ไอ้หนุ่ม คนชั้นต่ำสุดท้ายก็คือคนชั้นต่ำ ฉันแค่เล่นสิ่งของที่สูงส่งตามใจชอบ ก็ทำให้นายเทียบกันไม่ติดเวลานี้ตอนนี้ หวงโหย่วเหวยคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่อย่างมาก ถึงกับคิดว่าหยางเฉียนเฉียนก็ถูกเพลงเปียโนเพลงนี้ และก็การสารภาพรักที่โรแมนติกพิชิตใจแล้วเขาหยิบช่อดอกกุหลาบขึ้นมา วิ่งเหยาะไปตรงหน้าหยางเฉียนเฉียน พูดอย่างซาบซึ้งใจ: “เฉียนเฉียน ตั้งแต่ที่ผมเจอคุณครั้งแรก ผมก็ชอบคุณอย่างลึกซึ้งแล้ว”“วันและคืนนับไม่ถ้วน ผมคิดถึงคุณตลอดเวลา เฉียนเฉียน เป็นแฟนของผมได้ไหม?”ทุกคนเห็นภาพนี้ มีคนเริ่มตะโกนขึ้น: “คบกัน!”“คบกัน!”“……”จู่ ๆ คนมากมายก็ตามกระแสขึ้นมา หวงโหย่วเหวยรู้สึกภาคภูมิใจมากขึ้นผู้หญิงคนไหนไม่ชอบความโรแมนติกและ ไม่ชอบให้ผู้คนจับจ้องบ้างครั้งนี้ สำเร็จแล้วหยางเฉียนเฉียนรู้สึกขุ่นเคือง เธอไม่คิดว่าหวงโหย่วเหวยจะหน้าด้านขนาดนี้ เมื่อครู่มีเพียงแค่คนจำนวนน้อยที่สังเกตเห็นยังดีหน่อย คราวนี้ถ้าหากปฏิเสธต่อหน้าทุกคนจะเป็นการตอกหน้าหวงโหย่วเหวยอย่างแรงแต่เย่เทียนหยู่กลับไม่ปล่อยตามใจหวงโหย่วเหวย เขาส่ายหน้าพูดขึ้น: “วิธีการโรแมนติกดี แต่การเล่นเปียโนนี้ ไม่น่าฟังจริง ๆ!”“แก
ทุกคนจ้องมองเขาที่อยู่ด้านบน เห็นเพียงแค่เขาหลังตั้งตรง เหมือนมาตรฐานตำราเรียน คนทั้งคนออร่าเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาในทันทีในดวงตาของหยางเฉียนเฉียนเผยความแปลกประหลาด เธอพบว่า เย่เทียนหยู่ในตอนนี้ให้ความรู้สึกเป็นอิสระและสง่างาม หล่อเหลามากกว่าเดิมหวงโหย่วเหวยตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นส่งเสียงไม่พอใจ เสแสร้งแกล้งทำ อีกเดี๋ยวก็ปรากฏรูปแบบดั้งเดิมออกมาในตอนนี้เอง หลังจากท่าทางของเย่เทียนหยู่ เสียงเปียโนอันไพเราะดังออกมา เหมือนกับสายลมที่พัดผ่านหน้าให้ความรู้สึกสบายอย่างมากความรักที่แผ่วเบา พัดเข้าไปสู่หัวใจของทุกคน ทำให้จิตใจที่กระสับกระส่ายของทุกคนสงบลงทันทีทุกคนต่างเหม่อลอย เสียงเปียโนดังขึ้นเรื่อย ๆ ความคิดของพวกเขาถูกดึงเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับตัวเองเป็นตัวละครหลักในเรื่องราวความสุข ความโกรธ ความโศกเศร้า และความสุขรวมอยู่ในนั้นหมดเป็นเวลานานมาก พวกเขาถึงจะหลุดจากภวังค์แต่ละคนเหม่อลอยอยู่คาที่เพอร์เฟค!การแสดงครั้งนี้สมบูรณ์แบบมาก ๆ!ผ่านไปครู่หนึ่ง รอบด้านเริ่มมีเสียงปรบมือที่อบอุ่นดังขึ้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายปรบมือให้หยางเฉียนเฉียนน้ำตาคลอ เธอรู้สึกซาบซึ้งอย่
ในใจของเขาก็อยากจะให้ลูกสาวได้คบกับราชามังกร ทางที่ดีที่สุดคือให้ราชามังกรทอดทิ้งหลินหว่านหรู เพียงแต่เขาคิดว่า นี่คงเป็นไปไม่ได้สักเท่าไหร่“โกหก!”หยางเฉียนเฉียนกลับไม่เชื่อด้วยซ้ำ“ได้ อย่างไรพ่อก็รับรองว่าพี่เย่ของลูกไม่เป็นอะไร พอใจแล้วยัง?” หยางต้าฝูพูดอย่างจนปัญญา จะเปิดเผยสถานะของราชามังกรก็ไม่ได้“นี่ค่อยยังชั่วหน่อย!”หยางเฉียนเฉียนถึงได้กลับไปพักผ่อนที่ห้องอย่างพึงพอใจ แม้แต่คุณพ่อก็ยังรับปากแล้ว พี่เย่น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเป็นเด็กโง่จริง ๆหยางต้าฝูหัวเราะเจื่อน ๆ ออกมาร้านอาหารปินเจียง!ตอนนี้หลินหว่านหรูดื่มเหล้าเข้าไปเยอะมากอย่างเห็นได้ชัด แทบจะนั่งไม่ติดเลย“ผู้จัดการธนาคารหลิว เหล้าห้าแก้วนี้ฉันดื่มหมดแล้ว เรื่องกู้เงินต้องพึ่งพาคุณแล้ว” หลินหว่านหรูพูด“วางใจเถอะ!”หลิวหมิงที่พุงย้อยหัวเราะหึหึแล้วพูดขึ้น: “ก็แค่เรื่องกู้เอง พรุ่งนี้ผมไปอนุมัติ ก็ผ่านได้โดยตรงแล้ว”“แต่คืนนี้ ต้องดื่มอย่างมีความ”“เอาแบบนี้ ยังมีเหล้าอีกขวด พวกเราดื่มคนละครึ่ง คุณดื่มหมด เรื่องกู้เงินผมอนุมัติแน่นอน”หลินหว่านหรูได้ยิน สีหน้าซีดขาว เธอดื่มไม่เก่งจริง ๆ เมื่อครู่ห้าแ
ได้ยินคำพูดนี้ พวกผู้ชายที่มาด้วยกันต่างพากันหยิบสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะอาหารที่สามารถใช้โจมตีได้ พุ่งเข้ามาโดยตรงเพียงแต่ว่าพวกเขาที่มีฝีมืออย่างคนธรรมดา จะเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เทียนหยู่ได้อย่างไรอีกอย่างภายใต้ความโมโหของเย่เทียนหยู่ แย่งชิงอุปกรณ์ที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายมาอย่างง่ายดาย จากนั้นออกแรงทุบศีรษะของแต่ละคน และถีบพวกเขาออกไปทันใดนั้นแต่ละคนนอนหัวแตกเลือดไหลส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่ตรงนั้น ลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่กล้าลุกขึ้นหรือเปล่าหลิวหมิงงุนงงไปหมด เขาคิดไม่ถึงว่าความสามารถของอีกฝ่ายจะทรงพลังขนาดนี้ ทั้งตกตะลึงทั้งโมโห มองดูเย่เทียนหยู่เดินเข้ามาทีละก้าวและพูดอย่างร้อนใจ: “แก แกอย่าเข้ามา ฉันเป็นผู้จัดการธนาคาร หรือว่าพวกแกไม่อยากกู้เงินแล้วเหรอ?”ซูถิงได้ยินก็รีบพูดขึ้นทันที: “เย่เทียนหยู่ เขาคือผู้จัดการธนาคารหลิว นายอย่าทำร้ายเขา ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรง”“ถูกต้อง ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน ฉันรับรองว่าแกต้องเดือดร้อนแน่นอน”“ไม่เพียงกู้เงินไม่ได้สักบาท แถมยังต้องชดใช้อย่างสาหัส”“เหรอ ฉันก็อยากจะเห็นว่านายจะทำให้ฉันชดใช้อะไร”เย่เทียนหยู่เดินเข้า
สำหรับหลินหว่านหรู มาถึงหน้าบ้านแล้ว มีซูถิงดูแล ตัวเองไม่อยู่ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรหยางเฉียนเฉียนได้ยินก็รีบบอกที่อยู่ จานนั้นพูดขึ้น: “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ พวกเราเจอกันที่หน้าโรงพยาบาล” เพราะผู้สูงอายุคนนี้ ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว“ได้!”เย่เทียนหยู่วางสายแล้วพูดขึ้นโดยจริง: “ซูถิง เธอพาหว่านหรูเข้าไปเถอะ ส่วนรถให้ฉันยืมใช้หน่อย”ซูถิงได้ยิน กำลังจะปฏิเสธ แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจและพาหลินหว่านหรูลงจากรถ จากนั้นเย่เทียนหยู่ขับรถไปยังจุดหมายปลายทาง ในเมื่อช่วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ พูดไปแล้วไม่มีรถไม่สะดวกจริง ๆ นั่นแหละ ดูท่าตัวเองต้องซื้อรถยนต์สักคันแล้วเพิ่งมาถึงหน้าโรงพยาบาล หยางเฉียนเฉียนก็ปรากฏตัวและตะโกนเรียก: “พี่เย่!”“อืม ผู้สูงอายุเป็นอะไรกับเธอ?” เย่เทียนหยู่ถามออกมา“ท่านคือแม่ของนายกเทศมนตรีหวง คุณพ่อของนายกเทศมนตรีหวงจากไปตอนเด็ก อาศัยคุณแม่คนนี้เลี้ยงดูจนเติบโต เขาให้ความสำคัญกับคุณแม่มาก”หยางเฉียนเฉียนพูดอธิบายเย่เทียนหยู่ได้ยินสิ่งที่หยางเฉียนเฉียนเน้นย้ำ นึกความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมาทันที และพูดถาม: “นายกเทศมนตรีหวงเป็นอะไรกับคุณชายหวงคนนั้น?”“เขาคือพ่อของคุณชา
หวงหงเจี้ยนวิ่งไปตรงหน้าซุนเจี๋ยภรรยาของตัวเอง และถามรายละเอียดสถานการณ์ได้รับรู้ว่าแม่อาการวิกฤต เข้าห้อง ICU อยู่เป็นเวลานานแล้ว สีหน้าของเขาซีดขาวชีวิตนี้เขารู้สึกผิดต่อแม่ที่เลี้ยงดูตัวเองมาจนโตมากที่สุดแล้วครึ่งชีวิตแรกได้รับความลำบากมามากเกินไปแล้ว ในช่วงชีวิตครึ่งหลังได้รับความไม่เป็นธรรมมากมายในตอนนี้ กว่าตัวเองจะมีตำแหน่งที่สูงมากพอใจ แม่กลับเกิดเรื่องนี้ขึ้นเท่ากับว่าลูกอยากดูแลพ่อแม่ยามแก่เท่า แต่พ่อแม่กลับไม่อยู่แล้ว หวงหงเจี้ยนจะไม่เสียใจได้อย่างไร“พ่อ วางใจเถอะ ผมได้รับรู้สถานการณ์ของคุณย่า ก็ติดต่อแพทย์เซียนหลี่ หลี่ต้าเซียนในทันที มีเขาลงมือ น่าจะไม่เป็นอะไร”หวงโหย่วเหวยเดินเข้าไปแล้วพูดขึ้น“ดี ดีมาก ทำได้ดีมาก!”หวงหงเจี้ยนตบบ่าลูกชาย พูดเชยชมติด ๆ กันลูกชายคนนี้ได้รับการตามอกตามใจจากครอบครัวแม่ของเขา ตั้งแต่เล็กทำให้ตัวเองคอยเป็นห่วง ทำแต่เรื่องที่เหลวไหล เรื่องนี้กลับทำได้ดีมากภายใต้การฉุดกระชากของหยางเฉียนเฉียน เย่เทียนหยู่ตามมาอย่างจนปัญญา พอดีกับที่ได้ยินชื่อของแพทย์เซียนหลี่ บังเอิญมากจริงๆ ครั้งที่แล้วก็เป็นเขาเพียงแต่วิชาแพทย์ของแพทย์เซีย
“อืม ลูกคิดได้รอบคอบจริง ๆ โหย่วเหวยยิ่งอยู่ยิ่งมีอนาคตจริง ๆ ลูกเป็นความภาคภูมิใจของแม่”หวงหงเจี้ยนกลับขมวดคิ้วไม่พูดจา หนึ่งคือไม่ค่อยเชื่อคำพูดของลูกชายตัวเองสักเท่าไหร่ เขาจะยอมให้เด็กหนุ่มที่ไม่มีอำนาจอิทธิพลคนหนึ่งมารังแกเหรอ นี่เป็นไปไม่ได้ประการที่สองประเด็นสำคัญคือเป็นกังวลอาการของแม่ และก็ไม่มีเวลาคิดสิ่งอื่นในตอนนี้เอง ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก แพทย์เซียนหลี่ หลี่ต้าซานเดินออกมา เขาถอดหน้ากากออก เผยใบหน้าที่อ่อนเพลียออกมา ในดวงตามีความจนใจ“แพทย์เซียนหลี่ แม่ของผมเป็นอย่างไรบ้าง?” หวงหงเจี้ยนหน้าตาวิตกกังวลหลี่ต้าเซียนยิ้มเจื่อนอย่างจนใจ ได้รับมอบหมายงานสำคัญที่ไม่สามารถจัดการได้ ชื่อเสียงของแพทย์เซียนของเขาถือว่าถูกทำลายแล้ว จากนั้นพูดขึ้น: “ขออภัย ฉันไม่มีความสามารถที่จะรักษาได้””อะไรนะ?“หวงหงเจี้ยนโซเซในทันที สีหน้าซีดขาวคนอื่น ๆ สีหน้าดีหน่อย“ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีหนทางจริง ๆ เหรอ?”หวงหงเจี้ยนเบ้าตาแดงในทันที เขาเผชิญหน้ากับความยากลำบากต่าง ๆ ไม่เคยท้อถอยมาก่อน แต่ตอนนี้เขาสิ้นหวังแล้วจริง ๆหลี่ต้าเซียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “คุณหญิง
เย่เทียนหยู่นิ่งอึ้งเล็กน้อย หลี่ต้าเซียนจัดการไม่ได้อีกแล้วเหรอ?งั้นโชคของเขาคงจะแย่มาก ในเมื่อจากที่เขาดู วิชาแพทย์ของหลี่ต้าเซียนพอใช้ได้หยางเฉียนเฉียนได้ยิน ในใจตกตะลึงทันที จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้น: “คุณอาหวง พวกเราอยู่นี่ค่ะ!”หวงหงเจี้ยนได้ยินเสียง รีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงก็จับมือของเย่เทียนหยู่ไว้และพูดอย่างรีบร้อน: “เทพเซียนเย่ เมื่อครู่ผมมีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินคุณแล้ว”“คุณเป็นคนจิตใจกว้างขวาง อย่าถือสาเด็ดขาดนะครับ”เป็นถึงผู้บริหารอันดับสองของเมืองเทียนไห่ จริงใจขนาดนี้ ท่าทางแบบนี้ ความไม่พอใจในหัวใจของเย่เทียนหยู่ก็หายไปแล้ว เขาพูดขึ้น: “ไม่เป็นไรครับ เรื่องผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะ”“ขอบคุณที่คุณเข้าใจ ขอเชิญคุณไปดูคุณแม่หน่อยได้ไหมครับ?” เวลากระชั้นชิด หวงหงเจี้ยนพูดขึ้นทันที“ดูได้ไม่มีปัญหา แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องบอกให้ชัดเจนก่อน”“คุณพูดมาเถอะครับ!”“ผมมาทำการรักษาที่นี่ เป็นเพราะถูกเฉียนเฉียนหลอกมา ไม่มีความคิดที่จะพึ่งพาคุณ ไม่มีคุณ หวงโหย่วเหวยก็ทำอะไรผมไม่ได้ ต่อให้คุณช่วยเขา ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเฉยเมย“ครับ ผมเชื่อ แ
ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน พวกหลี่ซินเยว่ก็พากันเดินทางออกจากบริษัท พวกเธอรู้สึกกังวลอยู่ตลอด เธอกลัวว่าตงซู่จะเล่นตุกติกเพื่อรั้งไม่ให้พวกเธอไปแต่ก็กลับคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นมากขนาดนี้ในตอนนั้นเอง ทั้งคู่ก็ได้รับสายจากเย่เทียนหยู่ หลังจากที่วางสาย หลี่ซินเยว่ก็ถามขึ้นว่า “ซือซือ พวกเราจะกลับไปเก็บของแล้วหนีไปเลย หรือพวกเราจะไปพบกับพี่เย่กันก่อนดี?”หลิวซือซือรู้สึกลังเล หากเป็นคนอื่นเชิญก็คงไม่เป็นไร แต่การที่จะได้ทานข้าวกับพี่เย่สักครั้ง สำหรับเธอนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากเธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่งั้นเราก็ไปตามนัดกันก่อนดีไหม ถึงยังไงคืนนี้เราก็สามารถไปได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว”“ได้ เอาตามที่เธอว่าเลย”“แต่ว่านะ เรื่องของพวกเรา อย่าได้บอกกับพี่เย่เด็ดขาด”“เข้าใจแล้ว ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นเมืองหลวง พี่เย่เองก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่าง พวกเราจะสร้างปัญหาให้เขาไม่ได้” หลี่ซินเยว่เองก็เห็นด้วยอย่างมากทั้งสองตัดสินใจกันอย่างแน่วแน่ ไม่นานพวกเธอก็มองเห็นรถของเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่เองก็สังเกตเห็นการมาถึงของพวกเธอ ทั้งคู่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกระโปรงรัดรูปทรงเอ เผ
เขาถึงขั้นกล้าลงมือกับคุณท่านเย่ ที่เป็นถึงพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง!อย่าไรก็ตาม ปัจจุบันตระกูลเย่นับว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และอาจจะล้มได้ทุกเมื่อในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็รออีกสักสองสามวันก็แล้วกัน รอจนกว่าพวกงู แมลง มด หนูโผล่หัวออกมาให้หมดเสียก่อน พอถึงตอนนั้นก็ค่อยจัดการรวดเดียว แล้วค่อยมอบความสดใสให้กับตระกูลเย่อีกครั้งนอกจากนี้ ก็เพื่อที่จะรอดูว่าท่านอาจารย์จะมีการเคลื่อนไหวอะไรรึเปล่า มาถึงตอนนี้ อันที่จริงในใจเขาก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกันหลังจากว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงหม่าต้านขึ้นมาได้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไป ก็ดูเหมือนว่าหม่าต้านคนนี้จะไม่ใช่คนดีอะไร เขาจึงได้สั่งการให้คนไปตรวจสอบคนผู้นี้ดูสักหน่อยจริงด้วย หลี่ซินเยว่กับหลิวซือซือเองก็ทำงานที่ไป๋เฉิงกรุ๊ปไม่ใช่รึไง เช่นนั้นก็เชิญพวกเธอมาก็ได้นี่ จะได้ให้พวกเธอช่วยอธิบายสถานการณ์ในไปเฉิงกรุ๊ปให้ฟังด้วยเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่เทียนหยู่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดโทรออกหาหลี่ซินเยว่ทันที เดิมทีตั้งใจจะโทรหาหลิวซือซือ แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกของหลิวซือซือที่มีต่อตน
ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป
“ช่างเถอะ เห็นแก่หน้าหว่านหรู ผมเองก็ไม่อยากจะเถียงกับคุณแล้วเหมือนกัน”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และกำลังจะกดโทรออกแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของโจวฉิงก็ดังขึ้น เธอก้มลงมองครู่หนึ่ง ก่อนที่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบพูดออกไปว่า “มะ หม่าต้านโทรมาค่ะ”“โอ้ พอดีเลย จะได้ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วย!”เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีเรียบเฉย“......”โจวฉิงจึงรีบกดรับสายอย่างช่วยไม่ได้ และเพื่อให้เย่เทียนหยู่ได้ยินเนื้อหาบทสนทนา เธอจึงกดเปิดลำโพงทันทีที่รับสาย พร้อมกับพูดด้วยความสุภาพออกไปว่า “ค่ะ ประธานหม่า!”แต่หม่าต้านกลับไม่สุภาพเลยแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงฮึดฮัดออกมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ประธานโจว คุณพิจารณาข้อเสนอที่เรามอบให้ไปถึงไหนแล้ว?”โจวฉิงเหลือบมองไปยังเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ประธานหม่าคะ ข้อเรียกร้องของคุณค่อนข้างที่จะเข้มงวดเกินไป พวกเราไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ค่ะ”“งั้นเหรอ หมายความว่าพวกคุณไม่ยินยอมสินะ?” หม่าต้านโกรธจัดโจวฉิงหันไปมองเย่เทียนหยู่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา แต่ก็ย
เมื่อเห็นว่าโจวฉิงเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดสักเท่าไหร่ หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยออกมาว่า “โจวฉิง แค่เงินไม่กี่หมื่นล้าน สำหรับเทียนหยู่แล้ว มันแทบไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำ!”“เอ่อ......”โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย ที่เธอพูดออกมาว่าหลายหมื่นล้านนั้น เดิมทีก็เป็นคำพูดที่เกินจริงอยู่แล้ว แน่นอน เกี่ยวกับการสร้างโรงงาน รวมถึงการซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เงินที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้กับค่าใช้จ่ายจำนวนหมื่นล้านมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเมื่อหลินหว่านหรูเห็นว่าโจวฉิงยังไม่ค่อยเชื่อ เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะเปิดข้อความให้ดู พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบออกไปว่า “ไม่งั้น คุณก็ลองดูสิ่งนี้ก่อนสิ”โจวฉิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอพยายามลองมองอย่างละเอียด ก่อนที่ต่อมาสีหน้าจะเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจ และถามออกไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นว่า “ห้าแสนล้านเหรอคะ?” ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นจำนวนเงินมหาศาลจนน่าตกใจมากขนาดนี้มาก่อน“นี่ เขาเป็นคนให้คุณเหรอคะ?”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พอเขาเห็นว่าฉันอยากจะลงทุนกับอุตสาหกรร
โจวฉิงรู้สึกสับสนนิดหน่อย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มาพูดเรื่องการร่วมมือได้ หรือว่าอีกฝ่ายจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ เพียงแต่รอดูว่าตนจะสามารถให้ผลประโยชน์อะไรได้บ้างก็เท่านั้นใช่ จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ แล้วคุณคิดว่าเราควรจะร่วมมือกันในรูปแบบไหนถึงจะดีคะ?”“ผมว่าคุณเป็นคนเสนอจะดีกว่านะครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโจวฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงขีดจำกัดที่พ่อเธอมี เธอจึงพูดออกไปว่า “หากเป็นไปได้ พวกเราก็หวังว่าจะได้รับเงินลงทุนประมาณสองพันห้าร้อยล้านค่ะ จากนั้นหุ้นให้พวกคุณถือหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า การบริหารและการดำเนินงานต่าง ๆ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของพวกเราค่ะ”ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างพิเศษเช่นนี้ อันที่จริงเธอเองก็ไม่กล้าที่จะหวังอะไรมากเหมือนกัน“สองพันห้าร้อนล้านมันน้อยเกินไป ทำให้น้ำกระเซ็นยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”“งั้นเอาอย่างนี้นะ พวกเราจะมอบเงินลงทุนให้คุณหนึ่งหมื่นล้าน แลกกับหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์! และต้องให้หลินหว่านหรูเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารด้วย คุณคิดว่าแบบนี้เป็นไงบ้าง?”หนึ่งหมื่นล้านงั้นเหรอ?โจวฉิงรู้สึกตกใจ นี
โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย นี่หลินหว่านหรูกำลังจะไปถามใครกันอย่างไรก็ตาม เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ทำได้เพียงรีบเดินตามไปเท่านั้น แม้เรื่องนี้จะเร่งด่วนมากก็ตาม แถมอีกฝ่ายยังกำหนดเวลาให้ถึงแค่ภายในวันนี้อีกต่างหาก ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ทานข้าวก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินเพียงสามนาทีเท่านั้น ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงด้านหน้าของห้องอาหารสุดหรูกันแล้วเห็นได้ชัดว่าราคาจะต้องแพงหูฉีกแน่นอน คนธรรมดาไม่มีทางมาทานข้าวในที่แบบนี้ได้ บรรยากาศด้านในเองก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสะอาดเรียบร้อยทั้งสะดวกสบายตามห้องอาหารส่วนตัวที่เย่เทียนหยู่บอกเอาไว้ หลินหว่านหรูจึงได้เดินเข้าไปในทันทีโจวฉิงเองก็เดินตามหลังไปติด ๆ ทันทีที่เดินเข้าไป เธอก็เห็นชายหนุ่มอายุราว ๆ ยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ด้านในรูปลักษณ์ของเขานั้น ทั้งหล่อและมีเสน่ห์อย่างมาก รูปร่างเองก็ได้มาตรฐาน แค่มองแวบแรก ก็รู้ได้เลยว่าเขาจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาว ๆ อย่างแน่นอนเขาคือใครกัน อย่าบอกนะว่าเขาคือแฟนของหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูช่างตาดีเสียจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถมากแค่ไหน คงไม่ได้เป็นแค่ผู้ชาย
และการที่มู่หรงอินทำดีกับตนแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเทียนหยู่ รักรังนกก็ต้องรักตัวนกด้วยเมื่อย้อนกลับมาดูตัวเอง ทำไมตนถึงไม่มีแม่แบบนี้บ้างกันนะพูดถึงความแตกต่าง ความแตกต่างระหว่างเธอกับเทียนหยู่ในตอนนี้มันก็คือความรู้สึกแตกต่างที่แม่ของเธอเคยมองเธอกับเย่เทียนหยู่มาก่อน แต่คุณป้ากลับไม่เคยดูถูกตัวเธอเลยสักครั้ง กระทั่งอาจจะดูแลเอาใจใส่เธอมากกว่าเสียด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงแม่ของตัวเอง ไม่รู้เลยว่าช่วงนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง อย่างจะโทรหาอยู่ลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังคงอดทนเอาไว้และต่อให้เธอจะไม่โทร แม่ของเธอก็ไม่คิดจะโทรหาเธออยู่ดีช่างเถอะ ทำไมจะต้องคิดมากขนาดนั้นด้วย อย่างน้อยก็ยังมีเทียนหยู่ที่ดีกับเธอ เมื่อนึกถึงเย่เทียนหยู่ ริมฝีปากหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเวลาล่วงเลยจนมาถึงเที่ยงวัน หลินหว่านหรูก็ได้รับสายของเย่เทียนหยู่ ไม่นานเธอก็รีบลงจากตึกเพื่อออกไปข้างนอกทันทีที่เธอเพิ่งจะเดินออกมา เธอก็เห็นโจวฉิงที่ดำลังเดินอย่างเร่งรีบอยู่ด้านนอกเข้าในทันทีโจวชิงสวมใส่ชุดเดรส ร่างกายของเธอเพรียวบาง ขาเรียวยาว แต่สีหน้าของเธอกลับดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ใ
หลังจากที่คำนั้นถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที หนึ่งในพนักงานถึงกับอดไม่ได้จนต้องร้องอุทานออกมาเสียงดัง“ประธานเย่คะ พวกเรารู้ดีค่ะ ว่าประธานหลินมีข้อขัดแย้งกับคุณ แต่ว่าประธานหลินเป็นคนดีมากเลยนะคะ เธอคือความหวังของบริษัท อย่างไล่เธอออกเลยได้ไหมคะ?”“ใช่ค่ะ ประธานเย่คะ ขอร้องล่ะค่ะ ให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะคะ”“ใช่แล้วครับ ประธานเย่ พวกเราต้องการประธานหลินครับ!”“ช่วยให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะครับ!”“......”เมื่อมีผู้นำ ก็ย่อมมีผู้ตาม ไม่นาน ทุกคนต่างก็พากันพูดขอร้องด้วยความตื่นเต้นเพื่อให้หลินหว่านหรูได้ทำงานที่บริษัทต่อ จะเห็นได้ว่า ในสายตาของพวกเขา หลินหว่านหรูทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากจริง ๆฉากแบบนี้ อย่าว่าแต่เย่ซานที่ได้รู้เรื่องอะไรยังรู้สึกอึ้งเลย แม้แต่หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกสับสนไปด้วยเช่นกันเธอคิดไม่ถึงเลยว่า นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่ทุกคนก็กลับให้การสนับสนุนเธอมากถึงขนาดนี้เย่ซานรู้สึกตกใจ ในเวลานี้เขาเองก็เพิ่งจะเข้าใจ ว่าหลินหว่านหรูยอดเยี่ยมกว่าที่ตนคิดเอาไว้มาก การที่ท่านประธานพูดแบบนั้น เกรงว่าไม่ใช