Home / วาย / พีขอโทษ Sorry for the misake / บทที่ 1 ไม่รู้ตัว

Share

บทที่ 1 ไม่รู้ตัว

last update Huling Na-update: 2025-04-02 21:17:14

บทที่ 1

ไม่รู้ตัว

แสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์ทอแสงลงมาตกกระทบพื้นถนนและสิ่งปลูกสร้างเบื้องล่าง ตึกแถวมากมายตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ บางตึกสูงเพียงแค่สองชั้นในขณะที่ตึกข้าง ๆ กันนับจำนวนชั้นแทบไม่ไหว บนถนนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ฝุ่นและควันจากรถราทำให้หลายคนในบริเวณนั้นสำลักจนน้ำตาเล็ด เสียงบีบแตร เสียงล้อครูดไปกับถนนดังขึ้นให้ได้ยินเป็นระยะ ผู้คนต่างเร่งรีบทำเวลาในช่วงเช้าของวัน เท้าหลายคู่ย่ำลงพื้นด้วยความเร็วและหนัก การกระทบไหล่กับคนแปลกหน้ามีให้เห็นบ้างประปราย

แต่ไม่มีใครให้ความสนใจมัน

วีรกานต์ มองความชุลมุนข้างล่างนั่นจากสะพานลอยที่มีหลังคาหุ้มไว้เพื่อกันแสงแดด เป็นภาพคุ้นตาเมื่อเขาต้องเดินทางมาทำงานในละแวกนี้เป็นประจำ

วันนี้เขาเลือกใส่เชิ้ตตัวเก่ง มันเป็นเสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อน กระดุมถูกติดทุกเม็ดเว้นแต่สองเม็ดบนสุด เผยให้เห็นไหปลาร้าน่ามองแบบวับแวบ ปลายแขนเสื้อถูกเจ้าของพับขึ้นมาสองทบเพื่อไม่ให้ดูอึดอัดและเป็นทางการจนเกินไป ชายเสื้อข้างหนึ่งถูกยัดอยู่ในกางเกงสแลคสีครีม ส่วนอีกข้างปล่อยยาวลงมา

ผมสีน้ำตาลไหม้อยู่ในทรงทูบล็อก มันถูกหวีอย่างลวก ๆ ก่อนออกมา รับกับดวงหน้าคม สันจมูกโด่งเพียงนิด ริมฝีปากเจือสีชมพูอย่างคนสำอาง ทว่าทุกอย่างบนตัวอัลฟ่าหนุ่มดูน่าหลงใหล เรียกสายตาหวานเยิ้มจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ไม่ยาก

น่ามองจนไม่อาจละสายตา

โดยเฉพาะกลิ่นฟีโรโมนจากเจ้าตัวจาง ๆ ที่ลอยไปตามสายลมจนผู้คนรอบข้างเผลอหันมองซ้ายขวาเพราะคิดว่าแถวนี้คงมีโอเมก้าตัวเล็กน่าเอ็นดูอยู่เป็นแน่

ชากุหลาบ

ดูนุ่มนิ่มไม่สมกับความเป็นอัลฟ่าสักนิด

เขาจับกระเป๋าเป้ให้กระชับ สาวเท้าแบบไม่รีบร้อน มือข้างขวาที่หิ้วถุงใส่แก้วมอคค่าถูกยกขึ้นมาลิ้มลอง ความหอมของกาแฟและช็อกโกแลตที่ผสมกันทำเขายิ้มให้กับรสชาติที่ถูกปาก ดวงตาสีเฮเซลนัทก็เสมองซ้ายทีขวาทีอย่างสำรวจ

อัลฟ่าหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสบายตัวก้าวเข้าไปในห้างสรรพสินค้า จุดหมายคือร้านคาเฟ่บนชั้นสาม บันไดเลื่อนพาเขาขึ้นไปยังชั้นที่หมาย กลิ่นอาหารและกลิ่นกะทิอ่อน ๆ จากขนมไทยลอยมาเตะจมูกของวีรกานต์ เมื่อมองลงไปที่ชั้นแรกก็จะเห็นบูธร้านอาหารต่าง ๆ ตั้งอยู่มากมาย

หอมสังขยาจัง

เขาวางแขนทั้งสองข้างไว้บนราวเหล็ก สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อความเย็นที่สะสมอยู่ในนั้นแทรกผ่านเนื้อผ้าเข้ามาให้รู้สึกเย็นวาบ ทอดมองไปด้านล่างหาสิ่งน่าสนใจ เผื่อว่าหลังจากจัดการธุระงานเสร็จแล้วอาจจะได้ของกินสักสามสี่อย่างติดไม้ติดมือกลับบ้าน

ผ่อนคลายอารมณ์ก่อนเริ่มงานอยู่เพียงครู่ก็ตัดสินใจก้าวเดินต่อเมื่อก้มมองโทรศัพท์แล้วเห็นว่าใกล้ถึงเวลานัด

สิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือการตกแต่งที่มีความเป็นมินิมอลของทางร้าน มันเป็นสีครีมนวล ๆ สบายตา มีแคคตัสหลายต้นในกระถางใบน้อยถูกวางประดับไว้เกือบทุกมุมเพื่อไม่ให้ภายในตัวร้านดูโล่งจนน่าเบื่อเกินไป

เขากวาดสายตามองไปทั่วร้านเพื่อหาคนคุ้นเคย ก่อนจะสังเกตเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังโบกมือให้เขาอยู่

เพียงแวบแรกก็รู้ว่าเป็นอัลฟ่า

วีรกานต์ยิ้มรับก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังโต๊ะที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ก่อนแล้ว

ชายหนุ่มเป็นเด็กมอปลายที่วีรกานต์มองว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ต่างจากครั้งแรกที่รู้จักกันในตอนที่อีกฝ่ายยังอยู่มอต้น

นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองเขาที่กำลังก้าวเดินเข้าไปหา มือหนายกขึ้นเสยเส้นผมสีเดียวกับดวงตาให้เข้ารูปเข้าทรงแล้วยักคิ้วน้อย ๆ ส่งมาให้

“วันนี้มาไวจังครับ” ผู้มาก่อนเปิดบทสนทนาขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังรออยู่นั่งลงที่นั่งฝั่งตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว

“เต้มาไวกว่าพี่อีก” วีรกานต์ตอบรับพร้อมรอยยิ้มอย่างทุกที

“ก็อยากอยู่กับพี่นาน ๆ นี่ครับ” อัลฟ่าเด็กกว่ากล่าวอย่างออดอ้อน ริมฝีปากบึนออกเล็กน้อยพร้อมกับอาการคอตกคออ่อน

“เลิกเจ้าชู้ทีเต้ หยอดตั้งแต่มอต้นแล้วเรา”

“โหย พี่ก็รับรักผมสักทีสิครับ” ชายหนุ่มว่าด้วยเสียงเศร้า

วีรกานต์ไม่ได้สนใจเสียงโอดครวญของเด็กมอปลายตรงหน้า เขาได้ยินจนเบื่อแล้ว คำพูดคำจาหว่านล้อมให้หลงกลคารมเจ้าชู้แบบนี้น่ะ ใช้กับเขาไม่ได้ผลหรอกนะ

ในตอนแรกยอมรับว่าแอบตกใจกับท่าทีของอีกฝ่าย อัลฟ่าสองคนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงหนึ่งสัปดาห์มาบอกรักบอกชอบเขาเสียได้ จริงอยู่ที่ปัจจุบันโลกมันไปไกลมากแล้ว ทุกเพศมีสิทธิ์เลือกคนที่ต้องการใช้ชีวิตคู่ด้วยได้ อัลฟ่าไม่จำเป็นต้องครองคู่กับโอเมก้าเสมอไป

แต่เวลาเพียงสัปดาห์เดียวมันออกจะ...ไวไปหน่อย

ความอึดอัดปกคลุมพื้นที่ในเวลานั้นจนเด็กหนุ่มหน้าเสียจึงรีบแก้ต่างให้ตัวเองว่าเพียงแค่เอ่ยเย้าหยอกตามนิสัยก็เท่านั้น หากทำให้รู้สึกไม่ดีก็ขอให้บอก จะไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจอีก

ตอนนั้นชายหนุ่มตรงหน้ายังเป็นเพียงเด็กมอต้น วีรกานต์จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่กับการวางตัวให้คนรอบข้างรู้สึกว่าตนเองน่ามอง เขาไม่ได้ติดใจอะไรกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเมื่อเด็กชายยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้คิดอะไรเกินเลย

ถือเสียว่าเป็นคู่ซ้อมให้แล้วกันนะ

“ไอ้เด็กนี่ พี่โทรบอกไวน์แล้วอย่ามาร้องนะ”

“ผมตายจริงนะนั่น ไหว้เลยพี่กานต์” ชายหนุ่มทำหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยกขึ้นมาประนมกลางอกไว้ทันทีทันใดเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยถึงบุคคลที่สาม

วีรกานต์เคยพบกับ ไวน์ หรือหนุ่มน้อยโอเมก้าแฟนของเจ้าเด็กคนนี้เพียงไม่กี่ครั้ง ไม่แปลกหากว่าอัลฟ่าอย่างเต้จะกลัวถึงขนาดนั้น

ไวน์ไม่ใช่เพียงโอเมก้า แต่เป็นถึงควีนโอเมก้าที่ปัจจุบันหาได้ยากนัก

อัลฟ่าตัวน้อย ๆ อย่างเขาจึงต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

“วันนี้จะให้สอนอะไร” เขาเอ่ยตัดบทเมื่อเห็นว่าเสียเวลากับเรื่องไร้สาระไปมากแล้ว

“พี่อะ ขี้เกียจเรียนนะเนี่ย” อัลฟ่ามอปลายโอดครวญอีกคราเมื่อนึกถึงเนื้อหาในตำรามากมายที่ต้องจำเพื่อนำเข้าสอบในอีกสามเดือนข้างหน้า

“อย่ามาเต้ แม่เราจ่ายพี่มาแล้ว” วีรกานต์เอ่ยเสียงดุ

“เซ็งอะ” ชายหนุ่มบึนปากบ่นกระปอดกระแปดตามประสา แต่ก็ยอมหยิบหนังสือเรียนที่เตรียมมาส่งให้กับรุ่นพี่ที่ตอนนี้เป็นอาจารย์ติวในหลาย ๆ วิชาของเขา

“ฟิสิกส์เลยหรอ” อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบเปิดหน้าหนังสือเพื่อดูเนื้อหาคร่าว ๆ ก่อนจะเริ่มบทเรียนให้แก่เด็กหนุ่มตรงหน้า

แม้ภายนอกจะดูคล้ายเด็กหลังห้องที่ใครต่อใครต่างบอกว่าไม่เอาเรียน แต่เมื่อเข้าสู่โหมดจริงจัง วีรกานต์ก็สังเกตเห็นได้เสมอว่าอัลฟ่าตรงหน้ามีความตั้งใจมากเพียงใด

ถ้าไม่ตั้งใจก็คงทำในสิ่งที่ชอบไม่ได้

วีรกานต์เองก็เช่นกัน

เขารับติววิชาหลักในหมวดหมู่วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้กับเด็กมอปลายตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ในตอนแรกเขายอมรับว่าหัวหมุนพอสมควร ตารางชีวิตเรียกได้ว่ายุ่งเหยิงเสียยิ่งกว่าสายหูฟังมากกว่าสิบเส้นพันกันเสียอีก เขาทำชีทสรุปหามรุ่งหามค่ำจนหมดสติไปหลายครั้ง เดือดร้อนให้พ่อแม่และเพื่อนข้างบ้านต้องผลัดเวรกันมาดูแลอยู่ไม่ห่าง

โดยเฉพาะเจ้าเพื่อนอัลฟ่าที่ทิ้งงานโปรเจคของคณะเพื่อมาคอยคุมเขาให้เข้านอนตามเวลา

และตัวเองก็หลับไปพร้อมกัน

ผ่านไปเพียงครึ่งปีเขาก็จับจุดได้ ตารางชีวิตเริ่มมีความเป็นระบบระเบียบมากขึ้น พาลให้คนรอบข้างหายใจโล่งปอดไปด้วย

ช่วงเวลาเรียนพิเศษผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า วีรกานต์เห็นว่าแค่นี้ก็มากพอให้เด็กหนุ่มตรงหน้ากุมขมับได้แล้ว จึงเอ่ยบอกให้คนเด็กกว่าพักสมองสักสิบห้านาที อัลฟ่ามอปลายจึงลุกจากเก้าอี้อย่างว่าง่าย ก้าวออกจากร้านสีครีมเพื่อไปเข้าห้องน้ำและหาซื้อขนมว่างอย่างอื่นมาไว้ทาน

อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถโซเชียลไปพลาง ๆ ระหว่างรอเด็กหนุ่มทำธุระ นิ้วชี้เรียวยาวกดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียวที่เขาใช้ติดต่อกับคนอื่นเป็นประจำ เลื่อนลงหาชื่อบุคคลที่ต้องการติดต่อจนเจอ

นายองุ่น

ใครใช้ให้เจ้านั้นมีฟีโรโมนเป็นกลิ่นองุ่นกัน

เขาจิ้มสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์เพื่อต่อสายหาคนที่บุกเข้าห้องเขาเมื่อคืนนี้

“…ครับ” ปลายสายเว้นช่วงไปครู่หนึ่งก่อนจะครางรับเสียงยาน

ยังไม่ตื่นสิท่า

“ไม่ต้องมาครับเลย สายแล้วพี” เขาตอบกลับเพื่อนตัวดีที่ตอนนี้คาดว่าน่าจะยังฝังใบหน้าคมนั้นลงบนหมอนในห้องเขาสักใบ

เสียงขลุกขลักดังเข้ามาให้ได้ยินก่อนจะเงียบไปแล้วน้ำเสียงแหบพร่าจากบุคคลกำลังตื่นก็แทนที่ “ยังไม่เที่ยงเลย”

“พี ลุกเลย” อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบเรียกชื่อคนในสายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเอ่ยต่อ

“ไม่ลุกกานต์เอาคอมไปเผานะ”

เสียงขลุกขลักเกิดขึ้นอีกรอบแต่ครานี้รู้สึกว่ามันจะดูรุนแรงกว่ารอบก่อน เขายิ้มขำเมื่อนึกใบหน้าของเพื่อนอัลฟ่าในตอนนี้ออก ปากหนานั่นคงเบะลงจนสุดเท่าที่จะทำได้ คิ้วทั้งสองก็น่าจะผูกกันเป็นปม น้ำเสียงในประโยคถัดไปคงมีแต่ความขอร้องอ้อนวอนและออดอ้อน

หวงคอมยิ่งกว่าอะไร

“กานต์...ไม่เอาไม่ให้ทิ้ง ตัวทำเงินพีทั้งนั้นเลยนะ” นั่นอย่างไร ผิดคาดเสียที่ไหน

"ไม่ให้ทิ้งก็ลุกสิ ทำงานทำการบ้าง" วีรกานต์เอ่ยเสียงดุให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่พอใจ

“สัญญาก่อน”

“ลุก”

“สัญญา...”

“โอเค ๆ สัญญาแล้ว ทีนี้ก็ลุก” วีรกานต์ลอบถอนหายใจกับความออดอ้อนของเพื่อนอัลฟ่าคนสนิท หากไม่ตัดบทตอบรับคำสัญญาสักที เห็นทีคงคุยเรื่องนี้กันอีกนานเป็นนาทีแน่

เซ้าซี้เก่งที่หนึ่งเลยนายองุ่น

อัลฟ่าชากุหลาบไล่เพื่อนให้ลุกจากเตียงมาใช้ชีวิต เขาเอ่ยเสียงดุอีกครั้งเมื่อเพื่อนตัวดียังโอดครวญไม่หายที่ถูกปลุกก่อนเวลาทั้ง ๆ ที่งานของเจ้าตัวมีกำหนดส่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่คนรับงานนี่สิ ทำตัวเอ้อระเหยจนน่าหมั่นไส้

คอยดูเถอะ ถูกลูกค้าติกลับมาก็จะทำเสียงอ่อยเสียงอ่อนให้ฟังอย่างทุกที

จะตีให้เขียว

วีรกานต์กำชับกับเพื่อนอัลฟ่าอีกสองสามประโยคก่อนจะจบบทสนทนาไป พอดีกับที่เด็กหนุ่มมอปลายเดินกลับมาพร้อมขนมทานเล่นในมือ

“พี่กานต์ เดี๋ยววันนี้ผมกลับไวหน่อยนะ ดูเหมือนไวน์จะไม่สบาย” เด็กมอปลายเอ่ยบอกเขาทันทีที่นั่งลง

“อ้าว กลับก่อนไหม เนื้อหาหลักเหลือแค่สองอย่างเอง เดี๋ยวพี่ส่งสรุปให้ก็ได้นะ เต้จะได้กลับไปดูแลไวน์” วีรกานต์บอกด้วยน้ำเสียงใจดีพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย

“รบกวนพี่ไหมอะ”

“ไม่หรอก พี่มีไฟล์สรุปทุกเรื่องอยู่แล้ว แค่ขอเวลากลับบ้านไปหาไฟล์ก่อนเดี๋ยวพี่ส่งให้”

“น่ารักว่ะ ให้จุ๊บเหม่งที” ไม่ว่าเปล่า อัลฟ่าตรงหน้าลุกขึ้นยืนพรวดเดียวจนวีรกานต์ตกใจรีบเอนกายหนีไปด้านหลังโดยอัตโนมัติ ก่อนจะถลึงตาใส่เด็กหนุ่มอย่างคาดโทษ

จริงจังได้ไม่นานจริง ๆ เด็กคนนี้

“ไอ้เต้”

“ไอ้เลยว่ะ ฮ่า ๆ ๆ ” อัลฟ่ามอปลายทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขายกมือสองข้างขึ้นขนาบข้างตัวอย่างยอมแพ้

“งั้นผมกลับนะ อย่าลืมไฟล์สรุปผมล่ะ”

พวกเขาเอ่ยร่ำลากันอยู่สักพักก็แยกย้าย เต้เดินนำออกไปก่อนเพราะรีบร้อนใจเมื่อแฟนหนุ่มโทรมาบอกให้แวะร้านขายยา เขายกมือไหว้รุ่นพี่ลวก ๆ แล้วรีบแจ้นออกไปอย่างเร็ว ส่วนวีรกานต์ย้ายตัวเองลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้นล่างโดยไม่ลืมจ่ายค่าขนมและน้ำให้กับทางร้าน

อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบเดินทอดน่องไปตามบูธร้านค้าต่าง ๆ แวะร้านนี้เข้าร้านนั้นเป็นว่าเล่น ก่อนจะฉุกคิดได้ว่าของที่อยู่ในมือนั้นมากเกินความตั้งใจในตอนแรกไปมาก

วีรกานต์โดยสารรถสาธารณะประจำทางเพื่อไปลงที่ปากซอยบ้านก่อนจะต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามา ในเวลานี้ผู้คนที่ใช้รถสาธารณะไม่ได้แน่นขนัดมากนักเนื่องด้วยเป็นเวลาบ่ายคล้อย เขาจึงได้ที่นั่งรับลมมองดูความวุ่นวายในเมืองใหญ่ไปพลาง

โดยปกติแล้ววีรกานต์จะกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาเกือบเย็น แต่ในวันนี้เขากลับก่อนเวลาไปหลายชั่วโมงทีเดียว ขนมและอาหารต่าง ๆ ที่หิ้วติดมือมาถูกนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น

บรรยากาศภายในบ้านเงียบสงบเพราะผู้ใหญ่ของบ้านทั้งสองท่านเพิ่งจะบินไปเที่ยวยุโรปเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้จึงมีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่วีรกานต์เปิดมันไว้เมื่อครู่เพื่อไม่ให้ตัวบ้านดูวังเวงจนเกินไป

เขาสาวเท้าขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อเตรียมตัวไปชำระล้างร่างกายหลังจากออกไปใช้ชีวิตกับฝุ่นควันมาเกือบครึ่งวัน แต่ไอเย็นที่ลอดผ่านบานประตูห้องนอนทำให้วีรกานต์ชะงักฝีเท้า พื้นกระเบื้องยางลายไม้สีน้ำตาลมีความเย็นหลงเหลือ บ่งบอกว่าเครื่องปรับอากาศภายในห้องยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่

เจ้าเพื่อนตัวดีไม่ยอมปิดให้อีกแล้วหรือ

ในตอนเช้าที่วีรกานต์เตรียมตัวออกไปข้างนอก เขาเพียงเพิ่มอุณภูมิขึ้นอีกหนึ่งองศาเพื่อไม่ให้คนที่ยังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มนวมผืนหนาหนาวสะท้านจนเกินไป และเพื่อไม่ให้เจ้าอัลฟ่านั่นนอนกินบ้านกินเมืองไม่ยอมทำการทำงาน

แต่ดูท่าแล้ว เขาคงใจดีเกินไปหน่อย

อัลฟ่าชากุหลาบเอื้อมมือไปสัมผัสลูกบิดสีเงินแผ่วเบาแล้วหมุนเปิดบานประตูออก ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอยมากระทบใบหน้าพอดิบพอดี ความฉ่ำเย็นที่ได้รับทำให้วีรกานต์สันนิษฐานได้ไม่ยากเลยว่าอุณหภูมิภายในห้องคงต่ำกว่าที่เขาปรับไว้ไม่น้อยกว่าสององศา

ไม่ต้องกวาดสายตาให้เสียเวลา ดวงตาสีเฮเซลนัทเป็นประกายวาวโรจน์ทันทีเมื่อพบร่างกำยำของอัลฟ่าม้วนตัวรวมกับผ้าห่มนวมผืนหนาจนกลายเป็นก้อนขยุกขยิกก้อนหนึ่ง ใบหน้าที่โพล่พ้นผืนผ้าออกมาแสดงออกถึงความสบายใจ ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ริมฝีปากหยัดยิ้มขึ้นที่มุมปากน้อย ๆ

หลับสบายมากเลยใช่ไหม

“นายพีรยุทธ์!!!”

เสียงพูดคุยกันระหว่างบุคคลหลายคนดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทพาให้รู้สึกหงุดหงิดใจอยู่บ้าง ในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนเดินขวักไขว่คาดคะเนจากสายตาแล้วคงเฉียดพันคนเห็นจะได้

พีรยุทธ์ ไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองเศรษฐกิจแห่งนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าที่แห่งนี้นั้นช่วยต่อชีวิตให้คนทำงานฟรีแลนซ์แบบเขาได้มากทีเดียว

อัลฟ่าร่างสูงอยู่ในชุดลำลองสบายตัวด้วยเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีเทา สวมคู่กับกางเกงสีดำขาบานและรองเท้าผ้าใบสีตัดกัน จิวเวอรี่เล็กน้อยอย่างสร้อยคอสีเงินและต่างหูแบบห่วงถูกนำมาใส่เป็นเครื่องประดับเพื่อให้เข้าคู่กัน จมูกโด่งและริมฝีปากเคลือบลิปมันบางเบา

ประกอบกับเส้นผมสีดำสนิทที่ปรกลงมาปิดบังหน้าผากและดวงตาคู่คมสีเดียวกันยิ่งขับให้เจ้าตัวดูน่าเกรงขามสำหรับผู้คนที่เดินผ่านไปมา

ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ แผ่นหลังกว้างและผายออก ทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าผู้ชายภายใต้เสื้อโอเวอร์ไซส์คนนี้เป็นอัลฟ่า อีกทั้งกลิ่นฟีโรโมนที่แผ่ออกมาบางเบาทำหน้าที่เสมือนยาเสน่ห์หลอกล่อให้เหล่าโอเมก้าชายหญิงหรือแม้กระทั่งอัลฟ่าด้วยกันเองหันตามความหอมหวานและส่ายสายตามองหาเจ้าของกลิ่น

กลิ่นองุ่น...มันหอมหวานเสียจนเกือบห้ามใจไม่อยู่

พีรยุทธ์เดินมาหยุดยืนอยู่ที่ระเบียงของชั้น หันหลังพิงกับราวเหล็กกั้นพลางยกแขนขึ้นท้าวแล้วเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย เขายิ้มกริ่มอยู่ในใจเมื่อผู้คนรอบตัวเริ่มหันมองหาที่มาของกลิ่นฟีโรโมนหอมหวานแต่เมื่อได้สบตากับอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นก็จำต้องรีบหันหนีซ่อนความเขินอายที่ถูกจับได้ว่าแอบมองเจ้าตัว เขาทำเพียงปล่อยฟีโรโมนบางเบาของตัวเองอย่างจงใจเพื่อเช็คประสิทธิภาพก็เท่านั้น

ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจอยู่ไม่น้อย

“เจอที่ถูกใจบ้างไหมล่ะ” น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นมาจากทางด้านซ้ายเรียกให้เขาหันไปมองพร้อมรอยยิ้มให้เพื่อนอัลฟ่า เป็นวีรกานต์ที่เดินขนาบคู่มากับเจ้าเด็กอัลฟ่ามอปลาย

สองอัลฟ่าก้าวเดินอย่างเชื่องช้าจนมาหยุดยืนที่ด้านหน้าเพื่อนตัวดี เขาหันซ้ายแลขวาเผื่อว่าจะเจอคำตอบของคำถามที่ถามออกไปเมื่อครู่แต่คิดว่าผู้คนรอบ ๆ นี้ไม่ใช่สเป๊กของเพื่อนเขาเลยสักคนจึงหันกลับมาสบตากับเพื่อนอัลฟ่าพร้อมเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถามว่า คนไหน?

“เจอ แต่เขาไม่สน” พีรยุทธ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาหยุดปล่อยฟีโรโมนหว่านเสน่ห์ไปสักพักแล้ว

“คนไหนหรอพี่” เป็นอัลฟ่ามอปลายที่เอ่ยถามด้วยสีหน้ายียวน

กวนตีนตั้งแต่เด็กจนโตเลยไอ้นี่

“เรื่องของผู้ใหญ่”

“โหไรวะ ห่างกันแค่ห้าปีเองไหม” เจ้าเด็กอัลฟ่าโอดครวญ ย่นจมูกหน่อย ๆ อย่างขัดใจที่ไม่อาจแกล้งแหย่รุ่นพี่ได้

ใครบ้างที่มองไม่ออกว่าคนที่อัลฟ่ากลิ่นองุ่นปักใจชอบพอคือใคร ถึงแม้รุ่นพี่จะไม่เคยเอ่ยปากบอกความรู้สึกที่มีให้คนนอกอย่างเขาได้รับรู้แต่มีหรือที่อัลฟ่ามอปลายคนนี้จะมองไม่ออก มีก็แต่เจ้าตัวที่ไม่รู้เรื่องอะไร สายตาหรือการกระทำก็ชัดออกนอกหน้าขนาดนั้น

ทำไมถึงไม่รู้ตัวสักที

"แล้วสรุปคนไหนเนี่ย ไม่เห็นสักคน" อัลฟ่าชากุหลาบถามย้ำอีกครั้งด้วยความอยากรู้ หันมองซ้ายขวาหลายทีแล้วแต่ก็ไม่เห็นโอเมก้าคนไหนที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูเข้าตาเพื่อนของเขาสักคน

แล้วมันถูกใจคนไหนวะ

"ก็คนที่อยู่ข้างหน้าไง" เจ้าเด็กมอปลายกอดอกพลางเอ่ยเสียงหยอกเย้า ดวงตาเสมองออกไปด้านข้าง มุมปากหยักยิ้มขึ้นเพียงนิดเมื่อหางตาเห็นว่าอัลฟ่าร่างหนาถลึงตาใส่เขาไปทีอย่างคาดโทษพร้อมกับทำปากขมุบขมิบว่า หุบปาก

มีความสุขแล้ววันนี้

วีรกานต์เอี้ยวตัวหันหลัง กวาดสายตามองหาบุคคลปริศนาอีกครา จนไปสะดุดที่โอเมก้าชายร่างเล็กในชุดนักเรียนเอกชน ดูจากส่วนสูงแล้วคงเพิ่งพ้นมัธยมต้นมาหมาด ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู ริมฝีปากเป็นกระจับฉ่ำลิปก็ดูน่ารักไม่หยอก ต้องเป็นคนนี้แน่นอน

"นี่เล็งเด็กสิบหกสิบเจ็ดเลยหรอ" อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยถามพลางเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาฉายแววหยอกล้อเหมือนเด็กมอปลายเมื่อครู่ หากแต่อวัยวะภายในกลับเต้นระส่ำขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ มันไม่ได้นึกสนุกชอบใจเหมือนที่แสดงออกผ่านดวงตาสีคาราเมลเลยสักนิด

กลับกัน เขารู้สึกโดดเดี่ยวราวกับกำลังถูกมองข้าม ทำไมกันหากเพื่อนได้พบเจอคนที่ถูกตาถูกใจเขาก็ควรจะยินดีด้วยไม่ใช่หรือ ทำไมถึงต้องรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ข้างหลังแบบนี้ด้วย วีรกานต์เองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

พีรยุทธ์ขมวดคิ้วจนแทบเป็นปมเมื่อได้ฟัง ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองเพื่อนสนิทด้วยความไม่เข้าใจ แอบเคืองนิดหน่อยที่อัลฟ่าชากุหลาบก็เห็นด้วยกับคำของไอ้เด็กนั่นแล้วยังใส่ร้ายเขาอีก

ตัวเขาเองยังไม่ได้มองใครอื่นเลยสักคน ยิ่งเป็นเด็กที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะแล้วเขายิ่งไม่ได้สนใจ ไม่อยากเอาตัวเข้าไปพัวพันกับเรื่องพรากผู้เยาว์เท่าไหร่ "มั่วแล้วกานต์ ไม่ใช่ใครทั้งนั้นแหละ อย่าไปฟังไอ้เต้มันมาก"

บุคคลที่ถูกกล่าวถึงแอบเบ้ปากลงเพียงครู่อย่างหมั่นไส้

"กลับกันครับ" อัลฟ่ากลิ่นองุ่นคลายวงแขนที่ประสานกันอยู่บนอกออก แล้วจับแขนของเพื่อนอัลฟ่าให้หันหลัง ออกแรงดันไปด้านหน้าเพื่อเตรียมตัวกลับไปพักผ่อนเพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว วีรกานต์เองก็ไม่ได้คิดขัดขืนเพื่อนแม้แต่น้อยจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

"อ้าวพี่ แล้วผมอะ"

"มาเองก็กลับเองดิวะ"

#พีขอโทษ

บอกได้คำเดียวว่า "อื้ม"

TW : dao_jun000

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 2 เดินทาง

    บทที่ 2เดินทางยามเย็นในเมืองหลวงเป็นที่รู้กันดีว่าการจราจรต้องติดขัดอย่างแน่นอน สองเพื่อนอัลฟ่ากำลังนั่งมองสัญญาณไฟด้วยใจจดจ่อ มันขึ้นเป็นสีเขียวมาครึ่งนาทีแล้วหากแต่รถยนต์คันข้างหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยสักนิด ผ่านไปเกือบสองนาทีจึงเริ่มมีการเคลื่อนไหวแต่สัญญาณไฟจราจรดันกลายเป็นสีแดงไปแล้วเห็นทีว่าคงต้องรอต่อไปภายในห้องโดยสารมีอัลฟ่าเจ้าของฟีโรโมนกลิ่นองุ่นเป็นสารถีขับรถโดยมีเพื่อนสนิทอย่างอัลฟ่าชากุหลาบนั่งอยู่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสาร วีรกานต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่าย เอนหัวพิงกระจกรถมองสายฝนเม็ดเล็กที่ร่วงหล่นลงมากระทบกับพื้นถนน เขาเบื่อที่ต้องนั่งรอสัญญาณไฟจราจรอยู่แบบนี้ทุกวัน อย่างต่ำก็คงสักชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายพีรยุทธ์สังเกตเห็นคนข้างกายยกมือขึ้นลูบแขนปอย ๆ อาจจะทำเพื่อระบายความหนาวเย็นทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวเก่ง เขาแอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดูอยู่ในใจอัลฟ่ากลิ่นองุ่นเอื้อมมือมาที่หน้าคอนโซลเพื่อเบาแอร์ลงก่อนจะเอี้ยวตัวไปด้านหลังหยิบผ้าห่มสีเรียบจากกล่องเก็บของที่วางอยู่บนที่พักเท้าของเบาะหลังมาให้อัลฟ่าเพื่อนสนิทได้คลุมตัวคลายหนาวในช่วงเวลาฝน

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 3 ดูดาวบนเกาะ

    บทที่ 3ดูดาวบนเกาะดวงอาทิตย์กำลังบอกลาขอบฟ้าเหลือไว้เพียงแสงสีส้มแกมน้ำเงินเข้ม เสียงนกแขวกดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะแต่เพียงแผ่วเบา พวกมันกำลังออกล่าอาหารมื้อค่ำก่อนกลับรังบนต้นไม้ใหญ่ในระแวกเขื่อนสายลมเย็นในช่วงค่ำพัดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่ที่เปิดแง้มไว้เข้ามา ปลุกให้สองอัลฟ่าบนฟูกสีสะอาดรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราวีรกานต์ปรือตามองลอดผ่านหน้าต่างออกไป ท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปมากจากความทรงจำครั้งล่าสุดบ่งบอกว่าในขณะนี้เป็นเวลาเย็นย่ำแล้วเขาปิดปากหาวหวอดไปทีจนมีน้ำสีใสฉ่ำรอบดวงตา ตั้งใจว่าจะลุกออกไปชำระล้างร่างกายเสียก่อนที่อากาศภายนอกจะอุณหภูมิต่ำลงมากกว่านี้อัลฟ่าชากุหลาบกับอากาศหนาวเย็นไม่ใช่สิ่งคู่กันแต่ก่อนจะยันตัวขึ้นก็ต้องจัดการพันธนาการที่โอบรอบเอวนี้ไว้เสียก่อนจากตอนแรกที่ต่างคนต่างเป็นฝ่ายโอบกอดกันและกันก่อนเข้าสู่นิทรา กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มีเพียงอัลฟ่าผมสีคาราเมลเท่านั้นที่ถูกวงแขนของเพื่อนตัวดีโอบรัดร่างกายเอาไว้รัดแน่นเป็นงูเสียด้วย“พี เย็นแล้ว” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยกระซิบบุคคลด้านหลังหากแต่ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงการขยับตัวขยุกขยิกเล็กน้อยและเสียงครางฮึมฮัมเป็นสัญญาณตอบกลับมา

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน

    บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน_______หลังจากเสร็จสิ้นการดูดาวเมื่อคืนนี้ สองอัลฟ่าก็พากันกลับไปที่จุดนัดพบกับคุณลุงเบต้าและพบว่าชายชราตั้งท่ารอคนหนุ่มทั้งคู่อยู่ก่อนแล้วแต่อาจจะด้วยอากาศที่เย็นสบายตัวและเป็นช่วงเวลาใกล้เข้าวันใหม่เต็มทีทำให้ฝ่ายของอัลฟ่าชากุหลาบเกิดอาการสัปหงกอยู่หลายครั้งจนพีรยุทธ์สังเกตเห็นเลยคว้าเอาตัวคนข้างกายมาไว้ในอ้อมกอดหวังให้อีกคนได้หลับนอนอย่างสบายไม่วายถูกคุณลุงเบต้าที่นั่งบังคับหางเสืออยู่ด้านหลังเอ่ยแซวว่าเป็นคู่รักที่หวานกันเสียจริง ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นหูแดงเถือกลนลานรีบปฏิเสธในทันทีว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้นแต่อย่างไรเสียในสายตาของชายชราที่ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปีก็ดูออกว่าคนทั้งคู่มีใจให้แก่กันอัลฟ่าแล้วอย่างไรโลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้วพีรยุทธ์ปฏิเสธคุณลุงไปอีกรอบว่ามีเพียงตนที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว ทำเอาชายชราขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมรามือไป แต่ภายในใจยังคงครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากกัน คนนอกอย่างเขายังมองรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีใจแต่เอาเถอะ...คนแก่จะไม่ยุ่งเรื่องของคนหนุ่มเมื่อมาถึงเรือนแพของสองอัลฟ่า พีรยุทธ์เอ่ยเรียกอัลฟ่า

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์

    บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์__________หลังจบทริปพักผ่อนที่เขื่อนต่างจังหวัด สองอัลฟ่าก็เดินทางกลับเมืองหลวงในช่วงสายของวันถัดมา วีรกานต์ถูกพ่อแม่เอ็ดเสียยกใหญ่ว่าไปไหนไม่ยอมบอกกล่าว แต่ก็ได้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นมาช่วยพูดให้ว่าเป็นตัวเขาเองที่ชวนอีกฝ่ายออกนอกสถานที่ไปหลายวันเมื่อการพักผ่อนจบลงก็ถึงคราวต้องกลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิมอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขานั่งตรวจการบ้านของนักเรียนตัวเองมาตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเลยมื้อเที่ยงมามากโข แม้จะรู้สึกหิวอยู่บ้างแต่เขาก็ยังไม่ยอมย้ายตัวเองออกจากห้องนอนเสียทีงานค้างเป็นกอง ไม่น่าหนีเที่ยวเลยวีรกานต์วีรกานต์ถอนหายใจ หากเขาพูดประโยคนี้ให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นได้ยินมีหวังโดยงอนเป็นแน่ แต่ก็คงนั่งน้ำลายบูดอยู่คนเดียวสักสามชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ สี่ชั่วโมงเป็นอย่างมากก็จะกลับมาพูดคุยกับเขาดังเดิมเขาหันมองด้านขวามือที่เป็นประตูกระจกใสกันไว้ระหว่างห้องนอนของเขาและพีรยุทธ์ มันมีผ้าม่านสีขาวคลุมไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและตาข่ายดักฝันสีเดียวกันห้อยไว้ประตูนั้นไม่เปิดมาสองวันแล้วตั้งแต่กลับมาเขาคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะงานท่วมหัวไ

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ

    บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ_______ไม่มีทางอัลฟ่าไม่มีทางมีเขี้ยวจริงอยู่ว่าบรรพบุรุษมีเชื้อนักล่าอย่างหมาป่าแต่พวกเขาไม่ได้ฝากสัญลักษณ์ที่น่าเกรงขามนี้ไว้ให้ลูกหลานหรือใครหน้าไหนทั้งนั้นเว้นเสียแต่...เชื้อสายบริสุทธิ์อีนิกม่า....ต้องไม่ใช่สิในขณะที่วีรกานต์กำลังจมอยู่กับความคิดถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทิ้งน้ำหนักตัวลง แนบใบหน้าดุดันไปกับแผงอกของเขานั่นทำให้วีรกานต์รู้ว่าพีรยุทธ์ยังคงมีสติแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตามอัลฟ่าชากุหลาบเม้มปากแน่น พยายามควานหาเสียงของตนให้เจอเพื่อถามไถ่อีกฝ่าย หากแต่เสียงคำรามแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามในลำคอของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทำให้วีรกานต์หายใจติดขัดไปชั่วครู่ ไม่กล้าปริปากเอ่ยสิ่งใดออกไปอย่างนึกกลัวข้อมือหนาของอัลฟ่าชากุหลาบยังคงถูกตอกตรึงไว้แน่นบนที่นอนด้วยมือที่ใหญ่กว่าทั้งสองข้าง เขารู้สึกได้ถึงแรงที่ผ่อนลงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเหมือนเมื่อครู่ที่ผ่านมาวีรกานต์เม้มปากแน่นอีกครั้งอย่างประมาท ก้อนเนื้อภายในอกเต้นระส่ำเพราะนึกหวั่นเกรงอีกฝ่าย เขาสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติและพยายามหาเสียงตัวเอ

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (1/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศหลังกลับจากห้องนอนของพีรยุทธ์ อัลฟ่าชากุหลาบก็คล้ายว่าจะอยู่ไม่สุข เขานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนนุ่มเพราะกลิ่นฟีโรโมนของอีกคนมันกระจายเล็ดลอดเข้ามาวีรกานต์พยายามทำเป็นไม่สนใจกลิ่นหอมนั้น ผ้าห่มนวมผืนหนาถูกยกขึ้นคลุมตั้งแต่ส่วนหัวถึงปลายเท้าเพื่อไม่ให้ร่างกายอัลฟ่าของตนรับรู้ถึงกลิ่นหอมยั่วยวนของพีรยุทธ์นี่มันบ้ามากพีรยุทธ์มีอาการรัทที่รุนแรงกว่าที่เคยเป็น เขาเองก็เป็นอัลฟ่าจึงรู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้มิหนำซ้ำเขายังรู้สึกถึงอารมณ์ร้อนวูบวาบในช่องท้องเพราะสูดดมกลิ่นไวน์องุ่นของอัลฟ่าที่กำลังอยู่ในช่วงรัทเข้าปอด สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ลำคอยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำพาให้ร่างกายเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุนี่เขามีอารมณ์กับฟีโรโมนของอัลฟ่าด้วยกันงั้นหรือบ้าไปแล้วในขณะที่กำลังถกเถียงกับตัวเองอยู่ เสียงกึกกักที่บานประตูกระจกก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของวีรกานต์ให้โผล่ศีรษะออกมานอกผ้าห่มแล้วชะเง้อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเขารับรู้เพียงการสั่นไหวของประตูเล็กน้อยเท่านั้นเพราะมีม่านสีขาวปิดบังการเคลื่อนไหวของอีกฝั่งไว้ อัลฟ่าชากุหลาบจึงคิดว่า

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (2/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศ (ต่อ)________“จูบกานต์” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยเสียงแผ่วราวกับกระซิบชิดริมฝีปากหนา ค่อย ๆ ขยับกายเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วใช้ปากงับเบา ๆ“กานต์...” พีรยุทธ์เอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสนิทอย่างเลื่อนลอย เขามองสบเข้าไปในนัยน์ตาสีเฮเซลนัทก่อนจะพบว่าในแววตาคู่นั้นไม่ปรากฏแววล้อเล่นเลย“จูบสิ” วีรกานต์ท้าทายอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อถูกอีกฝ่ายเชิญชวนคนที่เขาแอบรักมาแสนนานกำลังบอกให้เขาประทับจูบลงไปนี่มันเกินคาดไปมากเขาฝันอยู่หรือเปล่าวีรกานต์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนตรงหน้ายังมีท่าทีเฉยเมยแต่ดวงตากลับแสดงออกมาว่าเจ้าตัวตื่นเต้นและตกใจจนเห็นได้ชัด “ทำไมไม่...”ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยจบประโยค ริมฝีปากหนาของอัลฟ่ากลิ่นองุ่นก็ทาบทับลงมาบนอวัยวะเดียวกันด้วยระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรแม้จะตกใจอยู่บ้างที่ถูกจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัวทั้ง ๆ ที่เป็นคนเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายเอง แต่เขาก็ตอบรับสัมผัสของพีรยุทธ์ได้ดีจนคนมอบจูบครางเครือในลำคออย่างพอใจริมฝีปากหนาขบเม้มกลีบปากทั้งบนและล่างของอัลฟ่าชากุหลาบอย่างคนกระหาย ดูดดึงจนได้ยินเสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังก้องห้องสี่เหลี่ยมฟีโรโมนกลิ่นองุ่นแล

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 8 รู้สึกผิด

    บทที่ 8 รู้สึกผิด_____เสียงโครมครามของท้องฟ้าดังสนั่นในยามสายของวัน เมฆสีดำสนิทเคลื่อนลงต่ำบดบังแสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์สายฝนสาดกระหนำเทลงมาอย่างหนัก หยดน้ำเม็ดใหญ่ตกกระทบหน้าต่างส่งเสียงดังเปาะแปะ ไม่รู้ว่าพายุเข้าหรือไม่เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบติดตามข่าวสารมากนักพีรยุทธ์เปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาที่ปรากฏแววความอ่อนล้ากวาดมองไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม ในหัวนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืนพลันความรู้สึกผิดก็ตีตื้นขึ้นมาจนจุกลำคออัลฟ่ากลิ่นองุ่นยังคงนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงนอนสีขาวข้างกายมีวีรกานต์ที่เป็นเจ้าของห้องกอดก่ายร่างหนาของตนอยู่รอยกุหลาบสีช้ำยังมีให้เห็นเป็นจ้ำ ๆ ตามเรือนร่าง อีกทั้งรอยแดงจากการบีบเค้นก็ยังหลงเหลือให้เห็น ยิ่งพาให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่หลังเสร็จกิจเมื่อคืนไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ วีรกานต์ก็หมดสติฟุบหลับไปทันที เขารีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปหาอุปกรณ์มาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนบนเตียงได้นอนหลับอย่างสบายตัว เสื้อยืดและกางเกงถูกสวมให้อัลฟ่าชากุหลาบคลายความหนาวแล้วห่มผ้าห่มนวมทับอกให้อีกชั้นหนึ่งก่อนจะตระกองกอดร่างที่หลับใหลนั่นไว้ทั้งคืนรอยแด

    Huling Na-update : 2025-04-02

Pinakabagong kabanata

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 9 อัลฟ่า...ฮีท?

    บทที่ 9 อัลฟ่า...ฮีท?_______กานต์จะยังโกรธเขาอยู่ไหมเป็นเวลากว่าสองวันที่พีรยุทธ์หมกตัวอยู่ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมของตนไม่ออกไปพบปะใครเว้นแต่ตอนกินข้าว ซึ่งผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ได้คิดว่ามันผิดสังเกตแต่อย่างใด เพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดเป็นเวลาสองวันที่เขานอนไม่ลง แม้จะรู้สึกง่วงงุนจนตาแทบปิดแต่ก็ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ข่มตาหลับได้ป่านนี้แล้ววีรกานต์จะเป็นเช่นไรบ้างตามร่างกายยังมีรอยแดงช้ำอยู่หรือไม่แล้วจะยังโกรธเคืองกันอยู่หรือเปล่าทุก ๆ คำถามล้วนต้องการคำตอบจากคน ๆ เดียว ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่พีรยุทธ์นั่งกอดเข่าพิงขาเตียง ดวงตาสีรัตติกาลที่เคยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเสมองประตูกระจกที่กั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองเอาไว้ด้วยอาการเม้มปากแน่น เนื่องจากมีผ้าม่านสีขาวปิดทับไว้อีกชั้นจากฝั่งของวีรกานต์ทำให้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนภายในห้องนั้นแต่กลิ่นชากุหลาบของวีรกานต์ก็จางลงไปมากจนแทบไม่รู้สึกถึงฟีโรโมนคงอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้านแล้ว...วีรกานต์ได้ล็อกประตูไว้หรือไม่ความคิดกระแสหนึ่งที่แล่นเข้ามาในหัวทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ ใจหน

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 8 รู้สึกผิด

    บทที่ 8 รู้สึกผิด_____เสียงโครมครามของท้องฟ้าดังสนั่นในยามสายของวัน เมฆสีดำสนิทเคลื่อนลงต่ำบดบังแสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์สายฝนสาดกระหนำเทลงมาอย่างหนัก หยดน้ำเม็ดใหญ่ตกกระทบหน้าต่างส่งเสียงดังเปาะแปะ ไม่รู้ว่าพายุเข้าหรือไม่เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบติดตามข่าวสารมากนักพีรยุทธ์เปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาที่ปรากฏแววความอ่อนล้ากวาดมองไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม ในหัวนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืนพลันความรู้สึกผิดก็ตีตื้นขึ้นมาจนจุกลำคออัลฟ่ากลิ่นองุ่นยังคงนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงนอนสีขาวข้างกายมีวีรกานต์ที่เป็นเจ้าของห้องกอดก่ายร่างหนาของตนอยู่รอยกุหลาบสีช้ำยังมีให้เห็นเป็นจ้ำ ๆ ตามเรือนร่าง อีกทั้งรอยแดงจากการบีบเค้นก็ยังหลงเหลือให้เห็น ยิ่งพาให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่หลังเสร็จกิจเมื่อคืนไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ วีรกานต์ก็หมดสติฟุบหลับไปทันที เขารีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปหาอุปกรณ์มาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนบนเตียงได้นอนหลับอย่างสบายตัว เสื้อยืดและกางเกงถูกสวมให้อัลฟ่าชากุหลาบคลายความหนาวแล้วห่มผ้าห่มนวมทับอกให้อีกชั้นหนึ่งก่อนจะตระกองกอดร่างที่หลับใหลนั่นไว้ทั้งคืนรอยแด

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (2/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศ (ต่อ)________“จูบกานต์” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยเสียงแผ่วราวกับกระซิบชิดริมฝีปากหนา ค่อย ๆ ขยับกายเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วใช้ปากงับเบา ๆ“กานต์...” พีรยุทธ์เอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสนิทอย่างเลื่อนลอย เขามองสบเข้าไปในนัยน์ตาสีเฮเซลนัทก่อนจะพบว่าในแววตาคู่นั้นไม่ปรากฏแววล้อเล่นเลย“จูบสิ” วีรกานต์ท้าทายอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อถูกอีกฝ่ายเชิญชวนคนที่เขาแอบรักมาแสนนานกำลังบอกให้เขาประทับจูบลงไปนี่มันเกินคาดไปมากเขาฝันอยู่หรือเปล่าวีรกานต์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนตรงหน้ายังมีท่าทีเฉยเมยแต่ดวงตากลับแสดงออกมาว่าเจ้าตัวตื่นเต้นและตกใจจนเห็นได้ชัด “ทำไมไม่...”ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยจบประโยค ริมฝีปากหนาของอัลฟ่ากลิ่นองุ่นก็ทาบทับลงมาบนอวัยวะเดียวกันด้วยระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรแม้จะตกใจอยู่บ้างที่ถูกจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัวทั้ง ๆ ที่เป็นคนเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายเอง แต่เขาก็ตอบรับสัมผัสของพีรยุทธ์ได้ดีจนคนมอบจูบครางเครือในลำคออย่างพอใจริมฝีปากหนาขบเม้มกลีบปากทั้งบนและล่างของอัลฟ่าชากุหลาบอย่างคนกระหาย ดูดดึงจนได้ยินเสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังก้องห้องสี่เหลี่ยมฟีโรโมนกลิ่นองุ่นแล

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (1/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศหลังกลับจากห้องนอนของพีรยุทธ์ อัลฟ่าชากุหลาบก็คล้ายว่าจะอยู่ไม่สุข เขานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนนุ่มเพราะกลิ่นฟีโรโมนของอีกคนมันกระจายเล็ดลอดเข้ามาวีรกานต์พยายามทำเป็นไม่สนใจกลิ่นหอมนั้น ผ้าห่มนวมผืนหนาถูกยกขึ้นคลุมตั้งแต่ส่วนหัวถึงปลายเท้าเพื่อไม่ให้ร่างกายอัลฟ่าของตนรับรู้ถึงกลิ่นหอมยั่วยวนของพีรยุทธ์นี่มันบ้ามากพีรยุทธ์มีอาการรัทที่รุนแรงกว่าที่เคยเป็น เขาเองก็เป็นอัลฟ่าจึงรู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้มิหนำซ้ำเขายังรู้สึกถึงอารมณ์ร้อนวูบวาบในช่องท้องเพราะสูดดมกลิ่นไวน์องุ่นของอัลฟ่าที่กำลังอยู่ในช่วงรัทเข้าปอด สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ลำคอยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำพาให้ร่างกายเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุนี่เขามีอารมณ์กับฟีโรโมนของอัลฟ่าด้วยกันงั้นหรือบ้าไปแล้วในขณะที่กำลังถกเถียงกับตัวเองอยู่ เสียงกึกกักที่บานประตูกระจกก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของวีรกานต์ให้โผล่ศีรษะออกมานอกผ้าห่มแล้วชะเง้อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเขารับรู้เพียงการสั่นไหวของประตูเล็กน้อยเท่านั้นเพราะมีม่านสีขาวปิดบังการเคลื่อนไหวของอีกฝั่งไว้ อัลฟ่าชากุหลาบจึงคิดว่า

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ

    บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ_______ไม่มีทางอัลฟ่าไม่มีทางมีเขี้ยวจริงอยู่ว่าบรรพบุรุษมีเชื้อนักล่าอย่างหมาป่าแต่พวกเขาไม่ได้ฝากสัญลักษณ์ที่น่าเกรงขามนี้ไว้ให้ลูกหลานหรือใครหน้าไหนทั้งนั้นเว้นเสียแต่...เชื้อสายบริสุทธิ์อีนิกม่า....ต้องไม่ใช่สิในขณะที่วีรกานต์กำลังจมอยู่กับความคิดถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทิ้งน้ำหนักตัวลง แนบใบหน้าดุดันไปกับแผงอกของเขานั่นทำให้วีรกานต์รู้ว่าพีรยุทธ์ยังคงมีสติแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตามอัลฟ่าชากุหลาบเม้มปากแน่น พยายามควานหาเสียงของตนให้เจอเพื่อถามไถ่อีกฝ่าย หากแต่เสียงคำรามแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามในลำคอของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทำให้วีรกานต์หายใจติดขัดไปชั่วครู่ ไม่กล้าปริปากเอ่ยสิ่งใดออกไปอย่างนึกกลัวข้อมือหนาของอัลฟ่าชากุหลาบยังคงถูกตอกตรึงไว้แน่นบนที่นอนด้วยมือที่ใหญ่กว่าทั้งสองข้าง เขารู้สึกได้ถึงแรงที่ผ่อนลงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเหมือนเมื่อครู่ที่ผ่านมาวีรกานต์เม้มปากแน่นอีกครั้งอย่างประมาท ก้อนเนื้อภายในอกเต้นระส่ำเพราะนึกหวั่นเกรงอีกฝ่าย เขาสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติและพยายามหาเสียงตัวเอ

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์

    บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์__________หลังจบทริปพักผ่อนที่เขื่อนต่างจังหวัด สองอัลฟ่าก็เดินทางกลับเมืองหลวงในช่วงสายของวันถัดมา วีรกานต์ถูกพ่อแม่เอ็ดเสียยกใหญ่ว่าไปไหนไม่ยอมบอกกล่าว แต่ก็ได้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นมาช่วยพูดให้ว่าเป็นตัวเขาเองที่ชวนอีกฝ่ายออกนอกสถานที่ไปหลายวันเมื่อการพักผ่อนจบลงก็ถึงคราวต้องกลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิมอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขานั่งตรวจการบ้านของนักเรียนตัวเองมาตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเลยมื้อเที่ยงมามากโข แม้จะรู้สึกหิวอยู่บ้างแต่เขาก็ยังไม่ยอมย้ายตัวเองออกจากห้องนอนเสียทีงานค้างเป็นกอง ไม่น่าหนีเที่ยวเลยวีรกานต์วีรกานต์ถอนหายใจ หากเขาพูดประโยคนี้ให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นได้ยินมีหวังโดยงอนเป็นแน่ แต่ก็คงนั่งน้ำลายบูดอยู่คนเดียวสักสามชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ สี่ชั่วโมงเป็นอย่างมากก็จะกลับมาพูดคุยกับเขาดังเดิมเขาหันมองด้านขวามือที่เป็นประตูกระจกใสกันไว้ระหว่างห้องนอนของเขาและพีรยุทธ์ มันมีผ้าม่านสีขาวคลุมไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและตาข่ายดักฝันสีเดียวกันห้อยไว้ประตูนั้นไม่เปิดมาสองวันแล้วตั้งแต่กลับมาเขาคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะงานท่วมหัวไ

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน

    บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน_______หลังจากเสร็จสิ้นการดูดาวเมื่อคืนนี้ สองอัลฟ่าก็พากันกลับไปที่จุดนัดพบกับคุณลุงเบต้าและพบว่าชายชราตั้งท่ารอคนหนุ่มทั้งคู่อยู่ก่อนแล้วแต่อาจจะด้วยอากาศที่เย็นสบายตัวและเป็นช่วงเวลาใกล้เข้าวันใหม่เต็มทีทำให้ฝ่ายของอัลฟ่าชากุหลาบเกิดอาการสัปหงกอยู่หลายครั้งจนพีรยุทธ์สังเกตเห็นเลยคว้าเอาตัวคนข้างกายมาไว้ในอ้อมกอดหวังให้อีกคนได้หลับนอนอย่างสบายไม่วายถูกคุณลุงเบต้าที่นั่งบังคับหางเสืออยู่ด้านหลังเอ่ยแซวว่าเป็นคู่รักที่หวานกันเสียจริง ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นหูแดงเถือกลนลานรีบปฏิเสธในทันทีว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้นแต่อย่างไรเสียในสายตาของชายชราที่ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปีก็ดูออกว่าคนทั้งคู่มีใจให้แก่กันอัลฟ่าแล้วอย่างไรโลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้วพีรยุทธ์ปฏิเสธคุณลุงไปอีกรอบว่ามีเพียงตนที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว ทำเอาชายชราขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมรามือไป แต่ภายในใจยังคงครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากกัน คนนอกอย่างเขายังมองรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีใจแต่เอาเถอะ...คนแก่จะไม่ยุ่งเรื่องของคนหนุ่มเมื่อมาถึงเรือนแพของสองอัลฟ่า พีรยุทธ์เอ่ยเรียกอัลฟ่า

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 3 ดูดาวบนเกาะ

    บทที่ 3ดูดาวบนเกาะดวงอาทิตย์กำลังบอกลาขอบฟ้าเหลือไว้เพียงแสงสีส้มแกมน้ำเงินเข้ม เสียงนกแขวกดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะแต่เพียงแผ่วเบา พวกมันกำลังออกล่าอาหารมื้อค่ำก่อนกลับรังบนต้นไม้ใหญ่ในระแวกเขื่อนสายลมเย็นในช่วงค่ำพัดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่ที่เปิดแง้มไว้เข้ามา ปลุกให้สองอัลฟ่าบนฟูกสีสะอาดรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราวีรกานต์ปรือตามองลอดผ่านหน้าต่างออกไป ท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปมากจากความทรงจำครั้งล่าสุดบ่งบอกว่าในขณะนี้เป็นเวลาเย็นย่ำแล้วเขาปิดปากหาวหวอดไปทีจนมีน้ำสีใสฉ่ำรอบดวงตา ตั้งใจว่าจะลุกออกไปชำระล้างร่างกายเสียก่อนที่อากาศภายนอกจะอุณหภูมิต่ำลงมากกว่านี้อัลฟ่าชากุหลาบกับอากาศหนาวเย็นไม่ใช่สิ่งคู่กันแต่ก่อนจะยันตัวขึ้นก็ต้องจัดการพันธนาการที่โอบรอบเอวนี้ไว้เสียก่อนจากตอนแรกที่ต่างคนต่างเป็นฝ่ายโอบกอดกันและกันก่อนเข้าสู่นิทรา กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มีเพียงอัลฟ่าผมสีคาราเมลเท่านั้นที่ถูกวงแขนของเพื่อนตัวดีโอบรัดร่างกายเอาไว้รัดแน่นเป็นงูเสียด้วย“พี เย็นแล้ว” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยกระซิบบุคคลด้านหลังหากแต่ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงการขยับตัวขยุกขยิกเล็กน้อยและเสียงครางฮึมฮัมเป็นสัญญาณตอบกลับมา

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 2 เดินทาง

    บทที่ 2เดินทางยามเย็นในเมืองหลวงเป็นที่รู้กันดีว่าการจราจรต้องติดขัดอย่างแน่นอน สองเพื่อนอัลฟ่ากำลังนั่งมองสัญญาณไฟด้วยใจจดจ่อ มันขึ้นเป็นสีเขียวมาครึ่งนาทีแล้วหากแต่รถยนต์คันข้างหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยสักนิด ผ่านไปเกือบสองนาทีจึงเริ่มมีการเคลื่อนไหวแต่สัญญาณไฟจราจรดันกลายเป็นสีแดงไปแล้วเห็นทีว่าคงต้องรอต่อไปภายในห้องโดยสารมีอัลฟ่าเจ้าของฟีโรโมนกลิ่นองุ่นเป็นสารถีขับรถโดยมีเพื่อนสนิทอย่างอัลฟ่าชากุหลาบนั่งอยู่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสาร วีรกานต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่าย เอนหัวพิงกระจกรถมองสายฝนเม็ดเล็กที่ร่วงหล่นลงมากระทบกับพื้นถนน เขาเบื่อที่ต้องนั่งรอสัญญาณไฟจราจรอยู่แบบนี้ทุกวัน อย่างต่ำก็คงสักชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายพีรยุทธ์สังเกตเห็นคนข้างกายยกมือขึ้นลูบแขนปอย ๆ อาจจะทำเพื่อระบายความหนาวเย็นทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวเก่ง เขาแอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดูอยู่ในใจอัลฟ่ากลิ่นองุ่นเอื้อมมือมาที่หน้าคอนโซลเพื่อเบาแอร์ลงก่อนจะเอี้ยวตัวไปด้านหลังหยิบผ้าห่มสีเรียบจากกล่องเก็บของที่วางอยู่บนที่พักเท้าของเบาะหลังมาให้อัลฟ่าเพื่อนสนิทได้คลุมตัวคลายหนาวในช่วงเวลาฝน

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status