คุณพ่อตระกูลหลิวพูดอย่างเคร่งขรึม เดิมทีเขาอยากพบกับบุคคลสำคัญของประธานหยางเพื่อหาทางช่วยบริษัทของเขา แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพบเขาไม่มีอะไรที่หอการค้าสามารถช่วยเขาได้หลิวเจี๋ยวางสายโทรศัพท์ ดวงตาของเขามีแสงเห็นความเย็นชาวูบไหวเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกได้ว่ามีเพียงตระกูลหลินเท่านั้นที่ไว้วางใจเขาเป็นอย่างมาก และก็หลอกได้ง่ายเป็นพิเศษแต่ว่า เขายังไม่ได้ร่างกายของหลินหว่านหรู หากเขาไม่สามารถเอาชนะไอ้คนขี้แพ้อย่างเย่เทียนหยู่ได้ เขาทำใจไม่ได้จริง ๆซูถิงนั่งอยู่ในรถ เธอไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกผิดต่อเย่เทียนหยู่ แต่ยังรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ทำให้เธออับอายด้วย จากนั้นเธอก็จงใจถามเขา “เย่เทียนหยู่ ทำไมเมื่อกี้ประธานหยางไม่ให้นายขึ้นไปและพูดอะไรสักหน่อยล่ะ?”เย่เทียนหยู่ชะงักไปชั่วขณะ และพูดว่า “บางทีเขาคงยุ่งมั้งครับ”“เขาก็ต้องงานยุ่งแน่อยู่แล้วหรอกย่ะ แต่เขาก็คงไม่ถึงกับไม่มีเวลาแค่สองสามนาทีหรอก ในความคิดของฉัน เขาไม่อยากคุยกับนายเละก็ไม่อยากเสียเวลากับนายด้วย”“ก็อาจจะมั้งครับ” เย่เทียนหยู่ดูไม่แยแส“ดูนายสิ ดูท่าทางไม่แยแสของแกสิ นายรู้ไหมว่านี่หมายถึงอะไร?”“หมายความว่
“เข้าใจผิด หรือว่าทำไม่สำเร็จเหรอ?” ทั้งสองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจึงถามอย่างเร่งด่วน“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คือหนูหมายถึงการได้เข้าร่วมหอการค้าในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับนายน้อยหลิว แต่ต้องขอบคุณเย่เทียนหยู่ต่างหากค่ะ” หลินหว่านหรูกล่าว“มันไม่เกี่ยวอะไรกับนายน้อยหลิว แต่ต้องขอบคุณเย่เทียนหยู่gsiv?”“หว่านหรู ลูกไม่ได้ป่วยใช่ไหมลูก”ทั้งสองตกตะลึงและรู้สึกเหลือเชื่อมากแม้แต่คุณปู่หลินยังตกตะลึง จะเป็นไปได้ยังไง แต่เขารู้ดีว่าหลานสาวของเขาไม่มีทางชมเขาโดยใช่เหตุแน่ ก็ในเมื่อเธอเองก็เกลียดเขาเหมือนกัน“มันเป็นเรื่องจริงค่ะ”หลินหว่านหรูรีบเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอย่างรวดเร็ว“อย่างนี้เองสินะ!”คุณปู่หลินพูดอย่างมีความสุข “เทียนหยู่ ไม่คิดว่าทักษะการรักษาของหลานจะทรงพลังขนาดนี้ ดูเหมือนว่าหลานจะได้รับมรดกความสามารถมาจากแพทย์เซียนเฒ่าเต็ม ๆ เลยนะ”“ขอบคุณครับคุณปู่” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างสุภาพ“นี่ไม่ใช่การเยินยอนะ เมื่อวันก่อนตอนที่เราคุยกันเรื่องนี้น่ะ หลานวางแผนที่จะใช้ความช่วยเหลือนี้เพื่อช่วยเราใช่หรือเปล่า?” คุณปู่หลินถาม“ก็ถือว่าใช่นะครับ”“อย่างนั้นเองสินะ ตอนนั้นปู่ผิดเอง ไม
“ผมเข้าใจแล้ว” เย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบไปแบบนี้“งั้นก็ดีแล้วล่ะ งั้นรอให้ฉันโน้มน้าวคุณปู่ก่อน แล้วเราจะไปเอาใบหย่ากัน”“อืม”เย่เทียนหยู่พยักหน้า แม้ว่าในใจเขาจะลังเลเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่เคยบังคับให้คนอื่นต้องทำเรื่องไม่เต็มใจหลินหว่านหรู ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหวังว่าเย่เทียนหยู่จะเข้าใจจริงๆ เพราะยังไงท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่ได้มาจากโลกใบเดียวกัน และพวกเขาก็จะไม่มีความสุขหากถูกบังคับให้ต้องคบหากันเมื่อกลับมาที่ห้อง เย่เทียนหยู่กำลังจะนอนราบ โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เป็นสายโทรเข้าของหยางเฉียนเฉียน“คุณหนูหยาง!”“บอกให้คุณเรียกชื่อเฉียนเฉียนไม่ใช่เหรอคะ?” หยางเฉียนเฉียนแสดงท่าทีไม่พอใจ“ก็ได้ครับ เฉียนเฉียน!”“ไม่ยินยอมขนาดนั้น นี่ฉันน่ารังเกียจเหรอคะ”“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าคุณน่ารังเกียจก็พิสูจน์ได้เลยว่าเขาน่ะไม่ใช่ผู้ชายแน่”“ต้องอย่างนี้สิคะ คืนนี้พรุ่งนี้คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”“มีอะไรเหรอครับ?”“ไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนฉันสักงานได้ไหม”“ผมไม่สนิทกับคุณซะหน่อย จะไปงานเลี้ยงมาชวนผมทำไมเล่า?”“คุณเป็นพี่เย่ของฉันนะคะ จ
ไอ้สารเลวคนนี้ ยังจะพูดว่าไม่ได้บอกอะไรกับเธอนี่เพิ่งวันที่สอง ก็อดไม่ได้ที่จะนัดเจอกันแล้วหลินหว่านหรูรู้สึกฉุนเฉียวในใจเล็กน้อย โดยเฉพาะตอนที่ตัวเองคิดจะพาเขาไปตามนัดในคืนนี้เย่เทียนหยู่จนปัญญา จึงรีบขึ้นรถหยางเฉียนเฉียนสีหน้าไม่พอใจ สตาร์ทรถขับออกไปทันทีเมื่อเห็นทั้งสองคนขับรถออกไป หลินหว่านหรูโมโหอย่างมาก เธอก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองพูดเต็มปากเต็มคำใช้ให้เย่เทียนหยู่ไสหัวไปแต่ในตอนที่เธอเห็นเย่เทียนหยู่คลุกคลีอยู่กับสาวสวยคนอื่นก็รู้สึกไม่พอใจต้องเป็นเพราะตอนนี้เขาแต่งงานกับตัวเองแล้วออกไปมั่วสุม เท่ากับว่ามีชู้ขณะยังแต่งงานอยู่ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน!ไม่สนใจเขาแล้ว อย่างไรทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนระดับเดียวกัน ไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นแบบนี้เรื่องสำคัญในตอนนี้ คือเอาเงินกู้ก้อนใหญ่ของธนาคารมาให้ได้ตอนนี้ไม่มีคนสังเกตเห็นว่า มีบุคคลหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ เห็นเย่เทียนหยู่ออกไป ก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกทันที: “นายน้อยหลิว เย่เทียนหยู่ออกไปแล้วครับ”“ดี!”หลิวเจี๋ยวางสายไป และกดโทรออกทันทีวันนี้ ต้องทำให้ไอ้หมอนี่รับรู้ว่า ล่วงเกินตัวเองจะได้รับผลที่ตามมาที่น่าหวา
และก็บังเอิญมาก เพราะหยางต้าฝูรู้ว่าลูกสาวไปหาเย่เทียนหยู่ จึงตั้งใจถอนหน่วยรักษาในที่ลับ เพราะเขาไม่อยากถูกราชามังกรเข้าใจผิด ว่าตัวเองสั่งคนไปสะกดรอยตามเขา“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่”เย่เทียนหยู่พูดปลอบเสียงเบาไม่รู้ว่าทำไม เพียงแค่ได้ยินประโยคนี้ หยางเฉียนเฉียนรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นพยักหน้าพูด: “อืม ตอนนี้พวกเราทำอย่างไรดี?”“ทำอย่างไรเหรอ?”“แน่นอนว่ามีแค้นต้องชำระ มีความเกลียดชังต้องตอบแทน!”หยางเฉียนเฉียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างรีบร้อน: “แต่พวกเขามีหลายคน แถมยังมีมีด พวกเรารีบโทรศัพท์บอกให้พ่อฉันสั่งคนมาช่วยพวกเรา”“ไม่ต้อง!”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเรียบเฉยตอนนี้ชายสวมหน้ากากที่อยู่หน้าสุดเดินมาด้านข้างประตูรถ กระบองฟาดลงมาอย่างแรง ฟาดจนกระจกรถแตก แต่ในตอนนี้เอง เย่เทียนหยู่เปิดประตูรถอย่างแรง แรงที่เกิดขึ้นฉับพลันปะทะร่างกายของชายที่เป็นหัวโจกอย่างแรงฮึ่ม!ผู้ชายส่งเสียงอุดอู้ ถอยหลังไปสองสามก้าวเขายังไม่ทันปรับตัวกลับมา ก็รู้สึกว่าบริเวณท้องเกิดความเจ็บปวดรุนแรงขึ้น จากนั้นคนทั้งคนก็กระเด็นออกไปทันทีที่แท้เย่เทียนหยู่ลงจากรถในช่วงเวลาแรก ถีบเขา
ได้ยินคำพูดนี้ เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จากนั้นส่ายหน้าพูด: “นายมันโง่จริง ๆ!”ถึงแม้ว่าจางลี่ไม่เห็นด้วย แต่ปากกลับรีบพูด: “ใช่ ผมมันคนโง่ คุณเย่คุณเป็นคนใหญ่คนโต ปล่อยผมไปสักครั้ง ผมรับรองว่าต่อไปไม่ทำอีกแล้ว”“ดูท่าทางของนาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโง่ตรงไหน!”“ช่างเถอะ ทำให้นายตายอย่างเข้าใจหน่อย ฉีเฟยกรุ๊ปใช้เวลาไม่นานก็จะล้มละลาย นายลงทุนเงินไปเท่าไหร่ ก็จะไม่ได้กลับมาสักนิด“นี่……”เห็นได้ชัดว่าจางลี่ไม่เชื่อ โดยเฉพาะตอนเช้าเขาได้ซื้อหุ้นไปห้าสิบล้านบาทแล้ว ถ้าหากไม่ใช่แบบนี้ ก็ไม่มีทางได้รับสายของหลิวเจี๋ยและปฏิบัติงานทันทีถึงขั้นที่ทุ่มเข้าไปมากมาย เงินห้าสิบล้านสำหรับเขาไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ ผลประโยชน์ตอบแทนทำให้เขาตื่นเต้นจนตัวสั่นมากยิ่งขึ้น“เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่นาย ฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลอกนาย”“เรื่องวันนี้ นายพูดมาสิว่าจะทำอย่างไร เพียงแค่คำขอโทษประโยคเดียว จะจบเรื่องในวันนี้ไม่ได้” เย่เทียนหยู่เอ่ยปากอย่างเรียบเฉย“นี่ หรือว่า พวกเราชดใช้ค่าเสียหายทางจิตใจให้คุณห้าล้านบาท?” จางลี่ถามอย่างระมัดระวัง“อย่าว่าแต่ห้าล้านบาท ห้าร้อยล้านบาทก็ไม่ได้”
“ไปอยู่แล้ว!”หยางเฉียนเฉียนพูดทันที นี่เป็นงานเลี้ยงที่เธอไปอยู่กับพี่เย่ที่เธอกว่าจะหามาได้“ได้ พวกเราเรียกแท็กซี่ไปกันเถอะ”เย่เทียนหยู่เรียกรถคันหนึ่ง ทั้งสองคนมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเป็นสโมสรที่หรูหรามากแห่งหนึ่ง เขาเดินตามหยางเฉียนเฉียนไป ไม่นานก็มาถึงที่ห้องโถงจัดเลี้ยงข้างในประดับตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟระยิบระยับ มีหนุ่มหล่อสาวสวยมากมาย คนที่ประสบความสำเร็จชนแก้วดื่มแสดงความยินดีกัน และยิ่งมีดนตรีที่สง่างามและไพเราะโอบล้อมซ้ายขวาบรรยากาศทั้งหมดมีระดับชั้นสูงและสะดวกสบายแค่ดูก็รู้ว่าเป็นสถานที่รวมตัวของชนชั้นสูงหยางเฉียนเฉียนไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียขวัญหรือเปล่า จึงไปเข้าห้องน้ำ เหลือเพียงเย่เทียนหยู่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเข้ามาและพูดตักเตือน: “ขอโทษด้วย ที่นี่เป็นงานเลี้ยงส่วนตัว คนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าไปข้างใน”เย่เทียนหยู่นิ่งอึ้งครู่หนึ่งและพูดอธิบาย: “เพื่อนของฉันพาเข้ามา ไม่ใช่คนนอกอะไร”“เป็นไปไม่ได้ สามารถเข้ามาที่นี่ได้ต่างเป็นคุณชายและคุณหนูของตระกูลโด่งดัง ทั้งร่ำรวยและมีเกียรติ นายดูสินายเ
คำพูดนี้พูดออกมา ทุกคนพากันตกตะลึงแต่ไม่นานนักก็มองไปทางเย่เทียนหยู่เหมือนกับมองคนปัญญาอ่อน ถึงแม้หลาย ๆ คนไม่รู้รายละเอียดสถานะของหยางเฉียนเฉียน แต่ต่างรู้จักหวงโหย่วเหวยนั่นเป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลหวงพ่อของเขาก็คือหวงหงเจี้ยนผู้บริหารอันดับสองของเมืองเทียนไห่แม่ของเขาก็มาจากตระกูลซุนตระกูลใหญ่โตที่ในเมืองหลวง ประเด็นคือลูกชายเพียงคนเดียวของคุณตาเขาเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงลูกสาวคนนี้ และก็หลานชายเพียงคนเดียวนี่เป็นสถานะที่ทรงอำนาจขนาดไหนกัน ไอ้หมอนี่กลับกล้ากำเริบเสิบสานยั่วยุแบบนี้ ไม่รู้จักความเป็นความตายชัด ๆไอ้หมอนี่ตายแน่นอนนี่เป็นความคิดที่อยู่ในใจของทุกคนแม้แต่หยางเฉียนเฉียนก็ตกตะลึง แต่ในใจได้ทำการตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางที่จะยืนดูอยู่เฉย ๆ ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องให้คุณพ่อช่วยเย่เทียนหยู่ไว้ให้ได้“ได้ ไอ้หนุ่ม นายแน่มาก หวังว่าจะเก่งแบบนี้ไปตลอดนะ”หวงโหย่วเหวยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างมาก เขาหันหลังเดินจากไป สำหรับเขาแล้ว เย่เทียนหยู่คนนี้ ในใจของเขาได้เขียนเครื่องหมายเท่ากับความตายแล้วมองดูหวงโหย่วเหวยเดินจากไปด้วยความโมโห หยางเฉียนเฉียนพูดสเสียงเบา: พี่เย่ พ่อ