หลี่ต้าเซียนกลับพยักหน้าพูดอย่างเห็นด้วย: “ถึงแม้ผมไม่รู้ว่าคุณหญิงจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ปีกันแน่ แต่แพทย์เซียนเย่ไม่เพียงรักษาภาวะสมองขาดเลือดของคุณหญิง แต่ยังทำให้ร่างกายของเธอดีขึ้นเยอะมาก ๆ”“เพียงแค่ต่อไปต้องบำรุงรักษาเต็มที่ โรคทั่วไปที่ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ในอดีตก็สามารถหายดีได้ นี่สามารถมั่นใจได้แน่นอน”“จริงเหรอ ดีมากเลย ดีมากเลย!”สำหรับคำพูดของหลี่ต้าเซียน หวงหงเจี้ยนเชื่อมั่นอย่างมากอยู่แล้ว เกี่ยวกับแพทย์เซียนหลี่ เขาเคยได้ยินมานานล้ว และก็เคยคิดอยากจะให้มาดูคุณแม่แต่ไม่มีโอกาสมาโดยตลอด ตอนนี้ได้ยินเขาพูดแบบนี้ จึงดีใจมากเป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้นึกถึงการกระทำของภรรยาและลูกชายเมื่อครู่นี้ สายตาเย็นชาทันทีและพูดอย่างโมโห: “หวงโหย่วเหวย ไสหัวมาหาฉันเดี๋ยวนี้ คุกเข่าลง!”ห๊ะ!หวงโหย่วเหวยหน้าขาวซีด จู่ ๆ ก็เกิดความงุนงงมองดูใบหน้าของพ่อที่เคร่งขรึมและน่าเกรงขามอย่างมาก เขาอดไม่ได้ที่มองไปทางแม่ซุนเจี๋ยก็ตกใจมาก จะให้ลูกชายคุกเข่าต่อหน้าสาธารณะ ได้อย่างไรกันล่ะ เธอกำลังจะเอ่ยปากหวงหงเจี้ยนพูดเตือนอย่างเย็นชาทันที: “ซุนเจี๋ย วันนี้ผมจะสั่งสอนลูกชาย ทางที่ดีคุณอย่าพูดจ
หรือว่า เขายังมีสถานะอะไรไม่ว่าอย่างไร หวงหงเจี้ยก็ยังซาบซึ้งใจอย่างมากจึงพูดว่า: “งั้นต้องขอบคุณแพทย์เซียนเย่มาก ๆ”“ไม่ต้องเกรงใจ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเรียบเฉย“ลุกขึ้นเถอะ”จากนั้นหวงหงเจี้ยนให้ลูกชายลุกขึ้นแล้วพูดขึ้น: “ได้ยินแล้วยัง ต่อไปห้ามหาเรื่องแพทย์เซียนเย่อีก เจอกับเขาต้องเคารพนบนอบ”“ครับ!”ครั้งนี้หวงโหย่วเหวยหวาดกลัวจริง ๆ แล้วตอนนี้หลี่ต้าเซียนเห็นหวงหงเจี้ยนจัดการเรื่องราวเสร็จ จู่ ๆ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เทียนหยู่ทันทีเย่เทียนหยู่มึนงงทันทีหวงโหย่วเหวยก็ตะลึงตาค้าง เกิดอะไรขึ้นหวงหงเจี้ยนก็ตกตะลึงเช่นกัน“แพทย์เซียนหลี่ นี่คุณทำอะไรน่ะ!”เย่เทียนหยู่ตั้งตัวได้ก็รีบดึงเขาขึ้นมา“แพทย์เซียนเย่ ผมหลี่ต้าเซียนชีวิตนี้ไม่ต้องการสิ่งอื่นใด แค่หวังว่าจะสามารถทำให้แพทย์แผนจีนเจริญรุ่งเรืองได้ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วได้เห็นการฝังเข็มที่น่าอัศจรรย์ของคุณ ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องฝากตัวเป็นศิษย์ของคุณ”“ขอร้องคุณรับผมเป็นศิษย์ ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่ลุกขึ้น”หวงหงเจี้ยนฟังจบก็แอบตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าหลี่ต้าเซียนเพื่อที่จะไหว้ครู ถึงกับไม่สนศักดิ์เย่เทียนหยู่ใบหน้าจน
ฟังถึงตรงนี้ เย่เทียนหยู่ถึงได้เข้าใจว่าเรื่องเป็นอย่างไร ถ้าหากเขาเดาไม่ผิด ซูถิงน่าจะรู้สถานการณ์ ไม่อย่างนั้น หลิวเจี๋ยไม่กล้าแอบอ้าง“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยหลิว หว่านรู้ก็ต้องจบเห่จริง ๆคุณพ่อตระกูลหลินเอ่ยปากพูด: “นายน้อยหลิว ครั้งนี้โชคดีที่มีคุณ พวกเราต่างไม่รู้เลยว่าจะขอบคุณอย่างไรถึงจะดี”“คุณอาเกรงใจเกินไปแล้ว”หลิวเจี๋ยมองไปยังเย่เทียนหยู่อย่างลำพองใจ จากนั้นพูดต่อว่า: “ไม่ต้องพูดว่าผมชอบหว่านหรู เพื่อเธอแล้วอะไรก็ยอมทุ่มเทได้หมด ต่อให้เป็นคนแปลกหน้า ก็่อดไม่ได้ที่จะออกหน้า”คุณแม่หลินได้ยินก็พูดทันที: “เย่เทียนหยู่ นายฟังสิ ฟังสิ ดูนายน้อยหลิวทำอย่างไร แล้วดูนายทำเรื่องอะไรบ้าง แถมนายยังเป็นสามีของหว่านหรู”“ผมทำอะไร คุณควรถามว่าเขาทำอะไร!”ในตอนนี้ เย่เทียนหยู่หมดคำพูดจริง ๆ จากนั้นถามอย่างเฉยเมย: “หลิวเจี๋ย นายแน่ใจเหรอว่านายเป็นคนช่วยเอาไว้?”ทุกคนได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงแต่หลิวเจี๋ยกลับแสร้งทำเป็นงุนงง แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ: “ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใคร นายคงไม่ได้อยากพูดว่าเป็นนายหรอกนะ?”“หรือว่าไม่ใช่เหรอ?”“นายพูดว่าใช่ก็ใช่มั้ง นายต้องการความดีค
คุณพ่อตระกูลหลินพูดเสียงเข้ม“เอาเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว!”มองดูเย่เทียนหยู่ถูกกลุ่มคนโจมตี หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถามขัดจังหวะคำพูดของทุกคน: “ถิงถิง เมื่อครู่ในโทรศัพท์เธอพูดว่านายน้อยหลินลงมือ แถมยังทำร้ายผู้จัดการธนาคารหลิวจนเจ็บหนัก“ใช่น่ะสิ นายน้อยหลิวเห็นเธอถูกมอมจนน่าเวทนาขนาดนั้น เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จึงอดไม่ได้ที่จะกระทืบพวกเขาทั้งหมดอย่างรุนแรง“งั้น เงินกู้ทำอย่างไร”หลินหว่านหรูสีหน้าขมขื่น เธอจะโทษหลิวเจี๋ยไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องจัดการปัญหาหลิวเจี๋ยได้ยิน กลับยิ้มและพูดขึ้นทันที: “กลัวอะไร ก็แค่ผู้จัดการธนาการคนเดียเอง กระทืบแล้วก็กระทืบไปเถอะ”“คุณวางใจได้ เดี๋ยวผมโทรหาพ่อของผม จัดการให้คุณได้ในทันที”“ดีมากเลย มีนายน้อยหลิวอยู่ ไม่มีปัญหาที่จัดการไม่ได้ หว่านหรูมีเพื่อนแบบคุณ เป็นโชคของเธอจริง ๆ”คุณแม่ตระกูลหลินพูดอย่างดีใจ“ขอบคุณครับคำชมครับคุณน้า ธนาคารไหน ผมโทรหาพ่อของผมตอนนี้เลยดีกว่า ไม่แน่เขาได้ยินชื่อพ่อของผม ก็กลัวจนรับปากในทันทีเลย”“หากเป็นแบบนี้ก็ดี หว่านหรู ธนาคารไหน มีเบอร์โทรศัพท์ไหม?”“ธนาคารฝูซาง หลิวหมิงผู้จัดการธนาคา
ซูถิงสีหน้าโมโห แต่ตอนนี้เย่เทียนหยู่ลุกขึ้นเดินออกไปแล้ว อยากด่ากลับไปก็ไม่ได้ไอ้สารเลวนี่ เพื่อเกาะติดอยู่ข้างกายหว่านหรู ไม่มีศักดิ์ศรีสักนิดเลยจริง ๆแต่มีตัวเองอยู่ ไม่มีทางทำให้เขาสมหวังแน่นอนและในตอนนี้หลิวหมิงเพิ่งด่าคุณพ่อตระกูลหลิเสร็จ กำลังจะหาคนไปจัดการเย่เทียนหยู่สักหน่อยในตอนนี้เอง มีสายหนึ่งโทรเข้ามา ฟังจบรู้สึกเสียวสันหลังวูบ ๆคนทั้งคนเกือบจะเป็นลมไปที่แท้หยางเฉียนเฉียนตอนนั้นที่งานเลี้ยงเมื่อออกมาก็ตามเย่เทียนหยู่ไม่ทัน ถึงแม้ไม่ถาม แต่ก็สงสัยว่าเย่เทียนหยู่พบเจอปัญหาอะไร ถึงได้รีบร้อนกลับไปผ่านการสอบถาม ในที่สุดก็รู้เหตุผลแล้ว เธอใช้ความสามารถของตัวเองในทันที ให้ตระกูลหยางออกหน้าคราวนี้หลิวหมิงไม่ตกตะลึงตาค้างได้อย่างไรถึงแม้เขามีเส้นสายกว้างขวาง มีความสัมพันธ์กับตระกูลหวง แต่สุดท้ายก็แค่สนิทกับคุณชายหวงมาก ๆ พ่อของคุณชายหวงแข็งแกร่งซื่อตรงตกใจจนเขารีบโทรศัพท์หาหลินหว่านหรูในทันทีหลินหว่านหรูกำลังกังวลเรื่องเงินกู้ ตอนนี้จู่ ๆ ได้รับสายของผู้จัดการธนาคารหลิว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากที่เธอดู ต่อให้คุณพ่อตระกูลหลิวจะช่วยเหลือ ก็ไม่มีทางเร็วขนาดนี
บังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ?ครั้งนี้ใครช่วยเอาไว้?เย่เทียนหยู่ยิ้มเจื่อน ๆ อย่างอดไม่ได้ เขานั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินการสนทนาในโทรศัพท์ของหลินหว่านหรู ฟังออกว่าอีกฝ่ายกลัวคนที่กระทืบเขาเมื่อวานมาก นั่นก็คือตัวเองดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพ่อของหลิวเจี๋ยช่วยเหลือใครกัน?ตระกูลหยาง?มีเพียงแบบนี้ที่เป็นไปได้มากสุด แต่ตระกูลหยางรู้เรื่องเมื่อคืนได้อย่างไร หรือจะเป็นเฉียนเฉียน?นี่เป็นไปได้ อย่าดูว่าเด็กสาวคนนั้นไร้เดียงสาอย่างมาก แถมเธอนิสัยเฉลียวฉลาด ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช้ตัวเองไปรักษาคุณแม่ตระกูลหวงได้เร็วขนาดนี้“เย่เทียนหยู่ เห็นแล้วยัง นายดูให้ดี ๆ สิ นี่ถึงจะเรียกว่าความสามารถที่แท้จริง แต่ไม่ใช่อย่างนายที่พึ่งพาความบุญคุณที่มีน้อย”ซูถิงเอ่ยปากพูด“เธอประจบประแจงเก่งจริง ๆ แต่เธอแน่ใจขนาดนี้จริง ๆ เหรอว่าพ่อของหลิวเจี๋ยเป็นคนช่วยเหลือ?” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเย็นชา“หึหึ ไม่ใช่พ่อของฉันแล้วเป็นใคร ถ้าหากไม่ใช่พ่อของฉันออกหน้า ผู้จัดการธนาคารหลิวสถานะอะไร จะไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องเมื่อคืนได้อย่างไร และก็อนุมัติเงินกู้ลงมาทันที”“จริงด้วย ความจริงวางอยู่ตรงหน้า นายยังยุยงอยู่ตรงน
“จริงด้วย จริงด้วย นายน้อยหลิวตระกูลใหญ่บริษัทใหญ่ สำหรับผู้จัดการธนาคารคนหนึ่งนั่นเป็นถึงลูกค้าที่ไม่สามารถล่วงเกินได้แน่นอน” คุณแม่ตระกูลหลินพูดเสริมทันที“นั่นน่ะสิ นี่เป็นผลงานของพวกเขา เป็นชีวิตของพวกเขา”ทุกคนเห็นด้วยอย่างมากเย่เทียนหยู่ถูกคำพูดซี้ซั้วของหลิวเจี๋ยทำให้หัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ แต่เมื่อคิดดูให้ดี ดูจากนิสัยของหลิวเจี๋ย พูดแบบนี้ถึงจะสอดคล้องกับนิสัยและการกระทำของเขา“เย่เทียนหยู่ ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว นายยังมีอะไรพูดอีก?” คุณแม่ตระกูลหลินจี้ถามอย่างเย็นชา“ความจริงเปิดเผยอะไร พวกคุณก็แค่ถูกเขาหลอกก็เท่านั้นแหละ”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเฉยเมย“เย่เทียนหยู่ นายพอได้แล้ว!”หลินหว่านหรูโมโหอย่างถึงที่สุดและพูดอย่างเดือดดาล: “ตั้งแต่เริ่มต้น นายเอาแต่กวนไม่มีเหตุผลอยู่ที่นี่มาโดยตลอด นายอยากจะทำอะไรกันแน่?”“ฉันรู้ นายอิจฉาริษยาตระกูลและความสามารถของนายน้อยหลิวมาตลอด แต่จะใส่ร้ายป้ายสีแบบนี้ตลอดไม่ได้ ถึงขั้นสร้างเรื่องปลุกปั่น”อันที่จริงเธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้เกลียดชังเย่เทียนอยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ความรู้สึกที่มากกว่านั้นคือโมโหที่เขาไม่ได้ดั
“ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรครับ ก็แค่ตอนกลางวันอยากจะเลี้ยงอาหารคุณ ขอบคุณการช่วยเหลือของคุณ ขณะเดียวกันก็อยากจะขอโทษคุณเรื่องลูกชายของผม”“ไม่ต้องหรอก ผมก็ไม่ได้เก็บไปใส่ใจ”“คุณไม่เก็บไปใส่ใจ นั่นเป็นความใจกว้างของคุณ แต่ถ้าผมไม่เลี้ยงอาหารมื้อนี้ รู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ครับ”เย่เทียนหยู่ได้ยินคำพูดนี้ นึกได้ว่าตัวเองไม่อยากอยู่ที่ตระกูลหลินพอดี จึงพูดขึ้น: “ก็ได้ ผมไปช้าหน่อย”“ได้ครับ ง้นตอนเที่ยงผมไปรับคุณไหม?”“ไม่ต้อง ส่งที่อยู่มาให้ผมก็พอ”หวงหงเจี้ยนตอบรับ จากนั้นส่งตำแหน่งของตึกสี่ฤดูไปให้ทันทีถึงแม้ว่าภรรยาจะยอมรับผิดต่อหวงหงเจี้ยนแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยที่สามีให้ความสำคัญกับเย่เทียนหยู่ขนาดนี้ จึงอดพูดขึ้นไม่ได้: “ถึงแม้เขาช่วยเหลือพวกเรามากมายจริง ๆ แต่คุณเป็นถึงผู้บริหารอันดับสองของเมืองเทียนไห่ จะทำแบบนี้จริง ๆ เหรอ?”หวงโหย่วเหวยลูกชายของเขาก็อยู่ข้าง ๆ ในใจก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ผ่านเรื่องเมื่อคืน กลับไม่กล้าพูดอะไรมากนักหวงหงเจี้ยนส่งเสียงไม่พอใจแล้วพูดขึ้น: “คุณยังกล้าพูดอีก ถ้าไม่ใช่พวกคุณ พวกเราเกือบจะทำให้แพทย์เซียนเย่ขุ่นเคืองแล้ว”“พวกคุณรู้ไหมว่า เขามีต