หยางต้าฝูกวาดสายตามองผู้คน ก่อนที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่เย่เทียนหยู่อยู่พักหนึ่งแล้วยิ้มออกมาพร้อมกัยพูดว่า “วันนี้ ขอบคุณมากที่ทุกท่านมาทานอาหารค่ำร่วมกันในคืนนี้ ผมเชื่อว่าคืนนี้ทุกคนคนจะคว้าโอกาสดีกันไปไม่น้อย”ทุกคนพากันตอบรับเขาโดบปริยายหลังจากกล่าวเปิดงานอย่างเรียบง่าย หยางต้าฝูก็เอ่ยปากขึ้น “ตอนนี้ผมขอประกาศว่า ในปีนี้เรามีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิง และนั่นก็คือ...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยางต้าฝูก็หยุดชั่วคราวและมองไปรอบ ๆเมื่อได้ยินแบบนั้น สมาชิกตระกูลที่หวังจะเข้าร่วมก็กลั้นลมหายใจและจ้องมองเขาตาไม่กระพริบแต่หลินหว่านหรูหนักกว่าเขา เพราะดวงตาของเธอกำลังจ้องเขม็งไปที่หยางต้าฝูบนเวทีแม้ว่าจะได้รับแจ้งไปแล้วล่วงหน้า ตราบใดที่ไม่มีการประกาศต่อสาธารณะ ทุกอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้“นั่นคือหลินซื่อกรุ๊ปที่บริหารโดยประธานหลินหว่านหรู!”หยางต้าฝูประกาศเสียงดังเป็นหลินซื่อกรุ๊ปจริง ๆ หลินหว่านหรูรู้สึกดีใจและตื่นเต้นอย่างมากในทันทีเธอตระหนักดีถึงความเป็นไปในอนาคตตระกูล เธอจะสามารถขอสินเชื่อได้มากพอและได้รับเงินทุนเพียงพอที่จะฟื้นฟูธุรกิจทั้งหมดจากการ
ใบหน้าของหลิวเจี๋ยย่ำแย่มาก เมื่อดูสถานการณ์บนเวที เขารู้สึกว่าบางทีประธานหยางอาจจะไม่เอ่ยชื่อแพทย์เซียนหรือต่อให้พูดออกมา เขาก็สามารถพูดได้ว่าเป็นแพทย์เซียนที่พ่อของเขาพบ เขาจึงพูดออกมาทันที “ตระกูลหลิวของผมเป็นตระกูลที่มีอำนาจพอตัวในเมืองเทียนไห่ การจะหาแพทย์เซียนที่มีความสามารถมากมาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”“เหอๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา หลิวเจี๋ยก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก ภายในใจชองเขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติอยู่ตลอดเวลาแต่ซูถิงทนไม่ไหวอีกต่อไปและดุว่า “เย่เทียนหยู่ นายจะยิ้มทำไม? หรือเรื่องที่นายน้อยหลิวพูดไม่ถูกหรือไง? ถ้าไม่ใช่คุณหลิวเป็นคนหาพบ หรือคนบ้านนอกแบบนายหาเขาเจอเหรอ?”“คุณนี่มันลูกหมากระจ๊อกหางแถวจริง ๆ ไม่กลัวจะเลียผิดคนเลยสินะ” เย่เทียนหยู่ส่ายหัวแล้วพูด ผู้หญิงคนนี้ชักจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว“นี่นายพูดว่าอะไรนะ” ซูถิงโกรธ“เย่เทียนหยู่!”คราวนี้หลินหว่านหรูโกรธ เธอรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่เตลิดไปไกลแล้ว จึงได้พูดดุเขา “หยุดพูดซะ!”ในขณะนี้เอง หยางต้าฝูก็ประกาศเสียงดัง “ใช่แล้วล่ะ เขาไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็น คุณเย่เทียนหยู่ จากหลินซื่อกร
ใบหน้าของหลิวเจี๋ยน่าเกลียดมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าแพทย์เซียนคนนี้จะเป็นเย่เทียนหยู่เมื่อกี้เขายังคิดแม้กระทั่งอยากจะเป็นลูกสมุนของคนที่เป็นศัตรูเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาจงใจแอบอ้างความดีความชอบ ความสำเร็จเหล่านี้เป็นของเย่เทียนหยู่ แล้วใช้สิ่งนี้เพื่อเยาะเย้ยและโจมตีเย่เทียนหยู่น่าอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเมื่อเห็นสายตาของซูถิงที่กำลังจับจ้อง เขาก็อยากจะมุดรูหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดแน่นอนว่าในตอนนี้หลินหว่านหรูเชื่อคำพูดของเย่เทียนหยู่แล้วโดยเฉพาะเมื่อเธอได้รู้ว่า อาจารย์ของเย่เทียนหยู่เป็นแพทย์เซียนที่ปู่ของเธอเรียก แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อสิ่งที่เรียกว่าแพทย์เซียน แต่เธอก็เชื่อในความแม่นยำของเครื่องมือสมัยใหม่มากกว่าแต่ไม่มีหลักประกันว่าแพทย์เซียนเฒ่าจะมีสูตรลับเฉพาะที่สามารถรักษาโรคที่ยากและซับซ้อนได้“เทียนหยู่ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจนายผิด ฉันขอโทษนะ” ถึงหลินหว่านหรูจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่ แต่คราวนี้มันเป็นความผิดของเธอจริงๆเย่เทียนหยู่ตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง เขาส่ายหัวแล้วพูดอย่างใจเย็น “ก็แค่ความเข้าใจผิดเล็กน้อยระหว่างสามีภรรยาน่ะครับ ไม่จำเป็นต้องขอโทษผมหรอก”ใบหน
คุณพ่อตระกูลหลิวพูดอย่างเคร่งขรึม เดิมทีเขาอยากพบกับบุคคลสำคัญของประธานหยางเพื่อหาทางช่วยบริษัทของเขา แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพบเขาไม่มีอะไรที่หอการค้าสามารถช่วยเขาได้หลิวเจี๋ยวางสายโทรศัพท์ ดวงตาของเขามีแสงเห็นความเย็นชาวูบไหวเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกได้ว่ามีเพียงตระกูลหลินเท่านั้นที่ไว้วางใจเขาเป็นอย่างมาก และก็หลอกได้ง่ายเป็นพิเศษแต่ว่า เขายังไม่ได้ร่างกายของหลินหว่านหรู หากเขาไม่สามารถเอาชนะไอ้คนขี้แพ้อย่างเย่เทียนหยู่ได้ เขาทำใจไม่ได้จริง ๆซูถิงนั่งอยู่ในรถ เธอไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกผิดต่อเย่เทียนหยู่ แต่ยังรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ทำให้เธออับอายด้วย จากนั้นเธอก็จงใจถามเขา “เย่เทียนหยู่ ทำไมเมื่อกี้ประธานหยางไม่ให้นายขึ้นไปและพูดอะไรสักหน่อยล่ะ?”เย่เทียนหยู่ชะงักไปชั่วขณะ และพูดว่า “บางทีเขาคงยุ่งมั้งครับ”“เขาก็ต้องงานยุ่งแน่อยู่แล้วหรอกย่ะ แต่เขาก็คงไม่ถึงกับไม่มีเวลาแค่สองสามนาทีหรอก ในความคิดของฉัน เขาไม่อยากคุยกับนายเละก็ไม่อยากเสียเวลากับนายด้วย”“ก็อาจจะมั้งครับ” เย่เทียนหยู่ดูไม่แยแส“ดูนายสิ ดูท่าทางไม่แยแสของแกสิ นายรู้ไหมว่านี่หมายถึงอะไร?”“หมายความว่
“เข้าใจผิด หรือว่าทำไม่สำเร็จเหรอ?” ทั้งสองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจึงถามอย่างเร่งด่วน“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คือหนูหมายถึงการได้เข้าร่วมหอการค้าในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับนายน้อยหลิว แต่ต้องขอบคุณเย่เทียนหยู่ต่างหากค่ะ” หลินหว่านหรูกล่าว“มันไม่เกี่ยวอะไรกับนายน้อยหลิว แต่ต้องขอบคุณเย่เทียนหยู่gsiv?”“หว่านหรู ลูกไม่ได้ป่วยใช่ไหมลูก”ทั้งสองตกตะลึงและรู้สึกเหลือเชื่อมากแม้แต่คุณปู่หลินยังตกตะลึง จะเป็นไปได้ยังไง แต่เขารู้ดีว่าหลานสาวของเขาไม่มีทางชมเขาโดยใช่เหตุแน่ ก็ในเมื่อเธอเองก็เกลียดเขาเหมือนกัน“มันเป็นเรื่องจริงค่ะ”หลินหว่านหรูรีบเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอย่างรวดเร็ว“อย่างนี้เองสินะ!”คุณปู่หลินพูดอย่างมีความสุข “เทียนหยู่ ไม่คิดว่าทักษะการรักษาของหลานจะทรงพลังขนาดนี้ ดูเหมือนว่าหลานจะได้รับมรดกความสามารถมาจากแพทย์เซียนเฒ่าเต็ม ๆ เลยนะ”“ขอบคุณครับคุณปู่” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างสุภาพ“นี่ไม่ใช่การเยินยอนะ เมื่อวันก่อนตอนที่เราคุยกันเรื่องนี้น่ะ หลานวางแผนที่จะใช้ความช่วยเหลือนี้เพื่อช่วยเราใช่หรือเปล่า?” คุณปู่หลินถาม“ก็ถือว่าใช่นะครับ”“อย่างนั้นเองสินะ ตอนนั้นปู่ผิดเอง ไม
“ผมเข้าใจแล้ว” เย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบไปแบบนี้“งั้นก็ดีแล้วล่ะ งั้นรอให้ฉันโน้มน้าวคุณปู่ก่อน แล้วเราจะไปเอาใบหย่ากัน”“อืม”เย่เทียนหยู่พยักหน้า แม้ว่าในใจเขาจะลังเลเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่เคยบังคับให้คนอื่นต้องทำเรื่องไม่เต็มใจหลินหว่านหรู ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหวังว่าเย่เทียนหยู่จะเข้าใจจริงๆ เพราะยังไงท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่ได้มาจากโลกใบเดียวกัน และพวกเขาก็จะไม่มีความสุขหากถูกบังคับให้ต้องคบหากันเมื่อกลับมาที่ห้อง เย่เทียนหยู่กำลังจะนอนราบ โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เป็นสายโทรเข้าของหยางเฉียนเฉียน“คุณหนูหยาง!”“บอกให้คุณเรียกชื่อเฉียนเฉียนไม่ใช่เหรอคะ?” หยางเฉียนเฉียนแสดงท่าทีไม่พอใจ“ก็ได้ครับ เฉียนเฉียน!”“ไม่ยินยอมขนาดนั้น นี่ฉันน่ารังเกียจเหรอคะ”“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าคุณน่ารังเกียจก็พิสูจน์ได้เลยว่าเขาน่ะไม่ใช่ผู้ชายแน่”“ต้องอย่างนี้สิคะ คืนนี้พรุ่งนี้คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”“มีอะไรเหรอครับ?”“ไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนฉันสักงานได้ไหม”“ผมไม่สนิทกับคุณซะหน่อย จะไปงานเลี้ยงมาชวนผมทำไมเล่า?”“คุณเป็นพี่เย่ของฉันนะคะ จ
ไอ้สารเลวคนนี้ ยังจะพูดว่าไม่ได้บอกอะไรกับเธอนี่เพิ่งวันที่สอง ก็อดไม่ได้ที่จะนัดเจอกันแล้วหลินหว่านหรูรู้สึกฉุนเฉียวในใจเล็กน้อย โดยเฉพาะตอนที่ตัวเองคิดจะพาเขาไปตามนัดในคืนนี้เย่เทียนหยู่จนปัญญา จึงรีบขึ้นรถหยางเฉียนเฉียนสีหน้าไม่พอใจ สตาร์ทรถขับออกไปทันทีเมื่อเห็นทั้งสองคนขับรถออกไป หลินหว่านหรูโมโหอย่างมาก เธอก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองพูดเต็มปากเต็มคำใช้ให้เย่เทียนหยู่ไสหัวไปแต่ในตอนที่เธอเห็นเย่เทียนหยู่คลุกคลีอยู่กับสาวสวยคนอื่นก็รู้สึกไม่พอใจต้องเป็นเพราะตอนนี้เขาแต่งงานกับตัวเองแล้วออกไปมั่วสุม เท่ากับว่ามีชู้ขณะยังแต่งงานอยู่ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน!ไม่สนใจเขาแล้ว อย่างไรทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนระดับเดียวกัน ไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นแบบนี้เรื่องสำคัญในตอนนี้ คือเอาเงินกู้ก้อนใหญ่ของธนาคารมาให้ได้ตอนนี้ไม่มีคนสังเกตเห็นว่า มีบุคคลหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ เห็นเย่เทียนหยู่ออกไป ก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกทันที: “นายน้อยหลิว เย่เทียนหยู่ออกไปแล้วครับ”“ดี!”หลิวเจี๋ยวางสายไป และกดโทรออกทันทีวันนี้ ต้องทำให้ไอ้หมอนี่รับรู้ว่า ล่วงเกินตัวเองจะได้รับผลที่ตามมาที่น่าหวา
และก็บังเอิญมาก เพราะหยางต้าฝูรู้ว่าลูกสาวไปหาเย่เทียนหยู่ จึงตั้งใจถอนหน่วยรักษาในที่ลับ เพราะเขาไม่อยากถูกราชามังกรเข้าใจผิด ว่าตัวเองสั่งคนไปสะกดรอยตามเขา“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่”เย่เทียนหยู่พูดปลอบเสียงเบาไม่รู้ว่าทำไม เพียงแค่ได้ยินประโยคนี้ หยางเฉียนเฉียนรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นพยักหน้าพูด: “อืม ตอนนี้พวกเราทำอย่างไรดี?”“ทำอย่างไรเหรอ?”“แน่นอนว่ามีแค้นต้องชำระ มีความเกลียดชังต้องตอบแทน!”หยางเฉียนเฉียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างรีบร้อน: “แต่พวกเขามีหลายคน แถมยังมีมีด พวกเรารีบโทรศัพท์บอกให้พ่อฉันสั่งคนมาช่วยพวกเรา”“ไม่ต้อง!”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเรียบเฉยตอนนี้ชายสวมหน้ากากที่อยู่หน้าสุดเดินมาด้านข้างประตูรถ กระบองฟาดลงมาอย่างแรง ฟาดจนกระจกรถแตก แต่ในตอนนี้เอง เย่เทียนหยู่เปิดประตูรถอย่างแรง แรงที่เกิดขึ้นฉับพลันปะทะร่างกายของชายที่เป็นหัวโจกอย่างแรงฮึ่ม!ผู้ชายส่งเสียงอุดอู้ ถอยหลังไปสองสามก้าวเขายังไม่ทันปรับตัวกลับมา ก็รู้สึกว่าบริเวณท้องเกิดความเจ็บปวดรุนแรงขึ้น จากนั้นคนทั้งคนก็กระเด็นออกไปทันทีที่แท้เย่เทียนหยู่ลงจากรถในช่วงเวลาแรก ถีบเขา
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด
แต่สิ่งนี้ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หัวหน้าใหญ่ไป๋ถูกจัดการแล้วจริง ๆ เขาถูกทำลายแล้วอย่างสิ้นเชิงคุณนายไป๋หน้าซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธอทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ในเวลานี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าเทพสงครามในสายตาของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วจริง ๆเพราะความทะเยอทะยานของเธอ จึงทำให้ผู้ชายของเธอได้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง!ผ่านไปนานพอสมควร ในที่สุดไป๋เฉินก็สงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ก่อนจะถามออกไปด้วยความกลัวว่า “แกเป็นใครกันแน่?”“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือ เงินอีกสี่หมื่นห้าพันล้านจะต้องเข้าบัญชีเดี๋ยวนี้” เย่เทียนหยูกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย “ภรรยาของคุณไม่สามารถเอาออกมาได้ แต่ตัวคุณก็น่าจะไม่มีปัญหาสินะ?”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ดีมากนัก เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างมาก ที่ทำให้ชี่แท้ของตนถูกทำลาย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เงินก้อนนี้ฉันจะไม่มีวันมอบให้แน่นอน”“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยสนใจชีวิตภรรยาของคุณเลยสินะ”“พี่เฉินคะ......”คุณนายไป๋ลนลานขึ้นมาทันที เงินไม่มีก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เ
แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต
ไม่มีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งอะไรนั่นหรอก ก็แค่ระดับหมิงจิ้นขั้นสูงธรรมดาเท่านั้น ขนาดระดับพลังจันทราขั้นต้นก็ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหยู่ย่อมจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วผ่านไปไม่นาน ทั้งสามคนก็ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนสีหน้าคุณนายไป๋ดูหม่นหมองลง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสามคนแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งเป็นการทำให้ไอ้เด็กนั่นได้ใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “พี่เฉิน ถึงเด็กนั่นจะไม่เก่งเท่าพี่ แต่พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เกรงว่าพี่อาจจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะ”“ฉันรู้แล้ว!”หัวหน้าใหญ่ไป๋รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เมื่อกี้ทั้งสามคนยังไม่ทันจะทำให้เย่เทียนหยู่เผยความสามารถออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดประชดออกไปว่า “ทำไม ถ้ายังไม่พร้อมล่ะก็ คุณจะลองโทรให้คนตรวจสอบความแข็งแกร่งของผมดูสักหน่อยไหมล่ะ?”“อวดดี!”“การจัดการกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก ฉันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น!”หัวหน้าใหญ่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เมื่อกี้ ฉัน
“ความลับงั้นเหรอ?”ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย หรืออีกฝ่ายรู้ตัวตนราชามังกรของตนแล้วงั้นเหรอ? ในเมื่อรู้แล้ว แต่กลับยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสอยู่อีก ก็แสดงว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเขาอยู่นั้น มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน“เหอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก!”สีหน้าคุณนายไป๋ดูพอใจอย่างมาก เธอจึงพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ก็แค่อาศัยการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นั่นของแก แล้วจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ใช่รึไง หากไม่ใช่แบบนี้ แกก็คงจัดการกับพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เถาไม่ได้หรอก!”“ตอนนี้ แกได้สูญเสียความลับวิธีการโจมตีที่สำคัญไปแล้ว และพี่เฉินเองก็มีพลังที่เหนือกว่าที่แกจะจินตนาการได้เสียอีก อย่าว่าแต่แกจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีก ต่อให้แกจะมีวิธีอื่น แกก็ต้องตายอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำนี้ ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจว่าความลับที่พูดถึงคืออะไร เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่คือความลับที่คุณพูดถึงเหรอ?”“ถูกต้อง ถึงแกจะไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์” คุณนายไป๋พูดอย่างเย็นชาหัวหน้าใหญ่ไป๋โบกมือไปมา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู พูดจาไร้สาระให้น้อย ๆ หน่อย ตอนนี้
แต่พอลองคิดดูอีกที อีกเดี๋ยวหัวหน้าใหญ่ไป๋ก็จะมาถึงแล้ว เขาจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันที พร้อมกับพูดเสียงดังออกไปว่า “ไอ้หนู กะ แกคิดจะทำอะไร?”เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบออกไปว่า “ไม่ใช่ว่าพวกคุณให้ผมหยุดหรอกเหรอ?”“ใช่ พะ พวกเราสั่งให้แกหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ให้แกเดินเข้ามาสักหน่อย”“......”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมกับพูดอย่างเรียบเฉยออกไปว่า “ผมไม่ว่างมาเสียเวลาอยู่ที่นี่หรอกนะ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปที่รถทันทีเมื่อทั้งสองที่เห็นแบบนั้น พวกเขาก็รู้ว่าจะปล่อยให้จากไปแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะลองเสี่ยงดู ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้า โดยโจมตีเข้าขนาบจากทั้งซ้ายขวาพร้อมกันยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหันมามองเลยด้วยซ้ำในใจพวกเขาก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา คิดว่าตัวเองอาจจะมาถูกทางโดยบังเอิญก็ได้ และอาจจะสามารถสร้างผลงานชิ้นใหญ่ให้กับตัวเองได้ด้วยแต่ไม่นาน พวกเขาก็รู้ว่าตนคิดผิด และมันก็ผิดมหันต์เลยล่ะ เห็นเพียงแค่หมัดของพวกเขาเข้าใกล้อีกฝ่ายเท่านั้น แต่หมัดยังไม่ทันจะโดน ก็รู้สึกถึงพล
ครั้งนี้ ไป๋เถารู้สึกเจ็บใจมากจริง ๆ ทุกคำทุกประโยคที่เขาคิด คือต้องการคิดหาวิธีที่จะลากตระกูลไป๋ลงน้ำและเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋จะต้องตายอย่างแน่นอน นั่นเพราะเขาเพิ่งจะได้รับข่าวที่น่าตกใจมาก ๆ มา เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรที่แท้ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ไป๋เถาที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังนั้น ก็ได้นึกถึงการต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นมา ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะพบว่าตนเองอาจจะคาดการเรื่องทั้งหมดนี้ผิดไปก็ได้ที่อีกฝ่ายรับการป้องกันได้ไม่ใช่เพราะการโจมตีของตนแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะตนยังไม่ทันได้มีเวลาลงมือเลยต่างหากที่สำคัญเลยก็คือ หลังจากที่ตนมาถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เพื่อนจากสถานีตำรวจก็โทรมาหาตำแหน่งของเพื่อนคนนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่เป็นเพราะเขาบังเอิญได้ยินบทสนทนาของสารวัตรเฉินกับหวงลี่ นั่นจึงทำให้เขาได้รู้ความลับที่น่าตกใจอย่างหนึ่งเข้าพูดกันว่าความเป็นมาของเย่เทียนหยู่นั้นน่ากลัวมาก เขาเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรเมื่อได้ยินคำว่าราชามังกรแห่งพรรคมังกร ทันใดนั้นไป๋เถาก็เกิดรู้สึกงงงวยขึ้นมาไม่ว่าไป๋เถาจะคิดยังไง เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตนจะเผลอไปล