หลิวเจี๋ยและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงเล็กน้อย โดยเฉพาะหลิวเจี๋ย ตกตะลึงจนแทบจะกระอักเลือดแม่งเอ๊ย ไอ้เด็กยากจนคนนี้โชคดีมาจากไหนกันเด็กสาวที่สวยสุดยอดและไร้เดียงสาขนาดนี้ก็ยังอยู่ด้วยกันกับเขาแถมเขายังมีหว่านหรูคู่หมั้นที่สวยเพริศพริ้งขนาดนี้ ถึงแม้หว่านหรูจะต้องถีบหัวส่ง แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังเป็นสามีภรรยากันหลินหว่านหรูไม่รู้ว่าความรู้สึกในใจเป็นอย่างไร ก็แค่ไม่พอใจอย่างมาก หงุดหงิดมาก เหมือนสิ่งของของตัวเองถูกคนแย่งไปเธออดไม่ได้ที่จะเข้าไปพูดอย่างโมโห: “เย่เทียนหยู่ นายรู้ไหมว่านายทำอะไรอยู่!”เย่เทียนหยู่สีหน้านิ่งเฉยและพูดอย่างเฉยเมย: “รู้ ก็แค่ทานข้าว ทำไม เธอออกมาทานข้าวได้ ฉันมาไม่ได้เหรอ?”“เย่เทียนหยู่ นายพูดอะไรน่ะ นี่นายออกมาทานข้าวเหรอ นายกำลังมีชู้ต่างหาก!” ซูถิงพูดด่าทอ“เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย!” สำหรับซูถิง ต่อให้รูปร่างยั่วยวน หน้าตาสวยงาม เย่เทียนหยู่ก็ไม่มีความรู้สึกดี ๆ แล้ว“นาย!”“เย่เทียนหยู่!”หลินหว่านกลับโมโห: “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่านายจะเป็นคนแบบนี้ พวกเราไปกันเถอะ!”พูดคำนี้จบ เธอก็เดินเข้าไปข้างในโดยตรงหลิวเจี๋ยเห็นภาพนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“เมื่อวาน ขอบคุณคุณมากจริง ๆ วันนี้แม่ของผมอยากจะมาขอบคุณคุณด้วยตัวเอง แต่เป็นเพราะร่างกายของเธอยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”“สรุปคือ คำพูดมากมายอยู่ในแก้วใบนี้แล้ว ผมดื่มหมดแก้วก่อน”พูดจบก็ดื่มจนหมด“นายกเทศมนตรีหวงเกรงใจเกินไปแล้ว”เย่เทียนหยู่ดื่มเหล้าในแก้วหมดก็ยิ้มพูด: “ร่างกายของคุณหญิง อยากให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้ก็ไม่ยาก เดี๋ยวผมจะจ่ายยาให้สองสามชุด ทานหนึ่งสัปดาห์ ต้องฟื้นฟูกลับมาปกติได้แน่นอน”“จริงเหรอครับ ดีมากเลยจริง ๆ ขอบคุณแพทย์เซียนเย่ ผมชนคุณอีกแก้ว”หวงหงเจี้ยนใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ เพียงแค่เรื่องนี้ อาหารมื้อนี้ไม่สูญเปล่าพูดจบก็มองไปทางภรรยาและลูกทันทีคุณแม่ตระกูลหวง ถึงแม้เก้กัง แต่ก็ยังยกแก้วขึ้นพูด: “แพทย์เซียนเย่ เมื่อวานล่วงเกินคุณอย่างมาก เป็นฉันผู้หญิงอายุอายุเยอะคนนี้ไม่รู้ความ คุณอย่าถือสา วันนี้เหล้าแก้วนี้ ฉันดื่มแสดงความเคารพคุณ ขอโทษคุณ”“ไม่เป็นไร ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป”เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้ทำให้ลำบากใจ ในเมื่อหวงหงเจี้ยนแสดงออกได้ดีมาก ๆ เพียงแค่การกระทำเมื่อวานนี้ คนทั่วไปทำไม่ได้ด้วยซ้ำหวงโหย่วเหวยก็รีบดื่มแสดงความเคารพและขอโทษจากนั้นห
ซูถิงก็สังเกตเห็นภาพนี้แล้ว มองดูพวกเขาพุ่งเข้าไป ก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องอะไร อาจเป็นอันธพาลคนเมื่อครู่ที่ถูกนายน้อยหลิวจัดการแล้วหาคนมาช่วยแต่เธอเชื่อว่า มีนายน้อยหลิวอยู่ อีกฝ่ายแน่แค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ดังนั้นเธอพูดขึ้นทันที: “หว่านหรูมีปัญหาแล้ว ฉันเข้าไปก่อน เย่เทียนหยู่ ถ้านายมีความสามารถจริง ๆ ก็อย่าหนี เข้ามาดูว่าช่วยเหลือได้ไหม”พูดคำนี้จบ ตัวเธอก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็วเย่เทียนหยู่หยุดฝีเท้าลงอย่างจนปัญญา ไม่ใช่เป็นเพราะคำพูดของซูถิง แต่กลัวว่าคนเหล่านี้จัดการอีกฝ่ายไม่ได้ ทำร้ายภรรยาของตัวเองจะไม่ดีโกรธหลินหว่านก็ส่วนโกรธ แต่เพียงแค่เห็นเธอเชื่อมั่นหลิวเจี๋ยไอ้ตัวหายนะคนนี้ขนาดนี้ จึงโมโหเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำตอนนี้ในห้องส่วนตัว แต่ละคนกำลังต่างคุยโวเกี่ยวกับความเผด็จการของหลิวเจี๋ยนี่ทำให้หลิวเจี๋ยลำพองใจอย่างมากที่แท้เมื่อครู่นี้ หยูเว่ยในกลุ่มของพวกเขา และก็เป็นคนคนนั้นที่ครั้งที่แล้วถูกไล่ออกจากงานเลี้ยงเพราะเย่เทียนหยู่ตอนที่เข้าห้องน้ำเห็นคนสวยคนหนึ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะลงไม้ลงมือ ทำให้แฟนหนุ่มของอีกฝ่ายโมโห กระทืบเขายกหนึ่งในตอนนี้นายน้อยห
ในเวลานี้เอง หลิวเจี๋ยที่ได้รับคำชมจากทุกคนเข้าก็ยิ่งรู้สึกได้ใจมากกว่าเดิม เขาส่งเสียง เหอะ อย่างเย็นชา แล้วพูดออกไป “ทางที่ดีพวกแกควรคุกเข่าลงและขอโทษซะ แล้วก็ออกไปจากที่นี่ ไม่เช่นนั้น ฉันจะทำให้พวกแกต้องเดินออกไปทั้งน้ำตาแทน”“ดี ดีนี่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มอย่างแกเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้กับฉัน”ชายหนุ่มโกรธมาก เขาก้าวไปข้างหน้าและใช้หมัดชกออกไปอย่างแรงในทันทีแค่เห็นความเร็วและความแรงที่หมัดถูกส่งออกไป หัวใจของหลิวเจี๋ยก็สั่นสะท้าน นี่คือยอดฝีมือที่แท้จริง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบอะไร เขาก็ได้เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่หน้าอกเขาถูกโจมตีโดยตรง จนทำให้กระเด็นออกไปหน้าอกของหลิวเจี๋ยบาดเจ็บสาหัสชายหนุ่มไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง และใช้เท้าเหยียบลงไปอย่างแรงอ๊าก!หลิวเจี๋ยส่งเสียงกรีดร้องออกมาทุกคนต่างก็เงียบกันหมด ต่างคนต่างก็ตกใจ และไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยปากพูดออกมาทุกคนคิดว่าหลิวเจี๋ยเป็นคนที่เก่งกาจมาก แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าหลิวเจี๋ยจะถูกอีกฝ่ายที่เป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดา ที่ใช้แค่หมัดเดียว ลูกเตะเดียวก็สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ หลิวเจี
ซาจื่อหาวกลับมาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง และพูดอย่างภาคภูมิใจ “ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจะยุติธรรม นายได้ทำร้ายคนของฉันไปแล้ว ข้อเสนอที่นายให้มามันใช้ชดเชยไม่ได้หรอก”“แต่ก็ไม่ได้ต้องการมากนักหรอก ร้อยล้าน ไม่มากไปหรอกใช่ไหม? ”“ไม่เลยครับ ไม่ได้มากมายอะไรเลยครับ”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินดังนั้น เขาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะเปิดปากเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ แต่ถ้าหากร้อยล้านสามารถแก้ปัญหาวันนี้ได้ ความจริงมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี“ได้ งั้นข้อที่สอง! ”“ยังมีอีกข้อเหรอครับ? ”“ทำไม เรื่องที่เพื่อนนายมาวอแวผู้หญิงของพวกพ้องฉันไม่นับงั้นเหรอ? ” การแสดงออกของซาจื่อหาวเปลี่ยนเป็นเย็นชาและอาฆาตขึ้นในทันที“ไม่ ไม่ใช่ครับ! ” หลิวเจี๋ยพูดอย่างสั่นเทา“งั้นก็ดี เอางี้ ในเมื่อเพื่อนของนายมาวอแวกับผู้หญิงของพวกพ้องของฉัน งั้นก็ทำเหมือนกัน ให้เธอคนนั้นมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เรื่องพวกนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป”ซาจื่อหาวชี้ไปทางหลินหว่านหรูแล้วพูดทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูไม่น่ามองขึ้นมาทันทีการแสดงออกของหลิวเจี๋ยเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เขาจึงรีบพูด
“ทำไม อยากขอร้องแทนเขางั้นเหรอ?”“ได้สิ เธอแค่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป! ”ซาจื่อหาวยิ่งแสดงออกถึงความภาคภูมิใจและความชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้มือขวาบีบใบหน้าของหลินหว่านหรู“ไปให้พ้นนะ! ”หลินหว่านหรูปัดมืออีกฝ่ายออก เดินถอยหลังทีละก้าวไปทางด้านข้าง เธอทั้งกังวลและทำอะไรไม่ถูกหลิวเจี๋ยรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างยกย่องเทิดทูลเขาขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขากลับเหมือนคนที่ไร้ประโยชน์ เขากัดฟันแล้วพูดว่า “พี่หาว ได้โปรดพี่อย่าทำแบบนี้...... ”ซาจื่อหาวตบเขาในทันที พร้อมทั้งสาดคำด่า “หุบปากซะ แกไสหัวไปอยู่ด้านข้างนู่นไป ขืนยังพูดพล่ามอยู่อีก ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ! ”หลิวเจี๋ยเอามือกุมแก้มที่เจ็บปวดของเขา และไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรอีก“เหอะ คิดว่าแกจะแน่กว่านี้ซะอีก สุดท้ายก็เป็นแค่ขยะ ขี้ขลาด”ซาจื่อหาวกล่าวสีหน้าดูถูกสีหน้าของหลิวเจี๋ยแทบจะดูไม่ได้ พอมองไปทางผู้คนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เขารู้สึกทรมานราวกับว่าเขากำลังกินขี้สุนัขสีหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความกังวลใจและความสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในเวลานี้เธอกลับนึกถึงเย่เทียนหยู่ขึ้นมาไ
บ้าเอ๊ย!แม้แต่คำพูดอวดดีแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น หลินหว่านหรูเองก็แทบจะหลั่งน้ำตาอยู่แล้วเป็นอย่างที่คิดไว้ตริง ๆ คำพูดเหล่านี้ทำให้ซาจื่อหาวที่กำลังเล่นตลกกับคนดูอยู่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก เขาพูดด้วยท่าทางที่น่ากลัว “เจ้าหนู นี่แกกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ”“พอไปถึงยมโลกแล้ว ก็อย่ามาโทษว่าฉันโหดร้ายก็แล้วกัน”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งคราวนี้ ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ลงมือหนักกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการมุ่งหวังทำร้ายโดยตรง จนอาจจะสามารถเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้จริง ๆแต่ว่า ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่า อีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าเมื่อหลิวเจี๋ยและคนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาต่างก็แอบส่ายหัวเด็กคนนี้จบเห่แล้ว ช่างเป็นคนที่ไม่รู้ภาษีภาษาจริง ๆ หากเขาจะโดน ก็สมควรแล้วล่ะแต่ในดวงตาของหลินหว่านหรูก็ยังคงมีความหวังอยู่ เธอก็จ้องมองไปยังสถาณการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาเพราะเธอรู้ว่าเย่เทียนหยู่เก่งศิลปะการต่อสู้มาก แต่เมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ผั๊วะ!ซาจื่อหาวพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ถูกกระแทกกลับด้วยแรงที่เร็วกว่
“เดิมฉันก็ไม่ได้ขอให้มาช่วยอยู่แล้วหนิ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“นาย นายนี่มันเนรคุณจริง ๆ! ”ซูถิงกล่าวด้วยความโมโห“ไปให้พ้น! ”เย่เทียนหยู่รู้สึกรำคาญนิดหน่อย“เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง! ”ในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะพูดบางอย่างออกมาเธอรู้สึกประทับใจมากที่เย่เทียนหยู่สามารถออกหน้าช่วยเธอไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความพยายามของหลิวเจี๋ยเช่นกัน ยิ่งไม่ควรตำหนิซูถิง ทั้งที่ซูถิงพยายามอุทิศตนเพื่อช่วยเธอด้วย“สิ่งที่ฉันพูดคือความจริงทั้งนั้น! ” เย่เทียนหยู่กล่าว“ได้ ต่อให้สิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ซูถิงก็ไม่ผิด ถ้านายยังจะลงมือกับเขาให้ได้ พวกเราทุกคนก็จะพลอยติดร่างแหไปกับนายด้วย”หลินหว่านหรูไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเย่เทียนหยู่ แต่เธอไม่ต้องการที่จะโต้แย้งกับเขาที่นี่“ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่ นายรู้ไหมว่าตัวตนของพี่ห่าวมีการดำรงอยู่แบบไหน เขาคือจุดสูงสุดสำหรับคนรุ่นใหม่ นายจะลงมือกับเขาไม่ได้” หลิวเจี๋ยเองก็ลุกมายืนข้างหน้าซาจื่อหาวเพื่อขวางทางเอาไว้ ราวกับว่ากำลังปกป้องอีกฝ่ายอยู่“นั่นสิ เย่เทียนยู่ นา
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด
แต่สิ่งนี้ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หัวหน้าใหญ่ไป๋ถูกจัดการแล้วจริง ๆ เขาถูกทำลายแล้วอย่างสิ้นเชิงคุณนายไป๋หน้าซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธอทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ในเวลานี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าเทพสงครามในสายตาของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วจริง ๆเพราะความทะเยอทะยานของเธอ จึงทำให้ผู้ชายของเธอได้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง!ผ่านไปนานพอสมควร ในที่สุดไป๋เฉินก็สงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ก่อนจะถามออกไปด้วยความกลัวว่า “แกเป็นใครกันแน่?”“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือ เงินอีกสี่หมื่นห้าพันล้านจะต้องเข้าบัญชีเดี๋ยวนี้” เย่เทียนหยูกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย “ภรรยาของคุณไม่สามารถเอาออกมาได้ แต่ตัวคุณก็น่าจะไม่มีปัญหาสินะ?”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ดีมากนัก เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างมาก ที่ทำให้ชี่แท้ของตนถูกทำลาย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เงินก้อนนี้ฉันจะไม่มีวันมอบให้แน่นอน”“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยสนใจชีวิตภรรยาของคุณเลยสินะ”“พี่เฉินคะ......”คุณนายไป๋ลนลานขึ้นมาทันที เงินไม่มีก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เ
แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต
ไม่มีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งอะไรนั่นหรอก ก็แค่ระดับหมิงจิ้นขั้นสูงธรรมดาเท่านั้น ขนาดระดับพลังจันทราขั้นต้นก็ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหยู่ย่อมจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วผ่านไปไม่นาน ทั้งสามคนก็ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนสีหน้าคุณนายไป๋ดูหม่นหมองลง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสามคนแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งเป็นการทำให้ไอ้เด็กนั่นได้ใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “พี่เฉิน ถึงเด็กนั่นจะไม่เก่งเท่าพี่ แต่พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เกรงว่าพี่อาจจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะ”“ฉันรู้แล้ว!”หัวหน้าใหญ่ไป๋รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เมื่อกี้ทั้งสามคนยังไม่ทันจะทำให้เย่เทียนหยู่เผยความสามารถออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดประชดออกไปว่า “ทำไม ถ้ายังไม่พร้อมล่ะก็ คุณจะลองโทรให้คนตรวจสอบความแข็งแกร่งของผมดูสักหน่อยไหมล่ะ?”“อวดดี!”“การจัดการกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก ฉันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น!”หัวหน้าใหญ่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เมื่อกี้ ฉัน
“ความลับงั้นเหรอ?”ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย หรืออีกฝ่ายรู้ตัวตนราชามังกรของตนแล้วงั้นเหรอ? ในเมื่อรู้แล้ว แต่กลับยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสอยู่อีก ก็แสดงว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเขาอยู่นั้น มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน“เหอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก!”สีหน้าคุณนายไป๋ดูพอใจอย่างมาก เธอจึงพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ก็แค่อาศัยการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นั่นของแก แล้วจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ใช่รึไง หากไม่ใช่แบบนี้ แกก็คงจัดการกับพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เถาไม่ได้หรอก!”“ตอนนี้ แกได้สูญเสียความลับวิธีการโจมตีที่สำคัญไปแล้ว และพี่เฉินเองก็มีพลังที่เหนือกว่าที่แกจะจินตนาการได้เสียอีก อย่าว่าแต่แกจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีก ต่อให้แกจะมีวิธีอื่น แกก็ต้องตายอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำนี้ ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจว่าความลับที่พูดถึงคืออะไร เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่คือความลับที่คุณพูดถึงเหรอ?”“ถูกต้อง ถึงแกจะไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์” คุณนายไป๋พูดอย่างเย็นชาหัวหน้าใหญ่ไป๋โบกมือไปมา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู พูดจาไร้สาระให้น้อย ๆ หน่อย ตอนนี้
แต่พอลองคิดดูอีกที อีกเดี๋ยวหัวหน้าใหญ่ไป๋ก็จะมาถึงแล้ว เขาจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันที พร้อมกับพูดเสียงดังออกไปว่า “ไอ้หนู กะ แกคิดจะทำอะไร?”เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบออกไปว่า “ไม่ใช่ว่าพวกคุณให้ผมหยุดหรอกเหรอ?”“ใช่ พะ พวกเราสั่งให้แกหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ให้แกเดินเข้ามาสักหน่อย”“......”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมกับพูดอย่างเรียบเฉยออกไปว่า “ผมไม่ว่างมาเสียเวลาอยู่ที่นี่หรอกนะ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปที่รถทันทีเมื่อทั้งสองที่เห็นแบบนั้น พวกเขาก็รู้ว่าจะปล่อยให้จากไปแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะลองเสี่ยงดู ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้า โดยโจมตีเข้าขนาบจากทั้งซ้ายขวาพร้อมกันยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหันมามองเลยด้วยซ้ำในใจพวกเขาก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา คิดว่าตัวเองอาจจะมาถูกทางโดยบังเอิญก็ได้ และอาจจะสามารถสร้างผลงานชิ้นใหญ่ให้กับตัวเองได้ด้วยแต่ไม่นาน พวกเขาก็รู้ว่าตนคิดผิด และมันก็ผิดมหันต์เลยล่ะ เห็นเพียงแค่หมัดของพวกเขาเข้าใกล้อีกฝ่ายเท่านั้น แต่หมัดยังไม่ทันจะโดน ก็รู้สึกถึงพล
ครั้งนี้ ไป๋เถารู้สึกเจ็บใจมากจริง ๆ ทุกคำทุกประโยคที่เขาคิด คือต้องการคิดหาวิธีที่จะลากตระกูลไป๋ลงน้ำและเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋จะต้องตายอย่างแน่นอน นั่นเพราะเขาเพิ่งจะได้รับข่าวที่น่าตกใจมาก ๆ มา เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรที่แท้ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ไป๋เถาที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังนั้น ก็ได้นึกถึงการต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นมา ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะพบว่าตนเองอาจจะคาดการเรื่องทั้งหมดนี้ผิดไปก็ได้ที่อีกฝ่ายรับการป้องกันได้ไม่ใช่เพราะการโจมตีของตนแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะตนยังไม่ทันได้มีเวลาลงมือเลยต่างหากที่สำคัญเลยก็คือ หลังจากที่ตนมาถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เพื่อนจากสถานีตำรวจก็โทรมาหาตำแหน่งของเพื่อนคนนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่เป็นเพราะเขาบังเอิญได้ยินบทสนทนาของสารวัตรเฉินกับหวงลี่ นั่นจึงทำให้เขาได้รู้ความลับที่น่าตกใจอย่างหนึ่งเข้าพูดกันว่าความเป็นมาของเย่เทียนหยู่นั้นน่ากลัวมาก เขาเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรเมื่อได้ยินคำว่าราชามังกรแห่งพรรคมังกร ทันใดนั้นไป๋เถาก็เกิดรู้สึกงงงวยขึ้นมาไม่ว่าไป๋เถาจะคิดยังไง เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตนจะเผลอไปล