แชร์

สวมรอย 1.4

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-05 18:15:02

ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทอดสายตาจับจ้องชิงอวิ้นฮ่องเต้อย่างละเอียดรวมไปถึงองครักษ์ลู่เหอซึ่งยืนถือดาบยาวยืนอยู่เคียงข้างตลอดเวลา เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่แตกต่างจากจินตนาการของคนยุคใหม่อย่างสิ้นเชิง เรียบง่ายแต่สวยงามแปลกประหลาดเพราะทอด้วยมือ แม้กระทั่งงานปักลวดลายทุกอย่างล้วนเป็นงานฝีมือทั้งสิ้น

“นี่อย่าบอกนะว่าฉันหลงมาอยู่ในยุคโบราณในสมัยที่ยังมีเจ้าผู้ครองแคว้น ไม่นะ!”หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ภายในใจ

ก่อนจะกะพริบตาสื่อสารขึ้นลงติดๆ กันเป็นสัญญาณว่าเธอต้องการที่จะพูดบ้าง ตามบทละครที่เธออ่านมาว่าคนโบราณที่ถูกสกัดจุดจะต้องสื่อสารอย่างไรบ้างและอาการของเธอองค์ฮ่องเต้ก็ทรงล่วงรู้โดยพลัน 

“ลู่เห่อคลายจุดให้นาง ดูท่าจะอยากกล่าวถ้อยคำบางอย่างกับข้า”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ลู่เหอรับขานรับทันที พร้อมยื่นสองนิ้วกดคลายจุดให้หญิงสาวเอ่ยถ้อยคำออกมาได้

“ตึก!” สองนิ้วกดคลายจุดให้กับหญิงสาวทันทีและนั่นทำให้เธอเป็นอิสระที่จะพูดเจรจาต่อรองได้ขึ้นมาทันใด

“เฮ้อ!!!” หญิงสาวรู้สึกหายใจคล่องขึ้นมาทันที ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเพื่อประเมินสถานการณ์โดยรวมในขณะนี้นับตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาในกระโจม

“หาวิธีเอาตัวรอดก่อนดีกว่า หลังจากนั้นค่อยหาทางกลับบ้าน แต่ถ้าเรามาอยู่ในยุคโบราณจริงๆ แล้วจะกลับไปยังไงล่ะ! แต่ช่างเถอะ... ช่างเถอะ คงไม่ใช่ดั่งที่คิดหรอกกระมังไหลตามน้ำไปก่อนค่อยคิดอีกที” หญิงสาวขบคิดวางแผนการอยู่ภายในใจอย่างรวดเร็ว

“ถ้าฝ่าบาทประสงค์จะให้หม่อมฉันทำงานสำคัญแล้วละก็ การเจรจาครั้งนี้ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเพคะ” เฉินวาวาเริ่มวาดลวดลายออกมาทันใดพร้อมเปลี่ยนวิธีการพูดให้สอดคล้องตามสถานการณ์

ถ้อยเจรจาของหญิงสาวซึ่งเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้อดแปลกพระทัยไม่ได้ในการเปลี่ยนแปลงของสตรีตรงหน้าพระพักตร์

“เจ้าก็เจรจาดั่งเช่นผู้คนทั่วไปได้มิหนำซ้ำยังใช้คำในราชสำนักได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย เหตุใดจึงแกล้งจดจำอะไรไม่ได้นับตั้งแต่คราแรก” รับสั่งถามกลับไปด้วยความแปลกพระทัย

หญิงสาวยกยิ้มที่มุมปากของตัวเองเล็กน้อยพลางเอ่ยตอบกลับไป

“เป็นธรรมดาเพคะ หม่อมฉันหมดสติไปนานจึงจดจำอะไรไม่ค่อยได้ อาจเป็นเพราะด้วยถูกพิษตามที่หมอหลวงบอกจึงทำให้สติเลือนรางไปชั่วขณะ แต่ตอนนี้หม่อมฉันเริ่มจำขึ้นมาได้บ้างแล้วแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม และต้องขอขอบพระทัยที่ทรงช่วยชีวิตของหม่อมฉัน ดังนั้นเพื่อเป็นการแทนคุณที่ช่วยชีวิต จึงเต็มใจยินดีที่จะช่วยฝ่าบาททำงานใหญ่เพคะ” เฉินวาวาตอบกลับไปอย่างฉะฉาน

“แหม... บทละครที่ท่องมาช่วยได้เยอะเหมือนกันแฮะ!” หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจ

ถ้อยเจรจาของหญิงสาวสร้างความพึงพอใจให้แก่ชิงอวิ้นฮ่องเต้อย่างยิ่งยวดเมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น

“ถ้าเช่นนั้นก็ดี! จะได้ไม่ต้องเสียเวลากันทั้งสองฝ่าย” รับสั่งพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลก่อนจะได้ยินเฉินวาวาเอ่ยแทรกขึ้นทะลุกลางปล้อง

“ฝ่าบาทลืมไปแล้วหรือเพคะว่าหม่อมฉันตกลงทำงานใหญ่ให้เพื่อแทนคุณ นั่นคือเสมอกันแต่การเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหันเช่นนี้ควรจะรับรองความปลอดภัยให้แก่หม่อมฉันด้วยนะเพคะ” เฉินวาวาเอ่ยเงื่อนไขของเธอออกไปทันที

และนั่นทำให้พระขนงเข้มของฮ่องเต้หนุ่มขมวดเข้ากันทันใด

“เจ้ามีเงื่อนไขอะไรเยว่วาวา” รับสั่งถามสุรเสียงเข้ม

และนั่นทำให้นางร้ายจากยุคปัจจุบันแสยะยิ้มเหยียดที่มุมปาก

“หม่อมฉันไม่ต้องการทำหน้าที่เพียงแค่สวมรอยแอบอ้างเป็นพระขนิษฐาของพระองค์ เพราะจะทำให้ต้องระมัดระวังตัวเองเกรงกลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผย ยิ่งต้องเข้าไปทำงานใหญ่ให้ฝ่าบาทด้วยแล้วไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน ใช่ว่าจะไม่มีผู้ใดล่วงรู้พระสิริโฉมของพระขนิษฐาของฝ่าบาท ดังนั้นขอได้ทรงโปรดรับหม่อมฉันให้เป็นพระขนิษฐาบุญธรรม มีฐานันดรศักดิ์และอำนาจเทียบเท่าพระขนิษฐาของพระองค์ทุกประการด้วยเถิดเพคะ” เฉินวาวาเริ่มสวมบทนางมารร้ายขึ้นมาทันที

ในขณะเดียวกันปานรูปหยดน้ำเปล่งแสงวาววับเหลื่อมล้ำออกมาทันใดพร้อมภาพเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นให้เธอได้เห็นในความทรงจำ

ภาพแผนผังป้องกันเมืองของแคว้นเทียนโจวถูกกางออกในมือของหญิงสาว ท่ามกลางเปลวเพลิงลุกท่วมห้องพร้อมเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นในความทรงจำ

“ข้าต้องการแผนผังป้องกันเมืองของแคว้นเทียนโจว! เพื่อแคว้นฉู่จะทำลายเทียนโจวให้พังพินาศมิเหลือสิ้น!” เสียงนั้นก้องอยู่ในโสตประสาท ดวงตากลมโตกะพริบขึ้นลงติดต่อกันเมื่อจู่ๆ ก็ได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาจิตใต้สำนึกของเธอมั่นใจว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับการแฝงตัวไปเป็นเจ้าสาวในครั้งนี้อย่างแน่นอนก่อนจะเอ่ยสำทับตามติดมา 

“ทั้งนี้ไม่ว่าจะทำงานลับสำคัญเพียงไหน ควรที่จะให้หม่อมฉันมีอำนาจอยู่ในมือที่สามารถสั่งการและจัดการได้ด้วยตัวเอง หากหม่อมฉันเดาไม่ผิดฝ่าบาทต้องการล่วงรู้แผนผังป้องกันเมืองของแคว้นเทียนโจวใช่หรือไม่เพคะ”

ฮ่องเต้หนุ่มถึงกับลุกพรวดพราดทรงยืนขึ้นจากตั่งที่ประทับขึ้นมาทันที

“นี่เจ้าล่วงรู้ได้อย่างไรว่าข้าต้องการสิ่งนั้น! ทั้งๆ ที่ข้ายังมิได้เอ่ยกับผู้ใดทั้งสิ้นเพราะมันอยู่ในหัวของข้าตลอดเวลา” ชิงอวิ้นฮ่องเต้รับสั่งถามพร้อมทอดพระเนตรใบหน้าดั่งปีศาจของเฉินวาวาเขม็ง

หญิงสาวแสยะยิ้มเหยียดครั้นได้ยินเช่นนั้น บทนางร้ายในละครที่ผ่านมาทำให้เธอกรีดจริตนางมารได้อย่างแนบเนียน แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมถึงเห็นภาพนั้นแต่การคาดเดาไม่ผิดไปจากที่คิด ใบหน้าที่เคยงดงามลึกล้ำเชิดขึ้นสูงด้วยความเคยชินพร้อมกล่าวออกไป

“ฝ่าบาทมิต้องถามหรอกเพคะว่าหม่อมฉันล่วงรู้ได้เช่นไร ขอเพียงล่วงรู้ว่าหม่อมฉันล่วงรู้ความคิดของพระองค์ก็เพียงพอแล้ว ทรงไม่คิดหรือว่าเหตุใดจึงพบหม่อมฉันในสภาพหมดสติและมีใบหน้าอัปลักษณ์เช่นนี้” หญิงสาวถามกลับไปพร้อมมองหน้าชิงอวิ้นฮ่องเต้เขม็งมิหลบสายพระเนตรของพระองค์แม้แต่น้อย

“เจ้ากำลังจะบอกอะไรแก่ข้าเยว่วาวา” รับสั่งถามกลับไปทรงทอดพระเนตรสตรีตรงหน้าพระพักตร์เขม็งเช่นกัน

หญิงสาวยกยิ้มที่มุมปากพร้อมเอ่ยขึ้น

 “หากแม้นมิใช่เพราะสิ่งที่หม่อมฉันหยั่งรู้มากเกินไป จึงสนองโทษกลายเป็นดาบสองคมทำให้เป็นองค์หญิงตกอับไร้สิ้นข้าทาสบริวาร แม้กระทั่งแผ่นดินที่จะซุกหัวนอนก็หามีไม่! โชคยังดีอยู่บ้างที่สวรรค์ทรงเมตตาจึงทำให้มีชีวิตรอดมาได้ พระองค์ก็คงทราบดีว่าหม่อมฉันมีฐานันดรศักดิ์เป็นองค์หญิงเช่นเดียวกัน หากจะทรงพระกรุณาหม่อมฉันอยากได้ฐานันดรของตนกลับคืนมาดั่งเดิม” หญิงสาวกล่าวพร้อมแสร้งตีหน้าเศร้าทิ้งคำถามเพื่อหลอกล่อให้อีกฝ่ายกล่าวถ้อยคำที่เธออยากรู้ออกมาอีก

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ไม่นึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดความวุ่นวายในแคว้นเยว่ จนสูญสิ้นราชวงศ์กว๋านเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวพันถึงเจ้าด้วย แต่เหตุใดเจ้าจึงถูกกวาดล้างไปด้วยเล่าในเมื่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่มาจากตระกูลเยว่เช่นเดียวกับเจ้า และข้ากับเจ้าก็แซ่เยว่เช่นเดียวกัน” รับสั่งถามด้วยความสงสัย

เฉินวาวานั่งนิ่งไปชั่วขณะเมื่อถูกถามกลับมาเช่นนั้น ในเวลานี้สมองหมุนเป็นกลไกสับรางหาคำพูดดีๆ ออกมาให้ทันท่วงทีเพื่อให้สองคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“พะ... เพราะหม่อมฉันอยู่ฝ่ายทางราชวงศ์กว๋านเพคะ และเป็นเพราะรู้มากเกินไปจึงต้องถูกปิดปาก” หญิงสาวตอบกลับไปก่อนจะรีบเบี่ยงประเด็นเชือนแชไปทางอื่น

“เช่นนั้นแล้วเมื่อฝ่าบาทไว้วางพระทัยมอบหมายงานสำคัญให้หม่อมฉัน สิ่งที่อยากได้ก็กราบทูลไปจนหมดสิ้นขอได้โปรดฝ่าบาททรงพิจารณาในสิ่งที่ร้องขอด้วยเถิดเพคะ” หญิงสาวเอ่ยย้ำในสิ่งที่ต้องการ

ชิงอวิ้นฮ่องเต้ทรงยืนทอดพระเนตรหญิงสาวใบหน้าอัปลักษณ์ด้วยความชั่งใจ พลางครุ่นคิดกับสิ่งที่นางต้องการ แม้นางจะพูดออกมาไม่หมด แต่ก็ทรงมีความรู้สึกว่าสตรีผู้นี้มีบางสิ่งซุกซ่อนอยู่เป็นแน่ 

“เหตุใดนางจึงล่วงรู้ความคิดของข้าเป็นไปได้อย่างไรที่จะล่วงรู้ความคิดหรืออ่านใจของผู้อื่นออก” รับสั่งรำพึงอยู่ภายในพระทัยพร้อมทอดพระเนตรใบหน้าดุจปีศาจพลางชั่งพระทัยอยู่ชั่วขณะก่อนจะมีรับสั่งออกมา

“เอาละ! ข้าจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นพระขนิษฐาบุญธรรม มีฐานันดรศักดิ์เทียบเท่าองค์หญิงชิวหรงทุกประการ และตั้งแต่นี้บัดนี้เป็นต้นไปเจ้าก็คือองค์หญิงเยว่วาวา พระขนิษฐาบุญธรรมของข้าเจ้าผู้ครองแคว้นฉู่... เช่นนี้แล้วพอใจหรือไม่” รับสั่งถามกลับไป

หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างเมื่อสามารถต่อรองได้เป็นผลสำเร็จ อย่างน้อยตำแหน่งองค์หญิงก็คุ้มครองเธอได้เป็นอย่างดีเพราะเธอชอบเป็นตัวจริงไม่ชอบสวมรอยแอบอ้างเป็นคนอื่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท!” เฉินวาวากราบทูลกลับไป

“ลู่เหอคลายจุดที่เหลือซะ! บัดนี้นางคือองค์หญิงของเจ้าแล้ว และนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจงติดตามทำหน้าเป็นองครักษ์คอยอารักขาองค์หญิงเยว่วาวา และคอยส่งข่าวจากองค์หญิงมาให้ข้ารู้อย่าให้ขาด ส่วนเจ้าวาวา” ประโยคสุดท้ายทรงหันกลับไปมีรับสั่งกับหญิงสาว

“หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังในการไปแต่งงานครั้งนี้ แผนการขั้นต่อๆ ไปภายหลังเข้าไปอยู่ในวังหลวงเทียนโจวแล้ว ข้าจะส่งผ่านไปกับลู่เหอเพราะมิใช่แผนผังป้องกันเมืองของเทียนโจวเท่านั้นที่ข้าอยากได้ แต่ยังมีสิ่งที่ข้าต้องการมากไปกว่านั้น”รับสั่งลอดไรพระทนต์ พลางทอดพระเนตรใบหน้าหญิงสาวเขม็งและนั่นทำให้เฉินวาวาอดไม่ได้ที่จะถามกลับไปด้วยความอยากรู้

“ฝ่าบาททรงต้องการสิ่งอื่นนอกเหนือจากแผนผังป้องกันเมืองของเทียนโจว สิ่งที่ทรงอยากได้คืออะไรหรือเพคะ”

พระนามโจวชินซาง หรือชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจวผุดขึ้นในความรู้สึกของชิงอวิ้นฮ่องเต้โดยพลัน เพลิงแค้นที่สะสมมานานกว่าห้าปีไม่มีวันใดที่จะลืมเลือนไปได้ก่อนจะทอดพระเนตรสตรีใบหน้าดุจปีศาจพร้อมมีรับสั่ง

“ข้าต้องการชีวิตโจวชินซาง!” รับสั่งพร้อมเสด็จพระดำเนินออกไปจากกระโจม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.5

    ทันทีที่ได้ยินชื่อดังกล่าว ปานรูปหยดน้ำที่มองเห็นเพียงเลือนรางเนื่องจากถูกรอยไฟอัคคีบดบังสว่างวาบขึ้นมาทันที พร้อมภาพของบุรุษสูงใหญ่ทะมึน สวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินยวงยาวสยาย ดวงตาสีเลือดฉายแวววับปรากฏให้เธอเห็นขึ้นมาโดยพลันภาพนิมิตปรากฏให้เธอเห็นร่างงามในชุดเจ้าสาวสีขาวในยุคโบราณกำลังนั่งอยู่บนเตียงมีพัดทำจากขนห่านฟ้าปิดบังใบหน้าของเจ้าสาวเอาไว้ บุรุษเกศาสีเงินยวงในชุดเจ้าบ่าวสีขาวเปิดประตูเข้ามาในห้องหอ ร่างสูงใหญ่ทะมึนเดินตรงมาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมค่อยๆ เอื้อมหยิบพัดที่ปิดใบหน้าเจ้าสาวออกจากมือนาง เผยให้เห็นใบหน้าของเฉินวาวาเธอคือเจ้าสาวงดงามลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดปรากฏอยู่ในห้องหอและในนิมิตดังกล่าว“เฮือกกก!!!” ร่างระหงลุกพรวดพราดขึ้นจากตั่งด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อจู่ๆ เกิดเห็นภาพเช่นนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้นอนหลับหรือฝันแต่อย่างใด“ทะ... ทำไม... ฉันถึงเห็นตัวเองเป็นเจ้าสาวของเขา... ขะ... เขาจะตามหลอกหลอนฉันกันไปถึงไหน” เธอยืนบ่นพึมพำอยู่เพียงลำพังก่อนจะรู้สึกตัวว่ากำลังยืนอยู่คนเดียวในกระโจม“อ้าวอีตาฮ่องเต้เจ้าแผนการกับองครักษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.1

    ชายแดนเมืองจิงโจจวนแม่ทัพภายในห้องบรรทมชินอ๋องพระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารชินซางทรงบรรทมสนิทในเวลาแห่งรัตติกาล ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาจอมมารหนุ่มหรือชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ดำรงพระชนม์ชีพดั่งเช่นมนุษย์ธรรมดาเดินดินทั่วไป มีความรู้สึกร้อน หนาวและเจ็บป่วย รวมไปถึงได้รับบาดแผลจากการทำสงครามไม่แตกต่างจากผู้อื่นแม้แต่น้อย ในเวลานี้ไอจอมมารและพลังปีศาจที่ทรงมีอยู่คู่พระวรกายได้เลือนหายไปจนหมดสิ้นนับตั้งแต่ปานไฟอัคคีย้ายไปสถิตอยู่กับคู่ชะตาของพระองค์จอมมารจึงคงเหลือเพียงวรยุทธ์จากดินแดนปีศาจที่ทรงฝึกฝนมานับหลายแสนปีเท่านั้น เมื่อไอมารเลือนหายความเป็นมนุษย์เข้ามาแทนที่พระองค์จึงเริ่มได้รับบาดเจ็บจากการทำสงคราม บาดแผลปรากฏอยู่บนพระวรกายหลายแห่ง แต่โชคยังดีที่ภายในพระวรกายทรงมีเลือดปีศาจจึงทำให้บาดแผลสมานเข้าหากันได้ในเร็ววัน แต่สิ่งหนึ่งที่หามีผู้ใดล่วงรู้นั่นก็คือทรงไม่มีวันตายเพราะเป็นอมตะทว่าความเป็นอมตะของพระองค์ล้วนอยู่ในปานรูปไฟอัคคีทั้งสิ้น ปานดังกล่าวคือสัญลักษณ์ของจอมมาร พลังเว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า..ค้นหานาง! 1.2

    แคว้นเทียนโจวเมืองเทียนจิ้น (เมืองหลวงตะวันตก)บริเวณนอกเมืองหลวงแคว้นเทียนโจว มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล และเป็นแคว้นเดียวที่มีเมืองหลวงด้วยกันถึงสองเมือง มีเมืองหลวงตะวันออกอยู่ที่เมืองเทียนฮุยซึ่งเป็นเมืองหลวงเอกของแคว้น พระราชวังหลวงอันเป็นที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนอยู่ที่นี่ในขณะเดียวกันทางตะวันตกซึ่งมีทั้งสายแร่ทองคำและเหมืองหยก มีเมืองเทียนจิ้นเป็นเมืองหลวงตะวันตก ซึ่งเมืองนี้มีความเจริญทางด้านการค้าเป็นแหล่งผลิตทองคำและหยกอีกทั้งเป็นเส้นทางการขนส่งทองคำและหยกไปยังเมืองอื่นๆ และต่างแคว้น ทำให้การค้าของเมืองหลวงตะวันตกและระหว่างแคว้นเจริญรุ่งเรืองคับคั่งยิ่งนักเมืองหลวงตะวันตกนี้โจวเฉินกงฮ่องเต้ได้มีพระบรมราชโองการยกให้ชินอ๋องปกครองเมืองการค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญหลักของแคว้นเทียนโจว ในขณะที่เมืองเทียนฮุยซึ่งเป็นเมืองหลวงเอก จะเป็นพื้นที่ราบและมีพื้นที่กว้างอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผลทางการเกษตรกว้างใหญ่เป็นอู่ข้าวอู้น้ำของแคว้น เป็นของโจวฟางหยางฮ่องเต้ ก่อนจะมีพระบรมราชโองการลับอีกฉบับสถาป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.3

    ในขณะเดียวกันขบวนเสด็จถูกหยุดกลางคันเมื่อได้ยินพระสุรเสียงของชินอ๋องทรงมีพระบัญชาออกมาเช่นนั้น ภายในรถม้าหน้ากากทองคำที่ทรงเตรียมไว้ถูกนำมาสวมครอบพระพักตร์หล่อเหลาของจอมมารชินซาง ครอบพระพักตร์ตั้งแต่ส่วนบนของหน้าผากทั้งหมดยาวครอบคลุมพระพักตร์ซีกซ้ายจรดปลายคางเผยให้เห็นส่วนพระพักตร์หล่อเหลาทางซีกขวาเท่านั้น ซึ่งลักษณะของหน้ากากดังกล่าวช่างออกแบบเหมือนกับของเฉินวาวาที่กำลังสวมอยู่ในขณะนี้เช่นกัน แตกต่างตรงที่ลวดลายบนหน้ากากเท่านั้นซึ่งหน้ากากของพระองค์สลักลายเป็นเปลวไฟอัคคีพระวรกายสูงใหญ่ในฉลองพระองค์ชุดเกราะของจอมทัพสีดำทะมึน ค่อยๆ ก้าวออกมาจากรถม้า ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่กลางเมืองท่ามกลางประชาชนทั้งสองฝั่งฟากถนน ที่กำลังตกตะลึงเมื่อได้เห็นชินอ๋องหรือเทพเจ้าสงครามตัวเป็นๆ ที่ต่างให้ความเคารพและเทิดทูน และไม่ต้องมีใครบอก ประชาชนรวมไปถึงผู้คนจากต่างแคว้นพากันทรุดกายลงนั่งกับพื้นถวายความเคารพผู้ปกครองของตนทันที“ถวายพระพรพ่ะย่ะค่ะ!”เสียงประชาชนต่างเอ่ยออกมาเป็นประโยคเดียวกัน ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าพากันชื่นชมพระสิริโฉมของชินอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.4

    ภายในห้องพัก“พวกเราจะทำอย่างไรดีเล่าท่านลู่เหอ องค์หญิงทรงหายไปเช่นนี้มิรู้จะออกไปตามหาได้ที่ไหน” นางกำนัลมู่อิงเอ่ยถามหัวหน้าองครักษ์ด้วยความเป็นห่วงองค์หญิงของตน“ข้าก็กำลังคิดอยู่นี่ไง ขอเวลาหน่อยได้ไหม ถ้าหากสิ่งที่พวกเจ้ากล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง มันก็ยากที่จะค้นหาพระนางพบ อีกทั้งชินอ๋องทรงมีพระบัญชาให้ตามหาบุรุษสวมอาภรณ์ขาวซึ่งตรงกับลักษณะขององค์หญิงทุกประการยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากหลายเท่า”ลู่เหอ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เหตุใดชินอ๋องจึงทรงมีพระบัญชาเช่นนั้นเล่าท่านลู่เหอ ข้าไม่เข้าใจ!” มู่อิงถามกลับไปด้วยความสงสัย“เจ้าอย่าล่วงรู้อะไรให้มันมากไปหน่อยเลยมู่อิง เอาเป็นว่าในยามนี้องค์หญิงทรงไม่ปลอดภัยเพราะมิรู้ว่าชินอ๋องทรงได้ข่าวระแคะระคายมาหรือเปล่าจึงทรงมีรับสั่งเช่นนั้น ตราบใดที่ยังหาองค์หญิงไม่พบก็ยังกลับเข้าขบวนเจ้าสาวไม่ได้เช่นกัน และพรุ่งนี้ไม่เกินช่วงบ่ายจะต้องมีรายงานจากทหารอารักขานอกเมืองว่าขบวนเสด็จเจ้าสาวจะใช้เส้นทางผ่านเมืองเทียนจิ้น” ลู่เหอกล่าวพร้อมถอนหายใจอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.5

    ในขณะเดียวกัน“จ๊อกกกก!!!” เสียงน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของเฉินวาวาดังออกมาจนเจ้าตัวที่กำลังหลับอยู่ในขณะนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที“โอ๊ยยยย!หิวข้าวจังเลย” หญิงสาวรำพึงรำพันออกมาทันทีร่างระหงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนพลางกวาดสายตาไปทั่วห้อง เมื่อไม่พบผู้ติดตามของเธอหลงเหลือสักคนไม่เว้นแม้กระทั่งมู่อิง นางกำนัลคนสนิท“ไปไหนกันหมดนะ” หญิงสาวเอ่ยพึมพำด้วยความสงสัยก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นมาทันที“หรือว่าพากันออกจากเมืองกลับไปที่ขบวนเจ้าสาวแล้ว!” หญิงสาวกล่าวอย่างตื่นตระหนกครั้นสายตาเหลือบไปเห็นห่อผ้าที่ลู่เหอซื้อติดมือมาเพื่อให้เธอเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่เป็นเป้าหมายเป็นชุดอื่นแทน หญิงสาวถอนหายใจออกมาทันที“เฮ้อ! โล่งอกไปทีพวกเขายังไม่พากันไปไหน ยังอยู่ที่นี่ แต่ว่าหายไปหมดแบบนี้หรือว่าจะออกไปตามหาเราอีก”หญิงสาวยืนครุ่นคิดก่อนจะได้ยินเสียงอึกทึกและการละเล่นต่างๆ เริ่มต้นการแสดงในเทศกาลลอยโคมประทีปของค่ำคืนนี้ ร่างระหงก้าวตรงไปที่หน้าต่างทันใดพร้อมดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.1

    ร่างบอบบางที่อยู่ในคราบบุรุษอาภรณ์สีดำทะมึน ส่งยิ้มหวานให้แก่ผู้มีพระคุณด้วยความจริงใจ ในขณะที่สายพระเนตรของจอมมารทรงจับจ้องร่างหนุ่มน้อยตรงหน้าพระพักตร์อยู่ตลอดเวลา ด้วยความสนพระทัยในท่าทางและถ้อยเจรจาที่แปลกประหลาดซึ่งพระองค์มิเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน“วันหน้าหากได้พบกันอีก ข้าน้อยจะแทนคุณที่ช่วยชีวิตในครั้งนี้อย่างแน่นอน สิ่งใดที่พี่ชายต้องการให้ช่วยเหลือข้าน้อยยินดีเป็นอย่างยิ่ง” หญิงสาวกล่าวพร้อมก้าวเข้ามาหาในระยะใกล้พลางเอามือป้องปากเอาไว้“ถ้าข้าได้มีโอกาสมาเมืองนี้อีกนะพี่ชาย” หญิงสาวเอ่ยออกมาเบาๆ พลางส่งเสียงหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่พระโอษฐ์คลี่ยิ้มออกมาบางๆ เมื่อทรงได้ยินเสียงหัวเราะของหนุ่มน้อยร่างบาง พระองค์พยักพระพักตร์ขึ้นลงติดๆ กันเป็นการยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายบอกกลับมา“เอาละข้าน้อยรบกวนเวลาอันมีค่าของพี่ชายมามากแล้ว ขออำลาตรงนี้เลยก็แล้วกัน จะไปเดินเที่ยวชมงานสักหน่อย” กล่าวพร้อมหันหลังกลับเดินจากไป“เจ้าชื่ออะไร!” สุรเสียงของจอมมารรับสั่งถามดังขึ้นอยู่เบื้องห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.2

    ในขณะที่ใบหน้าซีกซ้ายถูกหญิงสาวนำเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันที่ติดตัวมาด้วยทาหน้าจนสีเข้มขึ้นจากผิวจริง พร้อมทำรอยจุดด่างดำไปทั่วบริเวณราวกับว่าเป็นช่างเมกอัปมืออาชีพที่สามารถสรรสร้างใบหน้าให้ออกมาแบบไหนก็ได้ ผิวหน้านวลเนียนขาวอมชมพูของวัยสาวมลายหายไปสิ้นคงเหลือเพียงใบหน้าที่มีแต่รอยจุดด่างดำเต็มไปหมด รวมไปถึงบริเวณลำคอที่มีรอยไฟอัคคีก็ถูกหญิงสาวใช้ครีมรองพื้นในยุคปัจจุบันทาทับกลบจนไม่เห็นร่องรอยแต่อย่างใดไม่สามารถปรากฏร่องรอยให้จอมมารชินซางได้ทอดพระเนตรแม้แต่น้อยพระเนตรสีนิลกาฬชะงักงันไปชั่วขณะเมื่อหนุ่มน้อยร่างบอบบางสวมหน้ากากทองคำซ่อนเร้นใบหน้าอันแท้จริงเฉกเช่นเดียวกับพระองค์ จอมมารเฝ้าทอดพระเนตรเสี่ยววาวาหนุ่มน้อยที่พระองค์ทรงเพิ่งรู้จักด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ทรงทอดพระเนตรหน้ากากทองคำที่มีลักษณะเดียวกับพระองค์แตกต่างตรงที่ลวดลายสลักเท่านั้นสายพระเนตรจับจ้องที่ใบหน้าของเสี่ยววาวาที่กำลังก้มหน้าก้มตากินบะหมี่ตรงหน้าด้วยความหิวโหย ชนิดที่ว่าไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย หากเธอแหงนหน้ามองขึ้นมาสักนิดจะต้องพบสายพระเนตรที่กำลังทอดพระเนตรเธอด้วยความแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07

บทล่าสุด

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.4

    ฟางหยางฮ่องเต้ทรงคิดหาวิธีที่จะทดสอบความจงรักภักดีของพระอนุชาขึ้นมาทันที ก่อนจะนึกวิธีทดสอบที่พระองค์เคยมองข้ามนั่นก็คือสมรสพระราชทานนั่นเอง เป็นวิธีที่สามารถทำให้พระองค์หยั่งรู้ว่าพระอนุชาจงรักภักดีด้วยใจจริงหรือไม่ “ถ้าเช่นนั้นก็ดี! ไหนๆ ก็พำนักอยู่ในวังหลวง อีกทั้งเจ้าเองก็อายุเข้าสู่ปีที่ยี่สิบเก้าแล้ว จนถึงป่านนี้ยังไม่ยอมอภิเษกสมรสมีพระชายาเสียที มิสู้ให้ข้าช่วยจัดการหาองค์หญิงจากต่างแคว้นที่เดินทางมาแต่งงานตามสัญญาสงบศึกให้เจ้าได้มีพระชายาดั่งเช่นผู้อื่นบ้างมิดีหรือไร เจ้ามัวแต่ทำศึกสงครามจะหาเวลาใดพึงใจสตรีได้จริงหรือไม่” ฟางหยางฮ่องเต้เริ่มต้นแผนการทันที “จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะเสด็จอา ตอนนี้หลานๆ ทั้งหมดของพระองค์ที่ถึงวัยแต่งงานต้องรับพระราชทานองค์หญิงเหล่านั้นมาเป็นพระชายา จนตอนนี้ตำหนักแน่นไปหมดแล้ว เสด็จอามาประทับอยู่เช่นนี้มิสู้รับองค์หญิงจากต่างแคว้นไปเป็นพระชายาบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ เป็นการแบ่งเบาภาระเสด็จพ่อไปพร้อมกันด้วย” องค์รัชทายาทรับสั่งสนับสนุนตามประสาซื่อโดยมิล่วงรู้อะไรแม้แต่น้อย และถ้อยรับสั่งขององค์รัชทายาทสร้างความพึงพอพระทัยให้แก่ฟางหยางฮ่องเ

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.3

    พระราชวังหลวงเทียนฮุยภายในท้องพระโรง ท้องพระโรงขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นและออกแบบอย่างสวยงาม เป็นหน้าเป็นตาของแคว้นเทียนโจว เหมืองแร่ทองคำและเหมืองหยก ทำให้เทียนโจวมั่งคั่งและร่ำรวยกว่าแคว้นอื่นๆ การสรรสร้างพระตำหนักต่างๆ จึงเต็มไปด้วยศิลปะเฉพาะของแคว้น ทองคำและหยกสูงค่าจึงถูกนำมาประดับประดาภายในท้องพระโรงเพื่อประกาศศักดาและความยิ่งใหญ่ที่ต่างแคว้นล้วนริษยาในความอุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งของเทียนโจวเป็นยิ่งนัก ในยามนี้เป็นเวลาที่โจวฟางหยางฮ่องเต้ ทรงออกว่าราชการตามปกติ ฮ่องเต้หนุ่มฉกรรจ์ในพระชนมายุสี่สิบพรรษา ยังคงหนุ่มแน่นและมีพระสิริโฉมคมคายถอดแบบมาจากหวงไทเฮาพระมารดา ซึ่งพระองค์เป็นพระโอรสองค์ใหญ่ประสูติจากฮองเฮา และมีพระอนุชาต่างพระมารดาประสูติจากพระสนมระดับฟูเหรินด้วยกันอีกสี่พระองค์ ซึ่งเดิมทีพระอนุชาทั้งสี่ คือองค์ชายรอง องค์ชายสามสิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ส่วนองค์ชายห้าเพิ่งจะสิ้นพระชนม์เมื่อห้าปีก่อน ส่วนองค์ชายสี่โจวชินซางหายสาบสูญไปพร้อมกับพระมารดาตั้งแต่ทรงมีชันษาได้เพียงหกเดือน แต่แล้วจู่ๆ องค

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.2

    องครักษ์ลู่เหอรีบลุกออกจากที่นั่งดังกล่าวทันทีพร้อมถวายคำนับองค์หญิงของตนเป็นการขออภัย “ผ่านด่านแล้วพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง” ลู่เหอกล่าวพร้อมเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงของตนทันที แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาเห็นพระพักตร์งดงามลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดขององค์หญิงเยว่วาวาไร้สิ้นรอยอัปลักษณ์ที่เห็นอยู่เป็นประจำแต่อย่างใดปรากฏอยู่ตรงหน้าในขณะนี้ องครักษ์หนุ่มได้แต่นั่งนิ่งอยู่เช่นนั้นไม่ขยับเขยื้อนกายแม้แต่น้อย จนเฉินวาวาผิดสังเกต “ลู่เหอ! ลู่เหอ! นี่เจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงจ้องหน้าข้าแบบนี้” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความแปลกใจพลางยกมือขึ้นจับใบหน้าของเธอ “นี่เจ้าอย่าบอกนะว่ายังไม่ชินกับรอยอัปลักษณ์ที่อยู่บนหน้าข้า อันที่จริงก็เห็นจนชินตาแล้วไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวถามกลับไปก่อนจะได้ยินเสียงขององครักษ์ลู่เหอตอบกลับมา “มะ... ไม่ชินพ่ะย่ะค่ะ… พระพักตร์ขององค์หญิงตอนนี้มะ... ไม่มีรอยอัปลักษณ์แล้ว” “หา!” เฉินวาวาอุทานเสียงหลงขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น มือเรียวยกขึ้นจับใบหน้าของเธอไปโดยรอบ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อหาสิ่งที่จะสามารถสะท้อนเงาแทนกระจกสัมฤทธิ์และสิ่งที่มาแทน

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.1

    5 วันผ่านไปเมืองหลวงเทียนฮุย (เมืองหลวงตะวันออก)รถม้าขนาดบรรจุคนได้ประมาณสามสี่คนกำลังยืนรอการตรวจค้นเพื่อผ่านเข้าประตูเมืองเทียนฮุย อันเป็นเมืองหลวงตะวันออกและเป็นเมืองหลวงเอกของแคว้นเทียนโจว เฉินวาวาในขณะนี้สวมบทบาทเป็นหญิงสามัญชนกำลังอุ้มท้องอายุครรภ์เจ็ดเดือนนั่งอยู่บนรถม้าพร้อมด้วยองครักษ์ลู่เหอซึ่งสวมบทบาทเป็นสามีจำเป็นของเธอใบหน้าขององครักษ์ลู่เหอซึ่งติดหนวดปลอมนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับองค์หญิงของตน ในขณะที่เฉินวาวายังคงสวมหน้ากากทองคำปิดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ตลอดเวลา“เออ...องค์หญิงทรงเล่นพิเรนทร์อะไรเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ให้กระหม่อมแสร้งเป็นพระสวามีหากฮ่องเต้ของเทียนโจวล่วงรู้หัวต้องหลุดออกจากบ่าเป็นแน่แท้ ทรงคิดอะไรอยู่... บอกได้ไหม” ลู่เหอบ่นรำพึงรำพันเฉินวาวาที่กำลังใช้พัดที่ถืออยู่ในมือโบกไปมาเพื่อคลายความร้อนในขณะนั้นอย่างสบายใจเฉิบ มีอันต้องหุบพัดดังกล่าวลงทันที“เพียะ!” เสียงพัดกระทบเข้ากับหน้าขาขององครักษ์หนุ่มจนตัวลีบตัวงอเข้าหากันทันใดด้วยความกลัว“ทำไมจะต้องคิ

  • พิศวาส 3000 ปี   เย่ววาวา 1.2

    โรงเตี๊ยมอาชาตัวมหึมาห้อตะบึงมาอย่างสุดฝีเท้า ติดตามด้วยกองทหารอารักขานับสิบนาย เสียงฝีเท้าม้าดังกระหึ่มมาตลอดเส้นทางสายหลักเมื่อม้าจำนวนหลายสิบตัวกำลังวิ่งมุ่งหน้าไปทางถนนใจกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลลอยโคมประทีปที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงเตี๊ยมที่ยังเปิดให้บริการในขณะนั้นพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารเสด็จลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็ว พระพักตร์หล่อเหลาปราศจากหน้ากากทองคำปิดบังอำพรางแต่อย่างใด ด้วยทรงรีบร้อนเสด็จออกมาจากจวนเพื่อติดตามเยว่วาวาของพระองค์ พระวรกายใหญ่พระดำเนินเข้าไปภายในโรงเตี๊ยมดังกล่าวในขณะที่ชั้นล่างยังเต็มไปด้วยชาวเมืองที่มาเปิดห้องพักค้างคืนและดื่มกินอาหารอยู่ชั้นล่างเต็มทุกโต๊ะ“ชินอ๋องเสด็จ!!!” เสียงทหารอารักขาตะโกนออกมาเป็นทอดๆ ก่อนจะกระจายกำลังแยกย้ายกันค้นหาไปทั่วพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนสวมอาภรณ์สีนิลกาฬก้าวเข้ามาภายในโรงเตี๊ยมดังกล่าวทันที ท่ามกลางสายตาของชาวเมืองเทียนจิ้นและต่างแคว้นที่ได้มีโอกาสพานพบพระพักตร์ที่แท้จริง แต่ละคนตกตะลึงอ้าปากค้างกันทุกคนก่อนจะรีบพากันลงนั่งคุก

  • พิศวาส 3000 ปี   เย่ววาวา 1.1

    ยามห้ายบริเวณหน้าโรงเตี๊ยมร่างสูงตระหง่านของจอมมารหนุ่มกับหนุ่มน้อยเสี่ยววาวา บัดนี้มาหยุดยืนอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าของโรงเตี๊ยม ภายหลังที่ทั้งสองเดินเที่ยวชมงานจนย่างเข้าสู่ยามห้ายใกล้จะถึงเวลาที่งานเทศกาลจะจบสิ้นลง ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะกล่าวคำอำลาจริงๆ คนที่รู้สึกใจหายกลับเป็นองค์จอมมารที่ยืนทอดพระเนตรหนุ่มน้อยสหายใหม่ที่เพิ่งรู้จักอยู่ในขณะนี้“ถ้าหากเจ้าไม่รีบกลับพรุ่งนี้ข้าจะมาหาที่โรงเตี๊ยมเพื่อส่งเจ้าเดินทางกลับแคว้นอย่างปลอดภัย” รับสั่งด้วยความเป็นห่วงพร้อมยื่นบางอย่างส่งให้เฉินวาวาท่ามกลางความแปลกใจของเธอก่อนจะยื่นมือรับเอาไว้อย่างงงๆป้ายทองสลักตัวอักษรนำหน้าว่า ชิน ของพระองค์ยื่นส่งให้หญิงสาวเก็บไว้ติดตัว“นี่คือของที่ระลึกจากข้าเก็บเอาไว้ติดตัว ยามใดที่เจ้าต้องการความช่วยเหลือให้แสดงป้ายทองนี้ออกมา แล้วเจ้าจะได้รับการช่วยเหลือจากข้าและคนของข้าทันที” รับสั่งอธิบายกลับไป“โอ้โฮ! ของสำคัญขนาดนี้ท่านให้ข้าเก็บติดตัวไว้ทำไม เหตุใดจึงไม่เก็บไว้กับตัวเองล่ะพี่ชาย”

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.4

    เพียงครู่จอมมารชินซางและเฉินวาวามาหยุดยืนอยู่ริมแม่น้ำ อันเป็นสถานที่ซึ่งนิยมพากันมาปล่อยโคมประทีปที่แม่น้ำ เพื่อขอพรได้สมดั่งใจหวัง อีกทั้งเห็นพระจันทร์กลมโตได้อย่างชัดเจน โคมประทีปค่อยๆ ถูกจุดจากอุปกรณ์ที่ได้มาพร้อมกับโคมประทีปเตรียมพร้อมที่จะปล่อยขึ้นท้องฟ้าเบื้องบน“พี่ชายอธิษฐานเลยสิ! ท่านกำลังตามหาคนรักอยู่มิใช่เหรอ อธิษฐานแล้วท่านจะได้ปล่อยโคมออกไป” หญิงสาวบอกจอมมารที่ทรงยืนฟังเธอด้วยความแปลกพระทัย“เจ้าซื้อโคมประทีปนี้ให้ข้าอธิษฐานอย่างนั้นเหรอเสี่ยววาวา ข้านึกว่าเจ้าจะปล่อยเองเสียอีก” รับสั่งถามกลับไป“โคมประทีปนี้เป็นของท่าน ข้าแค่อำนวยความสะดวกและมาเป็นเพื่อนเฉยๆ รู้ไหมอธิษฐานเรื่องความรักและลอยโคมประทีปไปด้วยต่อหน้าพระจันทร์ คำอธิษฐานเป็นจริงนะพี่ชาย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” หญิงสาวใช้คำปัจจุบันสอดแทรกออกมาตลอดจอมมารทรงยืนทอดพระเนตรเด็กหนุ่มตรงพระพักตร์สลับทอดพระเนตรโคมประทีป ก่อนจะเอื้อมพระหัตถ์จับมือเรียวสวยของสหายน้อยให้จับโคมประทีปพร้อมกับพระองค์“ถ้าเช่นนั้นเจ้ากับข้ามาอธิษฐานพร้อมกันเถอะหลังจากนั้นจะได้

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.3

    พระองค์ส่ายพระเศียรไปมาติดๆ กันพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลออกมาเบาๆ กับท่าทางดังกล่าวของสหายน้อยมือเรียวของหญิงสาววางถ้วยชาลงทันทีพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะร่วนเลยทีเดียว“แหม... พี่ชายท่านช่างมีอามรณ์ขันเสียจริง ปกติคนเราไม่ว่าสตรีหรือบุรุษถ้าไม่มีอะไรผิดปกติบนใบหน้าจะปิดบังอำพรางความงดงามหรือความหล่อเหลาของตนเอาไว้ทำไมจริงไหม คนที่ใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าตัวเองก็มีอยู่แค่สองประเภทเท่านั้นแหละ” เฉินวาวากล่าวแสดงความคิดเห็น“อย่างไรรึ! เจ้าคาดเดาออกอย่างนั้นหรือว่าข้ามีสาเหตุอื่นอีกที่ใช้หน้ากากปิดบังอำพรางใบหน้าของตัวเอง” รับสั่งถามหยั่งเชิงกลับไป“ข้าก็พอจะเดาได้คร่าวๆ บ้างหรอกนะพี่ชาย ประเภทแรกคืออัปลักษณ์ ขี้เหร่เกินคำบรรยายไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตามทีเถอะเช่นข้าเป็นต้น จึงจำเป็นต้องใช้หน้ากากอำพรางใบหน้าของตัวเองเพื่อมิให้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง” หญิงสาวกล่าวอธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ“และกับอีกประเภทยกตัวอย่างพี่ชายก็แล้วกัน สาเหตุที่ท่านสวมหน้ากากนอกจากต้องการปิดบังความหล่อเหลาดั่งคำที่ท่านว่าแล้ว ซึ่งเป็นไป

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.2

    ในขณะที่ใบหน้าซีกซ้ายถูกหญิงสาวนำเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันที่ติดตัวมาด้วยทาหน้าจนสีเข้มขึ้นจากผิวจริง พร้อมทำรอยจุดด่างดำไปทั่วบริเวณราวกับว่าเป็นช่างเมกอัปมืออาชีพที่สามารถสรรสร้างใบหน้าให้ออกมาแบบไหนก็ได้ ผิวหน้านวลเนียนขาวอมชมพูของวัยสาวมลายหายไปสิ้นคงเหลือเพียงใบหน้าที่มีแต่รอยจุดด่างดำเต็มไปหมด รวมไปถึงบริเวณลำคอที่มีรอยไฟอัคคีก็ถูกหญิงสาวใช้ครีมรองพื้นในยุคปัจจุบันทาทับกลบจนไม่เห็นร่องรอยแต่อย่างใดไม่สามารถปรากฏร่องรอยให้จอมมารชินซางได้ทอดพระเนตรแม้แต่น้อยพระเนตรสีนิลกาฬชะงักงันไปชั่วขณะเมื่อหนุ่มน้อยร่างบอบบางสวมหน้ากากทองคำซ่อนเร้นใบหน้าอันแท้จริงเฉกเช่นเดียวกับพระองค์ จอมมารเฝ้าทอดพระเนตรเสี่ยววาวาหนุ่มน้อยที่พระองค์ทรงเพิ่งรู้จักด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ทรงทอดพระเนตรหน้ากากทองคำที่มีลักษณะเดียวกับพระองค์แตกต่างตรงที่ลวดลายสลักเท่านั้นสายพระเนตรจับจ้องที่ใบหน้าของเสี่ยววาวาที่กำลังก้มหน้าก้มตากินบะหมี่ตรงหน้าด้วยความหิวโหย ชนิดที่ว่าไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย หากเธอแหงนหน้ามองขึ้นมาสักนิดจะต้องพบสายพระเนตรที่กำลังทอดพระเนตรเธอด้วยความแ

DMCA.com Protection Status