Share

คำสัญญา 1.2

last update Huling Na-update: 2025-01-07 18:15:51

ในขณะที่ใบหน้าซีกซ้ายถูกหญิงสาวนำเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันที่ติดตัวมาด้วยทาหน้าจนสีเข้มขึ้นจากผิวจริง พร้อมทำรอยจุดด่างดำไปทั่วบริเวณราวกับว่าเป็นช่างเมกอัปมืออาชีพที่สามารถสรรสร้างใบหน้าให้ออกมาแบบไหนก็ได้ ผิวหน้านวลเนียนขาวอมชมพูของวัยสาวมลายหายไปสิ้นคงเหลือเพียงใบหน้าที่มีแต่รอยจุดด่างดำเต็มไปหมด รวมไปถึงบริเวณลำคอที่มีรอยไฟอัคคีก็ถูกหญิงสาวใช้ครีมรองพื้นในยุคปัจจุบันทาทับกลบจนไม่เห็นร่องรอยแต่อย่างใดไม่สามารถปรากฏร่องรอยให้จอมมารชินซางได้ทอดพระเนตรแม้แต่น้อย

พระเนตรสีนิลกาฬชะงักงันไปชั่วขณะเมื่อหนุ่มน้อยร่างบอบบางสวมหน้ากากทองคำซ่อนเร้นใบหน้าอันแท้จริงเฉกเช่นเดียวกับพระองค์ จอมมารเฝ้าทอดพระเนตรเสี่ยววาวาหนุ่มน้อยที่พระองค์ทรงเพิ่งรู้จักด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ทรงทอดพระเนตรหน้ากากทองคำที่มีลักษณะเดียวกับพระองค์แตกต่างตรงที่ลวดลายสลักเท่านั้น 

สายพระเนตรจับจ้องที่ใบหน้าของเสี่ยววาวาที่กำลังก้มหน้าก้มตากินบะหมี่ตรงหน้าด้วยความหิวโหย ชนิดที่ว่าไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย หากเธอแหงนหน้ามองขึ้นมาสักนิดจะต้องพบสายพระเนตรที่กำลังทอดพระเนตรเธอด้วยความแปลกพระทัยระคนสงสัยอยู่ตลอดเวลา

“เหตุใดเสี่ยววาวาจึงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเฉกเช่นเดียวกับข้า มิหนำซ้ำยังปกปิดเกือบทั้งหมดหรือว่ามีใบหน้าอัปลักษณ์อย่างนั้นหรือไร แต่หน้ากากทำมาจากทองคำแท้อย่างเห็นได้ชัด ฐานะทางบ้านน่าจะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว” รับสั่งรำพึงอยู่ภายในพระทัยพระองค์ปล่อยหนุ่มน้อยเสี่ยววาวาที่กำลังจัดการอาหารตรงหน้าอย่างหิวโหย 

เพียงไม่นานอาหารทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะตกไปอยู่ในท้องของเฉินวาวาจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่อย่างเดียว และดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่อิ่ม แม่สาวน้อยวางถ้วยบะหมี่ลงบนโต๊ะพร้อมใบหน้าที่บ่งบอกถึงความอิ่มเอมอย่างเห็นได้ชัด

“เฮ้อ! รอดตายไปอีกหนึ่งมื้อ บะหมี่ร้านนี้อร่อยสมคำเล่าลือจริงๆ อาหารทุกอย่างในร้านก็อร่อยทุกอย่างเลย... เถ้าแก่! เอาแบบนี้ทุกอย่างมาอีกหนึ่งชุด!” เธอใช้คำในยุคปัจจุบันกล่าวชมเชยพร้อมตะโกนสั่งอาหารเพิ่มท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารเมื่อได้ยินหนุ่มน้อยร่างบางสั่งอาหารทุกอย่างมาอีกหนึ่งชุด

“นี่เจ้ายังกินได้อยู่อีกรึ” รับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัย 

และนั่นทำให้เฉินวาวาเริ่มรู้สึกตัวว่าเธอกินทุกอย่างจนหมด ในขณะที่คนเลี้ยงข้าวไม่ได้แตะสักอย่างได้แต่นั่งจิบน้ำชาอยู่เงียบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้มีพระคุณที่กำลังมองเธอด้วยความแปลกใจที่เห็นอาหารตรงหน้าถูกจัดการจนหมดไม่มีเหลือและยังสั่งเพิ่มขึ้นอีก

“แหะๆ พี่ชายไม่เห็นกินอะไรบ้างเลย ปล่อยให้ข้ากินคนเดียวจนหมด” หญิงสาวกล่าวพลางทำท่าเขินอายออกมา

จอมมารหนุ่มเปล่งเสียงพระสรวลอยู่ในพระศอครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“ใครจะไปกินทันเจ้าได้ อีกอย่างข้าเห็นว่ากำลังหิวก็เลยปล่อยให้กินอย่างเต็มที่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าถึงเจ้าจะเป็นบุรุษที่ตัวเล็กและมีรูปร่างบอบบางแต่กลับกินอาหารได้มากมายถึงเพียงนี้”

ครั้นหญิงสาวได้ยินผู้มีพระคุณกล่าวออกมาเช่นนั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมาทันที

“ข้าไม่ได้ตัวเล็กนะพี่ชาย นี่ข้าสูงตั้งร้อยหกสิบเจ็ดเชียวนะ บางคนสูงน้อยกว่าข้าก็ยังมีเลย เพียงแต่รูปร่างของข้าบอบบางไปหน่อยเท่านั้นเองเพราะสุขภาพไม่ค่อยดี เจ็บป่วยบ่อยอยู่บ่อยๆ” หญิงสาวกล่าวคำปดออกไป

พระพักตร์พยักขึ้นลงครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น แม้จะทรงฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวออกมาได้ก่อนจะมีโอกาสรับสั่งถามในสิ่งที่พระองค์สงสัย

“อาการเจ็บป่วยของเจ้าเกี่ยวข้องกับหน้ากากที่กำลังสวมอยู่ด้วยใช่หรือไม่” รับสั่งถามออกไป

เฉินวาวาพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กันเป็นการยอมรับ

“อือใช่! จู่ๆ ข้าก็ถูกพิษที่ไหนก็ไม่รู้ ทำให้ข้าหมดสติไปหลายวันเลยทีเดียวรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ถึงจะรอดตายแต่พิษนั่นทิ้งร่องรอยบนใบหน้าของข้าจนอัปลักษณ์ดูไม่ได้เลย ท่านเห็นใบหน้าอีกซีกที่ไม่ได้สวมหน้ากากของข้าไหมนี่ดูดีแล้วนะแต่อีกข้างของข้าหนักกว่านี้หลายเท่าเลยเชียวละ”

หญิงสาวอธิบายกลับไปก่อนจะสังเกตเห็นใบหน้าของผู้มีพระคุณผ่านทางผ้าคลุมสีดำสนิท ครั้นเมื่อสะท้อนแสงจากโคมไฟทำให้มองเห็นหน้ากากปิดบังใบหน้าเช่นกัน

ในขณะที่จอมมารชินซางทรงทบทวนความทรงจำในวันแรกที่ทรงประสบพบพักตร์กับคู่ชะตา เยว่วาวาที่ทรงพานพบนั้นทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยไฟอัคคีลามเลียไปทั่วใบหน้าและทั่วกายเต็มไปหมด เป็นผลมาจากปานไฟอัคคีของพระองค์ย้ายไปสถิตอยู่ในกายของคู่ชะตาซึ่งเป็นมนุษย์จึงทำให้เกิดรอยไฟอัคคีขึ้นทั่วร่างกาย ในขณะที่พระองค์ทรงนั่งครุ่นคิดถึงคู่ชะตาอยู่ในขณะนั้น จึงไม่ได้ยินที่เสียงของเสี่ยววาวาเอ่ยถามแต่อย่างใด

มือเรียวโบกไปโบกมาผ่านหน้าพระพักตร์อยู่หลายรอบแต่ก็ยังคงนั่งพระทัยลอยอยู่เช่นนั้น

“โอ้โฮ! เหม่อซะขนาดนี้สงสัยถอดวิญญาณออกจากร่างไปแล้วกระมัง” หญิงสาวบ่นพึมพำพร้อมใช้มือเขย่าข้อมือใหญ่ของผู้มีพระคุณไปมาเพื่อให้รู้สึกตัว

“พี่ชาย! พี่ชาย! ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า ได้ยินที่ข้าคุยกับท่านไหม” เฉินวาวากล่าวพลางพยายามเพ่งมองใบหน้าผู้มีพระคุณของเธอที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีดำบางเบา

พระเนตรสีนิลกาฬก้มลงทอดพระเนตรมือเรียวสวยของหนุ่มน้อยเสี่ยววาวาที่กำลังเขย่าข้อพระหัตถ์ของพระองค์อยู่ในขณะนั้น นิ้วมือเรียวยาวดั่งลำเทียน บริเวณเล็บมือถูกตัดแต่งเอาไว้เป็นอย่างดีสะท้อนเงาแวววาว เพราะถูกเคลือบด้วยยาทาเล็บเจลแบบใสในยุคปัจจุบันที่ติดตัวหญิงสาวมาด้วย เพื่อให้อยู่นานและคงทน 

มิหนำซ้ำยังนุ่มนิ่มไม่หยาบกระด้างแม้แต่น้อย ผิดแปลกไปจากสตรีทั่วไปและยิ่งแตกต่างจากมือบุรุษเพศมากมายยิ่งนัก พระองค์ทรงทอดพระเนตรด้วยความแปลกพระทัยครั้นทรงพานพบมือของบุรุษที่มีลักษณะเช่นนี้ ก่อนจะเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรเสี่ยววาวา

“มือของเจ้าเหตุใดจึงบอบบางดั่งเช่นอิสตรีนักเล่า... ไม่ใช่สิ! ข้ากล่าวผิด อิสตรีทั่วไปยังมิแลดูบอบบางเช่นนี้ยิ่งเทียบกับบุรุษด้วยแล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”

ดวงกลมโตกลอกกลิ้งไปมาทันทีเมื่อจู่ๆ ก็ถูกถามกลับมาเช่นนั้น

“ก็แหงละสิ! จะไปเหมือนได้ยังไงในเมื่อมือของเฉินวาวาถ่ายแบบโฆษณามานักต่อนักแล้ว มือคู่นี้โกยเงินหลักล้านมาไม่รู้เท่าไรแล้วแค่โฆษณาเฉพาะมืออย่างเดียวก็รับเละ ว่าแต่คนโบราณทำไมถึงได้ขี้สงสัยจังเลยว้า”

เฉินวาวารำพึงอยู่ภายในใจ สมองเริ่มสับกลไกกลั่นคำตอบให้ฟังดูสมเหตุสมผลออกมาทันทีก่อนจะนึกถึงบทบาทของนางมารร้ายในซีรีส์ที่เธอเคยแสดงออกมาใช้โดยพลัน

“ก็ข้าโดนพิษมาไง! ยาพิษที่ข้าโดนมาทำให้ทั่วร่างของข้าเนื้อตัวนุ่มเหลว กล้ามเนื้อหดหายฝ่อลงไปหมด เมื่อก่อนนะข้าแลดูบึกบึนน่าเกรงขามเสียนี่กระไร ไม่ได้มีร่างกายขี้โรคดั่งที่ท่านเห็นอยู่ในเวลานี้แม้แต่น้อย” หญิงสาวงัดบทพูดในละครยกมาปรับใช้กับสถานการณ์ตอนนี้ทันที

“อย่างนั้นรึ! ช่างเป็นพิษที่ร้ายกาจสร้างความทรมานให้แก่เจ้าจริงเชียว” จอมมารรับสั่งพึมพำก่อนจะก้มลงทอดพระเนตรมือเรียวสวยที่กำลังทาบทับอยู่บนข้อพระหัตถ์อีกครั้ง 

“จริงสิ! แล้วเจ้าเขย่าข้าทำไมเสี่ยววาวา!” รับสั่งถามกลับไป

มือเรียวของหญิงสาวรีบยกขึ้นจากข้อพระหัตถ์ใหญ่ของจอมมารทันที เธอลืมตัวแตะต้องกายบุรุษในยุคโบราณในคราบผู้ชายแบบเนียนๆ อีกแล้ว

“กะ... ก็ข้าเห็นพี่ชายนั่งใจลอยอยู่เป็นนาน นึกว่าคงถอดวิญญาณไปถึงพระจันทร์แล้วกระมัง กลัวว่าท่านจะเป็นอะไรไปก็เลยเขย่าข้อมือพี่ชายให้รู้สึกตัวก็เท่านั้นเอง... แหะๆ” หญิงสาวกล่าวพร้อมส่งยิ้มแหยๆ

“เช่นนั้นรึ!”รับสั่งกลับมาสั้นๆ พลางทอดพระเนตรสหายใหม่อย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะได้ยินเสียงของเสี่ยววาวาถามพระองค์กลับมา 

“นะ... นี่ท่านสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเหมือนกันด้วยอย่างนั้นเหรอ... พี่ชายถูกพิษมาใช่ไหม” หญิงสาวถามออกไปทันทีด้วยความสงสัย

พระเศียรส่ายไปมาติดๆ กันเป็นการปฏิเสธ

“ข้าไม่ได้ถูกพิษอะไรมาหรือเจ็บป่วยดั่งเช่นเจ้าหรอก” รับสั่งตอบกลับไปตามความเป็นจริง

“เอ้า! ถ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วท่านสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ทำไมเหรอ… หรือว่าพี่ชายมีใบหน้าอัปลักษณ์ตั้งแต่กำเนิดใช่ไหม” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้

“ก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน” รับสั่งตอบกลับไปสั้นๆ

และนั่นทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหาทันใดด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น

“อันนั้นก็ไม่ใช่! อันนี้ก็ไม่ใช่! แล้วมันเป็นเพราะอะไรเหรอพี่ชาย” เฉินวาวาไม่วายที่จะถามด้วยความอยากรู้

จอมมารทรงทอดพระเนตรหนุ่มน้อยตรงหน้าพระพักตร์ที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะทรงตอบกลับไป

“ก็เพราะข้าหล่อเหลาจนเกินไป” รับสั่งตอบตามความเป็นจริง

“พรืดดด!!!” เฉินวาวาสำลักน้ำชาที่กำลังดื่มออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้นต่อหน้าพระพักตร์ของจอมมาร

Kaugnay na kabanata

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.3

    พระองค์ส่ายพระเศียรไปมาติดๆ กันพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลออกมาเบาๆ กับท่าทางดังกล่าวของสหายน้อยมือเรียวของหญิงสาววางถ้วยชาลงทันทีพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะร่วนเลยทีเดียว“แหม... พี่ชายท่านช่างมีอามรณ์ขันเสียจริง ปกติคนเราไม่ว่าสตรีหรือบุรุษถ้าไม่มีอะไรผิดปกติบนใบหน้าจะปิดบังอำพรางความงดงามหรือความหล่อเหลาของตนเอาไว้ทำไมจริงไหม คนที่ใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าตัวเองก็มีอยู่แค่สองประเภทเท่านั้นแหละ” เฉินวาวากล่าวแสดงความคิดเห็น“อย่างไรรึ! เจ้าคาดเดาออกอย่างนั้นหรือว่าข้ามีสาเหตุอื่นอีกที่ใช้หน้ากากปิดบังอำพรางใบหน้าของตัวเอง” รับสั่งถามหยั่งเชิงกลับไป“ข้าก็พอจะเดาได้คร่าวๆ บ้างหรอกนะพี่ชาย ประเภทแรกคืออัปลักษณ์ ขี้เหร่เกินคำบรรยายไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตามทีเถอะเช่นข้าเป็นต้น จึงจำเป็นต้องใช้หน้ากากอำพรางใบหน้าของตัวเองเพื่อมิให้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง” หญิงสาวกล่าวอธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ“และกับอีกประเภทยกตัวอย่างพี่ชายก็แล้วกัน สาเหตุที่ท่านสวมหน้ากากนอกจากต้องการปิดบังความหล่อเหลาดั่งคำที่ท่านว่าแล้ว ซึ่งเป็นไป

    Huling Na-update : 2025-01-07
  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.4

    เพียงครู่จอมมารชินซางและเฉินวาวามาหยุดยืนอยู่ริมแม่น้ำ อันเป็นสถานที่ซึ่งนิยมพากันมาปล่อยโคมประทีปที่แม่น้ำ เพื่อขอพรได้สมดั่งใจหวัง อีกทั้งเห็นพระจันทร์กลมโตได้อย่างชัดเจน โคมประทีปค่อยๆ ถูกจุดจากอุปกรณ์ที่ได้มาพร้อมกับโคมประทีปเตรียมพร้อมที่จะปล่อยขึ้นท้องฟ้าเบื้องบน“พี่ชายอธิษฐานเลยสิ! ท่านกำลังตามหาคนรักอยู่มิใช่เหรอ อธิษฐานแล้วท่านจะได้ปล่อยโคมออกไป” หญิงสาวบอกจอมมารที่ทรงยืนฟังเธอด้วยความแปลกพระทัย“เจ้าซื้อโคมประทีปนี้ให้ข้าอธิษฐานอย่างนั้นเหรอเสี่ยววาวา ข้านึกว่าเจ้าจะปล่อยเองเสียอีก” รับสั่งถามกลับไป“โคมประทีปนี้เป็นของท่าน ข้าแค่อำนวยความสะดวกและมาเป็นเพื่อนเฉยๆ รู้ไหมอธิษฐานเรื่องความรักและลอยโคมประทีปไปด้วยต่อหน้าพระจันทร์ คำอธิษฐานเป็นจริงนะพี่ชาย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” หญิงสาวใช้คำปัจจุบันสอดแทรกออกมาตลอดจอมมารทรงยืนทอดพระเนตรเด็กหนุ่มตรงพระพักตร์สลับทอดพระเนตรโคมประทีป ก่อนจะเอื้อมพระหัตถ์จับมือเรียวสวยของสหายน้อยให้จับโคมประทีปพร้อมกับพระองค์“ถ้าเช่นนั้นเจ้ากับข้ามาอธิษฐานพร้อมกันเถอะหลังจากนั้นจะได้

    Huling Na-update : 2025-01-07
  • พิศวาส 3000 ปี   เย่ววาวา 1.1

    ยามห้ายบริเวณหน้าโรงเตี๊ยมร่างสูงตระหง่านของจอมมารหนุ่มกับหนุ่มน้อยเสี่ยววาวา บัดนี้มาหยุดยืนอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าของโรงเตี๊ยม ภายหลังที่ทั้งสองเดินเที่ยวชมงานจนย่างเข้าสู่ยามห้ายใกล้จะถึงเวลาที่งานเทศกาลจะจบสิ้นลง ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะกล่าวคำอำลาจริงๆ คนที่รู้สึกใจหายกลับเป็นองค์จอมมารที่ยืนทอดพระเนตรหนุ่มน้อยสหายใหม่ที่เพิ่งรู้จักอยู่ในขณะนี้“ถ้าหากเจ้าไม่รีบกลับพรุ่งนี้ข้าจะมาหาที่โรงเตี๊ยมเพื่อส่งเจ้าเดินทางกลับแคว้นอย่างปลอดภัย” รับสั่งด้วยความเป็นห่วงพร้อมยื่นบางอย่างส่งให้เฉินวาวาท่ามกลางความแปลกใจของเธอก่อนจะยื่นมือรับเอาไว้อย่างงงๆป้ายทองสลักตัวอักษรนำหน้าว่า ชิน ของพระองค์ยื่นส่งให้หญิงสาวเก็บไว้ติดตัว“นี่คือของที่ระลึกจากข้าเก็บเอาไว้ติดตัว ยามใดที่เจ้าต้องการความช่วยเหลือให้แสดงป้ายทองนี้ออกมา แล้วเจ้าจะได้รับการช่วยเหลือจากข้าและคนของข้าทันที” รับสั่งอธิบายกลับไป“โอ้โฮ! ของสำคัญขนาดนี้ท่านให้ข้าเก็บติดตัวไว้ทำไม เหตุใดจึงไม่เก็บไว้กับตัวเองล่ะพี่ชาย”

    Huling Na-update : 2025-01-07
  • พิศวาส 3000 ปี   เย่ววาวา 1.2

    โรงเตี๊ยมอาชาตัวมหึมาห้อตะบึงมาอย่างสุดฝีเท้า ติดตามด้วยกองทหารอารักขานับสิบนาย เสียงฝีเท้าม้าดังกระหึ่มมาตลอดเส้นทางสายหลักเมื่อม้าจำนวนหลายสิบตัวกำลังวิ่งมุ่งหน้าไปทางถนนใจกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลลอยโคมประทีปที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงเตี๊ยมที่ยังเปิดให้บริการในขณะนั้นพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารเสด็จลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็ว พระพักตร์หล่อเหลาปราศจากหน้ากากทองคำปิดบังอำพรางแต่อย่างใด ด้วยทรงรีบร้อนเสด็จออกมาจากจวนเพื่อติดตามเยว่วาวาของพระองค์ พระวรกายใหญ่พระดำเนินเข้าไปภายในโรงเตี๊ยมดังกล่าวในขณะที่ชั้นล่างยังเต็มไปด้วยชาวเมืองที่มาเปิดห้องพักค้างคืนและดื่มกินอาหารอยู่ชั้นล่างเต็มทุกโต๊ะ“ชินอ๋องเสด็จ!!!” เสียงทหารอารักขาตะโกนออกมาเป็นทอดๆ ก่อนจะกระจายกำลังแยกย้ายกันค้นหาไปทั่วพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนสวมอาภรณ์สีนิลกาฬก้าวเข้ามาภายในโรงเตี๊ยมดังกล่าวทันที ท่ามกลางสายตาของชาวเมืองเทียนจิ้นและต่างแคว้นที่ได้มีโอกาสพานพบพระพักตร์ที่แท้จริง แต่ละคนตกตะลึงอ้าปากค้างกันทุกคนก่อนจะรีบพากันลงนั่งคุก

    Huling Na-update : 2025-01-07
  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.1

    5 วันผ่านไปเมืองหลวงเทียนฮุย (เมืองหลวงตะวันออก)รถม้าขนาดบรรจุคนได้ประมาณสามสี่คนกำลังยืนรอการตรวจค้นเพื่อผ่านเข้าประตูเมืองเทียนฮุย อันเป็นเมืองหลวงตะวันออกและเป็นเมืองหลวงเอกของแคว้นเทียนโจว เฉินวาวาในขณะนี้สวมบทบาทเป็นหญิงสามัญชนกำลังอุ้มท้องอายุครรภ์เจ็ดเดือนนั่งอยู่บนรถม้าพร้อมด้วยองครักษ์ลู่เหอซึ่งสวมบทบาทเป็นสามีจำเป็นของเธอใบหน้าขององครักษ์ลู่เหอซึ่งติดหนวดปลอมนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับองค์หญิงของตน ในขณะที่เฉินวาวายังคงสวมหน้ากากทองคำปิดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ตลอดเวลา“เออ...องค์หญิงทรงเล่นพิเรนทร์อะไรเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ให้กระหม่อมแสร้งเป็นพระสวามีหากฮ่องเต้ของเทียนโจวล่วงรู้หัวต้องหลุดออกจากบ่าเป็นแน่แท้ ทรงคิดอะไรอยู่... บอกได้ไหม” ลู่เหอบ่นรำพึงรำพันเฉินวาวาที่กำลังใช้พัดที่ถืออยู่ในมือโบกไปมาเพื่อคลายความร้อนในขณะนั้นอย่างสบายใจเฉิบ มีอันต้องหุบพัดดังกล่าวลงทันที“เพียะ!” เสียงพัดกระทบเข้ากับหน้าขาขององครักษ์หนุ่มจนตัวลีบตัวงอเข้าหากันทันใดด้วยความกลัว“ทำไมจะต้องคิ

    Huling Na-update : 2025-01-08
  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.2

    องครักษ์ลู่เหอรีบลุกออกจากที่นั่งดังกล่าวทันทีพร้อมถวายคำนับองค์หญิงของตนเป็นการขออภัย “ผ่านด่านแล้วพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง” ลู่เหอกล่าวพร้อมเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงของตนทันที แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาเห็นพระพักตร์งดงามลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดขององค์หญิงเยว่วาวาไร้สิ้นรอยอัปลักษณ์ที่เห็นอยู่เป็นประจำแต่อย่างใดปรากฏอยู่ตรงหน้าในขณะนี้ องครักษ์หนุ่มได้แต่นั่งนิ่งอยู่เช่นนั้นไม่ขยับเขยื้อนกายแม้แต่น้อย จนเฉินวาวาผิดสังเกต “ลู่เหอ! ลู่เหอ! นี่เจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงจ้องหน้าข้าแบบนี้” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความแปลกใจพลางยกมือขึ้นจับใบหน้าของเธอ “นี่เจ้าอย่าบอกนะว่ายังไม่ชินกับรอยอัปลักษณ์ที่อยู่บนหน้าข้า อันที่จริงก็เห็นจนชินตาแล้วไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวถามกลับไปก่อนจะได้ยินเสียงขององครักษ์ลู่เหอตอบกลับมา “มะ... ไม่ชินพ่ะย่ะค่ะ… พระพักตร์ขององค์หญิงตอนนี้มะ... ไม่มีรอยอัปลักษณ์แล้ว” “หา!” เฉินวาวาอุทานเสียงหลงขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น มือเรียวยกขึ้นจับใบหน้าของเธอไปโดยรอบ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อหาสิ่งที่จะสามารถสะท้อนเงาแทนกระจกสัมฤทธิ์และสิ่งที่มาแทน

    Huling Na-update : 2025-01-08
  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.3

    พระราชวังหลวงเทียนฮุยภายในท้องพระโรง ท้องพระโรงขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นและออกแบบอย่างสวยงาม เป็นหน้าเป็นตาของแคว้นเทียนโจว เหมืองแร่ทองคำและเหมืองหยก ทำให้เทียนโจวมั่งคั่งและร่ำรวยกว่าแคว้นอื่นๆ การสรรสร้างพระตำหนักต่างๆ จึงเต็มไปด้วยศิลปะเฉพาะของแคว้น ทองคำและหยกสูงค่าจึงถูกนำมาประดับประดาภายในท้องพระโรงเพื่อประกาศศักดาและความยิ่งใหญ่ที่ต่างแคว้นล้วนริษยาในความอุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งของเทียนโจวเป็นยิ่งนัก ในยามนี้เป็นเวลาที่โจวฟางหยางฮ่องเต้ ทรงออกว่าราชการตามปกติ ฮ่องเต้หนุ่มฉกรรจ์ในพระชนมายุสี่สิบพรรษา ยังคงหนุ่มแน่นและมีพระสิริโฉมคมคายถอดแบบมาจากหวงไทเฮาพระมารดา ซึ่งพระองค์เป็นพระโอรสองค์ใหญ่ประสูติจากฮองเฮา และมีพระอนุชาต่างพระมารดาประสูติจากพระสนมระดับฟูเหรินด้วยกันอีกสี่พระองค์ ซึ่งเดิมทีพระอนุชาทั้งสี่ คือองค์ชายรอง องค์ชายสามสิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ส่วนองค์ชายห้าเพิ่งจะสิ้นพระชนม์เมื่อห้าปีก่อน ส่วนองค์ชายสี่โจวชินซางหายสาบสูญไปพร้อมกับพระมารดาตั้งแต่ทรงมีชันษาได้เพียงหกเดือน แต่แล้วจู่ๆ องค

    Huling Na-update : 2025-01-08
  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.4

    ฟางหยางฮ่องเต้ทรงคิดหาวิธีที่จะทดสอบความจงรักภักดีของพระอนุชาขึ้นมาทันที ก่อนจะนึกวิธีทดสอบที่พระองค์เคยมองข้ามนั่นก็คือสมรสพระราชทานนั่นเอง เป็นวิธีที่สามารถทำให้พระองค์หยั่งรู้ว่าพระอนุชาจงรักภักดีด้วยใจจริงหรือไม่ “ถ้าเช่นนั้นก็ดี! ไหนๆ ก็พำนักอยู่ในวังหลวง อีกทั้งเจ้าเองก็อายุเข้าสู่ปีที่ยี่สิบเก้าแล้ว จนถึงป่านนี้ยังไม่ยอมอภิเษกสมรสมีพระชายาเสียที มิสู้ให้ข้าช่วยจัดการหาองค์หญิงจากต่างแคว้นที่เดินทางมาแต่งงานตามสัญญาสงบศึกให้เจ้าได้มีพระชายาดั่งเช่นผู้อื่นบ้างมิดีหรือไร เจ้ามัวแต่ทำศึกสงครามจะหาเวลาใดพึงใจสตรีได้จริงหรือไม่” ฟางหยางฮ่องเต้เริ่มต้นแผนการทันที “จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะเสด็จอา ตอนนี้หลานๆ ทั้งหมดของพระองค์ที่ถึงวัยแต่งงานต้องรับพระราชทานองค์หญิงเหล่านั้นมาเป็นพระชายา จนตอนนี้ตำหนักแน่นไปหมดแล้ว เสด็จอามาประทับอยู่เช่นนี้มิสู้รับองค์หญิงจากต่างแคว้นไปเป็นพระชายาบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ เป็นการแบ่งเบาภาระเสด็จพ่อไปพร้อมกันด้วย” องค์รัชทายาทรับสั่งสนับสนุนตามประสาซื่อโดยมิล่วงรู้อะไรแม้แต่น้อย และถ้อยรับสั่งขององค์รัชทายาทสร้างความพึงพอพระทัยให้แก่ฟางหยางฮ่องเ

    Huling Na-update : 2025-01-08

Pinakabagong kabanata

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.5 (ตอนอวสาน)

    พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.4

    งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.3

    มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.2

    ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.1

    ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารในตำนาน 1.2

    ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ

  • พิศวาส 3000 ปี   นางมารทำลายเมือง 1.2

    ในขณะเดียวกันตำหนักลับทันทีที่เฉินวาวาราชินีปีศาจของจอมมาร ปลดปล่อยไอปีศาจจนทำลายแคว้นเยว่พินาศวอดวาย พระวรกายของจอมมารที่ตกอยู่ในห้วงญาณแห่งการหลับใหลมีความรู้สึกขึ้นมาโดยพลัน“ตึก ตึก ตึก” พระวรกายใหญ่เริ่มกระตุกติดต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุแรงกระตุกดังกล่าวราวกับทรงสัมผัสได้ว่าราชินีของพระองค์ตกอยู่ในห้วงอันตราย และทันทีที่ร่างระหงล้มลงหมดสติจอมมารชินซางก็ทรงตื่นจากห้วงญาณแห่งการหลับใหลขึ้นมาทันที“พรึ่บ!” เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใดพระเนตรสีเลือดวาววับขึ้นมาทันที พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกบรรทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“วาเอ๋อร์! วาเอ๋อร์ของข้า!” รับสั่งเพรียกหาพระชายาพระวรกายใหญ่ลุกจากแท่นพระบรรทมโดยพลัน ก่อนจะซวนเซไปมาเมื่อพระองค์หลับใหลไปนานเกือบสามเดือนแต่ต้องตื่นก่อนกำหนดเพราะความรักที่ทั้งสองมอบให้แก่กันสื่อสัมผัสให้จอมมารชินซางออกจากญาณหลับใหลก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น ทำให้การรวบรวมพลังเวทและตบะขั้นที่แปดหวนคืนกลับมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้พระเนตรสีเล

  • พิศวาส 3000 ปี   นางมารทำลายเมือง 1.1

    แคว้นเยว่เมืองหลวงมี่โจแผนผังวางระเบิดตามจุดถูกกางออกอยู่ตรงหน้านางร้ายจากยุคอนาคตในขณะนี้ หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้ามองตรงไปจากเนินเขาสูง เบื้องล่างคือเมืองหลวงแคว้นเยว่ นามว่ามี่โจเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แต่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แออัดหรือสร้างติดต่อกัน ด้วยเป็นเมืองที่เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเดิมถูกเผาทำลายเมืองครั้งผลัดเปลี่ยนราชวงศ์และการแย่งชิงความเป็นใหญ่ดังกล่าวจึงทำให้แคว้นเยว่มิได้เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น เจ้าผู้ครองแคว้นฝักใฝ่ในการทำสงครามโดยมิประมาณตนว่ากองทัพมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไม่มีบุรุษลงมือทำการเกษตรเพราะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปรบทำสงครามจนหมด“จุดชนวนแล้วระเบิดกำแพงเมืองที่โอบล้อมให้พังทลายลงทั้งหมด ระเบิดคลังแสงของทหาร ตัดกำลังอาวุธ ระเบิดพระราชวังหลวงเพื่อข่มขวัญฮ่องเต้แคว้นเยว่ ระเบิดวังหลวงให้หมดทุกตำหนักและทุกที่ สุดท้ายระเบิดคลังเสบียงแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวเมือง หลังจากนั้นสายน้ำดำที่ฝังอยู่นอกตัวเมืองทุกจุด ให้ระเบิดขึ้นพร้อมก

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารในตำนาน 1.1

    แคว้นเยว่ ในขณะเดียวกันท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงดั่งขุนเขาต่อหน้ากองทหารของราชินีปีศาจ และกองทหารแคว้นเยว่ที่ควบคุมตัวเฉินวาวาเอาไว้ตั้งแต่คราแรก หากแต่ในเวลานี้ต่างยอมจำนนกันหมดสิ้นทุกสายตาต่างยืนมองทะเลเพลิงเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าคล้ายกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่วิ่งมาหยุดอยู่ด้านหลัง พร้อมกำลังทหารกระจายล้อมรอบไปทั่วบริเวณ“อะไรกันนี่! แคว้นเยว่ถูกทำลา

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status