ซาจื่อหาวกลับมาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง และพูดอย่างภาคภูมิใจ “ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจะยุติธรรม นายได้ทำร้ายคนของฉันไปแล้ว ข้อเสนอที่นายให้มามันใช้ชดเชยไม่ได้หรอก”“แต่ก็ไม่ได้ต้องการมากนักหรอก ร้อยล้าน ไม่มากไปหรอกใช่ไหม? ”“ไม่เลยครับ ไม่ได้มากมายอะไรเลยครับ”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินดังนั้น เขาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะเปิดปากเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ แต่ถ้าหากร้อยล้านสามารถแก้ปัญหาวันนี้ได้ ความจริงมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี“ได้ งั้นข้อที่สอง! ”“ยังมีอีกข้อเหรอครับ? ”“ทำไม เรื่องที่เพื่อนนายมาวอแวผู้หญิงของพวกพ้องฉันไม่นับงั้นเหรอ? ” การแสดงออกของซาจื่อหาวเปลี่ยนเป็นเย็นชาและอาฆาตขึ้นในทันที“ไม่ ไม่ใช่ครับ! ” หลิวเจี๋ยพูดอย่างสั่นเทา“งั้นก็ดี เอางี้ ในเมื่อเพื่อนของนายมาวอแวกับผู้หญิงของพวกพ้องของฉัน งั้นก็ทำเหมือนกัน ให้เธอคนนั้นมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เรื่องพวกนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป”ซาจื่อหาวชี้ไปทางหลินหว่านหรูแล้วพูดทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูไม่น่ามองขึ้นมาทันทีการแสดงออกของหลิวเจี๋ยเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เขาจึงรีบพูด
“ทำไม อยากขอร้องแทนเขางั้นเหรอ?”“ได้สิ เธอแค่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป! ”ซาจื่อหาวยิ่งแสดงออกถึงความภาคภูมิใจและความชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้มือขวาบีบใบหน้าของหลินหว่านหรู“ไปให้พ้นนะ! ”หลินหว่านหรูปัดมืออีกฝ่ายออก เดินถอยหลังทีละก้าวไปทางด้านข้าง เธอทั้งกังวลและทำอะไรไม่ถูกหลิวเจี๋ยรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างยกย่องเทิดทูลเขาขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขากลับเหมือนคนที่ไร้ประโยชน์ เขากัดฟันแล้วพูดว่า “พี่หาว ได้โปรดพี่อย่าทำแบบนี้...... ”ซาจื่อหาวตบเขาในทันที พร้อมทั้งสาดคำด่า “หุบปากซะ แกไสหัวไปอยู่ด้านข้างนู่นไป ขืนยังพูดพล่ามอยู่อีก ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ! ”หลิวเจี๋ยเอามือกุมแก้มที่เจ็บปวดของเขา และไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรอีก“เหอะ คิดว่าแกจะแน่กว่านี้ซะอีก สุดท้ายก็เป็นแค่ขยะ ขี้ขลาด”ซาจื่อหาวกล่าวสีหน้าดูถูกสีหน้าของหลิวเจี๋ยแทบจะดูไม่ได้ พอมองไปทางผู้คนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เขารู้สึกทรมานราวกับว่าเขากำลังกินขี้สุนัขสีหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความกังวลใจและความสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในเวลานี้เธอกลับนึกถึงเย่เทียนหยู่ขึ้นมาไ
บ้าเอ๊ย!แม้แต่คำพูดอวดดีแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น หลินหว่านหรูเองก็แทบจะหลั่งน้ำตาอยู่แล้วเป็นอย่างที่คิดไว้ตริง ๆ คำพูดเหล่านี้ทำให้ซาจื่อหาวที่กำลังเล่นตลกกับคนดูอยู่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก เขาพูดด้วยท่าทางที่น่ากลัว “เจ้าหนู นี่แกกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ”“พอไปถึงยมโลกแล้ว ก็อย่ามาโทษว่าฉันโหดร้ายก็แล้วกัน”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งคราวนี้ ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ลงมือหนักกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการมุ่งหวังทำร้ายโดยตรง จนอาจจะสามารถเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้จริง ๆแต่ว่า ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่า อีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าเมื่อหลิวเจี๋ยและคนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาต่างก็แอบส่ายหัวเด็กคนนี้จบเห่แล้ว ช่างเป็นคนที่ไม่รู้ภาษีภาษาจริง ๆ หากเขาจะโดน ก็สมควรแล้วล่ะแต่ในดวงตาของหลินหว่านหรูก็ยังคงมีความหวังอยู่ เธอก็จ้องมองไปยังสถาณการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาเพราะเธอรู้ว่าเย่เทียนหยู่เก่งศิลปะการต่อสู้มาก แต่เมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ผั๊วะ!ซาจื่อหาวพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ถูกกระแทกกลับด้วยแรงที่เร็วกว่
“เดิมฉันก็ไม่ได้ขอให้มาช่วยอยู่แล้วหนิ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“นาย นายนี่มันเนรคุณจริง ๆ! ”ซูถิงกล่าวด้วยความโมโห“ไปให้พ้น! ”เย่เทียนหยู่รู้สึกรำคาญนิดหน่อย“เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง! ”ในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะพูดบางอย่างออกมาเธอรู้สึกประทับใจมากที่เย่เทียนหยู่สามารถออกหน้าช่วยเธอไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความพยายามของหลิวเจี๋ยเช่นกัน ยิ่งไม่ควรตำหนิซูถิง ทั้งที่ซูถิงพยายามอุทิศตนเพื่อช่วยเธอด้วย“สิ่งที่ฉันพูดคือความจริงทั้งนั้น! ” เย่เทียนหยู่กล่าว“ได้ ต่อให้สิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ซูถิงก็ไม่ผิด ถ้านายยังจะลงมือกับเขาให้ได้ พวกเราทุกคนก็จะพลอยติดร่างแหไปกับนายด้วย”หลินหว่านหรูไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเย่เทียนหยู่ แต่เธอไม่ต้องการที่จะโต้แย้งกับเขาที่นี่“ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่ นายรู้ไหมว่าตัวตนของพี่ห่าวมีการดำรงอยู่แบบไหน เขาคือจุดสูงสุดสำหรับคนรุ่นใหม่ นายจะลงมือกับเขาไม่ได้” หลิวเจี๋ยเองก็ลุกมายืนข้างหน้าซาจื่อหาวเพื่อขวางทางเอาไว้ ราวกับว่ากำลังปกป้องอีกฝ่ายอยู่“นั่นสิ เย่เทียนยู่ นา
หลิวเจี๋ยรู้สึกหวาดกลัวมาก เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และเรียกเบา ๆ “พี่หาวครับ พี่หาว......”ในไม่ช้า เขาก็พบว่าซาจื่อหาวยังไม่ตาย แต่อาจจะได้รับบาดเจ็บภายใน และพูดขึ้นทันที “เรียกรถพยาบาลเร็วเข้า”เมื่อบอดี้การ์ดได้ยินดังนั้น ก็รีบจัดการทันทีจากนั้นหลิวเจี๋ยก็มองไปที่เย่เทียนหยู่ และแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจเจ้าเด็กนี่ ครั้งนี้ได้จบเห่แล้วจริง ๆ แน่นอนแค่หวังว่า จะไม่ทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วยก็พอ ยังไงซะ เรื่องนี้ก็ถือว่าตัวเองก็เป็นต้นเหตุแต่ตอนนี้พี่หาวก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมากแล้ว บวกกับตอนหลังเขาเองก็ได้ช่วยพี่หาวเอาไว้ น่าจะไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือนร้อนอะไรมากนักจบเห่แล้ว!จบสิ้นแล้วจริง ๆ!ในเวลานี้เอง สีหน้าของหลินหว่านหรูซีดลง เธอทรุดตัวลงบนเก้าอี้ทันทีเมื่อก่อนทุกครั้งที่ต้องเจอกับปัญหามากมายครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งบางครั้งอาจก็เคยเจอสถานการณ์ที่คล้ายกันกับครั้งนี้เลยด้วยซ้ำแต่ครั้งนี้แตกต่างกันออกไป ผลที่ตามมากลับร้ายแรงเกินกว่าที่คิดเอาไว้มีเพียงเย่เทียนหยู่เท่านั้นที่ดูสงบนิ่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก กระทั
“จะว่าไปแล้ว ยอดฝีมือของพวกเขายังไม่ทันได้มีใครลงมือเลยด้วยซ้ำ ทักษะกังฟูแค่นี้ของนาย เมื่อเทียบกับยอดฝีมืออาวุโสพวกนั้นแล้ว ก็ไม่มีค่าให้เอ่ยถึงหรอก”นี่คือความคิดที่แท้จริงของหลินหว่านหรู เธอเคยโชคดีที่ได้เห็นยอดฝีมือของสมาคมมังกรดำลงมือ พวกเขาสามารถผ่าก้อนหินได้ด้วยมือเปล่าจริง ๆมันน่ากลัวมาก เทียบกับความเก่งกาจของเย่เทียนหยู่ในตอนนี้ มีมากกว่าสิบเท่าเสียอีกทุกคนต่างก็พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นด้วยกับคำพูดของหลินหว่านหรูแต่หลิวเจี๋ยกลับไม่เต็มใจ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น “เย่เทียนหยู่ แกสู้ไม่ไหวหรอก รีบหนีไปเถอะ แต่ถ้าแกหนีไป หว่านหรูก็จะเดือดร้อนแทน ตระกูลหลินก็จะเดือดร้อนยิ่งกว่าอีก เกรงว่ายังไงซะตอนนี้พวกเราก็ถูกแกดึงเข้ามาเอี่ยวกันหมดแล้ว”“ใช่ ใช่ เย่เทียนหยู่จะไปไม่ได้ เขาไปแล้วพวกเราจะทำยังไง” ซูถิงพูดขึ้นทันทีหลินหว่านหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดว่า “เหิงซากรุ๊ปเก่งกาจมาก แต่ก็คงจะพอมีเหตุผลอยู่บ้าง พอพูดถึงผลสรุปสุดท้ายแล้ว ทุกคนก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรมากมาย คงไม่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนหรอก”“ถ้าพวกเขาต้องการจะหาเรื่องจริง ๆ ฉันจะแบกมันไว้คนเดียว! ”แม้ว
เมื่อกี้ตอนที่ซูถิงได้ยินสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูด เธอคิดว่ามันเป็นเพียงคำพูดลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้น แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนั้นอีกแต่พอเป็นตอนนี้ ความรู้สึกที่ไม่อาจจินตนาการได้กลับพุ่งเข้ามาครอบงำเธอในทันที“หว่านหรู ฉันจะลงไปข้างล่างหน่อยนะ”ซูถิงพูดอะไรบางอย่างกับหลินหว่านหรู แล้วรีบวิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว เธอต้องการไปถามนายกเทศมนตรีหวงโดยตรง ว่าเขารู้จักเย่เทียนหยู่หรือเปล่าหลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอนึกว่าซูถิงต้องการที่จะไปหาเย่เทียนหยู่แต่ไม่ทันที่จะรังเธอเอาไว้ได้ ซูถิงก็ได้วิ่งไปแล้ว งั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะ ยังไงซะ ตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซูถิงจะหยุดเย่เทียนหยู่เอาไว้ได้ซูถิงวิ่งเร็วมาก ไม่นานก็มาถึงประตูทางเข้าเธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหานายกเทศมนตรีหวงทันใดนั้น หัวใจของเธอก็รู้สึกสั่นสะท้าน สายตาของเธอก็ได้จับจ้องไปยังทิศทางทิศทางหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ตัวเธอแข็งทื่อข้างหน้าของเธอ คือท่านผู้นำหยาง นายกเทศมนตรีหวงและเย่เทียนหยู่กำลังยืนอยู่ด้วยกันสิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากที่สุดก็คือ ทั้งสองคนดูเกรงใจเย่เทียนหยู่มาก ท่านผู้นำหยางยังเป็นคนเ
ท่าทีของพวกเขาแสดงออกราวกับว่าไม่มีทางเลือก แม้แต่จะพูดขอร้องยังไม่กล้าแค่ล้อเล่นน่ะ ลงมือกับซาจื่อหาวจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอดขนาดนั้น หากยังวิ่งไปขอร้องพวกเขาอีก นั่นไม่ใช่ยิ่งเป็นการหาเรื่องใส่ตัวรึไงตอนนี้ซูถิงไม่อยากให้หลินหว่านหรูต้องมาชดใช้แทนเย่เทียนหยู่มากมายขนาดนั้น เธอจึงพูดว่า “หว่านหรู เย่เทียนหยู่เป็นสามีที่ถูกต้องในนามของเธอก็จริง แต่เธอเองก็ทำอะไรมามากมายแล้วเหมือนกัน เธอทำเต็มที่ที่สุดแล้ว”“ส่วนที่เหลือ ก็ปล่อยให้เขาได้รับชะตากรรมตัวเองเถอะ”ซูถิงเองก็อยากรู้ว่าถ้าหากไม่มีหลินหว่านหรู เย่เทียนหยู่จะสามารถเปลี่ยนวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นความปลอดภัยด้วยตัวเองได้หรือไม่ ถ้าหากครั้งนี้ยังผ่านไปได้อีก งั้นสิ่งที่ตัวเธอเองเดาไว้ก็ไม่ผิดพอถึงตอนนั้น เธอจะต้องคิดให้ดี ๆ ว่าจะทำยังไงเพื่อที่จะให้เย่เทียนหยู่เปลี่ยนมาสนใจเธอเป็นเรื่องจริงที่เมื่อก่อนเธอมักจะเคยพูดในสิ่งที่ไม่น่าฟังออกมามากมาย ไม่แน่เธออาจจะอยู่อันดับต้น ๆ ในบัญชีดำของเย่เทียนหยู่เลยก็ได้ขณะเดียวกันนี้เอง เธอก็รู้สึกเสียใจมากจนแทบอยากจะตาย เมื่อก่อนทำไมเธอจะต้องไปขวางหน้าเย่เทียนหยู่ไม่ให้เขาลงมือให้ได้ครั้ง
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้
“ฉัน…”จูเก่อหลิวหลีเกือบจะหลุเบอกความจริง แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านผู้หญิง ที่ว่าห้ามให้เย่เทียนหยู่รู้เกี่ยวกับการเข้าพักของท่านผู้หญิงในเมืองเทียนไห่เด็ดขาดเธอไม่สนใจอะไรอีกต่อไปและพูดว่า “คุณไม่เชื่อฉันก็หมดหนทางจะพูด อยากทำอะไรก็ทำเถอะ”“พูดจริงเหรอ ถึงผมจะไม่ชอบคุณ แต่ด้วยความสวยของคุณ คนรอบตัวผม…”“กล้าเหรอ!”จูเก่อหลิวหลีรู้สึกอับอาย แต่เสียใจมากกว่า เธอขัดจังหวะและพูดด้วยความโกรธ “ถ้าคุณกล้าทำแบบนั้น ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่ ต่อให้ฉันต้องตายไปเป็นผีก็ตาม!”ขณะที่เธอพูดน้ำตาของเธอก็ไหลไม่หยุดคราวนี้ ทำเอาเย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนโดยเฉพาะตอนที่เห็นอีกฝ่ายทั้งเสียใจและโกรธมากจนน่าสงสาร เขาก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนเป็นคนเลวทรามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าสงสารเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าเขาน่าสงสารเพียงใด เย่เทียนหยู่ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวใด ๆ ได้และพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ถ้าคุณไม่พูดก็ช่างมันเถอะ แต่ในเมื่อคุณเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ตอนนี้คุณคงยอมปล่อยเรื่องนี้ไปได้แล้วใช่มั้ย”ถึงยังไงมันไม่ก่ออันตรายใด ๆ กับเขา หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข และเขาไม่ตามเอาความทุกอย่างก็จบจ
จูเก่อหลิวหลีตกใจมาก นายน้อยคนนี้เก่งเชื่อมโยงเกินไปแล้ว อุตส่าห์เดาถูกเสียหมด แต่เธอรีบตอบทันทีว่า “เธอเป็นแค่หุ้นส่วนของฉัน คุณคงไม่คิดว่าเธอเป็นแม่ของคุณหรอกนะคะ”“คุณคิดมากไป ถ้าเธอเป็นแม่ของคุณจริง ๆ เธอคงออกมาพบคุณนานแล้ว”“ก็ใช่นะ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าเห็นด้วย แต่เขาก็พูดต่อทันที “แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นหรอก ตามที่คุณพูด แม่ของผมยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่มาเจอผมด้วยตัวเองเลย บางทีเธออาจมีเหตุผลบางอย่าง”“…”จูเก่อหลิวหลียิ้มอย่างขมขื่น นายน้อยคนนี้สมองเร็วเสียจรงิ “ถ้าคุณอยากจะคิดแบบนั้นก็ตามใจ” เธอตอบอย่างเป็นหลาง“เอาล่ะ ถ้างั้น ผมขอถามคุณ ว่าตอนนี้แม่ของผมเป็นยังไงบ้าง”“ไม่ต้องห่วง เธอสบายดี เธอแค่ยุ่งอยู่กับเรื่องใหญ่ เมื่อเสร็จแล้ว เธอจะมาที่เมืองเทียนไห่เพื่อตามหาคุณเอง”“จริงเหรอ” เย่เทียนหยู่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีข่าวเกี่ยวกับแม่ของเขา ตอนนี้เขารู้ว่าเธอปลอดภัย เขาก็ย่อมมีความสุข“จริงแท้แน่นอนค่ะ”“คุณคือคนที่คอยจัดการให้ผมหย่ากับหลินหว่านหรูแล้วแต่งงานกับหยางเฉียนเฉียนเหรอ” เย่เทียนหยู่ถาม“ถูกต้อง!”จูเก่อหลิวหลียืนยัน“เพร
“ถ้าคุณจูเก่อชอบก็ทำตามที่ชอบเถอะครับ!” เย่เทียนหยู่กล่าวเสียงเรียบจูเก่อหลิวหลีเริ่มโกรธเล็กน้อยและพูดว่า “คุณเย่ คุณต้องการอะไร”“บอกผมมา ผู้หญิงที่อยู่กับคุณคือใคร ทำไมคุณถึงไม่อยากให้ฉันอยู่กับ หลินหว่านหรูและอยากให้ฉันแต่งงานกับหยางเฉียนเฉียน” เย่เทียนหยู่กล่าว“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!”“ดูเหมือนว่าคุณจะหลั่งน้ำตาไม่ได้จริง ๆ จนกว่าคุณจะเห็นโลงศพ” เย่เทียนหยู่รู้สึกหงุดหงิด ลุกขึ้นยืนตรง ก้าวไปข้างหน้า และจู่ๆ ก็ดึงจูเก่อหลิวหลีตรงหน้าเขาจูเก่อหลิวหลีสะดุ้ง และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย“คุณ คุณจะทำอะไร”“ทำอะไรเหรอ คุณคิดว่าผู้ชายจะทำยังไง เวลาเผชิญหน้ากับผู้หญิงสวยแบบคุณน่ะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างจงใจแต่เมื่อเขาหรี่ตาลง เขาเห็นจูเก่อหลิวหลีสีขาวจาง ๆ ซึ่งสูงและสมบูรณ์แบบมากจนแทบจะกระโดดออกจากผ้าเช็ดตัวผิวโดยรอบเป็นสีขาวพราว และดวงตากลมโตที่สดใสเหล่านั้นปรากฏให้เห็นอารมณ์แสนซับซ้อน รวมถึงความเขินอาย ความกังวลใจ และแม้แต่ความหลงใหลเย่เทียนหยู่ไม่สามารถจัดการมันได้ในทันทีทั้งที่ถูกเขารุกขนาดนี้แล้ว แต่เธอยังมองเขาด้วยสายตาร้อนแรงแบบนั้นหมายความว่ายังไงจู
เธอพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ค่ะ ท่านผู้หญิง ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้อีกแม้แต่คำเดียว”“ลองดูสถานการณ์ก่อนเถอะ”“พวกเขาไม่ใช่ศัตรู เธอสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง คำขอเดียวคืออย่าให้เขารู้ว่าฉันอยู่ในเมืองเทียนไห่”อีกฝ่ายทิ้งคำพูดไว้ แล้วรีบเก็บข้าวของพอประมาณ ก่อนจะออกจากโรงแรมไปพร้อมกับคนของเธอเธอเดินเร็วมากและไม่แม้แต่จะใช้ลิฟต์ แต่เลือกใช้บันไดเพื่อเลี่ยงกล่องวงจรปิดทั้งหมด และเดินย่างไร้เสียงทันทีที่เธอออกจากรถ รถของเย่เทียนหยู่ก็เข้ามาใกล้ เขาได้สอบถามและรู้ว่าจูเก่อหลิวหลีอาศัยอยู่ในห้องไหน เขาจึงเดินเข้าไปเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของจูเก่อหลิวหลีเขาก็เคาะเบา ๆจูเก่อหลิวหลีเปิดประตูเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะในเวลานี้ จูเก่อหลิวหลีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และเธอยังสวมเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ ขาของเธอเรียวยาว ใบหน้างดงามราวดอกบัวที่เพิ่งบานทำให้หัวใจของคนที่เห็นเต้นผิดจังหวะผิวพรรณที่เผยออกมาเล็กน้อยของเธอขาวโดดเด่น ทำให้ใครเห็นก็ไม่อาจกระพริบตา“คุณเย่เหรอคะ” จูเก่อหลิวหลีพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ“ผมเอง คุณจูเก่อจะนอนแล้วเหรอ”“ใช่ คุณเย่ เจอที่นี่ได้ยังไ