สำหรับหลินหว่านหรู มาถึงหน้าบ้านแล้ว มีซูถิงดูแล ตัวเองไม่อยู่ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรหยางเฉียนเฉียนได้ยินก็รีบบอกที่อยู่ จานนั้นพูดขึ้น: “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ พวกเราเจอกันที่หน้าโรงพยาบาล” เพราะผู้สูงอายุคนนี้ ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว“ได้!”เย่เทียนหยู่วางสายแล้วพูดขึ้นโดยจริง: “ซูถิง เธอพาหว่านหรูเข้าไปเถอะ ส่วนรถให้ฉันยืมใช้หน่อย”ซูถิงได้ยิน กำลังจะปฏิเสธ แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจและพาหลินหว่านหรูลงจากรถ จากนั้นเย่เทียนหยู่ขับรถไปยังจุดหมายปลายทาง ในเมื่อช่วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ พูดไปแล้วไม่มีรถไม่สะดวกจริง ๆ นั่นแหละ ดูท่าตัวเองต้องซื้อรถยนต์สักคันแล้วเพิ่งมาถึงหน้าโรงพยาบาล หยางเฉียนเฉียนก็ปรากฏตัวและตะโกนเรียก: “พี่เย่!”“อืม ผู้สูงอายุเป็นอะไรกับเธอ?” เย่เทียนหยู่ถามออกมา“ท่านคือแม่ของนายกเทศมนตรีหวง คุณพ่อของนายกเทศมนตรีหวงจากไปตอนเด็ก อาศัยคุณแม่คนนี้เลี้ยงดูจนเติบโต เขาให้ความสำคัญกับคุณแม่มาก”หยางเฉียนเฉียนพูดอธิบายเย่เทียนหยู่ได้ยินสิ่งที่หยางเฉียนเฉียนเน้นย้ำ นึกความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมาทันที และพูดถาม: “นายกเทศมนตรีหวงเป็นอะไรกับคุณชายหวงคนนั้น?”“เขาคือพ่อของคุณชา
หวงหงเจี้ยนวิ่งไปตรงหน้าซุนเจี๋ยภรรยาของตัวเอง และถามรายละเอียดสถานการณ์ได้รับรู้ว่าแม่อาการวิกฤต เข้าห้อง ICU อยู่เป็นเวลานานแล้ว สีหน้าของเขาซีดขาวชีวิตนี้เขารู้สึกผิดต่อแม่ที่เลี้ยงดูตัวเองมาจนโตมากที่สุดแล้วครึ่งชีวิตแรกได้รับความลำบากมามากเกินไปแล้ว ในช่วงชีวิตครึ่งหลังได้รับความไม่เป็นธรรมมากมายในตอนนี้ กว่าตัวเองจะมีตำแหน่งที่สูงมากพอใจ แม่กลับเกิดเรื่องนี้ขึ้นเท่ากับว่าลูกอยากดูแลพ่อแม่ยามแก่เท่า แต่พ่อแม่กลับไม่อยู่แล้ว หวงหงเจี้ยนจะไม่เสียใจได้อย่างไร“พ่อ วางใจเถอะ ผมได้รับรู้สถานการณ์ของคุณย่า ก็ติดต่อแพทย์เซียนหลี่ หลี่ต้าเซียนในทันที มีเขาลงมือ น่าจะไม่เป็นอะไร”หวงโหย่วเหวยเดินเข้าไปแล้วพูดขึ้น“ดี ดีมาก ทำได้ดีมาก!”หวงหงเจี้ยนตบบ่าลูกชาย พูดเชยชมติด ๆ กันลูกชายคนนี้ได้รับการตามอกตามใจจากครอบครัวแม่ของเขา ตั้งแต่เล็กทำให้ตัวเองคอยเป็นห่วง ทำแต่เรื่องที่เหลวไหล เรื่องนี้กลับทำได้ดีมากภายใต้การฉุดกระชากของหยางเฉียนเฉียน เย่เทียนหยู่ตามมาอย่างจนปัญญา พอดีกับที่ได้ยินชื่อของแพทย์เซียนหลี่ บังเอิญมากจริงๆ ครั้งที่แล้วก็เป็นเขาเพียงแต่วิชาแพทย์ของแพทย์เซีย
“อืม ลูกคิดได้รอบคอบจริง ๆ โหย่วเหวยยิ่งอยู่ยิ่งมีอนาคตจริง ๆ ลูกเป็นความภาคภูมิใจของแม่”หวงหงเจี้ยนกลับขมวดคิ้วไม่พูดจา หนึ่งคือไม่ค่อยเชื่อคำพูดของลูกชายตัวเองสักเท่าไหร่ เขาจะยอมให้เด็กหนุ่มที่ไม่มีอำนาจอิทธิพลคนหนึ่งมารังแกเหรอ นี่เป็นไปไม่ได้ประการที่สองประเด็นสำคัญคือเป็นกังวลอาการของแม่ และก็ไม่มีเวลาคิดสิ่งอื่นในตอนนี้เอง ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก แพทย์เซียนหลี่ หลี่ต้าซานเดินออกมา เขาถอดหน้ากากออก เผยใบหน้าที่อ่อนเพลียออกมา ในดวงตามีความจนใจ“แพทย์เซียนหลี่ แม่ของผมเป็นอย่างไรบ้าง?” หวงหงเจี้ยนหน้าตาวิตกกังวลหลี่ต้าเซียนยิ้มเจื่อนอย่างจนใจ ได้รับมอบหมายงานสำคัญที่ไม่สามารถจัดการได้ ชื่อเสียงของแพทย์เซียนของเขาถือว่าถูกทำลายแล้ว จากนั้นพูดขึ้น: “ขออภัย ฉันไม่มีความสามารถที่จะรักษาได้””อะไรนะ?“หวงหงเจี้ยนโซเซในทันที สีหน้าซีดขาวคนอื่น ๆ สีหน้าดีหน่อย“ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีหนทางจริง ๆ เหรอ?”หวงหงเจี้ยนเบ้าตาแดงในทันที เขาเผชิญหน้ากับความยากลำบากต่าง ๆ ไม่เคยท้อถอยมาก่อน แต่ตอนนี้เขาสิ้นหวังแล้วจริง ๆหลี่ต้าเซียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “คุณหญิง
เย่เทียนหยู่นิ่งอึ้งเล็กน้อย หลี่ต้าเซียนจัดการไม่ได้อีกแล้วเหรอ?งั้นโชคของเขาคงจะแย่มาก ในเมื่อจากที่เขาดู วิชาแพทย์ของหลี่ต้าเซียนพอใช้ได้หยางเฉียนเฉียนได้ยิน ในใจตกตะลึงทันที จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้น: “คุณอาหวง พวกเราอยู่นี่ค่ะ!”หวงหงเจี้ยนได้ยินเสียง รีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงก็จับมือของเย่เทียนหยู่ไว้และพูดอย่างรีบร้อน: “เทพเซียนเย่ เมื่อครู่ผมมีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินคุณแล้ว”“คุณเป็นคนจิตใจกว้างขวาง อย่าถือสาเด็ดขาดนะครับ”เป็นถึงผู้บริหารอันดับสองของเมืองเทียนไห่ จริงใจขนาดนี้ ท่าทางแบบนี้ ความไม่พอใจในหัวใจของเย่เทียนหยู่ก็หายไปแล้ว เขาพูดขึ้น: “ไม่เป็นไรครับ เรื่องผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะ”“ขอบคุณที่คุณเข้าใจ ขอเชิญคุณไปดูคุณแม่หน่อยได้ไหมครับ?” เวลากระชั้นชิด หวงหงเจี้ยนพูดขึ้นทันที“ดูได้ไม่มีปัญหา แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องบอกให้ชัดเจนก่อน”“คุณพูดมาเถอะครับ!”“ผมมาทำการรักษาที่นี่ เป็นเพราะถูกเฉียนเฉียนหลอกมา ไม่มีความคิดที่จะพึ่งพาคุณ ไม่มีคุณ หวงโหย่วเหวยก็ทำอะไรผมไม่ได้ ต่อให้คุณช่วยเขา ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเฉยเมย“ครับ ผมเชื่อ แ
หวงโหย่วเหวยพูดพึมพำอย่างอดไม่ได้: “ไอ้หมอนี่รักษาได้จริง ๆ เหรอ ก็แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง วิชาแพทย์จะปราดเปรื่องกว่าแพทย์เซียนหลี่ได้อย่างไร!”“หุบปาก!”หวงหงเจี้ยนกระวนกระวายใจอยู่แล้ว เขาพูดตวาดทันที: “พวกเราไม่รู้ แพทย์เซียนหลี่เองจะไม่รู้เหรอ ไม่เห็นท่าทางที่เขามีต่อแพทย์เซียนเย่เมื่อครู่นี้เหรอ?”หวงโหย่วเหวยไม่กล้าส่งเสียงทันทีซุนเจี๋ยกลับทนดูต่อไปไม่ไหวจึงพูดขึ้น: “ลูกก็แค่สงสัย คุณโมโหขนาดนั้นทำอะไร จากที่ฉันดู เขาคงรักษาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นทำไมนานขนาดนี้แล้วยังไม่มีความเคลื่อนไหวอีก”“พวกคุณ!”“ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่อยากจะทะเลาะกับพวกคุณ แต่ถ้าแม่ของผมเป็นอะไร ผมจะตีขาไอ้ลูกคนนี้”หวงหงเจี้ยนพูดอย่างโมโห“คุณกล้า!”ซุนเจี๋ยพูดอย่างไม่พอใจ: “นี่เกี่ยวอะไรกับโหย่วเหวยด้วย โหย่วเหวยใจจดใจจ่อหวังดีต่อคุณแม่ ถึงกับเชิญแพทย์เซียนมา จะทำเพราะคนชั้นต่ำที่แปลกหน้าคนนี้เหรอ?”หวงหงเจี้ยนสีหน้าเคร่งขรึม ถลึงตาใส่ซุนเจี๋ยเป็นเพราะเขานึกถึงตัวเอง คิดถึงคุณแม่ที่ถูกคนตระกูลซุนดูถูกมาโดยตลอดในสายตาของเธอ คนทั่วไปต่างเป็นคนชั้นต่ำที่อยู่ระดับต่ำซุนเจี๋ยเห็นท่าทางแบบนี้ของหวงหงเจี้ยน ก
หลี่ต้าเซียนกลับพยักหน้าพูดอย่างเห็นด้วย: “ถึงแม้ผมไม่รู้ว่าคุณหญิงจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ปีกันแน่ แต่แพทย์เซียนเย่ไม่เพียงรักษาภาวะสมองขาดเลือดของคุณหญิง แต่ยังทำให้ร่างกายของเธอดีขึ้นเยอะมาก ๆ”“เพียงแค่ต่อไปต้องบำรุงรักษาเต็มที่ โรคทั่วไปที่ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ในอดีตก็สามารถหายดีได้ นี่สามารถมั่นใจได้แน่นอน”“จริงเหรอ ดีมากเลย ดีมากเลย!”สำหรับคำพูดของหลี่ต้าเซียน หวงหงเจี้ยนเชื่อมั่นอย่างมากอยู่แล้ว เกี่ยวกับแพทย์เซียนหลี่ เขาเคยได้ยินมานานล้ว และก็เคยคิดอยากจะให้มาดูคุณแม่แต่ไม่มีโอกาสมาโดยตลอด ตอนนี้ได้ยินเขาพูดแบบนี้ จึงดีใจมากเป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้นึกถึงการกระทำของภรรยาและลูกชายเมื่อครู่นี้ สายตาเย็นชาทันทีและพูดอย่างโมโห: “หวงโหย่วเหวย ไสหัวมาหาฉันเดี๋ยวนี้ คุกเข่าลง!”ห๊ะ!หวงโหย่วเหวยหน้าขาวซีด จู่ ๆ ก็เกิดความงุนงงมองดูใบหน้าของพ่อที่เคร่งขรึมและน่าเกรงขามอย่างมาก เขาอดไม่ได้ที่มองไปทางแม่ซุนเจี๋ยก็ตกใจมาก จะให้ลูกชายคุกเข่าต่อหน้าสาธารณะ ได้อย่างไรกันล่ะ เธอกำลังจะเอ่ยปากหวงหงเจี้ยนพูดเตือนอย่างเย็นชาทันที: “ซุนเจี๋ย วันนี้ผมจะสั่งสอนลูกชาย ทางที่ดีคุณอย่าพูดจ
หรือว่า เขายังมีสถานะอะไรไม่ว่าอย่างไร หวงหงเจี้ยก็ยังซาบซึ้งใจอย่างมากจึงพูดว่า: “งั้นต้องขอบคุณแพทย์เซียนเย่มาก ๆ”“ไม่ต้องเกรงใจ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเรียบเฉย“ลุกขึ้นเถอะ”จากนั้นหวงหงเจี้ยนให้ลูกชายลุกขึ้นแล้วพูดขึ้น: “ได้ยินแล้วยัง ต่อไปห้ามหาเรื่องแพทย์เซียนเย่อีก เจอกับเขาต้องเคารพนบนอบ”“ครับ!”ครั้งนี้หวงโหย่วเหวยหวาดกลัวจริง ๆ แล้วตอนนี้หลี่ต้าเซียนเห็นหวงหงเจี้ยนจัดการเรื่องราวเสร็จ จู่ ๆ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เทียนหยู่ทันทีเย่เทียนหยู่มึนงงทันทีหวงโหย่วเหวยก็ตะลึงตาค้าง เกิดอะไรขึ้นหวงหงเจี้ยนก็ตกตะลึงเช่นกัน“แพทย์เซียนหลี่ นี่คุณทำอะไรน่ะ!”เย่เทียนหยู่ตั้งตัวได้ก็รีบดึงเขาขึ้นมา“แพทย์เซียนเย่ ผมหลี่ต้าเซียนชีวิตนี้ไม่ต้องการสิ่งอื่นใด แค่หวังว่าจะสามารถทำให้แพทย์แผนจีนเจริญรุ่งเรืองได้ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วได้เห็นการฝังเข็มที่น่าอัศจรรย์ของคุณ ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องฝากตัวเป็นศิษย์ของคุณ”“ขอร้องคุณรับผมเป็นศิษย์ ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่ลุกขึ้น”หวงหงเจี้ยนฟังจบก็แอบตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าหลี่ต้าเซียนเพื่อที่จะไหว้ครู ถึงกับไม่สนศักดิ์เย่เทียนหยู่ใบหน้าจน
ฟังถึงตรงนี้ เย่เทียนหยู่ถึงได้เข้าใจว่าเรื่องเป็นอย่างไร ถ้าหากเขาเดาไม่ผิด ซูถิงน่าจะรู้สถานการณ์ ไม่อย่างนั้น หลิวเจี๋ยไม่กล้าแอบอ้าง“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิว หว่านรู้ก็ต้องจบเห่จริง ๆคุณพ่อตระกูลหลินเอ่ยปากพูด: “นายน้อยหลิว ครั้งนี้โชคดีที่มีคุณ พวกเราต่างไม่รู้เลยว่าจะขอบคุณอย่างไรถึงจะดี”“คุณอาเกรงใจเกินไปแล้ว”หลิวเจี๋ยมองไปยังเย่เทียนหยู่อย่างลำพองใจ จากนั้นพูดต่อว่า: “ไม่ต้องพูดว่าผมชอบหว่านหรู เพื่อเธอแล้วอะไรก็ยอมทุ่มเทได้หมด ต่อให้เป็นคนแปลกหน้า ก็่อดไม่ได้ที่จะออกหน้า”คุณแม่หลินได้ยินก็พูดทันที: “เย่เทียนหยู่ นายฟังสิ ฟังสิ ดูนายน้อยหลิวทำอย่างไร แล้วดูนายทำเรื่องอะไรบ้าง แถมนายยังเป็นสามีของหว่านหรู”“ผมทำอะไร คุณควรถามว่าเขาทำอะไร!”ในตอนนี้ เย่เทียนหยู่หมดคำพูดจริง ๆ จากนั้นถามอย่างเฉยเมย: “หลิวเจี๋ย นายแน่ใจเหรอว่านายเป็นคนช่วยเอาไว้?”ทุกคนได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงแต่หลิวเจี๋ยกลับแสร้งทำเป็นงุนงง แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ: “ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใคร นายคงไม่ได้อยากพูดว่าเป็นนายหรอกนะ?”“หรือว่าไม่ใช่เหรอ?”“นายพูดว่าใช่ก็ใช่มั้ง นายต้องการความดีค
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด
แต่สิ่งนี้ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หัวหน้าใหญ่ไป๋ถูกจัดการแล้วจริง ๆ เขาถูกทำลายแล้วอย่างสิ้นเชิงคุณนายไป๋หน้าซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธอทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ในเวลานี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าเทพสงครามในสายตาของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วจริง ๆเพราะความทะเยอทะยานของเธอ จึงทำให้ผู้ชายของเธอได้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง!ผ่านไปนานพอสมควร ในที่สุดไป๋เฉินก็สงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ก่อนจะถามออกไปด้วยความกลัวว่า “แกเป็นใครกันแน่?”“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือ เงินอีกสี่หมื่นห้าพันล้านจะต้องเข้าบัญชีเดี๋ยวนี้” เย่เทียนหยูกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย “ภรรยาของคุณไม่สามารถเอาออกมาได้ แต่ตัวคุณก็น่าจะไม่มีปัญหาสินะ?”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ดีมากนัก เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างมาก ที่ทำให้ชี่แท้ของตนถูกทำลาย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เงินก้อนนี้ฉันจะไม่มีวันมอบให้แน่นอน”“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยสนใจชีวิตภรรยาของคุณเลยสินะ”“พี่เฉินคะ......”คุณนายไป๋ลนลานขึ้นมาทันที เงินไม่มีก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เ
แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต
ไม่มีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งอะไรนั่นหรอก ก็แค่ระดับหมิงจิ้นขั้นสูงธรรมดาเท่านั้น ขนาดระดับพลังจันทราขั้นต้นก็ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหยู่ย่อมจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วผ่านไปไม่นาน ทั้งสามคนก็ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนสีหน้าคุณนายไป๋ดูหม่นหมองลง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสามคนแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งเป็นการทำให้ไอ้เด็กนั่นได้ใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “พี่เฉิน ถึงเด็กนั่นจะไม่เก่งเท่าพี่ แต่พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เกรงว่าพี่อาจจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะ”“ฉันรู้แล้ว!”หัวหน้าใหญ่ไป๋รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เมื่อกี้ทั้งสามคนยังไม่ทันจะทำให้เย่เทียนหยู่เผยความสามารถออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดประชดออกไปว่า “ทำไม ถ้ายังไม่พร้อมล่ะก็ คุณจะลองโทรให้คนตรวจสอบความแข็งแกร่งของผมดูสักหน่อยไหมล่ะ?”“อวดดี!”“การจัดการกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก ฉันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น!”หัวหน้าใหญ่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เมื่อกี้ ฉัน
“ความลับงั้นเหรอ?”ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย หรืออีกฝ่ายรู้ตัวตนราชามังกรของตนแล้วงั้นเหรอ? ในเมื่อรู้แล้ว แต่กลับยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสอยู่อีก ก็แสดงว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเขาอยู่นั้น มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน“เหอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก!”สีหน้าคุณนายไป๋ดูพอใจอย่างมาก เธอจึงพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ก็แค่อาศัยการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นั่นของแก แล้วจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ใช่รึไง หากไม่ใช่แบบนี้ แกก็คงจัดการกับพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เถาไม่ได้หรอก!”“ตอนนี้ แกได้สูญเสียความลับวิธีการโจมตีที่สำคัญไปแล้ว และพี่เฉินเองก็มีพลังที่เหนือกว่าที่แกจะจินตนาการได้เสียอีก อย่าว่าแต่แกจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีก ต่อให้แกจะมีวิธีอื่น แกก็ต้องตายอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำนี้ ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจว่าความลับที่พูดถึงคืออะไร เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่คือความลับที่คุณพูดถึงเหรอ?”“ถูกต้อง ถึงแกจะไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์” คุณนายไป๋พูดอย่างเย็นชาหัวหน้าใหญ่ไป๋โบกมือไปมา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู พูดจาไร้สาระให้น้อย ๆ หน่อย ตอนนี้
แต่พอลองคิดดูอีกที อีกเดี๋ยวหัวหน้าใหญ่ไป๋ก็จะมาถึงแล้ว เขาจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันที พร้อมกับพูดเสียงดังออกไปว่า “ไอ้หนู กะ แกคิดจะทำอะไร?”เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบออกไปว่า “ไม่ใช่ว่าพวกคุณให้ผมหยุดหรอกเหรอ?”“ใช่ พะ พวกเราสั่งให้แกหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ให้แกเดินเข้ามาสักหน่อย”“......”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมกับพูดอย่างเรียบเฉยออกไปว่า “ผมไม่ว่างมาเสียเวลาอยู่ที่นี่หรอกนะ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปที่รถทันทีเมื่อทั้งสองที่เห็นแบบนั้น พวกเขาก็รู้ว่าจะปล่อยให้จากไปแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะลองเสี่ยงดู ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้า โดยโจมตีเข้าขนาบจากทั้งซ้ายขวาพร้อมกันยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหันมามองเลยด้วยซ้ำในใจพวกเขาก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา คิดว่าตัวเองอาจจะมาถูกทางโดยบังเอิญก็ได้ และอาจจะสามารถสร้างผลงานชิ้นใหญ่ให้กับตัวเองได้ด้วยแต่ไม่นาน พวกเขาก็รู้ว่าตนคิดผิด และมันก็ผิดมหันต์เลยล่ะ เห็นเพียงแค่หมัดของพวกเขาเข้าใกล้อีกฝ่ายเท่านั้น แต่หมัดยังไม่ทันจะโดน ก็รู้สึกถึงพล
ครั้งนี้ ไป๋เถารู้สึกเจ็บใจมากจริง ๆ ทุกคำทุกประโยคที่เขาคิด คือต้องการคิดหาวิธีที่จะลากตระกูลไป๋ลงน้ำและเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋จะต้องตายอย่างแน่นอน นั่นเพราะเขาเพิ่งจะได้รับข่าวที่น่าตกใจมาก ๆ มา เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรที่แท้ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ไป๋เถาที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังนั้น ก็ได้นึกถึงการต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นมา ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะพบว่าตนเองอาจจะคาดการเรื่องทั้งหมดนี้ผิดไปก็ได้ที่อีกฝ่ายรับการป้องกันได้ไม่ใช่เพราะการโจมตีของตนแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะตนยังไม่ทันได้มีเวลาลงมือเลยต่างหากที่สำคัญเลยก็คือ หลังจากที่ตนมาถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เพื่อนจากสถานีตำรวจก็โทรมาหาตำแหน่งของเพื่อนคนนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่เป็นเพราะเขาบังเอิญได้ยินบทสนทนาของสารวัตรเฉินกับหวงลี่ นั่นจึงทำให้เขาได้รู้ความลับที่น่าตกใจอย่างหนึ่งเข้าพูดกันว่าความเป็นมาของเย่เทียนหยู่นั้นน่ากลัวมาก เขาเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรเมื่อได้ยินคำว่าราชามังกรแห่งพรรคมังกร ทันใดนั้นไป๋เถาก็เกิดรู้สึกงงงวยขึ้นมาไม่ว่าไป๋เถาจะคิดยังไง เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตนจะเผลอไปล