ดาบปีศาจของจอมมารชินซาง ที่สถิตอยู่ในดินแดนปีศาจถูกดึงออกจากแท่นหินด้วยตัวเองก่อนจะลอยละลิ่วขึ้นสู่ผืนฟ้าเบื้องบน จากดินแดนปีศาจผ่านดินแดนน้อยใหญ่ พุ่งแหวกว่ายกลางอากาศลงมาพร้อมสายฟ้าฟาดตรงเข้ามาหาจอมมารผู้เป็นเจ้าของดาบเล่มนั้น
พระหัตถ์ยกขึ้นรับดาบปีศาจของพระองค์อย่างรวดเร็ว พระวรกายสูงใหญ่หมุนไปโดยรอบพร้อมตวัดดาบปีศาจกวัดแกว่งไปมา จอมมารกระชับอาวุธประจำพระองค์เสด็จพระดำเนินตรงมาหาเฉินกงฮ่องเต้พร้อมใช้พระวรกายสูงใหญ่ทะมึน ยืนบังฮ่องเต้แคว้นต้าโจวเอาไว้ ท่อนพระกรใหญ่ยื่นออกไปข้างหน้าพลางยกพระหัตถ์ขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วพระหัตถ์ชี้ไปที่พระพักตร์ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่พลางขยับนิ้วพระหัตถ์ขึ้นลงเป็นสัญญาณเรียกให้เข้ามาหา ท่ามกลางพระอาการตกตะลึงของเฉินกงฮ่องเต้ ครั้นเมื่อทรงได้ทอดพระเนตรบุรุษอาภรณ์สีนิลกาฬในระยะใกล้ชิด พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนทรงยืนบังฮ่องเต้แคว้นเทียนโจวได้อย่างมิดชิดยิ่งนัก ในขณะที่ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่ทอดพระเนตรการกระทำของบุรุษปริศนาที่หาญกล้าแสดงอาการท้าทายพระองค์อย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ในขณะที่กองทัพของพระองค์โอบล้อมทัพต้าโจวเอาไว้รอบด้าน “หาคนมาช่วยอย่างนั้นเหรอเฉินกง! เข้าท่า!ช่างหานักรบได้น่ายำเกรงเสียนี่กระไร ข้าก็อยากล่วงรู้เช่นกันว่าจะไปได้สักกี่น้ำ!” ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่รับสั่งดูแคลนพลางแสยะยิ้มเหยียด คันธนูง้างออกจนสุดแขนเล็งไปที่ร่างของบุรุษร่างสูงทะมึนซึ่งล่อเป้าได้เป็นอย่างดี ด้วยความสูงที่โดดเด่นกว่าบุรุษใดที่อยู่ในเวลานั้น ลูกธนูอาบยาพิษถูกปล่อยจากคันศรออกไปทันที “ฟิ้วววววว!!!” ลูกธนูสามดอกพุ่งตรงเข้าหาพระวรกายของจอมมารโดยพลัน ทันทีที่ลูกธนูพุ่งหลาวออกมา จอมมารชินซางยกดาบปีศาจที่อยู่ในพระหัตถ์ใช้วรยุทธ์จากดินแดนปีศาจลงดาบฟันกลางอากาศไปเพียงครั้งเดียว พลังวรยุทธ์สะท้อนลูกธนูที่กำลังพุ่งตรงมาหาอยู่ในขณะนั้นถูกทำลายลงไปทันที รวมไปถึงทหารในกองทัพของต้าฉู่ซึ่งอยู่ภายในรัศมีถูกพลังสะท้อนกลับประหนึ่งถูกคมดาบปีศาจฟาดฟันถูกกายล้มตายลงเป็นเบือต่อหน้าทุกชีวิตที่อยู่นอกเขตรัศมี ท่ามกลางอาการตกตะลึงของบรรดาทหารในกองทัพของทั้งสองแคว้น และฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่และเฉินกงฮ่องเต้ ต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างกัน พระพักตร์ภายใต้เกราะกำบังของฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่สั่นระริกเมื่อทอดพระเนตรทหารในกองทัพล้มตายเพียงดาบเดียว “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าวันนี้เจ้าจะมีชีวิตรอดกลับไปได้ เจ้าผมสีเงิน! มีปัญญาฝ่ากองทัพเรือนแสนของข้าได้ก็ให้มันรู้ไป! อยากรู้เหมือนกันว่าชีวิตของเจ้าจะจบลงด้วยสภาพเยี่ยงไร!... ทหาร! ฆ่าบุรุษผมสีเงิน! ตัดหัวของมันมาให้ข้า ผู้ใดทำได้ข้าจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม!” รับสั่งตะโกนก้องสั่งทหารของพระองค์ พระบัญชาของฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่ดังกึกก้องได้ยินไปทั่วบริเวณ บรรดาทหารขึ้นคันธนูพร้อมลูกศรเตรียมง้างออกไปนับหลายหมื่นดอกเพื่อโจมตีทัพของแคว้นเทียนโจว เป็นเหตุให้เฉินกงฮ่องเต้มีรับสั่งกับจอมมาร “เจ้ารีบหลบหนีไปเสียเถิดพ่อหนุ่ม! หาไม่แล้วจะต้องมาตายตกตามกัน ณ ที่แห่งนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่มีวันปล่อยผู้ใดรอดชีวิตกลับไปอย่างแน่นอน ขอบใจเจ้ายิ่งนักที่มีน้ำใจช่วยเหลือแคว้นเทียนโจวของข้า กำลังในกองทัพของข้าตอนนี้แตกต่างดั่งฟ้ากับเหว มิอาจเอาชนะต้าฉู่ได้” พระพักตร์หล่อเหลาคมคร้ามยังคงเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านกับรับสั่งของเฉินกงฮ่องเต้แม้แต่น้อย วรองค์สูงทะมึนพระดำเนินออกไปข้างหน้าสามก้าวก่อนจะทรงหยุดยืนนิ่ง พลางทอดพระเนตรกองทัพของต้าฉู่ที่กำลังวิ่งดาหน้าเข้ามาหาพระองค์อย่างบ้าคลั่ง “อยู่เฉยๆ เมื่อข้าออกหน้าจงรอผลที่ตามมาก็พอแล้ว” รับสั่งสุร เสียงเย็นยะเยียบ ถ้อยรับสั่งของจอมมารทำให้เฉินกงฮ่องเต้ต้องสงบปากสงบคำลงทันใด บรรดาทหารองครักษ์ที่ได้ยินถ้อยรับสั่งของจอมมารหนุ่มต่างพากันกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อได้ยินพระสุรเสียงเย็นยะเยือกเช่นนั้น “บุรุษผู้นี้ช่างน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแม้แต่น้อย ทหารต้าฉู่เป็นเรือนแสนกำลังดาหน้าเข้ามาหมายสังหารทัพต้าโจวให้สูญสิ้น แต่กลับไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ยังคงยืนท้าทายอยู่เช่นนั้น” เสียงเอ็ดอึงของกองทหารโจษขานกันเป็นวงกว้าง แต่ละคนรีบยกอาวุธคู่กายเตรียมป้องกันตนเองและองค์ฮ่องเต้ จอมมารชินซางทอดพระเนตรกองทัพแคว้นต้าฉู่ที่มีกำลังพลมากมายเป็นเรือนแสนอยู่ตรงหน้าพระพักตร์ ครั้นหันกลับไปทอดพระเนตรกองทัพของเทียนโจว ช่างแตกต่างลิบลับดั่งฟ้ากับเหวเสียนี่กระไร “วรยุทธ์ของข้าแม้จะรับมือกับทหารเป็นเรือนแสนได้ก็ตาม แต่ต้องใช้เวลาสิ้นเปลืองนานพอควร เสียแรงโดยใช่เหตุ ทำศึกให้ชนะต้องเด็ดหัวจอมทัพโดยเร็วจะได้ไม่เสียทั้งแรงและเวลา” รับสั่งรำพึงอยู่ภายในพระทัย ทันใดนั้นเอง “ฟิ้ววววว!!!!” ลูกธนูนับหมื่นดอกถูกยิงออกมาอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าเบื้องบนเต็มไปด้วยลูกธนูจากแคว้นต้าฉู่ลอยละลิ่วพุ่งเข้าเป้าหมาย นั่นก็คือทุกชีวิตของฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารเมื่อทอดพระเนตรลูกธนูนับหมื่นพุ่งตรงมาดั่งห่าฝนพรำ พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารหมุนคว้างดั่งลูกข่างพร้อมดาบปีศาจคู่พระวรกายตวัดกวัดแกว่งไปมา พลังวรยุทธ์สะท้อนลูกธนูนับหมื่นดอกเลือนหายไปโดยพลันและสะท้อนกลับให้หันทิศทางลงปักที่เป้าหมายเป็นกองทัพต้าฉู่ “ฉึก! ฉึก! ฉึก!” ลูกธนูหันหลังกลับพุ่งปักไปที่ร่างของทหารแคว้นฉู่ล้มตายเป็นเบือ ยังมิทันจะได้ตั้งตัวจอมมารไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดรอด ดาบปีศาจที่อยู่ในพระหัตถ์ถูกปักกระแทกลงพื้นดินกระจายพลังสังหารจากวรยุทธ์ของพระองค์จนกองทัพต้าฉู่ล้มตายดั่งใบไม้ปลิดปลิว ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้แคว้นฉู่พลังสังหารของจอมมารรุนแรงอย่างยิ่งยวด จนบรรดาแม่ทัพนายกองรวมไปถึงฮ่องเต้ต้าฉู่ต่างพากันตกลงบนหลังม้าลงมานอนกองกับพื้น ครั้นพระเนตรสีนิลกาฬทอดพระเนตรฮ่องเต้แคว้นฉู่ตกลงจากหลังม้าเช่นนั้น จอมมารดึงดาบปีศาจออกจากพื้นทันใดพร้อมใช้พลังวรยุทธ์เร้นพระวรกายเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงพระวรกายฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กำลังลุกยืนขึ้นจากพื้น ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังตกตะลึงเมื่อบุรุษเกศาสีเงินยืนสูงทะมึนค้ำพระเศียรปรากฏอยู่ตรงหน้า “ข้ามาหาเจ้าแล้วเด็กน้อย!” รับสั่งสุรเสียงเหี้ยมเกรียม พระพักตร์หล่อเหลาแสยะยิ้มเหยียดอย่างน่าสะพรึงกลัว พระหัตถ์ยกขึ้นจับพระเศียรฮ่องเต้ต้าฉู่มิให้ดิ้นหนี พร้อมกระซวกดาบปีศาจออกไปทันที “ฉึก!” ดาบปีศาจคมกริบแทงเข้ากลางพระอุระฮ่องเต้แคว้นฉู่อย่างรวดเร็ว จอมมารชินซางใช้ดาบปีศาจยกพระวรกายของฮ่องเต้แคว้นฉู่ด้วยท่อนพระกรเพียงข้างเดียว ก่อนจะยกขึ้นสูงเพื่อให้ทหารที่เหลือในกองทัพของต้าฉู่ยอมจำนนแต่โดยดี พระวรกายของฮ่องเต้ต้าฉู่ดิ้นพราดๆ อยู่ภายใต้คมดาบปีศาจด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส สายพระเนตรของพระองค์ทอดพระเนตรพระพักตร์หล่อเหลาที่กำลังแหงนหน้ามองพระองค์เช่นเดียวกัน บุรุษร่างใหญ่สูงทะมึน เจ้าของเส้นผมสีเงินและอาภรณ์สีนิลกาฬติดอยู่ในสายพระเนตรเป็นยิ่งนัก ก่อนจะเบิกพระเนตรกว้างเมื่อทรงได้ทอดพระเนตร ดวงตาสีเลือดของอีกฝ่ายฉายแวววับออกมา “จะ... เจ้า... ปะ... เป็น” รับสั่งสุรเสียงขาดห้วง “ข้าเป็นอะไรไม่สำคัญ... จงรู้แต่เพียงว่าข้ามีชีวิตมานานหลายแสนปีแค่นั้นก็พอ” รับสั่งสุรเสียงเย็นยะเยียบ และคำตอบของพระองค์ทำให้ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่เบิกพระเนตรกว้างออกมาทันที เมื่อทรงล่วงรู้แล้วว่าบุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินนี้แท้จริงเป็นผู้ใด “จะ... จอม... จอมมาร... นะ... ในตำนาน... นะ... ในที่สุด... กะ... ก็มีตัวตนจริงๆ” สิ้นพระสุรเสียงฮ่องเต้ต้าฉู่เสด็จสวรรคตลงอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่อึดใจ ถ้อยรับสั่งสุดท้ายของฮ่องเต้ต้าฉู่ทำให้จอมมารชินซางทรงยืนนิ่งไปชั่วขณะ “ไม่คิดเลยว่าภพมนุษย์จะล่วงรู้ว่าข้าคือจอมมาร” รับสั่งสุรเสียงพึมพำ เหล่าทหารของต้าฉู่ต่างยืนอ้าปากค้างเมื่อเห็นฮ่องเต้ของตนถูกดาบยาวของบุรุษผมสีเงินเสียบเข้าที่ยอดอกพร้อมยกพระวรกายชูขึ้นสูงเป็นเครื่องหมายของชัยชนะที่แคว้นเทียนโจวมีเหนือกว่าต้าฉู่ ในขณะที่พระวรกายสูงทะมึนของจอมมารหมุนไปโดยรอบเพื่อให้ทุกชีวิตและทุกสายตาที่อยู่ในศึกสงครามครั้งนี้ได้รู้และเห็น พระศพของฮ่องเต้ต้าฉู่ยังเสียบคาอยู่ที่ดาบปีศาจอยู่เช่นนั้น “ฉึกกก!!!” จอมมารปักปลายด้ามของดาบปีศาจลงบนพื้นดินพร้อมพระศพของฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่ยังคงเสียบคาดาบปีศาจ พร้อมสุรเสียงประกาศกึกก้อง “ฮ่องเต้ของพวกเจ้าสวรรคตแล้ว! จงถอนทัพกลับไปเสีย! นำพระศพกลับไปที่แคว้นเพื่อประกอบพิธีให้อย่างสมพระเกียรติในฐานะนักรบ แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ข้า! แต่มิได้เสื่อมเกียรติของการเป็นนักรบในสมรภูมิแต่อย่างใด และนับจากนี้ต่อไปพวกเจ้าล่วงรู้ดีว่าในฐานะผู้พ่ายแพ้สงครามจะต้องปฏิบัติเยี่ยงไรต่อไปกับผู้มีชัยเหนือพวกเจ้า!” รับสั่งสุรเสียงกึกก้องได้ยินไปทั่วขุนเขาทหารต้าฉู่ที่รอดชีวิตต่างพร้อมใจพากันทิ้งอาวุธอย่างพร้อมเพรียง ทุกชีวิตทรุดกายลงนั่งคุกเข่าพร้อมส่งเสียงขานรับพระบัญชาของจอมมารออกมาทันที“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ! นับตั้งแต่นี้ต่อไปแคว้นต้าฉู่ยินดีสวามิภักดิ์ต่อแคว้นเทียนโจวตลอดไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญ!”เหล่าทหารแคว้นต้าฉู่เปล่งถ้อยคำออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันครั้นจอมมารชินซางได้ยินคำกล่าวของบรรดาทหารต้าฉู่เอ่ยออกมาเช่นนั้น พระองค์หันพระวรกายกลับไปทอดพระเนตรเฉินกงฮ่องเต้ พระวรกายสูงทะมึนเสด็จพระดำเนินก้าวเข้าไปหาบุรุษที่เหมือนพระบิดาของพระองค์อย่างไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ที่จะจัดการเยี่ยงไรต่อไป ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถจัดการได้ออกมาเป็นอย่างดี” รับสั่งสุรเสียงเรียบเฉย พร้อมพระดำเนินออกไปจากบริเวณนั้นครั้นเฉินกงฮ่องเต้หายจากพระอาการตกตะลึงและทอดพระเนตรบุรุษปริศนากำลังจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ พระองค์ทรงรีบมีรับสั่งทักท้วงออกไปทันที“เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม!” สุรเสียงรับสั่งรั้งจอมมารพระวรกายสูงทะมึนทรงหยุดพระดำเนินเมื่อเฉิ
ชายแดนแคว้นฉู่ “พรึ่บ!” ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ หญิงสาวนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่บริเวณชายป่าเขตแดนแคว้นฉู่ ซึ่งเดิมทีเป็นของแคว้นฉู่ทั้งหมด ภายหลังต้องแบ่งสิทธิในการดูแลและครอบครองเมืองแถบชายแดนของแคว้นฉู่ทั้งหมดให้กับแคว้นเทียนโจวคนละครึ่งช่วยกันปกครอง เพื่อทางเทียนโจวสามารถสอดส่องและส่งกองทหารมาตรึงตามชายแดน มิให้เกิดสงครามระหว่างแคว้นขึ้นมาได้อีก ด้วยผลจากการพ่ายแพ้สงครามในศึกเหิงไห่เมื่อห้าปีก่อน ทำให้แคว้นฉู่จำต้องยินยอมทำตามข้อตกลงทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ซึ่งดีกว่าจะต้องเสียแคว้นให้อยู่ใต้การปกครองของเทียนโจวตลอดไป และการก้าวเดินถอยหลังของวาวาถึงห้าก้าวในเขตแดนปีศาจเข้าสู่ภพมนุษย์ทำให้เธอกลับมาในยุคอดีตภายหลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างแคว้นเทียนโจวและแคว้นฉู่เสร็จสิ้นไปแล้วเป็นเวลานานถึงห้าปี ในขณะที่จอมมารชินซางทรงสวมกอดนางเอาไว้แนบอกตลอดเวลาจึงทำให้พระองค์หวนกลับคืนสู่อดีตกาลเช่นเดียวกัน แต่ทรงกลับมาเพียงลำพังโดยไร้สิ้นนางในอ้อมกอด ด้วยเพราะเฉินวาวาก้าวถอยหลังถึงห้าก้าวทำให้กลับมาช้ากว่าพระองค์ห้
ภายในกระโจมที่ประทับร่างงามนอนหลับใหลมิได้สติจนผ่านไปหนึ่งวันกับอีกสองคืน ภายในกระโจมส่วนตัวติดกับกระโจมขององค์หญิงชิวหรงซึ่งทรงพระประชวรอยู่ในขณะนี้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยไฟอัคคีสร้างความหวาดกลัวให้แก่นางกำนัลที่เฝ้าคอยดูแลหญิงสาวเป็นยิ่งนัก พิศเพ่งหน้านางคราใดต้องตื่นตกใจทุกครา จนมิมีผู้ใดกล้าเฝ้านางอยู่ตลอดเวลาคงทำได้แต่เพียงยืนเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าของกระโจมใบหน้าราวปีศาจปรากฏแสงเรืองรองสว่างวาบออกมาจากรอยปานคล้ายหยดน้ำซึ่งก็คือไฟอัคคีของจอมมารชินซางที่ย้ายมาสถิตอยู่ตรงกลางหน้าผากของหญิงสาว ใบหน้าเริ่มพลิกไปมาอย่างช้าๆ เปลือกตากลอกกลิ้งไปมาพร้อมเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้า เมื่อเธอได้นิมิตฝันเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ทะมึน เจ้าของเกศาสีเงินยวงสวมชุดเกราะจอมทัพ ภายในมือถือดาบยาวขนาดใหญ่ ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมลุกกระพือออกเป็นวงกว้างดั่งไฟจากขุมนรกทั่วบริเวณเต็มไปด้วยทหารนับหลายพันนายรายล้อมบุรุษผู้นั้นหมายรุมฆ่าลงประชาทัณฑ์ ในขณะที่มีเพียงบุรุษผู้นั้นเพียงหนึ่งเดียวยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชน เสียงตะโกนก้องกัมปนาทดังขึ้นพร้อมดาบยาวยกขึ้นช
บริเวณนอกกระโจม“ชิงเหยียน! อู๋ชิงเหยียน! อู๋…” หญิงสาวตะโกนได้เพียงแค่นั้นดวงตากลมโตกวาดสายตามองขบวนเจ้าสาวที่เต็มไปด้วยนางกำนัลมากมายพร้อมขันทีและกองทหารตามขบวนเสด็จไม่ต่ำกว่าสองร้อยนาย คอยถวายอารักขาไปตลอดการเดินทาง ม้านับร้อยตัวยืนอยู่อีกมุมหนึ่งรถม้าในสมัยโบราณมีมากมายหลายสิบคัน อุดมไปด้วยของมีค่ามากมายสิ่งเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ขององค์หญิงชิวหรงครั้นมองไปทิศทางใดก็มีแต่เทือกเขาสูงและป่าดงดิบทุกคนล้วนสวมชุดในสมัยโบราณที่แลดูแปลกตา ไม่เหมือนที่เธอเห็นในกองถ่ายซีรีส์ย้อนยุคแม้แต่น้อย แม้จะแลดูมีสีสันไม่แตกต่างกันแต่กลับมีความงามแปลกประหลาดในตัวเองในขณะที่ทุกสายตาหันกลับมามองเธอด้วยความตกใจสุดขีดที่เห็นใบหน้าดุจปีศาจของสตรีแปลกหน้า ก่อนจะรีบก้มหน้าลงมองพื้นทันทีเมื่อเห็นทางด้านหลังปรากฏองค์ฮ่องเต้เสด็จออกมาจากนอกกระโจม ยืนอยู่ด้านหลังของสตรีผู้มีใบหน้าดุจปีศาจ“ในเมื่อข้าถามเจ้าหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากเจ้าแต่อย่างใด ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้าด้วยตัวเองว่าที่นี่คือชายแดนแคว้นฉู่ พ้นเนินเ
ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทอดสายตาจับจ้องชิงอวิ้นฮ่องเต้อย่างละเอียดรวมไปถึงองครักษ์ลู่เหอซึ่งยืนถือดาบยาวยืนอยู่เคียงข้างตลอดเวลา เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่แตกต่างจากจินตนาการของคนยุคใหม่อย่างสิ้นเชิง เรียบง่ายแต่สวยงามแปลกประหลาดเพราะทอด้วยมือ แม้กระทั่งงานปักลวดลายทุกอย่างล้วนเป็นงานฝีมือทั้งสิ้น“นี่อย่าบอกนะว่าฉันหลงมาอยู่ในยุคโบราณในสมัยที่ยังมีเจ้าผู้ครองแคว้น ไม่นะ!”หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ภายในใจก่อนจะกะพริบตาสื่อสารขึ้นลงติดๆ กันเป็นสัญญาณว่าเธอต้องการที่จะพูดบ้าง ตามบทละครที่เธออ่านมาว่าคนโบราณที่ถูกสกัดจุดจะต้องสื่อสารอย่างไรบ้างและอาการของเธอองค์ฮ่องเต้ก็ทรงล่วงรู้โดยพลัน“ลู่เห่อคลายจุดให้นาง ดูท่าจะอยากกล่าวถ้อยคำบางอย่างกับข้า”“พ่ะย่ะค่ะ!” ลู่เหอรับขานรับทันที พร้อมยื่นสองนิ้วกดคลายจุดให้หญิงสาวเอ่ยถ้อยคำออกมาได้“ตึก!” สองนิ้วกดคลายจุดให้กับหญิงสาวทันทีและนั่นทำให้เธอเป็นอิสระที่จะพูดเจรจาต่อรองได้ขึ้นมาทันใด“เฮ้อ!!!” หญิงสาวรู้สึกหายใจคล่องขึ้นมาทันที ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเพื่อ
ทันทีที่ได้ยินชื่อดังกล่าว ปานรูปหยดน้ำที่มองเห็นเพียงเลือนรางเนื่องจากถูกรอยไฟอัคคีบดบังสว่างวาบขึ้นมาทันที พร้อมภาพของบุรุษสูงใหญ่ทะมึน สวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินยวงยาวสยาย ดวงตาสีเลือดฉายแวววับปรากฏให้เธอเห็นขึ้นมาโดยพลันภาพนิมิตปรากฏให้เธอเห็นร่างงามในชุดเจ้าสาวสีขาวในยุคโบราณกำลังนั่งอยู่บนเตียงมีพัดทำจากขนห่านฟ้าปิดบังใบหน้าของเจ้าสาวเอาไว้ บุรุษเกศาสีเงินยวงในชุดเจ้าบ่าวสีขาวเปิดประตูเข้ามาในห้องหอ ร่างสูงใหญ่ทะมึนเดินตรงมาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมค่อยๆ เอื้อมหยิบพัดที่ปิดใบหน้าเจ้าสาวออกจากมือนาง เผยให้เห็นใบหน้าของเฉินวาวาเธอคือเจ้าสาวงดงามลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดปรากฏอยู่ในห้องหอและในนิมิตดังกล่าว“เฮือกกก!!!” ร่างระหงลุกพรวดพราดขึ้นจากตั่งด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อจู่ๆ เกิดเห็นภาพเช่นนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้นอนหลับหรือฝันแต่อย่างใด“ทะ... ทำไม... ฉันถึงเห็นตัวเองเป็นเจ้าสาวของเขา... ขะ... เขาจะตามหลอกหลอนฉันกันไปถึงไหน” เธอยืนบ่นพึมพำอยู่เพียงลำพังก่อนจะรู้สึกตัวว่ากำลังยืนอยู่คนเดียวในกระโจม“อ้าวอีตาฮ่องเต้เจ้าแผนการกับองครักษ
ชายแดนเมืองจิงโจจวนแม่ทัพภายในห้องบรรทมชินอ๋องพระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารชินซางทรงบรรทมสนิทในเวลาแห่งรัตติกาล ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาจอมมารหนุ่มหรือชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ดำรงพระชนม์ชีพดั่งเช่นมนุษย์ธรรมดาเดินดินทั่วไป มีความรู้สึกร้อน หนาวและเจ็บป่วย รวมไปถึงได้รับบาดแผลจากการทำสงครามไม่แตกต่างจากผู้อื่นแม้แต่น้อย ในเวลานี้ไอจอมมารและพลังปีศาจที่ทรงมีอยู่คู่พระวรกายได้เลือนหายไปจนหมดสิ้นนับตั้งแต่ปานไฟอัคคีย้ายไปสถิตอยู่กับคู่ชะตาของพระองค์จอมมารจึงคงเหลือเพียงวรยุทธ์จากดินแดนปีศาจที่ทรงฝึกฝนมานับหลายแสนปีเท่านั้น เมื่อไอมารเลือนหายความเป็นมนุษย์เข้ามาแทนที่พระองค์จึงเริ่มได้รับบาดเจ็บจากการทำสงคราม บาดแผลปรากฏอยู่บนพระวรกายหลายแห่ง แต่โชคยังดีที่ภายในพระวรกายทรงมีเลือดปีศาจจึงทำให้บาดแผลสมานเข้าหากันได้ในเร็ววัน แต่สิ่งหนึ่งที่หามีผู้ใดล่วงรู้นั่นก็คือทรงไม่มีวันตายเพราะเป็นอมตะทว่าความเป็นอมตะของพระองค์ล้วนอยู่ในปานรูปไฟอัคคีทั้งสิ้น ปานดังกล่าวคือสัญลักษณ์ของจอมมาร พลังเว
แคว้นเทียนโจวเมืองเทียนจิ้น (เมืองหลวงตะวันตก)บริเวณนอกเมืองหลวงแคว้นเทียนโจว มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล และเป็นแคว้นเดียวที่มีเมืองหลวงด้วยกันถึงสองเมือง มีเมืองหลวงตะวันออกอยู่ที่เมืองเทียนฮุยซึ่งเป็นเมืองหลวงเอกของแคว้น พระราชวังหลวงอันเป็นที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนอยู่ที่นี่ในขณะเดียวกันทางตะวันตกซึ่งมีทั้งสายแร่ทองคำและเหมืองหยก มีเมืองเทียนจิ้นเป็นเมืองหลวงตะวันตก ซึ่งเมืองนี้มีความเจริญทางด้านการค้าเป็นแหล่งผลิตทองคำและหยกอีกทั้งเป็นเส้นทางการขนส่งทองคำและหยกไปยังเมืองอื่นๆ และต่างแคว้น ทำให้การค้าของเมืองหลวงตะวันตกและระหว่างแคว้นเจริญรุ่งเรืองคับคั่งยิ่งนักเมืองหลวงตะวันตกนี้โจวเฉินกงฮ่องเต้ได้มีพระบรมราชโองการยกให้ชินอ๋องปกครองเมืองการค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญหลักของแคว้นเทียนโจว ในขณะที่เมืองเทียนฮุยซึ่งเป็นเมืองหลวงเอก จะเป็นพื้นที่ราบและมีพื้นที่กว้างอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผลทางการเกษตรกว้างใหญ่เป็นอู่ข้าวอู้น้ำของแคว้น เป็นของโจวฟางหยางฮ่องเต้ ก่อนจะมีพระบรมราชโองการลับอีกฉบับสถาป
พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”
งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน
มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ
ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม
ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว
ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ
ในขณะเดียวกันตำหนักลับทันทีที่เฉินวาวาราชินีปีศาจของจอมมาร ปลดปล่อยไอปีศาจจนทำลายแคว้นเยว่พินาศวอดวาย พระวรกายของจอมมารที่ตกอยู่ในห้วงญาณแห่งการหลับใหลมีความรู้สึกขึ้นมาโดยพลัน“ตึก ตึก ตึก” พระวรกายใหญ่เริ่มกระตุกติดต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุแรงกระตุกดังกล่าวราวกับทรงสัมผัสได้ว่าราชินีของพระองค์ตกอยู่ในห้วงอันตราย และทันทีที่ร่างระหงล้มลงหมดสติจอมมารชินซางก็ทรงตื่นจากห้วงญาณแห่งการหลับใหลขึ้นมาทันที“พรึ่บ!” เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใดพระเนตรสีเลือดวาววับขึ้นมาทันที พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกบรรทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“วาเอ๋อร์! วาเอ๋อร์ของข้า!” รับสั่งเพรียกหาพระชายาพระวรกายใหญ่ลุกจากแท่นพระบรรทมโดยพลัน ก่อนจะซวนเซไปมาเมื่อพระองค์หลับใหลไปนานเกือบสามเดือนแต่ต้องตื่นก่อนกำหนดเพราะความรักที่ทั้งสองมอบให้แก่กันสื่อสัมผัสให้จอมมารชินซางออกจากญาณหลับใหลก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น ทำให้การรวบรวมพลังเวทและตบะขั้นที่แปดหวนคืนกลับมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้พระเนตรสีเล
แคว้นเยว่เมืองหลวงมี่โจแผนผังวางระเบิดตามจุดถูกกางออกอยู่ตรงหน้านางร้ายจากยุคอนาคตในขณะนี้ หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้ามองตรงไปจากเนินเขาสูง เบื้องล่างคือเมืองหลวงแคว้นเยว่ นามว่ามี่โจเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แต่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แออัดหรือสร้างติดต่อกัน ด้วยเป็นเมืองที่เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเดิมถูกเผาทำลายเมืองครั้งผลัดเปลี่ยนราชวงศ์และการแย่งชิงความเป็นใหญ่ดังกล่าวจึงทำให้แคว้นเยว่มิได้เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น เจ้าผู้ครองแคว้นฝักใฝ่ในการทำสงครามโดยมิประมาณตนว่ากองทัพมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไม่มีบุรุษลงมือทำการเกษตรเพราะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปรบทำสงครามจนหมด“จุดชนวนแล้วระเบิดกำแพงเมืองที่โอบล้อมให้พังทลายลงทั้งหมด ระเบิดคลังแสงของทหาร ตัดกำลังอาวุธ ระเบิดพระราชวังหลวงเพื่อข่มขวัญฮ่องเต้แคว้นเยว่ ระเบิดวังหลวงให้หมดทุกตำหนักและทุกที่ สุดท้ายระเบิดคลังเสบียงแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวเมือง หลังจากนั้นสายน้ำดำที่ฝังอยู่นอกตัวเมืองทุกจุด ให้ระเบิดขึ้นพร้อมก
แคว้นเยว่ ในขณะเดียวกันท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงดั่งขุนเขาต่อหน้ากองทหารของราชินีปีศาจ และกองทหารแคว้นเยว่ที่ควบคุมตัวเฉินวาวาเอาไว้ตั้งแต่คราแรก หากแต่ในเวลานี้ต่างยอมจำนนกันหมดสิ้นทุกสายตาต่างยืนมองทะเลเพลิงเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าคล้ายกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่วิ่งมาหยุดอยู่ด้านหลัง พร้อมกำลังทหารกระจายล้อมรอบไปทั่วบริเวณ“อะไรกันนี่! แคว้นเยว่ถูกทำลา