Home / วาย / พีขอโทษ Sorry for the misake / บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน

Share

บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน

last update Last Updated: 2025-04-02 21:19:09

บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน

_______

หลังจากเสร็จสิ้นการดูดาวเมื่อคืนนี้ สองอัลฟ่าก็พากันกลับไปที่จุดนัดพบกับคุณลุงเบต้าและพบว่าชายชราตั้งท่ารอคนหนุ่มทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว

แต่อาจจะด้วยอากาศที่เย็นสบายตัวและเป็นช่วงเวลาใกล้เข้าวันใหม่เต็มทีทำให้ฝ่ายของอัลฟ่าชากุหลาบเกิดอาการสัปหงกอยู่หลายครั้งจนพีรยุทธ์สังเกตเห็นเลยคว้าเอาตัวคนข้างกายมาไว้ในอ้อมกอดหวังให้อีกคนได้หลับนอนอย่างสบาย

ไม่วายถูกคุณลุงเบต้าที่นั่งบังคับหางเสืออยู่ด้านหลังเอ่ยแซวว่าเป็นคู่รักที่หวานกันเสียจริง ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นหูแดงเถือกลนลานรีบปฏิเสธในทันทีว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น

แต่อย่างไรเสียในสายตาของชายชราที่ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปีก็ดูออกว่าคนทั้งคู่มีใจให้แก่กัน

อัลฟ่าแล้วอย่างไร

โลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว

พีรยุทธ์ปฏิเสธคุณลุงไปอีกรอบว่ามีเพียงตนที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว ทำเอาชายชราขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมรามือไป แต่ภายในใจยังคงครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากกัน คนนอกอย่างเขายังมองรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีใจ

แต่เอาเถอะ...คนแก่จะไม่ยุ่งเรื่องของคนหนุ่ม

เมื่อมาถึงเรือนแพของสองอัลฟ่า พีรยุทธ์เอ่ยเรียกอัลฟ่าชากุหลาบแผ่วเบาหวังให้อีกคนตื่นจากนิทราแต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อคนในอ้อมแขนไม่ไหวติงใด ๆ จนมีเสียงของชายชราดังมาจากด้านหลังว่าให้อุ้มอีกฝ่ายขึ้นไปนอนพักเสีย เขาจึงต้องทุลักทุเลอยู่นานกว่าจะทรงตัวบนเรือที่โคลงเคลงได้ ไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณคุณลุงเบต้าอีกครั้งที่อุตส่าห์พาพวกเขาไปเปิดหูเปิดตาบนเกาะสวยงามนั่น

เมื่อก้าวเข้ามาในเรือนพีรยุทธ์ก็วางร่างของวีรกานต์ลงบนฟูก จัดการดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมกายอัลฟ่าไว้ ก่อนจะออกไปจัดการชำระคราบความเหนียวเหนอะจากหยาดน้ำที่กระเซ็นโดนระหว่างเดินทางออกจากร่างกาย

ก่อนกลับเข้ามาที่บ้านพัก เขาไม่ลืมที่จะหาภาชนะมารองน้ำและผ้าสะอาดเตรียมไว้สำหรับเช็ดตัวให้วีรกานต์ด้วย เพื่อให้อีกฝ่ายได้เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสบายตัว

เขายังเหนียวตัวจนต้องไปอาบน้ำอีกรอบ

อัลฟ่าชากุหลาบก็คงไม่ต่างกัน

เมื่อจัดการเช็ดตัวให้วีรกานต์เสร็จแล้วเขาก็นำกะละมังใบเล็กและผ้าสะอาดไปเก็บเข้าที่ก่อนจะสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม

พีรยุทธ์เกลี่ยปอยผมสีคาราเมลน้อย ๆ พลางลอบยิ้มอยู่คนเดียวอย่างนึกเอ็นดูอัลฟ่าข้างกาย

กินอิ่มแล้วก็นอน

น่ารักไม่มีใครเกิน

เขาถือวิสาสะยกเอาศีรษะของวีรกานต์ขึ้นแล้ววางไว้บนลำแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของตน อัลฟ่ากลิ่นองุ่นจัดการพลิกเอาตัวเพื่อนอัลฟ่าให้หันมาซบที่อกหนา ริมฝีปากจรดจุมพิตลงบนหน้าผากมนย่างอ่อนโยน

“ฝันดีครับกุหลาบของผม”

วันที่สองของทริปพักผ่อนที่เรือนแพในเขื่อน วันนี้เป็นพีรยุทธ์ที่รู้สึกตัวตื่นก่อนแต่เขายังไม่ลุกออกไปไหน ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองคนในอ้อมกอดไม่วางตา เขาไล่สายตามองทุกสัดส่วนบนใบหน้าของวีรกานต์

คิ้วสีน้ำตาลโค้งสวย ดวงตาที่กลมมน จมูกรั้น ๆ ริมฝีปากชมพูน่าจูบ

อัลฟ่ากลิ่นองุ่นส่ายหัวให้กับความคิดของตัวเอง

จริงอยู่ว่าเขาแอบรักอีกฝ่ายมานานแต่ไม่มีเลยสักครั้งที่จะกระทำสิ่งนั้นโดยที่เจ้าตัวไม่รับรู้หรือยินยอม ดังนั้นเขาจึงสะบัดหัวไล่ความคิดไม่ดีเหล่านั้นออกไปแล้วกลับมาจ้องมองอัลฟ่าในอ้อมแขนอย่างหลงใหลอีกครั้ง

แต่ไม่นานวีรกานต์ก็รู้สึกตัวตื่นจากห้วงฝัน เขาบิดกายคลายความเมื่อยขบเล็กน้อยก่อนจะรับรู้ได้ว่ามีไออุ่นอยู่ใกล้ตัว อัลฟ่าชากุหลาบลืมตาขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีเฮเซลนัทที่พีรยุทธ์ชอบมันนักหนา

“ไม่ปลุกกานต์อีกแล้ว” เขาเอ็ดอัลฟ่าที่กำลังสวมกอดตนอยู่อย่างไม่เต็มปากนักด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจากการเพิ่งตื่นนอน

“อยากให้กานต์นอนสบาย ๆ ไงครับ” อัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลเช่นเดียวกับดวงตาเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างทุกที

ซึ่งมันเป็นคำตอบที่ไม่ผิดคาดไปจากความคิดของวีรกานต์เลยแม้แต่น้อย

บอกแล้วว่านายองุ่นน่ะดูแลเขาเหมือนลูกเลย

“แล้ววันนี้จะทำอะไรดี” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยถามถึงแผนการเที่ยวพักผ่อนในวันนี้ อันที่จริงเขาก็อยากรู้ว่าเขามานอนอยู่บนเรือนแพนี้ได้อย่างไร ในเมื่อความทรงจำสุดท้ายก่อนหลับไปคือเขายังนั่งอยู่บนเรือยนต์อยู่เลย

แต่ถ้าให้เดาก็คงหนีไม่พ้นว่าพีรยุทธ์เป็นคนพาเขาขึ้นมานอนเป็นแน่ วีรกานต์จึงคิดว่าไม่ต้องถามให้เสียเวลาจะดีกว่า

“ไปตกปลากันไหมครับ” อัลฟ่ากลิ่นองุ่นเอ่ยถามคนในอ้อมกอด จริง ๆ เขานัดแนะกับคุณลุงเบต้าไว้แล้วแต่ถามเพื่ออยากได้ยินคำยืนยันจากเพื่อนอัลฟ่ามากกว่าว่าอยากไปหรือไม่ หากอยากพักผ่อนอยู่ในเรือนแพเฉย ๆ เขาก็จะไม่ขัดใจอีกฝ่าย

“มีด้วยหรอ” วีรกานต์เงยหน้าเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้

ในเขื่อนแบบนี้จะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยหรือ

“มีสิครับ เป็นกระชังของชาวบ้านระแวกนี้น่ะ” พีรยุทธ์ยกยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงคลายข้อสงสัยให้อัลฟ่าชากุหลาบ เจ้าตัวอ้าปากร้องอ๋อในใจพร้อมกับพนักหน้าขึ้นลงรับรู้

“แล้วจะไปเลยไหม” วีรกานต์เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น

การตกปลาเป็นกิจกรรมใหม่สำหรับคนเมืองเช่นเขา จึงไม่แปลกหากเขาจะแสดงออกว่าตื่นเต้นเสียออกนอกหน้า ทำเอาอัลฟ่าเจ้าของอ้อมกอดหัวเราะน้อย ๆ อย่างเอ็นดู

“รอแดดร่มก่อนนะครับ สักบ่ายแก่ ๆ ค่อยไปจะได้ไม่ร้อนมาก” พีรยุทธ์ตอบคำถามด้วยรอยยิ้มอย่างทุกที

ขยันทำตัวน่าเอ็นดูจริง ๆ คนนี้

อัลฟ่าชากุหลาบผงกหัวเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวรอสำหรับกิจกรรมในช่วงบ่าย

เวลาเกือบบ่ายสามตามที่ได้นัดหมายไว้กับคุณลุงเบต้า แสงแดดยังคงทอแสงอยู่รำไรแต่ไม่ได้ร้อนอบอ้าวอย่างที่คิดไว้ สองอัลฟ่าหนุ่มและหนึ่งชายชราขี่เรือยนต์ออกจากเขื่อนไปตามทางน้ำ ไม่นานก็มาถึงเพิงไม้ที่มีกระชังที่ชาวบ้านทำไว้เลี้ยงปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ

"ไอ้เจ๋งเอ้ย มารับลูกค้าหน่อย" เสียงของเบต้าชราเอ่ยเรียกบุคคลที่สามที่น่าจะเป็นคนดูแลกระชังปลาแห่งนี้

เสียงดังขลุกขลักออกมาจากห้องที่ถูกตีกั้นด้วยไม้ ก่อนจะปรากฎเป็นเด็กชายวัยรุ่นรีบรุดออกมารับหน้าลูกค้าตามที่ชายชราเอ่ยเรียก

"มากันแล้วหรอครับ พ่อกำลังไปเตรียมเหยื่อมาไว้ให้เลย" เด็กหนุ่มเอ่ยบอกคนมาใหม่ทั้งสามด้วยท่าทีนอบน้อม

สองอัลฟ่าตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่พักหนึ่งก็เดินตามบุคคลที่ดูแล้วมีอายุมากกว่าเด็กหนุ่มคนเมื่อครู่ พวกเขาเดินไปตามทางบนกระชังปลาอย่างระวังเพราะคลื่นน้ำที่กระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา

คุณลุงเบต้าเองก็ถือโอกาสนี้มาอู้งานเสียหน่อย

"ปลาเยอะมากเลยพี" หลังจากหาที่ปักหลักกันได้แล้ว วีรกานต์ก็นั่งลงหย่อนขาไว้ในกระชังปลาพลางเตะน้ำเล่นไปด้วย

"ตกไปสักตัวสองตัวไว้กินมื้อเย็นกันไหมครับ เขาย่างเกลือให้ฟรีด้วย" อัลฟ่ากลิ่นองุ่นนั่งหันหลังให้เพื่อนสนิท เขาหย่อนขาลงในกระชังเช่นเดียวกับวีรกานต์

"เอาสิ ปลาสด ๆ คงหอมอร่อยน่าดู" อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยบอกกับคนข้างหลัง มือข้างหนึ่งถือเบ็ดตกปลาคันเล็กที่ห้อยเหยื่อเอาไว้ก่อนจะหาจังหวะเหวี่ยงเบ็ดลงกระชังและรอเวลา

พีรยุทธ์ทำเช่นเดียวกับอัลฟ่าด้านหลัง พวกเขาทั้งคู่อยู่ในชุดลำลองสบายตัว บนหัวมีหมวกปีกบานสวมไว้คนละใบเพื่อป้องกันแดด

เวลาผ่านไปหลายนาทีแต่ไม่มีวี่แววว่าปลาในกระชังจะติดเหยื่อเลยสักตัว ต่างคนต่างก็จดจ้องไปที่เบ็ดของตัวเองว่าปลาจะติดเหยื่อตอนไหน

"หาว..." อัลฟ่ากลิ่นองุ่นเปิดปากหาวหวอดเมื่อเริ่มรู้สึกเบื่อกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ แม้ตัวเองจะเป็นคนเชิญชวนก็ตามที

ผิดกับวีรกานต์ที่ยังคงตาใสแจ๋ว ดวงตาสีเฮเซลนัทมองไปที่ปลายเบ็ดไม่ละสายตา แต่เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างจากคนด้านหลังก็เอ่ยถามทันที "ง่วงหรอ"

"นิดหน่อยครับ" พีรยุทธ์เอี้ยวตัวหันกลับมาตอบคำถามของอัลฟ่าชากุหลาบ เขาเอ่ยเสียงอ่อนกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อออดอ้อนอีกฝ่าย

"เมื่อคืนนอนดึกหรือไง"

"นอนพร้อมกานต์นั่นแหละครับ แค่ตอนนี้มันนั่งอยู่เฉย ๆ เลยเบื่อ ๆ น่ะ"

วีรกานต์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันกลับไปสนใจการตกปลาต่อ

อัลฟ่ากลิ่นองุ่นบึนปากเล็กน้อยเมื่อถูกเพื่อนสนิทเมินใส่ เขาเอนกายไปด้านหลังเพื่อใช้ตัวของวีรกานต์เป็นที่พักก่อนจะช้อนตามองเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลไม่ละไปไหน

วีรกานต์เห็นท่าทีของเพื่อนอัลฟ่าก็นึกขำอยู่ในใจ เป็นเพราะเขามัวแต่ตั้งใจจดจ่ออยู่กับกิจกรรมตรงหน้าจนไม่ได้สนใจบุคคลด้านหลังทำให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นมีอาการแง่งอนแสดงออกมาให้เห็น

"กลับไปนั่งพักในแพนู้นไหม"

"ไม่เอา จะอยู่กับกานต์" พีรยุทธ์เอ่ยเสียงอ่อน เขากระฟัดกระเฟียดเล็กน้อยประกอบคำพูดว่าไม่ต้องการห่างอัลฟ่าชากุหลาบไปไหน

แต่ในสายตาของอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลกลับคิดว่าการออดอ้อนของพีรยุทธ์นั้นคล้ายกับเจ้าหมาพันธุ์ซามอยด์ที่กำลังนอนหมอบช้อนตามองเจ้าของมันอยู่บนพื้นบ้าน

วีรกานต์ส่งยิ้มละไมให้อัลฟ่าข้างกายก่อนจะหันกลับไปสนใจกิจกรรมที่ยังค้างคาอยู่ต่อ ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่ สะบัดกายหนีอย่างคนแง่งอน เขาตั้งใจให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความไม่พอใจที่ถูกสิ่งอื่นดึงความสนใจของเพื่อนสนิทไปเสียหมด

พีรยุทธ์เอนศีรษะพิงไหล่คนข้างกาย ถูไถไปมาอย่างออดอ้อนอยู่พักใหญ่แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากอัลฟ่าชากุหลาบอย่างที่ต้องการเสียที

"กานต์..."

"ฮ่า ๆ ๆ โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้ว"

ช่วงเย็นของวันเดียวกัน สองอัลฟ่ากำลังนั่งรับลมอยู่บนเรือนแพ เป็นพีรยุทธ์ที่เอ่ยชวนวีรกานต์ให้มาหย่อนขาลงน้ำอยู่ข้างกัน

แสงสีส้มทองของพระอาทิตย์ตกกระทบบนผืนน้ำ ฝูงนกหลายฝูงพากันบินกลับรัง สายลมเย็น ๆ พัดผ่านมาให้รู้สึกสบายตัว

"พรุ่งนี้จะกลับกี่โมง" อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยถามคนข้างกายแต่สายตายังคงเหม่อมองท้องฟ้าไม่ละไปไหน

"ออกเช้า ๆ ดีไหมครับ จะได้ไม่ร้อนมาก" พีรยุทธ์ตอบเพื่อนสนิท

ในตอนแรกเขาก็มองแสงสีส้มเช่นเดียวกับวีรกานต์ แต่หางตาดันเห็นรอยยิ้มละมุนของอัลฟ่าชากุหลาบจนต้องหันกลับไปมองเสียเต็มตา

เรือนผมสีคาราเมลต้องแสงดวงอาทิตย์จนเป็นประกายสวยเสี้ยวหน้าของอัลฟ่าที่เขาหลงใหล จมูกโด่งขึ้นเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูเรื่อเป็นกระจับน่ามองนั่น เมื่อทุกสิ่งอย่างถูกจับมารวมกันไว้ที่วีรกานต์เพียงคนเดียวมันจึงดึงดูดให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นเผลอมองมันไม่ละสายตา

"จะมองอีกนานไหม" เสียงใสจากอัลฟ่าชากุหลาบดึงพีรยุทธ์ให้หลุดออกจากพะวัง

อัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลเบนหน้าออกไปมองทิวทัศน์รอบกายอย่างเก้อเขิน ฝ่ามือหนาถูกยกขึ้นมาลูบลำคอเพราะทำตัวไม่ถูกที่อีกฝ่ายจับได้

ทางด้านของวีรกานต์ เขารู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าถูกอีกฝ่ายมอง ก็เล่นจ้องหน้ากันโจ่งแจ้งเสียขนาดนั้น ใครบ้างจะไม่รู้สึกตัว

หากแต่ตัวเขาเองก็ทำตัวไม่ถูกอยู่บ้างเมื่อถูกจับจ้องอย่างไม่วางตา อาการใจเต้นรัวเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้งจึงจำต้องเอ่ยบอกคนข้างกายเพื่อที่ตนจะได้มีเวลาหายใจหายคอบ้าง

“ไหน ๆ ก็มาแล้ว วันนี้ไปดูหิ่งห้อยกันนะครับ” พีรยุทธ์เอ่ยบอกกับคนข้างกาย จริง ๆ แล้วนี่คือกิจกรรมแรกที่อัลฟ่ากลิ่นองุ่นนัดหมายไว้กับคุณลุงเบต้าว่าจะพาเพื่อนสนิทไปชมความสวยงามยามค่ำคืนที่ปลายเขื่อน

วีรกานต์เอียงใบหน้าหันมองอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลพลางเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ เป็นเชิงตั้งคำถาม “นึกว่าจบทริปแล้ว”

“พีแล้วแต่กานต์ครับ ถ้ากานต์อยากพักผ่อนเราก็แค่นอนเล่นอยู่ที่นี่” พีรยุทธ์ยกยิ้มบางให้คนข้างกาย เขาหันกลับมามองอัลฟ่าชากุหลาบอย่างไม่เต็มตานัก เนื่องจากว่าตัวเขาเองยังคงรับรู้ได้ถึงอาการเห่อร้อนบนใบหน้าที่ยังหลงเหลืออยู่

“ไปสิ มาทั้งทีก็เก็บให้หมดทุกอย่างไปเลย” ดวงตาสีเฮเซลนัทของวีรกานต์ทอแสงเป็นประกายเมื่อนึกได้ว่าแต่ละอย่างที่ได้ทำในทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ล้วนแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับเขามากนัก

พวกเขานั่งคุยกันอีกสักพักก็ถึงเวลาของมื้อค่ำ ชายชราคนเดิมก็นั่งเรือยนต์มาส่งอาหารให้ลูกค้าในเรือนแพ คราวนี้เป็นวีรกานต์ที่ไปรับเอาถาดสแตนเลสแทนเพราะอีกฝ่ายเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ การแต่งกายจึงยังไม่เรียบร้อยนัก

เมื่อถึงเวลานัดหมายในช่วงเกือบสามทุ่ม หนึ่งชายชราเบต้าและอัลฟ่าอีกสองคนก็นั่งเรือมุ่งมาที่ปลายเขื่อน วันนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขาที่มาชมความสวยงามของหิ่งห้อย ใกล้กันมีเรืออีกหลายลำจอดลอยลำอยู่กลางน้ำ

“เขาเรียกว่าอันซีนไงหนุ่ม คนเมืองมาที่นี่ทีไรก็หนีไม่พ้นต้องมาดูหิ่งห้อยแบบนี้ทุกคน” คุณลุงเบต้าเอ่ยบอกคนหนุ่มทั้งสองขณะที่กำลังหย่อนสมอเรือลงน้ำเพื่อถ่วงดุนให้เรืออยู่กับที่

“นาน ๆ ทีจะได้มีโอกาสได้เห็นนี่ครับลุง” อัลฟ่ากลิ่นองุ่นกล่าวเสริมกับคนขับเรือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตาสีรัตติกาลเช่นเดียวกับเส้นผมจ้องมองแสงสีเหลืองทองที่กำลังส่องประกายระยิบระยับอยู่เหนือผิวน้ำไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกเขานัก

“ชอบไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มของพีรยุทธ์เอ่ยถามคนข้างกาย แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาเขาจึงต้องเอี้ยวตัวหันไปมอง

อัลฟ่าชากุหลาบจ้องมองความสวยงามตรงหน้าไม่วางตา เขาเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากสีชมพูฉ่ำก็เปิดอ้าออก ดวงตาสีเฮเซลนัมแสดงออกว่าตื่นเต้นมากเพียงใด เขาไม่ละออกไปจากแสงสีทองเลยสักวินาทีเดียว

พีรยุทธ์เองเมื่อหันมองคนข้างกายก็หยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง

สวย...เป็นคำ ๆ เดียวที่บรรยายวีรกานต์ในตอนนี้ได้ดีที่สุดแล้ว

เรือนผมสีคาราเมล ริมฝีปากสีชมพู พวงแก้มใสและจมูกโด่งรั้นเมื่อถูกต้องด้วยแสงสีทองจากธรรมชาติและแสงของจันทร์เต็มดวงก็ราวกับว่าอีกฝ่ายคล้ายไม่มีอยู่จริง

“สวยสิ สวยมากเลยพี”

กานต์สวยกว่านั้นอีกครับ อัลฟ่ากลิ่นองุ่นได้แต่คิดในใจไม่กล้าที่เอ่ยออกไปให้อีกคนรับรู้

#พีขอโทษ

เซอร์ไพรส์~~~! สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะทุกโคนนน

เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวและจันไม่ได้ไปไหนTT ก็เลยแพลนไว้ว่าจะอัพน้องพีให้อ่าน 3 ตอนรวดในช่วงสงกรานต์เลยค่ะ^^

ไอ้ลูกหมามันหลงเขาใหญ่เลยอะ หลงแบบหัวปักหัวปำ

แบบว่าเธอสวยที่สุดในล้านโลก

หลังจากนี้จะเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักแล้วค่ะ ที่เคยบอกว่าเป็นดราม่าตอนนี้ใกล้เข้ามาแล้ว เกียมทิชชู่ไว้เลอ

TW : dao_jun000

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์

    บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์__________หลังจบทริปพักผ่อนที่เขื่อนต่างจังหวัด สองอัลฟ่าก็เดินทางกลับเมืองหลวงในช่วงสายของวันถัดมา วีรกานต์ถูกพ่อแม่เอ็ดเสียยกใหญ่ว่าไปไหนไม่ยอมบอกกล่าว แต่ก็ได้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นมาช่วยพูดให้ว่าเป็นตัวเขาเองที่ชวนอีกฝ่ายออกนอกสถานที่ไปหลายวันเมื่อการพักผ่อนจบลงก็ถึงคราวต้องกลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิมอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขานั่งตรวจการบ้านของนักเรียนตัวเองมาตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเลยมื้อเที่ยงมามากโข แม้จะรู้สึกหิวอยู่บ้างแต่เขาก็ยังไม่ยอมย้ายตัวเองออกจากห้องนอนเสียทีงานค้างเป็นกอง ไม่น่าหนีเที่ยวเลยวีรกานต์วีรกานต์ถอนหายใจ หากเขาพูดประโยคนี้ให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นได้ยินมีหวังโดยงอนเป็นแน่ แต่ก็คงนั่งน้ำลายบูดอยู่คนเดียวสักสามชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ สี่ชั่วโมงเป็นอย่างมากก็จะกลับมาพูดคุยกับเขาดังเดิมเขาหันมองด้านขวามือที่เป็นประตูกระจกใสกันไว้ระหว่างห้องนอนของเขาและพีรยุทธ์ มันมีผ้าม่านสีขาวคลุมไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและตาข่ายดักฝันสีเดียวกันห้อยไว้ประตูนั้นไม่เปิดมาสองวันแล้วตั้งแต่กลับมาเขาคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะงานท่วมหัวไ

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ

    บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ_______ไม่มีทางอัลฟ่าไม่มีทางมีเขี้ยวจริงอยู่ว่าบรรพบุรุษมีเชื้อนักล่าอย่างหมาป่าแต่พวกเขาไม่ได้ฝากสัญลักษณ์ที่น่าเกรงขามนี้ไว้ให้ลูกหลานหรือใครหน้าไหนทั้งนั้นเว้นเสียแต่...เชื้อสายบริสุทธิ์อีนิกม่า....ต้องไม่ใช่สิในขณะที่วีรกานต์กำลังจมอยู่กับความคิดถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทิ้งน้ำหนักตัวลง แนบใบหน้าดุดันไปกับแผงอกของเขานั่นทำให้วีรกานต์รู้ว่าพีรยุทธ์ยังคงมีสติแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตามอัลฟ่าชากุหลาบเม้มปากแน่น พยายามควานหาเสียงของตนให้เจอเพื่อถามไถ่อีกฝ่าย หากแต่เสียงคำรามแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามในลำคอของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทำให้วีรกานต์หายใจติดขัดไปชั่วครู่ ไม่กล้าปริปากเอ่ยสิ่งใดออกไปอย่างนึกกลัวข้อมือหนาของอัลฟ่าชากุหลาบยังคงถูกตอกตรึงไว้แน่นบนที่นอนด้วยมือที่ใหญ่กว่าทั้งสองข้าง เขารู้สึกได้ถึงแรงที่ผ่อนลงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเหมือนเมื่อครู่ที่ผ่านมาวีรกานต์เม้มปากแน่นอีกครั้งอย่างประมาท ก้อนเนื้อภายในอกเต้นระส่ำเพราะนึกหวั่นเกรงอีกฝ่าย เขาสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติและพยายามหาเสียงตัวเอ

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (1/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศหลังกลับจากห้องนอนของพีรยุทธ์ อัลฟ่าชากุหลาบก็คล้ายว่าจะอยู่ไม่สุข เขานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนนุ่มเพราะกลิ่นฟีโรโมนของอีกคนมันกระจายเล็ดลอดเข้ามาวีรกานต์พยายามทำเป็นไม่สนใจกลิ่นหอมนั้น ผ้าห่มนวมผืนหนาถูกยกขึ้นคลุมตั้งแต่ส่วนหัวถึงปลายเท้าเพื่อไม่ให้ร่างกายอัลฟ่าของตนรับรู้ถึงกลิ่นหอมยั่วยวนของพีรยุทธ์นี่มันบ้ามากพีรยุทธ์มีอาการรัทที่รุนแรงกว่าที่เคยเป็น เขาเองก็เป็นอัลฟ่าจึงรู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้มิหนำซ้ำเขายังรู้สึกถึงอารมณ์ร้อนวูบวาบในช่องท้องเพราะสูดดมกลิ่นไวน์องุ่นของอัลฟ่าที่กำลังอยู่ในช่วงรัทเข้าปอด สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ลำคอยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำพาให้ร่างกายเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุนี่เขามีอารมณ์กับฟีโรโมนของอัลฟ่าด้วยกันงั้นหรือบ้าไปแล้วในขณะที่กำลังถกเถียงกับตัวเองอยู่ เสียงกึกกักที่บานประตูกระจกก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของวีรกานต์ให้โผล่ศีรษะออกมานอกผ้าห่มแล้วชะเง้อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเขารับรู้เพียงการสั่นไหวของประตูเล็กน้อยเท่านั้นเพราะมีม่านสีขาวปิดบังการเคลื่อนไหวของอีกฝั่งไว้ อัลฟ่าชากุหลาบจึงคิดว่า

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (2/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศ (ต่อ)________“จูบกานต์” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยเสียงแผ่วราวกับกระซิบชิดริมฝีปากหนา ค่อย ๆ ขยับกายเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วใช้ปากงับเบา ๆ“กานต์...” พีรยุทธ์เอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสนิทอย่างเลื่อนลอย เขามองสบเข้าไปในนัยน์ตาสีเฮเซลนัทก่อนจะพบว่าในแววตาคู่นั้นไม่ปรากฏแววล้อเล่นเลย“จูบสิ” วีรกานต์ท้าทายอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อถูกอีกฝ่ายเชิญชวนคนที่เขาแอบรักมาแสนนานกำลังบอกให้เขาประทับจูบลงไปนี่มันเกินคาดไปมากเขาฝันอยู่หรือเปล่าวีรกานต์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนตรงหน้ายังมีท่าทีเฉยเมยแต่ดวงตากลับแสดงออกมาว่าเจ้าตัวตื่นเต้นและตกใจจนเห็นได้ชัด “ทำไมไม่...”ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยจบประโยค ริมฝีปากหนาของอัลฟ่ากลิ่นองุ่นก็ทาบทับลงมาบนอวัยวะเดียวกันด้วยระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรแม้จะตกใจอยู่บ้างที่ถูกจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัวทั้ง ๆ ที่เป็นคนเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายเอง แต่เขาก็ตอบรับสัมผัสของพีรยุทธ์ได้ดีจนคนมอบจูบครางเครือในลำคออย่างพอใจริมฝีปากหนาขบเม้มกลีบปากทั้งบนและล่างของอัลฟ่าชากุหลาบอย่างคนกระหาย ดูดดึงจนได้ยินเสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังก้องห้องสี่เหลี่ยมฟีโรโมนกลิ่นองุ่นแล

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 8 รู้สึกผิด

    บทที่ 8 รู้สึกผิด_____เสียงโครมครามของท้องฟ้าดังสนั่นในยามสายของวัน เมฆสีดำสนิทเคลื่อนลงต่ำบดบังแสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์สายฝนสาดกระหนำเทลงมาอย่างหนัก หยดน้ำเม็ดใหญ่ตกกระทบหน้าต่างส่งเสียงดังเปาะแปะ ไม่รู้ว่าพายุเข้าหรือไม่เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบติดตามข่าวสารมากนักพีรยุทธ์เปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาที่ปรากฏแววความอ่อนล้ากวาดมองไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม ในหัวนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืนพลันความรู้สึกผิดก็ตีตื้นขึ้นมาจนจุกลำคออัลฟ่ากลิ่นองุ่นยังคงนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงนอนสีขาวข้างกายมีวีรกานต์ที่เป็นเจ้าของห้องกอดก่ายร่างหนาของตนอยู่รอยกุหลาบสีช้ำยังมีให้เห็นเป็นจ้ำ ๆ ตามเรือนร่าง อีกทั้งรอยแดงจากการบีบเค้นก็ยังหลงเหลือให้เห็น ยิ่งพาให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่หลังเสร็จกิจเมื่อคืนไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ วีรกานต์ก็หมดสติฟุบหลับไปทันที เขารีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปหาอุปกรณ์มาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนบนเตียงได้นอนหลับอย่างสบายตัว เสื้อยืดและกางเกงถูกสวมให้อัลฟ่าชากุหลาบคลายความหนาวแล้วห่มผ้าห่มนวมทับอกให้อีกชั้นหนึ่งก่อนจะตระกองกอดร่างที่หลับใหลนั่นไว้ทั้งคืนรอยแด

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 9 อัลฟ่า...ฮีท?

    บทที่ 9 อัลฟ่า...ฮีท?_______กานต์จะยังโกรธเขาอยู่ไหมเป็นเวลากว่าสองวันที่พีรยุทธ์หมกตัวอยู่ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมของตนไม่ออกไปพบปะใครเว้นแต่ตอนกินข้าว ซึ่งผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ได้คิดว่ามันผิดสังเกตแต่อย่างใด เพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดเป็นเวลาสองวันที่เขานอนไม่ลง แม้จะรู้สึกง่วงงุนจนตาแทบปิดแต่ก็ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ข่มตาหลับได้ป่านนี้แล้ววีรกานต์จะเป็นเช่นไรบ้างตามร่างกายยังมีรอยแดงช้ำอยู่หรือไม่แล้วจะยังโกรธเคืองกันอยู่หรือเปล่าทุก ๆ คำถามล้วนต้องการคำตอบจากคน ๆ เดียว ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่พีรยุทธ์นั่งกอดเข่าพิงขาเตียง ดวงตาสีรัตติกาลที่เคยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเสมองประตูกระจกที่กั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองเอาไว้ด้วยอาการเม้มปากแน่น เนื่องจากมีผ้าม่านสีขาวปิดทับไว้อีกชั้นจากฝั่งของวีรกานต์ทำให้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนภายในห้องนั้นแต่กลิ่นชากุหลาบของวีรกานต์ก็จางลงไปมากจนแทบไม่รู้สึกถึงฟีโรโมนคงอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้านแล้ว...วีรกานต์ได้ล็อกประตูไว้หรือไม่ความคิดกระแสหนึ่งที่แล่นเข้ามาในหัวทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ ใจหน

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทนำ

    บทนำในยามที่ท้องฟ้าถูกระบายด้วยสีดำสนิท แต่งแต้มสีขาวระยิบระยับเพิ่มเติมจนสว่างไปทั่วพื้นที่ ประกอบกับพระจันทร์สีนวลเต็มดวงส่องประกายควบคู่ไปกับแสงประดิษฐ์สีขาวจากหลอดไฟทั้งสองข้างถนน มันเล็ดลอดผ่านหน้าต่างสีน้ำตาลคล้ายเปลือกไม้ที่ถูกเปิดแง้มไว้เข้าไปจนปรากฎให้เห็นร่างของชายหนุ่มวัยยี่สิบสามปีกำลังหลับตายิ้มรับฝันอันแสนสุขในนั้นเขาเป็นเด็กชายอายุเพียงสิบขวบปีกำลังออกวิ่งไปไกลไร้จุดหมาย วิ่งด้วยสีหน้าเปี่ยมความสุข รอบกายถูกรายล้อมด้วยหญ้าและดอกไม้ที่ขึ้นสูงเสียจนเกือบบดบังตัวของเด็กน้อยไปจนหมดไม่รู้ว่าวิ่งทำไม วิ่งไปเพื่ออะไรสิ่งที่รู้มีเพียงสิ่งเดียวคือความต้องการที่จะวิ่ง ก้าวเท้าย่ำลงบนพื้นดินชุ่มช่ำจนสุดขา และก้าวต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ผ่อนแรงฝูงผีเสื้อบินวนอยู่รอบกายและเคลื่อนที่ไปพร้อมกับเขา พวกมันมีสีฟ้าเปล่งประกายดั่งกับเพชรเม็ดงามในถ้ำลึก รอบปีกมีสีดำและจุดสiขาวแต่งแต้มจนทั่ว เด็กน้อยคลี่ยิ้มกว้าง เปล่งเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข จากเคยตั้งมั่นวิ่งมุ่งตรงไปข้างหน้ากลับเปลี่ยนเป็นหมุนวน ชูแขนเล็ก ๆ ขึ้นจนสุด เพื่อหยอกล้อกับเหล่าผีเสื้อสีฟ้านับร้อยพันตัวรอบกายสัตว์ปีกตัวน้อยเก

    Last Updated : 2025-04-02
  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 1 ไม่รู้ตัว

    บทที่ 1ไม่รู้ตัวแสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์ทอแสงลงมาตกกระทบพื้นถนนและสิ่งปลูกสร้างเบื้องล่าง ตึกแถวมากมายตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ บางตึกสูงเพียงแค่สองชั้นในขณะที่ตึกข้าง ๆ กันนับจำนวนชั้นแทบไม่ไหว บนถนนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ฝุ่นและควันจากรถราทำให้หลายคนในบริเวณนั้นสำลักจนน้ำตาเล็ด เสียงบีบแตร เสียงล้อครูดไปกับถนนดังขึ้นให้ได้ยินเป็นระยะ ผู้คนต่างเร่งรีบทำเวลาในช่วงเช้าของวัน เท้าหลายคู่ย่ำลงพื้นด้วยความเร็วและหนัก การกระทบไหล่กับคนแปลกหน้ามีให้เห็นบ้างประปรายแต่ไม่มีใครให้ความสนใจมันวีรกานต์ มองความชุลมุนข้างล่างนั่นจากสะพานลอยที่มีหลังคาหุ้มไว้เพื่อกันแสงแดด เป็นภาพคุ้นตาเมื่อเขาต้องเดินทางมาทำงานในละแวกนี้เป็นประจำวันนี้เขาเลือกใส่เชิ้ตตัวเก่ง มันเป็นเสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อน กระดุมถูกติดทุกเม็ดเว้นแต่สองเม็ดบนสุด เผยให้เห็นไหปลาร้าน่ามองแบบวับแวบ ปลายแขนเสื้อถูกเจ้าของพับขึ้นมาสองทบเพื่อไม่ให้ดูอึดอัดและเป็นทางการจนเกินไป ชายเสื้อข้างหนึ่งถูกยัดอยู่ในกางเกงสแลคสีครีม ส่วนอีกข้างปล่อยยาวลงมาผมสีน้ำตาลไหม้อยู่ในทรงทูบล็อก มันถูกหวีอย่างลวก ๆ ก่อนออกมา รับกับดวงหน้าคม สันจมูกโด

    Last Updated : 2025-04-02

Latest chapter

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 9 อัลฟ่า...ฮีท?

    บทที่ 9 อัลฟ่า...ฮีท?_______กานต์จะยังโกรธเขาอยู่ไหมเป็นเวลากว่าสองวันที่พีรยุทธ์หมกตัวอยู่ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมของตนไม่ออกไปพบปะใครเว้นแต่ตอนกินข้าว ซึ่งผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ได้คิดว่ามันผิดสังเกตแต่อย่างใด เพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดเป็นเวลาสองวันที่เขานอนไม่ลง แม้จะรู้สึกง่วงงุนจนตาแทบปิดแต่ก็ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ข่มตาหลับได้ป่านนี้แล้ววีรกานต์จะเป็นเช่นไรบ้างตามร่างกายยังมีรอยแดงช้ำอยู่หรือไม่แล้วจะยังโกรธเคืองกันอยู่หรือเปล่าทุก ๆ คำถามล้วนต้องการคำตอบจากคน ๆ เดียว ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่พีรยุทธ์นั่งกอดเข่าพิงขาเตียง ดวงตาสีรัตติกาลที่เคยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเสมองประตูกระจกที่กั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองเอาไว้ด้วยอาการเม้มปากแน่น เนื่องจากมีผ้าม่านสีขาวปิดทับไว้อีกชั้นจากฝั่งของวีรกานต์ทำให้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนภายในห้องนั้นแต่กลิ่นชากุหลาบของวีรกานต์ก็จางลงไปมากจนแทบไม่รู้สึกถึงฟีโรโมนคงอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้านแล้ว...วีรกานต์ได้ล็อกประตูไว้หรือไม่ความคิดกระแสหนึ่งที่แล่นเข้ามาในหัวทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ ใจหน

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 8 รู้สึกผิด

    บทที่ 8 รู้สึกผิด_____เสียงโครมครามของท้องฟ้าดังสนั่นในยามสายของวัน เมฆสีดำสนิทเคลื่อนลงต่ำบดบังแสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์สายฝนสาดกระหนำเทลงมาอย่างหนัก หยดน้ำเม็ดใหญ่ตกกระทบหน้าต่างส่งเสียงดังเปาะแปะ ไม่รู้ว่าพายุเข้าหรือไม่เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบติดตามข่าวสารมากนักพีรยุทธ์เปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาที่ปรากฏแววความอ่อนล้ากวาดมองไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม ในหัวนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืนพลันความรู้สึกผิดก็ตีตื้นขึ้นมาจนจุกลำคออัลฟ่ากลิ่นองุ่นยังคงนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงนอนสีขาวข้างกายมีวีรกานต์ที่เป็นเจ้าของห้องกอดก่ายร่างหนาของตนอยู่รอยกุหลาบสีช้ำยังมีให้เห็นเป็นจ้ำ ๆ ตามเรือนร่าง อีกทั้งรอยแดงจากการบีบเค้นก็ยังหลงเหลือให้เห็น ยิ่งพาให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่หลังเสร็จกิจเมื่อคืนไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ วีรกานต์ก็หมดสติฟุบหลับไปทันที เขารีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปหาอุปกรณ์มาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนบนเตียงได้นอนหลับอย่างสบายตัว เสื้อยืดและกางเกงถูกสวมให้อัลฟ่าชากุหลาบคลายความหนาวแล้วห่มผ้าห่มนวมทับอกให้อีกชั้นหนึ่งก่อนจะตระกองกอดร่างที่หลับใหลนั่นไว้ทั้งคืนรอยแด

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (2/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศ (ต่อ)________“จูบกานต์” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยเสียงแผ่วราวกับกระซิบชิดริมฝีปากหนา ค่อย ๆ ขยับกายเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วใช้ปากงับเบา ๆ“กานต์...” พีรยุทธ์เอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสนิทอย่างเลื่อนลอย เขามองสบเข้าไปในนัยน์ตาสีเฮเซลนัทก่อนจะพบว่าในแววตาคู่นั้นไม่ปรากฏแววล้อเล่นเลย“จูบสิ” วีรกานต์ท้าทายอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อถูกอีกฝ่ายเชิญชวนคนที่เขาแอบรักมาแสนนานกำลังบอกให้เขาประทับจูบลงไปนี่มันเกินคาดไปมากเขาฝันอยู่หรือเปล่าวีรกานต์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคนตรงหน้ายังมีท่าทีเฉยเมยแต่ดวงตากลับแสดงออกมาว่าเจ้าตัวตื่นเต้นและตกใจจนเห็นได้ชัด “ทำไมไม่...”ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยจบประโยค ริมฝีปากหนาของอัลฟ่ากลิ่นองุ่นก็ทาบทับลงมาบนอวัยวะเดียวกันด้วยระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรแม้จะตกใจอยู่บ้างที่ถูกจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัวทั้ง ๆ ที่เป็นคนเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายเอง แต่เขาก็ตอบรับสัมผัสของพีรยุทธ์ได้ดีจนคนมอบจูบครางเครือในลำคออย่างพอใจริมฝีปากหนาขบเม้มกลีบปากทั้งบนและล่างของอัลฟ่าชากุหลาบอย่างคนกระหาย ดูดดึงจนได้ยินเสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังก้องห้องสี่เหลี่ยมฟีโรโมนกลิ่นองุ่นแล

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 7 คืนเสพเพศ (1/2)

    บทที่ 7คืนเสพเพศหลังกลับจากห้องนอนของพีรยุทธ์ อัลฟ่าชากุหลาบก็คล้ายว่าจะอยู่ไม่สุข เขานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนนุ่มเพราะกลิ่นฟีโรโมนของอีกคนมันกระจายเล็ดลอดเข้ามาวีรกานต์พยายามทำเป็นไม่สนใจกลิ่นหอมนั้น ผ้าห่มนวมผืนหนาถูกยกขึ้นคลุมตั้งแต่ส่วนหัวถึงปลายเท้าเพื่อไม่ให้ร่างกายอัลฟ่าของตนรับรู้ถึงกลิ่นหอมยั่วยวนของพีรยุทธ์นี่มันบ้ามากพีรยุทธ์มีอาการรัทที่รุนแรงกว่าที่เคยเป็น เขาเองก็เป็นอัลฟ่าจึงรู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้มิหนำซ้ำเขายังรู้สึกถึงอารมณ์ร้อนวูบวาบในช่องท้องเพราะสูดดมกลิ่นไวน์องุ่นของอัลฟ่าที่กำลังอยู่ในช่วงรัทเข้าปอด สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ลำคอยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำพาให้ร่างกายเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุนี่เขามีอารมณ์กับฟีโรโมนของอัลฟ่าด้วยกันงั้นหรือบ้าไปแล้วในขณะที่กำลังถกเถียงกับตัวเองอยู่ เสียงกึกกักที่บานประตูกระจกก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของวีรกานต์ให้โผล่ศีรษะออกมานอกผ้าห่มแล้วชะเง้อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเขารับรู้เพียงการสั่นไหวของประตูเล็กน้อยเท่านั้นเพราะมีม่านสีขาวปิดบังการเคลื่อนไหวของอีกฝั่งไว้ อัลฟ่าชากุหลาบจึงคิดว่า

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ

    บทที่ 6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ_______ไม่มีทางอัลฟ่าไม่มีทางมีเขี้ยวจริงอยู่ว่าบรรพบุรุษมีเชื้อนักล่าอย่างหมาป่าแต่พวกเขาไม่ได้ฝากสัญลักษณ์ที่น่าเกรงขามนี้ไว้ให้ลูกหลานหรือใครหน้าไหนทั้งนั้นเว้นเสียแต่...เชื้อสายบริสุทธิ์อีนิกม่า....ต้องไม่ใช่สิในขณะที่วีรกานต์กำลังจมอยู่กับความคิดถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทิ้งน้ำหนักตัวลง แนบใบหน้าดุดันไปกับแผงอกของเขานั่นทำให้วีรกานต์รู้ว่าพีรยุทธ์ยังคงมีสติแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตามอัลฟ่าชากุหลาบเม้มปากแน่น พยายามควานหาเสียงของตนให้เจอเพื่อถามไถ่อีกฝ่าย หากแต่เสียงคำรามแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามในลำคอของอัลฟ่ากลิ่นไวน์องุ่นก็ทำให้วีรกานต์หายใจติดขัดไปชั่วครู่ ไม่กล้าปริปากเอ่ยสิ่งใดออกไปอย่างนึกกลัวข้อมือหนาของอัลฟ่าชากุหลาบยังคงถูกตอกตรึงไว้แน่นบนที่นอนด้วยมือที่ใหญ่กว่าทั้งสองข้าง เขารู้สึกได้ถึงแรงที่ผ่อนลงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเหมือนเมื่อครู่ที่ผ่านมาวีรกานต์เม้มปากแน่นอีกครั้งอย่างประมาท ก้อนเนื้อภายในอกเต้นระส่ำเพราะนึกหวั่นเกรงอีกฝ่าย เขาสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติและพยายามหาเสียงตัวเอ

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์

    บทที่ 5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์__________หลังจบทริปพักผ่อนที่เขื่อนต่างจังหวัด สองอัลฟ่าก็เดินทางกลับเมืองหลวงในช่วงสายของวันถัดมา วีรกานต์ถูกพ่อแม่เอ็ดเสียยกใหญ่ว่าไปไหนไม่ยอมบอกกล่าว แต่ก็ได้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นมาช่วยพูดให้ว่าเป็นตัวเขาเองที่ชวนอีกฝ่ายออกนอกสถานที่ไปหลายวันเมื่อการพักผ่อนจบลงก็ถึงคราวต้องกลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิมอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขานั่งตรวจการบ้านของนักเรียนตัวเองมาตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเลยมื้อเที่ยงมามากโข แม้จะรู้สึกหิวอยู่บ้างแต่เขาก็ยังไม่ยอมย้ายตัวเองออกจากห้องนอนเสียทีงานค้างเป็นกอง ไม่น่าหนีเที่ยวเลยวีรกานต์วีรกานต์ถอนหายใจ หากเขาพูดประโยคนี้ให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นได้ยินมีหวังโดยงอนเป็นแน่ แต่ก็คงนั่งน้ำลายบูดอยู่คนเดียวสักสามชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ สี่ชั่วโมงเป็นอย่างมากก็จะกลับมาพูดคุยกับเขาดังเดิมเขาหันมองด้านขวามือที่เป็นประตูกระจกใสกันไว้ระหว่างห้องนอนของเขาและพีรยุทธ์ มันมีผ้าม่านสีขาวคลุมไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและตาข่ายดักฝันสีเดียวกันห้อยไว้ประตูนั้นไม่เปิดมาสองวันแล้วตั้งแต่กลับมาเขาคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะงานท่วมหัวไ

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน

    บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน_______หลังจากเสร็จสิ้นการดูดาวเมื่อคืนนี้ สองอัลฟ่าก็พากันกลับไปที่จุดนัดพบกับคุณลุงเบต้าและพบว่าชายชราตั้งท่ารอคนหนุ่มทั้งคู่อยู่ก่อนแล้วแต่อาจจะด้วยอากาศที่เย็นสบายตัวและเป็นช่วงเวลาใกล้เข้าวันใหม่เต็มทีทำให้ฝ่ายของอัลฟ่าชากุหลาบเกิดอาการสัปหงกอยู่หลายครั้งจนพีรยุทธ์สังเกตเห็นเลยคว้าเอาตัวคนข้างกายมาไว้ในอ้อมกอดหวังให้อีกคนได้หลับนอนอย่างสบายไม่วายถูกคุณลุงเบต้าที่นั่งบังคับหางเสืออยู่ด้านหลังเอ่ยแซวว่าเป็นคู่รักที่หวานกันเสียจริง ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นหูแดงเถือกลนลานรีบปฏิเสธในทันทีว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้นแต่อย่างไรเสียในสายตาของชายชราที่ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปีก็ดูออกว่าคนทั้งคู่มีใจให้แก่กันอัลฟ่าแล้วอย่างไรโลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้วพีรยุทธ์ปฏิเสธคุณลุงไปอีกรอบว่ามีเพียงตนที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว ทำเอาชายชราขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมรามือไป แต่ภายในใจยังคงครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากกัน คนนอกอย่างเขายังมองรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีใจแต่เอาเถอะ...คนแก่จะไม่ยุ่งเรื่องของคนหนุ่มเมื่อมาถึงเรือนแพของสองอัลฟ่า พีรยุทธ์เอ่ยเรียกอัลฟ่า

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 3 ดูดาวบนเกาะ

    บทที่ 3ดูดาวบนเกาะดวงอาทิตย์กำลังบอกลาขอบฟ้าเหลือไว้เพียงแสงสีส้มแกมน้ำเงินเข้ม เสียงนกแขวกดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะแต่เพียงแผ่วเบา พวกมันกำลังออกล่าอาหารมื้อค่ำก่อนกลับรังบนต้นไม้ใหญ่ในระแวกเขื่อนสายลมเย็นในช่วงค่ำพัดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่ที่เปิดแง้มไว้เข้ามา ปลุกให้สองอัลฟ่าบนฟูกสีสะอาดรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราวีรกานต์ปรือตามองลอดผ่านหน้าต่างออกไป ท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปมากจากความทรงจำครั้งล่าสุดบ่งบอกว่าในขณะนี้เป็นเวลาเย็นย่ำแล้วเขาปิดปากหาวหวอดไปทีจนมีน้ำสีใสฉ่ำรอบดวงตา ตั้งใจว่าจะลุกออกไปชำระล้างร่างกายเสียก่อนที่อากาศภายนอกจะอุณหภูมิต่ำลงมากกว่านี้อัลฟ่าชากุหลาบกับอากาศหนาวเย็นไม่ใช่สิ่งคู่กันแต่ก่อนจะยันตัวขึ้นก็ต้องจัดการพันธนาการที่โอบรอบเอวนี้ไว้เสียก่อนจากตอนแรกที่ต่างคนต่างเป็นฝ่ายโอบกอดกันและกันก่อนเข้าสู่นิทรา กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มีเพียงอัลฟ่าผมสีคาราเมลเท่านั้นที่ถูกวงแขนของเพื่อนตัวดีโอบรัดร่างกายเอาไว้รัดแน่นเป็นงูเสียด้วย“พี เย็นแล้ว” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยกระซิบบุคคลด้านหลังหากแต่ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงการขยับตัวขยุกขยิกเล็กน้อยและเสียงครางฮึมฮัมเป็นสัญญาณตอบกลับมา

  • พีขอโทษ Sorry for the misake   บทที่ 2 เดินทาง

    บทที่ 2เดินทางยามเย็นในเมืองหลวงเป็นที่รู้กันดีว่าการจราจรต้องติดขัดอย่างแน่นอน สองเพื่อนอัลฟ่ากำลังนั่งมองสัญญาณไฟด้วยใจจดจ่อ มันขึ้นเป็นสีเขียวมาครึ่งนาทีแล้วหากแต่รถยนต์คันข้างหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยสักนิด ผ่านไปเกือบสองนาทีจึงเริ่มมีการเคลื่อนไหวแต่สัญญาณไฟจราจรดันกลายเป็นสีแดงไปแล้วเห็นทีว่าคงต้องรอต่อไปภายในห้องโดยสารมีอัลฟ่าเจ้าของฟีโรโมนกลิ่นองุ่นเป็นสารถีขับรถโดยมีเพื่อนสนิทอย่างอัลฟ่าชากุหลาบนั่งอยู่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสาร วีรกานต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่าย เอนหัวพิงกระจกรถมองสายฝนเม็ดเล็กที่ร่วงหล่นลงมากระทบกับพื้นถนน เขาเบื่อที่ต้องนั่งรอสัญญาณไฟจราจรอยู่แบบนี้ทุกวัน อย่างต่ำก็คงสักชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายพีรยุทธ์สังเกตเห็นคนข้างกายยกมือขึ้นลูบแขนปอย ๆ อาจจะทำเพื่อระบายความหนาวเย็นทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวเก่ง เขาแอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดูอยู่ในใจอัลฟ่ากลิ่นองุ่นเอื้อมมือมาที่หน้าคอนโซลเพื่อเบาแอร์ลงก่อนจะเอี้ยวตัวไปด้านหลังหยิบผ้าห่มสีเรียบจากกล่องเก็บของที่วางอยู่บนที่พักเท้าของเบาะหลังมาให้อัลฟ่าเพื่อนสนิทได้คลุมตัวคลายหนาวในช่วงเวลาฝน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status