“เมื่อวาน ขอบคุณคุณมากจริง ๆ วันนี้แม่ของผมอยากจะมาขอบคุณคุณด้วยตัวเอง แต่เป็นเพราะร่างกายของเธอยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”“สรุปคือ คำพูดมากมายอยู่ในแก้วใบนี้แล้ว ผมดื่มหมดแก้วก่อน”พูดจบก็ดื่มจนหมด“นายกเทศมนตรีหวงเกรงใจเกินไปแล้ว”เย่เทียนหยู่ดื่มเหล้าในแก้วหมดก็ยิ้มพูด: “ร่างกายของคุณหญิง อยากให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้ก็ไม่ยาก เดี๋ยวผมจะจ่ายยาให้สองสามชุด ทานหนึ่งสัปดาห์ ต้องฟื้นฟูกลับมาปกติได้แน่นอน”“จริงเหรอครับ ดีมากเลยจริง ๆ ขอบคุณแพทย์เซียนเย่ ผมชนคุณอีกแก้ว”หวงหงเจี้ยนใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ เพียงแค่เรื่องนี้ อาหารมื้อนี้ไม่สูญเปล่าพูดจบก็มองไปทางภรรยาและลูกทันทีคุณแม่ตระกูลหวง ถึงแม้เก้กัง แต่ก็ยังยกแก้วขึ้นพูด: “แพทย์เซียนเย่ เมื่อวานล่วงเกินคุณอย่างมาก เป็นฉันผู้หญิงอายุอายุเยอะคนนี้ไม่รู้ความ คุณอย่าถือสา วันนี้เหล้าแก้วนี้ ฉันดื่มแสดงความเคารพคุณ ขอโทษคุณ”“ไม่เป็นไร ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป”เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้ทำให้ลำบากใจ ในเมื่อหวงหงเจี้ยนแสดงออกได้ดีมาก ๆ เพียงแค่การกระทำเมื่อวานนี้ คนทั่วไปทำไม่ได้ด้วยซ้ำหวงโหย่วเหวยก็รีบดื่มแสดงความเคารพและขอโทษจากนั้นห
ซูถิงก็สังเกตเห็นภาพนี้แล้ว มองดูพวกเขาพุ่งเข้าไป ก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องอะไร อาจเป็นอันธพาลคนเมื่อครู่ที่ถูกนายน้อยหลิวจัดการแล้วหาคนมาช่วยแต่เธอเชื่อว่า มีนายน้อยหลิวอยู่ อีกฝ่ายแน่แค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ดังนั้นเธอพูดขึ้นทันที: “หว่านหรูมีปัญหาแล้ว ฉันเข้าไปก่อน เย่เทียนหยู่ ถ้านายมีความสามารถจริง ๆ ก็อย่าหนี เข้ามาดูว่าช่วยเหลือได้ไหม”พูดคำนี้จบ ตัวเธอก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็วเย่เทียนหยู่หยุดฝีเท้าลงอย่างจนปัญญา ไม่ใช่เป็นเพราะคำพูดของซูถิง แต่กลัวว่าคนเหล่านี้จัดการอีกฝ่ายไม่ได้ ทำร้ายภรรยาของตัวเองจะไม่ดีโกรธหลินหว่านก็ส่วนโกรธ แต่เพียงแค่เห็นเธอเชื่อมั่นหลิวเจี๋ยไอ้ตัวหายนะคนนี้ขนาดนี้ จึงโมโหเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำตอนนี้ในห้องส่วนตัว แต่ละคนกำลังต่างคุยโวเกี่ยวกับความเผด็จการของหลิวเจี๋ยนี่ทำให้หลิวเจี๋ยลำพองใจอย่างมากที่แท้เมื่อครู่นี้ หยูเว่ยในกลุ่มของพวกเขา และก็เป็นคนคนนั้นที่ครั้งที่แล้วถูกไล่ออกจากงานเลี้ยงเพราะเย่เทียนหยู่ตอนที่เข้าห้องน้ำเห็นคนสวยคนหนึ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะลงไม้ลงมือ ทำให้แฟนหนุ่มของอีกฝ่ายโมโห กระทืบเขายกหนึ่งในตอนนี้นายน้อยห
ในเวลานี้เอง หลิวเจี๋ยที่ได้รับคำชมจากทุกคนเข้าก็ยิ่งรู้สึกได้ใจมากกว่าเดิม เขาส่งเสียง เหอะ อย่างเย็นชา แล้วพูดออกไป “ทางที่ดีพวกแกควรคุกเข่าลงและขอโทษซะ แล้วก็ออกไปจากที่นี่ ไม่เช่นนั้น ฉันจะทำให้พวกแกต้องเดินออกไปทั้งน้ำตาแทน”“ดี ดีนี่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มอย่างแกเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้กับฉัน”ชายหนุ่มโกรธมาก เขาก้าวไปข้างหน้าและใช้หมัดชกออกไปอย่างแรงในทันทีแค่เห็นความเร็วและความแรงที่หมัดถูกส่งออกไป หัวใจของหลิวเจี๋ยก็สั่นสะท้าน นี่คือยอดฝีมือที่แท้จริง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบอะไร เขาก็ได้เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่หน้าอกเขาถูกโจมตีโดยตรง จนทำให้กระเด็นออกไปหน้าอกของหลิวเจี๋ยบาดเจ็บสาหัสชายหนุ่มไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง และใช้เท้าเหยียบลงไปอย่างแรงอ๊าก!หลิวเจี๋ยส่งเสียงกรีดร้องออกมาทุกคนต่างก็เงียบกันหมด ต่างคนต่างก็ตกใจ และไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยปากพูดออกมาทุกคนคิดว่าหลิวเจี๋ยเป็นคนที่เก่งกาจมาก แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าหลิวเจี๋ยจะถูกอีกฝ่ายที่เป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดา ที่ใช้แค่หมัดเดียว ลูกเตะเดียวก็สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ หลิวเจี
ซาจื่อหาวกลับมาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง และพูดอย่างภาคภูมิใจ “ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจะยุติธรรม นายได้ทำร้ายคนของฉันไปแล้ว ข้อเสนอที่นายให้มามันใช้ชดเชยไม่ได้หรอก”“แต่ก็ไม่ได้ต้องการมากนักหรอก ร้อยล้าน ไม่มากไปหรอกใช่ไหม? ”“ไม่เลยครับ ไม่ได้มากมายอะไรเลยครับ”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินดังนั้น เขาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะเปิดปากเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ แต่ถ้าหากร้อยล้านสามารถแก้ปัญหาวันนี้ได้ ความจริงมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี“ได้ งั้นข้อที่สอง! ”“ยังมีอีกข้อเหรอครับ? ”“ทำไม เรื่องที่เพื่อนนายมาวอแวผู้หญิงของพวกพ้องฉันไม่นับงั้นเหรอ? ” การแสดงออกของซาจื่อหาวเปลี่ยนเป็นเย็นชาและอาฆาตขึ้นในทันที“ไม่ ไม่ใช่ครับ! ” หลิวเจี๋ยพูดอย่างสั่นเทา“งั้นก็ดี เอางี้ ในเมื่อเพื่อนของนายมาวอแวกับผู้หญิงของพวกพ้องของฉัน งั้นก็ทำเหมือนกัน ให้เธอคนนั้นมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เรื่องพวกนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป”ซาจื่อหาวชี้ไปทางหลินหว่านหรูแล้วพูดทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูไม่น่ามองขึ้นมาทันทีการแสดงออกของหลิวเจี๋ยเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เขาจึงรีบพูด
“ทำไม อยากขอร้องแทนเขางั้นเหรอ?”“ได้สิ เธอแค่มาอยู่เป็นเพื่อนฉัน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป! ”ซาจื่อหาวยิ่งแสดงออกถึงความภาคภูมิใจและความชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้มือขวาบีบใบหน้าของหลินหว่านหรู“ไปให้พ้นนะ! ”หลินหว่านหรูปัดมืออีกฝ่ายออก เดินถอยหลังทีละก้าวไปทางด้านข้าง เธอทั้งกังวลและทำอะไรไม่ถูกหลิวเจี๋ยรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างยกย่องเทิดทูลเขาขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขากลับเหมือนคนที่ไร้ประโยชน์ เขากัดฟันแล้วพูดว่า “พี่หาว ได้โปรดพี่อย่าทำแบบนี้...... ”ซาจื่อหาวตบเขาในทันที พร้อมทั้งสาดคำด่า “หุบปากซะ แกไสหัวไปอยู่ด้านข้างนู่นไป ขืนยังพูดพล่ามอยู่อีก ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ! ”หลิวเจี๋ยเอามือกุมแก้มที่เจ็บปวดของเขา และไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรอีก“เหอะ คิดว่าแกจะแน่กว่านี้ซะอีก สุดท้ายก็เป็นแค่ขยะ ขี้ขลาด”ซาจื่อหาวกล่าวสีหน้าดูถูกสีหน้าของหลิวเจี๋ยแทบจะดูไม่ได้ พอมองไปทางผู้คนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เขารู้สึกทรมานราวกับว่าเขากำลังกินขี้สุนัขสีหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความกังวลใจและความสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในเวลานี้เธอกลับนึกถึงเย่เทียนหยู่ขึ้นมาไ
บ้าเอ๊ย!แม้แต่คำพูดอวดดีแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น หลินหว่านหรูเองก็แทบจะหลั่งน้ำตาอยู่แล้วเป็นอย่างที่คิดไว้ตริง ๆ คำพูดเหล่านี้ทำให้ซาจื่อหาวที่กำลังเล่นตลกกับคนดูอยู่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก เขาพูดด้วยท่าทางที่น่ากลัว “เจ้าหนู นี่แกกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ”“พอไปถึงยมโลกแล้ว ก็อย่ามาโทษว่าฉันโหดร้ายก็แล้วกัน”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งคราวนี้ ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ลงมือหนักกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการมุ่งหวังทำร้ายโดยตรง จนอาจจะสามารถเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้จริง ๆแต่ว่า ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่า อีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าเมื่อหลิวเจี๋ยและคนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาต่างก็แอบส่ายหัวเด็กคนนี้จบเห่แล้ว ช่างเป็นคนที่ไม่รู้ภาษีภาษาจริง ๆ หากเขาจะโดน ก็สมควรแล้วล่ะแต่ในดวงตาของหลินหว่านหรูก็ยังคงมีความหวังอยู่ เธอก็จ้องมองไปยังสถาณการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาเพราะเธอรู้ว่าเย่เทียนหยู่เก่งศิลปะการต่อสู้มาก แต่เมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ผั๊วะ!ซาจื่อหาวพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ถูกกระแทกกลับด้วยแรงที่เร็วกว่
“เดิมฉันก็ไม่ได้ขอให้มาช่วยอยู่แล้วหนิ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“นาย นายนี่มันเนรคุณจริง ๆ! ”ซูถิงกล่าวด้วยความโมโห“ไปให้พ้น! ”เย่เทียนหยู่รู้สึกรำคาญนิดหน่อย“เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง! ”ในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะพูดบางอย่างออกมาเธอรู้สึกประทับใจมากที่เย่เทียนหยู่สามารถออกหน้าช่วยเธอไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความพยายามของหลิวเจี๋ยเช่นกัน ยิ่งไม่ควรตำหนิซูถิง ทั้งที่ซูถิงพยายามอุทิศตนเพื่อช่วยเธอด้วย“สิ่งที่ฉันพูดคือความจริงทั้งนั้น! ” เย่เทียนหยู่กล่าว“ได้ ต่อให้สิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง แต่ซูถิงก็ไม่ผิด ถ้านายยังจะลงมือกับเขาให้ได้ พวกเราทุกคนก็จะพลอยติดร่างแหไปกับนายด้วย”หลินหว่านหรูไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเย่เทียนหยู่ แต่เธอไม่ต้องการที่จะโต้แย้งกับเขาที่นี่“ใช่แล้ว เย่เทียนหยู่ นายรู้ไหมว่าตัวตนของพี่ห่าวมีการดำรงอยู่แบบไหน เขาคือจุดสูงสุดสำหรับคนรุ่นใหม่ นายจะลงมือกับเขาไม่ได้” หลิวเจี๋ยเองก็ลุกมายืนข้างหน้าซาจื่อหาวเพื่อขวางทางเอาไว้ ราวกับว่ากำลังปกป้องอีกฝ่ายอยู่“นั่นสิ เย่เทียนยู่ นา
หลิวเจี๋ยรู้สึกหวาดกลัวมาก เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และเรียกเบา ๆ “พี่หาวครับ พี่หาว......”ในไม่ช้า เขาก็พบว่าซาจื่อหาวยังไม่ตาย แต่อาจจะได้รับบาดเจ็บภายใน และพูดขึ้นทันที “เรียกรถพยาบาลเร็วเข้า”เมื่อบอดี้การ์ดได้ยินดังนั้น ก็รีบจัดการทันทีจากนั้นหลิวเจี๋ยก็มองไปที่เย่เทียนหยู่ และแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจเจ้าเด็กนี่ ครั้งนี้ได้จบเห่แล้วจริง ๆ แน่นอนแค่หวังว่า จะไม่ทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วยก็พอ ยังไงซะ เรื่องนี้ก็ถือว่าตัวเองก็เป็นต้นเหตุแต่ตอนนี้พี่หาวก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมากแล้ว บวกกับตอนหลังเขาเองก็ได้ช่วยพี่หาวเอาไว้ น่าจะไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือนร้อนอะไรมากนักจบเห่แล้ว!จบสิ้นแล้วจริง ๆ!ในเวลานี้เอง สีหน้าของหลินหว่านหรูซีดลง เธอทรุดตัวลงบนเก้าอี้ทันทีเมื่อก่อนทุกครั้งที่ต้องเจอกับปัญหามากมายครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งบางครั้งอาจก็เคยเจอสถานการณ์ที่คล้ายกันกับครั้งนี้เลยด้วยซ้ำแต่ครั้งนี้แตกต่างกันออกไป ผลที่ตามมากลับร้ายแรงเกินกว่าที่คิดเอาไว้มีเพียงเย่เทียนหยู่เท่านั้นที่ดูสงบนิ่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก กระทั
หลังจากที่เย่เทียนหยู่พังประตูเข้าไป หนานกงเล่อก็หันไปมองด้วยความโกรธ และเห็นว่าเป็นเย่เทียนหยู่ที่ถีบประตูเข้ามาโดยตรงสำหรับเย่เทียนหยู่ เขาค่อนข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวันนี้ที่ได้พบเขาบนเวทีไอ้เวรเอ้ย นี่มันไม่เป็นอะไรเลยงั้นเหรอ!แถมยังวิ่งมาที่นี่เพื่อทำลายเรื่องดี ๆ ของตนอีกไอ้สวะไป๋หยางนั่น ไม่ใช่ว่ามันหาคนไปจัดการกับไอ้เด็กนี่แล้วรึไง?เสียงที่เกิดขึ้นค่อนข้างดัง จึงทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง รวมถึงเหอฉุนและจางผิงเองก็ด้วยจางผิงรู้สึกตกใจนิดหน่อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีใจ และตื่นตัวขึ้นทันทีเขาคือคุณเย่!คุณเย่มาแล้ว!ถึงแม้จะไม่รู้ว่าคุณเย่จะรับมือไหวไหม แต่แค่ได้เห็นว่าเขามา ก็รู้สึกว่าตนมีความหวังขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยก็ยังดีกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่รึไงเหอฉุนรู้สึกตกใจเล็กน้อย เธอมองไปยังผู้ชายที่ดูน่ากลัวและดุร้ายที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูคนนั้น เธอรู้สึกว่าเขาต่างจากที่เคยเห็นในตอนแรกไปโดยสิ้นเชิงแต่ว่า การที่เขาถึงกับรีบตรงมาที่นี่แบบนี้เขาก็น่าจะได้รับข่าวอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่หนานกงเล่อมาที่นี่แน่นอน ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่รีบม
พระเจ้าช่วย หากช้าไปนิดเดียว เกรงว่าเฉินเฟยเฟยอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ แล้วเมื่อเห็นฉากนี้ หนานกงเล่อก็โกรธจัดขึ้นทันที เฉินเฟยเฟยถึงกับเลือกที่จะไม่ยอมแพ้แม้ตนจะต้องตาย จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไรนี่เขาดูแย่มากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอผู้ชายคนนั้นนอกจากหล่อนิดหน่อยแล้ว ยังจะมีอะไรดีอีก?หรือความหล่อมันกินแทนข้าวได้รึไง?หนานกงเล่อโกรธจัด ความบ้าคลั่งเริ่มปรากฏ เขาก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่ดูบิดเบี้ยว จับเฉินเฟยเฟยเอาไว้ แล้วพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เฉินเฟยเฟย เธอเกลียดฉันขนาดนี้เลยเหรอ ก็ดี ยิ่งเธอเกลียดฉันมากเท่าไหร่ วันนี้ฉันก็ยิ่งต้องเล่นสนุกกับเธอต่อหน้าทุกคนมากขึ้นเท่านั้น”“ไสหัวออกไปนะ!”เฉินเฟยเฟยเริ่มร้อนรน เธอยกมือขวาขึ้น ตบเข้าที่ใบหน้าของหนานกงเล่ออย่างแรงหนานกงเล่อรู้สึกงงงวยเล็กน้อย เขาไม่ทันได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้น แค่เฉินเฟยเฟยจะแตะต้องเขาได้อย่างไร“เวรเอ้ย แกกล้าตบฉันเหรอ!”หนานกงเล่อโกรธจัดทันที ก่อนที่เขาจะตบกลับไปอย่างแรงด้วยฝ่ามือเพี้ยะ!เสียงใส ๆ ดังก้องขึ้นอีกครั้งหนึ่งเฉินเฟยเฟยถูกตบที่ใบหน้าจนเ
ต้องบอกเลยว่า เหอฉุนค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียวแต่น่าเสียดาย ที่มันไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยหนานกงเล่อดูไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาสงบ และดูไม่รีบร้อนแต่อย่างใด เขาพูดพลางหัวเราะเยาะว่า “ร้องไปเถอะ ดูสิ ว่าถ้าร้องจนคอแห้งแล้ว จะมีใครสนใจพวกเธออยู่ไหม!”“ลืมบอกไปเลย ว่าบริเวณรอบ ๆ พวกเธอตอนนี้ไม่มีผู้เช่าคนอื่นอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้มีไม่กี่ครอบครัวที่อาศัยอยู่ แต่ก็ถูกไล่ออกไปตั้งแต่ตอนที่คอนเสิร์ตเธอเริ่มแล้ว”ส่วนวิธีการไล่นั้น พวกเขาก็แค่ยัดเงินเล็กน้อยให้กับโรงแรม โรงแรมก็หาข้ออ้างจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายแล้วเมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา สาว ๆ ต่างก็รู้สึกหมดหวังกันอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ จะให้เรียกฟ้า ฟ้าก็คงไม่ตอบ เรียกดิน ดินก็คงไม่สนใจอีกแล้วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดที่มีพลังแข็งแกร่ง สองสาวแทบไม่มีแรงต้านเลยแม้แต่น้อย ในไม่ช้าพวกเธอก็ถูกมัดมือไว้ด้านหลัง พร้อมกับถูกปิดปากด้วยเทปกาวหนานกงเล่อแทบไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของพวกเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่อย่างนั้น ป่านนี้เขาคงรีบจัดการผู้หญิงสองคนนั้นให้หมดสติไปนานแล้วแต่เขากลับไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น เขาแค่ต้องการให้ผ
“คุณชายหนานกงพูดจริงเหรอ?” เหอฉุนรู้ดีว่า ตระกูลชนชั้นสูงแบบพวกเขา ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับดาราอย่างแน่นอนแน่นอน ว่าก็อาจจะมีบางกรณีที่พิเศษจริง ๆ“แน่นอนสิ!”หนานกงเล่อพูดอย่างมั่นใจ แม้ในใจจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังคงต้องโกหกไปก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากันทีหลัง“หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันคิดว่าเฟยเฟยก็อาจจะพอพิจารณาดูได้ แต่ว่า ตระกูลหนานกงจะยอมรับได้จริง ๆ เหรอคะ?” เหอฉุนถาม“ในเมื่อผมรับปากแล้ว ก็จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เฟยเฟย คุณคิดว่ายังไง?” หนานกงเล่อเปิดปากถามออกไปเฉินเฟยเฟยชะงักไปชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีขณะที่เหอฉุนกำลังจะพูดหนานกงเล่อก็โบกมือ แล้วพูดออกไปตรง ๆ ว่า “คุณไม่ต้องพูด!” เขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อกี้ตอนที่คุยกับเหอฉุน เขาก็สังเกตสีหน้าของเฉินเฟยเฟยอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่ามีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ตรงกันบวกกับข่าวที่ตัวเองเพิ่งได้มาจากประธานหวัง ไหนจะยังมีเรื่องที่เฉินเฟยเฟยร้องเพลงคู่กับชายคนนั้นบนเวทีอีกเฉินเฟยเฟยรู้สึกงงงวย “ฉัน ฉัน......”“หรือที่ประธานเหอพูดกับผมเมื่อกี้แค่พูดพอเป็นพิธีเท่านั้น หลอกผมอยู่งั้นเหรอ?” หนานกงเล่อถา
สีหน้าของหนานกงเล่อเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พร้อมกับถามออกไปอย่างเย็นชาว่า “ประธานเหอ นี่คุณหมายความว่ายังไง คุณเห็นผมเป็นสัตว์ร้ายงั้นเหรอ?”เหอฉุนเปลี่ยนสีหน้า ก่อนจะรีบพูดออกไปว่า “จะเป็นแบบไปได้ยังไงกันคะ คุณชายหนานกงล้อกันเล่นแล้วล่ะค่ะ ก็แค่พวกเฟยเฟยกำลังแต่งตัวกันอยู่ ไม่ค่อยสุภาพสักเท่าไหร่ เลยจะดูไม่เหมาะสม หากจะมีผู้ชายอยู่ในห้องน่ะค่ะ”“งั้นเหรอ เช่นนั้นก็ให้ผมดูหน่อยสิ ว่ามันจะไม่สุภาพสักแค่ไหนกันเชียว” หนานกงเล่อไม่สนใจคำพูดของเหอฉุนเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะยืนรอที่ประตู เขาเดินตรงเข้าไปทันทีประธานหวังที่เห็นแบบนั้น ก็รีบพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นคุณชายหนานกง ผมยังมีธุระที่ต้องไปจัดการ คงไม่อยู่รบกวนแล้วนะครับ”“ไปเถอะ!”หนานกงเล่อไม่หันกลับไปมองด้วยซ้ำ เดินมุ่งตรงเข้าไปข้างในท่าเดียวสีหน้าของเหอฉุนดูไม่ค่อยดีนัก จึงรีบเดินตามไปในทันทีบอดี้การ์ดที่เดินตามหลังเป็นคนปิดประตู ทั้งยังล็อกกลอนจากด้านในอีกต่างหาก ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากประตู สีหน้าของเฉินเฟยเฟยและจางผิงก็เปลี่ยนไปทันที เพราะพวกเธอรู้แล้วว่า หนานกงเล่อมาแล้วจริง ๆ ทำไมถึ
“เอ่อคือ มีสิ!” ไป๋หยางพูดอย่างระมัดระวัง “คุณชายหนานกงพยายามตามจีบเฉินเฟยเฟยอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธตลอด มันเลยทำให้เขาโกรธมาก ตอนนี้เขาอาจจะกำลังไปที่โรงแรมที่เธอพักอยู่”“แกว่าไงนะ!”สีหน้าของเย่เทียนหยู่มืดมนลงทันทีไป๋หยางตกใจมาก และกลัวว่าเย่เทียนหยู่จะลงมือกับเขาอีก จึงรีบพูดออกไปว่า “ฉัน ฉันจะบอกทุกอย่าง แต่แกห้ามลงมือกับฉันนะ แล้วก็ ทุกสิ่งที่ฉันพูดคือเรื่องจริง ตำแหน่งของโรงแรมก็เป็นฉันที่บอกเขา”“ตอนนี้คุณชายหนานกงก็น่าจะไปถึงโรงแรมแล้ว”ไป๋หยางตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดแค่ว่าต้องล่อให้เย่เทียนหยู่ไปหาหนานกงเล่อให้เร็วที่สุด แต่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาพูดจะทำให้เย่เทียนหยู่โกรธมากแค่ไหนสีหน้าของเย่เทียนหยู่เย็นชาลงทันที แล้วรีบถามออกไปว่า “โรงแรมไหน ห้องอะไร?”ทันทีที่ไป๋หยางได้ยิน เขาก็รีบบอกทันทีโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับบริเวณที่เขาอยู่พอดี ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก“ทางที่ดีแกก็ภาวนาให้เฉินเฟยเฟยยังคงปลอดภัยอยู่เถอะ เพราะไม่อย่างนั้น แกได้ตายอย่างน่าสังเวชแน่นอน”หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชาจบ ก็ใช้เท้าเตะไปที่ตัวไป๋หยางอย่างแรง เห็นได้ชัดว่าจาก
“แก แกคิดจะทำอะไร?” ไป๋หยางตกใจจนหน้าซีด เขาทั้งกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน“ทำอะไรล่ะ เมื่อกี้ก็บอกแกไปแล้วนี่ แกต้องการชีวิตฉันเลยนะ ฉันแค่ต้องการขาสองข้างของแกก็เท่านั้น ไม่เกินไปหรอกมั้ง?” เย่เทียนหยู่พูดอด้วยน้ำเสียงที่ดูเฉยเมย“ไม่ ไม่ได้นะ!”ไป๋หยางรู้สึกร้อนรน จึงรีบพูดขึ้นว่า “เอางี้นะ ขอแค่แกปล่อยฉันไป เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ฉันจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ เรื่องที่ผ่านไปแล้วฉันก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองอีก”“กลับกัน หากแกลงมือกับฉัน ตระกูลไป๋จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่ ด้วยความสามารถของตระกูลไปแล้ว ต่อให้แกจะเก่งแค่ไหน แกก็คงจะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี”“นี่แกยังกล้ามาข่มขู่ฉันอยู่อีกเหรอ?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ไม่ ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการขอร้อง ขอความเมตตา” เมื่อเห็นท่าทางของเย่เทียนหยู่ ไป๋หยางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ เขาจึงไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีอีกต่อไปไม่ว่ายังไงก็ต้องหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้ก่อน รอให้ผ่านวันนี้ไปได้ ตนก็มีอีกเป็นหมื่นวิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายตายอย่างน่าสังเวชมากที่สุด“ท่าทีของแกตอนนี้ก็ถือว่าไม่เลว แต่น่าเสียดา
ตอนนี้ถึงทีของเย่เทียนหยู่แสดงสีหน้าดูถูกออกมาแล้ว เขาส่ายหัวพลางพูดขึ้นว่า “ขยะพวกนี้มาจากไหนกัน กล้าดียังไงมาอวดดีต่อหน้าฉัน เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่กันแล้วรึไง!”คำพูดนี้ทำให้คนเหล่านั้นโกรธอย่าเห็นได้ชัด แต่ก็กลับไม่กล้าพูดอะไรออกมาเวลาแบบนี้ ใครมันจะกล้าเสนอหน้าออกไปกัน นั่นไม่เท่ากับเป็นการหาเหาใส่หัวหรอกเหรอ?แต่สุดท้ายแล้ว มันก็จะมีคนที่โง่มาก ๆ ชอบทำตัวเสร่อ ไป๋หยางที่โดนชนจนได้รับบาดเจ็บก็พยายามตะเกียกตะกายออกมา แล้วพูดด้วยความโกรธออกมาว่า “ไอ้หนู แกอย่าได้เหลิงนักนะ!”“แกรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน?”“ก็คุณชายไป๋ไง เมื่อกี้แกก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยสีหน้าที่ดูไม่แยแสไป๋หยางหมดคำจะพูด ก่อนจะโต้กลับด้วยความโกรธ “งั้นแกรู้ไหม ว่าเป็นคุณชายไป๋คนไหน รู้ไหมว่าคุณชายไป๋ที่ว่าหมายถึงอะไร มันหมายความว่าฉันคือคุณชายจากตระกูลไป๋ยังไงล่ะ” “......”เย่เทียนหยู่ไม่มีอะไรจะพูด นี่หัวมันโดนชนจนพังไปแล้วเหรอไป๋หยางรู้สึกว่าตนเองอาจจะอธิบายได้ไม่ชัดเจนมากพอ ก่อนจะรีบพูดเสริมอีกว่า “ที่ฉันจะสื่อก็คือ ตระกูลไป๋นั้นไม่ธรรมดา เป็นถึงหนึ่
ผั๊วะ ผั๊วะ......หลังจากที่คนเหล่านั้นเดินล้อมเข้ามาด้วยความดุดัน เสียงดังสนั่นก็เกิดขึ้นในทันทีเมื่อมองอย่างละเอียด ก็พบว่าทั้งหมดคือกลุ่มคนที่พุ่งเข้าไปเพื่อหวังจะล้อมโจมตีเย่เทียนหยู่ พวกเขากลับต้องนอนกองบนพื้นเรียงตัว ได้แต่เอามือกุมหน้าตัวเองเอาไว้ และร้องด้วยความเจ็บปวดที่แท้ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ เย่เทียนหยู่ที่ในมือกำลังถือไม้เอาไว้อยู่นั้น เขาเหวี่ยงมันใส่พวกเขาได้อย่างแม่นยำ จนทำให้พวกเขาล้มลงกันหมด พร้อมกับเสียงร้องโอดโอยที่ดังขึ้นเป็นระนาวบางคนโดนตีจนขาทั้งสองข้างหัก แต่ก็ยังมีบางคนที่โชคดีหน่อย ที่โดนตีขาหักแค่ข้างเดียวในตอนนี้เอง เหล่าลูกน้องต่างก็มองไปทางเย่เทียนหยู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่มีใครคาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเก่งกาจขนาดนี้ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย แทบจะเข้าประชิดตัวเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำแววตาของไป๋หยางเองก็แสดงความประหลาดใจออกมา แต่ส่วนใหญ่เหมือนจะเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความโหดเหี้ยมเสียมากกว่า เขาจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “ไอ้หนู คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะเก่งกังฟูขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่แกกล้าทำตัวอวดดีแบบนี้!”“ฉันเนี่ยนะ ที