แต่ก็มีเรื่องดีอยู่ เพราะหลังจากที่หลิวเจี๋ยช่วยนำทางเธอไป โดยเฉพาะซ่งเหวินป๋อ หรือคุณชายซ่งที่ให้เกียรติกันมากและเต็มใจที่จะจัดสรรโควต้าให้กับตระกูลหลินซ่งเหวินป๋อเป็นหนึ่งในหกผู้อำนวยการหอการค้าหลงเถิง และมีสถานะที่สูงมากเมื่อเขาก้าวไปข้างหน้ามันควรจะเป็นสิ่งที่แน่นอนหลิวเจี๋ยพยักหน้าเดินจากไป และด่าพวกหยูเล่ยทั้งสองคน: “คุณสองคนเป็นอะไรกัน ผมพาคุณเข้ามาเพื่อทำให้เย่เทียนหยู่อับอาย แต่ทำไมคุณปล่อยให้เขาสบายใจขนาดนี้”หยูเว่ยดูเสียใจและพูดอย่างหดหู่: “นายน้อยหลิว เราก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเพิกเฉยต่อเราเลยและปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นอากาศธาตุ”“ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนเขาจะผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อมาถึงสถานที่เช่นนี้ ไม่มีความตึงเครียดหรือความยับยั้งชั่งใจใด ๆ อย่างที่เราคาดไว้เลย”“ทำไมฉันถึงรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้น”“แม่งเอ้ย มันก็แค่หน้าด้านเท่านั้นเอง”หลิวเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา: “ช่างมันเถอะ แบบนี้ก็พอทำให้หลินหว่านหรูโกรธได้อยู่ มันจะช่วยให้ฉันได้ตัวหลินหว่านหรูมาเร็ว ๆ ยังไงล่ะ”แม้ว่าเธอจะรำคาญกับการกระทำของเย่เทียนหยู่แต่โชคดีที่การเข
“นี่นายยังจะโทรศัพท์อีกเหรอ เย่เทียนหยู่ นายคิดว่าตัวเองเป็นคนสนิทหรือญาติประธานหยางหรือไง?”ซูถิงก่นด่าเขาว่านี่มันเวลาอะไรยังจะมาคุยโวอยู่อีก“หว่านหรู ไม่ต้องสนใจเขาหรอก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งรีบนะ รีบไปหานายน้อยหลิวกันเถอะ บางทีเขาอาจจะมีทางช่วยเราก็ได้”เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก วันนี้แค่นายน้อยหลิวแนะนำฉันให้รู้จักกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้าหลายคนได้ เขาเก่งมากพอแล้วล่ะ”ในมุมมองของเธอ ประธานหยางกำหนดหนึ่งโควต้านั้นด้วยตัวเอง อย่าว่าแต่หลิวเจี๋ยเลย ต่อให้หลิวเจี๋ยจะเก่งแค่ไหนก็เกรงว่าเขาคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้“แต่ว่าเราจะเอาแต่นั่งอยู่แบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้หรอก ฉันจะไปถามเพื่อนฉัน”ซูถิงลุกขึ้นยืนและจากไปเมื่อเห็นซูถิงจากไป หลินหว่านหรูก็ถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทางในใจของเธอ เรื่องนี้มันมีข้อสรุปอยู่แล้วเย่เทียนหยู่เดินไปที่อีกฝาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรไปหาหยางต้าฝู ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ: “หยางต้าฝูเกิดอะไรขึ้น? ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ตระกูลหลินเข้าร่วมหอการค้า?”“อ่า……”หยางต้าฝู
ซ่งหยางพูดอย่างเย็นชา“ใช่ครับ ใช่…”ใบหน้าของหยูเว่ยซีดเผือด เขาทั้งกลัวและโมโห เพราะหัวหน้าตระกูลซ่งเป็นสมาชิกอาวุโสของหอการค้าหลงเถิง ดังนั้นพวกเขาจะทำให้ซ่งหยางขุ่นเคืองไม่ได้เขาทำได้เพียงพาน้องสาวของเขาออกจากงานเลี้ยงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีทางเลือกเนื่องจากห้องจัดเลี้ยงมีขนาดใหญ่มาก และเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนักและนี่ก็เป็นสิ่งที่ซ่งหยางตั้งใจจะทำให้สำเร็จ เพราะลุงของเขาบอกว่าคุณเย่เป็นคนที่ถ่อมตนมาก อีกทั้งไม่ชอบเปิดเผยสถานะอันสูงส่งของตนเองซ่งหยางรีบพูดกับเย่เทียนหยู่ด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ คุณเย่”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและถามเขา “คราวก่อนคุณทำตัวใหญ่โตขนาดนั้นทำไม่จู่ ๆ ถึงยอมไปล่ะครับ?”ซ่งหยางยิ้มอย่างขมขื่นและอธิบายว่า “ผมเห็นแบล็กการ์ดมังกรดำอยู่ในมือของคุณ แล้วผมก็บังเอิญรู้มาว่าประธานหยางเพิ่งมอบมันกับคนสำคัญสกุลเย่คนหนึ่ง”“อย่างนั้นเองเหรอครับ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าและพูดว่า “เมื่อกี้ขอบคุณนะ!”“คุณเย่เกรงใจผมเกินไปแล้วครับ คราวที่แล้วผมรู้น้อยเลยกระทำเรื่องโง่ลงไปทำให้คุณขุ่นเคือง แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ขอโท
ในตอนนั้นเอง ที่ซูถิงกลับมาด้วยท่าทางสิ้นหวังเธอไม่ได้รู้จักคนใหญ่คนโตเลยสักคน ผู้ทรงพลังที่สุดก็ไม่ใช่ใครหอกแต่เป็นหลิวเจี๋ย ดังนั้นเธอก็เลยไปพบหลิวเจี๋ยและแจ้งสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องให้เขาทราบหลังจากฟังเรื่องนี้แล้ว หลิวเจี๋ยก็ได้แต่แอบส่ายหัว ถ้าเป็นกรณีนี้ เขาจะทำอะไรได้ ต่อให้พ่อของเขาเป็นคนไปออกหน้าเองมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกแต่ต่อหน้าซูถิง หลิวเจี๋ยแสร้งทำเป็นพยายามโทรออกหลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เขาก็เดินกลับมาพร้อมกับซูถิง“หว่านหรู ผมเพิ่งได้ยินจากซูถิง ว่าการเข้าร่วมหอการค้าของตระกูลหลินเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเหรอครับ?” หลิวเจี๋ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลินหว่านหรูพยักหน้า“เฮ้อ คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ผมโทรหาพ่อและขอให้เขาช่วยดูแล้ว”“คุณหาพ่อคุณเหรอคะ?”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสงสัยว่าที่ประธานหยางโทรหาเธอ ไม่ใช่เพราะเย่เทียนหยู่แต่เป็นเพราะพ่อของหลิวเจี๋ยจะว่าไปแล้ว เย่เทียนหยู่เพิ่งลงมาจากภูเขาแล้วก็แค่พอได้กังฟูอยู่บ้าง เขาจะรู้จักประธานหยางได้ยังไงในทางกลับกัน พ่อของนายน้อยหลิวมีสถานะที่สูงมากในเมืองเทียนไห่ และก็อาจ
แล้วทำไมตระกูลหลินถึงได้รับโควต้าเข้าร่วมหอการค้า คงไม่ใช่เพราะเย่เทียนหยู่หรอกนะเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!“นั่นสินะคะ นายน้อยหลิว ครั้งนี้ฉันต้องขอบคุณอีกครั้ง” หลินหว่านหรูขอบคุณเขา“ไม่เป็นไรครับ ที่ผมช่วยคุณได้ผมดีใจกว่าตระกูลของผมเองได้เข้าร่วมหอการค้าซะอีกนะครับ” หลิวเจี๋ยรีบรับความดีความชอบนี้อย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจอะไรมากนัก“เย่เทียนหยู่ดูสิ แค่โทรกริ๊งเดียวนายน้อยหลิวก็แก้ไขเรื่องสำคัญที่แทบจะตัดสินชะตากรรมของตระกูลหลินได้แล้ว”“ส่วนนาย นายเอาแต่นั่งเฉย ๆ อยู่ตรงนั้น จะเอาอะไรมาเทียบกับนายน้อยหลิว?”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและพูดว่า “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมว่าพี่เย่เกลี้ยกล่อมผู้หญิงก็เก่งอยู่นะ เพราะผู้หญิงคนเมื่อกี้ดูเหมือนจะปกป้องเขาเป็นพิเศษ”เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็นึกถึงหยางเฉียนเฉียนเมื่อครู่ ทำให้เธอยิ่งอารมณ์เสียมากขึ้นไปอีกเย่เทียนหยู่พูดไม่ออก จึงพูดตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “พวกคุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเขาเป็นคนช่วยเรื่องนี้?”“ถ้าไม่ใช่เขาหรือนายเป็นคนช่วยเหรอ? ทำไม นายคงไม่อยากพูดว่าประธานหยางเป็นผู้ใต้บ
หยางต้าฝูกวาดสายตามองผู้คน ก่อนที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่เย่เทียนหยู่อยู่พักหนึ่งแล้วยิ้มออกมาพร้อมกัยพูดว่า “วันนี้ ขอบคุณมากที่ทุกท่านมาทานอาหารค่ำร่วมกันในคืนนี้ ผมเชื่อว่าคืนนี้ทุกคนคนจะคว้าโอกาสดีกันไปไม่น้อย”ทุกคนพากันตอบรับเขาโดบปริยายหลังจากกล่าวเปิดงานอย่างเรียบง่าย หยางต้าฝูก็เอ่ยปากขึ้น “ตอนนี้ผมขอประกาศว่า ในปีนี้เรามีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิง และนั่นก็คือ...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยางต้าฝูก็หยุดชั่วคราวและมองไปรอบ ๆเมื่อได้ยินแบบนั้น สมาชิกตระกูลที่หวังจะเข้าร่วมก็กลั้นลมหายใจและจ้องมองเขาตาไม่กระพริบแต่หลินหว่านหรูหนักกว่าเขา เพราะดวงตาของเธอกำลังจ้องเขม็งไปที่หยางต้าฝูบนเวทีแม้ว่าจะได้รับแจ้งไปแล้วล่วงหน้า ตราบใดที่ไม่มีการประกาศต่อสาธารณะ ทุกอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้“นั่นคือหลินซื่อกรุ๊ปที่บริหารโดยประธานหลินหว่านหรู!”หยางต้าฝูประกาศเสียงดังเป็นหลินซื่อกรุ๊ปจริง ๆ หลินหว่านหรูรู้สึกดีใจและตื่นเต้นอย่างมากในทันทีเธอตระหนักดีถึงความเป็นไปในอนาคตตระกูล เธอจะสามารถขอสินเชื่อได้มากพอและได้รับเงินทุนเพียงพอที่จะฟื้นฟูธุรกิจทั้งหมดจากการ
ใบหน้าของหลิวเจี๋ยย่ำแย่มาก เมื่อดูสถานการณ์บนเวที เขารู้สึกว่าบางทีประธานหยางอาจจะไม่เอ่ยชื่อแพทย์เซียนหรือต่อให้พูดออกมา เขาก็สามารถพูดได้ว่าเป็นแพทย์เซียนที่พ่อของเขาพบ เขาจึงพูดออกมาทันที “ตระกูลหลิวของผมเป็นตระกูลที่มีอำนาจพอตัวในเมืองเทียนไห่ การจะหาแพทย์เซียนที่มีความสามารถมากมาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”“เหอๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา หลิวเจี๋ยก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก ภายในใจชองเขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติอยู่ตลอดเวลาแต่ซูถิงทนไม่ไหวอีกต่อไปและดุว่า “เย่เทียนหยู่ นายจะยิ้มทำไม? หรือเรื่องที่นายน้อยหลิวพูดไม่ถูกหรือไง? ถ้าไม่ใช่คุณหลิวเป็นคนหาพบ หรือคนบ้านนอกแบบนายหาเขาเจอเหรอ?”“คุณนี่มันลูกหมากระจ๊อกหางแถวจริง ๆ ไม่กลัวจะเลียผิดคนเลยสินะ” เย่เทียนหยู่ส่ายหัวแล้วพูด ผู้หญิงคนนี้ชักจะน่ารำคาญเกินไปแล้ว“นี่นายพูดว่าอะไรนะ” ซูถิงโกรธ“เย่เทียนหยู่!”คราวนี้หลินหว่านหรูโกรธ เธอรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่เตลิดไปไกลแล้ว จึงได้พูดดุเขา “หยุดพูดซะ!”ในขณะนี้เอง หยางต้าฝูก็ประกาศเสียงดัง “ใช่แล้วล่ะ เขาไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็น คุณเย่เทียนหยู่ จากหลินซื่อกร
ใบหน้าของหลิวเจี๋ยน่าเกลียดมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าแพทย์เซียนคนนี้จะเป็นเย่เทียนหยู่เมื่อกี้เขายังคิดแม้กระทั่งอยากจะเป็นลูกสมุนของคนที่เป็นศัตรูเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาจงใจแอบอ้างความดีความชอบ ความสำเร็จเหล่านี้เป็นของเย่เทียนหยู่ แล้วใช้สิ่งนี้เพื่อเยาะเย้ยและโจมตีเย่เทียนหยู่น่าอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเมื่อเห็นสายตาของซูถิงที่กำลังจับจ้อง เขาก็อยากจะมุดรูหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดแน่นอนว่าในตอนนี้หลินหว่านหรูเชื่อคำพูดของเย่เทียนหยู่แล้วโดยเฉพาะเมื่อเธอได้รู้ว่า อาจารย์ของเย่เทียนหยู่เป็นแพทย์เซียนที่ปู่ของเธอเรียก แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อสิ่งที่เรียกว่าแพทย์เซียน แต่เธอก็เชื่อในความแม่นยำของเครื่องมือสมัยใหม่มากกว่าแต่ไม่มีหลักประกันว่าแพทย์เซียนเฒ่าจะมีสูตรลับเฉพาะที่สามารถรักษาโรคที่ยากและซับซ้อนได้“เทียนหยู่ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจนายผิด ฉันขอโทษนะ” ถึงหลินหว่านหรูจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่ แต่คราวนี้มันเป็นความผิดของเธอจริงๆเย่เทียนหยู่ตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง เขาส่ายหัวแล้วพูดอย่างใจเย็น “ก็แค่ความเข้าใจผิดเล็กน้อยระหว่างสามีภรรยาน่ะครับ ไม่จำเป็นต้องขอโทษผมหรอก”ใบหน