หญิงสาวสองคนมีคิ้วโต้งมนงดงาม แก้มและริมฝีปากที่ใสราวกับเนื้อหยก ใบหน้าละเอียดอ่อนราวกับเทพธิดาในภาพวาด ชุดสีดำไม่สามารถซ่อนรูปร่างอันน่าทึ่งและสมบูรณ์แบบของเธอได้ลมยามค่ำคืนดูเหมือนจะหลงใหลในความงามของเธอเธอดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที โดยที่ทุกคนต่างก็มองเมินซูถิงที่เป็นสาวสวยงดงามและมีเสน่ห์ซึ่งกำลังเดินติดตามเธอไปโดยสิ้นเชิงไม่ต้องพูดถึงเย่เทียนหยู่ที่แต่งตัวสบาย ๆ“นี่เป็นคุณหนูบ้านไหนกันนะ เธอสวยมากเลย”“นี่คุณไม่รู้จักเธอเหรอ ก็หลินหว่านหรู ประธานหลินซื่อกรุ๊ป ประธานคนสวยของเมืองเทียนไห่เราไง”“เป็นเธอนี่เอง ถึงว่าทำไมถึงดูเย็นชาขนาดนี้”ขณะเดียวกันรถคันหรูอีกคันก็หยุดลงชายที่ออกมาก่อนนั้นหล่อและหุ่นดี เขาสวมเสื้อผ้าผู้ชายเวอร์ซาเช่ราคาแพงลิบซึ่งทำให้เขาดูเป็นชนชั้นสูงข้างหลังเขามีคู่ชายหญิงสองพี่น้องหยูเว่ยและหยูลู่ ซึ่งเขาเคยพบที่สโมสรฟันดาบวันนั้นผู้ที่เดินนำมาคือ หลิวเจี๋ย หลังจากลงมาเขาก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและตะโกน: “หว่านหรู!”“คุณมาแล้ว”หลินหว่านหรูยิ้มและกล่าวสวัสดีด้วยความช่วยเหลือจากผู้อื่น ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้ในวันนี้และในค่ำ
ดวงตาของหยู่เว่ยก็เบิกกว้างขึ้นทันทีสวย!สวยงามมาก!นี่ไม่ใช่ความงามทั่วไป แต่เป็นความงามที่บริสุทธิ์!เธอสวมชุดสีขาว ใบหน้างดงาม ดวงตาสีดำเปล่งประกายมีชีวิตชีวา ผิวของเธอใสราวกับหยก เธอดูเหมือนเอลฟ์สาวที่อยู่บนภูเขา“สวัสดี...”หยูเว่ยก้าวไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นเพื่อกล่าวทักทายน่าเสียดายที่เธอไม่สนใจเขาเลย แต่เดินไปหาเย่เทียนหยู่แล้วยื่นมือขวาออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีคุณชายเย่”เย่เทียนหยู่ยกมือขึ้นแล้วแตะเบา ๆ จากนั้นปล่อยมือทันที: “สวัสดี!”เมื่อเห็นหยางเฉียนเฉียนอีกครั้ง เขาก็พบว่าเธอมีมีสีหน้าที่ดีขึ้นและสดใสกว่าครั้งที่แล้วมากโดยเฉพาะอารมณ์ของความบริสุทธิ์นั้น ราวกับผู้ที่ไม่เคยแปดเปื้อนมลทินของโลกมนุษย์ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในดวงตาของหยางเฉียนเฉียน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้ชายที่เย็นชากับเธอมากขนดานี้“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้คราวที่แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตฉันคงตกอยู่ในอันตรายค่ะ”“เกรงใจเกินไปแล้วครับ”“ไปนั่งคุยกันดีไหมคะ?” หยางเฉียนเชียนกล่าวเย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาไม่ต้องการฟังคนโง่สองคนคุยกันที่นี่จนกระทั่งพวกเขาทั้งสองเดินจากไป หยูเว่ยก็กลับมามีสต
“อ่อ?”หยางเฉียนเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่รู้ที่มาของเย่เทียนหยู่ก็ตาม แต่จากสิ่งที่พ่อของเธอพูด เย่เทียนหยู่เป็นผู้ที่ทรงพลังมากอย่างแน่นอน อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ด้วยตัวเองไปแล้วหลิวเจี๋ยคิดว่าอีกฝ่ายเชื่อเขา และพูดต่อ: “จริง ๆ แล้ว ไม่เพียงแต่เขาไม่มีความสามารถเท่านั้น แต่เขาเพิ่งมาจากชนบทด้วย เขาน่ะไม่มีทั้งเงินทั้งยังไร้พรสวรรค์”“ถ้าวันนี้ผมไม่เชิญเขา เขาคงเข้ามาที่นี่ไม่ได้หรอก”“ถ้าอย่างนั้น ฉันควรจะขอบคุณจริง ๆ ที่ให้โอกาสฉันได้ใกล้ชิดกับพี่เย่” หยางเฉียนเฉียนพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“...”หลิวเจี๋ยพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ปัญญาอ่อนหรือเปล่า เธอไม่เข้าใจคำพูดของตัวเองเหรอ เขาพูดอย่างคนทำอะไรไม่ถูก: “คนสวยลองคิดดู ด้วยคุณที่สมบูรณ์แบบอย่างคุณไม่ว่าจะกับชายหนุ่มผู้ร่ำรวยคนไหนคุณก็คู่ควร แล้วทำไมต้องเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับขยะสังคมด้วยครับ?”เมื่อหยางเฉียนเฉียนได้ยินแบบนั้น เธอก็โกรธทันทีและพูดอย่างเย็นชา: “คุณบอกว่าพี่เย่เป็นขยะ แต่ฉันคิดว่าคุณนั่นแหละที่เป็นขยะ”“ผม……”หลิวเจี๋ยกำลังจะอาเจียนเป็นเลือด เขาใจดีช่วยเหลือเธอ แต่เธอด
แต่ก็มีเรื่องดีอยู่ เพราะหลังจากที่หลิวเจี๋ยช่วยนำทางเธอไป โดยเฉพาะซ่งเหวินป๋อ หรือคุณชายซ่งที่ให้เกียรติกันมากและเต็มใจที่จะจัดสรรโควต้าให้กับตระกูลหลินซ่งเหวินป๋อเป็นหนึ่งในหกผู้อำนวยการหอการค้าหลงเถิง และมีสถานะที่สูงมากเมื่อเขาก้าวไปข้างหน้ามันควรจะเป็นสิ่งที่แน่นอนหลิวเจี๋ยพยักหน้าเดินจากไป และด่าพวกหยูเล่ยทั้งสองคน: “คุณสองคนเป็นอะไรกัน ผมพาคุณเข้ามาเพื่อทำให้เย่เทียนหยู่อับอาย แต่ทำไมคุณปล่อยให้เขาสบายใจขนาดนี้”หยูเว่ยดูเสียใจและพูดอย่างหดหู่: “นายน้อยหลิว เราก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเพิกเฉยต่อเราเลยและปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นอากาศธาตุ”“ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนเขาจะผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อมาถึงสถานที่เช่นนี้ ไม่มีความตึงเครียดหรือความยับยั้งชั่งใจใด ๆ อย่างที่เราคาดไว้เลย”“ทำไมฉันถึงรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้น”“แม่งเอ้ย มันก็แค่หน้าด้านเท่านั้นเอง”หลิวเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา: “ช่างมันเถอะ แบบนี้ก็พอทำให้หลินหว่านหรูโกรธได้อยู่ มันจะช่วยให้ฉันได้ตัวหลินหว่านหรูมาเร็ว ๆ ยังไงล่ะ”แม้ว่าเธอจะรำคาญกับการกระทำของเย่เทียนหยู่แต่โชคดีที่การเข
“นี่นายยังจะโทรศัพท์อีกเหรอ เย่เทียนหยู่ นายคิดว่าตัวเองเป็นคนสนิทหรือญาติประธานหยางหรือไง?”ซูถิงก่นด่าเขาว่านี่มันเวลาอะไรยังจะมาคุยโวอยู่อีก“หว่านหรู ไม่ต้องสนใจเขาหรอก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งรีบนะ รีบไปหานายน้อยหลิวกันเถอะ บางทีเขาอาจจะมีทางช่วยเราก็ได้”เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก วันนี้แค่นายน้อยหลิวแนะนำฉันให้รู้จักกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้าหลายคนได้ เขาเก่งมากพอแล้วล่ะ”ในมุมมองของเธอ ประธานหยางกำหนดหนึ่งโควต้านั้นด้วยตัวเอง อย่าว่าแต่หลิวเจี๋ยเลย ต่อให้หลิวเจี๋ยจะเก่งแค่ไหนก็เกรงว่าเขาคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้“แต่ว่าเราจะเอาแต่นั่งอยู่แบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้หรอก ฉันจะไปถามเพื่อนฉัน”ซูถิงลุกขึ้นยืนและจากไปเมื่อเห็นซูถิงจากไป หลินหว่านหรูก็ถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทางในใจของเธอ เรื่องนี้มันมีข้อสรุปอยู่แล้วเย่เทียนหยู่เดินไปที่อีกฝาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรไปหาหยางต้าฝู ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ: “หยางต้าฝูเกิดอะไรขึ้น? ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ตระกูลหลินเข้าร่วมหอการค้า?”“อ่า……”หยางต้าฝู
ซ่งหยางพูดอย่างเย็นชา“ใช่ครับ ใช่…”ใบหน้าของหยูเว่ยซีดเผือด เขาทั้งกลัวและโมโห เพราะหัวหน้าตระกูลซ่งเป็นสมาชิกอาวุโสของหอการค้าหลงเถิง ดังนั้นพวกเขาจะทำให้ซ่งหยางขุ่นเคืองไม่ได้เขาทำได้เพียงพาน้องสาวของเขาออกจากงานเลี้ยงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีทางเลือกเนื่องจากห้องจัดเลี้ยงมีขนาดใหญ่มาก และเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนักและนี่ก็เป็นสิ่งที่ซ่งหยางตั้งใจจะทำให้สำเร็จ เพราะลุงของเขาบอกว่าคุณเย่เป็นคนที่ถ่อมตนมาก อีกทั้งไม่ชอบเปิดเผยสถานะอันสูงส่งของตนเองซ่งหยางรีบพูดกับเย่เทียนหยู่ด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ คุณเย่”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและถามเขา “คราวก่อนคุณทำตัวใหญ่โตขนาดนั้นทำไม่จู่ ๆ ถึงยอมไปล่ะครับ?”ซ่งหยางยิ้มอย่างขมขื่นและอธิบายว่า “ผมเห็นแบล็กการ์ดมังกรดำอยู่ในมือของคุณ แล้วผมก็บังเอิญรู้มาว่าประธานหยางเพิ่งมอบมันกับคนสำคัญสกุลเย่คนหนึ่ง”“อย่างนั้นเองเหรอครับ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและพูดว่า “เมื่อกี้ขอบคุณนะ!”“คุณเย่เกรงใจผมเกินไปแล้วครับ คราวที่แล้วผมรู้น้อยเลยกระทำเรื่องโง่ลงไปทำให้คุณขุ่นเคือง แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ขอโท
ในตอนนั้นเอง ที่ซูถิงกลับมาด้วยท่าทางสิ้นหวังเธอไม่ได้รู้จักคนใหญ่คนโตเลยสักคน ผู้ทรงพลังที่สุดก็ไม่ใช่ใครหอกแต่เป็นหลิวเจี๋ย ดังนั้นเธอก็เลยไปพบหลิวเจี๋ยและแจ้งสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องให้เขาทราบหลังจากฟังเรื่องนี้แล้ว หลิวเจี๋ยก็ได้แต่แอบส่ายหัว ถ้าเป็นกรณีนี้ เขาจะทำอะไรได้ ต่อให้พ่อของเขาเป็นคนไปออกหน้าเองมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกแต่ต่อหน้าซูถิง หลิวเจี๋ยแสร้งทำเป็นพยายามโทรออกหลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เขาก็เดินกลับมาพร้อมกับซูถิง“หว่านหรู ผมเพิ่งได้ยินจากซูถิง ว่าการเข้าร่วมหอการค้าของตระกูลหลินเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเหรอครับ?” หลิวเจี๋ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลินหว่านหรูพยักหน้า“เฮ้อ คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ผมโทรหาพ่อและขอให้เขาช่วยดูแล้ว”“คุณหาพ่อคุณเหรอคะ?”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสงสัยว่าที่ประธานหยางโทรหาเธอ ไม่ใช่เพราะเย่เทียนหยู่แต่เป็นเพราะพ่อของหลิวเจี๋ยจะว่าไปแล้ว เย่เทียนหยู่เพิ่งลงมาจากภูเขาแล้วก็แค่พอได้กังฟูอยู่บ้าง เขาจะรู้จักประธานหยางได้ยังไงในทางกลับกัน พ่อของนายน้อยหลิวมีสถานะที่สูงมากในเมืองเทียนไห่ และก็อาจ
แล้วทำไมตระกูลหลินถึงได้รับโควต้าเข้าร่วมหอการค้า คงไม่ใช่เพราะเย่เทียนหยู่หรอกนะเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!“นั่นสินะคะ นายน้อยหลิว ครั้งนี้ฉันต้องขอบคุณอีกครั้ง” หลินหว่านหรูขอบคุณเขา“ไม่เป็นไรครับ ที่ผมช่วยคุณได้ผมดีใจกว่าตระกูลของผมเองได้เข้าร่วมหอการค้าซะอีกนะครับ” หลิวเจี๋ยรีบรับความดีความชอบนี้อย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจอะไรมากนัก“เย่เทียนหยู่ดูสิ แค่โทรกริ๊งเดียวนายน้อยหลิวก็แก้ไขเรื่องสำคัญที่แทบจะตัดสินชะตากรรมของตระกูลหลินได้แล้ว”“ส่วนนาย นายเอาแต่นั่งเฉย ๆ อยู่ตรงนั้น จะเอาอะไรมาเทียบกับนายน้อยหลิว?”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและพูดว่า “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมว่าพี่เย่เกลี้ยกล่อมผู้หญิงก็เก่งอยู่นะ เพราะผู้หญิงคนเมื่อกี้ดูเหมือนจะปกป้องเขาเป็นพิเศษ”เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็นึกถึงหยางเฉียนเฉียนเมื่อครู่ ทำให้เธอยิ่งอารมณ์เสียมากขึ้นไปอีกเย่เทียนหยู่พูดไม่ออก จึงพูดตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “พวกคุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเขาเป็นคนช่วยเรื่องนี้?”“ถ้าไม่ใช่เขาหรือนายเป็นคนช่วยเหรอ? ทำไม นายคงไม่อยากพูดว่าประธานหยางเป็นผู้ใต้บ