี้เราคงยากที่จะเข้าไปแล้ว " ผู้อาวุโสเว่ยเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนจะหันหน้าไปมองปีศาจที่มาเพื่อควบคุมกลุ่มของตน " นายท่านจะทำเช่นไรต่อดี ถ้าเป็นอย่างที่ลู

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 12

    12สตรีงามที่หลับไหลมาเป็นเวลาสามวัน เริ่มขยับตัวช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกกวาดมองไปทั่วทุกมุมห้อง จากนั้นจึงชันร่างกายขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ความสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกลับมลายหายไปจนหมดสิ้น เมื่อบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนเดินเข้ามาภายในห้อง เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดให้นางฟัง บุรุษหนุ่มมิได้เอ่ยปากไล่สตรีออกจากเรือนของตนแต่อย่างใด เขายังให้นางพักจนกว่านางจะหายเป็นปกติ หากแต่เขาเองก็คอยจับสังเกตนางอยู่ตลอดเช่นกัน นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า บุรุษหนุ่มมิลืมที่จะนำเรื่องที่สตรีนางนี้ฟื้นขึ้น มารายงานผู้นำและฟูเหรินอย่างที่เคยรับปากก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านทั้งสองเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขา การที่ให้สตรีนางนี้ได้พักฟื้น จนกว่าร่างกายของนางจะหายดี แต่หากสืบสาวราวเรื่องว่านางเป็นสายลับของเผ่าปีศาจ พวกตนเองก็มีวิธีที่จะตั้งรับกับนางเช่นกัน หากนางเป็นคนธรรมดามิใช่คนของเผ่าปีศาจ พวกตนก็จะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มิว่าเช่นไรเผ่ามนุษย์ เผ่าสัตว์อสูรหรือแม้แต่เผ่าปีศาจเองก็มีทั้งดีและชั่วเช่นเดียวกัน

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 11

    11" ท่านผู้นำ ท่านผู้นำขอรับ ข้าน้อยขอคารวะท่านผู้นำ ข้าน้อยขอคารวะท่านเสี่ยวลู่ ท่านผู้นำขอรับท่านเหยาชูให้ข้าน้อยมารายงานต่อท่านผู้นำว่าพวกข้าน้อยได้พบสตรีมนุษย์นางหนึ่งนอนสลบอยู่ในป่าห่างออกไปจากหมู่บ้านของเรามิมากนักตอนออกไปลาดตะเวนในยามเช้าตรู่ นางได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่านางน่าจากออกมาหาสมุนไพรหรือไม่ก็ของป่าไปกินแล้วโดนสัตว์ป่าทำร้ายขอรับ " บุรุษหนุ่มนามหลินเยว่ เป็นทหารมากฝีมือเป็นมือขวาของแม่ทัพเหยาชู " ฮึ่ม...มนุษย์เช่นนั้นรึ " ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ทว่าภายในใจกลับคิดคาดคะเนต่อสตรีผู้นี้ " ไปกันเถอะ "" เหล่ากงท่านคิดเช่นไรกับสตรีผู้นี้รึ " ลู่ปิงปิงก้าวเดินไปตามทางใบหน้าเชิดตรงมองไปด้านหน้ายามเอ่ยถาม" คิดว่านางมิน่าไว้วางใจ เจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร " " ไม่รู้สิเจ้าค่ะ " เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นเหรอ หึ สามีของเสี่ยวลู่ช่างน่าสนใจนัก แต่เอะตอนนี้เธอเองก็อยู่ในร่างของเสี่ยวลู่นี้น่า ฉะนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นสามีของเธอด้วยเหมือนนกัน" เช่นนั้นรึ " มุมปากหยักหนากระตุกยิ้มขึ้น ฟูเหรินของตนช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นทุกวันเสียจริง" คา

DMCA.com Protection Status