หลังจากที่พนักงานร้านตกใจแล้วก็รีบหยิบการ์ดเข้าไปรูด มันเป็นเรื่องจริงหลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาก็ส่งคืนให้เย่เทียนหยู่ทันที และพูดด้วยความเคารพ: “ท่านคะ เสื้อผ้าและบัตรของคุณค่ะ”เย่เทียนหยู่รับมันไว้และเก็บการ์ดไว้ไป ก่อนจะถือเสื้อผ้าเอาไว้เมื่อเห็นว่าแบล็กการ์ดมังกรดำเป็นของจริง ซ่งหยางก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น เขารีบลุกขึ้นและเดินจากไป เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาลุงของเขา เขาต้องยืนยันก่อนหากเราไปขุ่นเคืองกับคนใหญ่โตแบบนี้ เราก็ต้องแก้ไขโดยเร็ว มิฉะนั้นเขาจะตายอย่างน่าสังเวชและอาจนำความเสียหายมาสู่ตระกูลซ่งด้วยหลินหว่านหรูมึนงง และเธอก็พูดอย่างขมขื่นด้วยใบหน้าที่น่าเกลียด: “เย่เทียนหยู่คราวนี้ นายประสบปัญหาใหญ่จริง ๆ แน่”“ไม่เป็นไร ผมจัดการได้หรอกน่า!” เย่เทียนหยู่ดูราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“นายจัดการกับมันได้ ลงมาจากเขาแบบไหนจะจัดการยังไงย่ะ”“นายคิดว่าการรู้กังฟูหมายความว่านายจะอยู่ยงคงกระพันเหรอ นี่ไม่ใช่สมัยโบราณนะ”“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เย่เทียนหยู่ต้องการอธิบาย“ไม่ว่าจะหมายถึงอะไร มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจัดการได้นะ คราวนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแ
จากนั้นเขาก็คิดว่าเป็นเย่เทียนหยู่ที่ซูถิงโทรมาเมื่อกี้เป็นเขาจริง ๆเมื่อนึกถึงซ่งเหวินหวู่ที่บอกว่าอีกฝ่ายชอบเก็บตัว ตัวตนของเขาก็ต้องไม่เปิดเผย เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแสดงความเคารพจากระยะไกล แล้วรีบจากไปพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นสิ่งที่เขาคิดคือการรอโอกาสแล้วเขาจะไปขอรับผิดกับเย่เทียนหยู่ด้วยตนเองผู้หญิงคนนั้นไม่คาดคิดว่าซ่งหยางจะจากไปแบบนี้ด้วยท่าทีไม่เต็มใจ ในท้ายที่สุดซ่งหยางก็ตบเธออย่างแรงไปหลายทีจะอีกฝ่ายได้สติหลินหว่านหรูมองไปที่การแสดงของซ่งหยางและตกใจเล็กน้อย เกิดอะไรขึ้น เมื่อพิจารณาจากความตั้งใจของอีกฝ่าย ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เรียกใคร แต่ดูเหมือนว่าเขาจะแก้ไขปัญหาได้แล้วซูถิงก็ตกตะลึงและอุทาน: “ไม่คิดเลยว่านายน้อยหลิวจะมีบารมีขนาดนี้ แม้แต่ซ่งหยางยังกลัวเขา”หลินหว่านหรูพยักหน้าและกล่าวว่า: “ฉันก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน ดูเหมือนว่าคุณหลิว จะมีอำนาจมากกว่าที่เราคิดไว้มาก ครั้งนี้ต้องขอบคุณเขาจริงๆ”“ถูกต้อง ไม่เหมือนบางคนที่ต้องการสร้างปัญหาเท่านั้น” ซูถิงมองไปที่เย่เทียนหยู่แล้วพูดเย่เทียนหยู่ดูสงบ เขามีประสบการณ์มามากและคำด่าพวกนี้ก็ไม่สะทกสะท้านเขาเลย“เย่เทียนหยู
หญิงสาวสองคนมีคิ้วโต้งมนงดงาม แก้มและริมฝีปากที่ใสราวกับเนื้อหยก ใบหน้าละเอียดอ่อนราวกับเทพธิดาในภาพวาด ชุดสีดำไม่สามารถซ่อนรูปร่างอันน่าทึ่งและสมบูรณ์แบบของเธอได้ลมยามค่ำคืนดูเหมือนจะหลงใหลในความงามของเธอเธอดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที โดยที่ทุกคนต่างก็มองเมินซูถิงที่เป็นสาวสวยงดงามและมีเสน่ห์ซึ่งกำลังเดินติดตามเธอไปโดยสิ้นเชิงไม่ต้องพูดถึงเย่เทียนหยู่ที่แต่งตัวสบาย ๆ“นี่เป็นคุณหนูบ้านไหนกันนะ เธอสวยมากเลย”“นี่คุณไม่รู้จักเธอเหรอ ก็หลินหว่านหรู ประธานหลินซื่อกรุ๊ป ประธานคนสวยของเมืองเทียนไห่เราไง”“เป็นเธอนี่เอง ถึงว่าทำไมถึงดูเย็นชาขนาดนี้”ขณะเดียวกันรถคันหรูอีกคันก็หยุดลงชายที่ออกมาก่อนนั้นหล่อและหุ่นดี เขาสวมเสื้อผ้าผู้ชายเวอร์ซาเช่ราคาแพงลิบซึ่งทำให้เขาดูเป็นชนชั้นสูงข้างหลังเขามีคู่ชายหญิงสองพี่น้องหยูเว่ยและหยูลู่ ซึ่งเขาเคยพบที่สโมสรฟันดาบวันนั้นผู้ที่เดินนำมาคือ หลิวเจี๋ย หลังจากลงมาเขาก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและตะโกน: “หว่านหรู!”“คุณมาแล้ว”หลินหว่านหรูยิ้มและกล่าวสวัสดีด้วยความช่วยเหลือจากผู้อื่น ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้ในวันนี้และในค่ำ
ดวงตาของหยู่เว่ยก็เบิกกว้างขึ้นทันทีสวย!สวยงามมาก!นี่ไม่ใช่ความงามทั่วไป แต่เป็นความงามที่บริสุทธิ์!เธอสวมชุดสีขาว ใบหน้างดงาม ดวงตาสีดำเปล่งประกายมีชีวิตชีวา ผิวของเธอใสราวกับหยก เธอดูเหมือนเอลฟ์สาวที่อยู่บนภูเขา“สวัสดี...”หยูเว่ยก้าวไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นเพื่อกล่าวทักทายน่าเสียดายที่เธอไม่สนใจเขาเลย แต่เดินไปหาเย่เทียนหยู่แล้วยื่นมือขวาออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีคุณชายเย่”เย่เทียนหยู่ยกมือขึ้นแล้วแตะเบา ๆ จากนั้นปล่อยมือทันที: “สวัสดี!”เมื่อเห็นหยางเฉียนเฉียนอีกครั้ง เขาก็พบว่าเธอมีมีสีหน้าที่ดีขึ้นและสดใสกว่าครั้งที่แล้วมากโดยเฉพาะอารมณ์ของความบริสุทธิ์นั้น ราวกับผู้ที่ไม่เคยแปดเปื้อนมลทินของโลกมนุษย์ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในดวงตาของหยางเฉียนเฉียน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้ชายที่เย็นชากับเธอมากขนดานี้“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้คราวที่แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตฉันคงตกอยู่ในอันตรายค่ะ”“เกรงใจเกินไปแล้วครับ”“ไปนั่งคุยกันดีไหมคะ?” หยางเฉียนเชียนกล่าวเย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาไม่ต้องการฟังคนโง่สองคนคุยกันที่นี่จนกระทั่งพวกเขาทั้งสองเดินจากไป หยูเว่ยก็กลับมามีสต
“อ่อ?”หยางเฉียนเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่รู้ที่มาของเย่เทียนหยู่ก็ตาม แต่จากสิ่งที่พ่อของเธอพูด เย่เทียนหยู่เป็นผู้ที่ทรงพลังมากอย่างแน่นอน อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ด้วยตัวเองไปแล้วหลิวเจี๋ยคิดว่าอีกฝ่ายเชื่อเขา และพูดต่อ: “จริง ๆ แล้ว ไม่เพียงแต่เขาไม่มีความสามารถเท่านั้น แต่เขาเพิ่งมาจากชนบทด้วย เขาน่ะไม่มีทั้งเงินทั้งยังไร้พรสวรรค์”“ถ้าวันนี้ผมไม่เชิญเขา เขาคงเข้ามาที่นี่ไม่ได้หรอก”“ถ้าอย่างนั้น ฉันควรจะขอบคุณจริง ๆ ที่ให้โอกาสฉันได้ใกล้ชิดกับพี่เย่” หยางเฉียนเฉียนพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“...”หลิวเจี๋ยพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ปัญญาอ่อนหรือเปล่า เธอไม่เข้าใจคำพูดของตัวเองเหรอ เขาพูดอย่างคนทำอะไรไม่ถูก: “คนสวยลองคิดดู ด้วยคุณที่สมบูรณ์แบบอย่างคุณไม่ว่าจะกับชายหนุ่มผู้ร่ำรวยคนไหนคุณก็คู่ควร แล้วทำไมต้องเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับขยะสังคมด้วยครับ?”เมื่อหยางเฉียนเฉียนได้ยินแบบนั้น เธอก็โกรธทันทีและพูดอย่างเย็นชา: “คุณบอกว่าพี่เย่เป็นขยะ แต่ฉันคิดว่าคุณนั่นแหละที่เป็นขยะ”“ผม……”หลิวเจี๋ยกำลังจะอาเจียนเป็นเลือด เขาใจดีช่วยเหลือเธอ แต่เธอด
แต่ก็มีเรื่องดีอยู่ เพราะหลังจากที่หลิวเจี๋ยช่วยนำทางเธอไป โดยเฉพาะซ่งเหวินป๋อ หรือคุณชายซ่งที่ให้เกียรติกันมากและเต็มใจที่จะจัดสรรโควต้าให้กับตระกูลหลินซ่งเหวินป๋อเป็นหนึ่งในหกผู้อำนวยการหอการค้าหลงเถิง และมีสถานะที่สูงมากเมื่อเขาก้าวไปข้างหน้ามันควรจะเป็นสิ่งที่แน่นอนหลิวเจี๋ยพยักหน้าเดินจากไป และด่าพวกหยูเล่ยทั้งสองคน: “คุณสองคนเป็นอะไรกัน ผมพาคุณเข้ามาเพื่อทำให้เย่เทียนหยู่อับอาย แต่ทำไมคุณปล่อยให้เขาสบายใจขนาดนี้”หยูเว่ยดูเสียใจและพูดอย่างหดหู่: “นายน้อยหลิว เราก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเพิกเฉยต่อเราเลยและปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นอากาศธาตุ”“ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนเขาจะผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อมาถึงสถานที่เช่นนี้ ไม่มีความตึงเครียดหรือความยับยั้งชั่งใจใด ๆ อย่างที่เราคาดไว้เลย”“ทำไมฉันถึงรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้น”“แม่งเอ้ย มันก็แค่หน้าด้านเท่านั้นเอง”หลิวเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา: “ช่างมันเถอะ แบบนี้ก็พอทำให้หลินหว่านหรูโกรธได้อยู่ มันจะช่วยให้ฉันได้ตัวหลินหว่านหรูมาเร็ว ๆ ยังไงล่ะ”แม้ว่าเธอจะรำคาญกับการกระทำของเย่เทียนหยู่แต่โชคดีที่การเข
“นี่นายยังจะโทรศัพท์อีกเหรอ เย่เทียนหยู่ นายคิดว่าตัวเองเป็นคนสนิทหรือญาติประธานหยางหรือไง?”ซูถิงก่นด่าเขาว่านี่มันเวลาอะไรยังจะมาคุยโวอยู่อีก“หว่านหรู ไม่ต้องสนใจเขาหรอก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งรีบนะ รีบไปหานายน้อยหลิวกันเถอะ บางทีเขาอาจจะมีทางช่วยเราก็ได้”เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก วันนี้แค่นายน้อยหลิวแนะนำฉันให้รู้จักกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้าหลายคนได้ เขาเก่งมากพอแล้วล่ะ”ในมุมมองของเธอ ประธานหยางกำหนดหนึ่งโควต้านั้นด้วยตัวเอง อย่าว่าแต่หลิวเจี๋ยเลย ต่อให้หลิวเจี๋ยจะเก่งแค่ไหนก็เกรงว่าเขาคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้“แต่ว่าเราจะเอาแต่นั่งอยู่แบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้หรอก ฉันจะไปถามเพื่อนฉัน”ซูถิงลุกขึ้นยืนและจากไปเมื่อเห็นซูถิงจากไป หลินหว่านหรูก็ถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทางในใจของเธอ เรื่องนี้มันมีข้อสรุปอยู่แล้วเย่เทียนหยู่เดินไปที่อีกฝาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรไปหาหยางต้าฝู ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ: “หยางต้าฝูเกิดอะไรขึ้น? ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ตระกูลหลินเข้าร่วมหอการค้า?”“อ่า……”หยางต้าฝู
ซ่งหยางพูดอย่างเย็นชา“ใช่ครับ ใช่…”ใบหน้าของหยูเว่ยซีดเผือด เขาทั้งกลัวและโมโห เพราะหัวหน้าตระกูลซ่งเป็นสมาชิกอาวุโสของหอการค้าหลงเถิง ดังนั้นพวกเขาจะทำให้ซ่งหยางขุ่นเคืองไม่ได้เขาทำได้เพียงพาน้องสาวของเขาออกจากงานเลี้ยงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีทางเลือกเนื่องจากห้องจัดเลี้ยงมีขนาดใหญ่มาก และเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนักและนี่ก็เป็นสิ่งที่ซ่งหยางตั้งใจจะทำให้สำเร็จ เพราะลุงของเขาบอกว่าคุณเย่เป็นคนที่ถ่อมตนมาก อีกทั้งไม่ชอบเปิดเผยสถานะอันสูงส่งของตนเองซ่งหยางรีบพูดกับเย่เทียนหยู่ด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ คุณเย่”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและถามเขา “คราวก่อนคุณทำตัวใหญ่โตขนาดนั้นทำไม่จู่ ๆ ถึงยอมไปล่ะครับ?”ซ่งหยางยิ้มอย่างขมขื่นและอธิบายว่า “ผมเห็นแบล็กการ์ดมังกรดำอยู่ในมือของคุณ แล้วผมก็บังเอิญรู้มาว่าประธานหยางเพิ่งมอบมันกับคนสำคัญสกุลเย่คนหนึ่ง”“อย่างนั้นเองเหรอครับ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและพูดว่า “เมื่อกี้ขอบคุณนะ!”“คุณเย่เกรงใจผมเกินไปแล้วครับ คราวที่แล้วผมรู้น้อยเลยกระทำเรื่องโง่ลงไปทำให้คุณขุ่นเคือง แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ขอโท
เมื่อคืนเธอสามารถหลับได้อย่างสบายใจ หลักจากที่ตื่นเช้าขึ้นมา พอหลินหว่านหรูลงจากเตียง เธอก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขช่วงหลายวันมานี้ เธอไม่เคยรู้สึกสบายใจเท่ากับเมื่อคืนมาก่อนเลยรู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน ทำไมตัวเองถึงได้มีความสุขมากขนาดนี้ช่วงเวลาเก้าโมงเช้า หลินหว่านหรูปรากฏตัวที่บริษัทตามเวลาเข้างาน หลังจากที่เธอทบทวนมาทั้งคืน เธอก็เปลี่ยนการตัดสินใจของเธอ นี่ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะต้องจากเทียนเฟิงกรุ๊ปไปเพราะแบบนั้นมันก็เท่ากับเธอกำลังหนีปัญหาในช่วงเวลาที่สำคัญ หรือต่อให้เธอจะต้องจากไปจริง ๆ เธอก็ควรที่จะสร้างผลงานให้เป็นชิ้นเป็นอันเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงจะรู้สึกผิดต่อความรักความเอ็นดูที่มู่หรงอินมีต่อเธอเป็นแน่เมื่อเห็นหลินหว่านหรู ทุกคนต่างก็แสดงความเคารพต่อเธอด้วยความจริงใจแม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่การบริหารและการจัดการของหลินหว่านหรูก็ทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจมากจริง ๆประสิทธิภาพของบริษัทเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปัจจุบันผลทางสถิติอาจจะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่มันก็ทำให้ทุกคนสามารถ
แบบนี้มันจะดูเกินความเป็นจริงไปหน่อยไหม แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “หากคุณเย่ไม่ว่างจริง ๆ เช่นนั้นให้ผมช่วยดูแลแทนก่อนดีไหมครับ?”“คุณน่ะเหรอ?”“ใช่ ใช่ครับ ผมค่อนข้างรู้จักบริษัทนี้อยู่พอสมควร เมื่อก่อนผมเองก็มักจะคอยช่วยประธานไป๋ดูแลเรื่องในบริษัทอยู่บ่อย ๆ” หม่าต้านรู้สึกประหม่าอันที่จริง การที่เขาสามารถทำงานอยู่ข้าง ๆ หัวหน้าใหญ่ไป๋ได้นั้น หลัก ๆ เป็นเพราะเขามีความสามารถในการดูแลผู้อื่นและทักษะในการเข้าสังคม ส่วนเรื่องสำคัญ ๆ ก็ถึงจะให้หัวหน้าใหญ่ไป๋เป็นคนที่ตัดสินใจเอง“งั้นเองเหรอ เช่นนั้นคุณก็รักษาการณ์แทนไปก่อน หากทำได้ดี ไว้ค่อยรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการอีกที!” เย่เทียนหยู่พูดออกไปตรง ๆบริษัทใหญ่ ๆ ต่างก็ยังต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อเลือกตั้งผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่ง แต่สำหรับไป๋เฉิงกรุ๊ปแล้ว ตระกูลไป๋ถือหุ้นเอาไว้ในมือค่อนข้างเยอะ แทบจะนับว่าบริษัทนี้เป็นของตระกูลไป๋เลยก็ว่าได้พูดกันตามตรง ไม่ว่าตำแหน่งประธานจะเป็นของใคร หรือควรจะทำอะไร ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตระกูลไป๋โดยสิ้นเชิงแน่นอนว่าตอนนี้สิทธิ์ในการตัดสินใจทั้งหมดจึงต้องขึ้นอยู่กับเย่เทีย
หลังจากที่หลินหว่านหรูกดวางสาย เธอก็กลับยังคงตกอยู่ในภวังค์เธอรู้สึกว่า มู่หรงอินดีกับเธอมากเกินไป และตามใจเธอมากเกินไปแต่อีตาบ้าเทียนหยู่คนนี้ก็เหลือเกินจริง ๆ เมื่อกี้เกือบทำให้เธอตกใจตายได้เลยนะนั่น เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจออกมาว่า “ครั้งหน้าคุณห้ามทำแบบนี้แล้วนะคะ ฉันตกใจเกือบตายก็เพราะคุณเลยนะเมื่อกี้”“มีอะไรให้ต้องกลัวกัน คุณคิดมากเกินไปแล้ว”เย่เทียนหยู่ยิ้มด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะพูดต่อว่า “หรือว่าคุณไม่เคยสังเกตเลยงั้นเหรอ ว่าแม่ของผมไม่ได้มีท่าทีต่อต้านใด ๆ กับคุณเลย อันที่จริง การที่คุณยิ่งเป็นตัวของตัวเอง ยิ่งคุณผ่อนคลาย มันก็ยิ่งทำให้เธอมีความสุขมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ”หลินหว่านหรูชะงักไปชั่วขณะ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ก็ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มรู้สึกเห็นด้วยอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังอดถามออกไปไม่ได้อยู่ดี “จริงเหรอคะ?”“แน่นอน เพราะว่าแบบนั้นมันถึงจะเป็นตัวตนจริง ๆ ของคุณ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยความมั่นใจดูเหมือนว่าหลินหว่านหรูจะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ก่อนที่จะเข้าใจสิ่งที่เขาพูดอย่างคลุมเครือครอบครัวเดียวกัน ก็ควรจะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา มีอะไรก็ควรที่จะพ
“งั้นเหรอ คุณยังจำได้ใช่ไหม ว่าตอนนั้นฉันเคยบอกกับคุณเอาไว้ว่ายังไง ไม่ว่าหลินหว่านหรูจะมีข้อเรียกร้องอะไร คุณก็จะต้องทำให้เธอพอใจให้ได้?”“แต่ว่า โครงการนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้บริษัทขาดทุนหลายร้อยล้านเลยนะครับ หรืออาจจะถึงพันล้านเลยก็เป็นได้”“ร้อยล้านงั้นเหรอ คุณคิดว่าคนอย่างฉัน มู่หรงอินคนนี้จะใช้เงินแค่ร้อยล้านเล่นแบบฟุ่มเฟือยไม่ได้เลยรึไง?” มู่หรงอินถามกลับด้วยความโกรธ“นะ แน่นอนว่าไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ! เงินจำนวนแค่นี้สำหรับคุณแล้ว นับว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยมากครับ!” สีหน้าของเย่ซานยิ่งดูแย่ลงมากขึ้นเรื่อย ๆ“เข้าใจแล้วก็ดี แล้วอีกอย่าง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าคุณคิดอะไรอยู่ในใจ คุณกลัวว่าหลินหว่านหรูจะแย่งตำแหน่งประธานของคุณไปอย่างนั้นใช่ไหม?”เมื่อมู่หรงอินพูดมาถึงตรงนี้ เธอก็พูดอย่างเย็นชาออกมาอีกว่า “อันที่จริง คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ”ไม่จำเป็นต้องกังวลงั้นเหรอ?เย่ซานรู้สึกดีใจขึ้นมา ดูท่าแล้ว หลินหว่านหรูคงไม่มีทางแย่งตำแหน่งของเขาไปได้จริง ๆ เพราะไม่อย่างนั้น ท่านประธานคงไม่พูดแบบนี้แน่“นั่นก็เพราะว่า หากหลินหว่านหรูต้องการ ตำแหน่งประธานก็จะเ
มู่หรงอินรู้สึกสับสนเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่มีความสุขงั้นเหรอ ทำไมกันล่ะ?”หลินหว่านหรูรู้สึกเครียดมาก เธอพยายามอย่างมากเพื่อที่จะสร้างความประทับใจ แต่ก็กลับถูกเย่เทียนหยู่ทำลายมันลงทั้งอย่างนั้น แบบนี้คุณป้าคงจะโกรธเธอมากแน่ ๆเธอทำได้เพียงส่งสัญญาณไม่ให้เย่เทียนหยู่พูดจาซี้ซั้วก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว ใครบ้างล่ะจะชอบคนที่เอาแต่บ่นทั้งที่ยังไม่เริ่มแก้ปัญหาเลยด้วยซ้ำแต่เย่เทียนหยู่ก็แทบจะมองไม่เห็น แถมเขายังพูดต่ออีกว่า “มีสองเหตุผลครับ เหตุผลแรก เป็นเพราะบริษัทนี้เป็นของแม่ เธอก็เลยรู้สึกอึดอัด ส่วนอีกเหตุผล ก็ยังเป็นเพราะบริษัทเป็นของแม่อีกนั่นแหละ เธอเลยไม่สามารถตัดสินใจทำอะไรเองได้เลย”“......”ดูสิ ว่าเขาพูดอะไรออกมา หลินหว่านหรูแทบจะสติแตก เธออยากที่จะเดินไปแย่งโทรศัพท์มา ณ เดี๋ยวนั้นเลยแต่มู่หรงอินเองก็เป็นคนฉลาด แค่ฟังก็เข้าใจเหตุผลคร่าว ๆ ได้แล้ว ประการแรกเป็นเพราะเธอกลัวว่าจะทำให้ตนไม่พอใจ และถูกจำกัดมากจนเกินไปประการที่สอง เกรงว่าอาจจะเป็นเพราะผู้บริหารระดับสูงมีอคติต่อหลินหว่านหรู เพราะไม่อย่างนั้น เทียนหยู่คงไม่พูดเรื่องตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ออกมาแน่แต
อันที่จริง เย่เทียนหยู่ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะมีผลตอบแทนหรือไม่ แต่เขาก็พอจะดูออกว่าหลินหว่านหรูอยากจะพูดอะไร ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทำตามสิ่งที่เธอคิดก็เท่านั้นหลินหว่านหรูเองก็อยากที่จะแสดงให้เขาเห็นเหมือนกัน ว่าสิ่งที่เธอเลือกนั้นเชื่อถือได้เพราะเธอเคยพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางไปตรวจสอบมาแล้ว หากการพัฒนาแบตเตอรี่ของบริษัทฮั่นทงประสบความสำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องน่าทึ่งมากอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่ความเร็วในการชาร์จจะเร็วจนน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังมีความทนทานสูงมากอีกด้วย แถมยังสามารถรับรองเรื่องความปลอดภัยได้อีกต่างหากแทบจะไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ หลงเหลืออยู่เลยเพียงแต่ตอนนี้ พวกเขายังเหลือปัญหาที่ปัจจุบันยังไม่สามารถจัดการได้อยู่ อย่างน้อยมันก็ทำให้พวกเขาแทบจะมองไม่เห็นความหวังมากนักในช่วงนี้แต่ด้วยความกระตือรือร้นและความมั่นใจของโจวเจิ้ง มันจึงทำให้หลินหว่านหรูเริ่มรู้สึกเชื่อขึ้นมา เพราะเธอรู้ดีว่าโจวเจิ้งผู้นี้เป็นคนที่คลั่งไคล้การวิจัยมากแค่ไหน นอกจากนี้ เขาก็เป็นคนที่ไม่เคยพูดอะไรที่ไม่มีเหตุผลมาก่อนและเขาก็เป็นคนพูดเองว่า อีกไม่เกินหนึ่งปี การวิจัยและพัฒนาของเขาจะต้องสำเร็จอย
จากนั้นหลินหว่านหรูก็เดินกลับเข้ามา พร้อมทั้งแสดงท่าทีราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่า ด้วยความสามารถในการได้ยินของเย่เทียนหยู่ สิ่งที่เธอพูดนั้น เย่เทียนหยู่ได้ยินแทบจะทั้งหมด“คุยเสร็จแล้วเหรอ?”เย่เทียนหยู่ถามด้วยรอยยิ้ม“อือ!”“พอดีเลย ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณเหมือนกัน” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มต่อว่า “หว่านหรู คุณคิดว่าการทำงานที่เทียนเฟิงกรุ๊ปมีความสุขไหม?”หลินหว่านหรูรู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาถามแบบนี้หมายความว่ายังไง เธอจึงตอบกลับไปว่า “ก็ใช้ได้ค่ะ!”“ใช้ได้งั้นเหรอ?”“เหมือนคุณจะไม่มีความสุขมากกว่าน่ะสิไม่ว่า อย่างน้อยก็มีความสุขน้อยกว่าตอนที่คุณทำงานที่หลินซื่อกรุ๊ป ผมพูดถูกไหม?”“เอ่อคือ......อือ!” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูเองก็ไม่สามารถปิดบังความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ได้“คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าเป็นเพราะอะไร?”หลินหว่านหรูนิ่งเงียบ“ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณเคยคิดเรื่องนี้บ้างรึเปล่า แต่เมื่อกี้ผมลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนดูแล้ว จุดที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ในสายตาของคุณ เทียนเฟิงกรุ๊ปมันคือธุรกิจของแม่ผม คือธุรกิจของผม”“มันเลยทำให้ในใจของคุณ
“วิธีอื่น? วิธีอะไรเหรอ?”“ก็อย่างเช่น......” เย่เทียนหยู่ใช้นิ้วชี้ไปยังหลินหว่านหรูในที่สุดหลินหว่านหรูก็เข้าใจ ใบหน้าแดงก่ำแทบจะในทันที ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “คุณนี่มันเลวจริง ๆ!”“ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วไม่ใช่รึไง” เย่เทียนหยู่เองก็ทำอะไรไม่ถูก“ตะ แต่ถึงยังไงก็ทำที่นี่ไม่ได้นะ”“อะไรนะ? !”อันที่จริงเย่เทียนหยู่แค่พูดหยอกเธอเล่น เพื่อทำให้เธอขำก็เท่านั้นถึงอย่างไร เขาเองก็พอจะดูออก ว่าในใจของหลินหว่านหรูรู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย เขาถึงกับเคยคิดเลยว่า หลินหว่านหรูไม่ควรจะมาที่เทียนเฟิงกรุ๊ปเสียด้วยซ้ำสีหน้าหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความรู้สึกกังวล แต่เพื่อสุขภาพของเย่เทียนหยู่แล้ว เธอจึงกัดฟันพูดออกไปว่า “พวกเราไปที่ห้องน้ำกันเถอะ ตรงนั้นน่าจะไม่มีคน”“......”หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลินหว่านหรูก็กลับจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาที่ดุเดือดเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รู้สึกเหมือนกับว่าตนเพิ่งจะสลบไปยังไงอย่างงั้น แม้แต่สติก็ยังเลอะเลือนไปชั่วขณะเลยด้วยซ้ำ แถมยังทำตามคำสั่งของเย่เทียนหยู่อย่างเชื่อฟังอีกต่างหากหรือว่า เป็นเพราะเธอรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้งั้
“ฮึ ๆ!”“ในห้องทำงานก็ยิ่งดีสิ จะได้เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปด้วยเลยไง”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ เขาเริ่มทำการพลิกตัว แล้วกดหลินหว่านหรูลงบนโต๊ะทำงานทันที ก่อนจะใช้มือขวาลูบไล้ไปยังส่วนนั้นของเธอว้าย!หลินหว่านหรูส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ ร่างกายสั่นเทาจนเกือบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ และต่อมาเธอก็ควบคุมร่างกายเอาไว้ไม่อยู่จริง ๆ เธอตกอยู่ในภวังค์โดยสมบูรณ์เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ทันได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ ว่าหยางไฉ่อวิ๋นกำลังยืนอยู่ตรงประตูด้วยใบหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นแรงจนแทบกระโดดออกมาเลยทีเดียวนี่...... ประธานหลินชักจะใจกล้าเกินไปแล้วมั้งทำไมถึงได้ชอบทำเรื่องแบบนี้ในห้องทำงานอยู่เรื่อยเลยเนี่ย!แต่คุณเย่เองก็เก่งเหลือเกิน ผ่านมานานขนาดนี้กลับยังไม่เสร็จอีก หากตนได้ติดตามเขาล่ะก็ ตนคงตื่นเต้นจนเป็นลมไปเลยแน่ ๆไม่สิ ไม่ เราจะคิดแบบนั้นไม่ได้แล้วอีกอย่าง เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังพวกเขาด้วย หลัก ๆ ที่มาหาก็เพื่อต้องการให้ประธานหลินเซ็นเอกสารแต่ว่า คุณเย่เองก็หล่อมากจริง ๆ แถมอำนาจก็แข็งแกร่งมากอีกด้วย ทุกครั้งที่ได้พบเขา ก็มักจะทำให้ใจเต้นแรงไม่หยุด รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกหลังจ