Share

โจวชินซาง 1.3

last update Last Updated: 2025-01-04 18:15:58

ทหารต้าฉู่ที่รอดชีวิตต่างพร้อมใจพากันทิ้งอาวุธอย่างพร้อมเพรียง ทุกชีวิตทรุดกายลงนั่งคุกเข่าพร้อมส่งเสียงขานรับพระบัญชาของจอมมารออกมาทันที

 “รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ! นับตั้งแต่นี้ต่อไปแคว้นต้าฉู่ยินดีสวามิภักดิ์ต่อแคว้นเทียนโจวตลอดไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญ!”เหล่าทหารแคว้นต้าฉู่เปล่งถ้อยคำออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

 ครั้นจอมมารชินซางได้ยินคำกล่าวของบรรดาทหารต้าฉู่เอ่ยออกมาเช่นนั้น พระองค์หันพระวรกายกลับไปทอดพระเนตรเฉินกงฮ่องเต้ พระวรกายสูงทะมึนเสด็จพระดำเนินก้าวเข้าไปหาบุรุษที่เหมือนพระบิดาของพระองค์อย่างไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย

 “ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ที่จะจัดการเยี่ยงไรต่อไป ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถจัดการได้ออกมาเป็นอย่างดี” รับสั่งสุรเสียงเรียบเฉย พร้อมพระดำเนินออกไปจากบริเวณนั้น

 ครั้นเฉินกงฮ่องเต้หายจากพระอาการตกตะลึงและทอดพระเนตรบุรุษปริศนากำลังจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ พระองค์ทรงรีบมีรับสั่งทักท้วงออกไปทันที

“เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม!” สุรเสียงรับสั่งรั้งจอมมาร

พระวรกายสูงทะมึนทรงหยุดพระดำเนินเมื่อเฉินกงฮ่องเต้รับสั่งรั้งพระองค์เอาไว้ พระพักตร์หล่อเหลาคมคร้ามหันกลับมาทอดพระเนตรฮ่องเต้ผู้นั้นอีกครา

“มีอะไรกับข้าอีกอย่างนั้นหรอกรึ” รับสั่งถามกลับไป

 “เหตุใดจึงรีบไปเสียเล่า ข้ายังมิทันได้กล่าวขอบใจและตอบแทนน้ำใจเจ้าเลยพ่อหนุ่ม อยู่เจรจากับข้าก่อนเถิด สงครามครั้งนี้แคว้นเทียนโจวสามารถรบชนะได้ด้วยฝีมือของเจ้าเพียงผู้เดียว เพียงชั่วพริบตาวรยุทธ์ไม่กี่กระบวนท่าของเจ้าก็สยบกองทัพเป็นเรือนแสนได้ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นการรบอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ และข้าคือโจวเฉินกงฮ่องเต้กษัตริย์แคว้นเทียนโจว ที่เจ้าช่วยรบ แล้วเจ้าเล่ามีนามว่ากระไร” รับสั่งถามกลับไป 

พระพักตร์หล่อเหลาคลี่พระโอษฐ์ออกมาบางๆ ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“กระหม่อมยินดีช่วยฝ่าพระบาทในฐานะพสกนิกร แต่ตอนนี้กระหม่อมกำลังตามหาคนสำคัญในชีวิตจึงมิอาจอยู่สนทนากับฝ่าบาทได้นาน ขอได้ทรงโปรดประทานอภัย หากรับสั่งถามถึงนามนั้น กระหม่อมมีนามว่าชินซางพ่ะย่ะค่ะ” จอมมารรับสั่งพร้อมก้มพระเศียรเพียงน้อยนิดถวายคำนับให้กับฮ่องเต้แคว้นเทียนโจวในฐานะที่พระองค์ทรงเหมือนพระบิดาผู้ให้กำเนิด

ในขณะที่เฉินกงฮ่องเต้มีพระอาการตกตะลึงขึ้นมาทันใด ครั้นทรงได้ยินพระนามของจอมมาร ฮ่องเต้วัยกลางคนรีบพระดำเนินไปดักหน้าพระพักตร์เอาไว้ทันใด

“เจ้ามีนามว่าชินซางอย่างนั้นรึ!” รับสั่งถามย้ำกลับไปอีกคราเพื่อความแน่พระทัย

พระพักตร์หล่อเหลาพยักขึ้นลงติดต่อกัน

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!” รับสั่งตอบกลับไป

และคำตอบของจอมมารทำให้องค์ฮ่องเต้แย้มพระโอษฐ์กว้างออกมาทันที ก่อนจะเหลือบสายพระเนตรพบป้ายหยกสีเขียวมรกตห้อยอยู่ที่บั้นพระองค์ ก่อนจะจดจำได้ว่าเป็นป้ายหยกที่พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ช่างหลวงจัดทำขึ้น

“ปะ... ป้ายหยกนี้ขอข้าดูใกล้ๆ จะได้หรือไม่” รับสั่งขอทอดพระเนตรป้ายหยกในระยะใกล้ชิด

พระเนตรสีนิลกาฬของจอมมารทอดพระเนตรเฉินกงฮ่องเต้อยู่เพียงครู่ ก่อนจะปลดป้ายหยกที่ห้อยอยู่บั้นพระองค์ยื่นส่งให้ฮ่องเต้แคว้นเทียนโจวได้ทอดพระเนตรอย่างชัดเจน

ทันทีที่พระหัตถ์รับป้ายหยกจากจอมมารขึ้นมาทอดพระเนตร เฉินกงฮ่องเต้มีพระอาการที่แสดงออกถึงความดีพระทัยสุดขีดขึ้นมาทันที พระองค์แหงนพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรบุรุษตรงหน้า

“หยกนี้มีสองชิ้น นอกจากชิ้นนี้แล้วยังมีอีกชิ้นหนึ่งที่สลักชื่อเอาไว้เช่นกันใช่หรือไม่”พระองค์รับสั่งถามย้ำกลับไป

ครั้นจอมมารทรงได้ยินเช่นนั้นพระพักตร์หล่อเหลาพยักขึ้นลงเป็นสัญญาณตอบรับ

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ!” รับสั่งตอบกลับไปสั้นๆ พร้อมพระหัตถ์ล้วงเข้าไปในอกเสื้อฉลองพระองค์ก่อนจะดึงป้ายหยกอีกชิ้นยื่นส่งให้เฉินกงฮ่องเต้รับไว้ พร้อมมีรับสั่ง

“ป้ายหยกทั้งสองชิ้นนี้ บังเอิญกระหม่อม...” ยังมิทันที่พระองค์จะรับสั่งจนจบประโยค

เฉินกงฮ่องเต้ตรงปรี่เข้าสวมกอดพระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารทันที ครั้นได้ทอดพระเนตรป้ายหยกชิ้นที่เหลือ

“ชินซางลูกพ่อ! ที่แท้เจ้าก็ยังไม่ตาย! เจ้ายังไม่ตายจริงๆ ด้วย ลูกรักของพ่อ” เฉินกงฮ่องเต้รับสั่งสุรเสียงสั่นเครือ หยาดน้ำพระเนตรเอ่อล้นคลอเบ้า พร้อมเสียงของบรรดาทหารองครักษ์ที่ได้ยินถ้อยรับสั่งฮ่องเต้ของตน ต่างพากันส่งเสียงเอ็ดอึงเป็นการใหญ่

“องค์ชายสี่ยังไม่สิ้นพระชนม์! ที่แท้บุรุษผมสีเงินคือองค์ชายชินซาง!!!” บรรดาทหารองครักษ์ที่ได้ยินถ้อยรับสั่งต่างโจษขานบอกต่อๆ กันออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางเสียงเอ็ดอึงของทหารองค์รักษ์และเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งกองทัพ เมื่อได้ล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วบุรุษร่างสูงใหญ่ทะมึน เจ้าของเส้นผมสีเงินยวงสวมอาภรณ์สีนิลกาฬคือองค์ชายโจวชินซาง หรือองค์ชายสี่ที่หายสาบสูญไปพร้อมพระสนมเอกจิ่วซิน พระมารดาเมื่อยี่สิบสี่ปีก่อน

บุรุษผู้นำชัยชนะมาสู่แคว้นเทียนโจว ด้วยฝีมือการสู้รบเพียงลำพังสามารถสยบกองทัพแคว้นต้าฉู่ ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนได้อย่างราบคาบ เหตุการณ์สู้รบระหว่างแคว้นฉู่และแคว้นเทียนโจวบริเวณเขาเหิงไห่ ถูกกล่าวขานปากต่อปากจากกองทหารทั้งสองฝ่ายที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและเริ่มแผ่กระจายข่าวสารออกเป็นวงกว้าง

ในขณะที่บุรุษปริศนาร่างสูงใหญ่ทะมึน เจ้าของเกศาสีเงินยวงภายใต้อาภรณ์สีนิลกาฬ เป็นผู้นำชัยชนะอันยิ่งใหญ่มาสู่แคว้นเทียนโจว และกลับกลายเป็นว่าแท้จริงแล้วบุรุษปริศนาคือองค์ชายโจวชินซางที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อยี่สิบสี่ปีก่อน 

เรื่องราวกาลกลับตาลปัตร เมื่อเฉินกงฮ่องเต้ ซึ่งเข้าใจว่าจอมมารชินซางคือพระโอรสที่หายสาบสูญไปพร้อมกับพระสนมเอกผู้เป็นที่รัก ด้วยสาเหตุซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเพราะเหตุใด พระสนมเอกจิ่วซินจึงหอบพระโอรสหนีจากพระสวามีไปอย่างไม่มีเยื่อใย

จอมมารชินซางได้แต่ยืนนิ่ง มิกล่าวถ้อยรับสั่งสิ่งใดต่อไปอีก ก่อนจะก้มลงทอดพระเนตรเฉินกงฮ่องเต้ที่กำลังสวมกอดพระวรกายของพระองค์อยู่ในขณะนี้ บุรุษวัยกลางคนกำลังโอบกอดจอมมารด้วยความดีใจอย่างหาที่สุดมิได้เมื่อของรักได้หวนกลับคืน

“เป็นองค์ชายแคว้นนี้ก็เข้าท่า ฐานันดรสูงส่งเช่นนี้จะทำให้ข้าสามารถตามหานางได้ดีกว่าสถานะทั่วไป แต่ข้าจะเริ่มต้นค้นหานางจากจุดไหนดีเล่า” รับสั่งรำพึงอยู่ในพระทัย ในขณะที่เฉินกงฮ่องเต้ยังคงสวมกอดพระวรกายจอมมารอยู่เช่นนั้นพร้อมสุรเสียงรับสั่ง

“ชินซางลูกพ่อ! ในที่สุดสิ่งที่หวังไว้ก่อนแผ่นดินกลบหน้า ว่าอยากพบเจ้ากับแม่อีกครั้งในที่สุดก็เป็นความจริง แม้พ่อต้องสิ้นชีพแดดิ้นนับต่อจากนี้ก็หมดห่วงแล้ว... หมดห่วงแล้วที่พ่อจะฝากความหวังทั้งหมดให้แก่เจ้าชินซาง”

ถ้อยรับสั่งของเฉินกงฮ่องเต้ ทำให้จอมมารชินซางรู้สึกมีบางอย่างวิ่งแล่นเข้ามาจุกที่อก สองพระกรค่อยๆ ยกขึ้นโอบกอดเฉินกงฮ่องเต้ ด้วยรู้สึกอบอุ่นในพระทัยเสมือนอดีตจอมมารพระบิดาเคยโอบกอดพระองค์เมื่อครั้งเยาว์ชันษา พระเนตรสีนิลกาฬที่มีแต่ความแข็งกร้าว อ่อนแสงลงโดยพลัน

“เสด็จพ่อ!”

Related chapters

  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.1

    ชายแดนแคว้นฉู่ “พรึ่บ!” ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ หญิงสาวนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่บริเวณชายป่าเขตแดนแคว้นฉู่ ซึ่งเดิมทีเป็นของแคว้นฉู่ทั้งหมด ภายหลังต้องแบ่งสิทธิในการดูแลและครอบครองเมืองแถบชายแดนของแคว้นฉู่ทั้งหมดให้กับแคว้นเทียนโจวคนละครึ่งช่วยกันปกครอง เพื่อทางเทียนโจวสามารถสอดส่องและส่งกองทหารมาตรึงตามชายแดน มิให้เกิดสงครามระหว่างแคว้นขึ้นมาได้อีก ด้วยผลจากการพ่ายแพ้สงครามในศึกเหิงไห่เมื่อห้าปีก่อน ทำให้แคว้นฉู่จำต้องยินยอมทำตามข้อตกลงทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ซึ่งดีกว่าจะต้องเสียแคว้นให้อยู่ใต้การปกครองของเทียนโจวตลอดไป และการก้าวเดินถอยหลังของวาวาถึงห้าก้าวในเขตแดนปีศาจเข้าสู่ภพมนุษย์ทำให้เธอกลับมาในยุคอดีตภายหลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างแคว้นเทียนโจวและแคว้นฉู่เสร็จสิ้นไปแล้วเป็นเวลานานถึงห้าปี ในขณะที่จอมมารชินซางทรงสวมกอดนางเอาไว้แนบอกตลอดเวลาจึงทำให้พระองค์หวนกลับคืนสู่อดีตกาลเช่นเดียวกัน แต่ทรงกลับมาเพียงลำพังโดยไร้สิ้นนางในอ้อมกอด ด้วยเพราะเฉินวาวาก้าวถอยหลังถึงห้าก้าวทำให้กลับมาช้ากว่าพระองค์ห้

    Last Updated : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.2

    ภายในกระโจมที่ประทับร่างงามนอนหลับใหลมิได้สติจนผ่านไปหนึ่งวันกับอีกสองคืน ภายในกระโจมส่วนตัวติดกับกระโจมขององค์หญิงชิวหรงซึ่งทรงพระประชวรอยู่ในขณะนี้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยไฟอัคคีสร้างความหวาดกลัวให้แก่นางกำนัลที่เฝ้าคอยดูแลหญิงสาวเป็นยิ่งนัก พิศเพ่งหน้านางคราใดต้องตื่นตกใจทุกครา จนมิมีผู้ใดกล้าเฝ้านางอยู่ตลอดเวลาคงทำได้แต่เพียงยืนเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าของกระโจมใบหน้าราวปีศาจปรากฏแสงเรืองรองสว่างวาบออกมาจากรอยปานคล้ายหยดน้ำซึ่งก็คือไฟอัคคีของจอมมารชินซางที่ย้ายมาสถิตอยู่ตรงกลางหน้าผากของหญิงสาว ใบหน้าเริ่มพลิกไปมาอย่างช้าๆ เปลือกตากลอกกลิ้งไปมาพร้อมเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้า เมื่อเธอได้นิมิตฝันเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ทะมึน เจ้าของเกศาสีเงินยวงสวมชุดเกราะจอมทัพ ภายในมือถือดาบยาวขนาดใหญ่ ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมลุกกระพือออกเป็นวงกว้างดั่งไฟจากขุมนรกทั่วบริเวณเต็มไปด้วยทหารนับหลายพันนายรายล้อมบุรุษผู้นั้นหมายรุมฆ่าลงประชาทัณฑ์ ในขณะที่มีเพียงบุรุษผู้นั้นเพียงหนึ่งเดียวยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชน เสียงตะโกนก้องกัมปนาทดังขึ้นพร้อมดาบยาวยกขึ้นช

    Last Updated : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.3

    บริเวณนอกกระโจม“ชิงเหยียน! อู๋ชิงเหยียน! อู๋…” หญิงสาวตะโกนได้เพียงแค่นั้นดวงตากลมโตกวาดสายตามองขบวนเจ้าสาวที่เต็มไปด้วยนางกำนัลมากมายพร้อมขันทีและกองทหารตามขบวนเสด็จไม่ต่ำกว่าสองร้อยนาย คอยถวายอารักขาไปตลอดการเดินทาง ม้านับร้อยตัวยืนอยู่อีกมุมหนึ่งรถม้าในสมัยโบราณมีมากมายหลายสิบคัน อุดมไปด้วยของมีค่ามากมายสิ่งเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ขององค์หญิงชิวหรงครั้นมองไปทิศทางใดก็มีแต่เทือกเขาสูงและป่าดงดิบทุกคนล้วนสวมชุดในสมัยโบราณที่แลดูแปลกตา ไม่เหมือนที่เธอเห็นในกองถ่ายซีรีส์ย้อนยุคแม้แต่น้อย แม้จะแลดูมีสีสันไม่แตกต่างกันแต่กลับมีความงามแปลกประหลาดในตัวเองในขณะที่ทุกสายตาหันกลับมามองเธอด้วยความตกใจสุดขีดที่เห็นใบหน้าดุจปีศาจของสตรีแปลกหน้า ก่อนจะรีบก้มหน้าลงมองพื้นทันทีเมื่อเห็นทางด้านหลังปรากฏองค์ฮ่องเต้เสด็จออกมาจากนอกกระโจม ยืนอยู่ด้านหลังของสตรีผู้มีใบหน้าดุจปีศาจ“ในเมื่อข้าถามเจ้าหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากเจ้าแต่อย่างใด ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้าด้วยตัวเองว่าที่นี่คือชายแดนแคว้นฉู่ พ้นเนินเ

    Last Updated : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.4

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนจะทอดสายตาจับจ้องชิงอวิ้นฮ่องเต้อย่างละเอียดรวมไปถึงองครักษ์ลู่เหอซึ่งยืนถือดาบยาวยืนอยู่เคียงข้างตลอดเวลา เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่แตกต่างจากจินตนาการของคนยุคใหม่อย่างสิ้นเชิง เรียบง่ายแต่สวยงามแปลกประหลาดเพราะทอด้วยมือ แม้กระทั่งงานปักลวดลายทุกอย่างล้วนเป็นงานฝีมือทั้งสิ้น“นี่อย่าบอกนะว่าฉันหลงมาอยู่ในยุคโบราณในสมัยที่ยังมีเจ้าผู้ครองแคว้น ไม่นะ!”หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ภายในใจก่อนจะกะพริบตาสื่อสารขึ้นลงติดๆ กันเป็นสัญญาณว่าเธอต้องการที่จะพูดบ้าง ตามบทละครที่เธออ่านมาว่าคนโบราณที่ถูกสกัดจุดจะต้องสื่อสารอย่างไรบ้างและอาการของเธอองค์ฮ่องเต้ก็ทรงล่วงรู้โดยพลัน“ลู่เห่อคลายจุดให้นาง ดูท่าจะอยากกล่าวถ้อยคำบางอย่างกับข้า”“พ่ะย่ะค่ะ!” ลู่เหอรับขานรับทันที พร้อมยื่นสองนิ้วกดคลายจุดให้หญิงสาวเอ่ยถ้อยคำออกมาได้“ตึก!” สองนิ้วกดคลายจุดให้กับหญิงสาวทันทีและนั่นทำให้เธอเป็นอิสระที่จะพูดเจรจาต่อรองได้ขึ้นมาทันใด“เฮ้อ!!!” หญิงสาวรู้สึกหายใจคล่องขึ้นมาทันที ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเพื่อ

    Last Updated : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.5

    ทันทีที่ได้ยินชื่อดังกล่าว ปานรูปหยดน้ำที่มองเห็นเพียงเลือนรางเนื่องจากถูกรอยไฟอัคคีบดบังสว่างวาบขึ้นมาทันที พร้อมภาพของบุรุษสูงใหญ่ทะมึน สวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินยวงยาวสยาย ดวงตาสีเลือดฉายแวววับปรากฏให้เธอเห็นขึ้นมาโดยพลันภาพนิมิตปรากฏให้เธอเห็นร่างงามในชุดเจ้าสาวสีขาวในยุคโบราณกำลังนั่งอยู่บนเตียงมีพัดทำจากขนห่านฟ้าปิดบังใบหน้าของเจ้าสาวเอาไว้ บุรุษเกศาสีเงินยวงในชุดเจ้าบ่าวสีขาวเปิดประตูเข้ามาในห้องหอ ร่างสูงใหญ่ทะมึนเดินตรงมาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมค่อยๆ เอื้อมหยิบพัดที่ปิดใบหน้าเจ้าสาวออกจากมือนาง เผยให้เห็นใบหน้าของเฉินวาวาเธอคือเจ้าสาวงดงามลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดปรากฏอยู่ในห้องหอและในนิมิตดังกล่าว“เฮือกกก!!!” ร่างระหงลุกพรวดพราดขึ้นจากตั่งด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อจู่ๆ เกิดเห็นภาพเช่นนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้นอนหลับหรือฝันแต่อย่างใด“ทะ... ทำไม... ฉันถึงเห็นตัวเองเป็นเจ้าสาวของเขา... ขะ... เขาจะตามหลอกหลอนฉันกันไปถึงไหน” เธอยืนบ่นพึมพำอยู่เพียงลำพังก่อนจะรู้สึกตัวว่ากำลังยืนอยู่คนเดียวในกระโจม“อ้าวอีตาฮ่องเต้เจ้าแผนการกับองครักษ

    Last Updated : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.1

    ชายแดนเมืองจิงโจจวนแม่ทัพภายในห้องบรรทมชินอ๋องพระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารชินซางทรงบรรทมสนิทในเวลาแห่งรัตติกาล ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาจอมมารหนุ่มหรือชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ดำรงพระชนม์ชีพดั่งเช่นมนุษย์ธรรมดาเดินดินทั่วไป มีความรู้สึกร้อน หนาวและเจ็บป่วย รวมไปถึงได้รับบาดแผลจากการทำสงครามไม่แตกต่างจากผู้อื่นแม้แต่น้อย ในเวลานี้ไอจอมมารและพลังปีศาจที่ทรงมีอยู่คู่พระวรกายได้เลือนหายไปจนหมดสิ้นนับตั้งแต่ปานไฟอัคคีย้ายไปสถิตอยู่กับคู่ชะตาของพระองค์จอมมารจึงคงเหลือเพียงวรยุทธ์จากดินแดนปีศาจที่ทรงฝึกฝนมานับหลายแสนปีเท่านั้น เมื่อไอมารเลือนหายความเป็นมนุษย์เข้ามาแทนที่พระองค์จึงเริ่มได้รับบาดเจ็บจากการทำสงคราม บาดแผลปรากฏอยู่บนพระวรกายหลายแห่ง แต่โชคยังดีที่ภายในพระวรกายทรงมีเลือดปีศาจจึงทำให้บาดแผลสมานเข้าหากันได้ในเร็ววัน แต่สิ่งหนึ่งที่หามีผู้ใดล่วงรู้นั่นก็คือทรงไม่มีวันตายเพราะเป็นอมตะทว่าความเป็นอมตะของพระองค์ล้วนอยู่ในปานรูปไฟอัคคีทั้งสิ้น ปานดังกล่าวคือสัญลักษณ์ของจอมมาร พลังเว

    Last Updated : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า..ค้นหานาง! 1.2

    แคว้นเทียนโจวเมืองเทียนจิ้น (เมืองหลวงตะวันตก)บริเวณนอกเมืองหลวงแคว้นเทียนโจว มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล และเป็นแคว้นเดียวที่มีเมืองหลวงด้วยกันถึงสองเมือง มีเมืองหลวงตะวันออกอยู่ที่เมืองเทียนฮุยซึ่งเป็นเมืองหลวงเอกของแคว้น พระราชวังหลวงอันเป็นที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนอยู่ที่นี่ในขณะเดียวกันทางตะวันตกซึ่งมีทั้งสายแร่ทองคำและเหมืองหยก มีเมืองเทียนจิ้นเป็นเมืองหลวงตะวันตก ซึ่งเมืองนี้มีความเจริญทางด้านการค้าเป็นแหล่งผลิตทองคำและหยกอีกทั้งเป็นเส้นทางการขนส่งทองคำและหยกไปยังเมืองอื่นๆ และต่างแคว้น ทำให้การค้าของเมืองหลวงตะวันตกและระหว่างแคว้นเจริญรุ่งเรืองคับคั่งยิ่งนักเมืองหลวงตะวันตกนี้โจวเฉินกงฮ่องเต้ได้มีพระบรมราชโองการยกให้ชินอ๋องปกครองเมืองการค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญหลักของแคว้นเทียนโจว ในขณะที่เมืองเทียนฮุยซึ่งเป็นเมืองหลวงเอก จะเป็นพื้นที่ราบและมีพื้นที่กว้างอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผลทางการเกษตรกว้างใหญ่เป็นอู่ข้าวอู้น้ำของแคว้น เป็นของโจวฟางหยางฮ่องเต้ ก่อนจะมีพระบรมราชโองการลับอีกฉบับสถาป

    Last Updated : 2025-01-06
  • พิศวาส 3000 ปี   ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.3

    ในขณะเดียวกันขบวนเสด็จถูกหยุดกลางคันเมื่อได้ยินพระสุรเสียงของชินอ๋องทรงมีพระบัญชาออกมาเช่นนั้น ภายในรถม้าหน้ากากทองคำที่ทรงเตรียมไว้ถูกนำมาสวมครอบพระพักตร์หล่อเหลาของจอมมารชินซาง ครอบพระพักตร์ตั้งแต่ส่วนบนของหน้าผากทั้งหมดยาวครอบคลุมพระพักตร์ซีกซ้ายจรดปลายคางเผยให้เห็นส่วนพระพักตร์หล่อเหลาทางซีกขวาเท่านั้น ซึ่งลักษณะของหน้ากากดังกล่าวช่างออกแบบเหมือนกับของเฉินวาวาที่กำลังสวมอยู่ในขณะนี้เช่นกัน แตกต่างตรงที่ลวดลายบนหน้ากากเท่านั้นซึ่งหน้ากากของพระองค์สลักลายเป็นเปลวไฟอัคคีพระวรกายสูงใหญ่ในฉลองพระองค์ชุดเกราะของจอมทัพสีดำทะมึน ค่อยๆ ก้าวออกมาจากรถม้า ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่กลางเมืองท่ามกลางประชาชนทั้งสองฝั่งฟากถนน ที่กำลังตกตะลึงเมื่อได้เห็นชินอ๋องหรือเทพเจ้าสงครามตัวเป็นๆ ที่ต่างให้ความเคารพและเทิดทูน และไม่ต้องมีใครบอก ประชาชนรวมไปถึงผู้คนจากต่างแคว้นพากันทรุดกายลงนั่งกับพื้นถวายความเคารพผู้ปกครองของตนทันที“ถวายพระพรพ่ะย่ะค่ะ!”เสียงประชาชนต่างเอ่ยออกมาเป็นประโยคเดียวกัน ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าพากันชื่นชมพระสิริโฉมของชินอ

    Last Updated : 2025-01-06

Latest chapter

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.5 (ตอนอวสาน)

    พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.4

    งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.3

    มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.2

    ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.1

    ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารในตำนาน 1.2

    ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ

  • พิศวาส 3000 ปี   นางมารทำลายเมือง 1.2

    ในขณะเดียวกันตำหนักลับทันทีที่เฉินวาวาราชินีปีศาจของจอมมาร ปลดปล่อยไอปีศาจจนทำลายแคว้นเยว่พินาศวอดวาย พระวรกายของจอมมารที่ตกอยู่ในห้วงญาณแห่งการหลับใหลมีความรู้สึกขึ้นมาโดยพลัน“ตึก ตึก ตึก” พระวรกายใหญ่เริ่มกระตุกติดต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุแรงกระตุกดังกล่าวราวกับทรงสัมผัสได้ว่าราชินีของพระองค์ตกอยู่ในห้วงอันตราย และทันทีที่ร่างระหงล้มลงหมดสติจอมมารชินซางก็ทรงตื่นจากห้วงญาณแห่งการหลับใหลขึ้นมาทันที“พรึ่บ!” เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใดพระเนตรสีเลือดวาววับขึ้นมาทันที พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกบรรทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“วาเอ๋อร์! วาเอ๋อร์ของข้า!” รับสั่งเพรียกหาพระชายาพระวรกายใหญ่ลุกจากแท่นพระบรรทมโดยพลัน ก่อนจะซวนเซไปมาเมื่อพระองค์หลับใหลไปนานเกือบสามเดือนแต่ต้องตื่นก่อนกำหนดเพราะความรักที่ทั้งสองมอบให้แก่กันสื่อสัมผัสให้จอมมารชินซางออกจากญาณหลับใหลก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น ทำให้การรวบรวมพลังเวทและตบะขั้นที่แปดหวนคืนกลับมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้พระเนตรสีเล

  • พิศวาส 3000 ปี   นางมารทำลายเมือง 1.1

    แคว้นเยว่เมืองหลวงมี่โจแผนผังวางระเบิดตามจุดถูกกางออกอยู่ตรงหน้านางร้ายจากยุคอนาคตในขณะนี้ หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้ามองตรงไปจากเนินเขาสูง เบื้องล่างคือเมืองหลวงแคว้นเยว่ นามว่ามี่โจเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แต่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แออัดหรือสร้างติดต่อกัน ด้วยเป็นเมืองที่เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเดิมถูกเผาทำลายเมืองครั้งผลัดเปลี่ยนราชวงศ์และการแย่งชิงความเป็นใหญ่ดังกล่าวจึงทำให้แคว้นเยว่มิได้เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น เจ้าผู้ครองแคว้นฝักใฝ่ในการทำสงครามโดยมิประมาณตนว่ากองทัพมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไม่มีบุรุษลงมือทำการเกษตรเพราะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปรบทำสงครามจนหมด“จุดชนวนแล้วระเบิดกำแพงเมืองที่โอบล้อมให้พังทลายลงทั้งหมด ระเบิดคลังแสงของทหาร ตัดกำลังอาวุธ ระเบิดพระราชวังหลวงเพื่อข่มขวัญฮ่องเต้แคว้นเยว่ ระเบิดวังหลวงให้หมดทุกตำหนักและทุกที่ สุดท้ายระเบิดคลังเสบียงแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวเมือง หลังจากนั้นสายน้ำดำที่ฝังอยู่นอกตัวเมืองทุกจุด ให้ระเบิดขึ้นพร้อมก

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารในตำนาน 1.1

    แคว้นเยว่ ในขณะเดียวกันท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงดั่งขุนเขาต่อหน้ากองทหารของราชินีปีศาจ และกองทหารแคว้นเยว่ที่ควบคุมตัวเฉินวาวาเอาไว้ตั้งแต่คราแรก หากแต่ในเวลานี้ต่างยอมจำนนกันหมดสิ้นทุกสายตาต่างยืนมองทะเลเพลิงเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าคล้ายกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่วิ่งมาหยุดอยู่ด้านหลัง พร้อมกำลังทหารกระจายล้อมรอบไปทั่วบริเวณ“อะไรกันนี่! แคว้นเยว่ถูกทำลา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status