Share

ตอนที่3.ถอยหลัง

last update Last Updated: 2025-01-03 08:04:24

โม่คังเอ่ยออกมาทั้งที่ใบหน้ายังคงก้มมองของที่อยู่ในมืออีกข้าง ส่วนข้างที่ถือดาบอยู่ชี้ตรงไปยังคนร้ายที่ลอบโจมตีโดยหวังมิให้เขาได้ทันตั้งตัว

ชายในชุดดำถึงกับผงะถอยหลัง ด้วยเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้

‘มิธรรมดาจริง ๆ สมกับเป็นคนของสกุลโม่’

จากชายชุดดำหนึ่งคนบัดนี้ กลับเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน โม่คังถอนหายใจเล็กน้อย ในเมื่อเวลานี้ด้านหน้าคือศัตรู ด้านหลังคือน้ำตก ทางเลือกเดียวในตอนนี้คือสู้มิอาจถอย และที่สำคัญไปกว่านั้น คือตัวเขากำลังถูกเอาเปรียบจากศัตรูในเรื่องจำนวนคน

หากสงครามครั้งนี้เขารอดไปได้ เขาจะพาหรู่อี้ไปอยู่บนเขา ใช้ชีวิตท่ามกลางความเงียบสงบห่างไกลวังหลวง เมื่อมีลูก เขาจะมิยอมให้มาใกล้อำนาจแห่งการนองเลือดแบบนี้เป็นอันขาด

‘หวังว่าข้าจะทำได้อย่างที่คิดนะ เฮ้อ!’

ไม่มีคำพูดใด ๆ อีกจากทั้งสองฝ่าย ทว่าต่างพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว โม่คังรู้ตัวดีว่าเขากำลังตกเป็นรอง แต่จะให้ดึงคนพวกนี้เข้าไปในคณะเดินทางนั้น มันไม่เคยมีในหัวสมองของเขาเลยแม้แต่น้อย

โม่คังถอยร่นไปอีกฟากของที่พักเพื่อนำพาศัตรูไปยังทุ่งหญ้ากว้างแทน หากต่อสู้ในที่แคบจะเป็นการเพิ่มความเสียเปรียบให้แก่ตัวเขาเองมากยิ่งขึ้น

ดูเหมือนการต่อสู้จะไม่จบลงง่าย ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้ในคราแรก เสียงอาวุธปะทะกันดังสนั่นไปทั่วทุ่งหญ้า ร่างของคนทั้งกลุ่มมองเห็นเพียงเงาเลือนราง ทว่า ชายหนุ่มผู้มาใหม่ทั้งสามคนกลับมองออกได้โดยง่ายว่าผู้ใดคือคนที่พวกเขาตามหา

ลานพัก

ผู้ติดตามทั้งหมดต่างพากันมารวมตัวอยู่ข้างกองไฟ ซึ่งได้รับการป้องกันจากหนังวัวผืนใหญ่ที่กางป้องกันฝนเอาไว้เป็นอย่างดี

เม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมาบางเบา ทำให้คนที่พากันหลับใหลพลันตื่นขึ้นมา มิเว้นแม้แต่อี้เหมยที่คลี่ม่านรถม้าออกมามองยังด้านนอก โดยเป้าหมายของสายตาคือหรู่อี้ ซึ่งบัดนี้ไร้เงาของเยว่คังเคียงกาย ก่อนที่

อี้เหมยจะดึงสายตากลับมายังต้วนลี่ที่เงยหน้ามองนางอยู่ก่อนแล้ว

“อย่าให้พลาด ข้าเกลียดความผิดพลาดเป็นที่สุด”

มือบางปล่อยจากม่านหน้าต่างรถม้า ก่อนจะเอนกายลงนอนด้วยความสบายใจ

ไม่ว่าอย่างไร คืนนี้ต้องมีคนอยู่และตาย คำสั่งที่ได้รับมาจากบิดานั้น แม้ว่านางจะมิเต็มใจเท่าใดนักในตอนนี้ ด้วยความเสน่หาในตัวของเยว่คัง ทำให้ยากที่จะทำใจกำจัดชายหนุ่มได้ แต่ด้วยเหตุใดกันที่ทำให้นางมั่นใจว่า อย่างไรเสีย คืนนี้ ชายหนุ่มต้องปลอดภัย แต่กับหญิงสาวอีกคน มันคือจุดจบ

‘สิ่งใดที่คนอย่างข้าปรารถนา ไม่ว่าจะยากเพียงใด หรือต้องปลิดชีพผู้ใด ข้าก็พร้อมที่จะลงมือ’

ต้วนลี่เดินตรงไปยังกลุ่มของชายหนุ่มหลายคนที่นั่งล้อมวงกันอยู่รายล้อมตัวหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว เขายังคิดไม่ออกกับเรื่องที่ต้องกระทำเลยสักนิดเดียว ยิ่งการโจมตีใกล้จะเกิดขึ้น เขาจะนำตัวเองมาอยู่ตรงนี้นานก็มิอาจทำได้

ชายสูงวัยเดินเลียบเคียงไปใกล้ฝั่งที่หรู่อี้นั่งอยู่ให้มากที่สุดเพื่อดำเนินตามแผนที่เพิ่งคิดขึ้นมาได้เมื่อครู่นี้

“คุณหนู พอดีหลานสาวของข้าเกิดจับไข้ขึ้นมา คุณหนูพอมียาสักหน่อยหรือไม่ขอรับ เอ่อ…หากคุณหนูจะเมตตาตามข้าน้อยไปตรวจดูอาการของนางแทนข้าสักนิดจะยิ่งเป็นพระคุณยิ่งนักขอรับ ตัวข้าเป็นชายจะแตะเนื้อต้องตัวนางมากไป มันก็มิสมควร ในคณะเดินทางก็มีเพียงคุณหนูเท่านั้นที่เป็นสตรีเช่นเดียวกับนาง”

“นายหญิงของข้าเป็นหมอรึไรกัน ท่านลุง”

หนึ่งในผู้ติดตามเอ่ยขึ้น ขณะที่หญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่กำลังจะขยับตัวลุกขึ้นเพื่อไปดูหลานสาวของชายสูงวัย ทว่า จำต้องนิ่งเสียเมื่อคนของเยว่คังเอ่ยขึ้นมาเพื่อเป็นการย้ำเตือนว่านางกำลังจะทำนอกเหนือคำสั่งของผู้นำคณะ

“ท่านลุง พี่อี้เหมยไม่สบายรึ ข้าพอมียาติดตัวมาบ้าง สักครู่นะ

เจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าจะหาให้”

หรู่อี้จึงเปลี่ยนเป็นล้วงเข้าไปในห่อผ้า ก่อนจะนำขวดยาขนาดเล็กออกมาส่งมอบแก่ชายชราแทน สายตาดุดันของผู้คุ้มกันทั้งหมดต่างพากันชำเลืองมองร่างที่ยืนค้อมหัวอยู่มิไกล

“เอ่อ…ขอบคุณขอรับคุณหนู แต่ข้าเกรงว่าหากนางมีไข้สูง ข้าจะไม่สะดวกดูแลนางน่ะขอรับ”

“เอ่อ…คือว่า ใช่ข้าจะแล้งน้ำใจนะเจ้าคะท่านลุง แต่ว่า…”

“ท่านเยว่คังมิอนุญาตให้นายหญิงออกจากตรงนี้ เข้าใจชัดไหมท่านลุงต้วน ข้าว่าท่านลุงควรรีบเอายาไปให้หลานสาวจะดีกว่า หากชักช้าไป ข้าเกรงว่านางอาจอาการหนักกว่านี้”

ความหวังของต้วนลี่เสมือนกองไฟที่ถูกน้ำสาดจนมอดดับ การลวงเอาตัวหรู่อี้มิใช่เรื่องที่ง่ายเลย แม้หญิงสาวจะดูใสซื่อ ทว่ากลับเชื่อฟังคำสั่งของคนเช่นเยว่คังจนเกินไป

“อ้อ…ท่านลุงข้ามีอีกเรื่องที่จะแนะนำ ท่านควรอบรมหลานสาวของท่านบ้างก็จะดีนะ การที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วยเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควร ดึกดื่นเที่ยงคืน เที่ยวแหวกว่ายเล่นน้ำอยู่กลางลำธาร ย่อมเกิดการเจ็บป่วยเป็นธรรมดา หากวันหน้า นางยังทำอีกก็อย่าหาว่าพวกข้ามิเกรงใจ ว่าแต่ท่านเป็นลุงของนางจริงรึ ไยมิรู้จักห้ามปรามนางบ้าง”

ทุกถ้อยคำของชายหนุ่ม ทำให้ร่างของชายชราสั่นเทิ้มไปทั้งกาย เขาเสมือนถูกตบหน้าหลอกถามความจริงอย่างไรมิรู้ ชายหนุ่มพวกนี้นอกจากจะฝีมือร้ายกาจ ทว่าฝีปากก็ช่างบาดลึกได้มิแพ้กันเลยทีเดียว ต่อให้เก่งปานใด คืนนี้ เขาก็จำต้องไว้อาลัยให้ชนรุ่นหลังกลุ่มนี้อยู่ดี เพราะถ้อยคำเช่นนี้จะได้หลุดออกจากปากของชายหนุ่มเหล่านี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วนั่นเอง

“ข้าต้องขออภัยแทนอี้เหมยด้วยขอรับ ที่ทำตัวมิเหมาะสมเช่นนี้ อ้อ! ประเดี๋ยวข้าเติมฟืนให้นะขอรับ”

มิพูดเปล่า ต้วนลี่ขยับกายย่อลงข้างกองไฟ ก่อนจะคว้าท่อนฟืนที่วางรวมกันอยู่มิไกลสุมเข้าไปในกองไฟหลายท่อน เป็นจังหวะเดียวกับที่

หรู่อี้มาหยุดยืนอยู่ไม่ห่างร่างงองุ้มของต้วนลี่

“ท่านลุง ประเดี๋ยวข้าจะตามท่านไปดูอาการป่วยของพี่อี้เหมยก็แล้วกัน อย่างไรเสีย นางก็เป็นคนร่วมทาง ข้าจะอธิบายเรื่องนี้กับท่านเยว่คังเอง”

ต้วนลี่เองก็รู้สึกแปลกใจมิน้อย อยู่ ๆ ทำไมหญิงสาวจึงได้เปลี่ยนใจกะทันหัน ทั้ง ๆ ในคราแรก นางดูจะเกรงกลัวต่อคำสั่งของผู้นำคณะนี้ยิ่งนัก ต้วนลี่ลอบยิ้มอยู่ภายในใจ มิว่าด้วยเหตุผลใดต่างก็ส่งผลดีต่อสิ่งที่เขาต้องการอยู่นั่นเอง

Related chapters

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่4.ข้าไม่เถียง

    “ขอบพระคุณขอรับคุณหนู เช่นนั้น เรารีบกันเถอะนะขอรับ”“ช้าก่อน นายหญิงให้ข้าไปแทนเถอะนะขอรับ ฝนกำลังลงเม็ดเช่นนี้ ต่อให้มิแรงมากนัก ทว่าอาจทำให้นายหญิงล้มป่วยลงได้ ข้าเป็นชาวไร่ชาวนาที่ผ่านแดดฝนมามาก ร่างกายข้ามิเป็นอันใดง่าย ๆ แน่นอนขอรับ”ชายหนุ่มที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาซึ่งขอติดตามคณะเข้าสู่เมืองหลวงด้วย ได้ก้าวเข้ามาขวางทางคนทั้งคู่เอาไว้ก่อนที่หรู่อี้และต้วนลี่จะก้าวออกจากที่พัก“เรื่องนั้น ข้าไม่เถียงท่านหรอกนะ แต่พี่อี้เหมยเป็นสตรี จะให้บุรุษที่มิใช่สามีเข้าไปพบนาง มันดูจะมิเหมาะเอาได้” หญิงสาวแย้งชายหนุ่มขึ้นอย่างมีเหตุผล“เรื่องนั้น ข้าทราบดีขอรับ แต่ท่านลุงต้วนก็อยู่ด้วยทั้งคน อีกอย่าง ข้ามีความสามารถในการตรวจชีพจรอยู่มากทีเดียว เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะนะขอรับ”“นายหญิงไม่ควรขัดคำสั่งนายท่านนะขอรับ ถึงอย่างไร นายหญิงก็มอบยาให้แก่เขาไปแล้ว ก็ถือว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ข้าว่านายหญิงกลับมานอนต่อเถอะขอรับ ข้าไม่อยากเตือนท่านซ้ำ ๆ นะขอรับ”ผู้ติดตามที่มีอำนาจรองจากเยว่คังเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ทว่าจริงจังอยู่ในที ทำให้หรู่อี้นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ต่อหน้าชาวบ้านที่ติดต

    Last Updated : 2025-01-03
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่5.

    ภายใต้สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างมิขาดสาย จากชายชาวบ้านธรรมดาในคราแรก บัดนี้ ร่างกายกำยำได้เผยให้เห็นเมื่อถูกสายฝนกระทบร่างจนเปียกโชก เชือกที่ผูกรั้งชุดถูกคลายออกอย่างอ้อยอิ่ง เหมือนเขามิได้เร่งรีบกับการรับมือต้วนลี่เลยสักนิดเดียว เจี่ยเต๋าทำเพียงคอยหลบหลีกเท่านั้นเองโดยยังไม่คิดที่จะตอบโต้อีกฝ่าย“เจ้าคิดจะดูถูกข้าเช่นนั้นรึ หึ ๆ เด็กแรกเกิดเช่นเจ้าอย่าหมายจะตีเสมอข้าจะดีกว่า”“ฮา ๆ ท่านลุง ยังดีที่ข้าเป็นเพียงเด็กแรกเกิด ยังมีโอกาสเติบโต ทว่าช่างต่างกับท่านนัก ที่ใกล้ลงหลุมในเร็ววันแต่มิเจียมสังขาร”“ปากกล้านัก ตายซะเถอะ”“ข้าพร้อมส่งท่านลุงลงหลุมแล้วเช่นกัน หึ ๆ”ขวับ! เสียงเชือกแหวกสายฝนเข้าปะทะร่างของต้วนลี่“อึก!”ร่างสูงของต้วนลี่ที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนเห็นถึงกับเซถอยหลังไปไกลหลายก้าว ทั้งที่เขาถูกเพียงปลายเชือกเท่านั้นแท้ ๆ‘ไยถึงมีพลังมหาศาลได้ถึงเพียงนี้กัน’ต้วนลี่ทำได้เพียงเก็บงำความคิดเอาไว้ในใจ เขาผ่านการสังหารผู้คนมามิน้อย ฝีมือของเจี่ยเต๋ามิได้ทำให้เขากลายเป็นผู้พ่ายได้แน่นอนการต่อสู้ท่ามกลางสายฝนเป็นไปอย่างดุเดือด ทว่ากลับมิได้ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเข้าสู่ห้วงการหล

    Last Updated : 2025-01-03
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่1. ซ้อนแผน

    กลางดึก ณ ลานหินข้างริมธารคณะของโม่คังได้ตั้งกระโจมพัก ชายหนุ่มร่างสูงยืนคู่อยู่กับผู้ติดตามยังโขดหินข้างลำธาร สองมือไขว้หลัง ใบหน้าแหงนมองไปบนท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งแสงดาว“ฝนกำลังจะตก ท่าทางจะหนักเอาการทีเดียว เจ้าช่วยบอกให้ทุกคนเตรียมข้าวของสำคัญเอาไว้ในรถม้าด้วยล่ะ”“ขอรับ”“งูอาจเริ่มออกล่าเหยื่อ ระวังหน่อยก็ดี”“หึ ๆ งูฝูงนี้คงอยากจบชีวิตกระมัง”“ไม่แน่เสมอไป ข้าแค่คาดเดา บางทีอาจถึงที่หมายของฝูงอสรพิษเสียก่อน และที่พวกมันจะออกมารัดเหยื่อเพื่อกลืนลงท้อง ตอนนี้อาจรอเวลาให้เราหลับใหลอย่างสุขใจไปก่อนก็เป็นได้”“เช่นนั้น เราก็หลับให้ยาว ๆ เสียหน่อยนะขอรับ ถึงที่หมายแล้วค่อยเผาดงงูเสียเลยทีเดียว”ชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยอย่างมีความนัยต่อกัน เพราะเวลานี้ ทั้งคู่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่มิน้อย เมื่อถัดไป ณ ชั้นตื้น ๆ ของน้ำตก มีร่างขาวโพลนของสตรีกำลังแหวกว่าย หมุนกายไปมาท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากโคมไฟซึ่งวางอยู่บนโขดหินส่องรำไร นางมิเกรงกลัวสิ่งใดเลยหรืออย่างไรกัน ยามนี้ดึกมากแล้ว ซ้ำยังเป็นเวลาที่สัตว์อันตรายหลายชนิดออกหากิน“มิธรรมดาจริง ๆ”“ท่านเยว่คังไปพักก่อนจะดีกว่าขอรับ ป่านนี้ นาย

    Last Updated : 2024-12-26
  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่2.กองไฟลุกโชน

    โม่คังมองเลยผ่านกองไฟลุกโชน ไปยังร่างสูงที่กำลังหย่อนกายลงนั่งยังอีกด้านของกองไฟ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆโม่คังเอนหันกลับไปยังหรู่อี้ที่นอนหลับตานิ่ง ชายหนุ่มยิ้มละมุน เขารู้ดีว่านางยังไม่ได้หลับอย่างที่ตาเห็น มือหนาเอื้อมไปขยับผ้าคลุมขนสัตว์ผืนใหญ่จนชิดคอของหญิงสาวทุกการกระทำช่างอ่อนโยนต่อสายตาของทุกคนเหลือเกิน ไม่เว้นแม้แต่ผู้มาใหม่อย่างอี้เหมยหญิงสาวมองการกระทำของชายที่นางหมายปองด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะสาวเท้าตรงไปยังรถม้าอันเป็นที่พักของนาง ซึ่งเยว่คังเป็นผู้จัดการให้โดยมิยอมให้นางพักรวมกับหญิงสาวอีกคน“กลับมาแล้วรึ อี้เหมย ลุงเป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก ไยทำอะไรตามใจเช่นนี้”“อย่าบังอาจมาตำหนิข้า จัดการแม่นกน้อยนั่นเสีย ข้ามิอยากเห็นมันอีก”อี้เหมยขยับเข้าใกล้ชายสูงวัย ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาให้ได้ยินกันเพียงสองคน แล้วก้าวขึ้นไปภายในรถม้า โดยไม่คิดเหลียวมองว่าคนที่รับคำสั่งจะรู้สึกเช่นไรหรือเต็มใจรึไม่ สำหรับนาง ทุกอย่างห้ามมีคำว่า ‘ไม่!’ต้วนลี่ทำเพียงมองตามหลังผู้เป็นนายหญิง ก่อนจะหันไปยังทิศทางของเป้าหมาย หญิงสาวผู้มีนามว่าหรู่อี้ถูกล้อมรอบไปด้วยบุรุษทั้งคณะเช่นนี้ เขาจะทำอ

    Last Updated : 2024-12-26

Latest chapter

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่5.

    ภายใต้สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างมิขาดสาย จากชายชาวบ้านธรรมดาในคราแรก บัดนี้ ร่างกายกำยำได้เผยให้เห็นเมื่อถูกสายฝนกระทบร่างจนเปียกโชก เชือกที่ผูกรั้งชุดถูกคลายออกอย่างอ้อยอิ่ง เหมือนเขามิได้เร่งรีบกับการรับมือต้วนลี่เลยสักนิดเดียว เจี่ยเต๋าทำเพียงคอยหลบหลีกเท่านั้นเองโดยยังไม่คิดที่จะตอบโต้อีกฝ่าย“เจ้าคิดจะดูถูกข้าเช่นนั้นรึ หึ ๆ เด็กแรกเกิดเช่นเจ้าอย่าหมายจะตีเสมอข้าจะดีกว่า”“ฮา ๆ ท่านลุง ยังดีที่ข้าเป็นเพียงเด็กแรกเกิด ยังมีโอกาสเติบโต ทว่าช่างต่างกับท่านนัก ที่ใกล้ลงหลุมในเร็ววันแต่มิเจียมสังขาร”“ปากกล้านัก ตายซะเถอะ”“ข้าพร้อมส่งท่านลุงลงหลุมแล้วเช่นกัน หึ ๆ”ขวับ! เสียงเชือกแหวกสายฝนเข้าปะทะร่างของต้วนลี่“อึก!”ร่างสูงของต้วนลี่ที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนเห็นถึงกับเซถอยหลังไปไกลหลายก้าว ทั้งที่เขาถูกเพียงปลายเชือกเท่านั้นแท้ ๆ‘ไยถึงมีพลังมหาศาลได้ถึงเพียงนี้กัน’ต้วนลี่ทำได้เพียงเก็บงำความคิดเอาไว้ในใจ เขาผ่านการสังหารผู้คนมามิน้อย ฝีมือของเจี่ยเต๋ามิได้ทำให้เขากลายเป็นผู้พ่ายได้แน่นอนการต่อสู้ท่ามกลางสายฝนเป็นไปอย่างดุเดือด ทว่ากลับมิได้ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเข้าสู่ห้วงการหล

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่4.ข้าไม่เถียง

    “ขอบพระคุณขอรับคุณหนู เช่นนั้น เรารีบกันเถอะนะขอรับ”“ช้าก่อน นายหญิงให้ข้าไปแทนเถอะนะขอรับ ฝนกำลังลงเม็ดเช่นนี้ ต่อให้มิแรงมากนัก ทว่าอาจทำให้นายหญิงล้มป่วยลงได้ ข้าเป็นชาวไร่ชาวนาที่ผ่านแดดฝนมามาก ร่างกายข้ามิเป็นอันใดง่าย ๆ แน่นอนขอรับ”ชายหนุ่มที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาซึ่งขอติดตามคณะเข้าสู่เมืองหลวงด้วย ได้ก้าวเข้ามาขวางทางคนทั้งคู่เอาไว้ก่อนที่หรู่อี้และต้วนลี่จะก้าวออกจากที่พัก“เรื่องนั้น ข้าไม่เถียงท่านหรอกนะ แต่พี่อี้เหมยเป็นสตรี จะให้บุรุษที่มิใช่สามีเข้าไปพบนาง มันดูจะมิเหมาะเอาได้” หญิงสาวแย้งชายหนุ่มขึ้นอย่างมีเหตุผล“เรื่องนั้น ข้าทราบดีขอรับ แต่ท่านลุงต้วนก็อยู่ด้วยทั้งคน อีกอย่าง ข้ามีความสามารถในการตรวจชีพจรอยู่มากทีเดียว เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะนะขอรับ”“นายหญิงไม่ควรขัดคำสั่งนายท่านนะขอรับ ถึงอย่างไร นายหญิงก็มอบยาให้แก่เขาไปแล้ว ก็ถือว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ข้าว่านายหญิงกลับมานอนต่อเถอะขอรับ ข้าไม่อยากเตือนท่านซ้ำ ๆ นะขอรับ”ผู้ติดตามที่มีอำนาจรองจากเยว่คังเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ทว่าจริงจังอยู่ในที ทำให้หรู่อี้นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ต่อหน้าชาวบ้านที่ติดต

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่3.ถอยหลัง

    โม่คังเอ่ยออกมาทั้งที่ใบหน้ายังคงก้มมองของที่อยู่ในมืออีกข้าง ส่วนข้างที่ถือดาบอยู่ชี้ตรงไปยังคนร้ายที่ลอบโจมตีโดยหวังมิให้เขาได้ทันตั้งตัวชายในชุดดำถึงกับผงะถอยหลัง ด้วยเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้‘มิธรรมดาจริง ๆ สมกับเป็นคนของสกุลโม่’ จากชายชุดดำหนึ่งคนบัดนี้ กลับเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน โม่คังถอนหายใจเล็กน้อย ในเมื่อเวลานี้ด้านหน้าคือศัตรู ด้านหลังคือน้ำตก ทางเลือกเดียวในตอนนี้คือสู้มิอาจถอย และที่สำคัญไปกว่านั้น คือตัวเขากำลังถูกเอาเปรียบจากศัตรูในเรื่องจำนวนคนหากสงครามครั้งนี้เขารอดไปได้ เขาจะพาหรู่อี้ไปอยู่บนเขา ใช้ชีวิตท่ามกลางความเงียบสงบห่างไกลวังหลวง เมื่อมีลูก เขาจะมิยอมให้มาใกล้อำนาจแห่งการนองเลือดแบบนี้เป็นอันขาด‘หวังว่าข้าจะทำได้อย่างที่คิดนะ เฮ้อ!’ไม่มีคำพูดใด ๆ อีกจากทั้งสองฝ่าย ทว่าต่างพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว โม่คังรู้ตัวดีว่าเขากำลังตกเป็นรอง แต่จะให้ดึงคนพวกนี้เข้าไปในคณะเดินทางนั้น มันไม่เคยมีในหัวสมองของเขาเลยแม้แต่น้อยโม่คังถอยร่นไปอีกฟากของที่พักเพื่อนำพาศัตรูไปยังทุ่งหญ้ากว้างแทน หากต่อสู้ในที่แคบจะเป็นการเพิ่มความเสียเปรียบให้แก่ตัวเขาเองม

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่2.กองไฟลุกโชน

    โม่คังมองเลยผ่านกองไฟลุกโชน ไปยังร่างสูงที่กำลังหย่อนกายลงนั่งยังอีกด้านของกองไฟ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆโม่คังเอนหันกลับไปยังหรู่อี้ที่นอนหลับตานิ่ง ชายหนุ่มยิ้มละมุน เขารู้ดีว่านางยังไม่ได้หลับอย่างที่ตาเห็น มือหนาเอื้อมไปขยับผ้าคลุมขนสัตว์ผืนใหญ่จนชิดคอของหญิงสาวทุกการกระทำช่างอ่อนโยนต่อสายตาของทุกคนเหลือเกิน ไม่เว้นแม้แต่ผู้มาใหม่อย่างอี้เหมยหญิงสาวมองการกระทำของชายที่นางหมายปองด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะสาวเท้าตรงไปยังรถม้าอันเป็นที่พักของนาง ซึ่งเยว่คังเป็นผู้จัดการให้โดยมิยอมให้นางพักรวมกับหญิงสาวอีกคน“กลับมาแล้วรึ อี้เหมย ลุงเป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก ไยทำอะไรตามใจเช่นนี้”“อย่าบังอาจมาตำหนิข้า จัดการแม่นกน้อยนั่นเสีย ข้ามิอยากเห็นมันอีก”อี้เหมยขยับเข้าใกล้ชายสูงวัย ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาให้ได้ยินกันเพียงสองคน แล้วก้าวขึ้นไปภายในรถม้า โดยไม่คิดเหลียวมองว่าคนที่รับคำสั่งจะรู้สึกเช่นไรหรือเต็มใจรึไม่ สำหรับนาง ทุกอย่างห้ามมีคำว่า ‘ไม่!’ต้วนลี่ทำเพียงมองตามหลังผู้เป็นนายหญิง ก่อนจะหันไปยังทิศทางของเป้าหมาย หญิงสาวผู้มีนามว่าหรู่อี้ถูกล้อมรอบไปด้วยบุรุษทั้งคณะเช่นนี้ เขาจะทำอ

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3   ตอนที่1. ซ้อนแผน

    กลางดึก ณ ลานหินข้างริมธารคณะของโม่คังได้ตั้งกระโจมพัก ชายหนุ่มร่างสูงยืนคู่อยู่กับผู้ติดตามยังโขดหินข้างลำธาร สองมือไขว้หลัง ใบหน้าแหงนมองไปบนท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งแสงดาว“ฝนกำลังจะตก ท่าทางจะหนักเอาการทีเดียว เจ้าช่วยบอกให้ทุกคนเตรียมข้าวของสำคัญเอาไว้ในรถม้าด้วยล่ะ”“ขอรับ”“งูอาจเริ่มออกล่าเหยื่อ ระวังหน่อยก็ดี”“หึ ๆ งูฝูงนี้คงอยากจบชีวิตกระมัง”“ไม่แน่เสมอไป ข้าแค่คาดเดา บางทีอาจถึงที่หมายของฝูงอสรพิษเสียก่อน และที่พวกมันจะออกมารัดเหยื่อเพื่อกลืนลงท้อง ตอนนี้อาจรอเวลาให้เราหลับใหลอย่างสุขใจไปก่อนก็เป็นได้”“เช่นนั้น เราก็หลับให้ยาว ๆ เสียหน่อยนะขอรับ ถึงที่หมายแล้วค่อยเผาดงงูเสียเลยทีเดียว”ชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยอย่างมีความนัยต่อกัน เพราะเวลานี้ ทั้งคู่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่มิน้อย เมื่อถัดไป ณ ชั้นตื้น ๆ ของน้ำตก มีร่างขาวโพลนของสตรีกำลังแหวกว่าย หมุนกายไปมาท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากโคมไฟซึ่งวางอยู่บนโขดหินส่องรำไร นางมิเกรงกลัวสิ่งใดเลยหรืออย่างไรกัน ยามนี้ดึกมากแล้ว ซ้ำยังเป็นเวลาที่สัตว์อันตรายหลายชนิดออกหากิน“มิธรรมดาจริง ๆ”“ท่านเยว่คังไปพักก่อนจะดีกว่าขอรับ ป่านนี้ นาย

DMCA.com Protection Status