ในเวลานี้เอง หลิวเจี๋ยที่ได้รับคำชมจากทุกคนเข้าก็ยิ่งรู้สึกได้ใจมากกว่าเดิม เขาส่งเสียง เหอะ อย่างเย็นชา แล้วพูดออกไป “ทางที่ดีพวกแกควรคุกเข่าลงและขอโทษซะ แล้วก็ออกไปจากที่นี่ ไม่เช่นนั้น ฉันจะทำให้พวกแกต้องเดินออกไปทั้งน้ำตาแทน”“ดี ดีนี่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มอย่างแกเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้กับฉัน”ชายหนุ่มโกรธมาก เขาก้าวไปข้างหน้าและใช้หมัดชกออกไปอย่างแรงในทันทีแค่เห็นความเร็วและความแรงที่หมัดถูกส่งออกไป หัวใจของหลิวเจี๋ยก็สั่นสะท้าน นี่คือยอดฝีมือที่แท้จริง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบอะไร เขาก็ได้เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่หน้าอกเขาถูกโจมตีโดยตรง จนทำให้กระเด็นออกไปหน้าอกของหลิวเจี๋ยบาดเจ็บสาหัสชายหนุ่มไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง และใช้เท้าเหยียบลงไปอย่างแรงอ๊าก!หลิวเจี๋ยส่งเสียงกรีดร้องออกมาทุกคนต่างก็เงียบกันหมด ต่างคนต่างก็ตกใจ และไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยปากพูดออกมาทุกคนคิดว่าหลิวเจี๋ยเป็นคนที่เก่งกาจมาก แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าหลิวเจี๋ยจะถูกอีกฝ่ายที่เป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดา ที่ใช้แค่หมัดเดียว ลูกเตะเดียวก็สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ หลิวเจี
ซาจื่อหาวกลับมาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง และพูดอย่างภาคภูมิใจ “ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจะยุติธรรม นายได้ทำร้ายคนของฉันไปแล้ว ข้อเสนอที่นายให้มามันใช้ชดเชยไม่ได้หรอก”“แต่ก็ไม่ได้ต้องการมากนักหรอก ร้อยล้าน ไม่มากไปหรอกใช่ไหม? ”“ไม่เลยครับ ไม่ได้มากมายอะไรเลยครับ”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินดังนั้น เขาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะเปิดปากเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ แต่ถ้าหากร้อยล้านสามารถแก้ปัญหาวันนี้ได้ ความจริงมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี“ได้ งั้นข้อที่สอง! ”“ยังมีอีกข้อเหรอครับ? ”“ทำไม เรื่องที่เพื่อนนายมาวอแวผู้หญิงของพวกพ้องฉันไม่นับงั้นเหรอ? ” การแสดงออกของซาจื่อหาวเปลี่ยนเป็นเย็นชาและอาฆาตขึ้นในทันที“ไม่ ไม่ใช่ครับ! ” หลิวเจี๋ยพูดอย่างสั่นเทา“งั้นก็ดี เอางี้ ในเมื่อเพื่อนของนายมาวอแวกับผู้หญิงของพวกพ้องของฉัน งั้นก็ทำเหมือนกัน ให้เธอคนนั้นมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เรื่องพวกนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป”ซาจื่อหาวชี้ไปทางหลินหว่านหรูแล้วพูดทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูไม่น่ามองขึ้นมาทันทีการแสดงออกของหลิวเจี๋ยเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เขาจึงรีบพูด
“ทำไม อยากขอร้องแทนเขางั้นเหรอ?”“ได้สิ เธอแค่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป! ”ซาจื่อหาวยิ่งแสดงออกถึงความภาคภูมิใจและความชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้มือขวาบีบใบหน้าของหลินหว่านหรู“ไปให้พ้นนะ! ”หลินหว่านหรูปัดมืออีกฝ่ายออก เดินถอยหลังทีละก้าวไปทางด้านข้าง เธอทั้งกังวลและทำอะไรไม่ถูกหลิวเจี๋ยรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างยกย่องเทิดทูลเขาขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขากลับเหมือนคนที่ไร้ประโยชน์ เขากัดฟันแล้วพูดว่า “พี่หาว ได้โปรดพี่อย่าทำแบบนี้...... ”ซาจื่อหาวตบเขาในทันที พร้อมทั้งสาดคำด่า “หุบปากซะ แกไสหัวไปอยู่ด้านข้างนู่นไป ขืนยังพูดพล่ามอยู่อีก ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ! ”หลิวเจี๋ยเอามือกุมแก้มที่เจ็บปวดของเขา และไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรอีก“เหอะ คิดว่าแกจะแน่กว่านี้ซะอีก สุดท้ายก็เป็นแค่ขยะ ขี้ขลาด”ซาจื่อหาวกล่าวสีหน้าดูถูกสีหน้าของหลิวเจี๋ยแทบจะดูไม่ได้ พอมองไปทางผู้คนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เขารู้สึกทรมานราวกับว่าเขากำลังกินขี้สุนัขสีหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความกังวลใจและความสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในเวลานี้เธอกลับนึกถึงเย่เทียนหยู่ขึ้นมาไ
บ้าเอ๊ย!แม้แต่คำพูดอวดดีแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น หลินหว่านหรูเองก็แทบจะหลั่งน้ำตาอยู่แล้วเป็นอย่างที่คิดไว้ตริง ๆ คำพูดเหล่านี้ทำให้ซาจื่อหาวที่กำลังเล่นตลกกับคนดูอยู่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก เขาพูดด้วยท่าทางที่น่ากลัว “เจ้าหนู นี่แกกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ”“พอไปถึงยมโลกแล้ว ก็อย่ามาโทษว่าฉันโหดร้ายก็แล้วกัน”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งคราวนี้ ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ลงมือหนักกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการมุ่งหวังทำร้ายโดยตรง จนอาจจะสามารถเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้จริง ๆแต่ว่า ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่า อีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าเมื่อหลิวเจี๋ยและคนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาต่างก็แอบส่ายหัวเด็กคนนี้จบเห่แล้ว ช่างเป็นคนที่ไม่รู้ภาษีภาษาจริง ๆ หากเขาจะโดน ก็สมควรแล้วล่ะแต่ในดวงตาของหลินหว่านหรูก็ยังคงมีความหวังอยู่ เธอก็จ้องมองไปยังสถาณการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาเพราะเธอรู้ว่าเย่เทียนหยู่เก่งศิลปะการต่อสู้มาก แต่เมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ผั๊วะ!ซาจื่อหาวพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ถูกกระแทกกลับด้วยแรงที่เร็วกว่
“เดิมฉันก็ไม่ได้ขอให้มาช่วยอยู่แล้วหนิ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“นาย นายนี่มันเนรคุณจริง ๆ! ”ซูถิงกล่าวด้วยความโมโห“ไปให้พ้น! ”เย่เทียนหยู่รู้สึกรำคาญนิดหน่อย“เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง! ”ในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะพูดบางอย่างออกมาเธอรู้สึกประทับใจมากที่เย่เทียนหยู่สามารถออกหน้าช่วยเธอไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความพยายามของหลิวเจี๋ยเช่นกัน ยิ่งไม่ควรตำหนิซูถิง ทั้งที่ซูถิงพยายามอุทิศตนเพื่อช่วยเธอด้วย“สิ่งที่ฉันพูดคือความจริงทั้งนั้น! ” เย่เทียนหยู่กล่าว“ได้ ต่อให้สิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ซูถิงก็ไม่ผิด ถ้านายยังจะลงมือกับเขาให้ได้ พวกเราทุกคนก็จะพลอยติดร่างแหไปกับนายด้วย”หลินหว่านหรูไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเย่เทียนหยู่ แต่เธอไม่ต้องการที่จะโต้แย้งกับเขาที่นี่“ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่ นายรู้ไหมว่าตัวตนของพี่ห่าวมีการดำรงอยู่แบบไหน เขาคือจุดสูงสุดสำหรับคนรุ่นใหม่ นายจะลงมือกับเขาไม่ได้” หลิวเจี๋ยเองก็ลุกมายืนข้างหน้าซาจื่อหาวเพื่อขวางทางเอาไว้ ราวกับว่ากำลังปกป้องอีกฝ่ายอยู่“นั่นสิ เย่เทียนยู่ นา
หลิวเจี๋ยรู้สึกหวาดกลัวมาก เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และเรียกเบา ๆ “พี่หาวครับ พี่หาว......”ในไม่ช้า เขาก็พบว่าซาจื่อหาวยังไม่ตาย แต่อาจจะได้รับบาดเจ็บภายใน และพูดขึ้นทันที “เรียกรถพยาบาลเร็วเข้า”เมื่อบอดี้การ์ดได้ยินดังนั้น ก็รีบจัดการทันทีจากนั้นหลิวเจี๋ยก็มองไปที่เย่เทียนหยู่ และแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจเจ้าเด็กนี่ ครั้งนี้ได้จบเห่แล้วจริง ๆ แน่นอนแค่หวังว่า จะไม่ทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วยก็พอ ยังไงซะ เรื่องนี้ก็ถือว่าตัวเองก็เป็นต้นเหตุแต่ตอนนี้พี่หาวก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมากแล้ว บวกกับตอนหลังเขาเองก็ได้ช่วยพี่หาวเอาไว้ น่าจะไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือนร้อนอะไรมากนักจบเห่แล้ว!จบสิ้นแล้วจริง ๆ!ในเวลานี้เอง สีหน้าของหลินหว่านหรูซีดลง เธอทรุดตัวลงบนเก้าอี้ทันทีเมื่อก่อนทุกครั้งที่ต้องเจอกับปัญหามากมายครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งบางครั้งอาจก็เคยเจอสถานการณ์ที่คล้ายกันกับครั้งนี้เลยด้วยซ้ำแต่ครั้งนี้แตกต่างกันออกไป ผลที่ตามมากลับร้ายแรงเกินกว่าที่คิดเอาไว้มีเพียงเย่เทียนหยู่เท่านั้นที่ดูสงบนิ่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก กระทั
“จะว่าไปแล้ว ยอดฝีมือของพวกเขายังไม่ทันได้มีใครลงมือเลยด้วยซ้ำ ทักษะกังฟูแค่นี้ของนาย เมื่อเทียบกับยอดฝีมืออาวุโสพวกนั้นแล้ว ก็ไม่มีค่าให้เอ่ยถึงหรอก”นี่คือความคิดที่แท้จริงของหลินหว่านหรู เธอเคยโชคดีที่ได้เห็นยอดฝีมือของสมาคมมังกรดำลงมือ พวกเขาสามารถผ่าก้อนหินได้ด้วยมือเปล่าจริง ๆมันน่ากลัวมาก เทียบกับความเก่งกาจของเย่เทียนหยู่ในตอนนี้ มีมากกว่าสิบเท่าเสียอีกทุกคนต่างก็พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นด้วยกับคำพูดของหลินหว่านหรูแต่หลิวเจี๋ยกลับไม่เต็มใจ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น “เย่เทียนหยู่ แกสู้ไม่ไหวหรอก รีบหนีไปเถอะ แต่ถ้าแกหนีไป หว่านหรูก็จะเดือดร้อนแทน ตระกูลหลินก็จะเดือดร้อนยิ่งกว่าอีก เกรงว่ายังไงซะตอนนี้พวกเราก็ถูกแกดึงเข้ามาเอี่ยวกันหมดแล้ว”“ใช่ ใช่ เย่เทียนหยู่จะไปไม่ได้ เขาไปแล้วพวกเราจะทำยังไง” ซูถิงพูดขึ้นทันทีหลินหว่านหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดว่า “เหิงซากรุ๊ปเก่งกาจมาก แต่ก็คงจะพอมีเหตุผลอยู่บ้าง พอพูดถึงผลสรุปสุดท้ายแล้ว ทุกคนก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรมากมาย คงไม่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนหรอก”“ถ้าพวกเขาต้องการจะหาเรื่องจริง ๆ ฉันจะแบกมันไว้คนเดียว! ”แม้ว
เมื่อกี้ตอนที่ซูถิงได้ยินสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูด เธอคิดว่ามันเป็นเพียงคำพูดลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้น แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนั้นอีกแต่พอเป็นตอนนี้ ความรู้สึกที่ไม่อาจจินตนาการได้กลับพุ่งเข้ามาครอบงำเธอในทันที“หว่านหรู ฉันจะลงไปข้างล่างหน่อยนะ”ซูถิงพูดอะไรบางอย่างกับหลินหว่านหรู แล้วรีบวิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว เธอต้องการไปถามนายกเทศมนตรีหวงโดยตรง ว่าเขารู้จักเย่เทียนหยู่หรือเปล่าหลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอนึกว่าซูถิงต้องการที่จะไปหาเย่เทียนหยู่แต่ไม่ทันที่จะรังเธอเอาไว้ได้ ซูถิงก็ได้วิ่งไปแล้ว งั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะ ยังไงซะ ตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซูถิงจะหยุดเย่เทียนหยู่เอาไว้ได้ซูถิงวิ่งเร็วมาก ไม่นานก็มาถึงประตูทางเข้าเธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหานายกเทศมนตรีหวงทันใดนั้น หัวใจของเธอก็รู้สึกสั่นสะท้าน สายตาของเธอก็ได้จับจ้องไปยังทิศทางทิศทางหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ตัวเธอแข็งทื่อข้างหน้าของเธอ คือท่านผู้นำหยาง นายกเทศมนตรีหวงและเย่เทียนหยู่กำลังยืนอยู่ด้วยกันสิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากที่สุดก็คือ ทั้งสองคนดูเกรงใจเย่เทียนหยู่มาก ท่านผู้นำหยางยังเป็นคนเ